สายลมเอื่อย ๆ พัดพาดอกการ์ดิเนียร่วงลงจากต้น และปลิวล่องลอยไปตามสายลม กลิ่นหอมของมันลอยมาแตะจมูกหญิงสาวเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มพราวที่กำลังนั่งชมทิวทัศน์ของแม่น้ำหลังคฤหาสน์หลังใหญ่โต
กลิ่นแสนหอมหวานทำให้เธอรู้สึกสดชื่นไม่น้อยจนต้องหลับตาเชิดหน้าขึ้นสูดอากาศที่อบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้เข้าปอดพรืดใหญ่ ก่อนจะปรือตาขึ้นมองทิวทัศน์ด้านหน้าต่อ
แม้เวลานี้จะมีแสงแดดสีเงินสอดส่องผ่านทะลุใบไม้มาตกกระทบลงบนผิวกายขาวเนียน เธอก็ไม่รู้สึกร้อนเลยแม้แต่น้อย แถมเธอยังนั่งนิ่งๆ อยู่ตรงนี้ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนมานานแล้ว
เพราะเธอต้องการมองใครบางคนที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในแม่น้ำสีเขียวมรกต
ชายหนุ่มลูกครึ่งไทยอิตาลีอายุเข้าเลขสามแล้ว ทว่าหน้าตาของเขายังอ่อนเยาว์ราวกับเด็กหนุ่มยี่สิบกลาง ๆ ที่เธอนั่งมองมานานก็ค่อย ๆ ว่ายน้ำมาทางเธอ ก่อนจะขึ้นจากน้ำ และเดินตรงดิ่งมาหาที่โต๊ะริมแม่น้ำ
เธอรู้หน้าที่ตัวเองดีจึงหยิบผ้าเช็ดตัวที่เตรียมไว้ส่งให้ทันทีที่เขาเดินมาถึง "ผ้าค่ะ"
“นั่งให้แดดส่องแบบนี้ เธอไม่ร้อนหรือไง” เจ้าของเสียงทุ้มกล่าวถามจบก็เอื้อมมือไปรับผ้าขนหนูผืนสีขาวที่เธอยื่นให้มาซับหน้า
"ไม่ค่ะ" ยาหยีส่ายหน้าเบา ๆ ซึ่งมันก็จริงอยู่ที่ไทยอากาศมันร้อนอบอ้าว แถมช่วงนี้ก็เป็นหน้าร้อนที่สุดไทย
แล้วก็เป็นเดือนพิเศษสำหรับเธอเพราะเดือนนี้เป็นเดือนเกิดแสนพิเศษที่มันมอบความรู้สึกเศร้าโศก และทำให้รู้สึกว่าเธอเป็นคนที่โชคดีในเวลาเดียวกัน
“พรุ่งนี้ก็วันเกิดเธอแล้วสินะ” เควิลเช็ดผมตัวเองให้แห้งเสร็จก็เอ่ยออกมาพลางบิดขี้เกียจเบา ๆ จนได้ยินเสียงกระดูกที่ดังกรอบแกรบมาเป็นระยะ
“ค่ะ..” ยาหยีไม่รู้ว่าจะตอบชายหนุ่มไปอย่างไงดี เธอเลยได้แต่ขานรับ
“มานี่สิ” คนตัวโตทิ้งตัวลงนั่งปั๊บก็กวักมือเรียกหญิงสาวให้เดินมาหา และทันทีที่คนตัวเล็กเดินมาหยุดตรงหน้าเขาก็คว้าหมับเข้าข้อมือเล็กดึงให้เธอนั่งลงบนตัก
"คุณเควิลทำอะไรคะ" ยาหยีทั้งตกใจและประหม่าเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอใกล้ชิดกับชายหนุ่มมากขนาดนี้ พยายามจะลุกจากตักแกร่ง แต่กับถูกวงแขนแข็งแรงกอดรัดแน่นจนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
และเสี้ยวนาทีต่อมาหัวใจเธอก็ต้องเต้นแรง ขนกายพลันลุกชูชันเมื่อถูกอีกคนใช้ปลายจมูกโด่งสันซุกไซ้ช่วงลำคอจนต้องรีบย่นคอหนีแต่ก็ไม่พ้น
กว่าเควิลจะพอใจกับการสูดดมกลิ่นหอมก็ใช้เวลาไปหลายนาที แถมมันก็ทำให้เธอต้องนั่งตัวเกร็งแล้วเกร็งอีกจนหายใจไม่ทั่วท้องเพราะความรู้สึกวาบหวาม
“พรุ่งนี้อยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?” เสียงทุ้มกล่าวถามพร้อมลูบมือวนหน้าท้องเธอ
"ไม่อยากได้อะไรค่ะ" ยาหยีรีบส่ายหน้าปฏิเสธไปเพราะการที่อีกคนใจดีกับ ‘ลูกหนี้’ อย่างเธอมันก็มากพอแล้ว เขาทั้งส่งเสียเธอเรียน และมอบชีวิตสุขสบายให้กับเธอมันมากเกินพอไปแล้วจริงๆ..
