"อุ๊ยคุณหมอ" หญิงสาวตกใจอยู่ดีๆ มือของเขาก็ยื่นมาแกะผ้าเช็ดตัวออก แต่เธอคว้ามันไว้ได้ทัน ใบหน้าคมคายโน้มต่ำลงมาซอกคออีกฝ่ายจากทางด้านหลังแล้วสูดดม "คุณหมอ..คุณหมอจะทำอะไรคะ" "อยู่นิ่งๆ"หญิงสาวที่ไม่เคยถูกชายใดสัมผัสร่างกายแบบใกล้ชิดขนาดนี้มาก่อน ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนอยู่นิ่งๆ ตามคำสั่งริมฝีปากหนาพรมจูบลงมาจนถึงแผ่นหลัง มือแกร่งวางแนบไว้กับหน้าอกอวบ ในใจหญิงสาวคิดไว้แล้วว่าวันนี้ต้องตกเป็นของเขาแน่ เรื่องนี้มันก็อยู่ในลายลักษณ์อักษรที่ไอยวริญได้เซ็นลงไป ที่จริงเขาเขียนขึ้นมาโดยที่ไม่คิดว่าจะแตะต้องตัวเธอหรอก แต่อะไรมันก็ไม่แน่นอน เขาก็เลยมีข้อนี้เผื่อไว้ ซึ่งเธอก็ยอมเซ็น..นาทีนั้นไม่ว่าจะให้ทำอะไรเธอทำได้หมดขอแค่เขายอมผ่าตัดให้กับแม่ "ตามมาที่เตียง" ริมฝีปากหนากระซิบพูดโดยที่ยังคงสูดดมกลิ่นกายของเธออยู่ นายแพทย์เซอร์เวย์คิดว่าตัวเองมีอาการป่วย เขาไม่มีอารมณ์กับผู้หญิงที่ไหนเลย ด้วยความที่เขาเป็นแพทย์ผ่าตัดเห็นสรีระของคนรวมถึงเห็นทุกอย่างที่อยู่ด้านใน พอเข้าใกล้ผู้หญิงก็จะนึกถึงแต่ห้องผ่าตัด เลยคิดว่าตัวเองบกพร่องเรื่องนี้ พอมีหญิงสาวมาเสนอตัว
ดูเพิ่มเติม"วันนี้เดี๋ยวแม่จะพาเข้าโรงพยาบาลนะ""ไปทำไมครับ" ที่จริงคนเป็นแม่ไม่ได้คุยกับลูกชายหรอก นางคุยกับลูกสะใภ้ แต่คนที่ถามก็คือลูกชายที่ร่วมรับประทานอาหารกันอยู่"แม่ให้เมียเราฝากท้องกับแม่ ต้องได้เข้าไปทำเอกสารที่โรงพยาบาลด้วย" ที่นางต้องดูแลเองเพราะเป็นห่วงหลาน เรื่องอย่างว่าของลูกชายคนเล็กยิ่งเหลือเฟืออยู่"แล้วผมล่ะ""เราก็อยู่บ้านเป็นเพื่อนพ่อ""ไม่เอาผมจะไปด้วย""ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนพ่อหรอกไปด้วยกันนั่นแหละ" คนเป็นพ่อก็เลยช่วยพูดกับให้ลูกชายอีกแรง[โรงพยาบาล]"รันเวย์" ขณะที่ทั้งสามกำลังเดินเข้าไปในโรงพยาบาลก็ได้ยินเสียงนี้ดังมาจากประตูฝั่งทางออกที่อยู่ใกล้กัน"มาทำอะไรที่โรงพยาบาล" พอเห็นว่าเป็นใครรันเวย์ก็เลยหยุดคุยด้วย"คุณแม่ไม่สบาย" ขณะที่พูดสายตาของเธอมองดูหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆ รันเวย์"แม่เราเอง""สวัสดีค่ะคุณแม่""สวัสดีจ้า หนูเป็นใครเหรอ" แพทย์หญิงอมรรัตน์อดไม่ได้ที่จะถาม เพราะเรื่องผู้หญิงลูกชายไม่ใช่ย่อย"คนนี้สโรชาครับแม่ เป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อครับ""เรียกโรสก็ได้ค่ะ โรสเคยรู้จักกับรันเวย์ตั้งแต่สมัยเด็กแล้วค่ะ""อ้าวเหรอจ๊ะ เป็นเพื่อนกันนี่เอง ส่วนคนนี้เมียเจ้าร
