เหมือนกับว่าถ้อยคำที่พ่อของเธอพูดออกไปทำให้ชายคนนั้นไม่พอใจเป็นอย่างมาก พ่อของเธอถูกต่อยเข้าที่มุมปากหนึ่งทีจนเลือดกลบปาก
"อย่าทำพ่อหนูนะ" ซึ่งเธอทนดูไม่ได้จริง ๆ จึงวิ่งเข้าไปกอดท่านไว้ แต่เธอกลับถูกชายอีกคนจับแขนแล้วลากออกไปยืนห่าง ๆ
"ปล่อยหนูนะ พวกคุณอย่าทำอะไรพ่อหนูนะ" เธอพยายามจะสะบัดแขนออกจากการจับกุมของมือหนาแต่ก็ไม่เป็นผลสุดท้ายเธอก็ทำได้แค่พูดออกไป
"กูให้มึงเลือกระหว่างหาเงินมาจ่ายตอนนี้กับตายไปทั้งพ่อทั้งลูก มึงจะเลือกอะไร?"
ชายคนที่ต่อยพ่อเธอตวัดสายตามองเธอแวบหนึ่ง แล้วตวัดสายตากลับไปมองหน้าพ่อเธอต่อ น้ำเสียงและสายตาของชายคนนั้นดูน่ากลัวมาก ๆ
"ฉันไม่มีเงิน แต่ใช่ว่าฉันจะไม่มีอย่างอื่น.." พ่อของเธอเอ่ยขึ้น เธอได้ยินพ่อตัวเองพูดมาแบบนั้นก็อดทำหน้าสงสัยไม่ได้ นัยน์ตาดำขลับจับจ้องหน้าคนเป็นพ่ออย่างไม่เข้าใจ
"มึงหมายความว่าไงไอ้แก่"
"ลูกสาว.." พ่อของเธอพูดมาแค่นั้นก็หยุดชะงักไป ก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้งหลังถูกตะคอกใส่พร้อมกับชี้นิ้วมาทางเธอ "ลูกสาวของฉันนั่นไง"
เธอเด็กเกินกว่าจะเข้าใจคำพูดของพ่อว่าหมายถึงอะไรเลยเอ่ยถามไป "หมายความว่าอะไรคะพ่อ"
"ไหนดูหน้าลูกแกหน่อยสิ" เธอยังไม่ทันได้รับคำตอบจากพ่อตัวเอง ชายคนนั้นก็คลายมือจากคอเสื้อพ่อเธอ แล้วเดินมาหยุดตรงหน้าเธอแทน เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหายจนเธอต้องรีบเบือนสายตาหนีไปทางอื่นด้วยความกลัว
"สวยใช้ได้เลยนี่ แต่คงต้องถามนายดูก่อน เพราะถ้าเขาไม่เอาก็เป็นได้แค่อีตัวให้ลูกน้องอย่างพวกกูเอา" อีกฝ่ายว่าแล้วก็แสยะยิ้มออกมาอย่างน่ารังเกียจ ซึ่งเธอเพิ่งเข้าใจอะไรก็ตอนนี้เอง พ่อเธอเอาตัวเธอชดใช้หนี้อย่างนั้นเหรอ
"พ่อทำแบบนี้กับหนูได้ยังไง หนูเป็นลูกพ่อนะ" เธอปล่อยโฮออกมาด้วยความเจ็บปวดไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าผู้เป็นพ่อจะกล้าทำกับเธอถึงขนาดนี้ แต่เธอกลับได้รับคำพูดไร้เยื่อกลับมา
พ่อของเธอไม่มีความรักความห่วงใยให้เธอสักนิด
"เป็นลูกก็ต้องตอบแทนบุญคุณพ่อแม่"
"ฮึก! แล้วที่หนูทำมาตลอดสองปีมันไม่ตอบแทนบุญคุณรึไง ทำไมพ่อเลวแบบนี้หนูเกลียดพ่อ" เธอต่อว่าผู้เป็นพ่อไปพลางพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากการจับกุมของชายหน้าโหด แต่มีหรือแรงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบเธอจะสู้ผู้ชายตัวโตได้สุดท้ายเธอก็โดนพวกมันฉุดกระชากไปขึ้นรถตู้จนได้
“เป็นอะไรไปฮึ” ขณะที่ยาหยีกำลังจมอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองในอดีตเธอก็ต้องสะดุ้งเบา ๆ เมื่อเสียงทุ้มดังขึ้นข้างหู เธอถอนหายใจออกมาแผ่วเบาแล้วเอ่ยขึ้น “คิดถึงเรื่องในวันวานน่ะค่ะ”
เธอเกลียดพ่อตัวเองแต่ในขณะเดียวกันเธอก็แอบขอบคุณพ่อของเธอที่ทำให้เธอเจอกับคนใจดีอย่างเควิล..