แล้วเหมือนกับว่าการที่เธอคิดแบบนี้มันไปเปิดปุ่มที่เธอผนึกความทรงจำสุดแสนเศร้าหมองไว้
ภาพที่เธอไม่อยากจะจดจำก็ฉายทับภาพทิวทัศน์สวยงาม
"พ่อนี่มันคืออะไร..?"
ยาหยีในตอนนั้นเธอเพียงแค่อายุสิบเจ็ด และพึ่งกลับมาจากที่ทำงานซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อ ทว่าเมื่อเปิดประตูเข้ามาในบ้านเธอก็แทบหมดแรงเพราะข้าวของทุกชิ้นภายในบ้านหายไปหมด ไม่ว่าจะเป็นโซฟา ตู้เย็น ทีวี หมอหุงข้าว และของอื่น ๆ อีกหลายอย่าง เธอเอ่ยถามคนเป็นพ่อไปก็ได้คำตอบว่า
"เจ้าหนี้มันเอาของไปหมดแล้วโว้ย!" พ่อของเธอตอบอย่างไม่สำนึก "แต่ยังไม่พอค่าใช้หนี้เลยมึงมีเงินไหม เอามาให้กูหน่อย"
"ฮึก! ทำไมพ่อทำตัวแบบนี้ พ่อไปเล่นการพนันอีกแล้วใช่ไหม" เธอถึงกับเข่าทรุดเมื่อได้ฟังคำตอบ น้ำสีใสพลันไหลพรากออกมาด้วยความผิดหวังเสียใจที่ผู้เป็นพ่อสร้างแต่ปัญหากี่ครั้งกี่หนแล้วที่เธอต้องทำงานงก ๆ เพื่อตามชดใช้หนีให้ แต่ท่านก็ไม่เคยสำนึกยังกลับไปทำอีกทั้งขี้เหล้าทั้งเล่นการพนัน
เธออยากได้พ่อคนเก่ากลับมาเหลือเกิน พ่อที่รักครอบครัว และขยันทำงาน
ในตอนนั้นเธอมีความสุขมาก ๆ ครอบครัวอยู่อย่างสุขสบาย แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปครั้นเธออายุได้สิบสาม พ่อกับแม่ของเธอเริ่มมีปัญหากันระหงระแหงเพราะพ่อของเธอเริ่มยุ่งเกี่ยวกับการพนันจนในที่สุดพวกท่านทั้งสองก็เลิกกัน แม่ของเธอเลือกจะทิ้งเธอไว้กับพ่อแล้วหนีไป
และหลังจากแม่หนีไปพ่อของเธอก็เอาแต่กินเหล้าจนกลายเป็นคนติดเหล้าไปในที่สุด แค่นั้นไม่พอท่านยังติดการพนันอีกด้วยโดยที่ไม่สนใจใยดีเธอสักนิดจนเธอต้องทำงานหาเลี้ยงส่งเสียตัวเองเรียน
เธอเรียนจบแค่มัธยมปีที่สามเท่านั้นก็ออกมาทำงานอย่างเต็มตัว ต้องทำงานเลี้ยงดูทั้งตัวเองและพ่อเธอต้องแบกรับภาระทุกอย่าง หนำซ้ำยังต้องคอยตามใช้หนี้พนันให้พ่ออีก
บางครั้งเธอก็อยากจะหนีไปไกล ๆ จากคนเป็นพ่อ แต่ความผูกพันทางสายเลือดมันทำให้เธอทำไม่ได้จึงต้องคอยตามใช้หนี้ให้พ่อเพราะกลัวว่าพ่อจะถูกเจ้าหนี้ฆ่า
เธอสะอื้นไห้ออกมาอย่างหนักพร้อมกับเดินเข้าไปเขย่าแขนผู้เป็นพ่อ "หนูทำงานหนักเพื่อหาเงินมาไว้ให้พ่อใช้ ไว้กิน ไว้อยู่ แต่ทำไมพ่อถึงทำกับหนูแบบนี้"
"บ่นมากรำคาญ ไปหาเงินมาให้กูหนึ่งล้านกูจะเอาไปใช้หนี้" แทนที่พ่อเธอจะสำนึกกลับสะบัดแขนเธอออกแล้วโวยวายเสียงดังลั่น แต่นั้นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกช็อคเท่ากับจำนวนเงินที่ท่านเป็นหนี้อยู่
"นะ..หนึ่งล้านเลยเหรอ" เธอเอ่ยออกมาอย่างอ่อนแรงมันจุกในอกจนพูดไม่ออกครั้งนี้พ่อเธอเป็นหนี้มากมากจนเธอไม่มีปัญญาจะหาได้
เธอสะอื้นไห้ออกมาหนักกว่าเก่าความรู้สึกมันตีบตันไปหมดเธอไม่เคยคิดเลยจริง ๆ ว่าคนเป็นพ่อจะมาถึงจุดที่ติดการพนันจนมีหนี้เป็นล้าน
"ฮึก! หนูจะไปหาจากที่ไหนมาให้พ่อเงินตั้งหนึ่งล้าน ลำพังแค่กินไปวัน ๆ ก็แทบจะไม่พออยู่แล้ว พ่อรู้ไหมว่าแต่ละวันหนูต้องทำงานเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทแล้วทำไมพ่อถึงทำกับหนูแบบนี้ ทำไม"
"ไม่รู้โว้ย แต่มึงต้องไปหาเงินมาใช้หนี้ให้กูภายในเย็นนี้ไม่อย่างนั้นเจ้าหนี้มันต้องฆ่ากูแน่ ๆ"
"ครั้งนี้หนูคงช่วยพ่อไม่ได้ ทุกอย่างแล้วแต่เวรแต่กรรมแล้วกัน" วันนี้ความอดทนอดกลั้นของยาหยีหมดลงแล้ว หมดแล้วจริง ๆ เธอเอ่ยอย่างคนปลงตกพร้อมกับหยัดกายลุกขึ้นยืนมองคนเป็นพ่อด้วยสายตาว่างเปล่า
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจอมาตลอดระยะเวลาสองปีมันค่อย ๆ ทำให้ความผูกพันที่มีต่อคนเป็นพ่อลดลงเรื่อยจนมาถึงจุดนี้
เธอพอแล้วจริง ๆ ..
