มีวลีที่ว่า ‘เกิดเป็นลูกคนรวย ถ้าไม่ทำตัวหัวxวย ยังไงก็ได้ดี’ แต่ไม่ใช่กับ ‘เดนีส ศศิภักดี’ เพราะเขาเป็นลูกคนรวยที่ทำตัวหัวกรวย แถมยังไม่ได้ดี จนท่านเจ้าสัวต้องส่งเลขามือทองมากำราบ “ท่านประธานยกเลิกซัพพลายเออร์กะทันหันด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบเนี่ยนะ!” “เปล่า ฉันไม่ได้ใช้อารมณ์ชั่ววูบซะทีเดียว ฉันคิดและไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว” “คุณนี่มัน…” “ด่าด้วยสายตาขนาดนี้ ด่าออกมาเถอะ” “คุณแม่ง! เจ้านายหัวxวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลย” “…!…” เซต เพียงชั่ว… 1) เพียงชั่วข้ามคืน (จบแล้ว) พิพัฒน์ x เดนิม 2) เพียงชั่ววูบเดียว (On Air) เดนีส x วินตรา
View Moreแล้วท่านประธานก็โดนบอร์ดบริหารโขกสับเละเป็นโจ๊กในที่ประชุม แถมท่านเจ้าสัวยังนั่งหัวโด่อยู่ตรงตำแหน่งหัวโต๊ะ เดนีสหน้าหดเหลือสองนิ้ว พอถึงจังหวะที่โดนจี้เข้ามาก ๆ กำลังจะอ้าปากเถียงวินตราก็สอดกระดาษโพสอิสใบเล็ก ๆ วางไว้ที่หน้าเอกสาร เดนีสก้มหน้าลงตามเดิม ก่อนจะเอ่ยขอโทษขอโพยการบริหารที่ผิดพลาดและจะชดใช้โดยการไม่รับเงินเดือนประจำตำแหน่ง 6 เดือน รวมไปถึงปันผลประจำปี ไตรมาสละ 2 ครั้ง สมทบเพื่อเป็นโบนัสและขวัญกำลังใจพนักงานต่อไปห้องประชุมที่กำลังสาดน้ำลายกันอย่างดุเดือดเลือดพล่านถึงได้เย็นลงมาบ้าง เดนีสหน้าตึงแต่ก็เก็บอารมณ์เป็นอย่างดี ไม่ได้เถียงข้าง ๆ คู ๆ แถมยังยืนก้มหัวโค้งคำนับรับความผิดพลาด แต่ความเป็นจริงวินตราหยิกสีข้างของท่านประธานไม่รู้กี่สิบรอบท่านเจ้าสัวมองลูกชายตัวเองด้วยสีหน้าพึงพอใจการบริหารมันก็มีผิดพลาดกันได้ผิดพลาดเพื่อเติบโตและพอเห็นท่าทีของลูกชายที่สงบเสงี่ยมขึ้นก็เบาใจแต่เพราะอยู่ในที่ประชุมท่านเจ้าสัวจึงต้องตีหน้านิ่งไม่อาจส่งสายตาปลาบปลื้มให้เจ้าลูกชายได้อย่างออกนอกหน้า แล้วอีกอย่างปัญหานี้ก็แก้ได้อย่างถูกวิธีและทันเวลาพอดีท่านเจ้าสัวมองเลยไปยังวินตราไม่ถึงหนึ่งปีล
วินตราที่ติดต่อเลขาพ่อเลี้ยงดนัย รู้ว่าช่วงนี้พ่อเลี้ยงมาดูแลสาขาอุดรธานีก็จองตั๋วเครื่องบินทันที “นายไปคนเดียวก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ” เดนีสถามเมื่อนั่งอยู่บนเครื่องบินหน้าตาบูดบึ้งเพราะเมื่อวานกว่าจะได้นอนปาไปค่อนคืนวันนี้ต้องตื่นตั้งแต่ไก่โห่วิ่งสับตีนแตกมาขึ้นเครื่องไฟลท์ตอนเจ็ดโมงครึ่งอีกเดนีสบ่นกระปอดกระแปดรองเท้าที่สวมใส่หากไม่ใช่หนังแท้อย่างดีป่านนี้คงสึกหรอไปหมดแล้วชีพจรลงเท้าแทบไม่ได้นั่งอยู่ติดที่วันนี้เองก็เช่นกันวินตราถอนหายใจ“เป็นการแสดงความขอโทษอย่างจริงใจยังไงล่ะครับท่านเจ้าสัวเองก็ให้ความสำคัญกับพ่อเลี้ยงขนาดไหนคุณคงจะทราบดี”“แล้ว?” วินตราหันหน้าไปมองด้วยสีหน้าเอือมระอาอีกฝ่ายน่าจะคุ้นชินการพบปะเข้าสังคมมากกว่าเขาและเข้าใจสังคมใส่หน้ากากพวกนี้ดีกว่าเด็กบ้านนอกอย่างเขาแต่ที่ไหนได้“ท่านประธานไม่เคยตามท่านเจ้าสัวไปออกงานเหรอครับ”“เคย…ทำไม? แต่ฉันไม่ชอบสังคมใส่หน้ากากจีบปากจีบคอเยินยอกันไปมาแบบนั้นหรอก” เดนีสไหวไหล่วินตราหางตากระตุก“การที่ท่านประธานไปครั้งนี้คือแสดงความจริงใจว่าคุณเป็นฝ่ายผิด”“เฮ้—” เดนีสที่อ้าปากจะแย้งหุบปากฉับ“สามร้อยล้านถ้าไม่เสียดายงั้นก็จองต
วินตรามองกระจกหลังเป็นระยะด้วยความเคยชิน แล้วก็เห็นรถคันดังกล่าวขับตามมาตั้งแต่ตอนร้านอาหารจนถึงที่พักของเขา อีกอย่างเขาอยู่ในที่สว่างและวินตราก็เหนื่อยที่จะต้องหลบๆซ่อนและทำได้เพียงแค่หนีแบบนี้อีกต่อไปแล้วเขากำพวงมาลัยอย่างแน่นก่อนจะถอนหายใจออกมาช้าๆจอดรถแล้วรีบเดินขึ้นห้องของตัวเองไปอีกอย่างคอนโดที่นี่ก็หนึ่งในเครือของศศิภักดีความปลอดภัยแม้จะดีในระดับหนึ่งแต่หากพวกนั้นไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการก็ไม่มีทางเลิกราโดยเฉพาะไอ้ชั่วนั่น วินตราแตะบัตรเข้าห้องของตัวเองด้วยอารมณ์ดิ่งอีกครั้งแล้วเขาก็ไม่ชอบใจนักที่ตัวเองเป็นอย่างนี้ถุงขยะหลายถุงกองสุมกันอยู่ที่ทางเข้าประตูตอนนี้เขาเหนื่อยล้าจนไม่อยากจะทำอะไรวันเสาร์วันอาทิตย์ก็แทบไม่ได้พักดีที่ว่าเสื้อผ้าส่งซักไม่งั้นเขาคงใส่เสื้อผ้าซ้ำๆสภาพจิตใจที่บอบช้ำมาอย่างหนักไม่มีทางจะหายดีในเร็ววันข้อนั้นเขารู้ดีเพียงแต่…แค่อยากจะยิ้มให้กับเรื่องง่ายๆแต่เขากลับทำไม่ได้เวลาร่างกายตึงเครียดมากที่สุดกลับกลายเป็นว่าต่อมน้ำตาของเขาเหมือนถูกปิดตายไม่ยอมทำงานเสียดื้อๆร่างกายเครียดจนไม่สามารถร้องไห้เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจออกมาผ่านหยดน้ำตาได้อารมณ์ของเขามันดำดิ
ก้องกิจที่กลับบ้านมาก็เจอภรรยากำลังนั่งไขว่ห้างจิบไวน์อยู่ที่โซฟาแววตาที่จ้องมองมาไม่เป็นมิตรเขาเห็นแต่ไม่อยากจะทักและก็เป็นอย่างที่ก้องกิจคิดในใจเมื่อรูปถ่ายระหว่างเขากับวินตราปลิวว่อนอยู่ที่พื้นเป็นภาพถ่ายที่ยืนคุยกันสองต่อสองที่ดาดฟ้าเมื่อครู่‘สมกับเป็นเจ้าพ่อสื่อ’ “แล้ว?” ก้องกิจไม่ได้หยิบรูปพวกนั้นขึ้นมาดูแต่กลับถามด้วยเสียงเย็นไม่เหมือนกับตอนที่คุยกับวินตราสีหน้าและแววตาอ่อนโยนแบบนั้นดารากรไม่เคยได้รับมันมาก่อนอีกฝ่ายเป็นใครมีดีอะไรถึงได้รับสิ่งเหล่านี้จากสามีเขา“พี่ก้อง” ดารากรตวาดเสียงดังลั่นห้องรับแขกพลางวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะอย่างแรงลุกขึ้นเดินมาเผชิญหน้า “เรื่องหย่าฝันไปเถอะถ้ากรไม่สมหวังอย่าหวังว่าใครหน้าไหนจะสมหวังเลย”“อ้อ” “พี่ก้องตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาพี่เคยรักกรบ้างหรือเปล่า” ดารากรตวาดเริ่มฟูมฟายน้ำเสียงอ้อแอ้อีกฝ่ายตะเบ็งเสียงใส่เขาจนหน้าดำหน้าแดงก้องกิจและดารากรถูกเลี้ยงดูมาต่างกันการตะคอกก่นด่าแบบนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นในรั้วสลาลินและเกียรติคณาและเป็นสิ่งที่ก้องกิจเกลียดมากที่สุด“อย่าตะคอกใส่พี่” ก้องกิจเอ่ยเสียงเรียบพลางเบนสายตาไปที่อื่น “ทำไมกรผิดอะไรวินตราอะไร
“วินกลับเข้าไปก่อนเลยพี่ขออยู่ตรงนี้อีกสักพัก” “ครับ” วินตราเดินหันหลังเดินกลับไปอย่างไม่ลังเลใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อครู่กลับมาแข็งกร้าวพร้อมกับแผ่นหลังที่เหยียดตรงไม่หลงเหลือแววตาและสีหน้าที่อ่อนโยนเมื่อครู่เดนีสที่แอบฟังอยู่ตรงพุ่มไม้ยืนมองทั้งสองคุยกันแต่พอวินตราเดินออกไปเขาก็โล่งอกแต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเดินอ้อมมากอดอกยืนอยู่ข้างหลังเขาอย่างเงียบเชียบพร้อมเอ่ยถามเสียงเย็นยะเยือก“สนุกไหมครับแอบฟังคนอื่นเขาคุยกัน” เดนีสสะดุ้งโหยงแทบจะหน้าคะมำไปข้างหน้าใบหน้าจืดเจื่อน“ฉันเปล่าพอดีผ่านมาเฉยๆ” ท่านประธานทำหน้าไขสือแต่แววตาหลุกหลิกนั่นสิ…พิรุธสุดๆวินตราหรี่ตาจับผิดค่อยๆเดินเข้ามาประชิดทีละก้าวเดนีสฝ่ามือชื้นไปด้วยเหงื่อเหงื่อโง่ที่เขาว่าคงจะเป็นอาการแบบนี้น่ะแหละสายตาที่คุณเลขาจ้องเขานั้นเหมือนอยากจะฟาดฝ่ามือใส่เขาสักป๊าบยังไงยังงั้น“ฉันเผอิญเดินผ่านมาจริงๆไม่ได้ยินอะไรเลย”“ผมยังไม่ได้ถาม” “ฉันกลัวนายจะเข้าใจผิด” “อ้อ” “ผมแค่จะถามว่าท่านประธานจะกลับเลยหรือเปล่า” เสียงนี้เย็นยะเยือกเชียว “กลับเลยๆก็ได้” “ครับงั้นเชิญ” วินตราผายมือเดนีสเดินนำออกไปก่อนจะลูบหน้าอกตัวเองป้อยๆภายในหัวสม
จิตวิทยา ภาษากายสำคัญ และต้องปั้นหน้าให้เป็นปกติสุขที่สุดไม่ว่าจะเจอเหตุการณ์แบบไหนก็ตาม อย่างเช่นในตอนนี้ที่เขาถูกกิตติกรลอบสำรวจและประเมินในใจคร่าว ๆ กิตติกรเป็นลูกพี่ลูกน้องของก้องกิจ วินตราเชื่อว่าอีกฝ่ายรู้จักเขาผ่านปากของก้องกิจมาไม่มากก็น้อยส่วนท่านประธานก็เอาแต่จ้องเขาไม่วางตาด้วยสายตาแปลกประหลาดส่วนก้องกิจไม่ต้องพูดถึงอีกฝ่ายมองเขาด้วยสายตาแบบไหนวินตรารู้ดีและเขาไม่ลืมที่จะขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์ให้เหมือนเดิมวินตราขออนุญาตลุกไปเข้าห้องน้ำเพราะว่านั่งอยู่ด้านในก้องกิจหลีกทางให้สักพักก็ลุกตามออกไปอีกทั้งร้านอาหารยังเป็นแบบกึ่งผับกึ่งบาร์ที่นั่งของพวกเขาสี่คนอยู่ในมุมไพรเวทสองคนนั้นคงจะหาที่ไปคุยกันแน่ๆ เดนีสวางส้อมในมือใส่จานดังเคร้งก่อนจะคว้าแก้วไวน์มาดื่มรวดเดียวจนหมด “เป็นห่าอะไร” “ก้องกิจแต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ”“อือฮึ”“แม่งมองเลขากูไม่วางตา” เดนีสทำท่าทำทางประกอบกิตติกรกระตุกยิ้มที่มุมปาก“แล้ว?”“แม่งขัดลูกตากูชะมัดถ้าไม่เห็นแก่สัญญากูอยากจะล้มโต๊ะเสียให้รู้แล้วรู้รอด”“แล้วมึงฉุนเฉียวเพราะอะไรล่ะเพราะพี่ก้องหรือเพราะคุณเลขา” เดนีสมุมปากกระตุก“ไอ้กรกูแค่เป็นคนดีเกิดเม