แม้อีกฝ่ายจะเป็นถึงมาเฟียที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม แต่เขาใจดีกับเธอจึงทำให้เธอไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวอีกคนเลย หนำซ้ำมีแต่เธอจะเริ่มหลงรักผู้ชายเย็นชาคนนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
“คิดถึงเรื่องอะไร?” เควิลกล่าวถามพลางขยับคางเกยไหล่มน
“ก็คิดถึงเรื่องที่พ่อเอาหนูมาใช้หนี้ให้คุณไงคะ..” ไม่รู้ว่าทำไมพอเธอพูดไปแบบนี้ก็รู้สึกกลัวขึ้นมา กลัวว่าอีกคนจะทิ้งเธอไปหลังจากทำงานบางอย่างที่เขาเคยบอกว่ารอเธออายุยี่สิบก่อนเขาถึงจะบอก
แล้วถ้าหากเธอทำมันจบล่ะอีกคนยังจะทำดีกับเธอแบบนี้หรือเปล่า แถมพรุ่งนี้ก็เป็นวันเกิดของเธอแล้วด้วย แน่นอนว่าปีนี้อายุของเธอครบยี่สิบปีบริบรูณ์แล้ว
“เรื่องพวกนั้นมันผ่านไปแล้ว เธอก็อย่าไปนึกถึงมันเลย..” เสียงทุ้มนุ่มที่มาพร้อมฝ่ามือหนาลูบหัวเธอเบา ๆ อย่างปลอบโยน
เธอเลยทิ้งตัวลงไปพิงอกแกร่งด้วยความรู้สึกปลอดภัย
“แต่เธอยังไม่ตอบฉันเลยนะว่าอยากได้อะไรในวันเกิดพรุ่งนี้” เควิลไม่เพียงถามคาดครั้นเขายังขยับมือมาบีบแก้มของเธอไปด้วย บีบจนริมฝีปากเธอยู่ไปหมด แต่เธอก็ตอบกลับไปด้วยเสียงอู้อี้ “หนูไม่ต้องการอะไรหรอกค่ะ แค่ทุกวันนี้คุณเควิลก็ให้หนูมากพอแล้ว”
เธอคิดแบบที่พูดจริง ๆ เพราะสิ่งที่เขาคอยมอบให้เธอตลอดระยะเวลาสามปีมันก็มากพอแล้ว
"แน่ใจนะว่าไม่อยากได้อะไรจริง ๆ ไม่ใช่เกรงใจจึงไม่กล้าบอก" เควิลยกยิ้มมุมปากน้อย ๆ เขาพึงพอใจที่เด็กสาวไม่เคยเรียกร้องอะไรเลยแม้ว่าเขาอยากให้ก็ตาม
หากเป็นผู้หญิงคนอื่นคงรีบบอกแล้ว หรือไม่ก็ออดอ้อนขอเอาเอง แต่เด็กสาวคนนี้ไม่เคยที่จะปริปากขออะไรเลยสักครั้ง เธออยู่อย่างเจียมตัวแต่เป็นเขาเองที่คอยหยิบยื่นให้เธอตลอดเพราะเอ็นดู
"แน่ใจค่ะ" ยาหยีเงยหน้าขึ้นฉีกยิ้มให้คนตัวโตจนตายี และมันก็ดันดูน่ารักมาก ๆ สำหรับเควิลตั้งแต่เด็กสาวเข้ามาในชีวิตโลกของเขาก็ดูสดใสมากขึ้นจริง ๆ
"เย็นนี้ฉันอยากกินขนมจีนน้ำเงี้ยว" จู่ ๆ เควิลก็โพลงขึ้นมาเพราเขานึกอยากทานกะทันหัน และต้องเป็นเด็กสาวเท่านั้นที่ทำ สาเหตุเพราะเขาติดรสมือเข้าแล้วน่ะสิ ตั้งแต่เด็กสาวเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์เขาก็ไม่เคยทานอาหารที่แม่บ้านทำอีกเลยต้องเป็นเด็กสาวทำเท่านั้น
วันต่อมา..วันนี้เป็นเกิดตัวเองยาหยีเลยตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อทำบุญใส่บาตร ครั้นใส่เสร็จก็เดินทางไปเรียนที่มหาวิทยาลัยตามปกติ ซึ่งตอนนี้เธอกำลังเรียนอยู่ปีหนึ่งเท่านั้นถึงแม้อายุจะยี่สิบแล้วก็ตามเป็นเพราะเธอหยุดเรียนไปสองปีเพราะตอนนั้นลำบากมากแค่ทนส่งตัวเองให้จบมัธยมปีที่สามก็เลือดตาแทบกระเด็น เธอเพิ่งได้มาเรียต่อมัธยมปีที่สี่ก็ตอนอยู่กับเควิลนี่แหละซึ่งอายุสิบเจ็ดปีเลยต้องขอบคุณเควิลเป็นที่สุดที่ทำให้เธอเหมือนได้ชีวิตใหม่หลังจากที่ต้องทุกข์ทนมานานดังนั้นเธอจึงปฏิญาณตนไว้แน่วแน่ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณเขาให้สมกับที่เขามอบชีวิตใหม่ให้เธอ"สุขสันต์วันเกิดนะยาหยีคนสวย""สุขสันต์วันเกิดนะหยี"ระหว่างที่เธอกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเสียงใครบางคนก็ดังทบโสตประสาททำให้เธอหลุดจากภวังค์ เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นฟิลม์กับดรีมเพื่อนสนิทของเธอนั่นเอง โดยในมือของฟิลม์ถือเค้กก้อนเล็กที่มีเทียนปักอยู่ด้วย"ขอบคุณมาก ๆ เลยนะฟิลม์ ดรีม" เธอระบายยิ้มมองหน้าเพื่อน ๆ ทั้งสองอย่างซาบซึ้ง จากนั้นก็ยกมือขึ้นประสานกันพร้อมหลับตาลงเพื่อขอพร ก่อนจะลืมตาขึ้นเป่าเทียน"เราสองคนมีของขวัญมาให้ด้วยนะ" ดรี