หลายนาทีแล้วที่แพทย์หญิงอมรรัตน์กอดปลอบลูกสะใภ้คนเล็ก ตั้งแต่ได้ยินที่ท่านพูด รัญณาก็ร้องไห้ไม่หยุดจนสามีเป็นห่วงที่เธอร้องไห้เพราะสงสารลูกที่ต้องมารับรู้เรื่องอะไรแบบนี้ตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง เด็กคงจะได้ยินความคิดของแม่ ที่คิดว่าถ้าไปจากที่นี่แล้วจะไปอยู่ที่ไหน กลับไปบ้านก็ไม่ได้ หนีออกมาแบบนี้ถ้ากลับไปต้องถูกพ่อตีแน่ แต่ถ้าไม่กลับบ้านแล้วเธอจะไปที่ไหนได้ เพื่อนฝูงก็ไม่มี"ไม่ร้องนะลูก เราจะกลับไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน""ค่ะ" ความคิดที่อยากจะหนีไปให้ไกล มันได้หายไปจนหมดสิ้น เพราะถ้าแม่ยังมีความคิดแบบนั้นอยู่ลูกก็ต้องรับรู้ได้หลายวันต่อมา.."หาปู่" ยิ่งเห็นว่าคุณปู่ไม่สบาย ปลาบปลื้มก็ยิ่งอยากเข้าไปหา ผู้ใหญ่อาจจะคิดว่าเด็กไม่รู้เรื่อง แต่จริงๆ แล้วพวกเขารู้ และเป็นห่วงคนที่พวกเขาผูกพันด้วย"ไม่ได้ครับ" ปิ่นมุกตำหนิลูกชาย เพราะปลาบปลื้มเล่นไม่รู้เรื่องกลัวไปถูกแผลของคุณปู่เข้า"ไม่เป็นไรหรอก มาให้ปู่ชื่นใจหน่อยเร็ว" ถึงวันนี้อาการของท่านก็ดีขึ้นมาก จนลุกมาทำกายภาพบำบัดได้แล้ว แต่ก็ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล"ปู่"ถึงแม้ท่านจะอุ้มหลานยังไม่ได้แต่ก็กอดและหอมแก้มได้ หลายคนที่อยู่ในห้องนั้น
"ที่พ่อพูดมาหมายความว่ายังไงครับ" รันเวย์ถามแม่และพี่ชาย เพราะตอนนี้พ่อหลับไปแล้ว"แม่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน" สายตาของผู้เป็นแม่มองไปดูลูกชายคนโต เพราะตอนนั้นเซอร์เวย์อยู่กับพ่อ"ก็เรื่องเด็กผู้หญิง ที่ท่านพูดก่อนหน้านั้นล่ะครับ""พ่อเราก็เลยคิดเป็นตุเป็นตะงั้นเหรอ""แต่ผมว่าไปตรวจไว้ก็ไม่เสียหายอะไรนี่ครับแม่" ถ้าคนที่พูดไม่ใช่พ่อหรือไม่ใช่คนในครอบครัว เขาคงจะบอกว่างมงาย แต่นี่พ่อซึ่งเป็นระดับอาจารย์หมอที่ทุกคนนับถือ ท่านคงรู้อะไรมาแน่"คงไม่ใช่หรอกค่ะ เพราะคุณรันให้ฉันกินยาคุม" หญิงสาวแค่อยากจะยืนยัน ว่ามันเป็นไปได้ยาก"เราให้เมียกินยาคุมเหรอ""จะรีบมีไปทำไมล่ะครับ ผมก็อายุแค่นี้เอง" เขาพูดตามสิ่งที่ตัวเองคิดเธอต้องทำสีหน้ายังไงเหรอ น้อยใจ ไม่พอใจ แต่เธอมีสิทธิ์อะไรไปทำกิริยาแบบนั้น หญิงสาวก็เลยทำได้แค่ยืนอยู่เฉยๆ เพื่อรอเวลา..เวลาผ่านไป..ตอนนี้ทุกคนออกมารออยู่ด้านนอก แต่ก็หาอะไรทานรองท้องกันไว้เรียบร้อยแล้ว"แม่จะให้พี่เราย้ายพ่อไปไว้ในห้องพักฟื้นเย็นนี้" นางเห็นว่าลูกชายและลูกสะใภ้แถมยังมีหลานเล็ก ไม่ยอมไปพักในห้องที่เตรียมไว้ให้ เพราะทุกคนยังคงเฝ้าอยู่หน้าห้องไอซียู ก็เลยคิดว่าย้
