นธี หนุ่มเย็นชาแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ เขาปากแข็งและนิ่งจนไม่มีใครคาดเดาความรู้สึกได้ พูดน้องแถมหน้านิ่ง แต่กลับอบอุ่นและแสนดีกับใครบางคนที่เขา 'รัก' มาเนิ่นนาน นิเนย สาวน้อยนักศึกษาปี 1 ที่หนีครอบครัวสุดแสนใจร้ายมาอยู่เพียงลำพัง อดีตเธอถูกแม่เลี้ยงและลูกชายต่างแม่รังแก พ่อยังไม่สนใจใยดี ทว่าตอนนี้ เธอกลับมีเขาเป็นเหมือนที่รัก ที่พักใจ พี่ชายของเพื่อนสนิทคนนี้แหละที่เธออยากยกทั้งตัวและหัวใจให้เขา ********** เขียนโดย Secret L. นิยายเรื่องนี้อยู่ในเซตวิศวะ มีทั้งหมด 4 เรื่องค่ะ เรื่อง ดวงใจทศกัณฐ์ พี่ทศกัณฐ์ + น้องญานิน แนวแฟนเก่า เรื่อง ซ่อนรัก พี่นธี + นิเนย ผู้ชายเย็นชาคลั่งรักหนักมาก เรื่อง ห้ามรัก พี่คิว + เตยหอม แนววันไนท์ แต่ติดใจจนต้องตามง้อ เรื่อง เมียวิศวะ พี่ฮ้องเต้ + น้องใบชา แนวรักข้างเดียว พระเอกรู้ตัวช้า สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ช่องทางการติดต่อนักเขียน Facebook fan page: Secret L./พลอยแพรวา
View MoreSpecial lตอนนี้ฉันอยู่ปีสองส่วนพี่นธีก็อยู่ปีสี่แล้วจึงวุ่นวายกับการทำโปรเจ็กต์ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังต้องเจอกันทุกวันนอนด้วยกันทุกคืนเพราะถือว่าเราคือชีวิตประจำวันของอีกฝ่ายไปแล้วพี่นธียังคงเป็นคนน่ารักของฉันเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นอกเสียจากเรื่องที่เขาพูดมากขึ้นและเปิดเผยสิ่งที่คิดในใจมากกว่าเดิมหลายเท่า"ปุยนุ่น มากินข้าว.." ฉันเรียกปุยนุ่นด้วยการเทอาหารเม็ดใส่ถ้วยของมัน พอได้ยินเสียงมันก็รีบวิ่งมาทันที ก่อนจะค่อย ๆ ละเมียดละไมกินอาหารในถ้วยที่มันเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวอย่างสบายใจเมี้ยว ~ ครืด ~ ครืด ~"คะ" (ยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม) เสียงของพี่นธีดังขึ้นมาจากปลายสาย พอหันไปมองนาฬิกาก็เป็นเวลาเกือบทุ่ม เขาคงกำลังจะกลับเพราะทุกวันที่เขาทำงานในคณะกับเพื่อนตัวเองมักจะกลับห้องเวลานี้ตลอด"ยังค่ะ เนยรอกินกับพี่"(โอเคครับจะรีบกลับ) แล้วเขาก็กดวางสายไปปล่อยให้ฉันยิ้มกับโทรศัพท์มือถือของตัวเองอยู่คนเดียว น่าแปลกที่เจอกันทุกวันแต่ก็ยังมีความสุขที่แฟนตัวเองโทร.หาและพูดคุยด้วยประโยคทั่วไปครืด ~ ครืด ~พอพี่นธีวางสายไปญานินก็โทร.เข้ามาต่อ ช่วงนี้มันดูกังวลเรื่องแฟนตัวเอง คิด
