สนามกอล์ฟก็เป็นหนึ่งในธุรกิจเครือญาติของศศิภักดี อยู่ห่างจากบ้านใหญ่เพียงสองซอย อยู่ภายในอาณาเขตของบ้านจัดสรรหนึ่งในธุรกิจของที่บ้านอีกเช่นกัน ระหว่างทางที่นั่งรถกอล์ฟวินตราที่ได้มีโอกาสค้างคืนที่บ้านศศิภักดีเพราะดันมาเจอท่านเจ้าสัวกับภรรยากลับจากทริปฮันนีมูนพอดี หลักฐานคาตาที่เห็นลูกชายคนโตเมาไม่ได้สติ วินตราที่ขอตัวกลับแต่ท่านเจ้าสัวออกปากห้ามเสียก่อนเพราะว่าดึกมากแล้ว ให้นอนค้างที่นี่เพราะยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องตามก้นท่านประธานเหมือนเงาไปตีกอล์ฟอยู่แล้ว จึงได้เห็นรูปถ่ายครอบครัว และเพิ่งรู้ว่าท่านเจ้าสัวเดรโกมีลูกชายถึง 3 คนคนเล็กแทบจะไม่เคยออกสื่อเลยและไม่มีข่าวคราวใดๆออกมานอกจากล่าสุดเป็นข่าวจาก (วงใน) ว่าตบแต่งกับพิพัฒน์หากแต่งกับคนอื่นสิแปลก! พิพัฒน์กิ่งอมรท่านเจ้าสัวให้ความสำคัญปลุกปั้นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร “ผมเพิ่งรู้ว่าท่านประธานมีน้องชายด้วย” เดนีสเลิกคิ้วมองคนที่นั่งข้างๆ “ไม่น่าเชื่อว่าใต้เตียงศศิภักดีอย่างนายจะไม่รู้”“ผมไม่รู้จริงๆนี่ครับคุณเดนิมแทบไม่เคยออกสื่อเลย”“แหงล่ะ…เพิ่งกลับจากฝรั่งเศสมาได้ไม่นานแถมยังแต่งงานแล้วด้วย” ประโยคบอกเล่าแต่เจือความไม่พอใจเอาไว้หลายส่วน“น
ทิณกรมาถึงก็นั่งพัก ไม่มีทีท่าจะสนใจการตีกอล์ฟครั้งนี้สักเท่าไหร่“สั่งอาหารและเครื่องดื่มก่อนไหมครับ”“เชิญคุณก่อนเลยครับ”“งั้นกาแฟและเค้กอย่างละหนึ่งก็พอ…คุณเดนีสล่ะครับ”“กาแฟเย็นสักแก้วก็พอแล้วครับ” เมื่อท่านสองคนนั่งลงเริ่มพูดคุยนั่นนี่วินตราก็ปลีกตัวออกไปเพื่อความเป็นส่วนตัวแต่ไม่คิดว่าจะเจอกับ…สองตาเบิกกว้างมือและเท้าเย็นเยียบฝ่ามือชื้นเหงื่อร่างกายทรงตัวแทบไม่ไหวได้แต่แนบลำตัวชิดกับซอกตึกเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายมองเห็น“เย็นไว้เย็นไว้” วินตราเป่าปากและพูดเตือนตัวเองก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำข้างในตัวตึกด้านหลัง“สีหน้าดูไม่สดชื่นเลยนะครับ”“อ้อ…ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้คุณต้องมาเห็นผมในสภาพนี้พอดีเมื่อคืนเลี้ยงส่งลูกค้านิดหน่อย”“นั่นสินะผู้บริหารอย่างคุณคงไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไหร่”“แล้วคุณทิณกรทำอะไรอยู่เหรอครับ”“ผมน่ะ…กำลังเรียนรู้งานที่บริษัทของคุณพ่อแต่ดูเหมือนว่าพลังงานไม่ค่อยเหมาะกับผมสักเท่าไหร่”“ฮ่าๆหัวอกเดียวกับผมเลยนะเนี่ย”“เอาตรงๆผมไม่ชอบทำธุรกิจแต่ก็ไม่รู้ว่าชอบอะไรเรียกได้ว่ากำลังหาตัวเองอยู่ละมั้ง”“แล้วคุณอยากทำอะไรล่ะครับ” “ไม่รู้สิแต่ว่าตอนนี้ก็ไม่ได้ลำบากอะไร” เดน
