พันกว่าจริง ๆ เหรอ...
ฉันมองดูห้องที่คล้ายห้องพี่นธีทุกอย่าง ข้าวของเครื่องใช้มีครบ ในครัวมีอุปกรณ์ทำอาหารซึ่งห้องของพี่นธีไม่มี
"แม่บ้านเหรอคะ" ฉันขมวดคิ้วถามอีกครั้งแต่ไม่ได้รับคำตอบกลับมาเพราะเขาบอกว่าไม่ชอบพูดซ้ำ ถ้าพูดซ้ำนั่นแปลว่ากำลังหงุดหงิดแล้ว อันนี้ฉันเดาว่าน่าจะเป็นแบบนั้น
แล้วพี่นธีก็เดินกลับไปห้องของตัวเอง
โชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุดฉันจึงไม่ต้องไปเรียนและไม่มีกิจกรรมรับน้องในวันนี้ เพราะรุ่นพี่แจกภารกิจและต้องทำให้เสร็จภายในห้าวัน
ภารกิจที่ฉันได้รับค่อนข้างจะง่ายถ้าเทียบกับเพื่อนคนอื่น เพราะรุ่นพี่แค่ให้ฉันบอกความหมายที่แท้จริงของคำว่า 'รุ่น' เท่านั้น
ฉันจัดของตัวเองที่มีเพียงไม่กี่อย่างให้เข้าที่ก่อนจะเดินไปดูโซนครัวขนาดกะทัดรัดแต่มีของใช้เกือบทุกอย่างด้วยความตื่นเต้น
ที่ชอบห้องครัวและชอบทำอาหารเพราะมันทำให้รู้สึกเหมือนว่ามีแม่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉันโตมากับการมองดูท่านทำกับข้าวในแต่ละวันและเรียนรู้ทุกอย่างจากท่าน คนที่จากไปเมื่อสองปีก่อนและไม่มีวันกลับมา
ฉันยิ้มออกมากับตัวเองและมองดูพื้นที่ตรงนั้นเงียบ ๆ ก่อนไปทำงานต้องทำกับข้าวเลี้ยงพี่นธีสักมื้อเพื่อเป็นการขอบคุณแล้วละ
ก๊อก ๆ
ฉันเคาะประตูห้องตรงข้ามสองสามที และรอไม่นานเจ้าของห้องก็เปิดออกมาพร้อมกับสภาพเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองตัวใหม่แล้วแต่ก็แนวเดิม นั่นคือกางเกงวอร์มแบรนด์แท้ราคาแพงกับเสื้อกีฬาสีแดงเลือดหมู (เสื้อคณะ)
"..." สายตาคมเข้มมองมาด้วยคำถามเหมือนรำคาญ ฉันคงรบกวนเวลานอนของเขาอีกแล้ว
อย่างหนึ่งที่รู้เกี่ยวกับตัวเขาตอนนี้คือชอบนอนตลอดเวลา ขี้เซาเป็นที่สุด
"เย็นนี้เนยจะทำกับข้าวเลี้ยงพี่นธี ไม่ต้องออกไปซื้อนะ"
"..." เขามองนิ่งก่อนจะพยักหน้านิด ๆ เปลือกตาแทบจะปิดเข้าหากัน
"พี่อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ"
"อะไรก็ได้" เขาตอบเสียงงัวเงียก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากัน "ฉันเกลียดการถูกวุ่นวายเวลานอน"
"ขอโทษค่ะ เนยไม่รบกวนแล้ว" ฉันบอกแล้วดึงประตูปิดให้เสร็จสรรพ
จากนั้นก็ลงไปซื้อของมาทำกับข้าว โชคดีที่มีร้านขายของสดพวกผัก เนื้อ ของทะเลอยู่ไม่ไกลมากแค่เดินไปราว ๆ สามร้อยเมตรก็ถึง
หลายชั่วโมงต่อมา
ก๊อก ๆ
ฉันคิดว่าอาจจะโดนไล่ออกจากที่นี่สักวันเพราะพี่นธีจะรำคาญนี่แหละ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาคงไม่ชวนฉันอยู่ห้องนี้แน่
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบทุ่ม ฉันทำกับข้าวเสร็จแล้วและเตรียมตัวออกไปทำงาน
"..."
"เนยรบกวนไหม" ฉันรีบถามคำถามนี้เป็นอันดับแรกเพราะกลัวจะรบกวนเขาอีก
"..." พี่นธีไม่ตอบแต่มองดูฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าเพราะตอนนี้ฉันใส่เดรสรัดรูปยูนิฟอร์มของร้านแต่สวมทับด้วยกางเกงยีนขาสั้นเอวสูงเอาไว้
"เนยจะไปทำงานค่ะแต่ชวนพี่กินข้าวด้วยกันก่อน เดี๋ยวยกมาให้" ฉันบอกแล้วส่งยิ้ม ฝ่ายพี่นธีก็นิ่งเช่นเดิมไม่ได้เอ่ยอะไรแล้วเดินเข้าห้องโดยไม่ปิดประตู ฉันจึงหันหลังเข้าห้องตัวเองเพื่อเอากับข้าวมากินที่ห้องเขา
เรากินข้าวกันเงียบ ๆ เพราะคนตรงหน้าไม่ยอมพูดเลยสักคำ ฉันจึงไม่กล้าส่งเสียงใดรบกวนเขา
"แมวตัวนั้น" อยู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมา แถมยังพูดถึงแมวเนี่ยนะ "เอามันขึ้นมาให้หน่อย"
"คะ ?" ฉันถามย้ำอีกครั้งอย่างลืมตัวและไม่ค่อยเข้าใจความคิดเขาเท่าไรนัก ก่อนจะรีบเอ่ยประโยคต่อมา "พี่หมายถึงให้เอาแมวตัวนั้นขึ้นมาที่ห้องเหรอ"
