“เพียงวูบเดียวที่เดนีสตัดสินใจยกเลิกสัญญาคู่ค้ากะทันหันเพราะอีกฝ่ายพูดถึงน้องชายสุดที่รักในทางเสียหาย กลับทำให้บริษัทเกิดวิกฤติขนาดใหญ่ตามมา นอกจากคุณเลขาคนเก่งจะมาช่วยกอบกู้บริษัทแล้ว ยังมาช่วยแก้ปัญหาวิกฤติทางใจของเขาอีกด้วย”
คำเตือน
-Black mail มีการข่มขู่ให้ทำตาม
-Child abuse ทารุณกรรมเด็กโดยการทำร้าย ทอดทิ้ง หรือการค้ามนุษย์
-Pedophilia การใคร่เด็กที่อายุต่ำกว่า 13 ปี จัดเป็นอาการทางจิตประเภทหนึ่ง
-Suicidal thought มีความคิดจะฆ่าตัวตาย
-Sexism การดูถูกเหยียดหยามหรือมีอคติทางเพศ การเหยียดเพศ
-Sexual harassment การล่วงละเมิดทางเพศ
-Trafficking การค้ามนุษย์
-Violence การใช้ความรุนแรง
-Underage sex มีความสัมพันธ์กับคนที่อายุต่ำกว่าเกณฑ์
-เหมาะสำหรับอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
“ไอ้นีส…แกไปทำอีท่าไหนหุ้นบริษัทถึงร่วงขนาดนี้”
“ไอ้นีส…แกพูดอย่างนั้นได้ยังไงการทำการค้าการสวมหัวโขนนั้นสำคัญแกแกอยากจะเห็นฉันอกแตกตายใช่ไหม”
ท่านเจ้าสัวก่นด่าลูกชายแทบจะทุกวี่ทุกวันก็ไอ้ลูกชายคนโตตัวดีตั้งแต่เรียนจบโทมานอกจากจะทำล่องลอยไปวันๆแล้วพอนั่งเก้าอี้บริหารไม่ทันไรก็สร้างเรื่องสร้างราวให้ปวดหัวและตามเช็ดให้ตลอดพ่อแม่ไม่มีใครไม่อยากเห็นลูกเต้าประสบผลสำเร็จในชีวิตแต่ก็นะ…ไอ้ลูกชายตัวดีเหมือนไม่ได้ DNA และมันสมองจากท่านเจ้าสัวที่ประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงานจนสร้างอาณาจักรธุรกิจใหญ่โตท่านเจ้าสัวเดรโกไม่ได้ต้องการลูกชายที่เก่งกาจอะไรมากมายขอแค่บริหารบริษัทสักแห่งให้อยู่รอดปลอดภัยก็เพียงพอแต่เหมือนว่าจะยากไปอีกทั้งเดนีสมีความเป็นตัวเองสูงอีโก้สูงเทียมฟ้าไม่ยอมก้มหัวให้ใครยอมหักไม่ยอมงอการเข้าสังคมธุรกิจเหมือนสร้างศัตรูเพิ่มมากกว่าคู่ค้าท่านเจ้าสัวเห็นว่าไม่ได้การจึงเรียกตัวอดีตเด็กทุนในปกครองมากำราบลูกชายอีกทั้งอีกฝ่ายกำลังเจอปัญหาใหญ่พอดีการยื่นมือเข้าไปช่วยของท่านเจ้าสัวเหมือนให้ชีวิตใหม่เป็นครั้งที่สองเด็กทุนอย่างวินตราจึงไม่อิดออดที่จะมาทำงานตำแหน่งเลขาให้กับลูกชายผู้มีพระคุณ
ในโลกทุนนิยมเคยมีคำพูดที่ว่า “เกิดเป็นลูกคนรวยถ้าไม่ทำตัวหัวXวยยังไงก็ได้ดี” แต่พอมาเจอเจ้านายคนใหม่ที่เป็นถึงลูกชายคนโตของท่านเจ้าสัว‘เดนีสศศิภักดี’คนที่ใจเย็นเก็บสีหน้าและแววตาได้เก่งอย่างวินตราถึงกับต้องกุมขมับ
“คุณยกเลิกซัพพลายเออร์กะทันหันด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบเนี่ยนะ!”