"ไงไอ้แก่กูมาเอาเงินที่มึงติดหนี้เจ้านายกูอยู่"
จู่ ๆ ยาหยีก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อมีเสียงอันทรงพลังดังขึ้นจากด้านหลัง เธอรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาแล้วหันไปมองก็พบกับชายรูปร่างบึกบึน หน้าตาเหี้ยมโหดสามคนกำลังเดินเข้ามา สัญชาติญาณมันบอกให้เธอรีบถอยหลงกรูด ความกลัวเริ่มเข้าเกาะกุมจิตใจ
ชายสามคนเดินไปยืนล้อมพ่อของเธอไว้ ก่อนจะมีคนหนึ่งกระชากคอเสื้อพ่อของเธอให้ลุกขึ้นนั่ง "ไหนเงิน"
"กูไม่มี" พ่อของเธอบอกหน้าตาเฉย ขณะที่เธอนั่นยืนตัวสั่นอยู่ลึก ๆ ในใจก็ยังกลัวว่าพ่อเธอจะถูกฆ่า
เหมือนกับว่าถ้อยคำที่พ่อของเธอพูดออกไปทำให้ชายคนนั้นไม่พอใจเป็นอย่างมาก พ่อของเธอถูกต่อยเข้าที่มุมปากหนึ่งทีจนเลือดกลบปาก"อย่าทำพ่อหนูนะ" ซึ่งเธอทนดูไม่ได้จริง ๆ จึงวิ่งเข้าไปกอดท่านไว้ แต่เธอกลับถูกชายอีกคนจับแขนแล้วลากออกไปยืนห่าง ๆ"ปล่อยหนูนะ พวกคุณอย่าทำอะไรพ่อหนูนะ" เธอพยายามจะสะบัดแขนออกจากการจับกุมของมือหนาแต่ก็ไม่เป็นผลสุดท้ายเธอก็ทำได้แค่พูดออกไป "กูให้มึงเลือกระหว่างหาเงินมาจ่ายตอนนี้กับตายไปทั้งพ่อทั้งลูก มึงจะเลือกอะไร?"ชายคนที่ต่อยพ่อเธอตวัดสายตามองเธอแวบหนึ่ง แล้วตวัดสายตากลับไปมองหน้าพ่อเธอต่อ น้ำเสียงและสายตาของชายคนนั้นดูน่ากลัวมาก ๆ"ฉันไม่มีเงิน แต่ใช่ว่าฉันจะไม่มีอย่างอื่น.." พ่อของเธอเอ่ยขึ้น เธอได้ยินพ่อตัวเองพูดมาแบบนั้นก็อดทำหน้าสงสัยไม่ได้ นัยน์ตาดำขลับจับจ้องหน้าคนเป็นพ่ออย่างไม่เข้าใจ "มึงหมายความว่าไงไอ้แก่" "ลูกสาว.." พ่อของเธอพูดมาแค่นั้นก็หยุดชะงักไป ก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้งหลังถูกตะคอกใส่พร้อมกับชี้นิ้วมาทางเธอ "ลูกสาวของฉันนั่นไง" เธอเด็กเกินกว่าจะเข้าใจคำพูดของพ่อว่าหมายถึงอะไรเลยเอ่ยถามไป "หมายความว่าอะไรคะพ่อ" "ไหนดูหน้าลูกแกหน่อยสิ" เธอยังไม
วันต่อมา..วันนี้เป็นเกิดตัวเองยาหยีเลยตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อทำบุญใส่บาตร ครั้นใส่เสร็จก็เดินทางไปเรียนที่มหาวิทยาลัยตามปกติ ซึ่งตอนนี้เธอกำลังเรียนอยู่ปีหนึ่งเท่านั้นถึงแม้อายุจะยี่สิบแล้วก็ตามเป็นเพราะเธอหยุดเรียนไปสองปีเพราะตอนนั้นลำบากมากแค่ทนส่งตัวเองให้จบมัธยมปีที่สามก็เลือดตาแทบกระเด็น