"อืม"
"ได้ค่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้เนยไปดูมันนะ เราต้องเอามันไปตรวจร่างกายก่อน" ฉันบอกแล้วยิ้มให้เขาด้วยความดีใจ เห็นนิ่ง ๆ แต่ใจจริงก็รักสัตว์เหมือนกันนะเนี่ย
"วันนี้ล่ะ" เขาถามแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตาฉัน
"วันนี้เนยต้องไปทำงานแล้ว"
"..." เขาเงียบแล้วก็กินข้าวต่ออีกคำ "จ้างเอาแมวไปหาหมอ"
"หา ! ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ถ้าทำแบบนั้นเขาไล่เนยออกแน่" ฉันบอกปัดแต่ก็แอบหวั่นใจที่เป็นฝ่ายปฏิเสธเขา ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกกลัวที่จะปฏิเสธเขา หรือเพราะเขาทำดีกับฉันหลายอย่าง
"อืม" พี่นธีตอบสั้น ๆ แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ ทิ้งให้ฉันนั่งสับสนอยู่คนเดียวพร้อมคำถามมากมายในหัวว่าเขากำลังโกรธเรื่องอะไร แต่ก็คิดไม่ออกเลย
คนอะไรเดาใจยากจัง
แล้วฉันก็เรียกรถมาทำงานตามปกติ ไม่ได้เจอพี่นธีอีกหลังจากที่เขาออกจากห้องไปก็เลยไม่รู้ว่าเขาไปไหนหรือโกรธอะไรฉันอยู่หรือเปล่า
"นิเนยวันนี้กลับดึกหน่อยนะ แขกวีไอพีมา" พี่ปายบอกฉันที่กำลังเตรียมตัวทำงาน
"ค่ะ" ฉันตอบแล้วส่งยิ้มให้เธอ จะทำยังไงได้ล่ะนอกจากตอบรับไปแบบนั้น ขืนมีปัญหาคงไม่ได้ทำงานที่นี่อีก
ร้านนี้เป็นร้านที่ใบเฟิร์นแนะนำให้มาทำเพราะรู้จักกับพี่เบส แต่ฉันกำชับมันแล้วว่าห้ามให้ใครรู้แม้กระทั่งญานิน เพราะฉันรู้จักนิสัยของญานินดี
ถ้ายัยนินรู้ว่าฉันลำบากแบบนี้จะต้องช่วยแม้กระทั่งเรื่องเงินแน่ ซึ่งฉันไม่อยากรบกวนมันเกินไป แล้วอีกอย่างฉันไม่อยากให้ใครมารับรู้เรื่องครอบครัวของตัวเองด้วย เรื่องน่าอับอายแบบนั้นคงไม่ควรจะพูดให้ใครฟัง
"น้องเนยคนเมื่อวานมาอีกแล้ว จะเอาเหล้าไปให้เขาไหม" พี่พนักงานผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาถามฉัน เธอหมายถึงพี่นธีเหรอ
ฉันรีบสอดส่องสายตามองไปยังบริเวณที่ลูกค้ากำลังนั่งกันอยู่ ก่อนจะเห็นแผ่นหลังคุ้นตาของใครบางคน
เขามาจริง ๆ ด้วย
"เดี๋ยวเนยบริการโต๊ะนั้นเองค่ะ" ฉันยิ้มให้เธอก่อนจะเดินไปหยิบเหล้าราคาแพงขวดเมื่อวานที่เขาทิ้งไว้ทั้งที่มันพร่องไปเพียงนิด
ฉันเลยแอบเก็บไว้เผื่อเขาจะกลับมาอีก จะเอากลับไปให้เขาข้างนอกก็อายสายตาพนักงานเดี๋ยวคิดว่าเราเอากลับไปดื่ม
"ชอบเราหรือเปล่าเนี่ย ดูรวยนะ พี่เชียร์" พี่ฝนพนักงานคนเดิมพูดขึ้น
"ไม่ใช่ค่ะ เขาเป็นพี่ชายของเพื่อน" ฉันรีบบอกไปเพื่อไม่ให้ใครเข้าใจผิด
"อ๋อ จ้า ๆ"
แล้วฉันก็เดินไปยังโต๊ะพี่นธีที่นั่งอยู่เพียงคนเดียวพร้อมเหล้าขวดเดิม
"พี่ชอบมาร้านนี้เหรอ เนยไม่ค่อยเห็นเลย" ฉันยื่นหน้าเข้าไปถามจากทางด้านหลังจนเจ้าตัวเผลอตกใจทางแววตาเล็กน้อย "อันนี้เหล้าพี่ เนยเสียดายเลยแอบเก็บไว้ให้ค่ะ"
ฉันบอกแล้ววางมันลงบนโต๊ะ
"..." เขาไม่ตอบอะไร เพียงแค่มองหน้าฉันไม่กี่วินาทีก่อนจะเบือนหน้าหนีไปมองจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ที่กำลังถ่ายทอดสดฟุตบอลอยู่
"มาดูบอลเหรอคะ"
"อืม" เขาตอบแค่นั้นและไม่มองฉันเลยแม้แต่นิดเดียว
"พรุ่งนี้เนยมีเรียนเช้า วันนี้ก็ต้องเลิกดึกด้วย ตอนบ่ายเนยจะรีบกลับมาพาน้องแมวไปหาหมอแล้วเอามันมาที่ห้องนะ" ฉันยิ้มแล้วชงเครื่องดื่มให้คนที่ตั้งใจดูถ่ายทอดสดฟุตบอลอยู่
"อยู่ห้องแล้ว" เขาบอกแล้วเอื้อมมือมาขยับเครื่องดื่มไปตรงหน้าก่อนจะยกขึ้นจิบ
"หา ! แต่มันไม่ได้ตรวจร่างกายนะคะ"
"..." พี่นธีเบือนหน้ามามองฉันเหมือนรำคาญแล้วพูดเสียงเรียบ "คิดว่ามันจะอยู่รอเธอพรุ่งนี้ ?"