รถลีโรลด์รอยด์คันหรูเคลื่อนตัวไปตามถนนด้วยความเร็ว บรรยากาศภายในรถเงียบเชียบตลอดทางกระทั่งรถเคลื่อนตัวมาจอดยังบ้านพักตากอากาศติดทะเลแห่งหนึ่ง"ทะเล" ยาหยีตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นทะเลเป็นครั้งแรก รีบเปิดประตูลงจากรถวิ่งตรงไปยังชายหาดสีขาว ยืนหลับตา อ้าแขนรับลมอย่างมีความสุขเธอระบายยิ้มออกมาบาง ๆ ที่แท้ชายหนุ่มก็พาเธอมาทะเลนี่เองหากเธอไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไปเขาคงพาเธอมาเที่ยวเนื่องในวันเกิด เขาช่างแสนดีกับเธอเสมอตั้งแต่ปีแรกที่เธอมาอยู่กับเขาจนถึงปีนี้เขาก็ไม่เคยลืมวันเกิดของเธอเลยวันเกิดทุก ๆ ปีเขาจะพาเธอเที่ยว และมีของขวัญให้ตลอดแล้วแบบนี้จะไม่ให้เธอตกหลุมรักเขาได้อย่างไรกันแม้พยายามหักห้ามใจแล้วก็ตาม"ยาหยีเข้าบ้าน" เสียงร้องเรียกดังขึ้นทำให้ยาหยีค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา เธอสูดกลิ่นอายทะเลเข้าปอดพรืดใหญ่ ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปหาชายหนุ่มที่ยืนเรียกเธออยู่หน้าบ้าน"มาแล้วค่า" ใบหน้าเรียวส่งยิ้มแป้นให้คนตัวโตที่ยืนหน้าตึงอยู่ มือเรียวยื่นไปเกาะท่อนแขนแกร่งไว้พลางส่งสายตาเว้าวอนสุดฤทธิ์ "หายโกรธหนูได้แล้วค่ะ"เควิลไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ เขาเพียงก้มมองใบหน้าเรียวที่อยู่ระดับอกเพียงเล็ก
"3 ทุ่มใส่ชุดคอสเพลย์กระต่ายมาหาฉันที่ห้องนั่งเล่นเข้าใจไหม"แค่ก ๆ!ยาหยีที่กำลังก้มหน้าทานข้าวถึงกับสำลักกับประโยคบอกกล่าวจากร่างสูงที่นั่งฝั่งตรงข้าม รีบเอื้อมไปหยิบน้ำมาดื่ม ครั้นรู้สึกดีขึ้นจึงเอ่ยถามไป"ทำไมต้องให้หนูใส่ด้วยค่ะ เห็นเมื่อก่อนคุณไม่ชอบให้หนูแต่งตัวโป๊""เดี๋ยวคืนนี้เธอก็รู้เอง"จบตรงที่คำว่ารู้เองคราวนี้ยาหยีได้แต่คิดหาคำตอบเอาเองว่าเขาให้เธอใส่ชุดเซ็กซี่แบบนั้นเพราะอะไรเธอไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วที่จะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรหรืองานที่เขาบอกว่าจะให้เธอทำตอนอายุครบยี่สิบคือการใช้ร่างกายขัดดอกเหมือนที่เคยได้ยินมาถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ จะทำยังไงดีเธอยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนี้เลย แต่ก็นั่นแหละเธอปฏิเสธอะไรไม่ได้เพราะรู้ฐานะตัวเองดีทำได้แค่ขานรับไปเบา ๆ"ค่ะ"จากนั้นก็ก้มหน้าทานข้าวต่อ"กินข้าวเสร็จมานวดไหล่ให้ฉันหน่อย" เควิลเอ่ยขึ้นหลังจากทานข้าวเสร็จ"ได้ค่ะ แต่หนูขอเก็บจานไปล้างก่อนนะคะ""อืม.." เอ่ยจบเควิลก็ลุกเดินออกจากห้องอาหารไปนั่งรอในห้องนั่งเล่นทันที นั่งรอประมาณสิบห้านาทีเด็กสาวก็มายาหยีเดินอ้อมไปหยุดยืนด้านหลังชายหนุ่ม ก่อนจะวางมือลงบนบ่าแกร่งทั้งสองข้าง แล้วบีบนวดเ
"อ๊ะ!"ยาหยีถึงกับสะดุ้งเฮือกเผลอหุบขาอัตโนมัติเมื่อคนตัวโตใช้นิ้วกรีดกรายลงบนรอยแยกกลางกายสาวถึงแม้มันจะมีถุงน่องตาข่ายกับแพนตี้ปกปิดอยู่ แต่ก็ทำเธอเสียวไม่น้อย"อ้าขาออก!" เควิลกดเสียงสั่งอย่างนึกหงุดหงิดเมื่อคนตัวเล็กเริ่มแสดงทาทีต่อต้าน สายตาช้อนขึ้นมองใบหน้าเรียวเชิงตำหนิทำเอาคนถูกตำหนิทางสายตาต้องค่อย ๆ แยกขาออกทั้งที่ในใจอับอายจนแทบอยากมุดดินหนี ไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าตัวเองต้องมานอนแหกขาต่อหน้าผู้ชายแต่ก็นั่นแหละต่อให้เธอไม่อยากทำก็มิอาจปฏิเสธได้..แคว่ก!