EP.2
“ไง น้องสาวคนสวย" คนคนนั้นพูดแล้วยิ้มมุมปากมองฉมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะกวาดสายตามองเรือนร่างภายใต้ชุดทำงานรัดรูป แต่เปลี่ยนเป็นใส่กางเกงยีนขายาวสวมทับไว้แล้วแต่ยังไงทุกอย่างยังคงรัดรูปเช่นเคย
"..." ฉันไม่ตอบพยายามก้าวถอยหลังออกมาห่าง ๆ แต่หมอนั่นกลับก้าวเข้ามาหาฉันด้วยความรวดเร็วแล้วขว้าข้อมือของฉันที่กำลังจะหันหลังวิ่งลงบันได
หมับ!
"จะไปไหน พี่มาหาถึงที่ขนาดนี้ มาคุยกันก่อนมั้ย" พูดจบมันก็พยายามฉุดกระชากตัวฉันเข้าไปในห้องแล้วปิดปากไม่ให้ร้องเสียงดังความรู้สึกหลายอย่างแล่นเข้ามาในหัวทั้งกลัว ทั้งรังเกียจและอยากเอาตัวรอด
ขณะที่ก็พยายามดิ้นรนออกจากเงื้อมมือของมัน
ฉันจับถุงรองเท้าส้นเตารีดไว้แน่นก่อนจะฟาดมันไปด้านหลังอย่างไม่มีเป้าหมายจนเกิดเสียงดัง ปึก! เหมือนมันกระทบกับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของผู้ชายสารเลวคนนั้น จนสามารถหลุดออกมาได้ในที่สุดเพราะมันยกมือขึ้นไปกุมศีรษะของตัวเองและร้องเสียงหลง
"เชี่ย!"
ตึก ตึก ตึก
ฉันรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นทันทีแต่มันก็ไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ ยังคงวิ่งตามมาด้านหลัง ตอนนี้แข้งขาฉันที่สลับก้าวไปมามันแทบจะพันกันเพราะอยากเอาตัวรอด
ปึก
ร่างของฉันชนเข้ากับใครบางคนตอนถึงมุมเลี้ยวของบันไดชั้นสอง มือของเขารีบขว้าราวบันไดและรวบเอวฉันไว้ข้างหนึ่งเพื่อไม่ให้หงายหลังกันทั้งคู่
"พี่นธี!" ฉันเบิกตากว้างเรียกชื่อของเขาก่อนจะรีบมุดหน้าลงกับแผงอกกว้างทันที "พี่นธีช่วยเนยด้วย!"
"..." เขาไม่ตอบอะไรอาจเพราะกำลังตกใจก่อนที่เสียงของไอ้วีจะดังขึ้น
"อ้าว ไอ้ธี"
'วี' คือลูกชายภรรยาคนใหม่ของพ่อ ที่ภายนอกเป็นผู้ชายสุดแสนจะดูดีแต่ใครจะรู้ว่ามันเลวขนาดไหน
"ไง" พี่นธีทักทายสั้น ๆ ตามแบบฉบับของตัวเอง ฉันได้แต่มุดหน้าอยู่ตรงแผงอกกว้างที่รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองและเขาไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้แสดงความเต็มใจด้วยการโอบหรือปกป้องแต่อย่างใด
"มึงอยู่หอนี้ด้วยเหรอ"
"เปล่า" พี่นธีตอบสั้นห้วนอีกตรั้งแล้วดันตัวฉันออก แล้วยื่นโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าของฉันมาให้ "เอามือถือมาคืน"
ฉันมองมือถือของตัวเองในมือเขาที่ยื่นมาให้ ไม่รู้ว่ามันไปอยู่ที่เขาได้ยังไง น่าจะทำหล่นก่อนหน้านี้ล่ะมั้ง
"ออ พอดีกูมาหาน้องสาวไม่คิดว่าจะมาเจอมึง" ไอ้เลวนั่นอยู่รุ่นเดียวกับพี่นธีตอนมัธยมเคยเรียนอยู่ห้องเดียวกัน ดูภายนอกมันคือคนปกติทั่วไปแถมยังเป็นเด็กเรียนดี
แต่ไม่มีใครรู้เลยว่ามันเลวกับฉันขนาดไหน หลายต่อหลายครั้งที่ฉันต้องหนีเอาตัวรอดเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากความทุเรศโสมมของคนคนนี้
หกเดือนก่อนหน้า
ตึก
เสียงผิดปกติบางอย่างดังขึ้นตรงหน้าประตูเรียกให้ฉันตื่นจากภวังค์ หลังจากที่เพิ่งจะผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียเพราะต้องเก็บของสำหรับเดินทางวันพรุ่งนี้
กุกกัก กุกกัก
'!!' ฉันรีบลุกจากเตียงด้วยความตกใจเมื่อรู้สึกได้ว่าคนคนนั้นกำลังพยายามไขประตูจากด้านนอกเข้ามา 'ใคร!'
'...' ไม่มีเสียงตอบกลับมา ประตูยังคงถูกคนคนนั้นพยายามที่จะเปิดมันเพราะฉันล็อกจากด้านในเอาไว้
เร็วเท่าความคิดขาของฉันจึงก้าวถอยหลังและหันกลับไปทางหน้าต่างก่อนจะเปิดมันและก้าวขาเพื่อหนีออกไปแต่กลับถูกมือใหญ่ของไอ้สารเลวคนนั้นคว้าเอาไว้ทันที
หมับ
'จะไปไหนน้องเนย'
'ปล่อย! ช่วยดะ...อื้อ อู้ ๆ ๆ ' มันรีบปิดปากของฉันไว้ก่อนจะลากเข้ามาในห้องอีกครั้งเหวี่ยงลงเตียงอย่างไม่ปราณีและกดลงกับฟุกด้วยมือทั้งสองข้างขณะที่ฉันยังคงพยายามดิ้นสุดแรงเพื่อให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราช
ตอนนี้เสียงฟ้าร้องคำรามดังทั่วท้องฟ้าฝนที่ตกลงมาราวกับจะฉีกหัวใจของฉันออกเป็นชิ้น ๆ เพราะมันเป็นการเตือนว่าโอกาสรอดของฉันมันคงน้อยลงไปทุกที
ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมอะไรที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ตั้งแต่แม่เสียไปชีวิตฉันมันก็เหมือนไม่มีคุณค่าอีกเลย
'อย่าร้องไปเลย ไม่มีคนมาช่วยหรอก' คนตรงหน้ายิ้มเยาะก่อนจะปล่อยมือออกและทำท่าจะก้มลงมาจูบฉัน
'ไอ้xxx มึงปล่อยกู!'ฉันดิ้นสุดแรงยกศีรษะโขกกับจมูกของมันจนอีกคนร้องลั่น เมื่อได้โอกาสจึงรีบลนลานออกมาจากอ้อมแขนแข็งแรงแต่กลับเสียหลังล้มลงพื้น เปิดโอกาสให้มือนั้นก็ลากข้อเท้าของฉันเข้าไปหาอีกครั้ง
'กูพูดดี ๆ ไม่ชอบ ชอบแบบรุนแรงเหรอ!'