"..." ฉันกัดปากด้านในด้วยความรู้สึกผิดอยู่เต็มอก แปลว่าที่เขาหายไปตอนเย็นน่าจะไปหาน้องแมวแน่ ๆ "งั้นพรุ่งนี้เนยไปเล่นกับมันนะ"
"..." พี่นธีไม่พูดอะไรและหันกลับไปสนใจฟุตบอลต่อ ฉันจึงค่อย ๆ ถอยออกมา
"น้องเนย ดูแขกโต๊ะวีไอพีหน่อย" เมื่อเสียงของพี่ปายเรียกฉันจึงรีบหันหลังกลับไปและเดินไปยังโต๊ะวีไอพีที่ว่านั้น
ดูเหมือนจะเป็นกลุ่มผู้ใหญ่อายุราว ๆ ห้าสิบกว่ากันแล้ว การแต่งตัวมีภูมิฐานและดูมีฐานะ
ฉันเดินเข้าไปสอบถามสิ่งที่ลูกค้าต้องการสั่งก่อนจะเดินออกมาและเตรียมของไปยังโต๊ะนี้พร้อมกับเพื่อนผู้หญิงอีกคน
"..." ฉันหันไปมองพี่นธีซึ่งเขาก็มองมาพอดีจึงส่งยิ้มให้แล้วรีบเดินไปที่โต๊ะวีไอพี จัดแจงวางเครื่องดื่มและชงให้พวกเขา
"นิเนยเธอรอบริการตรงนี้นะ"
ฉันพยักหน้าตอบรับแล้วเพื่อนอีกคนก็เดินจากไป
โต๊ะวีไอพีจะต่างจากโต๊ะอื่นคือที่นั่งเป็นโซฟาและถูกกั้นด้วยกระจกใส จะต้องมีพนักงานยืนรอเพื่อบริการแขกอย่างน้อยหนึ่งคนเพื่อไม่ให้แขกระดับวีไอพีรอนาน
"อายุเท่าไรหนู ดูเด็กอยู่เลย" เสียงเข้มของผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยทักแล้วมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า
สายตาแทะโลมของเขาทำให้ฉันรู้สึกใจไม่ดีและไม่ชอบเอาซะเลย ถึงแม้จะทำงานที่นี่มาเกือบเดือนและต้องเจอคนมองแบบนี้แต่มันก็ไม่ชินนักหรอก
หรืออาจเป็นเพราะฉันฝังใจกับเรื่องแบบนี้ก็ว่าได้ แต่ฉันก็ไม่มีทางเลือกสำหรับงานในช่วงรับน้องแบบนี้เลย
EP.6"อายุเท่าไรหนู ดูเด็กอยู่เลย""สิบเก้าค่ะ" ฉันตอบแล้วคลี่ยิ้มออกมาเพียงนิดตามมารยาท"โอ้ ยังเด็กอยู่เลยนี่ ร้อนเงินเหรอ" คำถามนั้นทำให้ฉันหายใจฝืด ๆจะเรียกว่าร้อนเงินไหมไม่รู้ แต่ฉันต้องหาเลี้ยงตัวเองและเรียนไปด้วย เงินเก็บที่แม่ฝากไว้ให้ตั้งแต่เด็กตอนนี้มันเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ จึงต้องพยายามหามาเติมมันเผื่อฉุกเฉินฉันจะไม่กินข้าวเช้าและบอกกับตัวเองว่าที่เป็นแบบนี้เพราะตื่นสาย แต่เหตุผลหลักคือมันประหยัดไปได้หนึ่งมื้อ หากมาทำงานที่ร้านฉันก็จะได้กินข้าวฟรี ๆ อีกมื้อตอนเย็น"ไม่ค่ะ" ฉันตอบตรงข้ามกับความเป็นจริง "อืม นึกว่าร้อนเงิน มีอะไรที่พอช่วยได้ไหมล่ะ บอกพี่ได้นะ" ชายคนนั้นยิ้มหวานแล้วมองฉันตาเป็นมัน เกลียดสายตาแบบนี้ที่สุดเลยมันทำให้ฉันคิดถึงไอ้สารเลวนั่นคำว่า 'พี่' มันใช้กับคนอายุรุ่นพ่อได้ด้วยเหรอ "ขอบคุณค่ะ แต่ไม่เป็นไร" ฉันตอบแค่นั้นก่อนจะยิ้มอีกครั้ง แล้วรับแก้วเครื่องดื่มที่ชาย 'แก่' คนนั้นยื่นมาให้เติม"พี่เขาใจดีนะ ถ้าน้องมีปัญหาก็บอกพี่เขาได้ เขาชอบช่วยเด็กน่ะ" เพื่อนเขาอีกคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันเสริมแล้วยิ้มกริ่มฉันทำได้เพียงฝืนยิ้มและภาวนาในใจให้ผ่านพ้นช่วงเ
EP.7วันต่อมาฉันตื่นเช้ามาอุ่นกับข้าวและทำอาหารง่าย ๆ เพิ่มอีกอย่างคือ ไข่กระทะ ให้พี่นธีที่มีเรียนเช้าวันนี้ได้กินก่อนที่จะไปเรียน"..." ประตูห้องตรงข้ามเปิดออกทันทีเมื่อถูกรบกวนโดยฉันเอง ตอนนี้พี่นธีเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเป็นเสื้อช็อปคณะวิศวะ สีกรมท่ากับกางเกงยีน กลิ่นกายหอม ๆ ที่ไม่ได้มาจากน้ำหอมแต่น่าจะเป็นกลิ่นครีมอาบน้ำทำให้เขามีเสน่ห์จนสาว ๆ กรี๊ดสลบได้แน่นอน"กินข้าวเช้าค่ะ" ฉันส่งยิ้มให้เขาก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเพราะเจ้าของห้องหันหลังให้แบบเดิมเป็นการอนุญาตตามแบบฉบับของพี่นธี ฉันเดินไปเอากับข้าวในห้องมาเพิ่มอีกจากนั้นก็ล็อกห้องตัวเองแล้วมากินข้าวห้องของเขา อย่างกับคู่รักข้าวใหม่ปลามันแต่เสียดายที่สีหน้าเขาไม่ยินดียินร้ายสักเท่าไรเมี้ยววว"หืม ยังไม่ได้กินอะไรเหรอน้องเหมียว" ฉันนั่งลงไปคุยกับเจ้าเหมียวน้อยที่กำลังเอาแก้มของมันมาถูไถอ้อนฉันอย่างน่ารักน่าเอ็นดู "พี่นธีไม่เอาข้าวให้หนูกินเหรอคะ ยังผอมอยู่เลย""คงจะตอบ" พี่นธีพูดเสียงเรียบพร้อมกับปรายตามองฉันแล้วเดินไปนั่งสวมถุงเท้าที่โซฟา "มันไม่ยอมกินเอง"ฉันฟังสิ่งที่เขาพูดแล้วเดินไปดูอาหารในชามหวานแหววที่รุ่นพี่เทเอาไว้แล้ว