ทันทีที่ขาเรียวแยกออกเควิลก็ฉีกทึ้งถุงน่องตาข่ายตรงเนินอวบอูมจนแหกเป็นวงกว้าง ก่อนจะใช้นิ้วแหวกแพนตี้ไปไว้ด้านข้างเผยให้เห็นเนินสาวอวบอูมที่มีขนออกปกคลุมบาง ๆ กลีบดอกไม้งามสีอมชมพูปิดสนิทบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อนมุมปากหยักยกยิ้มอย่างพึงพอใจ ความสวยงามนี้ช่างคุ้มค่ากับที่เขารอคอยมาถึงสามปีเสียจริง สายตาคมกริบจ้องมองดอกไม้งามอย่างหื่นกระหายระคนชื่นชมทำเจ้าของต้องยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยความอับอายสุดขีดเธออยากจะหุบขาเข้า หรือถอยหนีสายตาหื่นกระหายนั้น แต่ก็ทำได้แค่คิด"อึก.." ร่างกายของเธอพลันสะท้านวาบเมื่อนิ
“ฉันอยากจนทนไม่ไหวแล้วยาหยี”เควิลเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพร้อมกับจับท่อนลำแข็งแรงขืนเกลี่ยริมฝีปากล่างที่อ้าเผยจนน้ำเหนียวที่เคลือบปลายหัวบานเลอะติดตามขอบปาก กลิ่นความเป็นชายที่ลอยแตะจมูกทำเอายาหยีอยากจะอาเจียน แต่เธอก็ต้องกลั้นเอาไว้"แต่หนูทำไม่เป็นนะคะ" เธอบอกกล่าวไปก่อนที่อีกคนจะใส่ท่อนเอ็นเข้าปาก เธอกลัวว่าจะทำฟันโดนเนื้อของเขา"อม ๆ เลีย ๆ เหมือนเวลาเธอกินไอติมมันไม่ยากเลย เอามันเข้าปากสิ"ยาหยีกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ก่อนจะยกมือขึ้นจับท่อนเอ็นใหญ่ ค่อย ๆ โน้มปากไปครอบครองปลายหัวบานอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“ชื้ด..” เควิลถึงกับซูดปากเมื่อท่อนลำสัมผัสกับกระพุ้งแก้มอ่อนนุ่ม ความเสียวแล่นปลาบไปทั่วร่างกาย และมันคงรู้สึกดีกว่านี้หากได้เข้าไปในโพรงปากลึก ๆไม่ใช่แค่คิดแต่เขายังใช้มือทั้งสองประคองใบหน้าเรียวไว้ ก่อนจะขยับท่อนลำเข้าไปในโพรงปากฉ่ำจนมันทิ่มคอหญิงสาว"อึก.." ยาหยีถึงกับน้ำหูน้ำตาไหลแทบจะอาเจียนออกมา อยากจะบอกเข้าไปว่าเธอไม่ไหวแต่ติดตรงที่ท่อนเอ็นคับปากอยู่จึงใช้มือดันต้นขาแกร่งแทนหวังผลักให้คนตัวโตออกไปทว่าไม่เป็นผลเพราะหน้าของเธอถูกเขาจับไว้เควิลรับรู้ แต่ไม่สนใจเริ่มขยับท่อนลำ
สิ้นคำว่าเธอได้เจ็บกว่านี้อีกเควิลก็ดึงนิ้วออกจากร่องสาว แล้วจับท่อนลำใหญ่ถูไถร่องหลืบชื้นแฉะ "หนูกลัว ไม่ทำได้ไหมคะ" ยาหยีกลัวจับใจพยายามส่งสายตาเว้าวอนคนตัวโตสุดฤทธิ์ ขณะนั้นก็พยายามกระถดกายหนีสัมผัสจากเขาไปด้วย แต่ก็มิวายถูกมือหนาจับเอวคอดทั้งสองไว้เควิลไม่คิดจะอ่อนโยนกับเด็กดื้อรั้นอีกต่อไป ใช้มือข้างหนึ่งจับท่อนลำใหญ่สอดใส่เข้าไปในร่องสาวบริสุทธิ์"อึก จะ..เจ็บหนูเจ็บ" แม้มันจะเข้ามาแค่ส่วนหัวแต่ก็สร้างความเจ็บให้ยาหยีเป็นอย่างมากเธอร้องบอกปากคอสั่นพร้อมกับน้ำสีใสที่ไหลออกทางหางตา สองมือน้อย ๆ ก็ยื่นไปดันหน้าท้องแกร่งเอาไว้ "มะ..มันเข้ามาไม่ได้หรอก ของคุณใหญ่เกินไป""ฉันบอกว่าเข้าได้มันก็ต้องเข้าได้" เควิลไม่สนใจความเจ็บปวดของร่างบาง ว่าจบก็เดินหน้าฝากฝังตัวตนเข้าสู่ร่องสาวคับแน่นต่อแม้จะรู้สึกปวดหนึบจากแรงบีบรัดมากก็ตาม มือก็จับสองมือน้อย ๆ ที่พยายามผลักเขาออกไปกดตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว ขณะที่อีกมือจับเอวคอดไว้มั่นใจ สายตาจับจ้องท่อนลำใหญ่ที่ค่อย ๆ จมหายเข้าไปในร่องสาวคับแน่น"หนูไม่ไหวมันเจ็บมาก ฮึก" ยาหยีน้ำตาไหลพราก ใบหน้าบิดเบ้สั่นส่ายไปมาด้วยความเจ็บปวด ยิ
ยาหยีรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงสาย ๆ ของวันใหม่ด้วยความรู้สึกที่ปวดเมื่อยไปทั้งร่างกายโดยเฉพาะกลางกายสาวที่มันเจ็บเป็นพิเศษก็เพราะเมื่อคืนกว่าชายหนุ่มจะปล่อยให้เธอได้พักผ่อนก็ปาเข้าไปตีสามแล้ว เขาเล่นรังแกเธอนับครั้งไม่ถ้วน ขณะที่คนกระทำกลับนั่งจิบกาแฟในห้องนั่งเล่นอย่างสบายใจเพราะเมื่อคืนได้กินเนื้อแสนหวานจนอิ่มเอมหลังจากที่ต้องจำศีลมาถึงสามปีวันนี้เขารู้ว่าหญิงสาวต้องลุกขึ้นมาทำอาหารไม่ไหวแน่นอนจึงโทรเรียกแม่บ้านมาทำให้ เขาเหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือเมื่อเห็นว่าเกือบจะเที่ยงแล้วจึงลุกเดินขึ้นห้องนอนไปเพื่อดูคนตัวเล็กแกร็ก!ยาหยีที่ยืนนุ้งผ้าเช็ดตัวกระโจมอกเลือกเสื้อผ้าในถุงถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงเปิดประตูดังขึ้น รีบหันไปมองด้วยความเร็ว "คุณเควิล" ใบหน้าเรียวพลันขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายเพราะเพียงเห็นหน้าเขาเรื่องเมื่อคืนก็ฉายขึ้นในสมองอีกครั้ง แต่กระนั้นเธอก็พยายามเก็บซ่อนอาการเอาไว้ หัวใจดวงน้อย ๆ อดสั่นไหวไม่ได้เมื่อคนตัวโตก้าวมายืนตรงหน้าระยะห่างกันเพียงนิด มือน้อย ๆ ยกขึ้นกุมปมผ้าเช็ดตัวแน่น"เจ็บตรงนั้นมากไหม" เควิลถามไถ่พลางเลื่อนสายตาลงมองกลางกายสาวที่มีผ้าเช็ดตัวปก
"มานี่สิ" เควิลตบตักตัวเองเรียกให้หญิงสาวมานั่ง และแน่นอนว่ายาหยีปฏิเสธไม่ได้ เดินเข้าไปนั่งบนตักแกร่งอย่างว่าง่าย"เธอเหมาะกับชุดแบบนี้มากนะ เห็นแล้วยั่วช่วงล่างดี แต่เธอใส่ได้เฉพาะเวลาอยู่กับฉันคนเดียวเท่านั้น" "พูดอะไรคะ" คำพูดส่อสิบแปดบวกของชายหนุ่มทำยาหยีหน้าร้อนผะผ่าว แก้มของเธอมันคงจะแดงมากแน่ ๆ และมันก็แดงจริง ๆ จนอีกคนอดแซวไม่ได้"อายเหรอ อายทำไมมันเป็นเรื่องปกติ" ไม่ใช่แค่แซวเฉย ๆ แต่กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากกายสาวทำให้เขาต้องโน้มจมูกลงคลอเคลียไหล่มนสูดดมกลิ่นหอมเข้าปอด ขณะที่มือก็เริ่มอยู่ไม่นิ่งลูบไล้เรียวขาสวยที่โผล่จากรอยผ่า"อย่าค่ะ หนูจะกินข้าว" ยาหยีรู้สึกจักกะจี้จนต้องย่นคอหนีพลางตะปบมือที่กำลังซุกซนไว้"ข้าวไว้กินทีหลัง ตอนนี้ให้ฉันกินเธอก่อนก็แล้วกัน""คุณเควิล!" ยาหยีถึงกับตาโต จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างเหลือจะเชื่อว่าเขาจะมีความต้องการมากขนาดนี้ เมื่อคืนก็เอาเธอไปไม่รู้กี่รอบแล้ว เที่ยงนี้ยังจะเอาอีกทั้งที่รู้ว่าเธอเจ็บตรงนั้นอยู่"แต่หนูยังเจ็บอยู่นะคะ""ฉันจะทำเบา ๆ" ว่าจบเควิลก็พาหญิงสาวไปยังปลายโต๊ะที่ว่างอยู่ ก่อนจะผลักให้เธอนอนราบโดยสะโพกอยู่บริเวณขอบโต๊ะพอดี จา
หลายปีต่อมา"มาให้แด๊ดดี้หอมหน่อยสิครับ" เควิลร้องเรียกลูกชายตัวน้อยที่กำลังนั่งเล่นอยู่กับพี่เลี้ยงบนพื้นในห้องนั่งเล่นทันทีที่กลับมาถึงบ้าน"แด๊ดดี้กลับมาแล้ววว" เด็กน้อยหน้าตาหล่อเหลาอายุย่างเข้า 5ขวบฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้ยินเสียงผู้เป็นพ่อ รีบดีดตัวลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้ากอดผู้เป็นพ่อที่กำลังนั่งยองๆอ้าแขนรอกอดด้วยความดีใจ "คิดถึงแด๊ดดี้ที่สุดเลยครับ""แด็ดดี้ก็คิดถึงลูกครับ วันนี้ทำงานมาเหนื่อยขอหอมให้หายเหนื่อยหน่อย" เควิลกอดบุตรชายแนบแน่นพลางกระหน่ำหอมแก้มกลม ๆ ทั้งซ้ายทั้งขวาฟอดใหญ่"หอมจนแก้มลูกช้ำหมดแล้วไหมคะนั้นแด๊ดดี้" ยาหยีที่กำลังถือจานผลไม้ออกมาจากในครัวเอ่ยแซวคนเป็นสามียิ้ม ๆ"ก็ลูกน่าหอมนิ" คนถูกแซวเงยขึ้นมองเมียสาวด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้ม ก่อนจะผละกอดจากลูกเดินไปโอบกอดเมียสาว"แม่ก็น่าหอม" เอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมหอมแก้มขาวผ่องฟอดใหญ่ ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาด้วยกลัวว่าลูกจะได้ยิน "น่าเย็..*ด้วย""คนทะลึ่ง ในสมองมีแต่เรื่องพันนี้รึไงคะ" ยาหยีตีอกคนเป็นสามีไปหนึ่งทีโทษฐานที่พูดจาทะลึ่ง แต่ก็มิวายรู้สึกเขินอายไม่ได้แม้เธอกับเขาจะแต่งงานกันมาสี่ปีแล้ว หรือนับตั้งแต
