หลังจากเดินตัวปลิวเพื่อหนีหน้าใครบางคน หลี่ม่านอี้หมดอารมณ์เดินเที่ยวเล่น กลัวจะต้องเผชิญหน้ากับคนที่ไม่อยากเจออีก ชวนชิงเอ๋อกลับจวน ก่อนกลับเจอแม่ค้าขายผักนั่งอยู่ข้างท้ายตลาด ผักเหลือเต็มแผงทั้งที่สายมากแล้ว ก็เลยสั่งชิงเอ๋อเหมาผักแม่ค้าทั้งหมดกลับจวนเพื่อนำไปใช้ที่โรงครัว
แม่ค้าต่างพากันตกตะลึง เนื่องจากข่าวลือของลูกสาวเสนาบดีหลี่ ที่ตบตีกับผู้หญิงไปทั่วเพราะหึงหวงท่านอ๋องหยางเล่อ ทั้งเกะกะระรานคุณหนูหลันบุตรสาวเสนาบดีการคลัง เนื่องจากคิดว่าท่านอ๋องมีใจให้คุณหนูหลันดังกระฉ่อนไปทั่วเมือง ไม่คิดว่าสตรีร้ายกาจผู้นั้นจะเป็นคนเดียวกับนางฟ้าที่เหมาผักในวันนี้ ต่างวิจารณ์กันเซ็งแซ่ว่าข่าวลือที่ได้ยินมาเป็นความจริงหรือไม่
หลังจากกลับมาถึงจวน นางร้ายคนงามเข้าครัวแสดงฝีมือทำกับข่าวให้ท่านพ่อชิมหลังจากกลับจากวังหลวง บ่าวไพร่ในครัวพากันตะลึง กับท่าทางคล่องแคล่วในการทำอาหารและสั่งงานบ่าวไพร่ เพราะร้อยวันพันปีคุณหนูไม่เคยย่างกลายเข้ามาในครัว ปกติคุณหนูหลี่ม่านอี้ เอาแต่แต่งตัวสวยงาม เดินฉุยฉายไปมา ไม่สนใจงานบ้านหรือการดูแลจวน วิ่งตามท่านอ๋องหยางเล่อจนคนเล่าลือไปทั้งเมืองว่าไม่มียางอาย ตามเฝ้าแต่ผู้ชายที่เขาไม่สนใจใยดี ตามหึงหวงผู้หญิงทุกคนไม่ให้เข้าใกล้ท่านอ๋อง ทั้งเทียวไล้เทียวขื่อไปจวนอ๋อง ทั้งที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน แม้แต่ตำแหน่งคู่หมั้นแม้ฝ่ายชายหมางเมินแค่ไหนก็ไม่สนใจ หลายวันมานี้มีบางอย่างที่แปลกไป อ๋องหยางเล่อรู้สึกว่าจวนอ๋องเงียบเหงาผิดปกติ ทั้งที่บ่าวไพร่ก็เดินไปมาทำงานกันขวักไขว่ แต่ท่านอ๋องรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป นั่งเขียนหนังสือก็รู้สึกเบื่อหน่ายจึงออกไปเดินเล่นในสวน ร่างสูงเดินวนไปมาหลายรอบ จนองค์รักษ์ประจำตัวผิดสังเกตุ “ท่านอ๋องมีเรื่องกังวลอันใดหรือไม่พะยะคะ เห็นเดินไปมาหลายรอบ ชะเง้อมองไปทางประตูหน้าเหมือนรอใคร” ร่างสูงชะงักพร้อมบอกว่ารู้สึกว่ามีอะไรขาดหายไปเลยออกมาเดินเผื่อจะนึกออก
องค์รักษ์หนุ่มมองหน้าท่านอ๋องที่มีสีหน้าคิดไม่ตก“ทุกอย่างในจวนปกติดีพะยะคะ แต่มีเรื่องหนึ่งที่ผิดแปลกไป” ร่างสูงหันควับไปมององค์รักษ์คนสนิททันที “เรื่องอะไร” หม่าฮั่นชะงักไปก่อนตอบไปตามความจริง“ คุณหนูหลี่ม่านอี้ ไม่มาที่จวนกลายวันแล้วพะยะคะ แม้พระองค์ไปที่แห่งใดก็ไม่บังเอิญพบคุณหนูหลี่เลยพะยะคะ” ร่างสูงหลับตาลงเพื่อซ่อนแววตาอะไรบางอย่าง ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ “ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่มีคนมาตามวุ่นวายให้รำคาญ”
