หญิงสาวผู้อวบอ้วนนำ้ร้อยกว่ากิโล ไม่เคยมีแฟน ไม่ต้องถามถึงสามีก็ไม่มีเช่นกัน วันหนึ่งเกิดลื่นเปลือกกล้วยตุยไป แล้ววิญญาณดันไปอยู่ในร่างนางร้ายชื่อเสียงฉาวโฉ่ ในนิยายที่เคยอ่านนานมาแล้ว ไม่ต้องถามถึงวีรกรรม ตามตบหญิงสาวทุกคนที่เข้าใกล้พระเอกของเรื่องคือท่านอ๋องหยางเล่อ คอยสกัดขานางเอกไม่ให้เข้าใกล้พระเอกยอดดวงใจ แต่อนิจจาพระเอกแสนจะรังเกียจเดียจ์ฉันท์นางร้าย เจอนางร้ายที่ไหนก็พยายามหลีกหนี แถมผู้คนก็ซุบซิบนินทา แสดงความรังเกียจในพฤติกรรมของนางร้าย น่าสงสารจริงหนอ เฝ้ารัก เฝ้าหวงคนที่เขาไม่แม้แต่จะชายตาแล อย่ากระนั้นเลย ข้าจะปฏิวัติชีวิตของเจ้าเสียใหม่ หน้าก็งามปานจะล่มเมือง หุ่นหรือก็เซ็กซี่ขยี้ใจชาย เฮอะ !!จะแคร์ทำไมผู้แค่คนเดียว หาใหม่ไปเลยค่ะ ผู้แซ่บๆ มีออกมากมาย ฮ่าฮาฮา
View Moreร่างหนาเฝ้าขยับโยกเรือนกายในร่องสวยของเมียสาวอย่างรุนแรงทั้งคืน ผ่านไปหลายเดือน เช้าวันหนึ่งชิงเอ๋อตื่นขึ้นมา พลางขยับตัวลุกขึ้น ยกมือหนาออกจากเอว พลันรู้สึกพะอืดพะอม รีบลุกออกไปอาเจียนข้างนอกห้อง กลัวรบกวนการนอนของท่านแม่ทัพ ซื่อหลัน รีบวิ่งเข้ามาดูแล อนุชิง จนอาการดีขึ้นแล้วพยุงอนุชิงเข้ามานั่งในห้อง ท่านแม่ทัพตื่นขึ้นมาลืมตามองเมียรักเห็นนั่งหน้าซีดเผือด ท่าทางอ่อนแรง ก็ผุดลุกขึ้น สั่งให้ซื่อหลัน ไปบอกให้พ่อบ้านไปตามท่านหมอมาดูอาการของอนุชิง ร่างหนาโอบประคองเมียรักไปนอนบนเตียง พลางนั่งอยู่ข้างๆเป็นเพื่อน ครู่ใหญ่ท่านหมอก็กระหืดกระหอบเข้ามาในห้อง เมื่อตรวจอาการอนุชิงแล้ว "ท่านแม่ทัพ จะได้คุณหนูน้อยๆแล้วนะขอรับ " ร่างหนาตะลึงงัน ผุดลุกขึ้นโอบกอดเมียรักแน่น ชิงเอ๋อเจ้าจะมีเจ้าตัวน้อยให้พี่แล้วนะ "ซื่อหลันดูแลนุชิงให้ดีนะ ไม่ให้ทำอะไรหนักๆเด็ดขาด ไปบอกให้พ่อบ้านส่งคนมารับใช้ที่เรือนนี้เพิ่มอีก 2คน ข้าไม่ต้องการให้เมียกับลูกของข้าเป็นอะไรไปเด็ดขาด ท่านแม่ทัพยิ้มสุขใจ หน้าบ้านเป็นจานเชิง ฮูหยินใหญ่เมื่อรู้ข่าวอนุชิงตั้งครรภ์ ดีใจจนเนื้อเต้น เพราะรอคอยหลานคนแรกมานานแล้ว รีบไปหาอนุชิ
