EP.3
ปัจจุบัน
"พี่นธี เนยขอติดรถไปข้างนอกด้วยได้มั้ย" ฉันมองเขาด้วยแววตาแห่งการร้องขอ ซึ่งเขาอาจจะไม่เข้าใจว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น
"อือ" พูดจบเขาก็หันไปทางไอ้พี่วีแล้วบอกเสียงเรียบ "กูไปก่อนนะ"
"เดี๋ยวพี่ไปส่งก็ได้น้องเนย ไม่ต้องไปรบกวนคนอื่นหรอก" ไอ้สารเลวนั่นพูดแล้วยิ้มออกมา หากเป็นคนอื่นคงไม่รู้สึกอะไรและมองเป็นพี่ชายต่างสายเลือดที่แสนดี แต่ฉันมองรอยยิ้มนั้นแล้วรับรู้ได้ถึงการหมายจะคุกคามอยู่ตลอดเวลาของมัน
"ไม่ต้อง...ค่ะ" ฉันพูดเสียงเรียบแล้วรีบเดินลงจากบันไดโดยมีพี่นธีเดินตามมาเงียบ ๆ
พอมาถึงรถของเขาบ่อน้ำตาของฉันมันก็แตกทันที รีบนั่งลงกอดเข่าตัวเองและซุกหน้าลงปล่อยน้ำตาให้มันไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้
มันตกใจจนตั้งตัวไม่ทันเลย
ทั้งที่คิดว่าการหนีสิ่งเลวร้ายมาอยู่ที่นี่มันจะทำให้ชีวิตฉันดีขึ้น แต่มัจจุราชที่แฝงมาในรูปแบบพี่ชายคนนั้นกลับตามฉันมาถึง ตรงนี้
ฉันไม่คิดจะหาคำตอบว่ามันมาอยู่นี่ได้ยังไง แต่ฉันควรหาทางไปจากมันให้ได้ดีกว่า
"..."ได้ยินเสียงฝีเท้าของพี่นธีเดินมาหยุดอยู่ข้างตัวฉัน เขาไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว ไม่คิดจะถามหรือสงสัยอะไรเลยนั่นอาจเป็นเพราะเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว
"ขอบคุณนะคะที่เอามือถือมาคืน..." ฉันเงยหน้าขึ้นจากเข่า ปาดน้ำตาตัวเองออกลวก ๆ แล้วพูดโดยที่ไม่ได้แหงนมองว่าตอนนี้เขาทำหน้าแบบไหนและมองฉันยังไง
การที่เขายืนอยู่ข้าง ๆ ตอนนี้กลับทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด แต่จะให้รบกวนเขามากกว่านี้มันคงจะเกินไป
"เนยไม่รบกวนพี่แล้วค่ะ เดี๋ยวเดินไปเอง" ฉันปาดน้ำตาออกจากแก้มอีกครั้งเพราะมันไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหล รีบเดินหันหลังออกมาจากตรงที่เขายืนมองอยู่
"ขึ้นรถ" คำพูดสั้น ๆ ที่เหมือนคำสั่งทำให้ฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองเขาอีกครั้ง "จะไปส่ง"
"..." ฉันเม้มปากแน่นพยักหน้าแล้วเดินไปนั่งบนรถเขา
แล้วพี่นธีก็ออกรถขับพาฉันมาร้านสะดวกซื้ออย่างที่ขอ เขาไม่พูดอะไรเลยเหมือนใช้ความคิดอยู่คนเดียวจนฉันเองก็ไม่กล้าส่งเสียงใด ๆ รบกวน
"ขอบคุณนะคะ" เป็นอีกครั้งที่ฉันต้องกล่าวขอบคุณเขาในเวลาไม่กี่นาที
"..."
ฉันรีบลงจากรถก่อนจะเดินไปหย่อนตัวลงตรงม้านั่งที่อยู่หน้าเซเว่น เวลานี้ยังมีคนเดินเข้าออกเพราะอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยและนักศึกษาหลายคนเพิ่งจะกลับจากการไปท่องราตรี
ตรงนี้คือจุดที่ไม่ยอมหลับไหลและมันคงเป็นที่ที่ดีที่สุด
ฉันนั่งอยู่ตรงนี้เกือบยี่สิบนาที รถของพี่นธีก็ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนจึงต้องลุกขึ้นไปหาเขาอีกรอบเพราะความสงสัย เคาะกระจกเบา ๆ สองสามทีเขาก็เลื่อนมันลงมองฉันพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น
"พี่ไม่กลับเหรอ"
"แล้วไม่กลับ?" เขาถามย้อน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันมาก เปิดเบา ๆ ว่าสะดุ้งมิขึ้นกว่าเดิม
"ไม่ค่ะ เนยว่าจะอยู่นี่ ยังไม่อยากกลับ" ฉันตอบแล้วหลุบตาต่ำลง
"..." ได้ยินเสียงถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะพูดออกมา "ขึ้นมา"
"คะ?" ยิ่งคุยด้วยฉันยิ่งไม่เข้าใจ พูดให้มันยาวกว่านี้ไม่ได้หรือไงนะ "จะไปส่งเนยเหรอคะ ไม่เป็นไร พี่กลับเลย"
"ขึ้นมา" เขาย้ำคำนั้นอีกครั้งน้ำเสียงที่ดุกว่าเดิม
"..." ฉันชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก็ขึ้นไปนั่งบนรถเขาอีกรอบ "จะไปไหน ถ้าจะไปส่งหอเนยไม่ไปค่ะ"
"กลับคอนโด"
"คอนโดพี่เหรอคะ?!" จะว่าไปแล้วถ้าเป็นคอนโดพี่นธีรู้สึกว่าจะมีห้องรับรองด้านล่างซึ่งสามารถไปนั่งพักผ่อนตรงนั้นได้ ฉันเคยไปส่งญานินหลายครั้งจนจำได้ "เนยไปนั่งเล่นที่ห้องรับรองแขกก็ได้"