ร่างสูงสง่าหันหลังเดินกลับเข้าห้องไป พลางคิดว่าจะหายไปได้กี่น้ำ อีกไม่กี่วันก็กลับมาทำตัววุ่นวายน่ารำคาญเหมือนเดิม หากนางไม่ตามมาก่อกวนหลายวันเข้าจะลองเลียบเคียงถามเสนาบดีหลี่ นางอาจป่วยไข้ไม่สบายอีกก็ได้ ร่างสูงครุ่นคิดพลางปัดความกังวลเล็กๆที่ผุดขึ้นมาในใจออกไป ด้านหลี่ม่านเอ๋อชวนชิงเอ๋อออกมานั่งกินบะหมี่ร้านดังในตลาด หลังจากนั่งลงกินแล้ว “คุณหนูเจ้าคะ ชิงเอ๋อมองไม่เห็นว่าจะมีผู้ใดเหมาะสมกับคุณหนูเท่าท่านอ๋องอีกแล้ว จะหาคนที่เพียบพร้อมเท่านี้หายากนะเจ้าคะ ไม่รู้สึกคิดถึงหรือเสียใจที่ไม่ได้พบท่านอ๋องอีกใช่ไหมเจ้าคะ ”
ชิงเอ๋อถามไถ่คุณหนูด้วยความเป็นห่วงกลัวว่านางจะเสียใจแต่ไม่แสดงออกมาให้คนอื่นรู้“ นางร้ายคนสวยหันไปมองชิงเอ๋อ ”ข้ามาคิดดูแล้ว ข้าก็เหมือนผู้หญิงพวกนั้นที่ตามทอดสะพานให้ท่านอ๋องแล้วเขาไม่แยแส หลายวันมานี้ข้ามองเห็นตัวเองชัดเจน หากข้าจะรักใครสักคนขอให้เขาคนนั้นรักข้า เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว “หลังจบคำพูดนี้ของนางร้าย ผู้ชายที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปก็หันมามองหน้าสวยๆที่เป็นเจ้าของคำพูดนั้นแล้วก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย เห็นหน้าตาสวยกระจ่างถูกใจยิ่งนัก
ร่างสูงเฝ้าแอบมองคนสวยโต๊ะข้างๆ ครุ่นคิดหาทางทำความรู้จัก จนคนสวยหันมาสบตาจึงยิ้มให้ คนสวยส่งยิ้มน่ารักตอบกลับมา จึงลุกขึ้นเดินไปแนะนำตัว “ข้าหนิงเฉินคุน ยินดีที่ได้รู้จักแม่นางคนสวย” นางร้ายร่างอวบส่งยิ้มตอบ “ข้าชื่อ หลี่ม่านอี้เจ้าคะ ” คนหล่อทำท่าคิดและยิ้ม “ข้าขอเป็นสหายสักคนแม่นางจะรังเกียจหรือไม่”คนสวยส่งยิ้มเป็นมิตร“หากท่านไม่รักเกียจที่จะคบกับข้าหลี่ม่านอี้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหลวงข้าก็ยินดีเป็นสหายท่าน” หนุ่มหน้าขาวยิ้มถูกใจพลางยื่นมือมาจับกับนางร้ายคนสวย “มื้อนี้ข้่าขอเป็นเจ้ามือ และหากทานมื้อนี้เสร็จแล้วอยากชวนแม่นางไปเดินย่อยอาหารกันจะให้เกียรติข้าคนนี้หรือไม่ ม่านอี้ยิ้มรับพลางตอบตกลงหลังอาหารทั้งสามคนพากันมาเดินเล่นชมข้าวของตามรายทาง มีหลายอย่างน่าสนใจ เป็นสิ่งของแปลกใหม่ที่ม่านอี้ไม่เคยพบมาก่อนอยู่ในโลกปัจจุบัน ขณะเดินผ่านภัตตาคารหงส์เหินที่เป็นภัตตาคารชื่อดังในเมือง พลางชี้ชวนกันดูสิ่งของที่วางขาย ตาคมกริบคู่หนึ่งมองลงมาจากบนชั้นสองของภัตตาคาร สีหน้าบึ้งตึงอารมณ์ขุ่นมัวขึ้นมาทันที เพราะอย่างนี้สินะ ถึงได้หายไปจากชีวิตเขาหลายวัน คงได้ที่หมายใหม่น่าสนใจ เพราะคิดว่
ร่างอวบผลักหน้าอกคนใจร้ายอย่างแรง จากนั้นสะบัดฝ่ามือตบหน้าดังฉาด ร่างสูงหน้าหันไปตามแรงตบ ชะงักไปชั่วครู่ “ข้าขอโทษ“ ส่งสายตาเว้าวอนให้คนตัวเล็ก ”ข้ารู้ว่าท่านเกลียดข้า ไม่ต้องการเห็นหน้า ข้าก็ทำตามที่ท่านต้องการแล้วไง จะมาตอแยข้าเพื่ออะไร่างร “คนหล่อนิ่งงันไป เพราะแม้แต่ตัวเองก็ตอบคำถามนี้ไม่ได้ ว่าทำไมถึงหงุดหงิดไม่พอใจที่คนตัวเล็กมีท่าทีสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่น “คุณหนูหลี่ท่านอยู่ที่นี่เอง ข้าตามหาท่านอยู่ตั้งนาน พระสนมรอนานแล้วรีบไปกันเถอะ “ เสียงขันทีคนสนิทของพระสนมหลี่ดังขึ้นหลี่ม่านอี้หันไปตามเสียงเรียก และรีบสาวเท้าตามไปทันที ทิ้งร่างสูงให้มองตามไปจนสุดสายตา กรามแกร่งขบเข้าหากันแน่น สตรีที่นั่งอยู่เบื้องหน้าทั้งที่น่าจะมีอายุมากแต่ยังมีความสวยงาม อ่อนกว่าวัยอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางสง่างามสมเป็นพระสนมคนโปรดของฮ่องเต้ คุณหนูหลี่ทำความเคารพพระสนมสิขอนับ เสียงขันทีหวางคนสนิทพระสนมร้องเตือนเมื่อเห็นร่างงามมัวแต่ตะลึงมองหน้าพระสนม ”ถวายบังคมพระสนมหลี่เจ้าค่ะ“ทันทีที่พบหน้าหลานสาวที่ไม่ได้เจอกันนาน “เข้ามาสิหลานป้า ไม่ต้องมากพิธี เป็นอย่างไรบ้างไม่มาหาป้าเสียนาน ”พระสนมกวักมือเรียกหลาน
หลังอาหารเช้า ม่านอี้ออดอ้อนท่านพ่อขอไปทำการค้าหลังจากคิดทบทวนมาหลายวันว่าจะเปิดร้านขายเครื่องแต่งกายบุรุษและสตรีในตลาด ตอนแรกท่านเสนาบดีไม่ต้องการให้บุตรสาวไปเหน็ดเหนื่อยตรากตรำทำงานอะไรอีก เพราะลำพังสมบัติพัสถานที่มีมากมายจนกินใช้ในชาตินี้ก็ไม่หมด แต่เห็นความตั้งใจและแววตาที่มุ่งมั่นของบุตรสาวเลยจำต้องยอมให้พ่อบ้านไปจัดการเรื่องห้องแถวในตลาดเพื่อใ้ห้บุตรสาวทำการค้า หลังที่เตรียมการอยู่หลายวัน ร้านก็เสร็จสมบูรณ์ จากประสบการณ์ที่มีในอดีตจากการทำร้านเสื้อผ้าและเป็นดีไซเนอร์ทำให้การทำงานรวดเร็วจนเปิดร้านเครื่องแต่งกายบุรุษและสตรีได้อย่างสมบูรณ์สวยงามตรง ตามความต้องการของหลี่ม่านอี้หลังจากเปิดร้านได้หลายวันก็เป็นที่ตอบรับของผู้คนหลากหลายคุณหนูตามจวนต่างๆก็มาอุดหนุนกันอย่างคับคั่ง ทำให้ต้องรับ คนงานเพิ่มอีกหลายหลายคน อยู่มาวันหนึ่งก็มีลูกค้าใบหน้าคุ้นเคยเข้ามาอุดหนุน “ ไม่ได้พบกันเสียหลายวัน มื้อกลางวันนี้ข้าขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารเจ้าได้หรือไม่” หลี่ม่านอี้ตอบรับคำชวน ของหนิงเชิงคุน ด้วยความเต็มใจ ทั้งสองเดินออกไปหาร้านอาหาร ที่น่าสนใจ จนเจอร้านหนึ่งที่เปิดใหม่เลยชักชวนกันเข้าไปลิ้มลอง
เมื่อแหวกสาปเสื้อออกกว้าง จนเห็นเอี่ยมตัวในที่ใช้ปิดบังทรวงอกอวบ เห็นผลอิงเถานูนเด่นออกมาทั้งสองลูก ท่านอ๋องหนุ่มก็อดใจไม่ไหวใช้ลิ้นไ้ล้เลีย ชิมผลอิงเถาข้างหนึ่งจนร่างบางสั่นระริก ส่วนมืออีกข้างก็บีบนวดทรวงอกอวบอีกข้างไม่ให้น้อยหน้ากัน “อ๊ะ อย่าเพคะ ” ร่างอวบอิ่มพยายามทุบอกร่างหนาให้หยุดการกระทำที่รุกรานนี้ “ไม่ เปิ่นหวางจะไม่หยุดหรอก หากเจ้าร่านนัก ทำไมไม่บอกข้าจะวิ่งไปหาคนอื่นทำไม”ร่างหนาไม่หยุดการทำล่อแหลมนี้ พลางอ้าปากอมอกอวบเข้าไปเต็มปากพลางไล้เลียดูดดึงอย่างเอร็ดอร่อย เหมือนทารกดูดนมมารดาก็มิปาน ร่างอวบสั่นระริก พลางร้องครางกระเส่า เสียวซ่านตรงกลางกลายขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ “อ๊ะ อ๊ะ อย่าเพคะ อูย” น้ำหวานกลางกายไหลซึมออกมาด้วยความเสียวกระสัน ร่างหนายกร่างบางขึ้นวางบนโต๊ะทำงาน กวาดทุกสิ่งบนโต๊ะร่วงกราวลงไปบนพื้นอย่างไม่สนใจสิ่งใด ปลดผ้าคาดเอวนางร้ายออกจนหมด ดึงทึ้งเสื้อผ้าออกจนกายเปลือยเปล่า และตรงเข้าดูดดึงอกอวบอย่างรุนแรงทั้งไล้เลียดูดดึงอกอวบเข้าไปเต็มปาก จนร่างอวบสั่นสะท้าน จากนั้นมือแกร่งตรงเข้าตะปบตรงเนินอวบอิ่มด้านล่างขยำขยี้อย่างเมามัน ใช้นิ้วชี้กรีดกลางร่องไปมา “อ๊ะ อ๊ะ