“เปล่าฉันไม่ได้ใช้อารมณ์ชั่ววูบซะทีเดียวฉันคิดและไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว”
“คุณนี่มัน…”
“ด่าด้วยสายตาขนาดนี้ด่าออกมาเถอะ”
“คุณแม่ง! เจ้านายหัวxวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลย”
“…!…”
เดนีส ศศิภักดีลูกชายคนโตของท่านเจ้าสัวเดรโก ศศิภักดีเข้ารับตำแหน่งท่านประธานที่ดูแลธุรกิจเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ เป็นพลาสติกและแปรรูปแบบครบวงจรไม่ว่าจะเป็นกระสอบพลาสติก บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม พลาสติกแข็งและเคลือบ ท่อพีวีซีและข้อต่อ แกนกระดาษ ผ้าใยสังเคราะห์ ความจริงเขาไม่อยากทำบริษัทพวกนี้ ทั้ง ๆ ที่ธุรกิจในเครือของครอบครัวมีทั้งหมด 8 สายธุรกิจหลัก ครอบคลุม 14 กลุ่มธุรกิจ แต่ไหงเขาถึงได้มาทำพวกบรรจุภัณฑ์ ไอ้พัดเพื่อนที่เติบโตแทบจะเป็นครอบครัวเดียวกันตอนนี้เป็นทั้งน้องเขยตกกระไดพลอยโจนที่สำคัญยังได้นั่งเก้าอี้บริหารธุรกิจสำคัญอย่างธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ ไอ้น้องชายฝาแฝดอย่างเดนีนก็รับตำแหน่งดูแลธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรม ส่วนลูกชายคนโตอย่างเขาได้รับหน้าที่มาขายพวกกล่องพลาสติกพวกนี้เนี่ยนะ! แม้จะเคยประท้วงไปหลายรอบแต่ก็ไม่ได้รับความเห็นใจจากผู้เป็นพ่อได้! งั้นเขาก็จะบริหารในแบบฉบับของคนรุ่นใหม่บริหารในแบบฉบับของเดนีสศศิภักดีงั้นก็เปลี่ยนเครื่องใช้เฟอร์นิเจอร์ในห้องทำงานส่วนตัวเขาก่อนก็แล้วกัน…เดนีสนั่งเก้าอี้ประธานบริษัทได้เพียงสามเดือนบอร์ดบริหารก็ลุกเป็นไฟเ
ทางด้านวินตราเช้านี้ตาขวากระตุกแปลก ๆ ไหนจะจามติดกันถึงสองครั้ง เขาเลยแก้เคล็ดด้วยการเดินถอยหลังออกจากประตูห้องคอนโดยื่นเท้าขวาไปทางข้างหลังก่อนจะตามด้วยเท้าซ้าย อีกอย่างประวัติ รายละเอียดส่วนตัวของเจ้านายคนใหม่ของเขาก็ตั้งแง่ติดลบตั้งแต่ได้อ่านประโยคแรกจนถึงประโยคสุดท้าย และตั้งธงแดงในใจเอาไว้แล้ว จัดการกับคนไม่ได้ง่ายเหมือนจัดการเหมือนหมาแมว วินตราไม่ชอบการจัดการกับคนมากที่สุด รับมือได้ยาก อีกอย่างจิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง ขนาดเจ้านายคนเก่าที่ว่าดี สื่อยกย่องว่าเป็นพ่อตัวอย่างแต่พออยู่หลังกล้องเท่านั้นแหละ…สันดานที่แท้จริงโผล่มาให้เห็น ทั้ง ๆ ที่มีลูกสาวแท้ ๆ เฮ้อ!แค่คิดว่าแต่ละวันต้องคอยรับมือกับพวกคนประเภทนี้ก็เหนื่อยแย่ละพักใจไม่ทันหายต้องตื่นมาสู้กับรบปรบมือกับความอยู่รอดปากท้องต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัวเขาจัดการกับความคิดของตัวเองก่อนจะเตรียมตัวออกไปทำงานด้วยสภาพหัวใจที่ห่อเหี่ยวเมื่อวินตรามาถึงบริษัทก็เข้ามารายงานตัวแผนกประชาสัมพันธ์ก่อนจะเดินไปรายงานตัวกับแผนกบุคคลและเดินหายเข้าไปในห้องประธานบริษัทเป็นลำดับสุดท้ายไม่ต้องสัมภาษณ์อะไรทั้งนั้นมาถึงทำบัตรเริ่มงานได้เลยเรียกได้ว่าอ