“อะ…นี่นามบัตรของคุณ jeans หนึ่งในพาร์ทเนอร์ของ JeasnsShore บอกว่าพี่เดนีสให้มา” เดนีสยื่นนามบัตรพร้อมกับขยิบตาให้ทิณกรรับมาด้วยความดีใจจนออกนอกหน้าการมาดูตัวในครั้งนี้แตกต่างจากที่คิดไว้ในตอนแรกทีแรกเขากะจะทำตัวหัวอ่อนปวกเปียกน่าเบื่อพูดเรื่อยเปื่อยน่ารำคาญเพราะอยากให้อีกฝ่ายเป็นคนเอ่ยปากในการยุติความสัมพันธ์แต่ครั้งนี้กลับตรงข้ามอย่างน้อยทิณกรพระอาทิตย์ดวงน้อยก็ได้ภูเขาลูกใหญ่ไว้พึ่งพิงพี่ใหญ่เองก็ถูกคลุมถุงชนและมักพูดกับเขาเสมอว่า ‘ชีวิตคู่ไม่ใช่ทนๆอยู่กันไปต่างก็รวดร้าวทั้งทั้งสองฝ่าย’ และเขาควรจะมีโอกาสได้เลือกคู่ชีวิตด้วยตัวเองนกปีกหักอย่างทิณกรที่จำใจอยู่แต่ในกรงทองบัดนี้ท้องฟ้ากับทอประกายแห่งความหวังมาให้โดยไม่ทันได้ตั้งตัวจนอดที่จะน้ำตาซึมออกมาไม่ได้“ซึ้งขนาดนั้นเลย?” “ก็…”“ถูกคลุมถุงชนล่ะสิ” ท่าทีที่กอดอกและฟังอย่างตั้งอกตั้งใจของเดนีสดูยังไงก็เหมือนกำลังดุด่าสั่งสอนทิณกรที่เช็ดน้ำหูน้ำตาป้อยๆในความคิดของวินตราเขาส่ายหน้าอย่างระอาเมื่อยืนมองจากมุมหนึ่งของตึก ‘ไม่ต่างจากที่คิดไว้ตั้งแต่แรก’ เดนีสศศิภักดีหัวแข็งขนาดนั้นถ้ายอมถูกคลุมถุงชนพระอาทิตย์คงขึ้นทิศตะวันตก “ฉลาดนี่
สามเดือนผ่านไปเดนีสก็เริ่มชินกับพฤติกรรมของคุณเลขา ก็เป็นเลขามือทองจริง ๆ นั่นแหละเขายอมรับ! แต่แม่งมีสิ่งหนึ่งที่เขาเหมือนจะถูกเหยียดหยามตลอดเวลาคือดวงตาคู่นั้น ใครจะคิดว่าเขาคิดมากก็ช่างเถอะอ้าปากด่าเขาตรงๆอาจจะรู้สึกดีกว่าอย่างเช่นตอนนี้ที่เขาทำงานผิดพลาด“ท่านประธานเซ็นลงไปได้ยังไงทั้งๆที่ไม่ได้อ่านด้วยซ้ำ” “ฉันอ่านมาแล้ว” วินตรายื่นมือมาปิดแฟ้มที่เดนีสกำลังจะจับปากกาเซ็นลงไปวินตรายกแฟ้มสีดำในมือพลิกไปพลิกมาก่อนจะปิดพรึบเอ่ยปากถาม“ท่านประธานเห็นดีเห็นชอบด้วยหรือครับ”“ก็…”“ท่านประธานมีความคิดของตัวเองหรือเปล่าคณะกรรมการบริหารเห็นว่าดีท่านประธานก็ว่าดี?”“ถ้าฉันว่าไม่ดีพวกนั้นก็สับฉันเละอีก”“แล้วท่านประธานไม่สมควรถูกสับตรงไหน”“ฉันเป็นประธานเป็นเจ้าของที่นี่เข้าใจหรือยัง” เดนีสเสียงแข็งนั่นนี่ก็ไม่ดีอันนั้นก็ไม่ได้เลขาก็จี้พ่อก็ด่าบอร์ดบริหารยังรุมกระทืบอีกต่อแม่งเอ๊ย! ใครกันแน่ที่เป็นเจ้านายลูกน้องใครกันแน่ที่เป็นลูกเจ้าของกันแน่ฮะ? เดนีสกำด้ามปากการาคาแพงในมือแน่นจ้องเลขามือทองเขม็ง“ท่านประธานรู้หรือเปล่าว่าคำว่า Boss กับ Leader ต่างกันตรงไหน” เดนีสเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่าง