EP.8"พี่นธี ! นินได้รับมอบหมายจากคุณแม่ให้มาตรวจสอบ""อะไร" คิ้วเข้มของเขาเริ่มขยับเข้าหากัน"แม่หยิบสมุดบัญชีไปปรับรายการมา เห็นพี่ใช้เงินเยอะผิดปกติ แม่ให้นินมาสืบว่าพี่เอาไปทำอะไร" ให้มาสืบแต่แกบอกพี่นธีไปหมดแล้วญานินหรือว่าจะเป็นพวกค่าเหล้าราคาแพงพวกนั้นนะ"..." ฉันยืนฟังสองคนพี่น้องเงียบ ๆ แล้วพี่นธีก็ปรายตามามองฉันแวบหนึ่งก่อนจะบอกน้องสาวตัวเอง"เงินก็เงินฉัน แม่จะอยากรู้ไปทำไม""แม่คิดว่าพี่เลี้ยงผู้หญิง" ญานินกอดอกพูดท่าทางเหมือนเป็นแม่พี่นธีอีกคน"ถ้าเลี้ยงแล้วแม่จะทำไม"ไม่ใช่แค่ญานินที่ตกใจ ฉันเองก็ด้วย ไหนเขาบอกว่าไม่อยากมีแฟนไง ไม่สิ เขาไม่อยากผูกมัดกับใครแสดงว่าแค่คบเล่น ๆ แต่เป็นสายเปย์เหรอ ทีหลังฉันต้องมองเขาใหม่แล้วสินะเห็นหน้าเงียบ ๆ ฟาดเรียบใช่ไหม"พี่นธีมั่วผู้หญิงเหรอ !!""..." คำพูดของญานินทำให้พี่นธีพ่นลมหายใจออกมาทันที"ฉันไปก่อนนะ พอดีมาหาญาติ" ฉันรีบปลีกตัวออกมาจากตรงนั้นทันทีก่อนที่ญานินจะกลับมาสนใจตัวฉันอีกรอบและไม่อยากจะฟังคำตอบของพี่นธี ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันแต่ฉันไม่อยากผิดหวังกับคำตอบแบบนั้นนี่นา"โอเค พรุ่งนี้เจอกันนะ" ฉันหันไปยิ้มให้ญานินแล้วมองพี่
EP.8"พี่นธี ! นินได้รับมอบหมายจากคุณแม่ให้มาตรวจสอบ""อะไร" คิ้วเข้มของเขาเริ่มขยับเข้าหากัน"แม่หยิบสมุดบัญชีไปปรับรายการมา เห็นพี่ใช้เงินเยอะผิดปกติ แม่ให้นินมาสืบว่าพี่เอาไปทำอะไร" ให้มาสืบแต่แกบอกพี่นธีไปหมดแล้วญานินหรือว่าจะเป็นพวกค่าเหล้าราคาแพงพวกนั้นนะ"..." ฉันยืนฟังสองคนพี่น้องเงียบ ๆ แล้วพี่นธีก็ปรายตามามองฉันแวบหนึ่งก่อนจะบอกน้องสาวตัวเอง"เงินก็เงินฉัน แม่จะอยากรู้ไปทำไม""แม่คิดว่าพี่เลี้ยงผู้หญิง" ญานินกอดอกพูดท่าทางเหมือนเป็นแม่พี่นธีอีกคน"ถ้าเลี้ยงแล้วแม่จะทำไม"ไม่ใช่แค่ญานินที่ตกใจ ฉันเองก็ด้วย ไหนเขาบอกว่าไม่อยากมีแฟนไง ไม่สิ เขาไม่อยากผูกมัดกับใครแสดงว่าแค่คบเล่น ๆ แต่เป็นสายเปย์เหรอ ทีหลังฉันต้องมองเขาใหม่แล้วสินะเห็นหน้าเงียบ ๆ ฟาดเรียบใช่ไหม"พี่นธีมั่วผู้หญิงเหรอ !!""..." คำพูดของญานินทำให้พี่นธีพ่นลมหายใจออกมาทันที"ฉันไปก่อนนะ พอดีมาหาญาติ" ฉันรีบปลีกตัวออกมาจากตรงนั้นทันทีก่อนที่ญานินจะกลับมาสนใจตัวฉันอีกรอบและไม่อยากจะฟังคำตอบของพี่นธี ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันแต่ฉันไม่อยากผิดหวังกับคำตอบแบบนั้นนี่นา"โอเค พรุ่งนี้เจอกันนะ" ฉันหันไปยิ้มให้ญานินแล้วมองพี่
EP.10ชั่วโมงต่อมาเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงรุ่นพี่ปีสามปล่อยพวกเราให้แยกย้ายกลับ ฉันกับใบเฟิร์นจึงรีบไปทางห้องเก็บของทันทีเพราะห่วงญานินที่ตอนนี้ยังไม่ออกมาให้เห็นหน้าจนกระทั่งประตูห้องถัดไปจากห้องเก็บของเปิดและพี่นธีก็เดินออกมาคนแรกจนเราเผลอสบตากันพอดี สีหน้าเขายังคงนิ่งเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนผู้ชายคนนี้คงมีแค่หน้าเดียวจริง ๆ ไม่ว่าจะอารมณ์ไหน"ญานิน ! แกเป็นไงบ้าง" ฉันรีบไปหาญานินที่อยู่ในอ้อมแขนของรุ่นพี่ทศกัณฐ์ เนื้อตัวของเพื่อนดูไม่ดีเท่าไรจนฉันรู้สึกจุกอก เข่าของยัยนั่นมีเลือดออกด้วยน่าจะถูกทำโทษรุนแรงแน่ ๆ"ไปเอาอุปกรณ์ล้างแผลมา" พี่ทศกัณฐ์หันมาสั่งหน้าเครียด"ค่ะ"ฉันรีบวิ่งไปห้องพยาบาลที่อยู่ในโรงยิมของคณะและขออุปกรณ์ล้างแผลจากเจ้าหน้าที่ก่อนจะเอามันมาให้พี่ทศกัณฐ์แล้วพี่ทศกัณฐ์ก็ทำแผลให้ญานินด้วยตัวเอง เขาเป็นแฟนเก่าและน่าจะเป็นแฟนในอนาคตของเพื่อนอย่างแน่นอนแบบไม่ต้องสงสัย"อิจฉาจังเลยค่ะ มีคนทำแผลมีคนดูแลแบบนี้ยอมเจ็บตัวทุกวันเลย" ใบเฟิร์นพูดแล้วทำหน้าเคลิบเคลิ้ม"ใช่เวลาที่ควรอิจฉาไหม ดูหน้าพวกพี่แต่ละคนด้วย" ฉันดีดหน้าผากเพื่อนตัวดีไปหนึ่งทีเมื่อเห็นสีหน้าของพวกพี่ ๆ ในแก
EP.11"แล้วสรุปพ่อมีอะไรกับเนย" ฉันเลี่ยงที่จะตอบคำถามนั้น(...) ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา (แกสบายดีใช่ไหม กินอยู่ยังไง)"..." คำถามของเขาทำเอาน้ำตาที่กำลังคลออยู่ค่อย ๆ ไหลออกมา "ทำไมพ่อเพิ่งมาถามตอนนี้ พ่อถามเพราะเป็นห่วงเหรอ ทั้งที่เนยลำบากอดอยากมากี่เดือนพ่อไม่เคยสนใจ มัวแต่ไปสนใจผู้หญิงคนใหม่ เชื่อลูกเลี้ยงเลว ๆ นั่น"ฉันพยายามจะไม่เสียงดังรบกวนพี่นธี พอหันไปมองเขาก็นั่งนิ่ง ไม่ได้เล่นเกมต่อแต่เหมือนจะเล่นมือถือแทน(พ่อขอโทษที่ไม่ติดต่อแก เพราะคิดว่าแกจะสำนึกผิดแล้วติดต่อมา) พ่อทำเสียงอ่อน"ทำไมเนยต้องสำนึกผิดในเมื่อเนยไม่ผิด"(...) ได้ยินเสียงพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง (วันนี้วันเกิดแก)"..."(พ่อจะให้อภัยแกทุกเรื่อง กลับบ้านบ้างนะ)ฉันยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาลวก ๆ ฉันแทบจะลืมวันเกิดตัวเองไปแล้ว แน่นอนว่าฉันอยากได้ยินคำอวยพรจากพ่อแต่สุดท้ายพ่อก็ไม่เคยเชื่อฉัน ในสายตาพ่อฉันยังคงเป็นเด็กขี้โกหกที่หนีตามผู้ชายแล้วไม่ยอมกลับบ้าน"จนถึงตอนนี้พ่อก็ยังไม่เชื่อเนย สองแม่ลูกนั่นมันคงเล่นของใส่พ่อแล้วมั้ง พ่อรู้ไหมว่าวันนั้นไอ้วีมันทำอะไรเนย เนยบอกพ่อไปหลายครั้งแล้วพ่อไม่สงสัยมั
EP.12"ซื่อบื้อ" ด่าจบเขาก็เดินหนีไปทันทีฉันจึงได้แต่วิ่งตามเขาไปเงียบ ๆ ด่าฉันอีกแล้วก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ คำอธิบายก็ไม่มีช่างเถอะ อยากซื้อให้ฉันก็จะใช้แล้วตอบแทนด้วยการอำนวยความสะดวกให้แล้วกัน"แม่พี่จะไม่บ่นเหรอใช้เงินเยอะขนาดนี้""ฉันหาเอง" เรียนอยู่เลยจะหาเองยังไงได้เยอะขนาดนี้"สอนเนยบ้างสิ หายังไง" เผื่อจะได้หาเองบ้าง"..." เขาไม่ตอบแต่กลับมองฉันที่นั่งเบาะข้าง ๆ ด้วยสายตาที่เข้าใจยากและไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่"ถ้าไม่สอนงั้นเนยสมัครเป็นเด็กพี่อีกคนแล้วนะ เลี้ยงไหวไหม เนยกินเก่งนะ" ฉันแกล้งหยอกออกไป"รู้ไหมว่าที่พูดหมายถึงอะไร""..." คำพูดของพี่นธีทำให้ฉันเงียบลงทันที ก้อนเนื้อตรงอกข้างซ้ายค่อยขยับแรงขึ้น "เนยแค่หยอกเล่นเอง ถ้าเป็นอีกคนได้ตบกับคนอื่นของพี่ดิ อีกอย่างพี่นธีหมดตัวพอดี""..." เขาหัวเราะในลำคอพร้อมมุมปากยกขึ้นเหมือนกำลังยิ้มออกมาแต่ฉันไม่กล้ามองต้องรีบหันหน้าหนีมาอีกทางเพราะความรู้สึกผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่จะเห็นเขามีรอยยิ้มแบบนี้ แล้วไหนจะเรื่องของที่ซื้อให้อีกมันไม่ใช่เรื่องปกติเลยสักนิด หรือว่าเขาอยากจะยัดเยียดความสัมพันธ์อย่างที่ว่ามาให้ฉันจริง ๆ มัน
EP.13"ทำไมไม่ไปดูเอง" เขาตวัดสายตามามองฉันแล้วก็กลับไปดูการแข่งขันฟุตบอลเหมือนเดิม"ขอโทษ... เนยรีบมาช่วยญานินเลยไม่ได้ไปหามัน" ฉันกัดปากด้านในแน่น นี่เขาโกรธฉันเรื่องให้อาหารแมวใช่ไหม "แล้วพี่ไม่กินเหรอคะหรือไม่ชอบ งั้นเดี๋ยวเนยกลับไปทำกับข้าวให้กินไหม""อืม" เขาตอบสั้น ๆ แล้วยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่ม“พี่นธีโกรธอะไรเนยหรือเปล่าคะ” สีหน้ายังคงบึ้งตึงไม่เปลี่ยนจึงรวบรวมความกล้าถามออกไป“...” แต่คนที่ทำหน้าบึ้งอยู่กลับหันมามองอย่างเดียวไม่ให้คำตอบอีกเช่นเคย แล้วฉันจะรู้ไหมว่าเขาเป็นอะไร"ไปนั่งด้วยกันไหมคะ จะได้สนุกกว่านั่งคนเดียว" ฉันชวนแต่คนฟังเอาแต่นั่งนิ่ง "งั้นเนยไม่กวนแล้วค่ะ""เดี๋ยวไป" พี่นธีพูดเบา ๆ ตามหลัง ฉันจึงหันไปแย้มยิ้มดีใจให้และเดินกลับมาร่วมวงสนทนนากลุ่มใหญ่ เขาเป็นคนที่เอาใจยากจริง ๆ ไม่รู้ว่าไม่พอใจเรื่องอะไรแต่ฉันก็อดสนใจไม่ได้อยู่ดี และถ้าถามมากไปเขาอาจจะคิดว่าฉันคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ก็ได้"แก้วนี้สำหรับเจ้าของวันเกิด" พี่ฮ่องเต้ยื่นแก้วมาให้ "ชงไม่เข้มกินได้สบาย""ขอบคุณค่ะ" ฉันรับมันมาแล้วค่อย ๆ ดื่มทีละนิดไม่นานนักพี่ทศกัณฐ์ก็เข้ามานั่งกับพวกเราแล้วก็เดินไปนั่