ประโยคนี้เหมือนตบหน้าเขาอย่างจัง ละไอ้สรุปที่ว่า เดนีสเดินกลับไปนั่งเก้าอี้ของตัวเองพร้อมกับใช้แฟ้มเขี่ยเปลือกถั่วลิสงอย่างลวก ๆ ก่อนจะเปิดอ่านด้วยความโมโหแต่ละเรื่องมีสรุปไว้ให้จริง ๆ เหมือนหลอกด่าว่าโง่ อ่านหนังสือไม่เกินปีละ 7 บรรทัด! เขาฮึดฮัดนั่งอ่านแต่ละเรื่องพลางส่งสายตาเชือดเฉือนไปยังคนตรงหน้าที่ยืนมองดูพลางกุมมือตรงเป้า กวาดสายตาอ่านอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรอีกฝ่ายก็เอ่ยเตือน“ใกล้จะถึงเวลานัดแล้วนะครับ” เดนีสปิดแฟ้มดังพรึ่บลุกเดินตัวปลิวออกไปวินตราถอนหายใจรอบที่ไม่รู้เท่าไหร่ของวันก่อนจะเดินไปรวบแฟ้มข้อมูลยัดใส่ถุงผ้าที่เตรียมไว้เดินตามออกไปไอเทมที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือไอแพดคนขาดลาได้แต่ไอแพดเครื่องนี้เสมือนกุมความลับแผนงานของบริษัทวาระการประชุมต่างๆเอาไว้มากมายก่อนทำเรื่องลาออกคุณนิติพลเองก็จะต้องเซ็นสัญญา ‘หากความลับธุรกิจแพร่งพรายออกไปจะต้องชดใช้ค่าเสียหายคิดตามมูลค่าของบริษัท’ แล้วในตลาดหุ้นมูลค่าบริษัทเกือบหมื่นล้าน! แล้วใครจะกล้าอีกอย่างเหมือนทุบหม้อข้าวตัวเองในวงการทำงานมีวลีที่ว่า‘อย่าทุบสะพานที่เราคิดว่าไม่ได้ข้าม’โลกมันไม่ได้กว้างสักวันก็ต้องเหวี่ยงคนที่เราไม่ชอบขี้หน้
เมื่อไปถึงภัตตาคารโรงแรมที่จองไว้ มาดของอีกฝ่ายที่สวมเสื้อลายสก็อต สวมหมวกคาวบอย กางเกงยีน รองเท้าหนังมันปลาบทำให้เดนีสฉุกคิดถึงเรื่องก่อนหน้าที่วินตราเอ่ยเตือนเขาขึ้นมาได้หากเอารถสปอร์ตคู่ใจมาเหมือนเป็นการข่มอีกฝ่ายมากกว่าจะมาพูดคุยเจรจาเรื่องธุรกิจ ฝ่ายคู่ค้ากลับมานั่งรอก่อนถึง 30 นาทีด้วยซ้ำหากกรณีนี้ในความคิดของวินตราการมาถึงตรงเวลานัดเป็นเรื่องที่ดีแต่ควรจะเผื่อเหลือเผื่อขาดอย่างน้อย 15 นาทีจึงจะเป็นการดีทำธุระส่วนตัวอะไรให้เรียบร้อยจะได้นั่งเจรจาพูดคุยกันได้สะดวกคุณดนัยหรือพ่อเลี้ยงดนัยยืนขึ้นทันทีที่เห็น ‘เดนีสศศิภักดี’ ปรากฏตัวต่อหน้าเขาทั้งๆที่ก่อนหน้าฝ่ายการตลาดจัดการมาตลอดพ่อเลี้ยงดนัยมีธุระที่กรุงเทพฯพอดีเลยถือโอกาสเข้ามาเจรจาล็อตต่อไปด้วยตัวเองโดยมีผู้หญิงวัยกลางคนที่ยืนนอบน้อมอยู่ด้านหลังน่าจะเป็นเลขาส่วนตัวเช่นกันทั้งสองพูดคุยกันอย่างหอมปากหอมคอ เมื่อบริกรนำน้ำเปล่ามาเสิร์ฟเดนีสเลยเกริ่น “สั่งอาหารก่อนดีไหมครับค่อยเจรจา” พ่อเลี้ยงดนัยมีสีหน้าลังเลเพราะคนตรงหน้าเป็นคนใหญ่คนโตลูกเจ้าสัวเวลาคงเป็นเงินเป็นทองในความคิดเขาการมาเจอครั้งนี้คงกินเวลาไม่มากแต่กลับผิดคาดตั้งแต
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปด้วยสถานการณ์มึนตึงระหว่างท่านประธานกับคุณเลขาคนใหม่ที่เหมือนจะไม่กินเส้นกันสุดๆแม้แต่ปรียานุชยังรู้สึกได้สีหน้าของเลขาคนใหม่แม้จะราบเรียบไม่แสดงความรู้สึกใดๆแต่สายตาที่ตวัดมองมาแต่ละทีทำเอาหล่อนสะดุ้งหลายครั้งแถมรอยยิ้มที่ส่งมาให้ส่งไปไม่ถึงแววตาขีดเส้นแบ่งระหว่างขอบเขตของเพื่อนร่วมงานอย่างชัดเจนเวลาพักไม่สุงสิงกับใครไม่จับกลุ่มเม้ามอยโฟกัสในหน้าที่การงานของตัวเองและปรียานุชเองก็ได้อิทธิพลการทำงานจากวินตรามาไม่น้อยแม้ว่าอีกฝ่ายจะดูซับซ้อนเลือดเย็นไม่น่าเข้าหาแต่ก็รับมือกับท่านประธานได้อย่างอยู่หมัดทำงานเก่งไม่มีตกบกพร่องไม่รู้ว่าท่านเจ้าสัวไปสรรหามาจากไหนนอกจากสีหน้าและแววตาแล้ววินตราก็ไม่มีอะไรให้ต้องติเตียนเลยจริงๆมีแต่ก็ท่านประธานที่สีหน้