ร่างอวบลืมตาขึ้นมาอย่างตระหนก กวาดตามองไปรอบๆเห็นห้องที่ไม่คุ้นตา เตียงโบราณ ของตกแต่งโบราณเหมือนในซีรีย์ที่เคยดู ยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองหนึ่งฉาด "โอ้ยเจ็บชะมัด" คงไม่ใช่ความฝันแล้วล่ะ เสียงเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับร่างเล็กวิ่งเข้ามาหา"คุณหนูฟื้นแล้ว นายท่านเป็นห่วงมากเลยค่ะ" ร่างอวบหันไปมองเห็นผู้หญิงแต่งตัวโบราณหน้าตื่นตระหนก แววตาเป็นห่วงเป็นใย"ท่านอ๋องจะมาเยี่ยมเจ้าค่ะ นายท่านส่งคนไปแจ้งท่านอ๋องแล้ว คุณหนูรีบแต่งตัวเถิดนะเจ้าคะ" ร่างอวบกระพริบตาอย่างงงงวย "ท่านอ๋องคือใคร และข้าเป็นใคร" ร่างเล็กมีสีหน้าตระหนกตกใจ "คุณหนูท่านจำอะไรไม่ได้เหรอเจ้าคะ สงสัยที่ตกน้ำเมื่อวานได้รับความกระทบกระเทือนอะไรหรือเปล่าเจ้าค่ะ" นางอวบชะงักไป"เอาเป็นว่าข้าชื่ออะไร ที่นี่ที่ไหน"ร่างเล็กมีสีหน้าตระหนก "คุณหนูชื่อหลี่ม่านอี้เจ้าคะ ที่นี่คือจวนท่านเสนาบดีหลี่ คุณหนูเป็นบุตรสาวคนโตของท่านเสนาบดีหลี่เจ้าคะ" ร่างอวบทบทวนความทรงจำ ตายแล้วข้าลื่นเปลือกกล้วยเมื่อวานตอนออกไปเซเว่นปากซอย จนวิญญาณหลุดเข้ามาในร่างนางร้ายหลี่ม่านอี้ในนิยายที่เคยอ่าน โถ่ถัง จะข้ามภพทั้งทีทำไมไม่ได้เป็นนางเอก ต้องมารับบทนางร้ายที่ใคร
เสียงเคาะประตูดังขึ้น “ท่านอ๋องมาแล้วขอรับ” เสียงบ่าวรับใช้ชายตะโกนเข้ามา ชิงเอ๋อรีบกระวีกระวาดไปเปิดประตูห้องและหลีกทางให้ร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาเดินเข้ามา หลี่ม่านอี้ตัวปลอมเงยหน้าขึ้นมองคนที่เดินเข้ามา เมื่อมองเห็นหน้าร่างสูงชัดเจนพลันตาค้างตกตะลึงไปชั่วขณะ โอ้แม่เจ้า ในนิยายบรรยายว่าพระเอกหล่อเหลา ตัวจริงหล่อจนพระเอกซีรีย์ที่เคยดูชิดซ้ายไปเลย มิน่าเล่า นางร้ายถึงพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางให้ได้แต่งงานกับเอก ระหว่างที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ ก็ต้องตกตะลึงกับวาจาขอพระเอกหน้าหยก“สร้างเรื่องเรียกร้องความสนใจจากข้าอีกตามเคย ไม่ว่าเจ้าจะทำยังไง ข้าก็ไม่มีวันสนใจหญิงแพศยาอย่างเจ้าหรอกรู้เอาไว้เสียด้วย” ปากร้ายเสียด้วย หลังจากได้ยินวาจาบาดหูทิ่มแทงใจและสีหน้าแสดงความรังเกียจเดียจ์ฉันท์ของพระเอกอ๋องหยางเล่อ ที่แม้เดินเข้ามาในห้องก็แทบจะไม่อยากจะเข้าใกล้ แม้พูดด้วยก็แทบไม่อยากจะมองหน้า พลันหน้าอกของนางร้ายเจ็บแปลบขึ้นมาทันที ม่านอี้พยายามกลั้นใจและบอกตัวเอง ฉันไม่ใช่หลี่ม่านอี้คนก่อน ตอนนี้ฉันเป็นนิวหลี่ม่านอี้เพราะฉะนั้นคำพูดร้ายกาจของคนตรงหน้าไม่สามารถจะทำอะไรฉันได้อีกต่อไป“ข้ารู้ว่าท่านรังเกียจข
