พ่อบังเกิดเกล้าสร้างหนี้ไว้ก้อนใหญ่ ทว่าคนที่ต้องชดใช้กลับกลายเป็นลูกสาวแบบเธอ "มันถึงเวลาที่เธอต้องชดใช้หนี้ที่พ่อสร้างไว้แล้วเด็กน้อย" "ชดใช้ยังไงคะ" "ใช้ร่างกายเธอชดใช้หนี้ยังไงล่ะ" "หมายความว่างานที่คุณบอกว่าจะให้หนูทำตอนอายุครบยี่สิบ คือ เอาร่างกายขัดดอกรึคะ" "ใช่" สาวน้อยผู้แสนใสซื่อในวัยยี่สิบถึงกับน้ำตาคลอเบ้าเพราะหลงเข้าใจผิดมาตลอดว่าที่มาเฟียผู้แสนใจดีเลี้ยงดูเธอมาเป็นอย่างดีตลอดเวลาสามปีเพราะเขารัก และเอ็นดูเธอ แต่ที่ไหนได้กลับเห็นเป็นแค่ลูกหนี้
View Moreหลายปีต่อมา"มาให้แด๊ดดี้หอมหน่อยสิครับ" เควิลร้องเรียกลูกชายตัวน้อยที่กำลังนั่งเล่นอยู่กับพี่เลี้ยงบนพื้นในห้องนั่งเล่นทันทีที่กลับมาถึงบ้าน"แด๊ดดี้กลับมาแล้ววว" เด็กน้อยหน้าตาหล่อเหลาอายุย่างเข้า 5ขวบฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้ยินเสียงผู้เป็นพ่อ รีบดีดตัวลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้ากอดผู้เป็นพ่อที่กำลังนั่งยองๆอ้าแขนรอกอดด้วยความดีใจ "คิดถึงแด๊ดดี้ที่สุดเลยครับ""แด็ดดี้ก็คิดถึงลูกครับ วันนี้ทำงานมาเหนื่อยขอหอมให้หายเหนื่อยหน่อย" เควิลกอดบุตรชายแนบแน่นพลางกระหน่ำหอมแก้มกลม ๆ ทั้งซ้ายทั้งขวาฟอดใหญ่"หอมจนแก้มลูกช้ำหมดแล้วไหมคะนั้นแด๊ดดี้" ยาหยีที่กำลังถือจานผลไม้ออกมาจากในครัวเอ่ยแซวคนเป็นสามียิ้ม ๆ"ก็ลูกน่าหอมนิ" คนถูกแซวเงยขึ้นมองเมียสาวด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้ม ก่อนจะผละกอดจากลูกเดินไปโอบกอดเมียสาว"แม่ก็น่าหอม" เอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมหอมแก้มขาวผ่องฟอดใหญ่ ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาด้วยกลัวว่าลูกจะได้ยิน "น่าเย็..*ด้วย""คนทะลึ่ง ในสมองมีแต่เรื่องพันนี้รึไงคะ" ยาหยีตีอกคนเป็นสามีไปหนึ่งทีโทษฐานที่พูดจาทะลึ่ง แต่ก็มิวายรู้สึกเขินอายไม่ได้แม้เธอกับเขาจะแต่งงานกันมาสี่ปีแล้ว หรือนับตั้งแต
สามเดือนต่อมา..เวลาล่วงเลยมาได้สามเดือนเต็มนับจากวันนั้นเหมือนความสัมพันธ์ของเควิลกับยาหยีจะแนบแน่นขึ้นเรื่อย ๆยาหยีได้รู้ซึ้งกับคำว่าชอบของเควิลแล้วว่าเป็นอย่างไง และเธอก็ต้องหนักใจมากกับคำว่าเวอร์วังของเขา ซึ่งเธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะมีมุมแบบนั้นเพราะทำเอาเธอปรับตัวแทบไม่ทันในช่วงอาทิตย์แรกนอกจากอีกฝ่ายจะป่าวกล่าวประกาศกับเหล่าบอดี้การ์ดและเหล่าแม่บ้านว่าเธอไม่ใช่ลูกหนี้ แต่เขากับเธอกำลังดูใจกันอยู่แล้วเขายังยกหนี้จำนวนหนึ่งล้านถ้วนที่พ่อเธอได้สร้างไว้เขาก็ยกให้ฟรี ๆ เพื่อเป็นการบอกว่าเธอไม่ใช่คนที่มาที่นี่เพื่อใช้หนี้อีกต่อไปไม่เพียงเท่านั้นเขายังพาเธอไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารหรูแทบทุกวัน และทุกครั้งจะมีช่อดอกไม้มอบให้เสมอจนห้องนอนของเธอมันเต็มไปด้วยดอกไม้ของเขาเขาตามใจเธอสุดฤทธิ์เพียงแค่เอ่ยปากบอกสิ่งนั้นก็จะมาวางตรงหน้า เธออยากจะไปเที่ยวที่ไหนเขาก็ไม่เคยขัดเธอรู้ซึ้งแล้วว่าการได้รับความรู้สึกพิเศษจากมาเฟียที่เย็นชามันเป็นแบบไหน ถึงเขาจะไม่มีคำพูดแสนหวานเพื่อเอาใจ ทว่าการกระทำของเขามันบ่งบอกให้เธอได้รู้ได้รู้ว่าเขาชอบเธอจริง ๆ..."หึ.." พอคิดถึงสิ่งดี ๆ ที่เขาคอยทำให้เธอ
"ไม่เอาเสียเวลา..ฉันใจร้อน"สิ้นเสียงพูดเควิลก็จับร่างบางกดให้นอนหงายบนโซฟาด้วยความเร็วแล้วตามลงไปทาบทับเอาไว้ สองมือจับมือเล็กที่พยายามดันอกไปกดเหนือศีรษะเล็กทุยแน่นอนว่ายาหยีสู้แรงคนตัวโตกว่าหลายเท่าไม่ได้ทำได้แค่ทำหน้าคว่ำร้องโวยวายออกไปเสียงดังลั่น"คุณขี้โกง หนูยังไม่อนุญาตเลยนะคะ""เธออย่าผิดคำพูดสิที่บอกว่าถ้าฉันให้คำตอบแล้วจะให้เอา""หนูไม่ได้ผิดคำพูดสักหน่อย" คราวนี้ยาหยีถึงกับเอ่ยเสียงอ่อยเพราะเถียงไม่ออกเธอดันพูดแบบนั้นไปจริง ๆ นี่น่าทำให้อีกคนได้ทีใช้โอกาสที่เธอนิ่งสงบก้มลงประกบจูบริมฝีปากอิ่มดูดเม้มกลีบปากบนล่างสลับกันแผ่วพลิ้วต้องการตะล่อมเธอให้คล้อยตามสองมือคลายพันธนาการจากข้อมือเล็กเลื่อนลงลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งสุดยั่วยวนที่อยู่ภายใต้ชุดเดรส ขณะที่สะโพกขยับบดเบียดกับเนินเนื้อสาวอวบอูมทำคนที่ยังด้อยประสบการณ์อยู่มากเริ่มเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัส หลับตาพริ้มจูบตอบอย่างดูดดื่ม ปากอ้าเผยอให้เรียวลิ้นสากสอดเข้ามาเกี่ยวกระหวัดหยอกเย้ากับเรียวลิ้นนุ่ม สองมือเคลื่อนไปโอบกอดลำคอแกร่งแน่น ส่งเสียงครางในลำคออื้ออึงด้วยความรู้สึกวาบหวาม"อื้อ.."ไม่ต่างจากชายหนุ่มที่อารมณ์เริ
คำถามจากริมฝีปากอิ่มทำเควิลนิ่งไปเพราะเขาเองก็ยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองเลยว่ารู้สึกยังไงกันแน่ เขาเองก็กำลังหาคำตอบให้ตัวเองเหมือนกัน แต่ที่แน่ ๆ เขาไม่เคยเห็นเธอเป็นนางบำเรอเลย"ฉันยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง ไว้ฉันมั่นใจเมื่อไรจะบอกนะ แต่ที่แน่ ๆ ฉันไม่เคยเห็นเธอเป็นนางบำเรอหรือผู้หญิงขัดดอกเลย อาจจะมีบ้างครั้งที่ฉันพูดจาไม่ดีแต่ทั้งหมดเป็นเพราะอารมณ์ล้วน ๆ ไม่เคยคิดจริง ๆ""ค่ะ.." ยาหยีเพียงขานรับเสียงแผ่วและไม่คิดจะซักไซ้อะไรต่อถึงแม้เธออยากรู้ใจแทบขาดถึงความรู้สึกที่ชายหนุ่มมีต่อตัวเองซึ่งลึก ๆ ในใจเธอก็เกิดความหวังขึ้นมาน้อย ๆ ว่าเขาอาจจะรู้สึกอะไรกับเธอบ้างถึงต้องใช้เวลาคิด จากที่เคยพยายามจะตัดใจก็เริ่มลังเลขึ้นมาจะว่าเธอใจง่ายก็ได้ก็คนมันรักมาตั้งนานแล้วนิ..ภายในรถตกอยู่ในความเงียบนานนับนาที ก่อนเควิลจะเอ่ยทำลายความเงียบ สายตาจ้องมองใบหน้าหวานอย่างอ่อนโยน"เราเข้าใจกันแล้วนะ กลับมาเป็นยาหยีเด็กน้อยทึ่น่ารักของฉันได้แล้ว""ก็ได้ค่ะ แต่หนูมีข้อแม้หากคุณไม่ได้เห็นหนูเป็นนางบำเรอ หรือผู้หญิงขัดดอกจริง ๆ จนกว่าคุณจะให้ตอบว่ารู้สึกยังไงกับหนู เราห้ามมีอะไรกันตกลงไหมคะ