เธอเพิ่งได้มาเรียต่อมัธยมปีที่สี่ก็ตอนอยู่กับเควิลนี่แหละซึ่งอายุสิบเจ็ดปีเลยต้องขอบคุณเควิลเป็นที่สุดที่ทำให้เธอเหมือนได้ชีวิตใหม่หลังจากที่ต้องทุกข์ทนมานานดังนั้นเธอจึงปฏิญาณตนไว้แน่วแน่ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณเขาให้สมกับที่เขามอบชีวิตใหม่ให้เธอ"สุขสันต์วันเกิดนะยาหยีคนสวย""สุขสันต์วันเกิดนะหยี"ระหว่างที่เธอกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเสียงใครบางคนก็ดังทบโสตประสาททำให้เธอหลุดจากภวังค์ เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นฟิลม์กับดรีมเพื่อนสนิทของเธอนั่นเอง โดยในมือของฟิลม์ถือเค้กก้อนเล็กที่มีเทียนปักอยู่ด้วย"ขอบคุณมาก ๆ เลยนะฟิลม์ ดรีม" เธอระบายยิ้มมองหน้าเพื่อน ๆ ทั้งสองอย่างซาบซึ้ง จากนั้นก็ยกมือขึ้นประสานกันพร้อมหลับตาลงเพื่อขอพร ก่อนจะลืมตาขึ้นเป่าเทียน"เราสองคนมีของขวัญมาให้ด้วยนะ" ดรี
รถลีโรลด์รอยด์คันหรูเคลื่อนตัวไปตามถนนด้วยความเร็ว บรรยากาศภายในรถเงียบเชียบตลอดทางกระทั่งรถเคลื่อนตัวมาจอดยังบ้านพักตากอากาศติดทะเลแห่งหนึ่ง"ทะเล" ยาหยีตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นทะเลเป็นครั้งแรก รีบเปิดประตูลงจากรถวิ่งตรงไปยังชายหาดสีขาว ยืนหลับตา อ้าแขนรับลมอย่างมีความสุขเธอระบายยิ้มออกมาบาง ๆ ที่แท้ชายหนุ่มก็พาเธอมาทะเลนี่เองหากเธอไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไปเขาคงพาเธอมาเที่ยวเนื่องในวันเกิด เขาช่างแสนดีกับเธอเสมอตั้งแต่ปีแรกที่เธอมาอยู่กับเขาจนถึงปีนี้เขาก็ไม่เคยลืมวันเกิดของเธอเลยวันเกิดทุก ๆ ปีเขาจะพาเธอเที่ยว และมีของขวัญให้ตลอดแล้วแบบนี้จะไม่ให้เธอตกหลุมรักเขาได้อย่างไรกันแม้พยายามหักห้ามใจแล้วก็ตาม"ยาหยีเข้าบ้าน" เสียงร้องเรียกดังขึ้นทำให้ยาหยีค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา เธอสูดกลิ่นอายทะเลเข้าปอดพรืดใหญ่ ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปหาชายหนุ่มที่ยืนเรียกเธออยู่หน้าบ้าน"มาแล้วค่า" ใบหน้าเรียวส่งยิ้มแป้นให้คนตัวโตที่ยืนหน้าตึงอยู่ มือเรียวยื่นไปเกาะท่อนแขนแกร่งไว้พลางส่งสายตาเว้าวอนสุดฤทธิ์ "หายโกรธหนูได้แล้วค่ะ"เควิลไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ เขาเพียงก้มมองใบหน้าเรียวที่อยู่ระดับอกเพียงเล็ก
"3 ทุ่มใส่ชุดคอสเพลย์กระต่ายมาหาฉันที่ห้องนั่งเล่นเข้าใจไหม"แค่ก ๆ!