ฉันพูดแล้วยิ้มออกมา เขาก็ยังคงเงียบเหมือนเดิมแล้วขับรถออกไปจนถึงคอนโด
"เขาไม่ให้เข้า" พี่นธีบอกแล้วหันไปมองห้องรับรองที่ถูกล็อกเอาไว้ ไม่ใช่ว่าเขารู้อยู่แล้วหรอกเหรอ... แต่ทำไมยังปล่อยให้ฉันมาที่นี่
"เนยนั่งอยู่แถวนี้ก็ได้ค่ะ" ที่จริงฉันอยากจะไปขอความช่วยเหลือจากญานิน แต่ก็ไม่อยากให้ใครรับรู้ชีวิตที่น่าอับอายแบบนี้เลย
ฉันไม่อยากเอาความทุกข์ใจของตัวเองไปทำให้เพื่อนรู้สึกสงสารหรือลำบากใจ
"ขึ้นไปบนห้อง" คำพูดสั้น ๆ แต่กลับมีอิทธิพลกับฉันอยู่ตลอด
"ไม่เป็นไรค่ะเนยไม่อยากรบกวนแล้ว" พอฉันพูดจบคนที่ยืนอยู่ก็ตวัดสายตาคมเข้มนั้นมามอง เหมือนกับจะบอกว่าที่ฉันทำมานี้มันเกินคำว่ารบกวนไปแล้วและถ้าไม่ลุกไปด้วยเขาคงเริ่มหงุดหงิดอย่างแน่นอน
อย่างน้อย ๆ เขาก็คงจะดีกับฉันในฐานะเพื่อนของน้องสาวตัวเอง จะทิ้งเอาไว้แบบนี้ก็คงจะดูใจร้ายเกินไปล่ะมั้ง
สุดท้ายก็ต้องยอมลุกขึ้นและตามเขาขึ้นไปบนห้อง
แววตาคู่นั้นที่มองมาออกจะเย็นชาด้วยซ้ำไป ผู้ชายอย่างพี่นธีคงไม่คิดจะทำอะไรคนอย่างฉันหรอก ต่างจากไอ้หมอนั่นที่สายตาของมันแทบจะกินฉันไปทั้งตัวจนน่ารังเกียจ
"เนยขอนอนตรงนี้นะคะ" ฉันชี้ไปที่โซฟาตัวยาวแล้วยิ้มออกมาแต่คนที่มองอยู่กลับทำหน้านิ่งเหมือนเคยแล้วเดินไปทางอื่นเหมือนไม่ใส่ใจ
เมื่อเห็นว่าเขาเงียบจึงถือว่าอนุญาตแล้วและเดินไปจับจองพื้นที่สำหรับพักกายในคืนนี้ทันที ถ้าให้กลับไปที่หอคิดว่าคงไม่ปลอดภัยแน่
เมื่อไหร่จะหลุดพ้นสักที
พี่นธีเข้าไปอาบน้ำและออกมาในชุดลำลองเป็นกางเกงวอมสีขาวกับเสื้อยืดสีดำ ที่จริงก็อยากจะอาบบ้างแต่ถ้าขออีกก็เกรงใจเหมือนกัน
"ผ้าเช็ดตัวอยู่ในตู้" เขาบอกแค่นั้นเหมือนรู้ทันความคิดฉัน แล้วเดินไปทิ้งตัวนอนบนเตียง คงง่วงเต็มทน แล้วก็เงียบไปในที่สุด
พอชะเง้อคอมองก็เห็นเขานอนคว่ำหลับตาพริ้มกับหมอนใบใหญ่จึงย่องไปเปิดตู้อย่างเบามือหยิบเอาผ้าเช็ดตัวที่เหมือนยังไม่ถูกใช้งานออกมา
"ขอยืมเสื้อกับกางเกงได้มั้ยคะ"
"..." เขาครางตอบรับในลำคอเบา ๆ นึกว่าหลับสนิทไปแล้วซะอีกแค่แกล้งถามดูเท่านั้นเอง
พอออกมาก็เห็นพี่นธีนอนท่าเดิมตอนนี้คงหลับสนิทไปแล้วเพราะเขานอนนิ่งมากราวกับหยุดหายใจ
กว่าจะได้นอนก็เป็นเวลาตีสองกว่า โชคดีที่โซฟาตัวนี้กว้างและนุ่มกว่าเตียงที่หอพักราคาพันกว่าของฉันอีก จึงค่อนข้างหลับสบายพอสมควร
วันต่อมา
ฉันตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่รู้สึกหลับเต็มอิ่มกว่าคืนไหน ๆ ผ้าห่มปริศนาถูกอยู่บนตัวฉันโดยไม่รู้ที่มา มันสร้างความอบอุ่นจนทำให้หลับยันเช้าจากตอนแรกที่หนาวเหน็บเพราะความเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในห้อง
แกร๊ก!
เสียงเปิดประตูของพี่นธีที่อยู่ในชุดเมื่อคืนดังขึ้น เขาเข้ามาพร้อมกับข้าวสองกล่องจากนั้นก็เอามันไปวางบนโต๊ะกินข้าว
"ข้าวผัดหมู คงกินได้" เขาพูดแค่นั้นแล้วนั่งแกะกล่องข้าวกินเงียบ ๆ
"เนยรบกวนเยอะเกินไปแล้ว"
"..." เขาไม่ตอบแต่นั่งกินข้าวกล่องนั้นอย่างไม่สนใจ ฉันเคยเห็นตอนเขาพูดเยอะกว่านี้นะ แต่กับเพื่อนสนิทอย่างพี่ทศกัณฐ์หรือไม่ก็กับน้องสาวอย่างญานินเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าตัวเองตื่นสายกว่าเจ้าของห้องจึงลุกขึ้นมานั่งตรงข้ามเขาแล้วดึงเอาข้าวอีกกล่องมาทานเงียบ ๆ
"พี่นธีชอบแมวมั้ย" ชวนคุยเพื่อคลายความอึดอัด
"ทำไม"
"ตอนเข้ามาเนยเห็นแมวน้อยตัวนึงน่าสงสารมากอยู่แถว ๆ ข้างบันได"
"แล้ว?" เขามองมาแบบนิ่งเงียบจนฉันแอบเกรงตัวไปด้วย แต่สายต่คู่นั้นก็เต็มไปด้วยคำถาม
"พี่ไม่อยากเลี้ยงมันเหรอ มันน่าสงสาร เหมือนมันจะอดอยาก"
"เลี้ยงไม่เป็น" เขาตอบแล้วตักข้าวเข้าปากคำโตและเคี้ยวมันอย่างเนิบนาบ
"เนยช่วยเลี้ยง" ฉันยิ้มกว้างส่งไปให้คนหน้านิ่งแต่พี่นธีกลับมองฉันแค่แว่บเดียวแล้วก้มหน้ากินข้าวต่อเหมือนไม่ใส่ใจ
"..."