“วินตราพูดครับ”“เข้ามา”วินตราลุกจากเก้าอี้พลางถอนหายใจหยิบเอกสารพวกนั้นติดมือมาด้วยแถมยังถ่ายเอกสารเอาไว้อีกหลายชุดวินตราเคาะประตูพอได้ยินเสียงตอบรับเขาก็เข้าไปภายในห้องยืนกุมเป้าอยู่หน้าโต๊ะท่านประธาน“นั่งลง” วินตรานั่งลงก่อนจะโฟกัสกับเอกสารที่ถูกยื่นมาให้ตรงหน้า“ฉันให้ปรียานุชส่งเมลมาให้เมื่อครู่อ่านดูสิใช้ได้หรือยัง” วินตราพยักหน้าก่อนจะรับเอกสารมาไว้ในมือกวาดสายตาอ่านตั้งแต่ตัวอักษรตัวแรกจนถึงบรรทัดสุดท้าย“ดีกว่าฉบับแรกแต่ยังไม่รัดกุมพอ” เดนีสตวัดสายตามองมาที่คุณเลขาอย่างเอาเรื่องเอ่ยถามน้ำเสียงที่แฝงความไม่พอใจเอาไว้“แล้วแบบไหนถึงจะรัดกุม?”“การทำธุรกิจสัญญาต้องคำนึงผลประโยชน์ของบริษัทเป็นหลัก”“ฉันไม่นึกถึงตรงไหน”“งั้นลงนามเลยก็ได้ครับ”“วินตรา!” เดนีสหัวเสียถึงขีดสุดเขาที่พยายามตั้งใจทำงานอย่างดีแต่อีกฝ่ายกลับกวนประสาทเขาเสียอย่างนั้น“ถึงยังไม่รัดกุมแต่ก็พอใช้ได้ครับไม่งั้นก็ให้ฝ่ายกฎหมายเช็กอีกรอบ” เดนีสยกหูโทรศัพท์สั่งการตามที่คุณเลขามือทองว่า“แล้วมันไม่รัดกุมตรงไหน”“ตรงนี้ครับประโยคนี้” วินตราค่อยๆอธิบายอย่างใจเย็นอีกทั้งวัสดุที่นำเข้ามาประเทศต้นทางก็กำลังจะขึ้นภา
เมื่อกลับมาถึงคอนโด วินตราก็หลับลึก เขาขดตัวอยู่กับเตียงกว้าง ร่างกายถูกห่อด้วยผ้านวมเป็นก้อนคล้ายเกราะกำบัง โผล่เพียงใบหน้าออกมาเล็กน้อย เขานอนจนสมองมึนเบลอ สะดุ้งตื่นขึ้นมานาฬิกาข้างหัวเตียงก็บอกว่าเที่ยงคืนกว่าแล้ว วินตราถอนหายใจอย่างแรงก่อนจะลุกไปอาบน้ำ หาอะไรเบา ๆ รองท้อง ในขณะที่รอน้ำเดือดก็ควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพาย แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ แม้จะทำงานร่วมกับท่านประธานมา 3 เดือนกว่า ๆ แล้วแต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ไอ้หมอนั่นจะโทรมาหรือส่งข้อความมาจิก ๆ เขาอย่างเคียดแค้นแบบนี้มาก่อน“พรุ่งนี้นายเจอดีแน่!” วินตรามุมปากกระตุกตอนแรกเขาก็ยังรู้สึกผิดที่กดดันอีกฝ่ายมากเกินไปที่ไหนได้…ท่านประธานเฮงซวยยังโดนน้อยไปด้วยซ้ำตั้งแต่วินาทีที่อีกฝ่ายคุกคามเขาด้วยสีหน้าและท่าทางแบบนั้นเส้นเขตแดนระหว่างเจ้านายกับลูกน้องที่ต้องให้ความเคารพยำเกรงอีกฝ่ายก็ขาดผึงลงและเป็นสิ่งที่เขาเกลียดมากที่สุดเกลียดอย่างไหนก็มักจะได้อย่างนั้นจริงๆต่อให้ท่านประธานจะคิดทีเล่นทีจริงก็ช่างแต่มันเล่นกับความรู้สึกของคนมากเกินไปและเลขาอย่างเขาก็มักจะดึงดูดคนประเภทนี้อยู่เสมอทั้งๆที่คิดว่าตีหน้านิ่งไม่เล่นหูเล่นต
ตอนพักเที่ยงท่านประธานก็หนีบเลขาส่วนตัวอย่างเขามาทานอาหารที่ภัตตาคารโรงแรมหรู “นายคงไม่แพ้อะไรใช่ไหม”“ไม่ครับ”“ดี” ไอ้สีหน้าและแววตารวมถึงคางที่วางไว้บนมือประสานกันนั้นดูยังไงก็ไม่ได้มาดี“ตอนบ่ายสองมีนัดประชุมที่ห้องบอลลูมโรงแรม XX” “ฉันรู้แล้ว”อาหารที่บริกรมาเสิร์ฟเรียงรายตรงหน้าทำเอาความอยากอาหารของวินตราหายไปหมดเมื่อกี้เขาเปิดเมนูผ่านๆราคาเซตนี้ 8,000 บาทสำหรับสองท่านวินตราหั่นสเต๊กเข้าปากต่อมลิ้นไม่รับรสเท่าไหร่ไม่เหมือนท่านประธานที่สีหน้าดูแตกต่างจากเมื่อเช้าอย่างสิ้นเชิงมีความสุนทรีย์หากใช้สมองในการทำงานมากกว่าจะกลั่นแกล้งเลขาอย่างเขาก็คงจะดี เมื่อถึงเวลาเช็กบิลก็เป็นอย่างที่วินตราคิดเอาไว้แต่แรกเดนีสกอดอกมองเขาด้วยสีหน้าเยาะเย้ยแต่เพราะเตรียมพร้อมรับมือมาอย่างดีเลยหยิบ Black card จากกระเป๋าเสื้อออกมาส่งให้บริกร “ขอใบกำกับภาษีด้วยครับ” พร้อมกับค้อมหัวน้อยๆให้ท่านประธาน“ขอบคุณที่เลี้ยงนะครับ” เป็นรอยยิ้มที่เสียดสีและบาดตาของเดนีสเป็นอย่างมากตอนแรกเขายังมีรอยยิ้มแววตาขี้เล่นประดับเอาไว้อยู่บ้างแต่พอเห็นอีกฝ่ายหยิบบัตรของเขาออกมาแถมยังโบกมือน้อยๆนั่นแล้ว…“มันไปอยู่กับนาย
วินตรามักจะตอกบัตรเข้างานก่อนเวลาจริงสัก 30 นาทีเป็นประจำไม่ใช่ว่าขยันแต่เพราะบ้านไกลและภาระงานที่มากมายในแต่ละวันไม่ใช่เลขาส่วนตัวอย่างวินตราเพียงเท่านั้นที่มาทำงานเช้าปรียานุชเองก็เช่นกันเธอมีครอบครัวมีลูกวัยอนุบาลจึงต้องออกจากบ้านเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงรถติดจะได้ไม่กระทบกับงานทั้งสองคนทักทายกันเป็นปกติดังเช่นทุกวัน“สวัสดีครับคุณนุช”“สวัสดีค่ะคุณวินมาเช้าอีกเช่นเคยนะคะ”“คุณนุชก็เช่นกัน” วินตราตอบไปตามมารยาท “นั่นสิคะวันนี้ไม่รู้ท่านประธานมีงานด่วนอะไรหรือเปล่ามาถึงบริษัทตั้งแต่ 8 โมงเช้า” วินตราที่นั่งเคาะแป้นสองตาโฟกัสที่หน้าจอชะงักก่อนจะเลื่อนเก้าอี้มาสอบถาม“ท่านประธานอยู่ในห้องอย่างนั้นเหรอครับ”“ค่ะรปภ. บอกมา” “ขอตัวนะครับ” วินตราพูดเสร็จก็ลุกขึ้นหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะของตัวเองติดมือไปด้วยเคาะหน้าห้องเมื่อได้ยินเสียงอนุญาตก็เข้าไปทันทีวินตราเอ่ยทักทายทำความเคารพเหมือนเช่นทุกวัน“อรุณสวัสดิ์ครับ” “สวัสดีครับ” แต่ภาพที่เห็นทำเอาคุณเลขาแปลกใจอยู่ไม่น้อยกับถ้วยขนมหวานหลายถ้วยบนโต๊ะแถมในมือยังมีเอกสารที่เขาเขียนสรุปต่างๆให้ก่อนหน้าแม้จะแปลกใจกับท่าทางวันนี้แต่สายตาของวินตราก็พบกับคว
“พ่อครับแม่ครับอยู่ไหนครับ” ก่อนจะได้ยินเสียงแทรกเข้ามา“อย่าให้พ่ออยู่กับแม่ไม่งั้นแม่จะไม่สบาย”“หา” เดนีสหน้าตื่นก่อนจะแง้มประตูแอบฟังต่อ สามพี่น้องพยักหน้าให้กัน“จริงแม่จะเสียงแหบและบ่นปวดเอวแล้วก็มีรอยยุงกัดเยอะด้วย” สามพี่น้องปรึกษาหารือกันเหมือนกำลังคุยเรื่องโลกแตกวินตราหัวเราะน้อยๆในลำคอก่อนจะมองพ่อหมาที่เงี่ยหูฟังลูกๆคุยกันสมน้ำหน้า! “พ่อชอบเล่นกับแม่แรงๆสงสารแม่พวกเราต้องปกป้องแม่ให้พ้นจากเงื้อมมือพ่อ” สามพี่น้องชูกำปั้นใส่กันสักพักแม่บ้านและพี่เลี้ยงก็มาตามเพราะปู่ย่ามารับไปเล่นบ้านใหญ่สามคนดีใจใหญ่เพราะว่าจะได้เจอลูกพี่ลูกน้องอีกหลายคนก่อนจะเฮโลลงบันไดไปข้างล่างเดนีสหัวคิ้วกระตุกโพล่งด่าในใจ ‘ไอ้ลูกเวร’ ส่วนวินตราหัวเราะท้องแข็งอยู่ข้างหลังเขาเมื่อเดนีสปิดประตูห้องสนิทพร้อมกับสีหน้าไม่สู้ดี “มิน่าพักหลังถึงทำตัวเป็นปรปักษ์กับฉันขนาดนั้นที่ไหนได้!” เดนีสโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงแต่ภรรยาสุดที่รักกลับขำจนตัวงอสองตาแดงเรื่อเพราะว่าหัวเราะมากจนเกินไป“ขำมากหรือไง”“ฮ่าๆฮ่า” วินตรายังขำไม่หยุดก่อนจะอุ้มภรรยาทุ่มลงบนเตียงกว้างด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“อย่าหวังว่าคราวนี้จะรอด” “มะ
ส่วนวินตรากับเดนีสเองก็ถอนหายใจเช่นกันยังดีที่เดนอนอยู่อนุบาลสามส่วนแฝดพี่อีกคนอยู่คนละห้องไม่งั้นเรื่องราวคงวุ่นวายมากกว่านี้เป็นแน่พี่ชายทั้งสองหวงน้องสาวยังกะอะไรดีไม่น้อยไปกว่าพ่อหมาเลยนั่นคือเรื่องแรกแล้วก็มีเรื่องราวมากมายตามมาเป็นพรวนวีรกรรมสุดแสบที่ทำเอาวินตราหัวหมุนเป็นประจำโดยเฉพาะลูกชายคนโตที่ถอดแบบเขาออกมามากที่สุดวันนี้นัดกันว่าจะทานมื้อค่ำด้วยกันแต่เดนีสแวะไปเอาเค้กร้านโปรดที่เจ้าสามแสบชอบเลยช้ากว่ากำหนดการที่บอกเอาไว้ว่าจะตั้งโต๊ะอาหารหนึ่งทุ่มตรงแต่ตอนนี้ทุ่มครึ่งพ่อหมายังไม่เห็นแม้แต่เงาเดนอนวัยห้าขวบกอดอกรออยู่บนเก้าอี้ก่อนจะใช้นาฬิกาดิจิตอลของตัวเองต่อสายหาปลายทางวินตราเองก็นั่งรออย่างใจเย็นเช่นกัน“พ่อฮะจะกลับกี่โมงครับ” “อีกสิบนาทีถึงน่าไอ้ลูกชาย” “ระยะทางจากบริษัทถึงบ้านสามสิบห้าไฟแดงแต่ละแยกสองถึงสามนาทีถ้าขับด้วยความเร็วคงที่น่าจะกลับมาก่อนเวลาหนึ่งทุ่มตรงด้วยซ้ำ”“เฮ้! ไอ้ลูกหมาพ่อมีธุระนิดหน่อยตอนนี้จะถึงบ้านแล้วครับ” แม้น้ำเสียงตอนต้นจะติดโวยวายนิดหน่อยตามนิสัยของเจ้าตัวแต่พอเจอวินตราดุไปก่อนหน้าเลยอ่อนลงแต่ไอ้ลูกชายตัวดีเหมือนกำลังซักฟอกเขาเดนีสขุ่นเคือง
พอคลอดสองแฝดปุ๊ปคุณแม่ลูกสามอย่างวินตราก็ปิดอู่ทันทีอีกทั้งเดนีสเองก็ยินยอมพร้อมใจทำหมันเพื่อเป็นการให้คำมั่นสัญญาไปในตัวว่าเขาจะไม่ออกนอกลู่นอกทางจะรักแม่หมาเพียงคนเดียวไม่มีลูกนอกสมรสที่ไหนอีก!เดนอนวัยสองขวบเป็นพี่คนโตของสองแฝดชาย-หญิงซึ่งผู้ชายเป็น (New Male) เหมือนวินตราชื่อเดโนส่วนน้องเล็กเป็นเพศหญิงชื่อเดเลเนเป็นรุ่นหลานสามเดอ้อ…ห้าเดถ้านับลูกสาวของเดนิมที่ชื่อเดล่าและลูกชายชื่อเดโลเข้าไปด้วยเมื่อเด็กห้าคนมารวมตัวกันเมื่อไหร่ผู้ใหญ่ก็มักจะปวดหัวทุกทีคุณปู่คุณย่าก็พลอยหมั่นดูแลสุขภาพเพราะลูกชายคนสุดท้องอย่างเดนีนก็แว่วๆว่ากำลังจะมีหลานตัวน้อยให้ศศิภักดีเองเช่นกัน