เสียงไก่ขันปลุกร่างอวบให้ลุกขึ้นมา หลังจากลงจากเตียงก็สะบัดแข้งขา ยืดเส้นสายเตรียมออกกำลังกาย “คุณหนูตื่นแล้วเหรอเจ้าคะ บ่าวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ จะรับข้าวเช้าที่นี่หรือไปที่เรือนใหญ่เจ้าคะ” นางร้ายบิดตัวไปมาทำท่าโยคะเพื่อยืดเส้นสายไปพลาง “ไปกินข้าวกับท่านพ่อดีกว่า ข้าต้องการทบทวนความทรงจำเพิ่มเติม และไปเดินดูรอบๆจวนด้วย” หลังออกกำลังกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว คนงามก็เดินตรงไปเรือนใหญ่เพื่อพบบิดา “ม่านเอ๋อของพ่อ เจ้าหายดีแล้วเหรอลูก” เสนาบดีหลี่เดินตรงเข้ามาโอบกอดบุตรสาว“เจ้าค่ะท่านพ่อ ลูกหายดีแล้วเลยมารับอาการเช้าเป็นเพื่อนท่านพ่อ ก่อนที่ท่านจะเข้าวังเจ้าค่ะ” เสนาบดีหลี่สีหน้าสดชื่นขึ้นมาทันทีที่ลูกสาวหายดี พลางประคองลูกสาวเดินไปนั่งโต๊ะเพื่อรับอาหารเช้าด้วยกัน ระหว่างรับประทานอาหารก็คุยกันไปพลางอย่างมีความสุข ”ท่านพ่อเจ้าคะ ลูกมีเรื่องจะขอร้องท่านพ่อ “มีเรื่องอะไรพูดกับพ่อได้ทุกเรื่อง” เสนาบดีหลี่พูดพลางมองใบหน้าที่สดชื่นขึ้นของบุตรสาว “ลูกไม่ต้องการแต่งงานกับท่านอ๋องหยางเล่อแล้วเจ้าคะ” เสนาบดีหลี่ มีท่าทางตกใจกับคำพูดของบุตรสาว “เกิดอะไรขึ้น เจ้ามีเรื่องขัดใจอะไรกับท่านอ๋องหรือเปล่า ”
เมื่อแหวกสาปเสื้อออกกว้าง จนเห็นเอี่ยมตัวในที่ใช้ปิดบังทรวงอกอวบ เห็นผลอิงเถานูนเด่นออกมาทั้งสองลูก ท่านอ๋องหนุ่มก็อดใจไม่ไหวใช้ลิ้นไ้ล้เลีย ชิมผลอิงเถาข้างหนึ่งจนร่างบางสั่นระริก ส่วนมืออีกข้างก็บีบนวดทรวงอกอวบอีกข้างไม่ให้น้อยหน้ากัน “อ๊ะ อย่าเพคะ ” ร่างอวบอิ่มพยายามทุบอกร่างหนาให้หยุดการกระทำที่รุกรานนี้ “ไม่ เปิ่นหวางจะไม่หยุดหรอก หากเจ้าร่านนัก ทำไมไม่บอกข้าจะวิ่งไปหาคนอื่นทำไม”ร่างหนาไม่หยุดการทำล่อแหลมนี้ พลางอ้าปากอมอกอวบเข้าไปเต็มปากพลางไล้เลียดูดดึงอย่างเอร็ดอร่อย เหมือนทารกดูดนมมารดาก็มิปาน ร่างอวบสั่นระริก พลางร้องครางกระเส่า เสียวซ่านตรงกลางกลายขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ “อ๊ะ อ๊ะ อย่าเพคะ อูย” น้ำหวานกลางกายไหลซึมออกมาด้วยความเสียวกระสัน ร่างหนายกร่างบางขึ้นวางบนโต๊ะทำงาน กวาดทุกสิ่งบนโต๊ะร่วงกราวลงไปบนพื้นอย่างไม่สนใจสิ่งใด ปลดผ้าคาดเอวนางร้ายออกจนหมด ดึงทึ้งเสื้อผ้าออกจนกายเปลือยเปล่า และตรงเข้าดูดดึงอกอวบอย่างรุนแรงทั้งไล้เลียดูดดึงอกอวบเข้าไปเต็มปาก จนร่างอวบสั่นสะท้าน จากนั้นมือแกร่งตรงเข้าตะปบตรงเนินอวบอิ่มด้านล่างขยำขยี้อย่างเมามัน ใช้นิ้วชี้กรีดกลางร่องไปมา “อ๊ะ อ๊ะ