รุ่งสางวันต่อมาชิงเอ๋อตื่นขึ้นอาบน้ำแต่งตัว เสร็จเรียบร้อย เมื่อท่านแม่ทัพตื่นขึ้น ก็ปรนนิบัติอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย ท่านแม่ทัพดึง ชิงเอ๋อมาโอบกอดแน่น "ไม่ต้องกังวลนะ พี่อยู่ข้างๆจะไปเป็นเพื่อนเจ้าเอง วันข้างหน้าพี่เขื่อว่าท่านแม่จะรักเจ้าเหมือนพี่ "จากนั้นจูงมือกันไปเรือนฮูหยินใหญ่ เพื่อยกน้ำชา ฮูหยินใหญ่นั่งรออยู่ในห้องโถงมองสองผัวเมียจูงมือกันเข้ามาหน้าตาชื่นบาน ก็อดที่จะคิ้วกระตุกน้อยๆไม่ได้ เชอะ !! แต่งอนุเข้ามาวันเเดียว ดูจะหลงไหลมันเต็มที่ ชิงเอ๋อเดินมาถึงก็คุกเข่าลงต่อหน้าแม่สามี ท่านแม่ทัพพยักหน้าให้บ่าวรับใช้นำน้ำชามาส่งให้ชิงเอ๋อ ชิงเอ๋อรับน้ำชามายื่นให้แม่สามี ด้วยกิริยานอบน้อม ฮูหยินใหญ่รับน้ำชาไว้ พลางใช้หางตามองชิงเอ๋อตอนนี้เจ้าเป็นอนุของท่านแม่ทัพแล้ว คงจะวางตัวถูกหรอกนะ เพื่อไม่ให้ท่านแม่ทัพต้องอับอาย เจ้าควรจะรู้ดีว่าต้องทำตัวอย่างไร อย่างว่านะ เป็นบ่าวรับใช้มาทั้งชีวิต เพิ่งจะได้ขยับฐานะมาเป็นอนุ คงจะดีใจจนเนื้อเต้น เพราะชาตินี้คงไม่คิดฝันว่าจะมีโอกาสได้เป็นหรอกนะ " ฟาดแรงๆไปหนึ่ง กรุบ "ท่านแม่ขอรับ ชิงเอ๋อไม่ใช่คนอย่างนั้นหรอก ขอท่านแม่โปรดให้โอกาสนางด้วย ล
ชิงเอ๋อนั่งน้ำซึมอยู่หน้าคันฉ่อง ร่างเล็กแต่งกายสวยงามเป็นชุดที่ดีที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา พระชายาหลี่ ยื่นแต่งแต้มใบหน้าชิงเอ๋อจนสวยงามชวนตะลึง เอาให้ท่านแม่ทัพตะลึงงันกันไปเลย "ชิงเอ๋อ เจ้าร้องไห้ทำไม เดี๋ยวเครื่องแต่งหน้าหลุดหมดนะ เดี๋ยวจะไม่งาม วันนี้วันสำคัญของเจ้านะ ต้องงามที่สุดให้เจ้าบ่าวตะลึงไปเลย ""ชิงเอ๋อ ไม่อยากจากพระชายาไปนี่เจ้าคะ คิดถึงพระชายากับท่านชายน้อย ต่อไปคงจะไม่ได้เห็นกันทุกวันแล้ว" ชิงเอ๋อคร่ำครวญ "เด็กน้อยเอ๋อ เจ้าจะร้องไห้ทำไม เจ้าจะได้แต่งงานกับคนที่เจ้าแอบรักมาตั้งนานนะ แล้วเขาก็รักตอบเจ้าด้วย น่าอิจฉาจะตาย ไม่ต้องแห้งเหี่ยวหัวโตอยู่กับข้า สามีเจ้าหรือก็หล่อเหลา หุ่นหรือก็น่าฟัด น่าขย่ำออกปานนั้น นี่ถ้าหากข้าไม่มีท่านอ๋องอยู่แล้วนะ ข้าคงไม่ปล่อยให้หลุดมือไปถึงเจ้าหรอก " (พูดพลางแอบเช็ดน้ำลายนิดๆ )ชิงเอ๋ออ้าปากหวอมองหน้าพระชายาหลี่เขม็ง "ข้าล้อเจ้าเล่นหรอกนะ แหม!! ยังไม่ทันตบแต่งก็ออกอาการหวงผัวขึ้นมาเชียว" ชิงเอ๋อเหวอหนักกว่าเดิม นี่พระชายาท่าน !!!"เอาละ ๆ ซับน้ำตาเดี๋ยวเครื่องแต่งหน้าหลุดหมด ข้าจะเข้าเรื่องสำคัญแล้วนะ เจ้าแต่งเข้าจวนโจวางไปเป็นอนุ เจ