EP.4"ขอบคุณสำหรับที่พักและข้าวฟรีค่ะ" ฉันบอกแล้วยิ้มให้คนหน้านิ่งก่อนจะเดินไปหยิบของตัวเอง "เสื้อผ้าพี่ถ้าเนยซักแล้วจะเอามาคืนนะ""อืม" เขาตอบแค่นั้นแล้วก้มหน้าเล่นมือถืออยู่ตรงโซฟาต่อ "เนยไปแล้ว ลาก่อนค่ะ" ฉันบอกก่อนจะหมุนตัวกลับมาทางประตู"เดี๋ยว" เสียงของพี่นธีดังขึ้นอีกครั้ง"คะ""ห้องตรงข้ามว่าง เผื่อเธออยากย้าย" เขาบอกโดยที่ไม่ได้มองมาทางฉัน"เนยจ่ายไม่ไหวหรอกค่ะ ว่าจะลองหาไกล ๆ มหา'ลัยดูห้องราคาถูกคงมี"ฉันยิ้มบาง ๆ แล้วมองใบหน้าด้านข้างของเขา ทำไมเหมือนจะอ่านความคิดฉันออกอย่างนั้นแหละ เพราะฉันก็คิดอยู่ว่าจะทำยังไงดีกับเรื่องย้ายหอ คงอยู่ที่เดิมไม่ได้อีกแล้ว"ค่าเช่าพันกว่า" เขาบอกเสียงเรียบฉันทำตาโตเมื่อได้ยินประโยคนั้น คอนโดนี้ฉันเคยได้ยินจากญานินว่าค่าเช่าเจ็ดพันขึ้นและนั่นแค่ห้องที่แทบจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ เมื่อกี้หูฉันแว่วหรือเขากำลังอำเล่น"ห้องพี่ค่าเช่าหมื่นกว่า ห้องตรงข้ามพันกว่ามันคงมีอะไรซักอย่างมั้ยคะ" ฉันพูดแล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างกลัว ๆ "ยังไม่มีใครตาย" เขาปรายตามามองฉันเหมือนอยากจะพูดว่า 'อย่ามาคิดไร้สาระ'"ทำไมมันถูกล่ะคะ""เจ้าของห้องรวยแล้ว" เข
EP.5 "จ่ายค่าเช่าที่แม่บ้านชื่อพร" พี่นธีบอกสั้น ๆ แล้ววางกระเป๋าของฉันลงก่อนจะยื่นคีย์การ์ดมาให้ พร้อมกับบอกรหัสปลดล็อกประตูพันกว่าจริง ๆ เหรอ...ฉันมองดูห้องที่คล้ายห้องพี่นธีทุกอย่าง ข้าวของเครื่องใช้มีครบ ในครัวมีอุปกรณ์ทำอาหารซึ่งห้องของพี่นธีไม่มี"แม่บ้านเหรอคะ" ฉันขมวดคิ้วถามอีกครั้งแต่ไม่ได้รับคำตอบกลับมาเพราะเขาบอกว่าไม่ชอบพูดซ้ำ ถ้าพูดซ้ำนั่นแปลว่ากำลังหงุดหงิดแล้ว อันนี้ฉันเดาว่าน่าจะเป็นแบบนั้นแล้วพี่นธีก็เดินกลับไปห้องของตัวเอง โชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุดฉันจึงไม่ต้องไปเรียนและไม่มีกิจกรรมรับน้องในวันนี้ เพราะรุ่นพี่แจกภารกิจและต้องทำให้เสร็จภายในห้าวันภารกิจที่ฉันได้รับค่อนข้างจะง่ายถ้าเทียบกับเพื่อนคนอื่น เพราะรุ่นพี่แค่ให้ฉันบอกความหมายที่แท้จริงของคำว่า 'รุ่น' เท่านั้นฉันจัดของตัวเองที่มีเพียงไม่กี่อย่างให้เข้าที่ก่อนจะเดินไปดูโซนครัวขนาดกะทัดรัดแต่มีของใช้เกือบทุกอย่างด้วยความตื่นเต้นที่ชอบห้องครัวและชอบทำอาหารเพราะมันทำให้รู้สึกเหมือนว่ามีแม่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉันโตมากับการมองดูท่านทำกับข้าวในแต่ละวันและเรียนรู้ทุกอย่างจากท่าน คนที่จากไปเมื่อสองปีก่อนและไม่มี
EP.6"อายุเท่าไรหนู ดูเด็กอยู่เลย""สิบเก้าค่ะ" ฉันตอบแล้วคลี่ยิ้มออกมาเพียงนิดตามมารยาท"โอ้ ยังเด็กอยู่เลยนี่ ร้อนเงินเหรอ" คำถามนั้นทำให้ฉันหายใจฝืด ๆจะเรียกว่าร้อนเงินไหมไม่รู้ แต่ฉันต้องหาเลี้ยงตัวเองและเรียนไปด้วย เงินเก็บที่แม่ฝากไว้ให้ตั้งแต่เด็กตอนนี้มันเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ จึงต้องพยายามหามาเติมมันเผื่อฉุกเฉินฉันจะไม่กินข้าวเช้าและบอกกับตัวเองว่าที่เป็นแบบนี้เพราะตื่นสาย แต่เหตุผลหลักคือมันประหยัดไปได้หนึ่งมื้อ หากมาทำงานที่ร้านฉันก็จะได้กินข้าวฟรี ๆ อีกมื้อตอนเย็น"ไม่ค่ะ" ฉันตอบตรงข้ามกับความเป็นจริง "อืม นึกว่าร้อนเงิน มีอะไรที่พอช่วยได้ไหมล่ะ บอกพี่ได้นะ" ชายคนนั้นยิ้มหวานแล้วมองฉันตาเป็นมัน เกลียดสายตาแบบนี้ที่สุดเลยมันทำให้ฉันคิดถึงไอ้สารเลวนั่นคำว่า 'พี่' มันใช้กับคนอายุรุ่นพ่อได้ด้วยเหรอ "ขอบคุณค่ะ แต่ไม่เป็นไร" ฉันตอบแค่นั้นก่อนจะยิ้มอีกครั้ง แล้วรับแก้วเครื่องดื่มที่ชาย 'แก่' คนนั้นยื่นมาให้เติม"พี่เขาใจดีนะ ถ้าน้องมีปัญหาก็บอกพี่เขาได้ เขาชอบช่วยเด็กน่ะ" เพื่อนเขาอีกคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันเสริมแล้วยิ้มกริ่มฉันทำได้เพียงฝืนยิ้มและภาวนาในใจให้ผ่านพ้นช่วงเ