สามเดือนต่อมา..เวลาล่วงเลยมาได้สามเดือนเต็มนับจากวันนั้นเหมือนความสัมพันธ์ของเควิลกับยาหยีจะแนบแน่นขึ้นเรื่อย ๆยาหยีได้รู้ซึ้งกับคำว่าชอบของเควิลแล้วว่าเป็นอย่างไง และเธอก็ต้องหนักใจมากกับคำว่าเวอร์วังของเขา ซึ่งเธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะมีมุมแบบนั้นเพราะทำเอาเธอปรับตัวแทบไม่ทันในช่วงอาทิตย์แรกนอกจากอีกฝ่ายจะป่าวกล่าวประกาศกับเหล่าบอดี้การ์ดและเหล่าแม่บ้านว่าเธอไม่ใช่ลูกหนี้ แต่เขากับเธอกำลังดูใจกันอยู่แล้วเขายังยกหนี้จำนวนหนึ่งล้านถ้วนที่พ่อเธอได้สร้างไว้เขาก็ยกให้ฟรี ๆ เพื่อเป็นการบอกว่าเธอไม่ใช่คนที่มาที่นี่เพื่อใช้หนี้อีกต่อไปไม่เพียงเท่านั้นเขายังพาเธอไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารหรูแทบทุกวัน และทุกครั้งจะมีช่อดอกไม้มอบให้เสมอจนห้องนอนของเธอมันเต็มไปด้วยดอกไม้ของเขาเขาตามใจเธอสุดฤทธิ์เพียงแค่เอ่ยปากบอกสิ่งนั้นก็จะมาวางตรงหน้า เธออยากจะไปเที่ยวที่ไหนเขาก็ไม่เคยขัดเธอรู้ซึ้งแล้วว่าการได้รับความรู้สึกพิเศษจากมาเฟียที่เย็นชามันเป็นแบบไหน ถึงเขาจะไม่มีคำพูดแสนหวานเพื่อเอาใจ ทว่าการกระทำของเขามันบ่งบอกให้เธอได้รู้ได้รู้ว่าเขาชอบเธอจริง ๆ..."หึ.." พอคิดถึงสิ่งดี ๆ ที่เขาคอยทำให้เธอ
"ไม่เอาเสียเวลา..ฉันใจร้อน"สิ้นเสียงพูดเควิลก็จับร่างบางกดให้นอนหงายบนโซฟาด้วยความเร็วแล้วตามลงไปทาบทับเอาไว้ สองมือจับมือเล็กที่พยายามดันอกไปกดเหนือศีรษะเล็กทุยแน่นอนว่ายาหยีสู้แรงคนตัวโตกว่าหลายเท่าไม่ได้ทำได้แค่ทำหน้าคว่ำร้องโวยวายออกไปเสียงดังลั่น"คุณขี้โกง หนูยังไม่อนุญาตเลยนะคะ""เธออย่าผิดคำพูดสิที่บอกว่าถ้าฉันให้คำตอบแล้วจะให้เอา""หนูไม่ได้ผิดคำพูดสักหน่อย" คราวนี้ยาหยีถึงกับเอ่ยเสียงอ่อยเพราะเถียงไม่ออกเธอดันพูดแบบนั้นไปจริง ๆ นี่น่าทำให้อีกคนได้ทีใช้โอกาสที่เธอนิ่งสงบก้มลงประกบจูบริมฝีปากอิ่มดูดเม้มกลีบปากบนล่างสลับกันแผ่วพลิ้วต้องการตะล่อมเธอให้คล้อยตามสองมือคลายพันธนาการจากข้อมือเล็กเลื่อนลงลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งสุดยั่วยวนที่อยู่ภายใต้ชุดเดรส ขณะที่สะโพกขยับบดเบียดกับเนินเนื้อสาวอวบอูมทำคนที่ยังด้อยประสบการณ์อยู่มากเริ่มเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัส หลับตาพริ้มจูบตอบอย่างดูดดื่ม ปากอ้าเผยอให้เรียวลิ้นสากสอดเข้ามาเกี่ยวกระหวัดหยอกเย้ากับเรียวลิ้นนุ่ม สองมือเคลื่อนไปโอบกอดลำคอแกร่งแน่น ส่งเสียงครางในลำคออื้ออึงด้วยความรู้สึกวาบหวาม"อื้อ.."ไม่ต่างจากชายหนุ่มที่อารมณ์เริ
คำถามจากริมฝีปากอิ่มทำเควิลนิ่งไปเพราะเขาเองก็ยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองเลยว่ารู้สึกยังไงกันแน่ เขาเองก็กำลังหาคำตอบให้ตัวเองเหมือนกัน แต่ที่แน่ ๆ เขาไม่เคยเห็นเธอเป็นนางบำเรอเลย"ฉันยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง ไว้ฉันมั่นใจเมื่อไรจะบอกนะ แต่ที่แน่ ๆ ฉันไม่เคยเห็นเธอเป็นนางบำเรอหรือผู้หญิงขัดดอกเลย อาจจะมีบ้างครั้งที่ฉันพูดจาไม่ดีแต่ทั้งหมดเป็นเพราะอารมณ์ล้วน ๆ ไม่เคยคิดจริง ๆ""ค่ะ.." ยาหยีเพียงขานรับเสียงแผ่วและไม่คิดจะซักไซ้อะไรต่อถึงแม้เธออยากรู้ใจแทบขาดถึงความรู้สึกที่ชายหนุ่มมีต่อตัวเองซึ่งลึก ๆ ในใจเธอก็เกิดความหวังขึ้นมาน้อย ๆ ว่าเขาอาจจะรู้สึกอะไรกับเธอบ้างถึงต้องใช้เวลาคิด จากที่เคยพยายามจะตัดใจก็เริ่มลังเลขึ้นมาจะว่าเธอใจง่ายก็ได้ก็คนมันรักมาตั้งนานแล้วนิ..ภายในรถตกอยู่ในความเงียบนานนับนาที ก่อนเควิลจะเอ่ยทำลายความเงียบ สายตาจ้องมองใบหน้าหวานอย่างอ่อนโยน"เราเข้าใจกันแล้วนะ กลับมาเป็นยาหยีเด็กน้อยทึ่น่ารักของฉันได้แล้ว""ก็ได้ค่ะ แต่หนูมีข้อแม้หากคุณไม่ได้เห็นหนูเป็นนางบำเรอ หรือผู้หญิงขัดดอกจริง ๆ จนกว่าคุณจะให้ตอบว่ารู้สึกยังไงกับหนู เราห้ามมีอะไรกันตกลงไหมคะ