วินตราทำหน้าที่ของผู้บริหารและแม่ที่ดีได้อย่างไม่มีบกพร่องและสร้างสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานสำหรับแม่ลูกอ่อนด้วยกลายเป็นว่าบริษัทในเครือศศิภักดีต่างเป็นบริษัทที่คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ต้องก็อยากจะตบเท้าเข้าทำงานและฝากชีวิตไว้ที่นี่กันทั้งนั้นเพราะผู้บริหารคำนึงถึงพนักงานเป็นหลักจึงทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีต่อทุกเพศสภาพและทุกสถานะ ตอนนี้พวกเขาย้ายออกมาอยู่บ้านใหม่ที่ไม่ไกลจากบ้านใหญ่คุณปู่คุณย่าไปหาได้สะดวกและฝากหลานได้สะดวกเช่น
“อื้อ” ความจริงเดนีสอยากจะถ่ายภาพนี้ของวินตราเอาไว้ แต่เขาก็กลัวว่าจะหลุดออกไป จึงทำได้เพียงบันทึกภาพสุดแสนอีโรติกนี้เข้าสู่สมองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อวินตรากระตุกเขาก็อมยิ้มดึงหางแมวออกดังเปาะ ก่อนกิจกรรมจะเริ่มวินตราได้ปูเตียงด้วยผ้าที่สั่งซื้อพิเศษ กันน้ำ พวกเขาเลยสามารถทำกิจกรรมเข้าจังหวะอย่างว่าได้สนุกสุดเหวี่ยง เมื่อช่องทางหลังขยายได้ที่แล้ว เดนีสก็ส่งลิ้นร้อนเข้าไปแหย่รูนั้นที่หุบอ้า ๆ อย่างเชื้อเชิญ แลบเลียช่องทางเหมือนเลียไอศกรีมรสโปรด ตวัดลิ้นเร็วช้าสลับกันตามแต่ใจจะนำพา วินตรากระเถิบตัวหนี ไม่ไหว! เขาเสียวแทบขาดใจ แถมเสียงครวญครางก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับอารมณ์วาบหวามที่กำลังพุ่งขึ้นสูงทุกวินาที แถมพ่อหมายังยกซดน้ำหวานจากช่องทางเหมือนตายอดตายอยาก วินตราเขยิบหนีครางเสียงกระเส่า“มะไม่ไหวอะ” ร่างกายเกร็งกระตุกส่วนหน้าหลั่งออกมาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วหน้าขาและผ้าปูที่นอนแถมพ่อหมายังไม่หยุดระรัวลิ้นอีกวินตราหันไปกระชากผมที่เอาแต่ซุกก้นของเขาอย่างหื่นกระหายให้เงยหน้าขึ้นมา“เข้ามาได้แล้ว” เดนีสยันเข่าข้างนึงกับเตียงจับบั้นเอวนั้นที่แอ่นเชื้อเชิญเขาอย่างน่ารักค่อยๆสอดใส
ทางด้านเดนีสหลังจากทานมื้อเย็นกับพวกห้าสิงห์เขาก็แวะไปเอาของเล่นที่สั่งไว้เพื่อมาเล่นกับภรรยาโดยเฉพาะแต่รถดันติดเสียนี่…มาช้าเป็นชั่วโมงทั้งๆที่นัดกันดิบดีพอมาถึงห้องก็ต้องแปลกใจที่ข้างในมืดสนิทเดนีสเปิดไฟก่อนจะหอบกล่องอย่างทุลักทุเลเข้าไปในห้องนอนของตัวเองพร้อมกับเตรียมจะจ๊ะเอ๋แม่หมากลับกลายเป็นว่าแม่หมาหลับไปแล้วซะงั้น…เพราะแบบนี้เลยเปลี่ยนแพลนกะทันหันย่องเบาเหมือนแมวหนีไปอาบน้ำยังไงก็ต้องได้กินของหวานแหละน่าเดนีสผิวปากอาบน้ำขัดตัวอย่างสบายใจเฉิบพอเขาออกจากห้องนำ้มาเท่านั้นแหละ…เรนเดียร์ตัวน้อยที่แกล้งหลับกำลังหันมามองเขาด้วยสายตาทรงเสน่ห์อย่างล้นเหลือเรียวปากยังชุ่มฉ่ำไปด้วยลิปกลอสนั่งขาแบะเป็นตัวเอ็มหันหลังให้เขานั้น…เดี๋ยวก่อนนะก็ว่าละทำไมภาพนี้มันคุ้นๆโปสเตอร์นั้นรูปเมียรักเขานี่เองให้ตายจะบอกไอ้พวกนั้นไม่ได้เด็ดขาดจะได้ลืมๆไป “วินตรา!” เดนีสตะโกนเสียงเข้ม“อย่าบอกว่านายแบบคือนาย”“ใช่” เดนีสอ้าปากค้างก่อนจะสาวเท้าไปหาคุณภรรยากระโดดทับด้วยความหึงหวง “อะไอ้บ้าเจ็บ” “เจ็บสิจะได้จำ” เดนีสขบย้ำๆที่หัวไหล่มนอย่างมันเขี้ยวตอนนี้แม่หมาสวมเพียงเกาะอกแดงตัวจิ๋วที่กระชากนิดเดียวก็คงจะ