'ไอ้วี' ลูกชายเพียงคนเดียวของแม่ใหม่ที่พ่อเพิ่งจะพาเข้ามาอยู่บ้านได้ไม่ถึงปีพูดขึ้นด้วยความโกรธจัด
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันพยายามจะทำร้ายฉันแต่ครั้งนี้มันมีโอกาสที่จะทำสำเร็จมากพอ เพราะพ่อพาแม่ใหม่คนนั้นไปเที่ยวต่างจังหวัดและไอ้วีคนนี้กลับไปหาย่าที่บ้านเกิด ฉันไม่คิดว่ามันจะย้อนกลับมาเพื่อที่จะมาทำแบบนี้จึงไม่ได้ระวังตัว
'กรี๊ด!! ช่วยด้วย!!' ฉันร้องสุดเสียงพยายามสู้รบกับมันแต่ก็ไม่เท่ากับแรงผู้ชายที่เป็นถึงนักกีฬาของโรงเรียน เสื้อผ้าของฉันถูกดึงทึ้งออกไปจากตัวจนฉีกขาดเหลือเพียงชั้นในบางสองชิ้นที่ปิดอะไรแทบไม่มิด
จังหวะที่มันกำลังจะก้มลงมาจูบฉัน เป็นเวลาที่มันทิ้งน้ำหนักตัวลงมาจนไม่สนใจจะปัดป้อง
ปึก!
เท้าเล็กถีบมันออกเต็มแรงจนเสียหลัก รีบวิ่งไปที่หัวเตียงหยิบมีดทำครัวที่เอามันซ่อนไว้เพื่อป้องกันตัวออกมา
'ห้ามเข้ามา!'
'หึ' มันหันมายิ้มแล้วค่อย ๆ ก้าวขาเข้ามาอย่างเชื่องช้าราวกับว่าไม่ได้กลัวสิ่งที่อยู่ในมือของฉันเลยซักนิดเดียว
อีกแค่วันเดียวเท่านั้น...
อีกแค่วันเดียวฉันก็จะหลุดพ้นไปจากที่นี่ได้ ฉันจะต้องรอดออกไปให้ได้
'ฉันแทงแน่!ถ้าแกเข้ามา'
'ฮ่า ๆ เอาเลย ต่อให้แทงฉันจนพรุนวันนี้เธอก็ไม่รอด' ร่างกำยำนั้นเริ่มขยับเข้ามาใกล้ 'แล้วจะบอกทุกคนว่ายังไงดีนะ บอกว่าใครทำร้ายใครดี แล้วเธอก็จะไม่ได้ไปเรียนต่อ มันก็คุ้มค่าดีนะเพราะฉันจะได้เอาเธอไปตลอดในบ้านหลังนี้'
ฉันเงียบใช้ความคิดในมือกำมีดไว้แน่นจนสั่น
ตั้งแต่พ่อแต่งงานใหม่ก็ไม่ค่อยสนใจฉันอีกเลย สนใจแค่ผู้หญิงคนนั้นและไอ้ผู้ชายเลวตรงหน้าที่พออยู่ต่อหน้าพ่อแล้วมันคนเป็นดียิ่งกว่าเทพบุตร
ฉันเคยบอกพ่อหลายครั้งแล้วว่าผู้ชายคนนี้พยายามจะลวนลามฉันแต่มันก็กลายเป็นแค่ประโยคบอกเล่าที่ไม่มีความหมาย
พ่อไม่เชื่อแล้วยังคิดว่าฉันหาเรื่องลูกเลี้ยงเพราะไม่อยากให้พ่อมีผู้หญิงคนใหม่เพราะบุคลิกของวีต่อหน้าทุกคนคือคนดีเกินกว่าที่ฉันจะยัดเยียดความเลวแค่ปากเปล่าให้มันได้
หรือต้องรอให้ฉันสูญเสียทุกอย่างไปก่อนพ่อถึงจะเชื่อ…
'...' เมื่อทำอะไรมันไม่ได้จึงพลิกปลายมีดเข้าหาตัวเอง ยิ้มออกมาทั้งน้ำตาและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ 'ห้ามเข้ามา ฮึกถ้าฉันทำอะไรแกไม่ได้ฉันก็ขอตายดีกว่าให้แกทำร้าย ไอ้สารเลว!'
'ฮ่า ๆ โง่จังเลยนะ ไม่อยากรู้เหรอว่าการเอากันมันสนุกขนาดไหน ถ้าได้ลองแล้วเนยจะไม่พูดว่าอยากตายแบบนี้นะครับ' มันไม่สนใจคำขู่ก้าวขาเข้ามาอีกก้าว แล้วพยายามจะขว้ามีดไป
วินาทีนั้นฉันคิดอะไรไม่ออก ถ้าฉันต้องตกเป็นของมันฉันยอมตายดีกว่า ยังไงพ่อก็ไม่ได้ต้องการฉันอยู่แล้วตอนนี้ฉันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
ชีวิตฉันมันมีค่ากับใครหรือเปล่าก็ยังไม่รู้
ฉึก!
จุดที่ฉันแทงลงไปเป็นหน้าท้องของตัวเองไม่รู้ว่ามันลึกแค่ไหนแต่มันทำให้ฉันล้มทั้งยืนได้ทันที เห็นภาพไอ้ผู้ชายคนนั้นยืนตกใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วแสงไฟในห้องก็ดับลงจนมืดสนิท
ผลัก! ตุบ!
อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีใครอีกคนพุ่งตัวเข้ามาต่อยกับมันในความมืดไม่นานร่างของฉันที่นอนอยู่บนพื้นก็ถูกช้อนขึ้นจากพื้นและไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกเลย
EP.3ปัจจุบัน"พี่นธี เนยขอติดรถไปข้างนอกด้วยได้มั้ย" ฉันมองเขาด้วยแววตาแห่งการร้องขอ ซึ่งเขาอาจจะไม่เข้าใจว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น"อือ" พูดจบเขาก็หันไปทางไอ้พี่วีแล้วบอกเสียงเรียบ "กูไปก่อนนะ""เดี๋ยวพี่ไปส่งก็ได้น้องเนย ไม่ต้องไปรบกวนคนอื่นหรอก" ไอ้สารเลวนั่นพูดแล้วยิ้มออกมา หากเป็นคนอื่นคงไม่รู้สึกอะไรและมองเป็นพี่ชายต่างสายเลือดที่แสนดี แต่ฉันมองรอยยิ้มนั้นแล้วรับรู้ได้ถึงการหมายจะคุกคามอยู่ตลอดเวลาของมัน"ไม่ต้อง...ค่ะ" ฉันพูดเสียงเรียบแล้วรีบเดินลงจากบันไดโดยมีพี่นธีเดินตามมาเงียบ ๆ พอมาถึงรถของเขาบ่อน้ำตาของฉันมันก็แตกทันที รีบนั่งลงกอดเข่าตัวเองและซุกหน้าลงปล่อยน้ำตาให้มันไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้มันตกใจจนตั้งตัวไม่ทันเลยทั้งที่คิดว่าการหนีสิ่งเลวร้ายมาอยู่ที่นี่มันจะทำให้ชีวิตฉันดีขึ้น แต่มัจจุราชที่แฝงมาในรูปแบบพี่ชายคนนั้นกลับตามฉันมาถึง ตรงนี้ฉันไม่คิดจะหาคำตอบว่ามันมาอยู่นี่ได้ยังไง แต่ฉันควรหาทางไปจากมันให้ได้ดีกว่า"..."ได้ยินเสียงฝีเท้าของพี่นธีเดินมาหยุดอยู่ข้างตัวฉัน เขาไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว ไม่คิดจะถามหรือสงสัยอะไรเลยนั่นอาจเป็นเพราะเขาคิดว่า
EP.4"ขอบคุณสำหรับที่พักและข้าวฟรีค่ะ" ฉันบอกแล้วยิ้มให้คนหน้านิ่งก่อนจะเดินไปหยิบของตัวเอง "เสื้อผ้าพี่ถ้าเนยซักแล้วจะเอามาคืนนะ""อืม" เขาตอบแค่นั้นแล้วก้มหน้าเล่นมือถืออยู่ตรงโซฟาต่อ "เนยไปแล้ว ลาก่อนค่ะ" ฉันบอกก่อนจะหมุนตัวกลับมาทางประตู"เดี๋ยว" เสียงของพี่นธีดังขึ้นอีกครั้ง"คะ""ห้องตรงข้ามว่าง เผื่อเธออยากย้าย" เขาบอกโดยที่ไม่ได้มองมาทางฉัน"เนยจ่ายไม่ไหวหรอกค่ะ ว่าจะลองหาไกล ๆ มหา'ลัยดูห้องราคาถูกคงมี"ฉันยิ้มบาง ๆ แล้วมองใบหน้าด้านข้างของเขา ทำไมเหมือนจะอ่านความคิดฉันออกอย่างนั้นแหละ เพราะฉันก็คิดอยู่ว่าจะทำยังไงดีกับเรื่องย้ายหอ คงอยู่ที่เดิมไม่ได้อีกแล้ว"ค่าเช่าพันกว่า" เขาบอกเสียงเรียบฉันทำตาโตเมื่อได้ยินประโยคนั้น คอนโดนี้ฉันเคยได้ยินจากญานินว่าค่าเช่าเจ็ดพันขึ้นและนั่นแค่ห้องที่แทบจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ เมื่อกี้หูฉันแว่วหรือเขากำลังอำเล่น"ห้องพี่ค่าเช่าหมื่นกว่า ห้องตรงข้ามพันกว่ามันคงมีอะไรซักอย่างมั้ยคะ" ฉันพูดแล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างกลัว ๆ "ยังไม่มีใครตาย" เขาปรายตามามองฉันเหมือนอยากจะพูดว่า 'อย่ามาคิดไร้สาระ'"ทำไมมันถูกล่ะคะ""เจ้าของห้องรวยแล้ว" เข
EP.5 "จ่ายค่าเช่าที่แม่บ้านชื่อพร" พี่นธีบอกสั้น ๆ แล้ววางกระเป๋าของฉันลงก่อนจะยื่นคีย์การ์ดมาให้ พร้อมกับบอกรหัสปลดล็อกประตูพันกว่าจริง ๆ เหรอ...ฉันมองดูห้องที่คล้ายห้องพี่นธีทุกอย่าง ข้าวของเครื่องใช้มีครบ ในครัวมีอุปกรณ์ทำอาหารซึ่งห้องของพี่นธีไม่มี"แม่บ้านเหรอคะ" ฉันขมวดคิ้วถามอีกครั้งแต่ไม่ได้รับคำตอบกลับมาเพราะเขาบอกว่าไม่ชอบพูดซ้ำ ถ้าพูดซ้ำนั่นแปลว่ากำลังหงุดหงิดแล้ว อันนี้ฉันเดาว่าน่าจะเป็นแบบนั้นแล้วพี่นธีก็เดินกลับไปห้องของตัวเอง โชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุดฉันจึงไม่ต้องไปเรียนและไม่มีกิจกรรมรับน้องในวันนี้ เพราะรุ่นพี่แจกภารกิจและต้องทำให้เสร็จภายในห้าวันภารกิจที่ฉันได้รับค่อนข้างจะง่ายถ้าเทียบกับเพื่อนคนอื่น เพราะรุ่นพี่แค่ให้ฉันบอกความหมายที่แท้จริงของคำว่า 'รุ่น' เท่านั้นฉันจัดของตัวเองที่มีเพียงไม่กี่อย่างให้เข้าที่ก่อนจะเดินไปดูโซนครัวขนาดกะทัดรัดแต่มีของใช้เกือบทุกอย่างด้วยความตื่นเต้นที่ชอบห้องครัวและชอบทำอาหารเพราะมันทำให้รู้สึกเหมือนว่ามีแม่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉันโตมากับการมองดูท่านทำกับข้าวในแต่ละวันและเรียนรู้ทุกอย่างจากท่าน คนที่จากไปเมื่อสองปีก่อนและไม่มี
