เมื่อแหวกสาปเสื้อออกกว้าง จนเห็นเอี่ยมตัวในที่ใช้ปิดบังทรวงอกอวบ เห็นผลอิงเถานูนเด่นออกมาทั้งสองลูก ท่านอ๋องหนุ่มก็อดใจไม่ไหวใช้ลิ้นไ้ล้เลีย ชิมผลอิงเถาข้างหนึ่งจนร่างบางสั่นระริก ส่วนมืออีกข้างก็บีบนวดทรวงอกอวบอีกข้างไม่ให้น้อยหน้ากัน “อ๊ะ อย่าเพคะ ” ร่างอวบอิ่มพยายามทุบอกร่างหนาให้หยุดการกระทำที่รุกรานนี้ “ไม่ เปิ่นหวางจะไม่หยุดหรอก หากเจ้าร่านนัก ทำไมไม่บอกข้าจะวิ่งไปหาคนอื่นทำไม”ร่างหนาไม่หยุดการทำล่อแหลมนี้ พลางอ้าปากอมอกอวบเข้าไปเต็มปากพลางไล้เลียดูดดึงอย่างเอร็ดอร่อย เหมือนทารกดูดนมมารดาก็มิปาน ร่างอวบสั่นระริก พลางร้องครางกระเส่า เสียวซ่านตรงกลางกลายขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ “อ๊ะ อ๊ะ อย่าเพคะ อูย” น้ำหวานกลางกายไหลซึมออกมาด้วยความเสียวกระสัน ร่างหนายกร่างบางขึ้นวางบนโต๊ะทำงาน กวาดทุกสิ่งบนโต๊ะร่วงกราวลงไปบนพื้นอย่างไม่สนใจสิ่งใด ปลดผ้าคาดเอวนางร้ายออกจนหมด ดึงทึ้งเสื้อผ้าออกจนกายเปลือยเปล่า และตรงเข้าดูดดึงอกอวบอย่างรุนแรงทั้งไล้เลียดูดดึงอกอวบเข้าไปเต็มปาก จนร่างอวบสั่นสะท้าน จากนั้นมือแกร่งตรงเข้าตะปบตรงเนินอวบอิ่มด้านล่างขยำขยี้อย่างเมามัน ใช้นิ้วชี้กรีดกลางร่องไปมา “อ๊ะ อ๊ะ
คล้อยหลังร่างสูงที่ผลุนผลันออกไป ร่างบางนั่งลงบนเก้าอี้ ชิงเอ๋อวิ่งเข้ามาสีหน้าแตกตื่น "คุณหนูเจ้าคะ เป็นอย่างไรบ้าง ท่านอ๋องทำอะไรคุณหนูหรือไม่เจ้าคะ" ม่านอี้ส่ายหน้า"ไม่มีอะไรหรอกชิงเอ๋อ อากาศมันร้อนกระมัง คนเลยบ้าๆบอๆ อย่าใส่ใจเลย" ตาอ๋องนี่ท่าจะบ้า ตัวเองวิ่งเข้ามาเสนอตัวแท้ๆเชอะ คิดว่าหญิงยุคใหม่อย่าข้าจะแคร์รึ ผัวที่ดีคือผัวใหม่จ้า หลังจากวันนั้นหลี่ม่านเอ๋อก็ไม่ได้สนใจในความเป็นไปของท่านอ๋องหยางเล่อ หากรู้ข่าวว่าเขาอยู่ที่ไหน หรือจะไปที่ไหน หลี่ม่านเอ๋อจะหลักเลี่ยงที่จะไม่ไปที่นั่น พยายามไม่พบเจอหรือพูดถึงคนร่างสูงอีก ทำงานทั้งวัน เนื่องด้วยกิจการกำลังไปได้ด้วยดี มีคุณหนูหลายคนให้ความสนใจเสื้อผ้าแบบใหม่ จึงมีคนมาสั่งตัดเป็นจำนวนมาก งานล้นมือทำให้ไม่ว่างคิดถึงใครวันหนึ่งท่านพ่อแจ้งว่าพระสนมต้องการให้หลานสาวคนโปรดไปออกงานชมดอกไม้ที่วังหลวงที่จะจัดขึ้นในปีนี้ให้ได้ จึงทำให้จำเป็นต้องไปงานนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องเตรียมเสื้อผ้าไปงานนี้ อย่างพิถีพิถัน เนื่องจากต้องโปรโมทร้านเสื้อผ้าของตนเอง ชุดที่ไปงานต้องสวยงามเลอค่าเป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นจะเสียชื่อร้านเสื้อผ้าที่กำลังมาแรง เช