EP.49"ง้อแค่เนี้ย !" เขาพูดเสียงสูงด้วยความไม่พอใจแต่ก็ขยับตัวมาคร่อมฉันไว้บนเตียง"แค่นี้อะไร เนยง้อตั้งแต่ออกจากบ้าน""..." เขาทำหน้ามุ่ยแล้วก็ค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมาก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาพูดใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจที่พ่นรดลงมาบนแก้ม "พูดแล้วนะว่าจะมานอนกับพี่""อะไรกัน พี่นธีบอกแล้วนะว่าไม่ต้องมา""เมื่อกี้แค่ประชด" ยอมรับว่าตัวเองประชดอีก"ลงไปกินข้าวได้แล้วผู้ใหญ่รอเรานะ" ฉันพยายามเบี่ยงตัวลุกขึ้นแต่อีกคนก็ล็อกไว้อย่างเดิม แล้วยังเอาจมูกมาคลอเคลียแก้มและลงไปซุกไซ้ซอกคออีก "อื้อ... พี่นธี เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัย""คิดถึง" เขาไม่ฟังที่ฉันพูดเลยสักนิดเดียวเลื่อนใบหน้าขึ้นมาแล้วระดมจูบฉันอีกยกใหญ่ จากที่ทีแรกขัดขืนก็ต้องคล้อยตามจูบตอบเขาไป จนผ่านไปเกือบห้านาทีก็ได้ยินเสียงญานินโวยวายอยู่ข้างนอกฉันจึงรีบดันตัวพี่นธีออกทันทีคราวนี้เขายอมแต่โดยดี คงพอใจแล้วแหละ"แม่บอกให้ลงไปกินข้าว..." ยัยนินลากเสียงยาวแล้วเคาะห้องเบา ๆ เราสองคนจึงรีบลุกจากเตียงแล้วเปิดประตูออกจากห้อง "โอ๊ย ! อะไรของพี่เนี่ย !""..." พอเดินออกไปพี่นธีก็เอามือผลักหัวน้องตัวเองจนเซแล้วเดินเบี่ยงตัวออกไปเหมือนไม่พอใจที่ญานินมาข
EP.48"ฉันเกลียดผัวแก" พอใบเฟิร์นพูดจบฉันก็หันไปคาดโทษพี่นธีเพราะเขาชอบพูดให้คนอื่นรู้สึกแย่อยู่นั่นแหละ"แค่ล้อเล่นเอง" พี่นธีบอกใบเฟิร์นแล้วก็ทำหน้านิ่งแต่สุดท้ายก็อมยิ้มออกมา ยัยนั่นถึงได้โล่งใจเพราะคงคิดว่าจะได้เกลียดพี่นธีจริง ๆ คราวนี้"เนยแค่ใส่อันนี้ถ่ายรูป เดี๋ยวจะสวมตัวนี้ทับแล้วค่ะ" ฉันบอกพี่นธีก่อนจะหยิบเสื้อว่ายน้ำแขนยาวมาสวมทับ จนพี่นธีพอใจแล้วยอมยิ้มออกมา"ไปเล่นเครื่องเล่นกันเถอะ" ใบเฟิร์นชวนแล้วเดินนำเราไป ตอนนี้ญานินเลิกบ้าแล้ว จริง ๆ มันก็คงจะแค่แกล้งเล่นนั่นแหละ ยัยนินไม่ใช่คนที่จะงี่เง่าเป็นเด็กแบบนั้น"อันนี้เนยไม่เล่นนะ เนยกลัว" ฉันบอกแล้วก้าวถอยหลังมองเครื่องเล่นขนาดใหญ่ที่ดูหวาดเสียวนั่น"มาทั้งทีเล่นเถอะ" ว่าแล้วยัยใบเฟิร์นก็ลากแขนฉันขึ้นไปด้านบนสุดก่อนจะบังคับนั่งห่วงที่นั่งกันได้สี่คน รับรู้ได้ว่าหัวใจมันเต้นแรงแทบจะหลุดออก"ถ้าฉันหัวใจวายตายแกรับผิดชอบนะ" ฉันพูดแล้วจับมือพี่นธีกับมือยัยใบเฟิร์นอีกฝั่งไว้แน่น"แกไม่ตายหรอก คิดไว้ว่าถ้าตายพี่นธีจะมีเมียใหม่แกก็ไม่ตายแล้ว" ยัยใบเฟิร์นพูดจบพี่นธีก็หัวเราะออกมาเบา ๆ "พี่ !! ปล่อยเลยค่ะ""กรี๊ด !!" ฉันกรีดร้อง