EP.7วันต่อมาฉันตื่นเช้ามาอุ่นกับข้าวและทำอาหารง่าย ๆ เพิ่มอีกอย่างคือ ไข่กระทะ ให้พี่นธีที่มีเรียนเช้าวันนี้ได้กินก่อนที่จะไปเรียน"..." ประตูห้องตรงข้ามเปิดออกทันทีเมื่อถูกรบกวนโดยฉันเอง ตอนนี้พี่นธีเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเป็นเสื้อช็อปคณะวิศวะ สีกรมท่ากับกางเกงยีน กลิ่นกายหอม ๆ ที่ไม่ได้มาจากน้ำหอมแต่น่าจะเป็นกลิ่นครีมอาบน้ำทำให้เขามีเสน่ห์จนสาว ๆ กรี๊ดสลบได้แน่นอน"กินข้าวเช้าค่ะ" ฉันส่งยิ้มให้เขาก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเพราะเจ้าของห้องหันหลังให้แบบเดิมเป็นการอนุญาตตามแบบฉบับของพี่นธี ฉันเดินไปเอากับข้าวในห้องมาเพิ่มอีกจากนั้นก็ล็อกห้องตัวเองแล้วมากินข้าวห้องของเขา อย่างกับคู่รักข้าวใหม่ปลามันแต่เสียดายที่สีหน้าเขาไม่ยินดียินร้ายสักเท่าไรเมี้ยววว"หืม ยังไม่ได้กินอะไรเหรอน้องเหมียว" ฉันนั่งลงไปคุยกับเจ้าเหมียวน้อยที่กำลังเอาแก้มของมันมาถูไถอ้อนฉันอย่างน่ารักน่าเอ็นดู "พี่นธีไม่เอาข้าวให้หนูกินเหรอคะ ยังผอมอยู่เลย""คงจะตอบ" พี่นธีพูดเสียงเรียบพร้อมกับปรายตามองฉันแล้วเดินไปนั่งสวมถุงเท้าที่โซฟา "มันไม่ยอมกินเอง"ฉันฟังสิ่งที่เขาพูดแล้วเดินไปดูอาหารในชามหวานแหววที่รุ่นพี่เทเอาไว้แล้ว
EP.8"พี่นธี ! นินได้รับมอบหมายจากคุณแม่ให้มาตรวจสอบ""อะไร" คิ้วเข้มของเขาเริ่มขยับเข้าหากัน"แม่หยิบสมุดบัญชีไปปรับรายการมา เห็นพี่ใช้เงินเยอะผิดปกติ แม่ให้นินมาสืบว่าพี่เอาไปทำอะไร" ให้มาสืบแต่แกบอกพี่นธีไปหมดแล้วญานินหรือว่าจะเป็นพวกค่าเหล้าราคาแพงพวกนั้นนะ"..." ฉันยืนฟังสองคนพี่น้องเงียบ ๆ แล้วพี่นธีก็ปรายตามามองฉันแวบหนึ่งก่อนจะบอกน้องสาวตัวเอง"เงินก็เงินฉัน แม่จะอยากรู้ไปทำไม""แม่คิดว่าพี่เลี้ยงผู้หญิง" ญานินกอดอกพูดท่าทางเหมือนเป็นแม่พี่นธีอีกคน"ถ้าเลี้ยงแล้วแม่จะทำไม"ไม่ใช่แค่ญานินที่ตกใจ ฉันเองก็ด้วย ไหนเขาบอกว่าไม่อยากมีแฟนไง ไม่สิ เขาไม่อยากผูกมัดกับใครแสดงว่าแค่คบเล่น ๆ แต่เป็นสายเปย์เหรอ ทีหลังฉันต้องมองเขาใหม่แล้วสินะเห็นหน้าเงียบ ๆ ฟาดเรียบใช่ไหม"พี่นธีมั่วผู้หญิงเหรอ !!""..." คำพูดของญานินทำให้พี่นธีพ่นลมหายใจออกมาทันที"ฉันไปก่อนนะ พอดีมาหาญาติ" ฉันรีบปลีกตัวออกมาจากตรงนั้นทันทีก่อนที่ญานินจะกลับมาสนใจตัวฉันอีกรอบและไม่อยากจะฟังคำตอบของพี่นธี ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันแต่ฉันไม่อยากผิดหวังกับคำตอบแบบนั้นนี่นา"โอเค พรุ่งนี้เจอกันนะ" ฉันหันไปยิ้มให้ญานินแล้วมองพี่
EP.8"พี่นธี ! นินได้รับมอบหมายจากคุณแม่ให้มาตรวจสอบ""อะไร" คิ้วเข้มของเขาเริ่มขยับเข้าหากัน"แม่หยิบสมุดบัญชีไปปรับรายการมา เห็นพี่ใช้เงินเยอะผิดปกติ แม่ให้นินมาสืบว่าพี่เอาไปทำอะไร" ให้มาสืบแต่แกบอกพี่นธีไปหมดแล้วญานินหรือว่าจะเป็นพวกค่าเหล้าราคาแพงพวกนั้นนะ"..." ฉันยืนฟังสองคนพี่น้องเงียบ ๆ แล้วพี่นธีก็ปรายตามามองฉันแวบหนึ่งก่อนจะบอกน้องสาวตัวเอง"เงินก็เงินฉัน แม่จะอยากรู้ไปทำไม""แม่คิดว่าพี่เลี้ยงผู้หญิง" ญานินกอดอกพูดท่าทางเหมือนเป็นแม่พี่นธีอีกคน"ถ้าเลี้ยงแล้วแม่จะทำไม"ไม่ใช่แค่ญานินที่ตกใจ ฉันเองก็ด้วย ไหนเขาบอกว่าไม่อยากมีแฟนไง ไม่สิ เขาไม่อยากผูกมัดกับใครแสดงว่าแค่คบเล่น ๆ แต่เป็นสายเปย์เหรอ ทีหลังฉันต้องมองเขาใหม่แล้วสินะเห็นหน้าเงียบ ๆ ฟาดเรียบใช่ไหม"พี่นธีมั่วผู้หญิงเหรอ !!""..." คำพูดของญานินทำให้พี่นธีพ่นลมหายใจออกมาทันที"ฉันไปก่อนนะ พอดีมาหาญาติ" ฉันรีบปลีกตัวออกมาจากตรงนั้นทันทีก่อนที่ญานินจะกลับมาสนใจตัวฉันอีกรอบและไม่อยากจะฟังคำตอบของพี่นธี ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันแต่ฉันไม่อยากผิดหวังกับคำตอบแบบนั้นนี่นา"โอเค พรุ่งนี้เจอกันนะ" ฉันหันไปยิ้มให้ญานินแล้วมองพี่