เสียงกรีดร้องของม่านอี้ ดังออกมาจากห้องเป็นระยะ ร่างสูงสง่าเดินวนเวียนไปมาจนน่าเวียนหัว ท่านเสนาบดีหลี่ผุดลุกผุดนั่งอยู่หลายครา ด้วยเป็นห่วงบุตร และหลานรักว่าจะเป็นอย่างไร ม่านอี้ ร้องเสียงดังอย่างนี้มาสองชั่วยามแล้ว“อุแว๊ อุแว๊..” เสียงร้องดังของทารกดังขึ้น สองร่างของพ่อตาลูกเขยต่างวิ่งแข่งกันจะเข้าไปในห้อง “ลูกพ่อ เป็นอย่างไรบ้าง ” เสนาบดีหลี่ จ้องมองม่านอี้ที่นอนหน้าซีดเผือดอยู่บนเตียง พลางเหลือบมองห่อผ้าเล็กๆนั่น มีหน้ากระจ่อยร่อยโผล่ออกมา “หลานของตา หน้าตาเหมือนตาไม่มีผิด ” ท่านอ๋องมองแรงไปยังพ่อตา เด็กเพิ่งจะคลอดแท้ๆ ยังมองออกอีกว่าเหมือนตัวเองเขาเองเป็นพ่อแท้ๆ ยังไม่ทันได้ชื่นชมลูกของตัวเองเลย ทำมากับมือแท้ๆ “ได้ท่านชายน้อยเจ้าค่ะ” หมอตำแย อุ้มห่อผ้าน้อยๆ นั่นพลางวางห่อผ้าลงที่อกของม่านอี้ ม่านอี้ยิ้มทั้งน้ำตาลูกของแม่ เราได้พบกันแล้วนะท่านอ๋องหยางเล่อยิ้มไม่หุบ “เชื้อพ่อของเจ้ามันแรงจริงๆ ได้ลูกชายหล่อเหลาสง่างามเหมือนพ่อไม่มีผิด ” พลางยิ้มปลื้มปริ่ม ม่านอี้มองสองพ่อตาลูกเขยคู่นี้ หลงตัวเองทั้งคู่ พลางส่ายหน้าน้อย “พ่อตั้งชื่อให้เจ้าเลยดีไหม เอาเป็นชื่อ หยางอัน ก็แล้วกัน
บ่ายวันนั้น ชิงเอ๋อกลับมายังจวนหลี่ ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงระเรื่อ หลี่ม่านเอ๋อพินิจใบหน้านั้นด้วยความแปลกใจ “เจ้าหายไปไหนมาทั้งคืน ข้าให้คนไปตามหาก็ไม่พบ แล้วยังเพิ่งกลับมาเอาป่านนี้ ”ชิงเอ๋อยิ้มขวยเขิน พลางบิดตัวไปมา“ถ้าชิงเอ๋อบอกไป คุณหนูอย่าตำหนิชิงเอ๋อนะเจ้าคะ ” ชิงเอ๋อหน้าแดงก่ำดูมีพิรุธอย่ามาก“บอกว่าเถอะ ข้าสัญญาจะไม่ดุว่าอะไรเจ้าเลย“ ม่านอี้หรี่ตามองดูชิงเอ๋อ รู้สึกอาการแบบนี้คุ้นๆอยู่ ”ชิงเอ๋อ เออ..ไปอยู่ที่โรงเตี้ยมกับท่านแม่ทัพมาทั้งคืนเลยเจ้าค่ะ คือ..จนถึงเข้าเลย..