"คุณพี่คะ คุณพี่"เซอร์เวย์ที่นั่งเอนหลับพักเอาแรง พอได้ยินแม่ส่งเสียงเรียกพ่อก็รีบตื่นขึ้นมา"คุณพ่อรู้สึกตัวแล้วหรือครับ" ตั้งแต่พ่อประสบอุบัติเหตุ เขาก็ปล่อยมือจากงานทุกอย่างให้ลูกน้องเป็นคนทำ เพื่อที่จะได้ดูแลพ่อแบบใกล้ชิด จนไม่มีเวลาพักผ่อน แต่โชคดีที่ยังมีแม่ช่วยอีกแรง"เมื่อสักครู่แม่เห็นนิ้วของพ่อขยับ" ชายหนุ่มก็เลยรีบเข้าไปเช็คชีพจรของพ่อดู"คุณพ่อครับ คุณพ่อ" ชีพจรของท่านปกติมาก เหมือนว่าท่านแค่ไม่อยากจะลืมตา"หนู.." เสียงนี้ดังออกมาจากปากของท่านเบามาก แทบจะไม่ได้ยิน แต่ก็พอจับใจความได้ "หนู""หนูไหนคะคุณพี่ คุณพี่ตื่นสิ" สามียิ่งออกไปแต่สนามไดร์ฟกอล์ฟ ..หรือว่าจะมีอีหนูที่นั่น"คุณพ่อตื่นสิครับ" พอทั้งสองปลุกยังไงท่านไม่ยอมตื่น ก็เลยให้พยาบาลไปเรียกคนที่อยู่ด้านหน้าเข้ามา"คุณพ่อรู้สึกตัวแล้วเหรอครับ" นอร์เวย์รีบตรงเข้าไปหาพ่อ"เมื่อสักครู่ท่านละเมอ" ขณะที่เซอร์เวย์พูดก็แอบมองไปดูหน้าแม่ เพราะประโยคที่พ่อละเมอล่อแหลมมาก"ถ้างั้นแสดงว่าคุณพ่อฟื้นแล้วใช่ไหมครับ""หนู" ประโยคนี้ออกจากปากคนที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงอีกครั้ง ทุกคนแปลกใจยิ่งนักแทนที่จะละเมอชื่อลูกไม่งั้นก็ชื่อเมี
พอรู้ว่าลูกชายคนกลางไม่ได้พาลูกสะใภ้และหลานมาด้วย คุณย่าก็เลยให้คนขับรถไปรับมาจากสระบุรี"ปลื้มครับ" ผู้เป็นย่าเอื้อมมือไปเมื่อเห็นว่าหลานชายวิ่งเข้ามาหา"ปลาบปลื้มเบาๆ หน่อยสิลูก เดี๋ยวคุณย่าก็ล้มหรอก" ปิ่นมุกตำหนิลูกชายเบาๆ แต่ก็ไม่ทันหรอกเพราะตอนนี้วิ่งเข้าไปในอ้อมกอดของคุณย่าแล้ว "คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ" เธอก็เลยเดินเข้าไปหาสามีที่ยืนอยู่หน้าห้องไอซียู"ยังไม่รู้สึกตัวเลย""ท่านพ้นขีดอันตรายแล้วไม่ใช่เหรอ" ปิ่นมุกเอื้อมไปกุมมือสามีไว้เพื่อให้กำลังใจทางโรงพยาบาลได้จัดหาโซฟามาให้ทุกคนได้นั่งรออยู่หน้าห้องแบบสบายหน่อยจนถึงช่วงเย็นของอีกวัน.."