EP.6"อายุเท่าไรหนู ดูเด็กอยู่เลย""สิบเก้าค่ะ" ฉันตอบแล้วคลี่ยิ้มออกมาเพียงนิดตามมารยาท"โอ้ ยังเด็กอยู่เลยนี่ ร้อนเงินเหรอ" คำถามนั้นทำให้ฉันหายใจฝืด ๆจะเรียกว่าร้อนเงินไหมไม่รู้ แต่ฉันต้องหาเลี้ยงตัวเองและเรียนไปด้วย เงินเก็บที่แม่ฝากไว้ให้ตั้งแต่เด็กตอนนี้มันเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ จึงต้องพยายามหามาเติมมันเผื่อฉุกเฉินฉันจะไม่กินข้าวเช้าและบอกกับตัวเองว่าที่เป็นแบบนี้เพราะตื่นสาย แต่เหตุผลหลักคือมันประหยัดไปได้หนึ่งมื้อ หากมาทำงานที่ร้านฉันก็จะได้กินข้าวฟรี ๆ อีกมื้อตอนเย็น"ไม่ค่ะ" ฉันตอบตรงข้ามกับความเป็นจริง "อืม นึกว่าร้อนเงิน มีอะไรที่พอช่วยได้ไหมล่ะ บอกพี่ได้นะ" ชายคนนั้นยิ้มหวานแล้วมองฉันตาเป็นมัน เกลียดสายตาแบบนี้ที่สุดเลยมันทำให้ฉันคิดถึงไอ้สารเลวนั่นคำว่า 'พี่' มันใช้กับคนอายุรุ่นพ่อได้ด้วยเหรอ "ขอบคุณค่ะ แต่ไม่เป็นไร" ฉันตอบแค่นั้นก่อนจะยิ้มอีกครั้ง แล้วรับแก้วเครื่องดื่มที่ชาย 'แก่' คนนั้นยื่นมาให้เติม"พี่เขาใจดีนะ ถ้าน้องมีปัญหาก็บอกพี่เขาได้ เขาชอบช่วยเด็กน่ะ" เพื่อนเขาอีกคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันเสริมแล้วยิ้มกริ่มฉันทำได้เพียงฝืนยิ้มและภาวนาในใจให้ผ่านพ้นช่วงเ
EP.7วันต่อมาฉันตื่นเช้ามาอุ่นกับข้าวและทำอาหารง่าย ๆ เพิ่มอีกอย่างคือ ไข่กระทะ ให้พี่นธีที่มีเรียนเช้าวันนี้ได้กินก่อนที่จะไปเรียน"..." ประตูห้องตรงข้ามเปิดออกทันทีเมื่อถูกรบกวนโดยฉันเอง ตอนนี้พี่นธีเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเป็นเสื้อช็อปคณะวิศวะ สีกรมท่ากับกางเกงยีน กลิ่นกายหอม ๆ ที่ไม่ได้มาจากน้ำหอมแต่น่าจะเป็นกลิ่นครีมอาบน้ำทำให้เขามีเสน่ห์จนสาว ๆ กรี๊ดสลบได้แน่นอน"กินข้าวเช้าค่ะ" ฉันส่งยิ้มให้เขาก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเพราะเจ้าของห้องหันหลังให้แบบเดิมเป็นการอนุญาตตามแบบฉบับของพี่นธี ฉันเดินไปเอากับข้าวในห้องมาเพิ่มอีกจากนั้นก็ล็อกห้องตัวเองแล้วมากินข้าวห้องของเขา อย่างกับคู่รักข้าวใหม่ปลามันแต่เสียดายที่สีหน้าเขาไม่ยินดียินร้ายสักเท่าไรเมี้ยววว"หืม ยังไม่ได้กินอะไรเหรอน้องเหมียว" ฉันนั่งลงไปคุยกับเจ้าเหมียวน้อยที่กำลังเอาแก้มของมันมาถูไถอ้อนฉันอย่างน่ารักน่าเอ็นดู "พี่นธีไม่เอาข้าวให้หนูกินเหรอคะ ยังผอมอยู่เลย""คงจะตอบ" พี่นธีพูดเสียงเรียบพร้อมกับปรายตามองฉันแล้วเดินไปนั่งสวมถุงเท้าที่โซฟา "มันไม่ยอมกินเอง"ฉันฟังสิ่งที่เขาพูดแล้วเดินไปดูอาหารในชามหวานแหววที่รุ่นพี่เทเอาไว้แล้ว
EP.8"พี่นธี ! นินได้รับมอบหมายจากคุณแม่ให้มาตรวจสอบ""อะไร" คิ้วเข้มของเขาเริ่มขยับเข้าหากัน"แม่หยิบสมุดบัญชีไปปรับรายการมา เห็นพี่ใช้เงินเยอะผิดปกติ แม่ให้นินมาสืบว่าพี่เอาไปทำอะไร" ให้มาสืบแต่แกบอกพี่นธีไปหมดแล้วญานินหรือว่าจะเป็นพวกค่าเหล้าราคาแพงพวกนั้นนะ"..." ฉันยืนฟังสองคนพี่น้องเงียบ ๆ แล้วพี่นธีก็ปรายตามามองฉันแวบหนึ่งก่อนจะบอกน้องสาวตัวเอง"เงินก็เงินฉัน แม่จะอยากรู้ไปทำไม""แม่คิดว่าพี่เลี้ยงผู้หญิง" ญานินกอดอกพูดท่าทางเหมือนเป็นแม่พี่นธีอีกคน"ถ้าเลี้ยงแล้วแม่จะทำไม"ไม่ใช่แค่ญานินที่ตกใจ ฉันเองก็ด้วย ไหนเขาบอกว่าไม่อยากมีแฟนไง ไม่สิ เขาไม่อยากผูกมัดกับใครแสดงว่าแค่คบเล่น ๆ แต่เป็นสายเปย์เหรอ ทีหลังฉันต้องมองเขาใหม่แล้วสินะเห็นหน้าเงียบ ๆ ฟาดเรียบใช่ไหม"พี่นธีมั่วผู้หญิงเหรอ !!""..." คำพูดของญานินทำให้พี่นธีพ่นลมหายใจออกมาทันที"ฉันไปก่อนนะ พอดีมาหาญาติ" ฉันรีบปลีกตัวออกมาจากตรงนั้นทันทีก่อนที่ญานินจะกลับมาสนใจตัวฉันอีกรอบและไม่อยากจะฟังคำตอบของพี่นธี ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันแต่ฉันไม่อยากผิดหวังกับคำตอบแบบนั้นนี่นา"โอเค พรุ่งนี้เจอกันนะ" ฉันหันไปยิ้มให้ญานินแล้วมองพี่