หลังอาหารเช้า ม่านอี้ออดอ้อนท่านพ่อขอไปทำการค้าหลังจากคิดทบทวนมาหลายวันว่าจะเปิดร้านขายเครื่องแต่งกายบุรุษและสตรีในตลาด ตอนแรกท่านเสนาบดีไม่ต้องการให้บุตรสาวไปเหน็ดเหนื่อยตรากตรำทำงานอะไรอีก เพราะลำพังสมบัติพัสถานที่มีมากมายจนกินใช้ในชาตินี้ก็ไม่หมด แต่เห็นความตั้งใจและแววตาที่มุ่งมั่นของบุตรสาวเลยจำต้องยอมให้พ่อบ้านไปจัดการเรื่องห้องแถวในตลาดเพื่อใ้ห้บุตรสาวทำการค้า หลังที่เตรียมการอยู่หลายวัน ร้านก็เสร็จสมบูรณ์ จากประสบการณ์ที่มีในอดีตจากการทำร้านเสื้อผ้าและเป็นดีไซเนอร์ทำให้การทำงานรวดเร็วจนเปิดร้านเครื่องแต่งกายบุรุษและสตรีได้อย่างสมบูรณ์สวยงามตรง ตามความต้องการของหลี่ม่านอี้หลังจากเปิดร้านได้หลายวันก็เป็นที่ตอบรับของผู้คนหลากหลายคุณหนูตามจวนต่างๆก็มาอุดหนุนกันอย่างคับคั่ง ทำให้ต้องรับ คนงานเพิ่มอีกหลายหลายคน อยู่มาวันหนึ่งก็มีลูกค้าใบหน้าคุ้นเคยเข้ามาอุดหนุน “ ไม่ได้พบกันเสียหลายวัน มื้อกลางวันนี้ข้าขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารเจ้าได้หรือไม่” หลี่ม่านอี้ตอบรับคำชวน ของหนิงเชิงคุน ด้วยความเต็มใจ ทั้งสองเดินออกไปหาร้านอาหาร ที่น่าสนใจ จนเจอร้านหนึ่งที่เปิดใหม่เลยชักชวนกันเข้าไปลิ้มลอง
ร่างอวบผลักหน้าอกคนใจร้ายอย่างแรง จากนั้นสะบัดฝ่ามือตบหน้าดังฉาด ร่างสูงหน้าหันไปตามแรงตบ ชะงักไปชั่วครู่ “ข้าขอโทษ“ ส่งสายตาเว้าวอนให้คนตัวเล็ก ”ข้ารู้ว่าท่านเกลียดข้า ไม่ต้องการเห็นหน้า ข้าก็ทำตามที่ท่านต้องการแล้วไง จะมาตอแยข้าเพื่ออะไร่างร “คนหล่อนิ่งงันไป เพราะแม้แต่ตัวเองก็ตอบคำถามนี้ไม่ได้ ว่าทำไมถึงหงุดหงิดไม่พอใจที่คนตัวเล็กมีท่าทีสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่น “คุณหนูหลี่ท่านอยู่ที่นี่เอง ข้าตามหาท่านอยู่ตั้งนาน พระสนมรอนานแล้วรีบไปกันเถอะ “ เสียงขันทีคนสนิทของพระสนมหลี่ดังขึ้นหลี่ม่านอี้หันไปตามเสียงเรียก และรีบสาวเท้าตามไปทันที ทิ้งร่างสูงให้มองตามไปจนสุดสายตา กรามแกร่งขบเข้าหากันแน่น สตรีที่นั่งอยู่เบื้องหน้าทั้งที่น่าจะมีอายุมากแต่ยังมีความสวยงาม อ่อนกว่าวัยอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางสง่างามสมเป็นพระสนมคนโปรดของฮ่องเต้ คุณหนูหลี่ทำความเคารพพระสนมสิขอนับ เสียงขันทีหวางคนสนิทพระสนมร้องเตือนเมื่อเห็นร่างงามมัวแต่ตะลึงมองหน้าพระสนม ”ถวายบังคมพระสนมหลี่เจ้าค่ะ“ทันทีที่พบหน้าหลานสาวที่ไม่ได้เจอกันนาน “เข้ามาสิหลานป้า ไม่ต้องมากพิธี เป็นอย่างไรบ้างไม่มาหาป้าเสียนาน ”พระสนมกวักมือเรียกหลาน
ร่างสูงเฝ้าแอบมองคนสวยโต๊ะข้างๆ ครุ่นคิดหาทางทำความรู้จัก จนคนสวยหันมาสบตาจึงยิ้มให้ คนสวยส่งยิ้มน่ารักตอบกลับมา จึงลุกขึ้นเดินไปแนะนำตัว “ข้าหนิงเฉินคุน ยินดีที่ได้รู้จักแม่นางคนสวย” นางร้ายร่างอวบส่งยิ้มตอบ “ข้าชื่อ หลี่ม่านอี้เจ้าคะ ” คนหล่อทำท่าคิดและยิ้ม “ข้าขอเป็นสหายสักคนแม่นางจะรังเกียจหรือไม่”คนสวยส่งยิ้มเป็นมิตร“หากท่านไม่รักเกียจที่จะคบกับข้าหลี่ม่านอี้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหลวงข้าก็ยินดีเป็นสหายท่าน” หนุ่มหน้าขาวยิ้มถูกใจพลางยื่นมือมาจับกับนางร้ายคนสวย “มื้อนี้ข้่าขอเป็นเจ้ามือ และหากทานมื้อนี้เสร็จแล้วอยากชวนแม่นางไปเดินย่อยอาหารกันจะให้เกียรติข้าคนนี้หรือไม่ ม่านอี้ยิ้มรับพลางตอบตกลงหลังอาหารทั้งสามคนพากันมาเดินเล่นชมข้าวของตามรายทาง มีหลายอย่างน่าสนใจ เป็นสิ่งของแปลกใหม่ที่ม่านอี้ไม่เคยพบมาก่อนอยู่ในโลกปัจจุบัน ขณะเดินผ่านภัตตาคารหงส์เหินที่เป็นภัตตาคารชื่อดังในเมือง พลางชี้ชวนกันดูสิ่งของที่วางขาย ตาคมกริบคู่หนึ่งมองลงมาจากบนชั้นสองของภัตตาคาร สีหน้าบึ้งตึงอารมณ์ขุ่นมัวขึ้นมาทันที เพราะอย่างนี้สินะ ถึงได้หายไปจากชีวิตเขาหลายวัน คงได้ที่หมายใหม่น่าสนใจ เพราะคิดว่
หลังจากเดินตัวปลิวเพื่อหนีหน้าใครบางคน หลี่ม่านอี้หมดอารมณ์เดินเที่ยวเล่น กลัวจะต้องเผชิญหน้ากับคนที่ไม่อยากเจออีก ชวนชิงเอ๋อกลับจวน ก่อนกลับเจอแม่ค้าขายผักนั่งอยู่ข้างท้ายตลาด ผักเหลือเต็มแผงทั้งที่สายมากแล้ว ก็เลยสั่งชิงเอ๋อเหมาผักแม่ค้าทั้งหมดกลับจวนเพื่อนำไปใช้ที่โรงครัวแม่ค้าต่างพากันตกตะลึง เนื่องจากข่าวลือของลูกสาวเสนาบดีหลี่ ที่ตบตีกับผู้หญิงไปทั่วเพราะหึงหวงท่านอ๋องหยางเล่อ ทั้งเกะกะระรานคุณหนูหลันบุตรสาวเสนาบดีการคลัง เนื่องจากคิดว่าท่านอ๋องมีใจให้คุณหนูหลันดังกระฉ่อนไปทั่วเมือง ไม่คิดว่าสตรีร้ายกาจผู้นั้นจะเป็นคนเดียวกับนางฟ้าที่เหมาผักในวันนี้ ต่างวิจารณ์กันเซ็งแซ่ว่าข่าวลือที่ได้ยินมาเป็นความจริงหรือไม่ หลังจากกลับมาถึงจวน นางร้ายคนงามเข้าครัวแสดงฝีมือทำกับข่าวให้ท่านพ่อชิมหลังจากกลับจากวังหลวง บ่าวไพร่ในครัวพากันตะลึง กับท่าทางคล่องแคล่วในการทำอาหารและสั่งงานบ่าวไพร่ เพราะร้อยวันพันปีคุณหนูไม่เคยย่างกลายเข้ามาในครัว ปกติคุณหนูหลี่ม่านอี้ เอาแต่แต่งตัวสวยงาม เดินฉุยฉายไปมา ไม่สนใจงานบ้านหรือการดูแลจวน วิ่งตามท่านอ๋องหยางเล่อจนคนเล่าลือไปทั้งเมืองว่าไม่มียางอาย ตามเฝ้าแต
เสียงไก่ขันปลุกร่างอวบให้ลุกขึ้นมา หลังจากลงจากเตียงก็สะบัดแข้งขา ยืดเส้นสายเตรียมออกกำลังกาย “คุณหนูตื่นแล้วเหรอเจ้าคะ บ่าวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ จะรับข้าวเช้าที่นี่หรือไปที่เรือนใหญ่เจ้าคะ” นางร้ายบิดตัวไปมาทำท่าโยคะเพื่อยืดเส้นสายไปพลาง “ไปกินข้าวกับท่านพ่อดีกว่า ข้าต้องการทบทวนความทรงจำเพิ่มเติม และไปเดินดูรอบๆจวนด้วย” หลังออกกำลังกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว คนงามก็เดินตรงไปเรือนใหญ่เพื่อพบบิดา “ม่านเอ๋อของพ่อ เจ้าหายดีแล้วเหรอลูก” เสนาบดีหลี่เดินตรงเข้ามาโอบกอดบุตรสาว“เจ้าค่ะท่านพ่อ ลูกหายดีแล้วเลยมารับอาการเช้าเป็นเพื่อนท่านพ่อ ก่อนที่ท่านจะเข้าวังเจ้าค่ะ” เสนาบดีหลี่สีหน้าสดชื่นขึ้นมาทันทีที่ลูกสาวหายดี พลางประคองลูกสาวเดินไปนั่งโต๊ะเพื่อรับอาหารเช้าด้วยกัน ระหว่างรับประทานอาหารก็คุยกันไปพลางอย่างมีความสุข ”ท่านพ่อเจ้าคะ ลูกมีเรื่องจะขอร้องท่านพ่อ “มีเรื่องอะไรพูดกับพ่อได้ทุกเรื่อง” เสนาบดีหลี่พูดพลางมองใบหน้าที่สดชื่นขึ้นของบุตรสาว “ลูกไม่ต้องการแต่งงานกับท่านอ๋องหยางเล่อแล้วเจ้าคะ” เสนาบดีหลี่ มีท่าทางตกใจกับคำพูดของบุตรสาว “เกิดอะไรขึ้น เจ้ามีเรื่องขัดใจอะไรกับท่านอ๋องหรือเปล่า ”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น “ท่านอ๋องมาแล้วขอรับ” เสียงบ่าวรับใช้ชายตะโกนเข้ามา ชิงเอ๋อรีบกระวีกระวาดไปเปิดประตูห้องและหลีกทางให้ร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาเดินเข้ามา หลี่ม่านอี้ตัวปลอมเงยหน้าขึ้นมองคนที่เดินเข้ามา เมื่อมองเห็นหน้าร่างสูงชัดเจนพลันตาค้างตกตะลึงไปชั่วขณะ โอ้แม่เจ้า ในนิยายบรรยายว่าพระเอกหล่อเหลา ตัวจริงหล่อจนพระเอกซีรีย์ที่เคยดูชิดซ้ายไปเลย มิน่าเล่า นางร้ายถึงพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางให้ได้แต่งงานกับเอก ระหว่างที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ ก็ต้องตกตะลึงกับวาจาขอพระเอกหน้าหยก“สร้างเรื่องเรียกร้องความสนใจจากข้าอีกตามเคย ไม่ว่าเจ้าจะทำยังไง ข้าก็ไม่มีวันสนใจหญิงแพศยาอย่างเจ้าหรอกรู้เอาไว้เสียด้วย” ปากร้ายเสียด้วย หลังจากได้ยินวาจาบาดหูทิ่มแทงใจและสีหน้าแสดงความรังเกียจเดียจ์ฉันท์ของพระเอกอ๋องหยางเล่อ ที่แม้เดินเข้ามาในห้องก็แทบจะไม่อยากจะเข้าใกล้ แม้พูดด้วยก็แทบไม่อยากจะมองหน้า พลันหน้าอกของนางร้ายเจ็บแปลบขึ้นมาทันที ม่านอี้พยายามกลั้นใจและบอกตัวเอง ฉันไม่ใช่หลี่ม่านอี้คนก่อน ตอนนี้ฉันเป็นนิวหลี่ม่านอี้เพราะฉะนั้นคำพูดร้ายกาจของคนตรงหน้าไม่สามารถจะทำอะไรฉันได้อีกต่อไป“ข้ารู้ว่าท่านรังเกียจข
ร่างอวบลืมตาขึ้นมาอย่างตระหนก กวาดตามองไปรอบๆเห็นห้องที่ไม่คุ้นตา เตียงโบราณ ของตกแต่งโบราณเหมือนในซีรีย์ที่เคยดู ยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองหนึ่งฉาด "โอ้ยเจ็บชะมัด" คงไม่ใช่ความฝันแล้วล่ะ เสียงเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับร่างเล็กวิ่งเข้ามาหา"คุณหนูฟื้นแล้ว นายท่านเป็นห่วงมากเลยค่ะ" ร่างอวบหันไปมองเห็นผู้หญิงแต่งตัวโบราณหน้าตื่นตระหนก แววตาเป็นห่วงเป็นใย"ท่านอ๋องจะมาเยี่ยมเจ้าค่ะ นายท่านส่งคนไปแจ้งท่านอ๋องแล้ว คุณหนูรีบแต่งตัวเถิดนะเจ้าคะ" ร่างอวบกระพริบตาอย่างงงงวย "ท่านอ๋องคือใคร และข้าเป็นใคร" ร่างเล็กมีสีหน้าตระหนกตกใจ "คุณหนูท่านจำอะไรไม่ได้เหรอเจ้าคะ สงสัยที่ตกน้ำเมื่อวานได้รับความกระทบกระเทือนอะไรหรือเปล่าเจ้าค่ะ" นางอวบชะงักไป"เอาเป็นว่าข้าชื่ออะไร ที่นี่ที่ไหน"ร่างเล็กมีสีหน้าตระหนก "คุณหนูชื่อหลี่ม่านอี้เจ้าคะ ที่นี่คือจวนท่านเสนาบดีหลี่ คุณหนูเป็นบุตรสาวคนโตของท่านเสนาบดีหลี่เจ้าคะ" ร่างอวบทบทวนความทรงจำ ตายแล้วข้าลื่นเปลือกกล้วยเมื่อวานตอนออกไปเซเว่นปากซอย จนวิญญาณหลุดเข้ามาในร่างนางร้ายหลี่ม่านอี้ในนิยายที่เคยอ่าน โถ่ถัง จะข้ามภพทั้งทีทำไมไม่ได้เป็นนางเอก ต้องมารับบทนางร้ายที่ใคร