“มิเสียแรง มิเสียแรงจริงๆๆ ที่เป็นศิษย์เอกของข้า เจ้าพิชิตท่านแม่ทัพแล้วแน่นอน ถ้าออกมาอีรูปนี้ คิดพลางหรี่ตามองหน้าจิ้มลิ้มที่แดงระเรื่อ ริมฝีปากบวมเจ่อ ชัดเลย ”เจ้าจะบอกว่าเมื่อคืนเจ้าตกเป็นของท่านแม่ทัพแล้วใช่ไหม“ ชิงเอ๋อก้มหน้าที่แดงก่ำพลางตอบ“เจ้าค่ะ“”แล้วท่านแม่ทัพ เขาบอกเจ้าไหมว่าจะจัดการเรื่องนี้เช่นไร“ ชิงเอ๋อเงยหน้าขึ้น ดวงตากังวลเล็กน้อย ”ชิงเอ๋อ แอบมีใจให้ท่านแม่ทัพมานานแล้วเจ้าค่ะ แต่ไม่กล้าอาจเอื้อม เพียงแค่เฝ้ามองท่านแม่ทัพมาหาคุณหนู ชิงเอ๋อก็สุขใจแล้ว เรื่องเมื่อคืน ท่านแม่ทัพเมามาก เอาแต่พร่
สายวันรุ่งขึ้น ท่านแม่ทัพลงจากรถม้าแย้มยิ้มอารมณ์ดี วันนี้สั่งที่จวนทำกับข้าวมื้อกลางวันมาส่ง จะรับประทานที่นี่กับม่านอี้ แล้วจะถือโอกาสคุยเรื่องแต่งงาน ขณะที่เดินวางแผนอย่างอารมณ์ดีนั้น พลันหยุดชะงักฝีเท้า เมื่อเห็นองครักษ์เดินตามท่านอ๋องหยางเล่อเข้าไปในร้าน ท่านแม่ทัพ จึงเลาะเข้าไปทางด้านข้างร้านทันทีเพื่อเฝ้าดูเหตุการณ์ในทันที พลันได้ยินเสียงหนึ่งดังงขึ้น“เมียจ๋า วันนี้กลับตำหนักไปนอนกอดกันดีกว่านะ ” เสียงท่านอ๋องหยางเล่อดังขึ้น “ คนบ้า จะไปได้อย่างไร ท่านพ่อจะได้เอาตาย ท่านพี่ก่อเรื่องไว้ท่านพ่อยังไม่ให้อภัยนะ” เสียงม่านเอ๋อคัดค้าน “ท่านพ่อตาต้องใจอ่อนสักวันแน่ ลูกของเราจะคลอดอยู่แล้ว ลูกต้องได้อยู่พร้อมกันพ่อแม่ลูก”“ว่าแต่วันนี้พี่ขอมัดจำก่อนนะ “ เสียงหยอกเย้าเบาๆดังขึ้น ”อ๊าย!! อย่านะคนบ้าไม่เอา ” เสียงที่จำได้ขึ้นใจว่าเป็นของม่านอี้ดังขึ้น จากนั้นก็เป็นเสียงครวญครางผสานกันของบุรุษและสตรีหัวใจท่านแม่ทัพแตกสลาย ใจที่บานพองฟูเมื่อสักครู่พลันเหี่ยวแฟบลง ม่านอี้ พี่รักเจ้าเหลือเกิน ทำไมเจ้าทำแบบนี้ จะคืนดีกับเขาก็ไม่บอก ไม่ให้เวลาพี่ตั้งตัวบ้างเลย ร่างล่ำสันเดินคอตกออกไปจากหลังร
หลังจากกำจัดนางมารร้ายออกไปจากตำหนักได้แล้ว ท่านอ๋องก็ตรงไปหาชายารักที่ร้านเครื่องแต่งกาย เมื่อไปถึง เห็นชายารักนั่งคุยอยู่กับแม่ทัพโจวท่านอ๋องชะงัก รีบหลบไปข้างร้านเฝ้าแอบมองอดีตเมียรัก นั่งคุยกับชายอื่นอย่างสนิทสนม ดูแล้วมันคิดจะ แย่งเมียและลูกของเขาแน่นอน ตอนนี้ยังคิดหาวิธีจะตามง้อเมียกลับไปอยู่ด้วยกันไม่ออกไหนจะลูกในท้อง ลูกของเขาแท้ๆ ไอ้เจ้านั่นจะมาชุบมือเปิปไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะเด็กมีเชื้อสายของราชวงศ์เขาจะไม่ยอมให้เหตการณ์มันเป็นไปอย่างนั้นแน่นอน