EP.8"พี่นธี ! นินได้รับมอบหมายจากคุณแม่ให้มาตรวจสอบ""อะไร" คิ้วเข้มของเขาเริ่มขยับเข้าหากัน"แม่หยิบสมุดบัญชีไปปรับรายการมา เห็นพี่ใช้เงินเยอะผิดปกติ แม่ให้นินมาสืบว่าพี่เอาไปทำอะไร" ให้มาสืบแต่แกบอกพี่นธีไปหมดแล้วญานินหรือว่าจะเป็นพวกค่าเหล้าราคาแพงพวกนั้นนะ"..." ฉันยืนฟังสองคนพี่น้องเงียบ ๆ แล้วพี่นธีก็ปรายตามามองฉันแวบหนึ่งก่อนจะบอกน้องสาวตัวเอง"เงินก็เงินฉัน แม่จะอยากรู้ไปทำไม""แม่คิดว่าพี่เลี้ยงผู้หญิง" ญานินกอดอกพูดท่าทางเหมือนเป็นแม่พี่นธีอีกคน"ถ้าเลี้ยงแล้วแม่จะทำไม"ไม่ใช่แค่ญานินที่ตกใจ ฉันเองก็ด้วย ไหนเขาบอกว่าไม่อยากมีแฟนไง ไม่สิ เขาไม่อยากผูกมัดกับใครแสดงว่าแค่คบเล่น ๆ แต่เป็นสายเปย์เหรอ ทีหลังฉันต้องมองเขาใหม่แล้วสินะเห็นหน้าเงียบ ๆ ฟาดเรียบใช่ไหม"พี่นธีมั่วผู้หญิงเหรอ !!""..." คำพูดของญานินทำให้พี่นธีพ่นลมหายใจออกมาทันที"ฉันไปก่อนนะ พอดีมาหาญาติ" ฉันรีบปลีกตัวออกมาจากตรงนั้นทันทีก่อนที่ญานินจะกลับมาสนใจตัวฉันอีกรอบและไม่อยากจะฟังคำตอบของพี่นธี ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันแต่ฉันไม่อยากผิดหวังกับคำตอบแบบนั้นนี่นา"โอเค พรุ่งนี้เจอกันนะ" ฉันหันไปยิ้มให้ญานินแล้วมองพี่
EP.10ชั่วโมงต่อมาเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงรุ่นพี่ปีสามปล่อยพวกเราให้แยกย้ายกลับ ฉันกับใบเฟิร์นจึงรีบไปทางห้องเก็บของทันทีเพราะห่วงญานินที่ตอนนี้ยังไม่ออกมาให้เห็นหน้าจนกระทั่งประตูห้องถัดไปจากห้องเก็บของเปิดและพี่นธีก็เดินออกมาคนแรกจนเราเผลอสบตากันพอดี สีหน้าเขายังคงนิ่งเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนผู้ชายคนนี้คงมีแค่หน้าเดียวจริง ๆ ไม่ว่าจะอารมณ์ไหน"ญานิน ! แกเป็นไงบ้าง" ฉันรีบไปหาญานินที่อยู่ในอ้อมแขนของรุ่นพี่ทศกัณฐ์ เนื้อตัวของเพื่อนดูไม่ดีเท่าไรจนฉันรู้สึกจุกอก เข่าของยัยนั่นมีเลือดออกด้วยน่าจะถูกทำโทษรุนแรงแน่ ๆ"ไปเอาอุปกรณ์ล้างแผลมา" พี่ทศกัณฐ์หันมาสั่งหน้าเครียด"ค่ะ"ฉันรีบวิ่งไปห้องพยาบาลที่อยู่ในโรงยิมของคณะและขออุปกรณ์ล้างแผลจากเจ้าหน้าที่ก่อนจะเอามันมาให้พี่ทศกัณฐ์แล้วพี่ทศกัณฐ์ก็ทำแผลให้ญานินด้วยตัวเอง เขาเป็นแฟนเก่าและน่าจะเป็นแฟนในอนาคตของเพื่อนอย่างแน่นอนแบบไม่ต้องสงสัย"อิจฉาจังเลยค่ะ มีคนทำแผลมีคนดูแลแบบนี้ยอมเจ็บตัวทุกวันเลย" ใบเฟิร์นพูดแล้วทำหน้าเคลิบเคลิ้ม"ใช่เวลาที่ควรอิจฉาไหม ดูหน้าพวกพี่แต่ละคนด้วย" ฉันดีดหน้าผากเพื่อนตัวดีไปหนึ่งทีเมื่อเห็นสีหน้าของพวกพี่ ๆ ในแก
EP.17"ให้ไปหาที่หอใช่ไหม" ฉันต่อสายหาใบเฟิร์นและเตรียมตัวอาบน้ำ เพราะวันนี้เรามีนัดไปเที่ยวกันหลังสอบเสร็จ(ใช่ แต่งตัวสวย ๆ นะ วันนี้เราจะไปล่าผู้ชาย !) น้ำเสียงหนักแน่นของเพื่อนทำเอาฉันหลุดขำ (ทุ่มครึ่งนะ)"โอเค"หลังจากวางสายฉันก็อาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดเซ็ตเสื้อครอปสายเดี่ยวกับกระโปรงยาวพอดีเข่าแต่ผ่ามาถึงกลางขา คืนนี้จะแอบเข้าร้านเหล้ากัน นี่เป็นครั้งที่สองที่เราสามคนไปเที่ยวร้านเหล้าทั้งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่ใบเฟิร์นฝากเนื้อฝากตัวไว้กับพี่ ๆ พนักงานของร้านแล้ว คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอายุไม่ถึงแต่ใจถึงไว้ก่อนแล้วกันหลังจากอาบน้ำแต่งตัวแต่งหน้าเสร็จแล้วฉันก็ออกจากห้อง เข้าห้องพี่นธีไปให้อาหารปุยนุ่นแล้วลงไปด้านล่างเพื่อเรียกรถมารับ แต่สายตาพลันเห็นพี่นธีเข้ามาพอดีและมียัยแพรวาเดินตามมาด้วย กระทั่งร่างสูงมาหยุดอยู่ตรงหน้าจนฉันต้องหยุดเดินแล้วบอกเขาเสียงเบา "เอาอาหารให้ปุยนุ่นแล้ว" ฉันบอกเพียงแค่นั้น แต่คนตรงหน้าก็ยังจ้องฉันพลางใช้สายตาไล่สำรวจการแต่งตัวไปด้วย "ไปก่อนนะคะ""..." คนตรงหน้าไม่พูดอะไรหรือตอบเลยสักคำจึงเดินออกมายัยแพรวามองฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก่อนจะสะบัดหน้าหนีไป
EP.16'แพรวา'ยัยนั่นอยู่ในชุดเสื้อสายเดี่ยวรัดรูปสีเทากับกางเกงขาสั้นปลายขากว้างเหมือนชุดนอน แต่เวลานี้เธอน่าจะยังไม่อยากนอนหรอกนะ"มีอะไรหรือเปล่า" ฉันหันไปแล้วถามด้วยความสงสัย"รู้ไหมห้องพี่นธีห้องไหน" ยัยนั่นกอดอกแล้วถามฉันด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร"..." ฉันยืนนิ่งแล้วยกมือขึ้นมาหมายจะชี้แกร๊ก !หมับ !อยู่ ๆ ประตูห้องก็ถูกกระชากเปิดเป็นใบหน้าคิ้วขมวดของพี่นธีมองมา ก่อนที่มือหนาจะเอื้อมมาดึงแขนฉันเข้าไปในห้องด้วยความรวดเร็ว ยัยนั่นคงไม่ทันมองเห็นว่าเป็นใคร มากสุดก็แค่แขนแล้วก็ปิดประตูกลับไปเสียงดังปัง !"..." ตอนนี้ตัวของฉันจมอยู่กับแผงอกของเขาจึงค่อย ๆ ดันตัวออกมา "พะ... พี่ทำอะไรเนี่ย""เธอคิดจะบอก ?" พี่นธีมองมาอย่างเอาเรื่องพร้อมคิ้วเข้มขมวดเป็นปม"ไม่นี่คะ เนยกำลังจะหลอกว่าเป็นห้องอื่นพี่ก็ลากเข้ามาซะก่อน" ฉันตอบแล้วเม้มปากแน่น"..." แล้วพี่นธีก็เงียบ"เขารู้ได้ไงว่าพี่อยู่ชั้นนี้ หรือพี่ไปทิ้งปริศนาไว้ล่ะ" เหมือนที่ชอบทำกับฉันน่ะ ปล่อยให้สงสัยจะได้อยากรู้มาก ๆ"จะไปรู้ไหม" พี่นธีตอบเสียงเรียบแล้วหมุนตัวกลับไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว"แพรวาก็น่ารักดีนะ พี่ไม่ชอบเพราะเขาวุ่นวายใช่ไหม"
EP.15จะว่าไปเราเจอกันแทบทุกวันทำอะไรร่วมกันมาหลายอย่างแล้วนะ ไม่แปลกหรอกที่แววตาของเขามันจะดีขึ้นและผูกพันกับการใช้ชีวิตร่วมกัน บางทีตอนเขาไม่อยู่ฉันก็รู้สึกเหงาแปลก ๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันคืออะไรไม่รู้ว่าที่เขาทำอยู่มันเพราะอะไรด้วย หรือฉันกำลังเข้าใกล้คำว่าผู้หญิงที่เขาเลี้ยงไว้แบบไม่ผูกมัดแล้วคำพูดของเขาเมื่อวันนั้นยังลอยวนอยู่ในหัวของฉันตลอดเวลา ไม่อยากมีแฟน ไม่อยากผูกมัด ไม่ชอบวุ่นวาย"ปิดเทอมนี้พี่จะกลับบ้านไหม" ฉันเอ่ยถามเพื่อทำลายความเงียบ"ไม่รู้" เขาตอบสั้น ๆ แล้วละสายตาจากตัวหนังสือหยิบมือถือขึ้นเขี่ยเล่นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามอง "เธอจะกลับ ?""เนยคิดอยู่ค่ะ" ถ้าจะกลับก็คงกลับบ้านป้ามากกว่า"กลับไปทำไม" เราสบตากันอีกครั้ง ครั้งแล้วครั้งเล่าในเวลาไม่กี่ถึงชั่วโมง"ปิดเทอมทั้งที คงต้องกลับมั้งคะ" จริง ๆ มันก็แค่ไม่กี่วันเท่านั้นเพราะคณะฉันนัดปีหนึ่งมาซ้อมกิจกรรมต่อ จะมีงานสปอร์ตเดย์อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า"พี่นธีจะอดกินข้าวฝีมือเนยหลายวันเลยนะ แต่ว่า... ถ้าเนยกลับแล้วปุยนุ่นล่ะ" ฉันหันไปมองน้องแมวที่หลับปุ๋ยบนเบาะ "พี่จะเลี้ยงคนเดียวได้ใช่ไหม ห้ามลืมให้อาหารมั