องค์รักษ์หม่า วางร่างบางลงตรงหน้าท่านอ๋องหนุ่ม ท่านอ๋องมองร่างอวบด้วยสายตากราดเกรี้ยว "ข้าเคยบอกเจ้าแล้ว ว่าเจ้าเป็นของข้าจะให้คนอื่นมาแตะต้องเจ้าไม่ได้ " ร่างหนาคาดคั้นร่างอวบขณะที่เอื้อมมือไปรวบเอวบางของนางไว้ " ปล่อยข้านะ ข้าเป็นของท่านเมื่อไหร่กัน อย่ามาขี้ตู่นะ ข้าไม่ใช่ของๆใครทั้งนั้น ข้ายังไม่ได้แต่งงงาน หรือหมั้นหมายกับผู้ใด" ดวงตาคมยิ่งส่งกระแสความเกรี้ยวกราดมากขึ้น"ถ้าอย่างนั้นข้าจะเตือนความจำเจ้าเอง ว่าเจ้าเป็นเมียใคร" สิ้นคำ ปากหนาก็ฉกวูบลงมาดูดดึงริมฝีปากบางอย่างรุนแรง ขบกัดริมฝีปากล่างของนางเบาๆ ร่างอวบเผลออ้าปากร้องประท้วง ปลายลิ้นหนาก็ฉบวูบเข้าไปในปากเล็ก ไล่ต้อนพัวพันลิ้นเล็กอย่าไม่ยอม จนในที่สุดลิ้นเล็กก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เข้าพัวพันร้อยรัดเกาะเกี่ยวกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนร่างบางรู้สึกวูบวาบบริเวณท้องน้อยเหมือนมีผีเสื้อนับร้อยกระพือปีกอยู่ในท้อง จูบที่เคยรุนแรงค่อยลดลงจนเปลี่ยนเป็นดูดดื่มเรียกร้อง มือหนาสัมผัสไปบนทรวงอกอวบบีบเค้นอย่างมันมือเมื่อปล่อยปากบางเป็นอิสระ ริมฝีปากหนาค่อยไล่จูบเล็มลงมาเรื่อยๆ จากสองแก้มแดงก่ำค่อยๆเลาะเล็มมาตามลำคอ แม้ใบหูก็ไม่เว้นที่จะใช้
หลังจากนอนกอดกันจนหายเหนื่อย ร่างสูงก็ขยับยกขาของร่างบางขึ้น พลาดสอดตัวตนแข็งแกร่งเข้ามาอีกครั้ง อ๊า ตาอ๋องบ้าตัณหา อีกแล้วหรือ ข้ายังไม่ทันหายเหนื่อยเลย ร่างอวบกำลังจะอ้าปากประท้วง แต่ไม่ทันไรร่างสูงก็ขยับตัวตนเข้าออกอีกครั้ง อ๊ะ อ๊ะ ทำให้ร่างบางเกิดความเสียวซ่านขึ้นมาอีกครั้ง จนในที่สุดต้องยอมให้ร่างหนากดกระแทกซ้ำๆ กว่าจะได้ปล่อยให้นางร้ายได้พักก็เกือบรุ่งสางของอีกวัน หลังจากลืมตาตื่นอีกครั้ง กระพริบตาอย่างงงวย เห็นสิ่งของภายในห้องที่ไม่คุ้นตา พลันนึกขึ้นได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตายแล้ว ท่านพ่อจะตามหาข้าหรือไม่ทันทีมีเสียงเปิดประตูเข้ามา ร่างสูงที่แต่งกายเรียบร้อยเดินเข้ามาในห้อง "ตื่นแล้วหรือ เดี๋ยวแต่งตัวเสร็จแล้ว เปิ่นหวางจะไปส่งเจ้าที่จวน และจะได้พูดคุยกับท่านพ่อของเจ้าเรื่องการหมั้นหมายของเรา " นางร้ายครุ่นคิดว่าจะเอาอย่างไรดีตอนนี้นางยังไม่พร้อมตกแต่งกับใครทั้งนั้นอยากมีอิสระทำงานที่ตัวเองชอบไปอีกสักพัก กำลังขบคิดหาทางออกอยู่นั้น "หม่อมฉันขอคิดเรื่องนี้ดูก่อนได้ไหม ขอเวลาสักพัก แล้วจะให้คำตอบฝ่าบาทอีกครั้งเจ้าค่ะ" คิ้มเข้มขมวดคล้ายไม่สบอารมณ์ "ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวเปิ่นหวางจะไปส่งเจ้