กลับบ้านกันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมา" แพทย์หญิงบอกลูกชายให้พาเมียกลับบ้าน เพราะนั่งเฝ้ากันมาข้ามวันข้ามคืนแล้ว"รัญจะอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ค่ะ""พวกเราก็จะอยู่รอจนกว่าคุณพ่อจะฟื้นค่ะ" ท่านดีกับพวกเธอขนาดนี้จะทิ้งท่านไว้แบบนี้ได้ยังไง"ขอบใจทุกคนมากนะ" เราใช้อะไรซื้อเราก็ได้อย่างนั้นกลับมา เหมือนดังแพทย์หญิงอมรรัตน์ ใช้ใจซื้อก็ได้ใจจากลูกสะใภ้กลับมา21 : 09 น."เดี๋ยวผมพาขึ้นไปนอน" นายแพทย์หนุ่มออกมาจากห้องของพ่อ ก็เห็นว่าภรรยาเอนตัวพิงกับโซฟา"ฉันอยากจ
"พ่อไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับพี่" ดูจากสภาพรถแล้วมันทำให้เขาใจไม่ดีเอามากๆ"ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พี่จะช่วยพ่อให้ได้""พี่พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง""ตอนนี้พ่อยังไม่พ้นขีดอันตราย พี่กำลังจะโทรไปหาแม่" ที่เขาออกมาจากห้องผ่าตัดเพราะอยากโทรไปบอกแม่และน้องๆ ให้มาที่โรงพยาบาล"ผมอุตส่าห์เชื่อใจพี่ รอพี่อยู่ตรงนี้ ทำไมพี่พูดแบบนี้ รีบกลับเข้าไปช่วยพ่อสิ!" รันเวย์เริ่มใช้อารมณ์คุยกับพี่ชาย"แต่พี่.." นายแพทย์หนุ่มไม่เคยกดดันในการผ่าตัดมากขนาดนี้มาก่อน เพราะคนที่เขากำลังผ่าตัดอยู่คือบุพการี"เรื่องแม่กับพี่เวย์ เดี๋ยวผมจะจัดการเอง พี่กลับเข้าไปในห้องผ่าตัดช่วยพ่อให้ได้"เซอร์เวย์ไม่เคยเห็นน้ำตาน้องชาย มาตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว แต่วันนี้รันเวย์ถึงกับมีน้ำตา เป็นใครก็ต้องมีอาการแบบนี้กันทั้งนั้น แต่เขาเป็นหมอจะอ่อนแอไม่ได้ ผู้เป็นพี่ชายก็เลยรีบกลับเข้าไปในห้องผ่าตัดเพล้ง!! โทรศัพท์ในมือแพทย์หญิงอมรรัตน์ร่วงกระทบพื้นอย่างแรงเมื่อได้รับข่าวร้ายจากลูกชาย"เกิดอะไรขึ้นคะคุณแม่" รัญณาก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย เพราะเห็นว่าเป็นเบอร์สามีที่โทรมา ก็เลยอยากรู้ว่าเขาโทรมาทำไม"เราไปโรงพยาบาลกัน""ใครเป็นอะไรคะ" ดูจากอากา
"อื้อ คุณรัน" ถ้าถามต้องรอคำตอบสิว่าเธออยากจะขึ้นไหม แต่นี้ถามยังไม่จบเลยด้วยซ้ำก็ดันตัวเธอให้ขึ้นมาอยู่ด้านบนแล้ว "โอ๊ย เจ็บนะคะ เบาๆ หน่อยสิ""ถ้างั้นคุณก็ใส่เข้าไปเองสิ" คนที่นอนอยู่ด้านล่างพยายามจับของตัวเองเพื่อส่งเข้าไปในร่างกายอีกฝ่ายหญิงสาวรอบกลืนน้ำลายก่อนที่จะทำตาม ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่ต้องการ เธอก็ต้องการไม่ต่างกัน"ซี๊ดด อ้าา ไม่ต้องกลัวผมเจ็บ นั่งทับลงมาเลย" เห็นว่าเธอพยุงร่างของตัวเองไว้ไม่กล้านั่งลงมาเต็มแรงหญิงสาวก็เลยค่อยๆ ให้มันกลืนหายเข้าไปในร่างกาย ถึงแม้เธอจะไม่เคยมาก่อน แต่เรื่องพวกนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ เพราะเพื่อนหลายคนมีแต่เกเรทั้งนั้น ยังจำได้เลยครั้งหนึ่ง เพื่อนยังหลอกให้เธอไปเพื่อจะมีเซ็กส์กับแฟนของตัวเอง โชคดีที่เธอหนีออกมาได้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมารัญณาก็เลิกคบกับเพื่อนกลุ่มนี้ไปเลย"เคยเห็นคนขี่ม้าไหม ทำแบบนั้นแหละ" มือหนาเอื้อมไปจับสะโพกงามเพื่อช่วยเธออีกแรง"อ๊อยย จุก" จังหวะที่ทิ้งน้ำหนักลงมา เจ้าของท่อนเอ็นนั้นเด้งสะโพกขึ้นมารับ มันก็เลยเข้าไปเกือบจะสุดลำ"เดี๋ยวก็เสียว นั่งทับลงมาเต็มแรงเลย" ชายหนุ่มเห็นว่าเธอเก็บแรงไว้ไม่ทิ้งตัวลงมาทั้งหมดอีก ตอนที่
"ใครเป็นอะไร" แพทย์หญิงผู้เป็นแม่ ยังไม่ได้ยินเสียงเลยด้วยซ้ำ แต่เห็นลูกชายคนเล็กวิ่งเข้าไปก็เลยเดินตามมาดู"เปล่าค่ะไม่ได้เป็นอะไร" หญิงสาวรีบซ่อนมือไว้ด้านหลัง ที่จริงเธอร้องโอ๊ยออกมาเพียงแค่เบาๆ เพราะตกใจ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีใครได้ยิน"เอามือมาดู""ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรไง""แล้วจะซ่อนมือทำไม" คนที่วิ่งเข้ามาก่อนเพื่อน เอื้อมมือไปคว้ามือของเธอที่ซ่อนอยู่ออกมา "แดงเลย""ฉันว่าจะยกหม้อลงมาวาง แต่ไม่คิดว่ามันจะร้อนขนาดนี้นี่""แม่เพิ่งปิดแก๊สเอง" ขนาดคนทำยังไม่แตะเลย เพราะคิดว่ามันต้องร้อนแน่"แล้วอีกข้างล่ะ" ถ้าเธอยกมันต้องใช้มือสองข้างแน่ เขาก็เลยยื่นไปจับอีกข้างหนึ่งมาดู "ตามออกมา""คุณโกรธให้ฉันทำไม""ทำอะไรซุ่มซ่าม""มีอะไรเหรอ""ก็มือไปโดนหม้อร้อนๆ น่ะสิครับ" รันเวย์ตอบพี่ชายไป"ที่รถมีที่ทำแผลเดี๋ยวพี่ไปเอามาทำให้""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ" เธอจะตกใจอะไรก่อนดี เกิดมาไม่เคยมีใครเป็นห่วงขนาดนี้ ตกบันไดบ้านแท้ๆ พ่อยังไม่ถามเลยว่าเจ็บไหม"เดี๋ยวผมทำเองครับ"เซอร์เวย์ก็เลยปล่อยให้น้องชายเป็นคนทำแผลเอง แต่เขาก็ยืนบอกอยู่ว่าต้องใช้ยาตัวไหนทาก่อนจากที่นึกอิจฉาพี่สะใภ้ ตอนนี้ไม่แล้ว เพราะดูเขา