EP.14"..." ฉันพลิกตัวและสะดุ้งตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองหลับอยู่บนเตียง... ของพี่นธี !ภาพแรกที่เห็นคือสายตาของรุ่นพี่ที่สบมองมาพอดีพร้อมมือที่กำลังเก็บหนังสือ ก่อนจะเป็นภาพแผ่นหลังกว้างเดินไปเข้าห้องน้ำและเดินกลับมาที่เตียงปิดไฟ...ทิ้งตัวลงนอน... ข้างฉัน !เดี๋ยวนะแล้วฉันมานอนอยู่ตรงนี้ได้ยังไงค่อย ๆ คิดทบทวนเรื่องราวเมื่อคืน ฉากสุดท้ายก่อนทุกอย่างจะดับวูบคือฟุบหลับไปกับโต๊ะระหว่างอ่านหนังสือ แสดงว่าเขาพาฉันมานอนตรงนี้เหรอหรือฉันละเมอมาเองแต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าในเวลานี้ฉันหลับไม่ลงแล้ว หัวใจเต้นแรงยิ่งกว่ามีอะไรมาทุบเป็นจังหวะ สั่นเหมือนแผ่นดินไหวยี่สิบริกเตอร์"..." เขานอนนิ่งไปแล้วน่าจะง่วงมากฉันค่อย ๆ ดึงผ้าห่มออกจากตัวและกำลังจะหยัดตัวลุกขึ้นแต่อยู่ ๆ ท่อนแขนแข็งแรงก็วางพาดลงมาบนเอวของฉันโดยที่เจ้าของแขนไม่ส่งเสียงอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อยคิดว่านอนกับน้องนางคนไหนเนี่ยพี่นธี"พี่นธี..." ฉันจับข้อมือของเขาที่วางอยู่บนเอวแล้วเรียกชื่อเบา ๆ แต่เขากลับไม่ไหวติงเลยแม้แต่น้อย"..." เงียบ คงหลับไปแล้วจริง ๆ ถ้าฉันทำให้เขาตื่นอาจจะโดนด่าเอาก็ได้ จึงตัดสินใจนอนนิ่งและหลับตาลงอีกครั้งทั้งที
EP.13"ทำไมไม่ไปดูเอง" เขาตวัดสายตามามองฉันแล้วก็กลับไปดูการแข่งขันฟุตบอลเหมือนเดิม"ขอโทษ... เนยรีบมาช่วยญานินเลยไม่ได้ไปหามัน" ฉันกัดปากด้านในแน่น นี่เขาโกรธฉันเรื่องให้อาหารแมวใช่ไหม "แล้วพี่ไม่กินเหรอคะหรือไม่ชอบ งั้นเดี๋ยวเนยกลับไปทำกับข้าวให้กินไหม""อืม" เขาตอบสั้น ๆ แล้วยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่ม“พี่นธีโกรธอะไรเนยหรือเปล่าคะ” สีหน้ายังคงบึ้งตึงไม่เปลี่ยนจึงรวบรวมความกล้าถามออกไป“...” แต่คนที่ทำหน้าบึ้งอยู่กลับหันมามองอย่างเดียวไม่ให้คำตอบอีกเช่นเคย แล้วฉันจะรู้ไหมว่าเขาเป็นอะไร"ไปนั่งด้วยกันไหมคะ จะได้สนุกกว่านั่งคนเดียว" ฉันชวนแต่คนฟังเอาแต่นั่งนิ่ง "งั้นเนยไม่กวนแล้วค่ะ""เดี๋ยวไป" พี่นธีพูดเบา ๆ ตามหลัง ฉันจึงหันไปแย้มยิ้มดีใจให้และเดินกลับมาร่วมวงสนทนนากลุ่มใหญ่ เขาเป็นคนที่เอาใจยากจริง ๆ ไม่รู้ว่าไม่พอใจเรื่องอะไรแต่ฉันก็อดสนใจไม่ได้อยู่ดี และถ้าถามมากไปเขาอาจจะคิดว่าฉันคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ก็ได้"แก้วนี้สำหรับเจ้าของวันเกิด" พี่ฮ่องเต้ยื่นแก้วมาให้ "ชงไม่เข้มกินได้สบาย""ขอบคุณค่ะ" ฉันรับมันมาแล้วค่อย ๆ ดื่มทีละนิดไม่นานนักพี่ทศกัณฐ์ก็เข้ามานั่งกับพวกเราแล้วก็เดินไปนั่
EP.12"ซื่อบื้อ" ด่าจบเขาก็เดินหนีไปทันทีฉันจึงได้แต่วิ่งตามเขาไปเงียบ ๆ ด่าฉันอีกแล้วก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ คำอธิบายก็ไม่มีช่างเถอะ อยากซื้อให้ฉันก็จะใช้แล้วตอบแทนด้วยการอำนวยความสะดวกให้แล้วกัน"แม่พี่จะไม่บ่นเหรอใช้เงินเยอะขนาดนี้""ฉันหาเอง" เรียนอยู่เลยจะหาเองยังไงได้เยอะขนาดนี้"สอนเนยบ้างสิ หายังไง" เผื่อจะได้หาเองบ้าง"..." เขาไม่ตอบแต่กลับมองฉันที่นั่งเบาะข้าง ๆ ด้วยสายตาที่เข้าใจยากและไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่"ถ้าไม่สอนงั้นเนยสมัครเป็นเด็กพี่อีกคนแล้วนะ เลี้ยงไหวไหม เนยกินเก่งนะ" ฉันแกล้งหยอกออกไป"รู้ไหมว่าที่พูดหมายถึงอะไร""..." คำพูดของพี่นธีทำให้ฉันเงียบลงทันที ก้อนเนื้อตรงอกข้างซ้ายค่อยขยับแรงขึ้น "เนยแค่หยอกเล่นเอง ถ้าเป็นอีกคนได้ตบกับคนอื่นของพี่ดิ อีกอย่างพี่นธีหมดตัวพอดี""..." เขาหัวเราะในลำคอพร้อมมุมปากยกขึ้นเหมือนกำลังยิ้มออกมาแต่ฉันไม่กล้ามองต้องรีบหันหน้าหนีมาอีกทางเพราะความรู้สึกผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่จะเห็นเขามีรอยยิ้มแบบนี้ แล้วไหนจะเรื่องของที่ซื้อให้อีกมันไม่ใช่เรื่องปกติเลยสักนิด หรือว่าเขาอยากจะยัดเยียดความสัมพันธ์อย่างที่ว่ามาให้ฉันจริง ๆ มัน