อาหารค่ำในภัตตาคารห้าดาวไม่ได้รับความสนใจจากกระเพาะของเดนีสมากนัก ก็คู่ตรงหน้าที่คุยกันกะหนุงกะหนิงทำเอารู้สึกหงุดหงิดเป็นบ้า เพิ่งรู้ว่าก้องกิจเป็นอดีตรุ่นพี่ที่มหา’ลัยของคุณเลขาหน้าตึง แต่พออยู่กับก้องกิจเหมือนเป็นคนละคน อีกฝ่ายดูผ่อนคลายเป็นตัวของตัวเอง แม้ทั้งสองจะไม่ได้นั่งตัดติดกันแต่เคมีนั้น…เรียกได้ว่าเข้ากันสุด ๆ กิตติกรแลหางตามองดูเพื่อนรักที่หั่นสเต๊กตรงหน้าอย่างแรง กัดปากกัดฟันขมุบขมิบจนอดที่จะถองศอกกระซิบกระซาบถามไม่ได้“ไม่ถูกปาก?”“อือ” “เป็นเอามาก”“อะไรไอ้กร”“อาการเหมือนของขาด”“พูดมาก” เดนีสยกไวน์แดงขึ้นมาจิบพอเห็นเครื่องดื่มข้างมือคุณเลขาก็หงุดหงิดขึ้นมาอีกเหตุการณ์ก่อนหน้าก่อนจะสั่งอาหาร“วินยังชอบDuc De Montaigne Non-Alcohol Sparking Wineอยู่หรือเปล่า” เป็นไวน์โรเซ่ (Rose) สีขาวของประเทศเบลเยียมส่วนก้องกิจชอบสีชมพูยี่ห้อเดียวกันกับที่วินตราชอบไวน์ขาวทานคู่กับเนื้อปลาส่วนไวน์แดงทานคู่กับเนื้อแดงถึงจะเข้ากันอีกอย่างวินตราไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้วก้องกิจเลยดื่มยี่ห้อนี้เป็นเพื่อนเขา“พอได้ครับ” “ทานคู่กับสเต๊กปลาพอดี”“ขอบคุณครับ” ก้องกิจสั่งเสร็จก็ยิ้ม
“ภาพลักษณ์คุณต่อองค์กรนอกจากมันไม่ดูภูมิฐานเหมือนได้ตำแหน่งมาเพราะเป็นลูกท่านเจ้าสัวอีกทั้งคุณไม่ได้วางตัวเป็น Leader ที่ดีแต่คุณใช้อำนาจกดให้พวกเขากลัวไม่มีลูกจ้างที่ไหนจะชอบนายจ้างแบบนี้แต่เพราะปากท้องเขาจึงต้องยอมทนกลับกันถ้าคุณเป็นนายจ้างที่ใส่ใจรายละเอียดของลูกน้องบางทีเพียงเอ่ยปากถามไถ่สภาพความเป็นอยู่เพียงไม่กี่ประโยคมันก็สื่อให้เห็นว่าพวกเขาคือครอบครัวกำลังใจในการทำงานสำคัญอย่างคุณปรียานุชเองที่เขามาทำงานเช้าทุกวันคุณรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไร” เดนีสส่ายหน้า“เพราะเขามีลูกในวัยอนุบาลหากคุณถามไถ่ถึงลูกเขาสักสองสามคำเชื่อไหมบรรยากาศในการทำงานระหว่างคุณกับเลขาหน้าห้องจะดีกว่านี้มากการเป็นเจ้านายที่ดีต้องใช้พระเดชและพระคุณในการปกครองคน”“แล้วตอนนี้มีคนที่คุณพอจะใช้งานหรือฝากผีฝากไข้ในบริษัทได้สักกี่คนบอร์ดบริหารถึงได้สับคุณเละทุกครั้งที่เข้าประชุมในสายตาพวกเขาคุณค้านสายตาและไม่เหมาะกับตำแหน่งประธานที่ท่านเจ้าสัวฝากไว้ในสองมือของคุณเลยสักนิด” วินตราเอ่ยเสียงเรียบแต่ละคำแต่ละประโยคไม่ได้เจือด้วยความขุ่นเคืองเหมือนรุ่นพี่หรือพี่ชายที่สั่งสอนน้องชายเสียมากกว่าเดนีสสะอึกพูดไม่ออกสักคำที่