วันต่อมา.."เดี๋ยววันนี้เลิกเรียนแล้วฉันไปรับ" เควิลที่นั่งดื่มกาแฟอยู่ในห้องโถงเปล่งเสียงขึ้นทันทีที่หญิงสาวเดินลงจากบันไดทำให้ยาหยีถึงกับชะงักมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างสงสัยเพราะน้อยครั้งที่เขาจะไปรับเธอด้วยตัวเองที่มหาวิทยาลัย แต่เธอก็ไม่คิดจะถามหาเหตุผลเพียงขานรับ แล้วเดินออกไปขึ้นรถตรงไปมหาวิทยาลัยครั้นเลิกเรียนเธอก็มายืนรอชายหนุ่มตรงที่ที่ยืนรอรถมารับประจำ รอเพียงไม่นานรถแลมโบกีนี่ราคาหลายสิบล้านก็เคลื่อนตัวมาจอดลงตรงหน้านักศึกษาที่อยู่บริเวณต่างพากันมองมาด้วยสายตาลุกวาวอดทำให้เธอประหม่าไม่ได้จริง ๆ จนต้องรีบวิ่งไปขึ้นรถเพื่อหลบหลีกสายตาหลายคู่ที่จ้องมอง"เป็นอะไร ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้น" ทำคนที่นั่งหลังพวงมาลัยขย่นคิ้วด้วยความสงสัยกับท่าทางรีบร้อนของเธอ"คนมองหนูไม่ชอบค่ะ" ยาหยีตอบไปตามจริงพลางมองไปยังกลุ่มนักศึกษาที่มองมา พอได้ฟังคำตอบของหญิงสาวเควิลก็ยกยิ้มมุมปากน้อย ๆ หากเป็นคนอื่นคงจะเดินยืดอกมาขึ้นรถอย่างภาคภูมิใจ แต่เธอกลับไม่ชอบเสียอย่างนั้น"เธอนี่ก็แปลกคนนะยาหยี" มือหนายื่นไปยีศีรษะเล็กทุยด้วยความเอ็นดูจนเรือนผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิง"อย่ามายุ่งกับผมหนู" ยาหยีทำหน้าคว่ำใส่เจ
นับตั้งแต่วันที่เธอถูกชายหนุ่มลงโทษอย่างหนักเวลาก็ผ่านมาหนึ่งเดือนเต็ม ๆ และแน่นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปความสุขที่เธอเคยมีมันหายไปหมดสิ้น คฤหาสน์แห่งนี้กลายเป็นที่จองจำสำหรับเธอทั้งที่เมื่อก่อนมันเป็นสถานที่ที่น่าอยู่สำหรับเธอมาก ๆเธอต้องทนอยู่ด้วยความเจ็บปวดจากการที่พยายามหักห้ามใจไม่ให้รักชายหนุ่ม ต้อนทนขมขืนยามขึ้นเตียงกับเขาด้วยสถานะนางบำเรอเด็กสาวที่เคยสดใสในเมื่อก่อนกลายเป็นคนเงียบขรึม รอยยิ้มบนใบหน้าแทบไม่มีให้เห็น แววตาแสนสดใสมีแต่ความหมองหม่นเธอไม่มีความสุขอีกต่อไปในคฤหาสน์หลังใหญ่โตนี้...เฉกเช่นเดียวกับเควิลที่รู้สึกหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหญิงสาวเปลี่ยนไปนับตั้งแต่วันนั้นเธอก็ทำตัวห่างเหินเขาเข้าไปเรื่อย ๆ ไม่เข้าใกล้ถ้าเขาไม่เรียก ไม่ออดอ้อน ไม่มาวอแว ไม่สดใสเหมือนในเมื่อก่อน บ่อยครั้งที่เขาเห็นเธอแอบนั่งเหม่อลอยบอกตามตรงว่าเขาไม่ชอบเลยที่เห็นเธอดูเศร้า และยิ่งพานหงุดหงิดทุกอย่างรอบตัวเมื่อเธอทำตัวเย็นชา ห่างเหินเขา เวลามีอะไรกันก็ไม่มีอารมณ์ร่วมเหมือนเป็นแค่หน้าที่ที่จำเป็นต้องทำให้เสร็จ ๆ ไปซึ่งเขาไม่โอเคเ