ยาหยีที่กำลังก้มหน้าทานข้าวถึงกับสำลักกับประโยคบอกกล่าวจากร่างสูงที่นั่งฝั่งตรงข้าม รีบเอื้อมไปหยิบน้ำมาดื่ม ครั้นรู้สึกดีขึ้นจึงเอ่ยถามไป"ทำไมต้องให้หนูใส่ด้วยค่ะ เห็นเมื่อก่อนคุณไม่ชอบให้หนูแต่งตัวโป๊""เดี๋ยวคืนนี้เธอก็รู้เอง"จบตรงที่คำว่ารู้เองคราวนี้ยาหยีได้แต่คิดหาคำตอบเอาเองว่าเขาให้เธอใส่ชุดเซ็กซี่แบบนั้นเพราะอะไรเธอไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วที่จะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรหรืองานที่เขาบอกว่าจะให้เธอทำตอนอายุครบยี่สิบคือการใช้ร่างกายขัดดอกเหมือนที่เคยได้ยินมาถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ จะทำยังไงดีเธอยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนี้เลย แต่ก็นั่นแหละเธอปฏิเสธอะไรไม่ได้เพราะรู้ฐานะตัวเองดีทำได้แค่ขานรับไปเบา ๆ"ค่ะ"จากนั้นก็ก้มหน้าทานข้าวต่อ"กินข้าวเสร็จมานวดไหล่ให้ฉันหน่อย" เควิลเอ่ยขึ้นหลังจากทานข้าวเสร็จ"ได้ค่ะ แต่หนูขอเก็บจานไปล้างก่อนนะคะ""อืม.." เอ่ยจบเควิลก็ลุกเดินออกจากห้องอาหารไปนั่งรอในห้องนั่งเล่นทันที นั่งรอประมาณสิบห้านาทีเด็กสาวก็มายาหยีเดินอ้อมไปหยุดยืนด้านหลังชายหนุ่ม ก่อนจะวางมือลงบนบ่าแกร่งทั้งสองข้าง แล้วบีบนวดเ
"3 ทุ่มใส่ชุดคอสเพลย์กระต่ายมาหาฉันที่ห้องนั่งเล่นเข้าใจไหม"แค่ก ๆ!ยาหยีที่กำลังก้มหน้าทานข้าวถึงกับสำลักกับประโยคบอกกล่าวจากร่างสูงที่นั่งฝั่งตรงข้าม รีบเอื้อมไปหยิบน้ำมาดื่ม ครั้นรู้สึกดีขึ้นจึงเอ่ยถามไป"ทำไมต้องให้หนูใส่ด้วยค่ะ เห็นเมื่อก่อนคุณไม่ชอบให้หนูแต่งตัวโป๊""เดี๋ยวคืนนี้เธอก็รู้เอง"จบตรงที่คำว่ารู้เองคราวนี้ยาหยีได้แต่คิดหาคำตอบเอาเองว่าเขาให้เธอใส่ชุดเซ็กซี่แบบนั้นเพราะอะไรเธอไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วที่จะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรหรืองานที่เขาบอกว่าจะให้เธอทำตอนอายุครบยี่สิบคือการใช้ร่างกายขัดดอกเหมือนที่เคยได้ยินมาถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ จะทำยังไงดีเธอยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนี้เลย แต่ก็นั่นแหละเธอปฏิเสธอะไรไม่ได้เพราะรู้ฐานะตัวเองดีทำได้แค่ขานรับไปเบา ๆ"ค่ะ"จากนั้นก็ก้มหน้าทานข้าวต่อ"กินข้าวเสร็จมานวดไหล่ให้ฉันหน่อย" เควิลเอ่ยขึ้นหลังจากทานข้าวเสร็จ"ได้ค่ะ แต่หนูขอเก็บจานไปล้างก่อนนะคะ""อืม.." เอ่ยจบเควิลก็ลุกเดินออกจากห้องอาหารไปนั่งรอในห้องนั่งเล่นทันที นั่งรอประมาณสิบห้านาทีเด็กสาวก็มายาหยีเดินอ้อมไปหยุดยืนด้านหลังชายหนุ่ม ก่อนจะวางมือลงบนบ่าแกร่งทั้งสองข้าง แล้วบีบนวดเ