าบอกบุญไม่รับทั้งอาทิตย์และแล้ววันปล่อยผีที่เดนีสรอคอยก็มาถึงเขาไม่เคยรอคอยวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้มาก่อนในชีวิตตั้งแต่รับคุณเลขาคนใหม่เข้ามาทำงานชีวิตอันปกติสุขของเขามีอันต้องเปลี่ยนแปลงไปไหนจะต้องหลังขดหลังแข็งอ่านรายงานทั้งกองแทบทุกวันอีกฝ่ายแม่งถามจี้ยังกะเขาอยู่ชั้นประถม! เดนีสหลังเลิกงานก็มางานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ่นอ
“ถ้ามี…มึงโดนหลายตีนกระทืบแน่ไอ้นิช มึงนับดูเลยกี่ตีน” สานิชไม่หยี่ระ“กว่าจะรวมตัวกันง่ายๆเสียเมื่อไหร่มา…ชน! อย่าไปคิดมากกินเหล้าไม่เคล้านารีจะไปสนุกอะไร”“กูขอบายใครจะนัวใครก็รีบไปเปิดห้องเลยอย่ามาทำลามกจกเปรตให้เสียลูกตา” กิตติกรเอ่ยเตือนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์“ให้มาชงเหล้าเช็ดปากซับเหงื่อให้แค่นั้น” สานิชไม่ยอมแพ้“มึงเป็นง่อย?”“ก็ดีเหมือนกันเจอของสวยๆงามๆไอ้นีสจะได้อารมณ์ดีขึ้นมามั่ง” อินทราเสริมขึ้นมา“ขอคนไม่เรื่องมากไม่งุ้งงิ้งจีบปากจีบคอพูดเป็นนกหงส์หยกพวกนั้นก็พอ” เดนีสเอ่ยปากในที่สุด “นึกว่าจะต่อต้านที่แท้ก็เข้าร่วม” “หุบปากไอ้กรทำตัวยังกะบวชพระ”“มึงก็รู้บ้านมันเป็นไง” อินทราพูดพลางหัวเราะในลำคอเห็นไอ้กรอย่างนั้นร้อยมาลัยเก่งอย่าบอกใครคุณหญิงย่าท่านสอนเอาไว้เวลาไปเที่ยวบ้านคุณชายกิตติกรไอ้พวกลิงทโมนพวกนี้เหมือนถูกดัดแข้งดัดขาเวลาเดินเวลานั่งต้องเรียบร้อยของว่างก็เป็นสูตรลับชาววังแม้จะเจ้าระเบียบแต่เพราะของคาวหวานสูตรต้นตำรับชาววังแท้ๆไม่ได้หากินง่ายๆพวกเขาที่เห็นแก่กินจึงไปบ่อยๆบางครั้งเห็นไอ้เพื่อนรักนั่งพับเพียบร้อยมาลัยกับคุณหญิงย่าที่ศาลาข้างบึงแม้อยากจะขำแต่ก็กลัวจะถ
วินตราที่กำลังนั่งอ่านรายงานและผลประกอบการต่าง ๆ อยู่ในร้านกาแฟที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เจ้านายตัวดีของเขาพรุ่งนี้มีนัดตีกอล์ฟกับคุณทิณกร ซึ่งพื้นเพที่บ้านทำธุรกิจพลังงาน สองตระกูลนี้มีผลประโยชน์ที่เอื้อกันและผู้ใหญ่ทั้งสองก็ยินดีหากทั้งสองจะลงเอยกัน วินตรานั่งอ่านธุรกิจพลังงานของบ้านเทวะบดินทร์ เผื่อระหว่างทางจะสามารถบรรจุข้อมูลเหล่านี้ลงไปในกลีบสมองของท่านประธานของเขาได้บ้าง นั่งอ่านอยู่นานจนเวลาตี 1 จึงปิดแฟ้มพวกนั้นเก็บในกระเป๋า อ้อ! เขาติดรถเจ้านายมาด้วยล่ะ รถเปิดประทุนปีกนกที่นั่งก็ยาก ลุกก็ยาก เบาะก็ไม่นุ่มสบายไม่สมราคาเลยสักนิดในความคิดของวินตรา เจ้านายตัวดีหนีบเขามาที่นี่เพื่ออะไรวินตรารู้ดี นอกจากอยากจะกลั่นแกล้งแล้วจะทำอะไรได้อีกหัวสมองมีแค่นั้น! ถ้าท่านประธานของเขาใส่ใจการงานเหมือนหาเรื่องเขาป่านนี้คงเจริญรอยตามท่านเจ้าสัวไปนานแล้วไม่ใช่ไม่เป็นโล้เป็นพายอยู่อย่างนี้เฮ้อ! งานเลขาส่วนตัวต่างอะไรจากเบ๊เป็นที่รองมือรองตีนและยังเป็นคนใช้ส่วนตัวดีไม่ดีพ่วงคนขับรถไปอีกตำแหน่งวินตราก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะเดินไปยังทางเข้าคลับแม้จะเป็นคลับ VIP เข้าได้เฉพาะสมาชิกแต่เพราะผ่านการท