ชายหนุ่มบดจูบใช้ฟันขบกัดกลีบปากอิ่มจนได้กลิ่นคาวเลือด ขณะที่ท่อนลำยังกระแทกกระทั้นเข้าใส่ร่องสวาทถี่รัวพิษความเจ็บปวดทำให้ช่องทางคับแคบตอดรัดท่อนลำถี่ ๆ สร้างความเสียวซ่านให้คนตัวโตจนได้ยินเสียงครางกระหึ่มในลำคอพร้อมแรงตอกอัดที่หนัดแน่นขึ้นหลังจากจูบจนพอใจมือหนาก็คลายออกจากใบหน้าเรียว เลื่อนลงเคล้นคลึงสองเต้าอวบ ก่อนจะรั้งร่างบางให้หยัดยืนด้วยเข่าเช่นเดียวกับเขาโดยกึ่งกลางกายยังสอดประสานกันจากนั้นก็แอ่นอัดท่อนลำเข้าออกในร่องสวาทคับแคบอีกครั้ง สองมือก็บีบเคล้นเต้าอวบที่กระเพื่อมตามแรงส่งด้านล่างไปด้วย"อึก..อื้อ นะ..หนูไม่ไหวแล้ว" ยาหยีเผยอปากบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงขาดห้วงพลางพิงศีรษะกับอกแกร่งอย่างอ่อนแรง สองมือจิกลงบนหน้าขาแกร่งจนเป็นรอยเธอบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ สวนทางกับอีกคนที่กำลังสุขสมกับร่างกายของเธอ ได้ยินเสียงทุ้มครางต่ำมาเป็นระยะ ท่อนลำใหญ่กระตุกงึกงักภายในช่องทางอ่อนนุ่มสะโพกสอบกดกระแทกช่องทางอ่อนนุ่มเน้น ๆ สี่ห้าครั้ง ก่อนตัวจะเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำรักออกมายาหยีลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ คิดว่าทุกอย่างจะจบลงแล้ว แต่เธอคิดผิดเมื่อชายหนุ่มจับเธอให้นอนหงาย แล้วสอดใส่ท่อนลำเข้
"อึก.."ร่างกายของยาหยีถึงกับสั่นระริกในตอนที่ชายหนุ่มขึ้นมาคร่อมเธอเอาไว้ แล้วโน้มใบหน้าลงซุกไซ้ขบกัดลำคอระหงแรง ๆ ขณะที่มือก็จับท่อนลำใหญ่กดกระแทกเข้าร่องสวาทแห้งฝืดเต็มแรงไร้ความอ่อนโยน ไร้การเล้าโลมใด ๆ...ต่อให้เคยผ่านเรื่องอย่างว่ามาแล้วหลายครั้ง แต่เมื่อช่องทางสวาทถูกของใหญ่ ๆ ทะลวงเข้ามาโดยไร้น้ำหล่อลื่นเป็นตัวเบิกทางมันก็สร้างความเจ็บให้เธอได้ไม่น้อยสองมือน้อย ๆ ขย้ำผ้าปูที่นอนจนแขนสั่น ฟันคมขบกัดกลีบปากอิ่มจนห่อเลือดพยายามข่มความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ไม่แม้แต่จะส่งเสียงขอร้องอ้อนวอน หรือขัดขืนเหมือนเดิมและมันเหมือนเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีกระตุ้นให้ไฟแห่งความโกรธลุกโชนเป็นทวีคูณ เขาคิดว่าที่หญิงสาวเป็นแบบนี้เพราะต้องการไปจากเขาเร็ว ๆ ซึ่งเห็นได้ว่าเธอเห็นเพื่อนชายคนนั้นสำคัญกว่าเขาเป็นไหน ๆ"ที่อยากไปจากฉันเร็ว ๆ เพราะอยากไปอยู่กับมันใช่ไหม""แล้วแต่คุณจะคิดค่ะ เพราะยังไงคุณก็มองว่าหนูเป็นผู้หญิงร่านอยู่แล้ว" ยาหยีตอกกลับเชิงประชดประชัน เธอเองบอบช้ำจนไม่อยากจะอธิบายอะไรอีก และถึงจะอธิบายไปเขาคงไม่ฟังและคงเปลี่ยนความจริงที่ว่าเธอเป็นแค่นางบำเรอของเขาไม่ได้.."ได้เลยยาหยี" สิ้นเสี