รถลีโรลด์รอยด์คันหรูเคลื่อนตัวไปตามถนนด้วยความเร็ว บรรยากาศภายในรถเงียบเชียบตลอดทางกระทั่งรถเคลื่อนตัวมาจอดยังบ้านพักตากอากาศติดทะเลแห่งหนึ่ง"ทะเล" ยาหยีตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นทะเลเป็นครั้งแรก รีบเปิดประตูลงจากรถวิ่งตรงไปยังชายหาดสีขาว ยืนหลับตา อ้าแขนรับลมอย่างมีความสุขเธอระบายยิ้มออกมาบาง ๆ ที่แท้ชายหนุ่มก็พาเธอมาทะเลนี่เองหากเธอไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไปเขาคงพาเธอมาเที่ยวเนื่องในวันเกิด เขาช่างแสนดีกับเธอเสมอตั้งแต่ปีแรกที่เธอมาอยู่กับเขาจนถึงปีนี้เขาก็ไม่เคยลืมวันเกิดของเธอเลยวันเกิดทุก ๆ ปีเขาจะพาเธอเที่ยว และมีของขวัญให้ตลอดแล้วแบบนี้จะไม่ให้เธอตกหลุมรักเขาได้อย่างไรกันแม้พยายามหักห้ามใจแล้วก็ตาม"ยาหยีเข้าบ้าน" เสียงร้องเรียกดังขึ้นทำให้ยาหยีค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา เธอสูดกลิ่นอายทะเลเข้าปอดพรืดใหญ่ ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปหาชายหนุ่มที่ยืนเรียกเธออยู่หน้าบ้าน"มาแล้วค่า" ใบหน้าเรียวส่งยิ้มแป้นให้คนตัวโตที่ยืนหน้าตึงอยู่ มือเรียวยื่นไปเกาะท่อนแขนแกร่งไว้พลางส่งสายตาเว้าวอนสุดฤทธิ์ "หายโกรธหนูได้แล้วค่ะ"เควิลไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ เขาเพียงก้มมองใบหน้าเรียวที่อยู่ระดับอกเพียงเล็ก
วันต่อมา..วันนี้เป็นเกิดตัวเองยาหยีเลยตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อทำบุญใส่บาตร ครั้นใส่เสร็จก็เดินทางไปเรียนที่มหาวิทยาลัยตามปกติ ซึ่งตอนนี้เธอกำลังเรียนอยู่ปีหนึ่งเท่านั้นถึงแม้อายุจะยี่สิบแล้วก็ตามเป็นเพราะเธอหยุดเรียนไปสองปีเพราะตอนนั้นลำบากมากแค่ทนส่งตัวเองให้จบมัธยมปีที่สามก็เลือดตาแทบกระเด็น เธอเพิ่งได้มาเรียต่อมัธยมปีที่สี่ก็ตอนอยู่กับเควิลนี่แหละซึ่งอายุสิบเจ็ดปีเลยต้องขอบคุณเควิลเป็นที่สุดที่ทำให้เธอเหมือนได้ชีวิตใหม่หลังจากที่ต้องทุกข์ทนมานานดังนั้นเธอจึงปฏิญาณตนไว้แน่วแน่ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณเขาให้สมกับที่เขามอบชีวิตใหม่ให้เธอ"สุขสันต์วันเกิดนะยาหยีคนสวย""สุขสันต์วันเกิดนะหยี"ระหว่างที่เธอกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเสียงใครบางคนก็ดังทบโสตประสาททำให้เธอหลุดจากภวังค์ เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นฟิลม์กับดรีมเพื่อนสนิทของเธอนั่นเอง โดยในมือของฟิลม์ถือเค้กก้อนเล็กที่มีเทียนปักอยู่ด้วย"ขอบคุณมาก ๆ เลยนะฟิลม์ ดรีม" เธอระบายยิ้มมองหน้าเพื่อน ๆ ทั้งสองอย่างซาบซึ้ง จากนั้นก็ยกมือขึ้นประสานกันพร้อมหลับตาลงเพื่อขอพร ก่อนจะลืมตาขึ้นเป่าเทียน"เราสองคนมีของขวัญมาให้ด้วยนะ" ดรี