EP.47"พี่ไม่ได้อยากกินเบียร์" เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาพูดพร้อมกับดึงฉันลงไปนั่งคร่อมท่าเดิมแต่ครั้งนี้เราเปลือยเปล่าทั้งคู่ "อยากกินนมเมียมากกว่า"ฉันขำออกมากับคนหน้านิ่งที่ตอนนี้มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาแล้วยังคำพูดที่ดูไม่เหมาะกับพี่นธีอีก"ได้ค่ะเดี๋ยวเนยป้อนให้" ฉันขยับตัวขึ้นแล้วป้อนนมให้เขา สายตาพี่นธีเหมือนจะระทึกกับสิ่งที่ฉันทำไม่น้อย"อื้อ ~""อื้ม ~ เนย..." เสียงครางดังในลำคอเล็ดลอดออกมา ขณะที่เจ้าตัวเอาแต่ดูดเลียจนอกอวบคู่งามของฉันเต็มไปด้วยน้ำลายมันวาวทั้งสองข้าง เขาใช้มือประคองมันเข้าปากสลับไปมาอีกข้างบีบขยำฟ้อนเฟ้นเบามือจนเรียกความต้องการจากฉันมากขึ้นเรื่อย ๆฉันขยับมือไปกำรอบแกนกายใหญ่บีบเบา ๆ นวดคลายเป็นจังหวะแล้วชักรูดขึ้นลงจนพี่นธีต้องผละริมฝีปากออกครางเบา ๆ"เนย... พี่จะตายแล้ว ซี้ด ขยับมา" เขารีบเร่งเร้าฉันจึงตอบสนองด้วยกายจับแกนกายจ่อกับช่องทางรักที่เปียกชื้นแล้วขยับตัวนั่งลงจนมันเลื่อนเข้ามาสุดความยาว สร้างความเสียววาบหวามตรงช่วงท้องน้อย ภายในบีบรัดตัวตนของเขาอย่างพอใจ"เนยจะทำให้พี่มีความสุขนะคะ" ฉันยิ้มแล้วดันแผงอกของคนตัวโตกว่าจนเขาทิ้งตัวพิงกับโซฟา เรียกร้อยย
EP.46หลายเดือนต่อมา"พี่นธี... กับข้าวพร้อมแล้ว" ฉันเดินไปหาคนที่กำลังแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาอยู่ตรงกระจก ก่อนจะหยิบเอาเน็กไทที่มีเข็มกลัดมหาวิทยาลัยติดสวมให้เขาอย่างเอาใจ ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นเขาแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาถูกระเบียบแบบนี้"ขอบคุณครับ" คนพี่พูดเพราะแล้วส่งยิ้มเล็ก ๆ มาให้"วันนี้สอบเสร็จกี่โมงคะ" "สอบวิชาเดียว เที่ยงก็กลับมาแล้ว เนยสอบถึงสี่โมงใช่ไหมเดี๋ยวพี่ไปรับ" เขาพูดแล้วโน้มลงมาจุ๊บแก้มฉันพร้อมกับรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่มีแค่ฉันเท่านั้นที่จะเห็นมันบ่อย ๆ"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเนยมากับเฟิร์นก็ได้"เขาเปลี่ยนสรรพนามเรียกฉันแล้วด้วย