EP.28ฉันมาถึงหน้าห้องประชุมกับใบเฟิร์นเกือบบ่าย ตอนนี้มีคนอยู่ด้านในแล้วจึงผลักประตูเข้าไปและขออนุญาตตามมารยาท"เชิญครับ น้อง... นิเนย" รุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่หัวโต๊ะพูดขึ้นแล้วผายมือให้ เขาทำท่าครุ่นคิดชื่อฉันอยู่หลายวินาทีก่อนจะพูดและยิ้มออกมา"ค่ะ"ถ้าจำไม่ผิดพี่เขาน่าจะเป็นนายกสโมสรนักศึกษา ชื่อว่าพี่โก้ หน้าตาดีมีความสามารถเรียนอยู่ปีสี่คณะบริหารตอนนี้ใบเฟิร์นรออยู่ร้านกาแฟใต้ตึกเรียนรวมเพราะไม่อยากเข้ามาในห้องประชุมให้คนอื่นมอง แล้วทุกคนที่เกี่ยวข้องก็เริ่มทยอยกันเข้ามา ผู้หญิงที่จะถ่ายกับฉันมีอยู่สามคนเรียนอยู่ปีหนึ่งสองคนและรุ่นพี่ปีสองอีกคน แล้วยังมีผู้ชายอีกสี่คนเป็นรุ่นพี่ปีสองและปีสามต่างคณะกันไป จนเวลาบ่ายโมงคนก็มาเกือบครบ เหลือช่างภาพอีกคนที่ได้ยินพี่โก้ถามถึง สักพักประตูก็เปิดเข้ามาคิดว่าคงเป็นคนนั้นร่างสูงที่เดินเข้ามาทำให้ฉันนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง แล้วเจ้าของใบหน้าลูกครึ่งก็หันมาสบตากับฉันก่อนจะยิ้มออกมา 'พี่ฟิน' คนที่ขอไลน์ฉันวันนั้น "มากันครบแล้ว พี่จะเริ่มคุยรายละเอียดของงานนะครับ" แล้วพี่โก้ก็เริ่มคุยงานสีหน้าจริงจัง "เสื้อกีฬาที่เราจะให้น้อง ๆ ถ่ายมีส
EP.27หลายวันต่อมา"เปิดช้าจังวะ มึงมัวทำอะไร""...""แล้วมึงทำเสร็จยังงานที่ลูกค้าสั่ง กูจะได้เอาไปลงระบบกูต่อ ฮะ... เฮ้ย !""อย่าเสียงดังได้ไหม" "นั่นมันน้องนิเนยไม่ใช่เหรอ" บทสนทนาของคนสองคนดังเข้ามาในโสตประสาททำให้ฉันตื่นขึ้นมาจากภวังค์ ค่อย ๆ ขยับเปลือกตาขึ้นมาช้า ๆ รู้สึกเหมือนยังหลับไม่เต็มอิ่มเลย แสดงว่าเช้าอยู่เหรอ แล้วใครมา..."มึงบอกกูมาว่าตั้งแต่ตอนไหน" เสียงของพี่คิวนี่ !ฉันหรี่ตามองคนที่ยืนเอามือเท้าเอวมองพี่นธีสลับกับฉันแต่เขาคงไม่รู้ว่าฉันตื่นแล้ว "เสือก" พี่นธีตอบสั้น ๆ เหมือนรำคาญแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะหันไปพูดเรื่องงานต่อ "กูทำเสร็จแล้วเดี๋ยวทำไฟล์ส่งให้ ไหนแผงวงจรที่สั่ง""อยู่ในกล่อง" พี่คิวจำใจเลิกสงสัยแล้วเดินไปคุยเรื่องงานกับพี่นธี ส่วนฉันก็แกล้งหลับต่อเพราะไม่กล้าเผชิญหน้ากับพี่คิวตอนนี้เริ่มมีคนรู้เรื่องของเราแล้วตั้งแต่วันที่ไปเที่ยวดอยและบ้านของใบเฟิร์น แต่ไม่รู้ว่าญานินกับใบเฟิร์นจะรู้หรือเปล่าไม่นานพี่คิวก็ออกจากห้องไป ฉันจึงค่อย ๆ ขยับตัวออกจากผ้าห่มผืนหนาสีเทาเข้ม วันนี้เขาตื่นเช้ามาทำงานอีกแล้ว เพิ่งเคยเห็นมุมนี้ของเขาช่วงสองสามวันที่ผ่านม
EP.26พอเริ่มดึกมันก็เริ่มหนาว เริ่มเมาและมึนนิดหน่อย ทั้งที่พี่นธีก็ดื่มอีกครึ่งแก้วที่ฉันโดนแล้ว"ไปเข้าห้องน้ำนะ" ฉันหันไปบอกใบเฟิร์นแล้วลุกขึ้นจากตรงนั้น ตอนลุกมันก็มีเซเล็กน้อยแต่คงไม่มีใครเห็นหรอกฉันเดินมาจนถึงบ้านหลังที่เช่าไว้ก็รีบเข้าห้องน้ำและแปรงฟันจนเสร็จเรียบร้อยแล้วออกมา"ตะ... ตกใจหมด" พอออกมาจากห้องน้ำก็แทบจะหัวใจวายเพราะพี่นธีมายืนกอดอกจ้องเขม็งอยู่หน้าห้องน้ำ "พี่มาตอนไหนคะ""..." เขาขมวดคิ้วมองมาด้วยสายตาดุ ๆ "มาคนเดียวทำไม""มันใกล้แค่นี้เนยไม่อยากรบกวนใคร" ฉันตอบแล้วยิ้มให้เขา "พี่มาเข้าห้องน้ำเหรอ""เปล่า" เขาตอบแล้วขยับตัวเข้ามาใกล้"มีอะไรกับเนยหรือเปล่า" ถ้าไม่มาเข้าห้องน้ำก็แปลว่ามาหาฉัน"คืนนี้... ไม่ได้นอนด้วย" เขาพูดออกมาแบบนั้นแต่หน้านิ่งมาก ไม่รู้ว่าเขากำลังรู้สึกยังไง"คะ""มานี่" เขาสั่งเสียงเรียบก่อนจะดึงรั้งฉันเข้าไปใกล้แล้วทาบทับริมฝีปากลงมาบดขยี้ริมฝีปากอวบอิ่มของฉัน มือหนารั้งศีรษะเข้าไปใกล้อีกและออกแรงกดท้ายทอยเอาไว้จนริมฝีปากฉันแทบจะฝังอยู่กับปากของเขากลิ่นแอลกอฮอล์ลอยเข้ามาในจมูกผสมกับกลิ่นมิ้นท์จากยาสีฟันของฉันปะปนกันไปหมด เขายังคงบดจูบและค่