“รู้แล้ว! ฉันกำลังจะกลับ” ตาแทบลืมไม่ขึ้นวินตราก็ไม่เซ้าซี้ได้แต่ยืนรออยู่อย่างนั้น“แล้วนายจะยืนรอทำซากอะไร”“ผมติดรถท่านประธานมานี่ครับ”“ฉันไม่ใช่คนขับรถของนายฉันไม่ไปส่งหรอก”“อ้อ…ผมก็ไม่ได้ขอให้ไปส่งนี่ครับ”“แม่ง…นี่นายกวนประสาทฉันงั้นเหรอ”“ท่านประธานอย่าลืมงานของผมคือดูแลท่านประธานจัดแจงตารางชีวิตอีกอย่างผมที่ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ต้องเป็นฝ่ายขับอยู่แล้วล่ะครับจนกว่าจะส่งท่านประธานกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยถึงจะเลิกงานได้”“อย่าฝันไปเลย…รถฉันราคาเท่าไหร่นายรู้หรือเปล่า”“งั้นก็เรียกแท็กซี่ให้คนทั้งคลับเห็นกันไปเลยว่าสภาพท่านประธานเวลาเมาเป็นยังไง”“นายกล้า!…”“แล้วจะกลับด้วยวิธีไหนล่ะครับหรือจะนอนที่นี่ท่านเจ้าสัวคงไม่ยินดีแน่ๆถ้าได้ยินว่าลูกชายนอนค้างที่คลับแถมนักข่าวอาจตีสีใส่ไข่จนเป็นเรื่องทอร์คออฟเดอะทาวน์ไปทั่วทั้งโซเชียล”“ลูกชายนักธุรกิจใหญ่สลบเหมือนคาอก—”“พอเลยๆตลกนักหรือไง”“ก็แค่คิดเผื่อน่ะครับ”“แต่เหมือนนายอยากจะให้มันเป็นจริงยังไงยังงั้น”“ผมก็แค่หวังดี”“เฮอะฉันเชื่อตายล่ะ” เดนีสกอดอกอย่างหัวเสียแต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีที่จอดรถซูเปอร์คาร์จะแยกจอดกับรถทั่วไปเพราะราคาของ
“พ่อครับแม่ครับอยู่ไหนครับ” ก่อนจะได้ยินเสียงแทรกเข้ามา“อย่าให้พ่ออยู่กับแม่ไม่งั้นแม่จะไม่สบาย”“หา” เดนีสหน้าตื่นก่อนจะแง้มประตูแอบฟังต่อ สามพี่น้องพยักหน้าให้กัน“จริงแม่จะเสียงแหบและบ่นปวดเอวแล้วก็มีรอยยุงกัดเยอะด้วย” สามพี่น้องปรึกษาหารือกันเหมือนกำลังคุยเรื่องโลกแตกวินตราหัวเราะน้อยๆในลำคอก่อนจะมองพ่อหมาที่เงี่ยหูฟังลูกๆคุยกันสมน้ำหน้า! “พ่อชอบเล่นกับแม่แรงๆสงสารแม่พวกเราต้องปกป้องแม่ให้พ้นจากเงื้อมมือพ่อ” สามพี่น้องชูกำปั้นใส่กันสักพักแม่บ้านและพี่เลี้ยงก็มาตามเพราะปู่ย่ามารับไปเล่นบ้านใหญ่สามคนดีใจใหญ่เพราะว่าจะได้เจอลูกพี่ลูกน้องอีกหลายคนก่อนจะเฮโลลงบันไดไปข้างล่างเดนีสหัวคิ้วกระตุกโพล่งด่าในใจ ‘ไอ้ลูกเวร’ ส่วนวินตราหัวเราะท้องแข็งอยู่ข้างหลังเขาเมื่อเดนีสปิดประตูห้องสนิทพร้อมกับสีหน้าไม่สู้ดี “มิน่าพักหลังถึงทำตัวเป็นปรปักษ์กับฉันขนาดนั้นที่ไหนได้!” เดนีสโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงแต่ภรรยาสุดที่รักกลับขำจนตัวงอสองตาแดงเรื่อเพราะว่าหัวเราะมากจนเกินไป“ขำมากหรือไง”“ฮ่าๆฮ่า” วินตรายังขำไม่หยุดก่อนจะอุ้มภรรยาทุ่มลงบนเตียงกว้างด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“อย่าหวังว่าคราวนี้จะรอด” “มะ
ส่วนวินตรากับเดนีสเองก็ถอนหายใจเช่นกันยังดีที่เดนอนอยู่อนุบาลสามส่วนแฝดพี่อีกคนอยู่คนละห้องไม่งั้นเรื่องราวคงวุ่นวายมากกว่านี้เป็นแน่พี่ชายทั้งสองหวงน้องสาวยังกะอะไรดีไม่น้อยไปกว่าพ่อหมาเลยนั่นคือเรื่องแรกแล้วก็มีเรื่องราวมากมายตามมาเป็นพรวนวีรกรรมสุดแสบที่ทำเอาวินตราหัวหมุนเป็นประจำโดยเฉพาะลูกชายคนโตที่ถอดแบบเขาออกมามากที่สุดวันนี้นัดกันว่าจะทานมื้อค่ำด้วยกันแต่เดนีสแวะไปเอาเค้กร้านโปรดที่เจ้าสามแสบชอบเลยช้ากว่ากำหนดการที่บอกเอาไว้ว่าจะตั้งโต๊ะอาหารหนึ่งทุ่มตรงแต่ตอนนี้ทุ่มครึ่งพ่อหมายังไม่เห็นแม้แต่เงาเดนอนวัยห้าขวบกอดอกรออยู่บนเก้าอี้ก่อนจะใช้นาฬิกาดิจิตอลของตัวเองต่อสายหาปลายทางวินตราเองก็นั่งรออย่างใจเย็นเช่นกัน“พ่อฮะจะกลับกี่โมงครับ” “อีกสิบนาทีถึงน่าไอ้ลูกชาย” “ระยะทางจากบริษัทถึงบ้านสามสิบห้าไฟแดงแต่ละแยกสองถึงสามนาทีถ้าขับด้วยความเร็วคงที่น่าจะกลับมาก่อนเวลาหนึ่งทุ่มตรงด้วยซ้ำ”“เฮ้! ไอ้ลูกหมาพ่อมีธุระนิดหน่อยตอนนี้จะถึงบ้านแล้วครับ” แม้น้ำเสียงตอนต้นจะติดโวยวายนิดหน่อยตามนิสัยของเจ้าตัวแต่พอเจอวินตราดุไปก่อนหน้าเลยอ่อนลงแต่ไอ้ลูกชายตัวดีเหมือนกำลังซักฟอกเขาเดนีสขุ่นเคือง
พอคลอดสองแฝดปุ๊ปคุณแม่ลูกสามอย่างวินตราก็ปิดอู่ทันทีอีกทั้งเดนีสเองก็ยินยอมพร้อมใจทำหมันเพื่อเป็นการให้คำมั่นสัญญาไปในตัวว่าเขาจะไม่ออกนอกลู่นอกทางจะรักแม่หมาเพียงคนเดียวไม่มีลูกนอกสมรสที่ไหนอีก!เดนอนวัยสองขวบเป็นพี่คนโตของสองแฝดชาย-หญิงซึ่งผู้ชายเป็น (New Male) เหมือนวินตราชื่อเดโนส่วนน้องเล็กเป็นเพศหญิงชื่อเดเลเนเป็นรุ่นหลานสามเดอ้อ…ห้าเดถ้านับลูกสาวของเดนิมที่ชื่อเดล่าและลูกชายชื่อเดโลเข้าไปด้วยเมื่อเด็กห้าคนมารวมตัวกันเมื่อไหร่ผู้ใหญ่ก็มักจะปวดหัวทุกทีคุณปู่คุณย่าก็พลอยหมั่นดูแลสุขภาพเพราะลูกชายคนสุดท้องอย่างเดนีนก็แว่วๆว่ากำลังจะมีหลานตัวน้อยให้ศศิภักดีเองเช่นกัน วินตราทำหน้าที่ของผู้บริหารและแม่ที่ดีได้อย่างไม่มีบกพร่องและสร้างสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานสำหรับแม่ลูกอ่อนด้วยกลายเป็นว่าบริษัทในเครือศศิภักดีต่างเป็นบริษัทที่คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ต้องก็อยากจะตบเท้าเข้าทำงานและฝากชีวิตไว้ที่นี่กันทั้งนั้นเพราะผู้บริหารคำนึงถึงพนักงานเป็นหลักจึงทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีต่อทุกเพศสภาพและทุกสถานะ ตอนนี้พวกเขาย้ายออกมาอยู่บ้านใหม่ที่ไม่ไกลจากบ้านใหญ่คุณปู่คุณย่าไปหาได้สะดวกและฝากหลานได้สะดวกเช่น
“อื้อ” ความจริงเดนีสอยากจะถ่ายภาพนี้ของวินตราเอาไว้ แต่เขาก็กลัวว่าจะหลุดออกไป จึงทำได้เพียงบันทึกภาพสุดแสนอีโรติกนี้เข้าสู่สมองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อวินตรากระตุกเขาก็อมยิ้มดึงหางแมวออกดังเปาะ ก่อนกิจกรรมจะเริ่มวินตราได้ปูเตียงด้วยผ้าที่สั่งซื้อพิเศษ กันน้ำ พวกเขาเลยสามารถทำกิจกรรมเข้าจังหวะอย่างว่าได้สนุกสุดเหวี่ยง เมื่อช่องทางหลังขยายได้ที่แล้ว เดนีสก็ส่งลิ้นร้อนเข้าไปแหย่รูนั้นที่หุบอ้า ๆ อย่างเชื้อเชิญ แลบเลียช่องทางเหมือนเลียไอศกรีมรสโปรด ตวัดลิ้นเร็วช้าสลับกันตามแต่ใจจะนำพา วินตรากระเถิบตัวหนี ไม่ไหว! เขาเสียวแทบขาดใจ แถมเสียงครวญครางก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับอารมณ์วาบหวามที่กำลังพุ่งขึ้นสูงทุกวินาที แถมพ่อหมายังยกซดน้ำหวานจากช่องทางเหมือนตายอดตายอยาก วินตราเขยิบหนีครางเสียงกระเส่า“มะไม่ไหวอะ” ร่างกายเกร็งกระตุกส่วนหน้าหลั่งออกมาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วหน้าขาและผ้าปูที่นอนแถมพ่อหมายังไม่หยุดระรัวลิ้นอีกวินตราหันไปกระชากผมที่เอาแต่ซุกก้นของเขาอย่างหื่นกระหายให้เงยหน้าขึ้นมา“เข้ามาได้แล้ว” เดนีสยันเข่าข้างนึงกับเตียงจับบั้นเอวนั้นที่แอ่นเชื้อเชิญเขาอย่างน่ารักค่อยๆสอดใส