แทนตัวเองว่าพี่จนฟังดูอบอุ่นและใกล้ชิดกันมากขึ้น บางทีอากาศดี ๆ อารมณ์ดี ๆ ก็เรียกฉันว่าน้องเนยอีกต่างหาก น่ารักใช่ไหมล่ะพี่นธีไม่เคยขอฉันเป็นแฟนและเขาไม่เคยบอกรักฉัน มันอาจจะดูน่าน้อยใจเมื่อใครต้องเจอแบบนี้แต่ฉันว่ามันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับการกระทำที่อีกฝ่ายมีให้เขาดีกับฉันทุกอย่างจนฉันลืมไปแล้วว่าเขาเคยร้ายกับฉันครั้งหนึ่ง'อันนี้ของนิเนย กินไม่ได้เดี๋ยวตื่นมางอนกูอีก กูง้อไม่เก่งนะไอ้คิว มึงวางลงเลย''เดี๋ยวกูถามเมียก่อนว่าให้ไปไหม''จะมีใค
EP.45หลายวันต่อมาหลังจากวันนั้นฉันก็อยู่เฝ้าพ่อตัวเองอีกสองวันจนหมออนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล พี่นธีบอกให้พ่อฉันไปพักอยู่คอนโดมิเนียมที่แม่ของเขาซื้อเอาไว้ปล่อยเช่าเพราะเป็นห่วงความปลอดภัย เนื่องจากคู่กรณีของเราเป็นคนที่ค่อนข้างมีอิทธิพลพ่อของพี่นธีรู้จักกับพ่อฉันแค่ไม่ได้สนิทกันแต่ก็พอที่จะช่วยเหลือกันได้ ยิ่งตอนนี้พวกท่านคิดว่าฉันกับพี่นธีคบกันอยู่ด้วยพ่อแม่ของพี่นธีรู้จักฉันดีเพราะฉันคบกับญานินมานานและแวะเวียนไปที่บ้านบ่อย ๆ เรื่องของเราจึงไม่เป็นคำถามสำหรับพวกท่านนัก"พ่อแกหายดีแล้วใช่ไหม" ใบเฟิร์นถามขึ้นมาตอนที่ฉันกำลังเข้าห้องเรียนและหย่อนสะโพกลงนั่งเก้าอี้"อืม ดีแล้ว""เรื่องคดีล่ะ" ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้ใบเฟิร์นฟังแล้ว ส่วนญานินไม่ต้องเล่ายัยนั่นก็รู้"เรื่องนั้นพี่นธีจัดการ ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เลย" ฉันบอกไปตามจริงเพราะไอ้ที่พี่นธีพูดเป็นฉาก ๆ ไม่เข้าสมองฉันเลย"มีผัวดีก็ดีไป" ใบเฟิร์นพูดออกมาอย่างขำ ๆ สักพักญานินก็มา และตามหลังด้วยอาจารย์บทสนทนาจึงจบลง"ไปกินคณะบริหารไหม มีคนบอกให้ไปลองชิมร้านก๋วยเตี๋ยวขลุกขลิก" ญานินเอ่ยแล้วรีบเก็บของตัวเอง "คนที่ว่านั่นพี่ทศกัณฐ์
EP.44วันต่อมาวันนี้ฉันกลับมาบ้าน บ้านที่เคยเป็นบ้านของตัวเอง เพื่อมาเอาของใช้บางส่วนและเสื้อผ้าของพ่อ"อะ อ้าว น้องเนย กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่" พอก้าวเข้ามาในบ้านไอ้วีก็เสนอหน้าออกมาต้อนรับทันที ในมือถือซองบุหรี่กับไฟแช็ก ในบ้านคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นบุหรี่จากคนตรงหน้า"หลบไป !" ฉันถลึงตาใส่มันอย่างไม่เกรงกลัวแต่มันกลับยิ้มเยาะแล้วเบี่ยงตัวหลบพร้อมกลับผายมือให้ฉันเดินเข้ามาในบ้านที่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างที่คุ้นตาตอนนี้มันหายและย้ายที่ไปเกือบหมด"รูปแม่ฉัน ใครเอาไปไหน" ฉันเดินไปที่ชั้นวางที่เคยมีรูปแม่วางอยู่ ก่อนจะตวัดสายตาไปมองไอ้วีที่เดินยิ้มตามมา "ไม่รู้" วีพูดเหมือนไม่ใส่ใจพร้อมกับยักไหล่ขึ้น"พวกแกเอารูปแม่ฉันไปไว้ไหน บอกมา !" "เอะอะโวยวายอะไรกัน" แล้วเสียงของผู้หญิงที่ชื่อบัวก็ดังขึ้นฉันจึงตวัดสายตาไปมอง ยัยป้านั่นแสยะยิ้มออกมาแล้วทักทาย "ว่าไง เธอมีอะไร""ฉันมาเอาของของฉัน" พูดจบฉันก็เดินเบี่ยงตัวผ่านสองแม่ลูกไป แต่ยัยป้านั่นกลับกระชากแขนฉันกลับ "ทุกอย่างในบ้านนี้ไม่ใช่ของแก""..." ฉันยิ้มออกมาก่อนจะผลักอกมันจนยอมปล่อยมือออก "หน้าด้าน"พูดจ
EP.43"ป้าพิน !""เนย มาแล้วเหรอลูก"ฉันเดินเข้าไปกอดผู้เป็นป้าหลังจากที่ไม่ได้เจอกันเกือบปีด้วยความคิดถึง"สวัสดีครับ" พี่นธีเอ่ยและยกมือไหว้ป้าฉันอย่างมีมารยาท ท่านจึงพยักหน้าแล้วส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร"พ่อล่ะคะ" "หมอกำลังตรวจเอกซเรย์สมองกับกระดูก แต่คงไม่มีอะไรอันตรายแล้วละ ที่ตกบันไดเพราะความดันต่ำแล้วหน้ามืดน่ะ ตอนป้าไปเจอคงจะหลังจากตกลงมาไม่นานพอดี" ป้าอธิบายให้ฟังขณะที่ฉันบีบมือท่านเอาไว้จนชุ่มเหงื่อแต่พอได้ยินว่าไม่อันตรายมันก็รู้สึกดีขึ้น"เนย บอกป้ามาได้ไหมว่าโกรธอะไรพ่อเรา" ป้าพินขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นอย่างสงสัย"..." ฉันเม้มปากเข้าหากันเพราะความลังเล ไม่รู้ว่ามันควรจะเล่าดีหรือเปล่า พอหันไปมองพี่นธีที่ยืนอยู่ห่างกันออกไปเขาก็มองมานิ่ง ๆ"เดี๋ยวจะลงไปเอากุญแจรถ มีคนเอารถมาให้แล้ว" เขาคงให้คนที่บ้านเอารถมาให้ใช้ละมั้ง"ค่ะ พี่ไปพักผ่อนอยู่ที่บ้านก็ได้นะ อย่ามาลำบากเลย ที่นี่คนเยอะ" ฉันบอกพี่นธีแล้วยิ้มเล็กน้อยทั้งที่ขอบตายังมีน้ำหยดเล็ก ๆ เกาะเต็มไปหมด"เดี๋ยวมา" เขาบอกแล้วหันหลังเดินออกไปหลังจากพี่นธีออกไปฉันก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ป้าพินฟัง ท่านดูตกใจไม่น้อยที่ฉันเจอแบบนั