EP.10ชั่วโมงต่อมาเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงรุ่นพี่ปีสามปล่อยพวกเราให้แยกย้ายกลับ ฉันกับใบเฟิร์นจึงรีบไปทางห้องเก็บของทันทีเพราะห่วงญานินที่ตอนนี้ยังไม่ออกมาให้เห็นหน้าจนกระทั่งประตูห้องถัดไปจากห้องเก็บของเปิดและพี่นธีก็เดินออกมาคนแรกจนเราเผลอสบตากันพอดี สีหน้าเขายังคงนิ่งเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนผู้ชายคนนี้คงมีแค่หน้าเดียวจริง ๆ ไม่ว่าจะอารมณ์ไหน"ญานิน ! แกเป็นไงบ้าง" ฉันรีบไปหาญานินที่อยู่ในอ้อมแขนของรุ่นพี่ทศกัณฐ์ เนื้อตัวของเพื่อนดูไม่ดีเท่าไรจนฉันรู้สึกจุกอก เข่าของยัยนั่นมีเลือดออกด้วยน่าจะถูกทำโทษรุนแรงแน่ ๆ"ไปเอาอุปกรณ์ล้างแผลมา" พี่ทศกัณฐ์หันมาสั่งหน้าเครียด"ค่ะ"ฉันรีบวิ่งไปห้องพยาบาลที่อยู่ในโรงยิมของคณะและขออุปกรณ์ล้างแผลจากเจ้าหน้าที่ก่อนจะเอามันมาให้พี่ทศกัณฐ์แล้วพี่ทศกัณฐ์ก็ทำแผลให้ญานินด้วยตัวเอง เขาเป็นแฟนเก่าและน่าจะเป็นแฟนในอนาคตของเพื่อนอย่างแน่นอนแบบไม่ต้องสงสัย"อิจฉาจังเลยค่ะ มีคนทำแผลมีคนดูแลแบบนี้ยอมเจ็บตัวทุกวันเลย" ใบเฟิร์นพูดแล้วทำหน้าเคลิบเคลิ้ม"ใช่เวลาที่ควรอิจฉาไหม ดูหน้าพวกพี่แต่ละคนด้วย" ฉันดีดหน้าผากเพื่อนตัวดีไปหนึ่งทีเมื่อเห็นสีหน้าของพวกพี่ ๆ ในแก
EP.11"แล้วสรุปพ่อมีอะไรกับเนย" ฉันเลี่ยงที่จะตอบคำถามนั้น(...) ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา (แกสบายดีใช่ไหม กินอยู่ยังไง)"..." คำถามของเขาทำเอาน้ำตาที่กำลังคลออยู่ค่อย ๆ ไหลออกมา "ทำไมพ่อเพิ่งมาถามตอนนี้ พ่อถามเพราะเป็นห่วงเหรอ ทั้งที่เนยลำบากอดอยากมากี่เดือนพ่อไม่เคยสนใจ มัวแต่ไปสนใจผู้หญิงคนใหม่ เชื่อลูกเลี้ยงเลว ๆ นั่น"ฉันพยายามจะไม่เสียงดังรบกวนพี่นธี พอหันไปมองเขาก็นั่งนิ่ง ไม่ได้เล่นเกมต่อแต่เหมือนจะเล่นมือถือแทน(พ่อขอโทษที่ไม่ติดต่อแก เพราะคิดว่าแกจะสำนึกผิดแล้วติดต่อมา) พ่อทำเสียงอ่อน"ทำไมเนยต้องสำนึกผิดในเมื่อเนยไม่ผิด"(...) ได้ยินเสียงพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง (วันนี้วันเกิดแก)"..."(พ่อจะให้อภัยแกทุกเรื่อง กลับบ้านบ้างนะ)ฉันยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาลวก ๆ ฉันแทบจะลืมวันเกิดตัวเองไปแล้ว แน่นอนว่าฉันอยากได้ยินคำอวยพรจากพ่อแต่สุดท้ายพ่อก็ไม่เคยเชื่อฉัน ในสายตาพ่อฉันยังคงเป็นเด็กขี้โกหกที่หนีตามผู้ชายแล้วไม่ยอมกลับบ้าน"จนถึงตอนนี้พ่อก็ยังไม่เชื่อเนย สองแม่ลูกนั่นมันคงเล่นของใส่พ่อแล้วมั้ง พ่อรู้ไหมว่าวันนั้นไอ้วีมันทำอะไรเนย เนยบอกพ่อไปหลายครั้งแล้วพ่อไม่สงสัยมั
EP.28ฉันมาถึงหน้าห้องประชุมกับใบเฟิร์นเกือบบ่าย ตอนนี้มีคนอยู่ด้านในแล้วจึงผลักประตูเข้าไปและขออนุญาตตามมารยาท"เชิญครับ น้อง... นิเนย" รุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่หัวโต๊ะพูดขึ้นแล้วผายมือให้ เขาทำท่าครุ่นคิดชื่อฉันอยู่หลายวินาทีก่อนจะพูดและยิ้มออกมา"ค่ะ"ถ้าจำไม่ผิดพี่เขาน่าจะเป็นนายกสโมสรนักศึกษา ชื่อว่าพี่โก้ หน้าตาดีมีความสามารถเรียนอยู่ปีสี่คณะบริหารตอนนี้ใบเฟิร์นรออยู่ร้านกาแฟใต้ตึกเรียนรวมเพราะไม่อยากเข้ามาในห้องประชุมให้คนอื่นมอง แล้วทุกคนที่เกี่ยวข้องก็เริ่มทยอยกันเข้ามา