ข่าวเรื่องท่านอ๋องหยางเล่อส่งคนไปทาบทามทั้งคุณหนูหลันลี่เหมยและคุณหนูหลี่ม่านอี้ เพื่อตบแต่งเข้าจวนพร้อมกัน แต่คุณหนูหลี่ม่านอี้ปฏิเสธ โด่งดังไปทั่วเมือง ทำให้หนิงเฉิงคุนเห็นโอกาสที่จะเร่งให้คนไปทาบทามคุณหนูหลี่ม่านอี้ในทันที ด้วยเกรงว่าท่านอ๋องหยางเล่อจะตั้งตัวทัน สามวันต่อมาท่านแม่ของหนิงเฉิงคุนออกหน้าไปทาบทามสู่ขอคุณหนูหลี่ที่จวนเสนาบดี ท่านพ่อของหลี่ม่านอี้ เรียกบุตรสาวไปสอบถาม นางขอสัญญากับหนิงเฉิงคุนว่าจะแต่งนางเข้าจวนแค่คนเดียวและมีนางคนเดียวตลอดไป หนิงเฉิงคุนตอบตกลง ทำให้นางร้ายตกลงแต่งงานกับเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในตอนแรกนางร้ายคิดว่าหนิงเฉิงคุน จะไม่ยอมรับปาก เนื่องจากผู้ชายในสมัยโบราณนี้ การมีภรรยาและอนุหลายคนเป็นเรื่องปกติ เพราะสมัยนี้ผู้หญิงมีทางเลือกน้อย ต้องพึ่งพาผู้ชายเป็นหลัก ต้องแข่งขันกันเพื่อให้ได้รับความโปรดปราน เพื่อความมั่นคงและอยู่รอดในครอบครัวของฝ่ายหญิง จึงมักมีเรื่องตบตีแย่งชิง ใส่ร้ายกันให้ได้ยินเสมอ หลังจากได้คำตอบหนิงเฉิงคุนดีใจอย่างมาก รีบจัดการส่งสินสอดไปยังจวนเสนาบดีหลี่อย่างรีบด่วน และมีการกำหนดวันแต่งในอีกครึ่งเดือน ช่วงนี้หนิงเฉิงคุนมีความส
หลังจากฟื้นขึ้นมาร่างบางเหลือบตามองไปรอบๆห้อง เห็นเครื่องตกแต่งห้องที่ไม่คุ้นตาและเป็นสีแดงคล้ายห้องหอก็ตกใจผุดลุกขึ้น มีมือหนาโอบกอดเอวของร่างบางไว้ คนสวยตาค้างตกตะลึงงัน เรื่องเมื่อคืนที่ฝันไปว่าร่วมรักอย่างรุนแรงดุเดือดกับท่านอ๋องหยางเล่อเป็นความจริงอย่างนั้นหรืออ๊าย!!ฝันเป็นจริงแล้ว ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง จากที่เคยพยายามยั่วยวน เข้าหาทุกวิถีทาง แต่ดูเหมือนท่านอ๋องจะไม่เคยสนใจมาก่อน แต่ดูวันนี้สิ เมื่อคืนแทบไม่ปล่อยให้ข้าหยุดพักเลย ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องบนเตียงท่านอ๋องจะดุดันขนาดนี้ คิดพลางยิ้มเขินอายคนบ้าจะรออีกแค่ครึ่งเดือนไม่ได้ ใกล้จะตบแต่งกันแล้วแท้ พอขยับร่างเท่านั้นก็เจ็บแปลบกลางกายขึ้นมาอย่างรุนแรง ปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด ก้มลงมองร่างกายมีแต่รอยรักเต็มไปหมดไม่เว้นสักที่เดียว คนบ้า พูดดพลางทุบแขนแกร่งเบาๆ ร่างหน้าสะดุ้งตื่นหันมาสบตากับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ อ๊าย!! อ๊าก!! เสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมกัน ร่างหนาผุดลุกขึ้นนั่ง ตะลึงมอง สตรีร่างบางข้างๆ เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคนร่างบางข้างๆอ้าปากค้าง ตะลึงพอกัน เมื่อตั้งสติได้ "ข้าก็สงสัยเช่นกันว่ามาอยู่บนเตียงของท่านได้ยังไง" เมื่อวา