ตอนนี้ไลน์ในกลุ่มแก๊งห้าสิงห์กลับมาคึกคักเพราะเดนีสถามไถ่ถึงซัพพลายเออร์เจ้าอื่นที่พอจะมีวัตถุดิบอยู่บ้าง อินทราตอนนี้อยู่ต่างประเทศมีเพียงคุณชายแห่งวังสลาลินพอจะพึ่งพาได้อยู่บ้าง “พอจะมีอยู่พรุ่งนี้ตอนบ่ายว่างไหมล่ะมาเจอที่บริษัทกูฝั่งรัชโยธิน”“โอเค” อย่างน้อยก็โล่งใจไปได้อีกเปลาะหนึ่ง เดนีสเข้านอนด้วยความตึงเครียดที่ฉายชัดอยู่บนใบหน้าตื่นเช้ามาเขาปวดกรามไปหมดแม่งเอ๊ย! นอกจากสะใจแล้วก็ไม่ได้อะไรอีกมีแต่ความฉิบหายแล้วก็ฉิบหายให้ตายแล้วเขาก็ไม่น่าให้คุณเลขาลาเลยหากตอนนั้นวินตราอยู่ด้วยคงไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เดนีสมานั่งรอที่ร้านกาแฟก่อนเวลาด้วยซ้ำวินตราเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจพลางหอบเอกสารในมือมาวางไว้บนโต๊ะด้วย“ทานข้าวเช้ามาหรือยังครับ” “ยัง”“กินก่อนแล้วค่อยวางแผน”“ฉันกินไม่ลงหรอก” สีหน้าซังกะตายเหมือนหมาหงอยแบบนี้ก็ชวนให้น่าสงสารอยู่เหมือนกันอีกฝ่ายเติบโตภายใต้ปีกท่านเจ้าสัวไม่เคยออกล่าหาอาหารเองแม้จะเคยฝึกสอนให้บินแต่ก็ไม่เหมือนกับลูกนกที่เติบโตเองตามธรรมชาติพวกมันนอกจากจะเรียนรู้วิธีหาอาหารเองแล้วยังเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอดจากนักล่าตั้งแต่ยังเป็นลูกนกตัวแดงๆไม่เหมือนลูกชายคน
“เพียงวูบเดียวที่เดนีสตัดสินใจยกเลิกสัญญาคู่ค้ากะทันหันเพราะอีกฝ่ายพูดถึงน้องชายสุดที่รักในทางเสียหาย กลับทำให้บริษัทเกิดวิกฤติขนาดใหญ่ตามมา นอกจากคุณเลขาคนเก่งจะมาช่วยกอบกู้บริษัทแล้ว ยังมาช่วยแก้ปัญหาวิกฤติทางใจของเขาอีกด้วย”คำเตือน-Black mail มีการข่มขู่ให้ทำตาม-Child abuse ทารุณกรรมเด็กโดยการทำร้าย ทอดทิ้ง หรือการค้ามนุษย์-Pedophilia การใคร่เด็กที่อายุต่ำกว่า 13 ปี จัดเป็นอาการทางจิตประเภทหนึ่ง-Suicidal thought มีความคิดจะฆ่าตัวตาย-Sexism การดูถูกเหยียดหยามหรือมีอคติทางเพศ การเหยียดเพศ-Sexual harassment การล่วงละเมิดทางเพศ-Trafficking การค้ามนุษย์-Violence การใช้ความรุนแรง-Underage sex มีความสัมพันธ์กับคนที่อายุต่ำกว่าเกณฑ์ -เหมาะสำหรับอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป “ไอ้นีส…แกไปทำอีท่าไหนหุ้นบริษัทถึงร่วงขนาดนี้”“ไอ้นีส…แกพูดอย่างนั้นได้ยังไงการทำการค้าการสวมหัวโขนนั้นสำคัญแกแกอยากจะเห็นฉันอกแตกตายใช่ไหม”ท่านเจ้าสัวก่นด่าลูกชายแทบจะทุกวี่ทุกวันก็ไอ้ลูกชายคนโตตัวดีตั้งแต่เรียนจบโทมานอกจากจะทำล่องลอยไปวันๆแล้วพอนั่งเก้าอี้บริหารไม่ทันไรก็สร้างเรื่องสร้างราวให้ปวดหัวและตามเช็...
Comments