ผู้หญิงที่จะถ่ายกับฉันมีอยู่สามคนเรียนอยู่ปีหนึ่งสองคนและรุ่นพี่ปีสองอีกคน แล้วยังมีผู้ชายอีกสี่คนเป็นรุ่นพี่ปีสองและปีสามต่างคณะกันไป จนเวลาบ่ายโมงคนก็มาเกือบครบ เหลือช่างภาพอีกคนที่ได้ยินพี่โก้ถามถึง สักพักประตูก็เปิดเข้ามาคิดว่าคงเป็นคนนั้นร่างสูงที่เดินเข้ามาทำให้ฉันนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง แล้วเจ้าของใบหน้าลูกครึ่งก็หันมาสบตากับฉันก่อนจะยิ้มออกมา 'พี่ฟิน' คนที่ขอไลน์ฉันวันนั้น "มากันครบแล้ว พี่จะเริ่มคุยรายละเอียดของงานนะครับ" แล้วพี่โก้ก็เริ่มคุยงานสีหน้าจริงจัง "เสื้อกีฬาที่เราจะให้น้อง ๆ ถ่ายมีส
EP.27หลายวันต่อมา"เปิดช้าจังวะ มึงมัวทำอะไร""...""แล้วมึงทำเสร็จยังงานที่ลูกค้าสั่ง กูจะได้เอาไปลงระบบกูต่อ ฮะ... เฮ้ย !""อย่าเสียงดังได้ไหม" "นั่นมันน้องนิเนยไม่ใช่เหรอ" บทสนทนาของคนสองคนดังเข้ามาในโสตประสาททำให้ฉันตื่นขึ้นมาจากภวังค์ ค่อย ๆ ขยับเปลือกตาขึ้นมาช้า ๆ รู้สึกเหมือนยังหลับไม่เต็มอิ่มเลย แสดงว่าเช้าอยู่เหรอ แล้วใครมา..."มึงบอกกูมาว่าตั้งแต่ตอนไหน" เสียงของพี่คิวนี่ !ฉันหรี่ตามองคนที่ยืนเอามือเท้าเอวมองพี่นธีสลับกับฉันแต่เขาคงไม่รู้ว่าฉันตื่นแล้ว "เสือก" พี่นธีตอบสั้น ๆ เหมือนรำคาญแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะหันไปพูดเรื่องงานต่อ "กูทำเสร็จแล้วเดี๋ยวทำไฟล์ส่งให้ ไหนแผงวงจรที่สั่ง""อยู่ในกล่อง" พี่คิวจำใจเลิกสงสัยแล้วเดินไปคุยเรื่องงานกับพี่นธี ส่วนฉันก็แกล้งหลับต่อเพราะไม่กล้าเผชิญหน้ากับพี่คิวตอนนี้เริ่มมีคนรู้เรื่องของเราแล้วตั้งแต่วันที่ไปเที่ยวดอยและบ้านของใบเฟิร์น แต่ไม่รู้ว่าญานินกับใบเฟิร์นจะรู้หรือเปล่าไม่นานพี่คิวก็ออกจากห้องไป ฉันจึงค่อย ๆ ขยับตัวออกจากผ้าห่มผืนหนาสีเทาเข้ม วันนี้เขาตื่นเช้ามาทำงานอีกแล้ว เพิ่งเคยเห็นมุมนี้ของเขาช่วงสองสามวันที่ผ่านม
EP.26พอเริ่มดึกมันก็เริ่มหนาว เริ่มเมาและมึนนิดหน่อย ทั้งที่พี่นธีก็ดื่มอีกครึ่งแก้วที่ฉันโดนแล้ว"ไปเข้าห้องน้ำนะ" ฉันหันไปบอกใบเฟิร์นแล้วลุกขึ้นจากตรงนั้น ตอนลุกมันก็มีเซเล็กน้อยแต่คงไม่มีใครเห็นหรอกฉันเดินมาจนถึงบ้านหลังที่เช่าไว้ก็รีบเข้าห้องน้ำและแปรงฟันจนเสร็จเรียบร้อยแล้วออกมา"ตะ... ตกใจหมด" พอออกมาจากห้องน้ำก็แทบจะหัวใจวายเพราะพี่นธีมายืนกอดอกจ้องเขม็งอยู่หน้าห้องน้ำ "พี่มาตอนไหนคะ""..." เขาขมวดคิ้วมองมาด้วยสายตาดุ ๆ "มาคนเดียวทำไม""มันใกล้แค่นี้เนยไม่อยากรบกวนใคร" ฉันตอบแล้วยิ้มให้เขา "พี่มาเข้าห้องน้ำเหรอ""เปล่า" เขาตอบแล้วขยับตัวเข้ามาใกล้"มีอะไรกับเนยหรือเปล่า" ถ้าไม่มาเข้าห้องน้ำก็แปลว่ามาหาฉัน"คืนนี้... ไม่ได้นอนด้วย" เขาพูดออกมาแบบนั้นแต่หน้านิ่งมาก ไม่รู้ว่าเขากำลังรู้สึกยังไง"คะ""มานี่" เขาสั่งเสียงเรียบก่อนจะดึงรั้งฉันเข้าไปใกล้แล้วทาบทับริมฝีปากลงมาบดขยี้ริมฝีปากอวบอิ่มของฉัน มือหนารั้งศีรษะเข้าไปใกล้อีกและออกแรงกดท้ายทอยเอาไว้จนริมฝีปากฉันแทบจะฝังอยู่กับปากของเขากลิ่นแอลกอฮอล์ลอยเข้ามาในจมูกผสมกับกลิ่นมิ้นท์จากยาสีฟันของฉันปะปนกันไปหมด เขายังคงบดจูบและค่