EP.42"คิดถึง"นัยน์ตาสีน้ำตาเข้มจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของฉันราวกับจะสะกดให้ยินยอมเขาทุกอย่าง และมันได้ผลเพราะฉันไม่สามารถละสายตาไปจากใบหน้าของเขาได้เลย"..." เขาจูบลงมาอีกครั้งอย่างหนักหน่วง ย้ำคำว่าคิดถึงให้มันชัดเจนยิ่งขึ้น ก่อนที่จะช้อนร่างของฉันไปบนเตียงและปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเราทั้งคู่จนเปลือยเปล่าต่อกันการไม่ได้มีอะไรกันเป็นเวลาครึ่งเดือนทำให้ฉันรู้สึกกระดากอายเล็กน้อย ไหนจะเรื่องที่เราทะเลาะกัน และคำพูดดี ๆ รอยยิ้มที่เขามอบให้มันทำให้รู้สึกราวกับว่ามันคือครั้งแรกจนต้องนั่งขดตัวปิดบังความเป็นสาวของตัวเอง ขณะที่อีกคนกลับยิ้มมุมปากอย่างพอใจแล้วดึงตัวฉันไปนั่งบนตักของเขาโดยที่เราหันหน้ามาเผชิญกัน"พี่ไม่เช็ดผมแล้วเหรอ อ๊า..." เหมือนเขาไม่ได้สนใจคำพูดของฉันเท่าไร เพราะสิ่งที่เขาสนใจคือความนุ่มหยุ่นเบื้องหน้า เขาจูบและลูบไล้ไปทั่วเนินอกขณะที่มือยังคงบีบขยำอกคู่งามเอาไว้เป็นจังหวะ สัมผัสจาบจ้วงหนักหน่วงแต่ไม่รุนแรงอย่างที่ฉันกลัวร่างกายของฉันตอบสนองสัมผัสของเขาได้เป็นอย่างดี สร้างความเปียกชื้นจนรู้สึกได้เต็มเรียวขาเนียนที่มีมือใหญ่อีกข้างหนึ่งเคล้นคลึงขยับมากลางกาย สอดนิ้วเข้าออกเร
EP.1"โต๊ะเก้า ช้างโปร น้ำแข็งเล็กหนึ่งค่ะ" ฉันบอกกับพี่เบสพนักงานจัดออเดอร์แล้ววางรายการในตะกร้า รอไม่นานของที่แจ้งไว้ก็ถูกยื่นออกมาจากช่องรับของขนาดกว้างเมตรกว่าพร้อมกับรอยยิ้มหวาน ๆ ของคนที่อยู่ด้านใน"ขอบคุณค่ะ"เครื่องดื่มที่ลูกค้าสั่งถูกวางไว้บนโต๊ะก่อนที่ฉันจะเดินไปหยิบน้ำแข็งถังเล็กมาให้อีกรอบ จากนั้นจึงค่อย ๆ เทเครื่องดื่มให้กับลูกค้าผู้ใหญ่วัยทำงานที่มีเพื่อนทั้งผู้หญิงและผู้ชายร่วมโต๊ะเดียวกันราวหกคน"น้องเนยบริการโต๊ะสิบสองหน่อย" เสียงจากพี่ปายผู้จัดการของร้านเอ่ยปากบอกตอนที่กำลังเดินไปประจำจุดของตัวเองเพื่อรอให้บริการลูกค้าในร้านร้านนี้เป็นสถานบันเทิงที่ค่อนข้างอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยพอสมควร เหตุผลที่ฉันเลือกมาทำงานเสริมที่นี่ก็เพราะไม่อยากเจอเพื่อนและคนรู้จักที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ซึ่งร้านนี้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน จึงมีโอกาสน้อยมากที่จะเจอเพื่อนในมหาวิทยาลัยเพราะฉันยังเรียนอยู่ปีหนึ่งการหางานทำช่วงกลางวันจึงเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรเนื่องจากติดกิจกรรมอะไรหลายอย่าง ทั้งรับน้องคณะ รับน้องสาขา ไหนจะกิจกรรมชมรมที่นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถูกบังคับให้ต้องเข้าร่วมทุกคน...
Comments