ท่านใดเสนาบดีการคลังหลัน พรวดพราดเข้ามายังห้องโถง สีหน้าถมึงทึง "นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมเจ้าเข้าไปอยู่ในห้องหอในจวนหนิงได้" ลี่เหมย เงยหน้าสบตาท่านพ่อพลางสะอื้นไห้เบาๆ "ลูกก็ไม่รู้เหมือนกันเจ้าค่ะ ลูกเดินเล่นในจวนอยู่ดีๆ ก็มีเงาดับโฉบมาตรงหน้าของลูก หลังจากนั้นก็สลบไป ตื่นมาอีกทีก็อยู่บนเตียงในห้องหอ ตอนที่เขากำลัง ฮือ ฮือๆ สะอื้นพลางมองไปทางหนิงเฉิงคุน ลูกก็ทำอะไรไม่ถูกอยู่เหมือนกัน " เสนาบดีหลันขบกรามเบาๆ"แล้วเจ้าสาวตัวจริงไปไหนเสียล่ะ ข้าเข้ามาไม่เห็นเลย" ท่านแม่ของหนิงเฉิงคุน สงบใจตอบท่านเสนาบดีไป"ก็อย่างที่เห็นเจ้าค่ะ เจ้าสาวหายไปโดยไม่มีใครรู้ กลายเป็นคุณหนูหลันเข้าหอแทนเจ้าสาวไปแล้ว ท่านเสนาบดีเจ้าคะ คิดว่าจะเป็นฝีมือผู้ใดได้เล่า ถ้าไม่ใช่คนที่เขาเล่าลือกันว่าพัวพันกับคุณหนูหลี่อยู่หลายปี“ หนอย!! เจ้าอ๋องเจ้าเล่ห์ เสนาบดีหลันขบกรามแน่น ตอนนี้จะทำอย่างไรได้เล่า ข้าวสารก็กลายเป็นข้าวสุกไปแล้ว คงต้องยอมเลยตามเลย ให้บุตรสาวแต่งเข้าจวนสกุลหนิงไป เสนาบดีหลันครุ่นคิดแก้ไขปัญหา "ถ้าอย่างนั้นก็ให้ทางนี้จัดการตบแต่งบุตรสาวข้า เข้ามาเป็นฮูหยิน ให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องเจ้าสาวที
ขณะที่เจ้าสาวนั่งรอเจ้าบ่าวในห้องหอ พลางคิดว่า คราวนี้คงไม่มีอะไรให้ตื่นตกใจอีกนะ ชักแหยงๆอยู่เหมือนกัน คนสวยนั่งรอเจ้าบ่าว ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ชิงเอ๋อเปิดประตูเข้ามา พร้อมจานซาลาเปา 2 ลูก "รีบทานก่อนเจ้าค่ะ พระชายา ตอนนี้ข้างนอกกำลัง ครึกครื้นกันใหญ่เลยเจ้าค่ะ มีทั้งราชวงศ์ ขุนนางต่างๆ เต็มไปหมด คนแทบทั้งเมืองคงมาอวยพรบ่าวสาวกันนะเจ้าคะ " ใบหน้าหวานยกยิ้มให้ชิงเอ๋อ "โดยเฉพาะท่านอ๋องยกสุราขึ้นดื่มไม่ขาดสาย หน้าก็บานอย่างกับจานเชิง หัวเราะหัวใคร่เสียงดังเลยเจ้าค่ะ ดูก็รู้ว่ามีความสุขขนาดไหน" คนสวยอมยิ้มนิดๆ รู้สึกมีความสุขเบิกบาน ตั้งแต่ข้ามภพมาก็ไม่รู้ไปตกหลุมรัก อีตาอ๋องบ้านี่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีตอนนี้ก็รักเขาไปแล้วทั้งใจ คิดไปแล้วก็สงสารเจ้าของร่างนี้เหลือเกิน อธิษฐานในใจ ข้าจะดูแลท่านอ๋องของเจ้าอย่างดีนะ ไม่ต้องห่วง เสียงคุยกันโหวกเหวก ดังมาตามทางเดิน มาถึงหน้าห้องหอ ถึงฤกษ์เข้าหอเจ้าบ่าวเดินโซเซ มาที่เตียง พลางใช้คันชั่งยกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวขึ้น เมื่อเจ้าสาวเงยหน้าขึ้นสบตากัน ดวงตาทั้งคู่มองกันด้วยความรักใคร่ชัดเจน ร่างหนาโอบประคองเจ้าสาวมานั่งโต๊ะเพื่อดื่มสุรามงคล และอาหารตามประเพณี