EP.25ในที่สุดก็ถึงวันที่เราต้องออกเดินทาง ฉัน ใบเฟิร์น และพี่คิวมากับรถพี่นธี ญานินไปกับพี่ทศกัณฐ์ ส่วนพี่ฮ่องเต้น่าจะมากับผู้หญิงอีกคันเพราะได้ยินพี่คิวคุยกับพี่นธีแบบนั้นทางขึ้นเขาค่อนข้างคดเคี้ยวและชันมาก แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของฉันเลยไม่น่ากลัวเท่าไร อีกอย่างพี่นธีก็ขับรถเก่งฉันก็เลยสบายใจ"เราจะจองบ้านหนึ่งหลังนะ เผื่อเอาไว้ อีกอย่างสะดวกตอนใช้ห้องน้ำด้วย แล้วก็มีเต็นท์อีกสี่หลัง" ใบเฟิร์นอธิบายให้ทุกคนฟังหลังจากที่เรามาถึงอุทยาน ที่นี่เป็นป่าสนมีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก"ก็ดีเหมือนกัน มึงกับกูใช่ไหมไอ้ธี" พี่คิวพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะหันไปถามพี่นธีที่ทำหน้านิ่งอยู่ตรงที่นั่งยาว ๆ อีกฝั่ง"ทำไมต้องกูกับมึง" พี่นธีพูดเสียงเรียบ"หรือมึงจะไปดีลกับน้อง ๆ" พี่คิวถามแล้วหันมามองทางฉันกับใบเฟิร์นพร้อมกับรอยยิ้ม "พี่ล้อเล่น""..." ฉันหลุดขำออกมาแต่พอหันไปสบสายตานิ่ง ๆ ของพี่นธีก็ต้องเบือนหน้าหนีไปเพราะอาจจะโดนจับจ้องจากคนรอบตัว แล้วเขาก็หยิบกระเป๋าของตัวเองเดินออกไปจากตรงนี้ไม่พูดไม่จาแล้วพวกเราก็มากางเต็นท์กันที่ลานกว้าง นอนกันเป็นคู่ ญานินกับพี่ทศกัณฐ์ พี่ฮ่องเต้กับพี่ใบชาผู้หญิงที
EP.24ตอนนี้พี่นธีนั่งทำงานอยู่ตรงโซฟา เห็นเขาตั้งใจแบบนั้นฉันจึงไม่อยากกวนแต่เส้นผมที่เพิ่งถูกสระของเขาดูจะน่ารำคาญไม่น้อยเลยเพราะมันเกะกะไม่เป็นทรงจนต้องเสยมันขึ้นหลายรอบ ฉันเห็นแบบนั้นจึงเดินไปหยิบยางรัดผมมาและนั่งบนโซฟาซึ่งเขานั่งอยู่บนพรมด้านล่าง"มีอะไร" พี่นธีหันมาถาม"เนยจะมัดให้ มันจะได้ไม่เกะกะไง" ฉันแอบกลัวว่าจะไปวุ่นวายให้เขารำคาญเพิ่มเล็กน้อย แต่เขาแค่มองยางรัดผมในมือเมื่อเขาไม่ว่าอะไรฉันก็เอื้อมมือไปรวบผมด้านบนของเขาขณะที่เจ้าตัวนั่งเงียบเงยหน้ามองฉันอยู่ พอมัดเสร็จฉันก็ยิ้มออกมาแล้วหัวเราะเบา ๆน่ารักเหมือนเด็กสามขวบเลยแต่เป็นเด็กหน้ามึนนะ"ขำอะไร" คนหน้ามึนถามต่อแล้วมองฉันอย่างจับผิด คิ้วเข้มขยับเข้าหากัน"เปล่าค่ะ พี่นธีน่ารักดี" ฉันอมยิ้มตอบกลับไปแล้วหยัดตัวลุกขึ้น ก่อนจะตกใจเมื่อร่างเซถลาลงไปคร่อมตัวเพราะมือหนาที่ดึงรั้งข้อมือความนุ่มที่สัมผัสได้ด้วยจมูกทำให้รีบดันตัวออกแต่พี่นธีกลับโอบเอวฉันไว้พลางเอนพิงกับโซฟาอีกด้าน"หายไข้ยัง" "คะ ? ยะ... ยังค่ะ" สายตาเป็นประกายนั่นทำให้ฉันต้องตอบด้วยความหวั่นใจ "..." มือหนาเลื่อนมาแตะหน้าผากฉันก่อนจะยกยิ้มมุมปาก ฉันอยากเห็
EP.23ตอนนี้พี่นธีเดินหายไปแล้ว เขาออกจากห้องไปเงียบ ๆ ทิ้งให้ฉันสงสัยอยู่ตรงนี้เมื่อคืนยังโมโหฉันอยู่เลย แต่อยู่ ๆ ก็มาทำดีด้วยอีก ฉันปรับอารมณ์ตามไม่ทันแล้วนะ แถมยังเอามือถือกับเงินมาคืนด้วยฉันขยับตัวขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย อีกไม่กี่วันยัยพวกนั้นก็จะไปเที่ยวดอยแล้วฉันจะไหวไหมนะแกร๊กเสียงประตูเปิดเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับร่างสูงที่ถือถุงบางอย่างเข้ามาเงียบ ๆ เขาปรายตามองฉันเล็กน้อยก่อนจะเดินไปที่ครัว สักพักก็กลับมาพร้อมกับโจ๊กสำเร็จรูปในถ้วยกระดาษ"กิน แล้วก็กินยา" "พี่ไม่ได้ทำเนยป่วย ไม่ต้องดูแลก็ได้ค่ะ" ฉันรับมันมาถือไว้ในมือแล้วคนให้มันเย็นขึ้น "..." พี่นธีไม่พูดอะไร เขาเดินไปจากเตียงอีกครั้งและกลับมาพร้อมกับน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว ยาหนึ่งเม็ด"ยา" เขาวางมันตรงชั้นข้างเตียงแล้วกลับมานั่งขอบเตียง ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะไม่ทำตัวให้ทะเลาะกันอีกแล้ว ตอนนี้เหมือนความรู้สึกที่เคยมีก่อนหน้ามันแทรกมาด้วยความอึดอัดเลย เขาอาจจะเริ่มรำคาญฉันแล้ว"พี่นธี ยังโมโหเนยอยู่ไหม" ฉันถามแล้วก้มลงมองถ้วยโจ๊กในมือที่มีไอความร้อนลอยขึ้นมา"ไม่" เขาตอบแค่นั้นและยังคงนั่งมองฉันเงียบ