แต่จะทำอย่างไรดีหลังจากนั้นเห็นเจ้าหมอนั่นเดินออกมาหน้าร้าน รูปร่างหน้าตาของมันก็หล่อเหลา ร่างกายก็แข็งแกร่งผึ่งผายน่าดู หวังว่าเมียรักของเขาคงไม่หลงรักมันจนตกลงปลงใจกับตบแต่งกับมันหรอกนะ ถ้าเป็นอย่างนั้น ให้มันเอามีดมาเสียบหัวใจเขาเสียเลยจะดีกว่า แล้วมันก็บ้าเอาการ เมียเขาท้องโตขนาดนี้มันก็ยังเทียวไล้เทียวขื่ออยู่ได้พี่น้องเขาอตส่าห์วางแผนการณ์ ให้มันไปแก้ปัญหาที่ชายแดน มันก็เก่ง แก้ปัญหาได้รวดเร็ว แถมรีบกลับมาเสนอหน้ากับเมียเขาทุกวันเลย ยิ่งเห็นก็เหมือนมีหนามมาทิ่มแทงใจ กรามแกร่งบดเข้ากันหลังจากแม่ทัพโจว ขึ้นรถม้า จากไป ท่านอ๋
ตัวแม่ของนางร้ายของจริง (หมายถึงพระชายาซ่ง)อดใจไม่ไหว ต้องใช้หญิงรับใช้คนสนิท ไปตามดูท่านอ๋องว่าอยู่ที่ไหน " หลังจากหญิงรับใช้ประจำตัวของพระชายาซ่งออกไปตามหาท่านอ๋อง ได้พักใหญ่ๆ ก็รีบกระหืดกระหอบกลับมาแจ้งพระชายา "ท่านอ๋องอยู่ในห้องหนังสือเจ้าค่ะ สั่งไม่ให้รบกวน " พระชายาซ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางเดินออกไปจากห้องไม่ให้ใครรบกวนยกเว้นข้านะสิ พระชายาซ่งนึกกระหยิ่มในใจ พลางไล่คนรับใช้ที่เฝ้าหน้าประตูออกไป แล้วเปิดประตูเข้าไปในห้อง เมื่อเข้าไปแล้ว เห็นท่านอ๋องนอนอยู่บนเตียงก็เข้าไป ลูบไล้ หน้าอกแกร่งพลางนั่งลงข้างๆกายหนา โน้มตัวลงไปจูบที่แก้มของร่างหนาท่านอ๋องสะดุ้งตื่นขึ้นมา เห็นใบหน้าหวานแย้มยิ้มยั่วยวน ริมฝีปากอวบอ้าเผยอ เหมือนเชิญชวนให้จูบท่านอ๋องผุดลุกขึ้นพลางสะบัดตัวเองจากหญิงแพศยา พระชายาตกตะลึงงัน "ท่านอ๋องเพคะ สะบัดตัวหนีหม่อมฉันทำไมเพคะ " ท่านอ๋องได้สติ พลางยกยิ้ม "ขอโทษเจ้าด้วย เปิ่นหวางฝันร้าย พอเจ้ามาปลุกเลยตกใจนิดหน่อย " ส่งสายตาหวานให้นางร้ายท่านอ๋องพยายามทำตัวปกติ ด้วยกลัวนางมารร้ายไหวตัวทัน จะเสียแผนการณ์ที่วางกันไว้ แต่ก็พยายามไม่ใกล้ชิดนางมารร้าย เรื่องบนเตียงก็พยา
หลังจากนั้น ท่านแม่ทัพโจวก็มาเป็นแขกขาประจำของร้านเครื่องแต่งกาย ทั้งมาซื้อให้ตัวเอง ของท่านแม่ ของท่านพี่ ของน้องสาว ของท่านป้า ท่านน้า และท่านอา จนถึงคนรับใช้ก็ไม่เว้น จนนางร้ายเห็นใจ เอ่ยปากว่าพอเถอะ หากไม่หยุดซื้อข้าเกรงว่า กว่าจะได้ตบแต่งกันท่านอาจต้องถึงกับขายจวน (อันนี้แอบคิดในใจ) หลังจากนั้นท่านแม่ทัพก็มานั่งคุยเล่น มาทานข้าวกลางวันและบางครั้งก็เย็นด้วย นางร้ายมองเห็นความตั้งใจของท่านแม่ทัพ แต่ระหว่างนี้ขอดูใจกันไปก่อน เพราะยังเจ็บกับสามีคนเดิมอยู่บ้าง แต่แกล้งปากแข็งไปอย่างนั้นว่าไม่รู้สึกอะไร เช้าวันหนึ่ง ร่างอวบตื่นขึ้นมารู้สึกวิงเวียน และอยากอาเจียนเป็นอย่างมาก เรียกชิงเอ๋อ ให้พาไปอาบน้ำ แล้วพากลับมานอนบนเตียงอีกครั้งเพราะยังไม่รู้สึกดีขึ้น ชิงเอ๋อให้คนไปตามหมอ หลังจากท่านหมอมาตรวจอาการแล้ว แจ้งด้วยหน้าตาตื่นๆว่า “ตอนนี้คุณหนูท้องอ่อนๆได้ 3เดือนแล้วขอรับ” ม่านอี้ตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนรวบรวมสติคิดหาทางออก แต่จะทำอย่างไรได้ ตอนนี้ลูกก็เกิดมาแล้วแม้จะไม่มีพ่อแต่แม่ก็จะเลี้ยงดูเจ้าคนเดียวเอง หลังจากท่านเสนาบดีทราบเรื่องก็นิ่งงันไปชั่วขณะ “ม่านอี้ แล้วถ้าท่านแม่ทัพโจวทราบเ
ร่างอวบลืมตาขึ้นมาอย่างตระหนก กวาดตามองไปรอบๆเห็นห้องที่ไม่คุ้นตา เตียงโบราณ ของตกแต่งโบราณเหมือนในซีรีย์ที่เคยดู ยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองหนึ่งฉาด "โอ้ยเจ็บชะมัด" คงไม่ใช่ความฝันแล้วล่ะ เสียงเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับร่างเล็กวิ่งเข้ามาหา"คุณหนูฟื้นแล้ว นายท่านเป็นห่วงมากเลยค่ะ" ร่างอวบหันไปมองเห็นผู้หญิงแต่งตัวโบราณหน้าตื่นตระหนก แววตาเป็นห่วงเป็นใย"ท่านอ๋องจะมาเยี่ยมเจ้าค่ะ นายท่านส่งคนไปแจ้งท่านอ๋องแล้ว คุณหนูรีบแต่งตัวเถิดนะเจ้าคะ" ร่างอวบกระพริบตาอย่างงงงวย "ท่านอ๋องคือใคร และข้าเป็นใคร" ร่างเล็กมีสีหน้าตระหนกตกใจ "คุณหนูท่านจำอะไรไม่ได้เหรอเจ้าคะ สงสัยที่ตกน้ำเมื่อวานได้รับความกระทบกระเทือนอะไรหรือเปล่าเจ้าค่ะ" นางอวบชะงักไป"เอาเป็นว่าข้าชื่ออะไร ที่นี่ที่ไหน"ร่างเล็กมีสีหน้าตระหนก "คุณหนูชื่อหลี่ม่านอี้เจ้าคะ ที่นี่คือจวนท่านเสนาบดีหลี่ คุณหนูเป็นบุตรสาวคนโตของท่านเสนาบดีหลี่เจ้าคะ" ร่างอวบทบทวนความทรงจำ ตายแล้วข้าลื่นเปลือกกล้วยเมื่อวานตอนออกไปเซเว่นปากซอย จนวิญญาณหลุดเข้ามาในร่างนางร้ายหลี่ม่านอี้ในนิยายที่เคยอ่าน โถ่ถัง จะข้ามภพทั้งทีทำไมไม่ได้เป็นนางเอก ต้องมารับบทนางร้ายที่ใคร...
Comments