EP.25ในที่สุดก็ถึงวันที่เราต้องออกเดินทาง ฉัน ใบเฟิร์น และพี่คิวมากับรถพี่นธี ญานินไปกับพี่ทศกัณฐ์ ส่วนพี่ฮ่องเต้น่าจะมากับผู้หญิงอีกคันเพราะได้ยินพี่คิวคุยกับพี่นธีแบบนั้นทางขึ้นเขาค่อนข้างคดเคี้ยวและชันมาก แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของฉันเลยไม่น่ากลัวเท่าไร อีกอย่างพี่นธีก็ขับรถเก่งฉันก็เลยสบายใจ"เราจะจองบ้านหนึ่งหลังนะ เผื่อเอาไว้ อีกอย่างสะดวกตอนใช้ห้องน้ำด้วย แล้วก็มีเต็นท์อีกสี่หลัง" ใบเฟิร์นอธิบายให้ทุกคนฟังหลังจากที่เรามาถึงอุทยาน ที่นี่เป็นป่าสนมีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก"ก็ดีเหมือนกัน มึงกับกูใช่ไหมไอ้ธี" พี่คิวพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะหันไปถามพี่นธีที่ทำหน้านิ่งอยู่ตรงที่นั่งยาว ๆ อีกฝั่ง"ทำไมต้องกูกับมึง" พี่นธีพูดเสียงเรียบ"หรือมึงจะไปดีลกับน้อง ๆ" พี่คิวถามแล้วหันมามองทางฉันกับใบเฟิร์นพร้อมกับรอยยิ้ม "พี่ล้อเล่น""..." ฉันหลุดขำออกมาแต่พอหันไปสบสายตานิ่ง ๆ ของพี่นธีก็ต้องเบือนหน้าหนีไปเพราะอาจจะโดนจับจ้องจากคนรอบตัว แล้วเขาก็หยิบกระเป๋าของตัวเองเดินออกไปจากตรงนี้ไม่พูดไม่จาแล้วพวกเราก็มากางเต็นท์กันที่ลานกว้าง นอนกันเป็นคู่ ญานินกับพี่ทศกัณฐ์ พี่ฮ่องเต้กับพี่ใบชาผู้หญิงที
EP.24ตอนนี้พี่นธีนั่งทำงานอยู่ตรงโซฟา เห็นเขาตั้งใจแบบนั้นฉันจึงไม่อยากกวนแต่เส้นผมที่เพิ่งถูกสระของเขาดูจะน่ารำคาญไม่น้อยเลยเพราะมันเกะกะไม่เป็นทรงจนต้องเสยมันขึ้นหลายรอบ ฉันเห็นแบบนั้นจึงเดินไปหยิบยางรัดผมมาและนั่งบนโซฟาซึ่งเขานั่งอยู่บนพรมด้านล่าง"มีอะไร" พี่นธีหันมาถาม"เนยจะมัดให้ มันจะได้ไม่เกะกะไง" ฉันแอบกลัวว่าจะไปวุ่นวายให้เขารำคาญเพิ่มเล็กน้อย แต่เขาแค่มองยางรัดผมในมือเมื่อเขาไม่ว่าอะไรฉันก็เอื้อมมือไปรวบผมด้านบนของเขาขณะที่เจ้าตัวนั่งเงียบเงยหน้ามองฉันอยู่ พอมัดเสร็จฉันก็ยิ้มออกมาแล้วหัวเราะเบา ๆน่ารักเหมือนเด็กสามขวบเลยแต่เป็นเด็กหน้ามึนนะ"ขำอะไร" คนหน้ามึนถามต่อแล้วมองฉันอย่างจับผิด คิ้วเข้มขยับเข้าหากัน"เปล่าค่ะ พี่นธีน่ารักดี" ฉันอมยิ้มตอบกลับไปแล้วหยัดตัวลุกขึ้น ก่อนจะตกใจเมื่อร่างเซถลาลงไปคร่อมตัวเพราะมือหนาที่ดึงรั้งข้อมือความนุ่มที่สัมผัสได้ด้วยจมูกทำให้รีบดันตัวออกแต่พี่นธีกลับโอบเอวฉันไว้พลางเอนพิงกับโซฟาอีกด้าน"หายไข้ยัง" "คะ ? ยะ... ยังค่ะ" สายตาเป็นประกายนั่นทำให้ฉันต้องตอบด้วยความหวั่นใจ "..." มือหนาเลื่อนมาแตะหน้าผากฉันก่อนจะยกยิ้มมุมปาก ฉันอยากเห็
EP.23ตอนนี้พี่นธีเดินหายไปแล้ว เขาออกจากห้องไปเงียบ ๆ ทิ้งให้ฉันสงสัยอยู่ตรงนี้เมื่อคืนยังโมโหฉันอยู่เลย แต่อยู่ ๆ ก็มาทำดีด้วยอีก ฉันปรับอารมณ์ตามไม่ทันแล้วนะ แถมยังเอามือถือกับเงินมาคืนด้วยฉันขยับตัวขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย อีกไม่กี่วันยัยพวกนั้นก็จะไปเที่ยวดอยแล้วฉันจะไหวไหมนะแกร๊กเสียงประตูเปิดเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับร่างสูงที่ถือถุงบางอย่างเข้ามาเงียบ ๆ เขาปรายตามองฉันเล็กน้อยก่อนจะเดินไปที่ครัว สักพักก็กลับมาพร้อมกับโจ๊กสำเร็จรูปในถ้วยกระดาษ"กิน แล้วก็กินยา" "พี่ไม่ได้ทำเนยป่วย ไม่ต้องดูแลก็ได้ค่ะ" ฉันรับมันมาถือไว้ในมือแล้วคนให้มันเย็นขึ้น "..." พี่นธีไม่พูดอะไร เขาเดินไปจากเตียงอีกครั้งและกลับมาพร้อมกับน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว ยาหนึ่งเม็ด"ยา" เขาวางมันตรงชั้นข้างเตียงแล้วกลับมานั่งขอบเตียง ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะไม่ทำตัวให้ทะเลาะกันอีกแล้ว ตอนนี้เหมือนความรู้สึกที่เคยมีก่อนหน้ามันแทรกมาด้วยความอึดอัดเลย เขาอาจจะเริ่มรำคาญฉันแล้ว"พี่นธี ยังโมโหเนยอยู่ไหม" ฉันถามแล้วก้มลงมองถ้วยโจ๊กในมือที่มีไอความร้อนลอยขึ้นมา"ไม่" เขาตอบแค่นั้นและยังคงนั่งมองฉันเงียบ