EP.22Natee talks.ผมคิดมาทั้งวันทั้งคืนเพราะกำลังสับสนว่าควรจะทำอย่างไรต่อดี คงต้องเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มที่ทำให้บานปลายมาถึงตรงนี้เมื่อวานผมอยู่ห้องทั้งวันเพราะมีคนสนใจจะจ้างเขียนโปรแกรมและรอใครบางคนกลับมา เธอบอกว่าจะออกไปหาเพื่อนแต่บ่ายสามแล้วคนที่คิดว่าจะกลับมาก็ยังไม่โผล่มาให้เห็นหน้าไม่เป็นไรรอได้...จนเวลาล่วงเลยไปถึงห้าโมง หกโมง เธอก็ไม่มา ขณะที่ผมหยิบมือถือแล้ววางมันลงเป็นสิบยี่สิบครั้งเพราะคิดจะโทร.ไปแต่... ก็ไม่โทร. และคนคนนั้นก็ไม่คิดจะโทร.มาหาผมเลยพอหนึ่งทุ่มในที่สุดเธอก็มา ไม่พูดไม่จา จัดการกับข้าวที่ทำมาเงียบ ๆ พอเห็นผมไม่พูดเธอก็เลยถามคำถามทั่ว ๆ ไปออกมาเหมือนอยากทำลายความเงียบเธอถามคำถามเดียว ผมก็ตอบไปสั้น ๆ เป็นเรื่องปกติ สักพักเธอก็เดินไปคุยกับปุยนุ่น'กินเยอะ ๆ นะ เดี๋ยวนิเนยจะไปแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน'ประโยคที่คุยกับแมวยังเยอะกว่าที่คุยกับผมอีก แสดงว่ามันต้องมีอะไรแน่ ๆ ถ้าไม่โกรธอะไรผมก็ต้องไปเจอคนที่ถูกใจแล้วอยากตีตัวออกหากแน่นอน มาแป๊บเดียวแล้วจะกลับได้ไงวะห้องก็อยู่แค่นี้ไฟเริ่มก่อตัว...แล้วเธอก็ออกจากห้องไป... แบบไม่ไยดี ไม่ยิ้มให้เหมือนที่ชอบยิ้มให้ผมต
EP.21ครืด ~ ครืด ~'พ่อน้องปุยนุ่น'หัวใจฉันเต้นรัวขึ้นมาทันทีที่ชื่อนั้นโชว์บนจอโทรศัพท์มือถือ คนที่เป็นสาเหตุของอารมณ์ฟุ้งซ่านในตอนนี้นี่เป็นครั้งแรกที่เราโทร.หากันตั้งแต่มีเบอร์โทรศัพท์แถมยังเป็นเขาที่โทร.มาก่อนด้วย"...คะ"(มาดูแมว) เขาพูดเสียงเรียบ"ดูทำไม มันเป็นอะไรคะ" ฉันสงสัยและร้อนใจจึงรีบลงจากเตียงแล้ววิ่งไปที่ประตูทันที(มาดูเอง) แล้วเขาก็วางสายไปทันทีพร้อมขาของฉันที่ถึงหน้าห้องเจ้าตัวเรียบร้อยแล้ว"มันเป็นอะไรเหรอ" ฉันรีบเดินเข้ามาในห้องแล้วถามเขาที่ยืนกอดอกจ้องปุยนุ่นอยู่ตรงระเบียง"มันอ้วก" เขาตอบสั้น ๆ แล้วมองฉันเหมือนมีอะไรสักอย่างจนฉันต้องก้มมองตัวเอง ฉันรีบจนลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองกำลังใส่เสื้อยืดตัวบางรัดรูปกับกางเกงขาสั้นแบบใส่นอนอีกตัว"ขอโทษที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย เนยรีบ" ฉันบอกแล้วเดินไปดูเจ้าปุยนุ่นก่อนจะขำเบา ๆ "มันแค่สำรอกขนค่ะ แต่คงทรมานน่าดู เพราะเลียขนตัวเองแล้วมันร่วงเยอะเกินไปเลยต้องขับออกมาทางนี้ เนยต้องแปรงขนให้มันบ่อยกว่านี้"ฉันบอกพี่นธีแล้วเงยหน้าขึ้นไปส่งยิ้มให้เขาเพื่อบอกว่ามันไม่มีอะไร"..." แต่เขากลับเอาแต่จ้องหน้าไม่เลิก "ฉันไม่รู้"คนตัวสูงพูดแ
EP.20วันต่อมาฉันตื่นมาทำกับข้าวมื้อเช้าในเวลาที่เกือบจะสายเพราะนอนหลับสบายเกินไป ส่วนพี่นธีตอนนี้ก็ยังนอนอยู่บนเตียงไม่ยอมตื่นสักทีพอทำกับข้าวเสร็จคนที่นอนอยู่บนเตียงก็เริ่มขยับกายไปมา และลุกขึ้นมองมาทางฉัน"เนยเอาอาหารไปให้ปุยนุ่นแล้ว พี่จะกินเลยไหมคะ""พึ่งตื่น จะให้กินเลย ?" พี่นธีพูดแล้วจ้องหน้าอย่างกับว่าฉันกำลังบังคับเขาอยู่อย่างนั้นแหละ"งั้นเดี๋ยวเนยยกไปไว้ให้ที่ห้องนะคะ" ฉันพูดแล้วเตรียมภาชนะมาใส่อาหาร"ไล่ ?""เนยไม่ได้พูดแบบนั้น"ทำไมตื่นมาก็หาเรื่องเลยล่ะ ตื่นเช้ามาก็อารมณ์เสียเลยเหรอ"..." แล้วพี่นธีก็เดินไปเปิดโทรทัศน์ที่ฉันไม่เคยแตะต้องมันเลยเพราะมีอะไรหลายอย่างให้ทำจนไม่มีเวลาว่าง"วันนี้พี่ไปไหนไหม""ไม่" เขาตอบแค่นั้นแล้วก็เงียบไป ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง "จะไปไหน""เนยว่าจะออกไปหาเพื่อน นัดคุยเรื่องไปเที่ยวแล้วก็เรื่องลงทะเบียนเรียนเทอมหน้า" ฉันตอบแล้วเก็บอาหารไว้บนเคาน์เตอร์"เอาเลขบัญชีมา""คะ ?""ค่าทำงาน" เขาเดินไปหยิบมือถือของตัวเองที่วางบนเตียงมากดยุกยิก"อ้อ ค่ะ" แล้วฉันก็พยักหน้าบอกเลขบัญชีให้เขา สักพักข้อความแจ้งเตือนก็โชว์ขึ้นมาบนจอ'09/10/XX 09:52 บช XX1