ร่างหนาเฝ้าขยับโยกเรือนกายในร่องสวยของเมียสาวอย่างรุนแรงทั้งคืน ผ่านไปหลายเดือน เช้าวันหนึ่งชิงเอ๋อตื่นขึ้นมา พลางขยับตัวลุกขึ้น ยกมือหนาออกจากเอว พลันรู้สึกพะอืดพะอม รีบลุกออกไปอาเจียนข้างนอกห้อง กลัวรบกวนการนอนของท่านแม่ทัพ ซื่อหลัน รีบวิ่งเข้ามาดูแล อนุชิง จนอาการดีขึ้นแล้วพยุงอนุชิงเข้ามานั่งในห้อง ท่านแม่ทัพตื่นขึ้นมาลืมตามองเมียรักเห็นนั่งหน้าซีดเผือด ท่าทางอ่อนแรง ก็ผุดลุกขึ้น สั่งให้ซื่อหลัน ไปบอกให้พ่อบ้านไปตามท่านหมอมาดูอาการของอนุชิง ร่างหนาโอบประคองเมียรักไปนอนบนเตียง พลางนั่งอยู่ข้างๆเป็นเพื่อน ครู่ใหญ่ท่านหมอก็กระหืดกระหอบเข้ามาในห้อง เมื่อตรวจอาการอนุชิงแล้ว "ท่านแม่ทัพ จะได้คุณหนูน้อยๆแล้วนะขอรับ " ร่างหนาตะลึงงัน ผุดลุกขึ้นโอบกอดเมียรักแน่น ชิงเอ๋อเจ้าจะมีเจ้าตัวน้อยให้พี่แล้วนะ "ซื่อหลันดูแลนุชิงให้ดีนะ ไม่ให้ทำอะไรหนักๆเด็ดขาด ไปบอกให้พ่อบ้านส่งคนมารับใช้ที่เรือนนี้เพิ่มอีก 2คน ข้าไม่ต้องการให้เมียกับลูกของข้าเป็นอะไรไปเด็ดขาด ท่านแม่ทัพยิ้มสุขใจ หน้าบ้านเป็นจานเชิง ฮูหยินใหญ่เมื่อรู้ข่าวอนุชิงตั้งครรภ์ ดีใจจนเนื้อเต้น เพราะรอคอยหลานคนแรกมานานแล้ว รีบไปหาอนุชิ
รุ่งสางวันต่อมาชิงเอ๋อตื่นขึ้นอาบน้ำแต่งตัว เสร็จเรียบร้อย เมื่อท่านแม่ทัพตื่นขึ้น ก็ปรนนิบัติอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย ท่านแม่ทัพดึง ชิงเอ๋อมาโอบกอดแน่น "ไม่ต้องกังวลนะ พี่อยู่ข้างๆจะไปเป็นเพื่อนเจ้าเอง วันข้างหน้าพี่เขื่อว่าท่านแม่จะรักเจ้าเหมือนพี่ "จากนั้นจูงมือกันไปเรือนฮูหยินใหญ่ เพื่อยกน้ำชา ฮูหยินใหญ่นั่งรออยู่ในห้องโถงมองสองผัวเมียจูงมือกันเข้ามาหน้าตาชื่นบาน ก็อดที่จะคิ้วกระตุกน้อยๆไม่ได้ เชอะ !! แต่งอนุเข้ามาวันเเดียว ดูจะหลงไหลมันเต็มที่ ชิงเอ๋อเดินมาถึงก็คุกเข่าลงต่อหน้าแม่สามี ท่านแม่ทัพพยักหน้าให้บ่าวรับใช้นำน้ำชามาส่งให้ชิงเอ๋อ ชิงเอ๋อรับน้ำชามายื่นให้แม่สามี ด้วยกิริยานอบน้อม ฮูหยินใหญ่รับน้ำชาไว้ พลางใช้หางตามองชิงเอ๋อตอนนี้เจ้าเป็นอนุของท่านแม่ทัพแล้ว คงจะวางตัวถูกหรอกนะ เพื่อไม่ให้ท่านแม่ทัพต้องอับอาย เจ้าควรจะรู้ดีว่าต้องทำตัวอย่างไร อย่างว่านะ เป็นบ่าวรับใช้มาทั้งชีวิต เพิ่งจะได้ขยับฐานะมาเป็นอนุ คงจะดีใจจนเนื้อเต้น เพราะชาตินี้คงไม่คิดฝันว่าจะมีโอกาสได้เป็นหรอกนะ " ฟาดแรงๆไปหนึ่ง กรุบ "ท่านแม่ขอรับ ชิงเอ๋อไม่ใช่คนอย่างนั้นหรอก ขอท่านแม่โปรดให้โอกาสนางด้วย ล
ชิงเอ๋อนั่งน้ำซึมอยู่หน้าคันฉ่อง ร่างเล็กแต่งกายสวยงามเป็นชุดที่ดีที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา พระชายาหลี่ ยื่นแต่งแต้มใบหน้าชิงเอ๋อจนสวยงามชวนตะลึง เอาให้ท่านแม่ทัพตะลึงงันกันไปเลย "ชิงเอ๋อ เจ้าร้องไห้ทำไม เดี๋ยวเครื่องแต่งหน้าหลุดหมดนะ เดี๋ยวจะไม่งาม วันนี้วันสำคัญของเจ้านะ ต้องงามที่สุดให้เจ้าบ่าวตะลึงไปเลย ""ชิงเอ๋อ ไม่อยากจากพระชายาไปนี่เจ้าคะ คิดถึงพระชายากับท่านชายน้อย ต่อไปคงจะไม่ได้เห็นกันทุกวันแล้ว" ชิงเอ๋อคร่ำครวญ "เด็กน้อยเอ๋อ เจ้าจะร้องไห้ทำไม เจ้าจะได้แต่งงานกับคนที่เจ้าแอบรักมาตั้งนานนะ แล้วเขาก็รักตอบเจ้าด้วย น่าอิจฉาจะตาย ไม่ต้องแห้งเหี่ยวหัวโตอยู่กับข้า สามีเจ้าหรือก็หล่อเหลา หุ่นหรือก็น่าฟัด น่าขย่ำออกปานนั้น นี่ถ้าหากข้าไม่มีท่านอ๋องอยู่แล้วนะ ข้าคงไม่ปล่อยให้หลุดมือไปถึงเจ้าหรอก " (พูดพลางแอบเช็ดน้ำลายนิดๆ )ชิงเอ๋ออ้าปากหวอมองหน้าพระชายาหลี่เขม็ง "ข้าล้อเจ้าเล่นหรอกนะ แหม!! ยังไม่ทันตบแต่งก็ออกอาการหวงผัวขึ้นมาเชียว" ชิงเอ๋อเหวอหนักกว่าเดิม นี่พระชายาท่าน !!!"เอาละ ๆ ซับน้ำตาเดี๋ยวเครื่องแต่งหน้าหลุดหมด ข้าจะเข้าเรื่องสำคัญแล้วนะ เจ้าแต่งเข้าจวนโจวางไปเป็นอนุ เจ
เสียงกรีดร้องของม่านอี้ ดังออกมาจากห้องเป็นระยะ ร่างสูงสง่าเดินวนเวียนไปมาจนน่าเวียนหัว ท่านเสนาบดีหลี่ผุดลุกผุดนั่งอยู่หลายครา ด้วยเป็นห่วงบุตร และหลานรักว่าจะเป็นอย่างไร ม่านอี้ ร้องเสียงดังอย่างนี้มาสองชั่วยามแล้ว“อุแว๊ อุแว๊..” เสียงร้องดังของทารกดังขึ้น สองร่างของพ่อตาลูกเขยต่างวิ่งแข่งกันจะเข้าไปในห้อง “ลูกพ่อ เป็นอย่างไรบ้าง ” เสนาบดีหลี่ จ้องมองม่านอี้ที่นอนหน้าซีดเผือดอยู่บนเตียง พลางเหลือบมองห่อผ้าเล็กๆนั่น มีหน้ากระจ่อยร่อยโผล่ออกมา “หลานของตา หน้าตาเหมือนตาไม่มีผิด ” ท่านอ๋องมองแรงไปยังพ่อตา เด็กเพิ่งจะคลอดแท้ๆ ยังมองออกอีกว่าเหมือนตัวเองเขาเองเป็นพ่อแท้ๆ ยังไม่ทันได้ชื่นชมลูกของตัวเองเลย ทำมากับมือแท้ๆ “ได้ท่านชายน้อยเจ้าค่ะ” หมอตำแย อุ้มห่อผ้าน้อยๆ นั่นพลางวางห่อผ้าลงที่อกของม่านอี้ ม่านอี้ยิ้มทั้งน้ำตาลูกของแม่ เราได้พบกันแล้วนะท่านอ๋องหยางเล่อยิ้มไม่หุบ “เชื้อพ่อของเจ้ามันแรงจริงๆ ได้ลูกชายหล่อเหลาสง่างามเหมือนพ่อไม่มีผิด ” พลางยิ้มปลื้มปริ่ม ม่านอี้มองสองพ่อตาลูกเขยคู่นี้ หลงตัวเองทั้งคู่ พลางส่ายหน้าน้อย “พ่อตั้งชื่อให้เจ้าเลยดีไหม เอาเป็นชื่อ หยางอัน ก็แล้วกัน
บ่ายวันนั้น ชิงเอ๋อกลับมายังจวนหลี่ ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงระเรื่อ หลี่ม่านเอ๋อพินิจใบหน้านั้นด้วยความแปลกใจ “เจ้าหายไปไหนมาทั้งคืน ข้าให้คนไปตามหาก็ไม่พบ แล้วยังเพิ่งกลับมาเอาป่านนี้ ”ชิงเอ๋อยิ้มขวยเขิน พลางบิดตัวไปมา“ถ้าชิงเอ๋อบอกไป คุณหนูอย่าตำหนิชิงเอ๋อนะเจ้าคะ ” ชิงเอ๋อหน้าแดงก่ำดูมีพิรุธอย่ามาก“บอกว่าเถอะ ข้าสัญญาจะไม่ดุว่าอะไรเจ้าเลย“ ม่านอี้หรี่ตามองดูชิงเอ๋อ รู้สึกอาการแบบนี้คุ้นๆอยู่ ”ชิงเอ๋อ เออ..ไปอยู่ที่โรงเตี้ยมกับท่านแม่ทัพมาทั้งคืนเลยเจ้าค่ะ คือ..จนถึงเข้าเลย..“มิเสียแรง มิเสียแรงจริงๆๆ ที่เป็นศิษย์เอกของข้า เจ้าพิชิตท่านแม่ทัพแล้วแน่นอน ถ้าออกมาอีรูปนี้ คิดพลางหรี่ตามองหน้าจิ้มลิ้มที่แดงระเรื่อ ริมฝีปากบวมเจ่อ ชัดเลย ”เจ้าจะบอกว่าเมื่อคืนเจ้าตกเป็นของท่านแม่ทัพแล้วใช่ไหม“ ชิงเอ๋อก้มหน้าที่แดงก่ำพลางตอบ“เจ้าค่ะ“”แล้วท่านแม่ทัพ เขาบอกเจ้าไหมว่าจะจัดการเรื่องนี้เช่นไร“ ชิงเอ๋อเงยหน้าขึ้น ดวงตากังวลเล็กน้อย ”ชิงเอ๋อ แอบมีใจให้ท่านแม่ทัพมานานแล้วเจ้าค่ะ แต่ไม่กล้าอาจเอื้อม เพียงแค่เฝ้ามองท่านแม่ทัพมาหาคุณหนู ชิงเอ๋อก็สุขใจแล้ว เรื่องเมื่อคืน ท่านแม่ทัพเมามาก เอาแต่พร่
สายวันรุ่งขึ้น ท่านแม่ทัพลงจากรถม้าแย้มยิ้มอารมณ์ดี วันนี้สั่งที่จวนทำกับข้าวมื้อกลางวันมาส่ง จะรับประทานที่นี่กับม่านอี้ แล้วจะถือโอกาสคุยเรื่องแต่งงาน ขณะที่เดินวางแผนอย่างอารมณ์ดีนั้น พลันหยุดชะงักฝีเท้า เมื่อเห็นองครักษ์เดินตามท่านอ๋องหยางเล่อเข้าไปในร้าน ท่านแม่ทัพ จึงเลาะเข้าไปทางด้านข้างร้านทันทีเพื่อเฝ้าดูเหตุการณ์ในทันที พลันได้ยินเสียงหนึ่งดังงขึ้น“เมียจ๋า วันนี้กลับตำหนักไปนอนกอดกันดีกว่านะ ” เสียงท่านอ๋องหยางเล่อดังขึ้น “ คนบ้า จะไปได้อย่างไร ท่านพ่อจะได้เอาตาย ท่านพี่ก่อเรื่องไว้ท่านพ่อยังไม่ให้อภัยนะ” เสียงม่านเอ๋อคัดค้าน “ท่านพ่อตาต้องใจอ่อนสักวันแน่ ลูกของเราจะคลอดอยู่แล้ว ลูกต้องได้อยู่พร้อมกันพ่อแม่ลูก”“ว่าแต่วันนี้พี่ขอมัดจำก่อนนะ “ เสียงหยอกเย้าเบาๆดังขึ้น ”อ๊าย!! อย่านะคนบ้าไม่เอา ” เสียงที่จำได้ขึ้นใจว่าเป็นของม่านอี้ดังขึ้น จากนั้นก็เป็นเสียงครวญครางผสานกันของบุรุษและสตรีหัวใจท่านแม่ทัพแตกสลาย ใจที่บานพองฟูเมื่อสักครู่พลันเหี่ยวแฟบลง ม่านอี้ พี่รักเจ้าเหลือเกิน ทำไมเจ้าทำแบบนี้ จะคืนดีกับเขาก็ไม่บอก ไม่ให้เวลาพี่ตั้งตัวบ้างเลย ร่างล่ำสันเดินคอตกออกไปจากหลังร
หลังจากกำจัดนางมารร้ายออกไปจากตำหนักได้แล้ว ท่านอ๋องก็ตรงไปหาชายารักที่ร้านเครื่องแต่งกาย เมื่อไปถึง เห็นชายารักนั่งคุยอยู่กับแม่ทัพโจวท่านอ๋องชะงัก รีบหลบไปข้างร้านเฝ้าแอบมองอดีตเมียรัก นั่งคุยกับชายอื่นอย่างสนิทสนม ดูแล้วมันคิดจะ แย่งเมียและลูกของเขาแน่นอน ตอนนี้ยังคิดหาวิธีจะตามง้อเมียกลับไปอยู่ด้วยกันไม่ออกไหนจะลูกในท้อง ลูกของเขาแท้ๆ ไอ้เจ้านั่นจะมาชุบมือเปิปไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะเด็กมีเชื้อสายของราชวงศ์เขาจะไม่ยอมให้เหตการณ์มันเป็นไปอย่างนั้นแน่นอน แต่จะทำอย่างไรดีหลังจากนั้นเห็นเจ้าหมอนั่นเดินออกมาหน้าร้าน รูปร่างหน้าตาของมันก็หล่อเหลา ร่างกายก็แข็งแกร่งผึ่งผายน่าดู หวังว่าเมียรักของเขาคงไม่หลงรักมันจนตกลงปลงใจกับตบแต่งกับมันหรอกนะ ถ้าเป็นอย่างนั้น ให้มันเอามีดมาเสียบหัวใจเขาเสียเลยจะดีกว่า แล้วมันก็บ้าเอาการ เมียเขาท้องโตขนาดนี้มันก็ยังเทียวไล้เทียวขื่ออยู่ได้พี่น้องเขาอตส่าห์วางแผนการณ์ ให้มันไปแก้ปัญหาที่ชายแดน มันก็เก่ง แก้ปัญหาได้รวดเร็ว แถมรีบกลับมาเสนอหน้ากับเมียเขาทุกวันเลย ยิ่งเห็นก็เหมือนมีหนามมาทิ่มแทงใจ กรามแกร่งบดเข้ากันหลังจากแม่ทัพโจว ขึ้นรถม้า จากไป ท่านอ๋