EP.11"แล้วสรุปพ่อมีอะไรกับเนย" ฉันเลี่ยงที่จะตอบคำถามนั้น(...) ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา (แกสบายดีใช่ไหม กินอยู่ยังไง)"..." คำถามของเขาทำเอาน้ำตาที่กำลังคลออยู่ค่อย ๆ ไหลออกมา "ทำไมพ่อเพิ่งมาถามตอนนี้ พ่อถามเพราะเป็นห่วงเหรอ ทั้งที่เนยลำบากอดอยากมากี่เดือนพ่อไม่เคยสนใจ มัวแต่ไปสนใจผู้หญิงคนใหม่ เชื่อลูกเลี้ยงเลว ๆ นั่น"ฉันพยายามจะไม่เสียงดังรบกวนพี่นธี พอหันไปมองเขาก็นั่งนิ่ง ไม่ได้เล่นเกมต่อแต่เหมือนจะเล่นมือถือแทน(พ่อขอโทษที่ไม่ติดต่อแก เพราะคิดว่าแกจะสำนึกผิดแล้วติดต่อมา) พ่อทำเสียงอ่อน"ทำไมเนยต้องสำนึกผิดในเมื่อเนยไม่ผิด"(...) ได้ยินเสียงพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง (วันนี้วันเกิดแก)"..."(พ่อจะให้อภัยแกทุกเรื่อง กลับบ้านบ้างนะ)ฉันยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาลวก ๆ ฉันแทบจะลืมวันเกิดตัวเองไปแล้ว แน่นอนว่าฉันอยากได้ยินคำอวยพรจากพ่อแต่สุดท้ายพ่อก็ไม่เคยเชื่อฉัน ในสายตาพ่อฉันยังคงเป็นเด็กขี้โกหกที่หนีตามผู้ชายแล้วไม่ยอมกลับบ้าน"จนถึงตอนนี้พ่อก็ยังไม่เชื่อเนย สองแม่ลูกนั่นมันคงเล่นของใส่พ่อแล้วมั้ง พ่อรู้ไหมว่าวันนั้นไอ้วีมันทำอะไรเนย เนยบอกพ่อไปหลายครั้งแล้วพ่อไม่สงสัยมั
EP.10ชั่วโมงต่อมาเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงรุ่นพี่ปีสามปล่อยพวกเราให้แยกย้ายกลับ ฉันกับใบเฟิร์นจึงรีบไปทางห้องเก็บของทันทีเพราะห่วงญานินที่ตอนนี้ยังไม่ออกมาให้เห็นหน้าจนกระทั่งประตูห้องถัดไปจากห้องเก็บของเปิดและพี่นธีก็เดินออกมาคนแรกจนเราเผลอสบตากันพอดี สีหน้าเขายังคงนิ่งเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนผู้ชายคนนี้คงมีแค่หน้าเดียวจริง ๆ ไม่ว่าจะอารมณ์ไหน"ญานิน ! แกเป็นไงบ้าง" ฉันรีบไปหาญานินที่อยู่ในอ้อมแขนของรุ่นพี่ทศกัณฐ์ เนื้อตัวของเพื่อนดูไม่ดีเท่าไรจนฉันรู้สึกจุกอก เข่าของยัยนั่นมีเลือดออกด้วยน่าจะถูกทำโทษรุนแรงแน่ ๆ"ไปเอาอุปกรณ์ล้างแผลมา" พี่ทศกัณฐ์หันมาสั่งหน้าเครียด"ค่ะ"ฉันรีบวิ่งไปห้องพยาบาลที่อยู่ในโรงยิมของคณะและขออุปกรณ์ล้างแผลจากเจ้าหน้าที่ก่อนจะเอามันมาให้พี่ทศกัณฐ์แล้วพี่ทศกัณฐ์ก็ทำแผลให้ญานินด้วยตัวเอง เขาเป็นแฟนเก่าและน่าจะเป็นแฟนในอนาคตของเพื่อนอย่างแน่นอนแบบไม่ต้องสงสัย"อิจฉาจังเลยค่ะ มีคนทำแผลมีคนดูแลแบบนี้ยอมเจ็บตัวทุกวันเลย" ใบเฟิร์นพูดแล้วทำหน้าเคลิบเคลิ้ม"ใช่เวลาที่ควรอิจฉาไหม ดูหน้าพวกพี่แต่ละคนด้วย" ฉันดีดหน้าผากเพื่อนตัวดีไปหนึ่งทีเมื่อเห็นสีหน้าของพวกพี่ ๆ ในแก
EP.8"พี่นธี ! นินได้รับมอบหมายจากคุณแม่ให้มาตรวจสอบ""อะไร" คิ้วเข้มของเขาเริ่มขยับเข้าหากัน"แม่หยิบสมุดบัญชีไปปรับรายการมา เห็นพี่ใช้เงินเยอะผิดปกติ แม่ให้นินมาสืบว่าพี่เอาไปทำอะไร" ให้มาสืบแต่แกบอกพี่นธีไปหมดแล้วญานินหรือว่าจะเป็นพวกค่าเหล้าราคาแพงพวกนั้นนะ"..." ฉันยืนฟังสองคนพี่น้องเงียบ ๆ แล้วพี่นธีก็ปรายตามามองฉันแวบหนึ่งก่อนจะบอกน้องสาวตัวเอง"เงินก็เงินฉัน แม่จะอยากรู้ไปทำไม""แม่คิดว่าพี่เลี้ยงผู้หญิง" ญานินกอดอกพูดท่าทางเหมือนเป็นแม่พี่นธีอีกคน"ถ้าเลี้ยงแล้วแม่จะทำไม"ไม่ใช่แค่ญานินที่ตกใจ ฉันเองก็ด้วย ไหนเขาบอกว่าไม่อยากมีแฟนไง ไม่สิ เขาไม่อยากผูกมัดกับใครแสดงว่าแค่คบเล่น ๆ แต่เป็นสายเปย์เหรอ ทีหลังฉันต้องมองเขาใหม่แล้วสินะเห็นหน้าเงียบ ๆ ฟาดเรียบใช่ไหม"พี่นธีมั่วผู้หญิงเหรอ !!""..." คำพูดของญานินทำให้พี่นธีพ่นลมหายใจออกมาทันที"ฉันไปก่อนนะ พอดีมาหาญาติ" ฉันรีบปลีกตัวออกมาจากตรงนั้นทันทีก่อนที่ญานินจะกลับมาสนใจตัวฉันอีกรอบและไม่อยากจะฟังคำตอบของพี่นธี ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันแต่ฉันไม่อยากผิดหวังกับคำตอบแบบนั้นนี่นา"โอเค พรุ่งนี้เจอกันนะ" ฉันหันไปยิ้มให้ญานินแล้วมองพี่