เหมือนกับว่าถ้อยคำที่พ่อของเธอพูดออกไปทำให้ชายคนนั้นไม่พอใจเป็นอย่างมาก พ่อของเธอถูกต่อยเข้าที่มุมปากหนึ่งทีจนเลือดกลบปาก"อย่าทำพ่อหนูนะ" ซึ่งเธอทนดูไม่ได้จริง ๆ จึงวิ่งเข้าไปกอดท่านไว้ แต่เธอกลับถูกชายอีกคนจับแขนแล้วลากออกไปยืนห่าง ๆ"ปล่อยหนูนะ พวกคุณอย่าทำอะไรพ่อหนูนะ" เธอพยายามจะสะบัดแขนออกจากการจับกุมของมือหนาแต่ก็ไม่เป็นผลสุดท้ายเธอก็ทำได้แค่พูดออกไป "กูให้มึงเลือกระหว่างหาเงินมาจ่ายตอนนี้กับตายไปทั้งพ่อทั้งลูก มึงจะเลือกอะไร?"ชายคนที่ต่อยพ่อเธอตวัดสายตามองเธอแวบหนึ่ง แล้วตวัดสายตากลับไปมองหน้าพ่อเธอต่อ น้ำเสียงและสายตาของชายคนนั้นดูน่ากลัวมาก ๆ"ฉันไม่มีเงิน แต่ใช่ว่าฉันจะไม่มีอย่างอื่น.." พ่อของเธอเอ่ยขึ้น เธอได้ยินพ่อตัวเองพูดมาแบบนั้นก็อดทำหน้าสงสัยไม่ได้ นัยน์ตาดำขลับจับจ้องหน้าคนเป็นพ่ออย่างไม่เข้าใจ "มึงหมายความว่าไงไอ้แก่" "ลูกสาว.." พ่อของเธอพูดมาแค่นั้นก็หยุดชะงักไป ก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้งหลังถูกตะคอกใส่พร้อมกับชี้นิ้วมาทางเธอ "ลูกสาวของฉันนั่นไง" เธอเด็กเกินกว่าจะเข้าใจคำพูดของพ่อว่าหมายถึงอะไรเลยเอ่ยถามไป "หมายความว่าอะไรคะพ่อ" "ไหนดูหน้าลูกแกหน่อยสิ" เธอยังไม
สายลมเอื่อย ๆ พัดพาดอกการ์ดิเนียร่วงลงจากต้น และปลิวล่องลอยไปตามสายลม กลิ่นหอมของมันลอยมาแตะจมูกหญิงสาวเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มพราวที่กำลังนั่งชมทิวทัศน์ของแม่น้ำหลังคฤหาสน์หลังใหญ่โตกลิ่นแสนหอมหวานทำให้เธอรู้สึกสดชื่นไม่น้อยจนต้องหลับตาเชิดหน้าขึ้นสูดอากาศที่อบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้เข้าปอดพรืดใหญ่ ก่อนจะปรือตาขึ้นมองทิวทัศน์ด้านหน้าต่อแม้เวลานี้จะมีแสงแดดสีเงินสอดส่องผ่านทะลุใบไม้มาตกกระทบลงบนผิวกายขาวเนียน เธอก็ไม่รู้สึกร้อนเลยแม้แต่น้อย แถมเธอยังนั่งนิ่งๆ อยู่ตรงนี้ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนมานานแล้วเพราะเธอต้องการมองใครบางคนที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในแม่น้ำสีเขียวมรกตชายหนุ่มลูกครึ่งไทยอิตาลีอายุเข้าเลขสามแล้ว ทว่าหน้าตาของเขายังอ่อนเยาว์ราวกับเด็กหนุ่มยี่สิบกลาง ๆ ที่เธอนั่งมองมานานก็ค่อย ๆ ว่ายน้ำมาทางเธอ ก่อนจะขึ้นจากน้ำ และเดินตรงดิ่งมาหาที่โต๊ะริมแม่น้ำเธอรู้หน้าที่ตัวเองดีจึงหยิบผ้าเช็ดตัวที่เตรียมไว้ส่งให้ทันทีที่เขาเดินมาถึง "ผ้าค่ะ"“นั่งให้แดดส่องแบบนี้ เธอไม่ร้อนหรือไง” เจ้าของเสียงทุ้มกล่าวถามจบก็เอื้อมมือไปรับผ้าขนหนูผืนสีขาวที่เธอยื่นให้มาซับหน้า"ไม่ค่ะ" ยาหยีส่ายหน้าเบา