ทางด้านเดนีสหลังจากทานมื้อเย็นกับพวกห้าสิงห์เขาก็แวะไปเอาของเล่นที่สั่งไว้เพื่อมาเล่นกับภรรยาโดยเฉพาะแต่รถดันติดเสียนี่…มาช้าเป็นชั่วโมงทั้งๆที่นัดกันดิบดีพอมาถึงห้องก็ต้องแปลกใจที่ข้างในมืดสนิทเดนีสเปิดไฟก่อนจะหอบกล่องอย่างทุลักทุเลเข้าไปในห้องนอนของตัวเองพร้อมกับเตรียมจะจ๊ะเอ๋แม่หมากลับกลายเป็นว่าแม่หมาหลับไปแล้วซะงั้น…เพราะแบบนี้เลยเปลี่ยนแพลนกะทันหันย่องเบาเหมือนแมวหนีไปอาบน้ำยังไงก็ต้องได้กินของหวานแหละน่าเดนีสผิวปากอาบน้ำขัดตัวอย่างสบายใจเฉิบพอเขาออกจากห้องนำ้มาเท่านั้นแหละ…เรนเดียร์ตัวน้อยที่แกล้งหลับกำลังหันมามองเขาด้วยสายตาทรงเสน่ห์อย่างล้นเหลือเรียวปากยังชุ่มฉ่ำไปด้วยลิปกลอสนั่งขาแบะเป็นตัวเอ็มหันหลังให้เขานั้น…เดี๋ยวก่อนนะก็ว่าละทำไมภาพนี้มันคุ้นๆโปสเตอร์นั้นรูปเมียรักเขานี่เองให้ตายจะบอกไอ้พวกนั้นไม่ได้เด็ดขาดจะได้ลืมๆไป “วินตรา!” เดนีสตะโกนเสียงเข้ม“อย่าบอกว่านายแบบคือนาย”“ใช่” เดนีสอ้าปากค้างก่อนจะสาวเท้าไปหาคุณภรรยากระโดดทับด้วยความหึงหวง “อะไอ้บ้าเจ็บ” “เจ็บสิจะได้จำ” เดนีสขบย้ำๆที่หัวไหล่มนอย่างมันเขี้ยวตอนนี้แม่หมาสวมเพียงเกาะอกแดงตัวจิ๋วที่กระชากนิดเดียวก็คงจะ
“ทำได้ทำได้แน่นอนฉันจะไม่สปอยลูกอีก” มือขวายกสามนิ้วแต่มือซ้ายกลับไขว้กากบาทอยู่ด้านหลังพอเห็นเมียรักไม่พูดอะไรก็ปรี่เข้าไปคลอเคลียขอความเห็นใจทันที“ฉันรู้ฉันผิดเอาเป็นว่าวันหลังจะไม่แอบให้ขนมอีกถ้าลูกหิวต้องหิ้วท้องรอเพราะไม่ทำตามกติกากลุ่มโอเคไหม?” วินตรากอดอกเหลือบตามองอย่างคาดโทษก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ “เด็กคนหนึ่งกว่าจะโตต้องเลี้ยงทั้งหมู่บ้านต้องเคารพกติกากลุ่มลูกเรามักน่ารักสำหรับเราเสมอแต่ใช่ว่าจะน่ารักสำหรับคนอื่นที่สำคัญหากไม่สอนให้เขาเคารพกฎหมู่กฎระเบียบเล็กๆน้อยๆพวกนี้จะสอนเขาเมื่อไหร่?”“ฉันรู้ๆฉันผิดไปแล้ว” พ่อหมาแทบจะกราบกรานเขย่าแขนเมียตัวเองขอความเมตตา “วันหลังฉันจะให้ตายตัดสินจะถามนายก่อนโอเคไหม” วินตราถอนหายใจก่อนจะสงบสติอารมณ์“วันหลังห้ามทำอีก” “ฉันจะจำไว้และจะไม่ทำอีก” ก่อนจะเข้าไปจุมพิตกระหม่อมภรรยาโอบกอดหลวมๆแม้ปากจะบอกว่าเข้าใจแต่สุดท้ายพ่อหมาก็คือพ่อหมาต่างก็ขบคิดหาวิธีที่ไม่ให้แม่หมาจับได้กลยุทธ์แพรวพราวมากขึ้นกลายเป็นถือหางลูกชายสุดๆในอีกยี่สิบกว่าปีให้หลังมีเพียงใบหน้าและแววตาที่เหมือนผู้เป็นแม่แต่นิสัยใจคอเหมือนรวมเอายีนด้อยและเด่นของพ่อแม่เข้าด้วยกั
ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมาจวบจนแต่งงานมีพยานรักงานวันเกิดของเดนีสอีกฝ่ายไม่เคยเรียกร้องอะไรจากวินตราเลยมีแต่วันเกิดของเขาที่พ่อหมาตั้งใจรังสรรค์ออกมาอย่างใจป้ำโดยให้เหตุผลว่า“ฉันมีวันเกิดที่ดีมาเสมอทุกปีต่อแต่นี้ขอให้นายมีความสุขมีวันเกิดที่ดีในทุกๆปี” แม้ว่าภายในงานจะเรียบง่ายแต่ตราตรึงในใจของวินตราทุกครั้งกลับจากทำบุญสถานสงเคราะห์ต่างๆก็ไปวัดทำบุญถวายเพลอุทิศกรวดน้ำให้กับพ่อแม่ผู้ล่วงลับแต่ในปีนี้วันเกิดสามีของเขาวินตราก็อยากจะเซอร์ไพรส์และให้ของขวัญที่ดีที่สุดเพื่อตอบแทนความรักดีๆที่สามีมอบให้เสมอมา