ครืดด~เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าเป้ของยาหยีดังขึ้นทำให้เธอรีบปาดน้ำตาออก แล้วล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาดูหัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาคือเพื่อนชาย ดวงตากลมปรายมองร่างสูงข้าง ๆ เล็กน้อยพร้อมกับวางโทรศัพท์คว่ำหน้าบนตักด้วยกลัวว่าอีกคนจะรู้ว่าใครโทรมา แล้วพานโกรธเข้าไปอีกแต่เหมือนทุกการกระทำของเธอจะไม่สามารถรอดพ้นหูตาเควิลไปได้ เขาจ้องหน้าถามคนตัวเล็กอย่างคาดคั้น "ใครโทรมา ทำไมไม่รับสาย""อะ..อ่อเบอร์แปลกค่ะเลยไม่รับ กลัวจะเป็นพวกมิจฉาชีพ" ยาหยีเลือกจะโกหกไป แต่เธอช่างโกหกได้ไม่เนียนเลยเพราะน้ำเสียงตะกุกตะกัก และแววตาเลิ่กลั่กไปมาอย่างคนมีพิรุธ"เหรอ.." แน่นอนว่าเควิลไม่เชื่อ สิ้นเสียงมือหนาก็แย่งโทรศัพท์ที่เธอกุมไว้บนตักมาดู ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนยาหยีตั้งตัวไม่ทันโทรศัพท์ถูกเขาแย่งไปอย่างง่ายดาย"คุณเควิลเอาโทรศัพท์หนูคืนมานะคะ" เธอพยายามเยื้อแย่งคืน แต่ก็ไม่สำเร็จ"อยู่นิ่ง ๆ!" เสียงทุ้มตวาดดังลั่น แววตาแข็งกร้าวจับจ้องใบหน้าเรียวอย่างเรื่องทำยาหยีถึงกับชะงักกึก ดึงมือกลับอัตโนมัติน้ำลายเหนียว ๆ ถูกกลืนลงลำคออึกใหญ่ ความกลัวเริ่มเข้าเกาะกุมหัวใจในตอนที่อีกคนมองห
สายลมเอื่อย ๆ พัดพาดอกการ์ดิเนียร่วงลงจากต้น และปลิวล่องลอยไปตามสายลม กลิ่นหอมของมันลอยมาแตะจมูกหญิงสาวเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มพราวที่กำลังนั่งชมทิวทัศน์ของแม่น้ำหลังคฤหาสน์หลังใหญ่โตกลิ่นแสนหอมหวานทำให้เธอรู้สึกสดชื่นไม่น้อยจนต้องหลับตาเชิดหน้าขึ้นสูดอากาศที่อบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้เข้าปอดพรืดใหญ่ ก่อนจะปรือตาขึ้นมองทิวทัศน์ด้านหน้าต่อแม้เวลานี้จะมีแสงแดดสีเงินสอดส่องผ่านทะลุใบไม้มาตกกระทบลงบนผิวกายขาวเนียน เธอก็ไม่รู้สึกร้อนเลยแม้แต่น้อย แถมเธอยังนั่งนิ่งๆ อยู่ตรงนี้ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนมานานแล้วเพราะเธอต้องการมองใครบางคนที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในแม่น้ำสีเขียวมรกตชายหนุ่มลูกครึ่งไทยอิตาลีอายุเข้าเลขสามแล้ว ทว่าหน้าตาของเขายังอ่อนเยาว์ราวกับเด็กหนุ่มยี่สิบกลาง ๆ ที่เธอนั่งมองมานานก็ค่อย ๆ ว่ายน้ำมาทางเธอ ก่อนจะขึ้นจากน้ำ และเดินตรงดิ่งมาหาที่โต๊ะริมแม่น้ำเธอรู้หน้าที่ตัวเองดีจึงหยิบผ้าเช็ดตัวที่เตรียมไว้ส่งให้ทันทีที่เขาเดินมาถึง "ผ้าค่ะ"“นั่งให้แดดส่องแบบนี้ เธอไม่ร้อนหรือไง” เจ้าของเสียงทุ้มกล่าวถามจบก็เอื้อมมือไปรับผ้าขนหนูผืนสีขาวที่เธอยื่นให้มาซับหน้า"ไม่ค่ะ" ยาหยีส่ายหน้าเบา ...
Comments