ตัวแม่ของนางร้ายของจริง (หมายถึงพระชายาซ่ง)อดใจไม่ไหว ต้องใช้หญิงรับใช้คนสนิท ไปตามดูท่านอ๋องว่าอยู่ที่ไหน " หลังจากหญิงรับใช้ประจำตัวของพระชายาซ่งออกไปตามหาท่านอ๋อง ได้พักใหญ่ๆ ก็รีบกระหืดกระหอบกลับมาแจ้งพระชายา "ท่านอ๋องอยู่ในห้องหนังสือเจ้าค่ะ สั่งไม่ให้รบกวน " พระชายาซ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางเดินออกไปจากห้องไม่ให้ใครรบกวนยกเว้นข้านะสิ พระชายาซ่งนึกกระหยิ่มในใจ พลางไล่คนรับใช้ที่เฝ้าหน้าประตูออกไป แล้วเปิดประตูเข้าไปในห้อง เมื่อเข้าไปแล้ว เห็นท่านอ๋องนอนอยู่บนเตียงก็เข้าไป ลูบไล้ หน้าอกแกร่งพลางนั่งลงข้างๆกายหนา โน้มตัวลงไปจูบที่แก้มของร่างหนาท่านอ๋องสะดุ้งตื่นขึ้นมา เห็นใบหน้าหวานแย้มยิ้มยั่วยวน ริมฝีปากอวบอ้าเผยอ เหมือนเชิญชวนให้จูบท่านอ๋องผุดลุกขึ้นพลางสะบัดตัวเองจากหญิงแพศยา พระชายาตกตะลึงงัน "ท่านอ๋องเพคะ สะบัดตัวหนีหม่อมฉันทำไมเพคะ " ท่านอ๋องได้สติ พลางยกยิ้ม "ขอโทษเจ้าด้วย เปิ่นหวางฝันร้าย พอเจ้ามาปลุกเลยตกใจนิดหน่อย " ส่งสายตาหวานให้นางร้ายท่านอ๋องพยายามทำตัวปกติ ด้วยกลัวนางมารร้ายไหวตัวทัน จะเสียแผนการณ์ที่วางกันไว้ แต่ก็พยายามไม่ใกล้ชิดนางมารร้าย เรื่องบนเตียงก็พยา
หลังจากนั้น ท่านแม่ทัพโจวก็มาเป็นแขกขาประจำของร้านเครื่องแต่งกาย ทั้งมาซื้อให้ตัวเอง ของท่านแม่ ของท่านพี่ ของน้องสาว ของท่านป้า ท่านน้า และท่านอา จนถึงคนรับใช้ก็ไม่เว้น จนนางร้ายเห็นใจ เอ่ยปากว่าพอเถอะ หากไม่หยุดซื้อข้าเกรงว่า กว่าจะได้ตบแต่งกันท่านอาจต้องถึงกับขายจวน (อันนี้แอบคิดในใจ) หลังจากนั้นท่านแม่ทัพก็มานั่งคุยเล่น มาทานข้าวกลางวันและบางครั้งก็เย็นด้วย นางร้ายมองเห็นความตั้งใจของท่านแม่ทัพ แต่ระหว่างนี้ขอดูใจกันไปก่อน เพราะยังเจ็บกับสามีคนเดิมอยู่บ้าง แต่แกล้งปากแข็งไปอย่างนั้นว่าไม่รู้สึกอะไร เช้าวันหนึ่ง ร่างอวบตื่นขึ้นมารู้สึกวิงเวียน และอยากอาเจียนเป็นอย่างมาก เรียกชิงเอ๋อ ให้พาไปอาบน้ำ แล้วพากลับมานอนบนเตียงอีกครั้งเพราะยังไม่รู้สึกดีขึ้น ชิงเอ๋อให้คนไปตามหมอ หลังจากท่านหมอมาตรวจอาการแล้ว แจ้งด้วยหน้าตาตื่นๆว่า “ตอนนี้คุณหนูท้องอ่อนๆได้ 3เดือนแล้วขอรับ” ม่านอี้ตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนรวบรวมสติคิดหาทางออก แต่จะทำอย่างไรได้ ตอนนี้ลูกก็เกิดมาแล้วแม้จะไม่มีพ่อแต่แม่ก็จะเลี้ยงดูเจ้าคนเดียวเอง หลังจากท่านเสนาบดีทราบเรื่องก็นิ่งงันไปชั่วขณะ “ม่านอี้ แล้วถ้าท่านแม่ทัพโจวทราบเ