วินตราเคลียร์ตารางตัวเองอีกทั้งเจ้าลูกหมาตัวน้อยก็อายุสิบเดือนกำลังตั้งไข่ฝึกเดินเกาะไปทั่วคอกกั้นเด็กที่สั่งทำพิเศษดูท่าจะได้ความแสบซนจากพ่อหมามาไม่น้อยแถมยังฉีกยิ้มหวานสองซี่ให้อีกต่างหาก “มาม่า”“ครับ” วินตราอุ้มลูกชายที่ร้องเรียกตอนนี้เดนอนกำลังฝึกออกเสียงสองพยางค์และรู้ความหมายของศัพท์มากขึ้นแล้ววินตราจะไม่ใช้ภาษาเด็กคุยแต่จะพูดคุยเหมือนกับว่าเดนอนเป็นผู้ใหญ่อีกคนหนึ่งเพียงแต่ว่าพูดช้าๆชัดๆเพื่อให้เด็กน้อยเข้าใจภาษาที่สื่อและสอดคล้องกับภาษากายที่กำลังแสดงอีกทั้งเจ้าหมาน้อยยังเลี้ยงง่
“อื้อ อะ” เสียง ตับ ๆ ของแก้มก้นที่ถูกหน้าขาโบยตี เสียงเฉอะแฉะของน้ำลายที่สองปากกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม ก่อนจะพากันไปแตะฝั่งฝัน สองร่างเกร็งกระตุกก่อนจะพากันทะยานไปถึงฝั่งพร้อมกัน วินตราหอบหายใจเหนื่อย สองขาสั่นเทา เดนีสเองก็เช่นกัน ก่อนจะวางขาลงแต่ช่วงล่างที่สอดประสานกลับคาเอาไว้เพื่อรอให้เมล็ดพันธ์ุหลั่งออกมาทุกหยาดหยด เขาฟุบหน้าลงบนซอกคอขาวที่ทั้งหอมและน่าขย้ำให้เลือดกระฉูด ได้แต่เพียงดอมดมสูดกลิ่นอายของภรรยาเข้าไป แม้ในใจอยากจะฝากร่องรอยสีกุหลาบเอาไว้แค่ไหนก็ตาม เพราะวินตราหน้าบาง เดนีสเลยเลือกที่จะแต่งแต้มร่างกายที่ขาวเหมือนน้ำนมแพะตามร่มผ้า โดยเฉพาะป้านนมที่มีรอยฟันของเขาประทับเอาไว้เป็นวงกว้าง ต่อให้พรุ่งนี้จะโดนเมียรักเฉ่งจนหูดับก็คุ้มค่า“เอาออกไปได้แล้ว” วินตราว่าพลางดันตัวหมายักษ์ที่นอนทับเขาแทบหายใจไม่ออก“อุ่นขนาดนี้ขอต่อเวลาอีกหน่อย”“หมดเวลาแล้ว”“ใจร้ายกินฉันแล้วถีบหัวส่งเลยนะ” ฝ่าเท้ากำลังจะทำท่าถีบเอวสอบที่เริ่มขยับเบาๆ “เดี๋ยวถุงก็แตกหรอก”“ถ้าแตกฉันจะตั้งทนายฟ้องเลยเอ้า” “ไอ้บ้า” วินตราเอ็ดเบาๆ “นี่ฉันถามไอ้หมอหัสดินมาแล้วหลังคลอดช่วงที่ให้นมยังไม่มีประจำเดือนไม
วินตราไม่รู้ว่าความรักของเราจะมีวันหมดอายุหรือเปล่า แต่ผู้ชายคนนี้ขยันเติมหยอดความหวาน ความรักให้เขาไม่รู้จักเบื่อ การมีเพื่อนคู่คิด มีคนนอนเป็นเพื่อนมันดีกว่าอยู่คนเดียวจริง ๆ ผู้ชายคนนี้เป็นแสงสว่างนำทางเขาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แม้ว่าบางครั้งจะบ้า ๆ บอ ๆ ก็เถอะ แต่สำหรับวินตราตั้งแต่เขาได้มาเจอกับผู้ชายคนนี้ชีวิตก็มีสีสันขึ้นมาทันตา และความสุขที่คิดว่าไม่มีอยู่จริงก็อยู่ตรงหน้าในทุก ๆ วัน พร้อมกับลูกน้อยที่เขารักที่สุด และสัญญากับตัวเองว่าจะเป็นแม่ที่ดี ไม่ทำให้ลูกน้อยต้องมีแผลใจเหมือนอย่างตน สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์พูนสุขไปด้วยกันตราบนานเท่านานพ่อหมาทำตัวดีขนาดนี้จะไม่ให้รางวัลได้ยังไง!รถยนต์มาจอดบนเขาลานจอดรถโล่งกว้างแต่กลับไม่มีรถคันอื่นสักคันเบื้องล่างเป็นภาพวิวของชานเมืองแสงสว่างเหลืองอร่ามของบ้านเรือนรถราแสงเหลืองส้มไหลติดกันเป็นเส้นเดียววินตราจอดรถเดนีสเองก็ถามด้วยความสงสัยปกติแม่หมาเลิกงานแทบจะเหยียบมิดไมล์เพื่อรีบกลับไปหาเจ้าก้อนแต่ไหงวันนี้มาแปลก“มีอะไรหรือเปล่า” เดนีสเลียบเคียงถามวินตราปลดเนกไทตัวเองช้าๆเดนีสลอบกลืนน้ำลาย“ชวนมาดูดาว” เดนีสหูตั้งแต่ยังคงรักษาท่าทีร