EP.22Natee talks.ผมคิดมาทั้งวันทั้งคืนเพราะกำลังสับสนว่าควรจะทำอย่างไรต่อดี คงต้องเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มที่ทำให้บานปลายมาถึงตรงนี้เมื่อวานผมอยู่ห้องทั้งวันเพราะมีคนสนใจจะจ้างเขียนโปรแกรมและรอใครบางคนกลับมา เธอบอกว่าจะออกไปหาเพื่อนแต่บ่ายสามแล้วคนที่คิดว่าจะกลับมาก็ยังไม่โผล่มาให้เห็นหน้าไม่เป็นไรรอได้...จนเวลาล่วงเลยไปถึงห้าโมง หกโมง เธอก็ไม่มา ขณะที่ผมหยิบมือถือแล้ววางมันลงเป็นสิบยี่สิบครั้งเพราะคิดจะโทร.ไปแต่... ก็ไม่โทร. และคนคนนั้นก็ไม่คิดจะโทร.มาหาผมเลยพอหนึ่งทุ่มในที่สุดเธอก็มา ไม่พูดไม่จา จัดการกับข้าวที่ทำมาเงียบ ๆ พอเห็นผมไม่พูดเธอก็เลยถามคำถามทั่ว ๆ ไปออกมาเหมือนอยากทำลายความเงียบเธอถามคำถามเดียว ผมก็ตอบไปสั้น ๆ เป็นเรื่องปกติ สักพักเธอก็เดินไปคุยกับปุยนุ่น'กินเยอะ ๆ นะ เดี๋ยวนิเนยจะไปแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน'ประโยคที่คุยกับแมวยังเยอะกว่าที่คุยกับผมอีก แสดงว่ามันต้องมีอะไรแน่ ๆ ถ้าไม่โกรธอะไรผมก็ต้องไปเจอคนที่ถูกใจแล้วอยากตีตัวออกหากแน่นอน มาแป๊บเดียวแล้วจะกลับได้ไงวะห้องก็อยู่แค่นี้ไฟเริ่มก่อตัว...แล้วเธอก็ออกจากห้องไป... แบบไม่ไยดี ไม่ยิ้มให้เหมือนที่ชอบยิ้มให้ผมต
EP.21ครืด ~ ครืด ~'พ่อน้องปุยนุ่น'หัวใจฉันเต้นรัวขึ้นมาทันทีที่ชื่อนั้นโชว์บนจอโทรศัพท์มือถือ คนที่เป็นสาเหตุของอารมณ์ฟุ้งซ่านในตอนนี้นี่เป็นครั้งแรกที่เราโทร.หากันตั้งแต่มีเบอร์โทรศัพท์แถมยังเป็นเขาที่โทร.มาก่อนด้วย"...คะ"(มาดูแมว) เขาพูดเสียงเรียบ"ดูทำไม มันเป็นอะไรคะ" ฉันสงสัยและร้อนใจจึงรีบลงจากเตียงแล้ววิ่งไปที่ประตูทันที(มาดูเอง) แล้วเขาก็วางสายไปทันทีพร้อมขาของฉันที่ถึงหน้าห้องเจ้าตัวเรียบร้อยแล้ว"มันเป็นอะไรเหรอ" ฉันรีบเดินเข้ามาในห้องแล้วถามเขาที่ยืนกอดอกจ้องปุยนุ่นอยู่ตรงระเบียง"มันอ้วก" เขาตอบสั้น ๆ แล้วมองฉันเหมือนมีอะไรสักอย่างจนฉันต้องก้มมองตัวเอง ฉันรีบจนลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองกำลังใส่เสื้อยืดตัวบางรัดรูปกับกางเกงขาสั้นแบบใส่นอนอีกตัว"ขอโทษที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย เนยรีบ" ฉันบอกแล้วเดินไปดูเจ้าปุยนุ่นก่อนจะขำเบา ๆ "มันแค่สำรอกขนค่ะ แต่คงทรมานน่าดู เพราะเลียขนตัวเองแล้วมันร่วงเยอะเกินไปเลยต้องขับออกมาทางนี้ เนยต้องแปรงขนให้มันบ่อยกว่านี้"ฉันบอกพี่นธีแล้วเงยหน้าขึ้นไปส่งยิ้มให้เขาเพื่อบอกว่ามันไม่มีอะไร"..." แต่เขากลับเอาแต่จ้องหน้าไม่เลิก "ฉันไม่รู้"คนตัวสูงพูดแ
EP.20วันต่อมาฉันตื่นมาทำกับข้าวมื้อเช้าในเวลาที่เกือบจะสายเพราะนอนหลับสบายเกินไป ส่วนพี่นธีตอนนี้ก็ยังนอนอยู่บนเตียงไม่ยอมตื่นสักทีพอทำกับข้าวเสร็จคนที่นอนอยู่บนเตียงก็เริ่มขยับกายไปมา และลุกขึ้นมองมาทางฉัน"เนยเอาอาหารไปให้ปุยนุ่นแล้ว พี่จะกินเลยไหมคะ""พึ่งตื่น จะให้กินเลย ?" พี่นธีพูดแล้วจ้องหน้าอย่างกับว่าฉันกำลังบังคับเขาอยู่อย่างนั้นแหละ"งั้นเดี๋ยวเนยยกไปไว้ให้ที่ห้องนะคะ" ฉันพูดแล้วเตรียมภาชนะมาใส่อาหาร"ไล่ ?""เนยไม่ได้พูดแบบนั้น"ทำไมตื่นมาก็หาเรื่องเลยล่ะ ตื่นเช้ามาก็อารมณ์เสียเลยเหรอ"..." แล้วพี่นธีก็เดินไปเปิดโทรทัศน์ที่ฉันไม่เคยแตะต้องมันเลยเพราะมีอะไรหลายอย่างให้ทำจนไม่มีเวลาว่าง"วันนี้พี่ไปไหนไหม""ไม่" เขาตอบแค่นั้นแล้วก็เงียบไป ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง "จะไปไหน""เนยว่าจะออกไปหาเพื่อน นัดคุยเรื่องไปเที่ยวแล้วก็เรื่องลงทะเบียนเรียนเทอมหน้า" ฉันตอบแล้วเก็บอาหารไว้บนเคาน์เตอร์"เอาเลขบัญชีมา""คะ ?""ค่าทำงาน" เขาเดินไปหยิบมือถือของตัวเองที่วางบนเตียงมากดยุกยิก"อ้อ ค่ะ" แล้วฉันก็พยักหน้าบอกเลขบัญชีให้เขา สักพักข้อความแจ้งเตือนก็โชว์ขึ้นมาบนจอ'09/10/XX 09:52 บช XX1