วันต่อมา.."เดี๋ยววันนี้เลิกเรียนแล้วฉันไปรับ" เควิลที่นั่งดื่มกาแฟอยู่ในห้องโถงเปล่งเสียงขึ้นทันทีที่หญิงสาวเดินลงจากบันไดทำให้ยาหยีถึงกับชะงักมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างสงสัยเพราะน้อยครั้งที่เขาจะไปรับเธอด้วยตัวเองที่มหาวิทยาลัย แต่เธอก็ไม่คิดจะถามหาเหตุผลเพียงขานรับ แล้วเดินออกไปขึ้นรถตรงไปมหาวิทยาลัยครั้นเลิกเรียนเธอก็มายืนรอชายหนุ่มตรงที่ที่ยืนรอรถมารับประจำ รอเพียงไม่นานรถแลมโบกีนี่ราคาหลายสิบล้านก็เคลื่อนตัวมาจอดลงตรงหน้านักศึกษาที่อยู่บริเวณต่างพากันมองมาด้วยสายตาลุกวาวอดทำให้เธอประหม่าไม่ได้จริง ๆ จนต้องรีบวิ่งไปขึ้นรถเพื่อหลบหลีกสายตาหลายคู่ที่จ้องมอง"เป็นอะไร ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้น" ทำคนที่นั่งหลังพวงมาลัยขย่นคิ้วด้วยความสงสัยกับท่าทางรีบร้อนของเธอ"คนมองหนูไม่ชอบค่ะ" ยาหยีตอบไปตามจริงพลางมองไปยังกลุ่มนักศึกษาที่มองมา พอได้ฟังคำตอบของหญิงสาวเควิลก็ยกยิ้มมุมปากน้อย ๆ หากเป็นคนอื่นคงจะเดินยืดอกมาขึ้นรถอย่างภาคภูมิใจ แต่เธอกลับไม่ชอบเสียอย่างนั้น"เธอนี่ก็แปลกคนนะยาหยี" มือหนายื่นไปยีศีรษะเล็กทุยด้วยความเอ็นดูจนเรือนผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิง"อย่ามายุ่งกับผมหนู" ยาหยีทำหน้าคว่ำใส่เจ
นับตั้งแต่วันที่เธอถูกชายหนุ่มลงโทษอย่างหนักเวลาก็ผ่านมาหนึ่งเดือนเต็ม ๆ และแน่นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปความสุขที่เธอเคยมีมันหายไปหมดสิ้น คฤหาสน์แห่งนี้กลายเป็นที่จองจำสำหรับเธอทั้งที่เมื่อก่อนมันเป็นสถานที่ที่น่าอยู่สำหรับเธอมาก ๆเธอต้องทนอยู่ด้วยความเจ็บปวดจากการที่พยายามหักห้ามใจไม่ให้รักชายหนุ่ม ต้อนทนขมขืนยามขึ้นเตียงกับเขาด้วยสถานะนางบำเรอเด็กสาวที่เคยสดใสในเมื่อก่อนกลายเป็นคนเงียบขรึม รอยยิ้มบนใบหน้าแทบไม่มีให้เห็น แววตาแสนสดใสมีแต่ความหมองหม่นเธอไม่มีความสุขอีกต่อไปในคฤหาสน์หลังใหญ่โตนี้...เฉกเช่นเดียวกับเควิลที่รู้สึกหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหญิงสาวเปลี่ยนไปนับตั้งแต่วันนั้นเธอก็ทำตัวห่างเหินเขาเข้าไปเรื่อย ๆ ไม่เข้าใกล้ถ้าเขาไม่เรียก ไม่ออดอ้อน ไม่มาวอแว ไม่สดใสเหมือนในเมื่อก่อน บ่อยครั้งที่เขาเห็นเธอแอบนั่งเหม่อลอยบอกตามตรงว่าเขาไม่ชอบเลยที่เห็นเธอดูเศร้า และยิ่งพานหงุดหงิดทุกอย่างรอบตัวเมื่อเธอทำตัวเย็นชา ห่างเหินเขา เวลามีอะไรกันก็ไม่มีอารมณ์ร่วมเหมือนเป็นแค่หน้าที่ที่จำเป็นต้องทำให้เสร็จ ๆ ไปซึ่งเขาไม่โอเคเ
ชายหนุ่มบดจูบใช้ฟันขบกัดกลีบปากอิ่มจนได้กลิ่นคาวเลือด ขณะที่ท่อนลำยังกระแทกกระทั้นเข้าใส่ร่องสวาทถี่รัวพิษความเจ็บปวดทำให้ช่องทางคับแคบตอดรัดท่อนลำถี่ ๆ สร้างความเสียวซ่านให้คนตัวโตจนได้ยินเสียงครางกระหึ่มในลำคอพร้อมแรงตอกอัดที่หนัดแน่นขึ้นหลังจากจูบจนพอใจมือหนาก็คลายออกจากใบหน้าเรียว เลื่อนลงเคล้นคลึงสองเต้าอวบ ก่อนจะรั้งร่างบางให้หยัดยืนด้วยเข่าเช่นเดียวกับเขาโดยกึ่งกลางกายยังสอดประสานกันจากนั้นก็แอ่นอัดท่อนลำเข้าออกในร่องสวาทคับแคบอีกครั้ง สองมือก็บีบเคล้นเต้าอวบที่กระเพื่อมตามแรงส่งด้านล่างไปด้วย"อึก..อื้อ นะ..หนูไม่ไหวแล้ว" ยาหยีเผยอปากบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงขาดห้วงพลางพิงศีรษะกับอกแกร่งอย่างอ่อนแรง สองมือจิกลงบนหน้าขาแกร่งจนเป็นรอยเธอบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ สวนทางกับอีกคนที่กำลังสุขสมกับร่างกายของเธอ ได้ยินเสียงทุ้มครางต่ำมาเป็นระยะ ท่อนลำใหญ่กระตุกงึกงักภายในช่องทางอ่อนนุ่มสะโพกสอบกดกระแทกช่องทางอ่อนนุ่มเน้น ๆ สี่ห้าครั้ง ก่อนตัวจะเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำรักออกมายาหยีลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ คิดว่าทุกอย่างจะจบลงแล้ว แต่เธอคิดผิดเมื่อชายหนุ่มจับเธอให้นอนหงาย แล้วสอดใส่ท่อนลำเข้
"อึก.."ร่างกายของยาหยีถึงกับสั่นระริกในตอนที่ชายหนุ่มขึ้นมาคร่อมเธอเอาไว้ แล้วโน้มใบหน้าลงซุกไซ้ขบกัดลำคอระหงแรง ๆ ขณะที่มือก็จับท่อนลำใหญ่กดกระแทกเข้าร่องสวาทแห้งฝืดเต็มแรงไร้ความอ่อนโยน ไร้การเล้าโลมใด ๆ...ต่อให้เคยผ่านเรื่องอย่างว่ามาแล้วหลายครั้ง แต่เมื่อช่องทางสวาทถูกของใหญ่ ๆ ทะลวงเข้ามาโดยไร้น้ำหล่อลื่นเป็นตัวเบิกทางมันก็สร้างความเจ็บให้เธอได้ไม่น้อยสองมือน้อย ๆ ขย้ำผ้าปูที่นอนจนแขนสั่น ฟันคมขบกัดกลีบปากอิ่มจนห่อเลือดพยายามข่มความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ไม่แม้แต่จะส่งเสียงขอร้องอ้อนวอน หรือขัดขืนเหมือนเดิมและมันเหมือนเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีกระตุ้นให้ไฟแห่งความโกรธลุกโชนเป็นทวีคูณ เขาคิดว่าที่หญิงสาวเป็นแบบนี้เพราะต้องการไปจากเขาเร็ว ๆ ซึ่งเห็นได้ว่าเธอเห็นเพื่อนชายคนนั้นสำคัญกว่าเขาเป็นไหน ๆ"ที่อยากไปจากฉันเร็ว ๆ เพราะอยากไปอยู่กับมันใช่ไหม""แล้วแต่คุณจะคิดค่ะ เพราะยังไงคุณก็มองว่าหนูเป็นผู้หญิงร่านอยู่แล้ว" ยาหยีตอกกลับเชิงประชดประชัน เธอเองบอบช้ำจนไม่อยากจะอธิบายอะไรอีก และถึงจะอธิบายไปเขาคงไม่ฟังและคงเปลี่ยนความจริงที่ว่าเธอเป็นแค่นางบำเรอของเขาไม่ได้.."ได้เลยยาหยี" สิ้นเสี
ครืดด~เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าเป้ของยาหยีดังขึ้นทำให้เธอรีบปาดน้ำตาออก แล้วล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาดูหัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาคือเพื่อนชาย ดวงตากลมปรายมองร่างสูงข้าง ๆ เล็กน้อยพร้อมกับวางโทรศัพท์คว่ำหน้าบนตักด้วยกลัวว่าอีกคนจะรู้ว่าใครโทรมา แล้วพานโกรธเข้าไปอีกแต่เหมือนทุกการกระทำของเธอจะไม่สามารถรอดพ้นหูตาเควิลไปได้ เขาจ้องหน้าถามคนตัวเล็กอย่างคาดคั้น "ใครโทรมา ทำไมไม่รับสาย""อะ..อ่อเบอร์แปลกค่ะเลยไม่รับ กลัวจะเป็นพวกมิจฉาชีพ" ยาหยีเลือกจะโกหกไป แต่เธอช่างโกหกได้ไม่เนียนเลยเพราะน้ำเสียงตะกุกตะกัก และแววตาเลิ่กลั่กไปมาอย่างคนมีพิรุธ"เหรอ.." แน่นอนว่าเควิลไม่เชื่อ สิ้นเสียงมือหนาก็แย่งโทรศัพท์ที่เธอกุมไว้บนตักมาดู ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนยาหยีตั้งตัวไม่ทันโทรศัพท์ถูกเขาแย่งไปอย่างง่ายดาย"คุณเควิลเอาโทรศัพท์หนูคืนมานะคะ" เธอพยายามเยื้อแย่งคืน แต่ก็ไม่สำเร็จ"อยู่นิ่ง ๆ!" เสียงทุ้มตวาดดังลั่น แววตาแข็งกร้าวจับจ้องใบหน้าเรียวอย่างเรื่องทำยาหยีถึงกับชะงักกึก ดึงมือกลับอัตโนมัติน้ำลายเหนียว ๆ ถูกกลืนลงลำคออึกใหญ่ ความกลัวเริ่มเข้าเกาะกุมหัวใจในตอนที่อีกคนมองห