"บ้านใครครับแม่""บ้านแม่เช่าไว้เอง" ดีนะที่ยังไม่คืนบ้านหลังนี้ไป สองครั้งแล้วสินะที่ออกจากบ้านมาเพราะสามี ครั้งนี้หวังว่าเขาคงจะคิดได้นะ นางก็เหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไป ที่ไม่อยากจะให้ครอบครัวแตกแยก แต่ถ้าเจอสามีที่เอาแต่ใจแบบนั้นใครจะทนฝืนอยู่ต่อไปล่ะ"รัญขอโทษนะคะ" นอกจากคำนี้เธอไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว"แม่บอกแล้วไงว่าหนูไม่ผิด พ่อเจ้ารันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่พี่ชายทั้งสองแล้ว""คะ?""เจอทุกคน" รันเวย์พูดเสริมแม่ขึ้นมารัญณาก็เลยคิดว่าสองคนนั้นเจออะไร เพราะดูพี่สะใภ้ของเขาเป็นผู้ดีมาก แต่มองดูตัวเองสิ สมควรแล้วที่ท่านจะไม่ชอบ"อย่าคิดมากเลยลูก อยู่แบบนี้ก็อบอุ่นดีนะ" บั้นปลายชีวิตนางอยากจะอยู่แบบสงบเลี้ยงหลานๆ แต่เพราะสามีหน้าใหญ่ถือยศถือศักดิ์ ก็เลยไม่มีความสุขกันสักที"เข้าบ้านกัน" ว่าแล้วมือหนาก็เอื้อมไปจูงมือเธอให้เดินตามหญิงสาวมองมือนั้นแบบอบอุ่น ทำไมเขากล้าพาเธอออกจากบ้านหลังใหญ่ ในเมื่อเขาไม่ได้คิดพิศวาสอะไรในตัวเธอเลย ..ความคิดที่อยากจะไปให้ไกล ตอนนี้มันหายไปไหนไม่รู้ เพราะเธอเริ่มรู้สึกดีกับเขามากขึ้นเดินเข้ามายังไม่ได้นั่งเลยด้วยซ้ำก็ได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจอด"เดี๋ยวแม่ออกไปด
"คุณหมอคะฉันขอร้องล่ะ คุณหมอช่วยแม่ฉันด้วยเถอะนะ" หญิงสาวขอร้องอ้อนวอนถึงขั้นยกมือขึ้นมากราบไหว้"ทางเราช่วยได้เท่าที่ช่วยจริงๆ" ถ้าเขาทำแบบนั้น โรงพยาบาลของเขาอาจจะถูกฟ้องได้ ซึ่งมันไม่เป็นผลดีเลย และมันก็ไม่คุ้มกับการเสี่ยง"ฉันขอร้องล่ะค่ะ จะให้กราบเท้าฉันก็ยอม""คุณอย่าทำแบบนี้เลย" นายแพทย์เซอร์เวย์รีบพยุงร่างของหญิงสาวที่กำลังจะคุกเข่าลงตรงหน้า ให้กลับขึ้นมายืนใหม่อีกครั้ง"คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ ฉันเคยเรียนหมอมาค่ะ ฉันคงพอช่วยงานคุณได้ไม่มากก็น้อย" เพราะเธอเคยเรียนมาด้านนี้ก็เลยรู้ว่าใครที่สามารถจะช่วยแม่ของเธอได้ และก็รู้ด้วยว่ามันเสี่ยงมากถ้าจะทำแบบนี้"คุณก็เคยเรียนหมอมา คุณก็คงจะรู้ผมคงช่วยไม่ได้""คุณหมอคะคนไข้.." ทันใดนั้นพยาบาลก็รีบวิ่งมาแจ้งอาการของผู้ป่วย"แม่ฉันใช่ไหมคะ ท่านเป็นอะไรคะ" หญิงสาวจำได้ว่าพยาบาลคนนี้ เป็นคนที่ดูแลอยู่ห้องที่แม่เธอรักษาตัวอยู่นายแพทย์เซอร์เวย์รีบก้าวเดินตามไป"พาคนไข้กลับห้องไอซียูด่วน" พอเห็นอาการคนไข้ไม่สู้ดี แพทย์ผู้รักษาก็เลยต้องได้นำกลับห้องไอซียู เพิ่งจะพาออกจากห้องนั้นมายังไม่ครบ 24 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ"แม่คะ แม่ต้องรอหนูนะ หนูกำลังพยา...
ความคิดเห็น