“ทำได้ทำได้แน่นอนฉันจะไม่สปอยลูกอีก” มือขวายกสามนิ้วแต่มือซ้ายกลับไขว้กากบาทอยู่ด้านหลังพอเห็นเมียรักไม่พูดอะไรก็ปรี่เข้าไปคลอเคลียขอความเห็นใจทันที“ฉันรู้ฉันผิดเอาเป็นว่าวันหลังจะไม่แอบให้ขนมอีกถ้าลูกหิวต้องหิ้วท้องรอเพราะไม่ทำตามกติกากลุ่มโอเคไหม?” วินตรากอดอกเหลือบตามองอย่างคาดโทษก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ “เด็กคนหนึ่งกว่าจะโตต้องเลี้ยงทั้งหมู่บ้านต้องเคารพกติกากลุ่มลูกเรามักน่ารักสำหรับเราเสมอแต่ใช่ว่าจะน่ารักสำหรับคนอื่นที่สำคัญหากไม่สอนให้เขาเคารพกฎหมู่กฎระเบียบเล็กๆน้อยๆพวกนี้จะสอนเขาเมื่อไหร่?”“ฉันรู้ๆฉันผิดไปแล้ว” พ่อหมาแทบจะกราบกรานเขย่าแขนเมียตัวเองขอความเมตตา “วันหลังฉันจะให้ตายตัดสินจะถามนายก่อนโอเคไหม” วินตราถอนหายใจก่อนจะสงบสติอารมณ์“วันหลังห้ามทำอีก” “ฉันจะจำไว้และจะไม่ทำอีก” ก่อนจะเข้าไปจุมพิตกระหม่อมภรรยาโอบกอดหลวมๆแม้ปากจะบอกว่าเข้าใจแต่สุดท้ายพ่อหมาก็คือพ่อหมาต่างก็ขบคิดหาวิธีที่ไม่ให้แม่หมาจับได้กลยุทธ์แพรวพราวมากขึ้นกลายเป็นถือหางลูกชายสุดๆในอีกยี่สิบกว่าปีให้หลังมีเพียงใบหน้าและแววตาที่เหมือนผู้เป็นแม่แต่นิสัยใจคอเหมือนรวมเอายีนด้อยและเด่นของพ่อแม่เข้าด้วยกั
ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมาจวบจนแต่งงานมีพยานรักงานวันเกิดของเดนีสอีกฝ่ายไม่เคยเรียกร้องอะไรจากวินตราเลยมีแต่วันเกิดของเขาที่พ่อหมาตั้งใจรังสรรค์ออกมาอย่างใจป้ำโดยให้เหตุผลว่า“ฉันมีวันเกิดที่ดีมาเสมอทุกปีต่อแต่นี้ขอให้นายมีความสุขมีวันเกิดที่ดีในทุกๆปี” แม้ว่าภายในงานจะเรียบง่ายแต่ตราตรึงในใจของวินตราทุกครั้งกลับจากทำบุญสถานสงเคราะห์ต่างๆก็ไปวัดทำบุญถวายเพลอุทิศกรวดน้ำให้กับพ่อแม่ผู้ล่วงลับแต่ในปีนี้วันเกิดสามีของเขาวินตราก็อยากจะเซอร์ไพรส์และให้ของขวัญที่ดีที่สุดเพื่อตอบแทนความรักดีๆที่สามีมอบให้เสมอมา วินตราเคลียร์ตารางตัวเองอีกทั้งเจ้าลูกหมาตัวน้อยก็อายุสิบเดือนกำลังตั้งไข่ฝึกเดินเกาะไปทั่วคอกกั้นเด็กที่สั่งทำพิเศษดูท่าจะได้ความแสบซนจากพ่อหมามาไม่น้อยแถมยังฉีกยิ้มหวานสองซี่ให้อีกต่างหาก “มาม่า”“ครับ” วินตราอุ้มลูกชายที่ร้องเรียกตอนนี้เดนอนกำลังฝึกออกเสียงสองพยางค์และรู้ความหมายของศัพท์มากขึ้นแล้ววินตราจะไม่ใช้ภาษาเด็กคุยแต่จะพูดคุยเหมือนกับว่าเดนอนเป็นผู้ใหญ่อีกคนหนึ่งเพียงแต่ว่าพูดช้าๆชัดๆเพื่อให้เด็กน้อยเข้าใจภาษาที่สื่อและสอดคล้องกับภาษากายที่กำลังแสดงอีกทั้งเจ้าหมาน้อยยังเลี้ยงง่
“อื้อ อะ” เสียง ตับ ๆ ของแก้มก้นที่ถูกหน้าขาโบยตี เสียงเฉอะแฉะของน้ำลายที่สองปากกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม ก่อนจะพากันไปแตะฝั่งฝัน สองร่างเกร็งกระตุกก่อนจะพากันทะยานไปถึงฝั่งพร้อมกัน วินตราหอบหายใจเหนื่อย สองขาสั่นเทา เดนีสเองก็เช่นกัน ก่อนจะวางขาลงแต่ช่วงล่างที่สอดประสานกลับคาเอาไว้เพื่อรอให้เมล็ดพันธ์ุหลั่งออกมาทุกหยาดหยด เขาฟุบหน้าลงบนซอกคอขาวที่ทั้งหอมและน่าขย้ำให้เลือดกระฉูด ได้แต่เพียงดอมดมสูดกลิ่นอายของภรรยาเข้าไป แม้ในใจอยากจะฝากร่องรอยสีกุหลาบเอาไว้แค่ไหนก็ตาม เพราะวินตราหน้าบาง เดนีสเลยเลือกที่จะแต่งแต้มร่างกายที่ขาวเหมือนน้ำนมแพะตามร่มผ้า โดยเฉพาะป้านนมที่มีรอยฟันของเขาประทับเอาไว้เป็นวงกว้าง ต่อให้พรุ่งนี้จะโดนเมียรักเฉ่งจนหูดับก็คุ้มค่า“เอาออกไปได้แล้ว” วินตราว่าพลางดันตัวหมายักษ์ที่นอนทับเขาแทบหายใจไม่ออก“อุ่นขนาดนี้ขอต่อเวลาอีกหน่อย”“หมดเวลาแล้ว”“ใจร้ายกินฉันแล้วถีบหัวส่งเลยนะ” ฝ่าเท้ากำลังจะทำท่าถีบเอวสอบที่เริ่มขยับเบาๆ “เดี๋ยวถุงก็แตกหรอก”“ถ้าแตกฉันจะตั้งทนายฟ้องเลยเอ้า” “ไอ้บ้า” วินตราเอ็ดเบาๆ “นี่ฉันถามไอ้หมอหัสดินมาแล้วหลังคลอดช่วงที่ให้นมยังไม่มีประจำเดือนไม
วินตราไม่รู้ว่าความรักของเราจะมีวันหมดอายุหรือเปล่า แต่ผู้ชายคนนี้ขยันเติมหยอดความหวาน ความรักให้เขาไม่รู้จักเบื่อ การมีเพื่อนคู่คิด มีคนนอนเป็นเพื่อนมันดีกว่าอยู่คนเดียวจริง ๆ ผู้ชายคนนี้เป็นแสงสว่างนำทางเขาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แม้ว่าบางครั้งจะบ้า ๆ บอ ๆ ก็เถอะ แต่สำหรับวินตราตั้งแต่เขาได้มาเจอกับผู้ชายคนนี้ชีวิตก็มีสีสันขึ้นมาทันตา และความสุขที่คิดว่าไม่มีอยู่จริงก็อยู่ตรงหน้าในทุก ๆ วัน พร้อมกับลูกน้อยที่เขารักที่สุด และสัญญากับตัวเองว่าจะเป็นแม่ที่ดี ไม่ทำให้ลูกน้อยต้องมีแผลใจเหมือนอย่างตน สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์พูนสุขไปด้วยกันตราบนานเท่านานพ่อหมาทำตัวดีขนาดนี้จะไม่ให้รางวัลได้ยังไง!รถยนต์มาจอดบนเขาลานจอดรถโล่งกว้างแต่กลับไม่มีรถคันอื่นสักคันเบื้องล่างเป็นภาพวิวของชานเมืองแสงสว่างเหลืองอร่ามของบ้านเรือนรถราแสงเหลืองส้มไหลติดกันเป็นเส้นเดียววินตราจอดรถเดนีสเองก็ถามด้วยความสงสัยปกติแม่หมาเลิกงานแทบจะเหยียบมิดไมล์เพื่อรีบกลับไปหาเจ้าก้อนแต่ไหงวันนี้มาแปลก“มีอะไรหรือเปล่า” เดนีสเลียบเคียงถามวินตราปลดเนกไทตัวเองช้าๆเดนีสลอบกลืนน้ำลาย“ชวนมาดูดาว” เดนีสหูตั้งแต่ยังคงรักษาท่าทีร