ลู่อี้ชิงจำต้องยอมแต่งงานเข้าตระกูลหม่าเพราะครอบครัวนางเป็นหนี้ตระกูลหม่าและกำลังจะถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อใช้หนี้ เพราะบิดาติดการพนันและนำจวนเล็กๆและที่ดินทำกินของครอบครัวไปจำนองและไม่ได้ชดใช้ทั้งดอกเบี้ยและเงินต้นเลยแม้แต่อีแปะเดียว ทำให้ตระกูลหม่ามายื่นข้อเสนอให้บุตรสาวครอบครัวลู่แต่งงานกับบุตรชายคนโตของตระกูลหม่าที่เคยมีคำเล่าลือกันว่าหล่อเหลาสูงสง่าเป็นที่หมายตาของคุณหนูจวนต่างๆ มันก็ดีอยู่หรอก แต่ที่เป็นปัญหาหนักอกของอี้ชิงก็คือ คุณชายหม่าผู้นั้นตายแล้ว…..อี้ชิงจะทำเช่นไรดี บรื้อ….ช่วยข้าด้วย
View Moreยามเฉินมีเสียงเคาะประตูเรือนเบาๆ แล้วก็มีีเสียงเปิดประตูเข้ามาและมีเสียงฝีเท้าเดินเบาๆเข้ามาจนถึงหน้าห้องนอนยกมือเคาะอีกครั้งแล้วจึงได้เปิดเข้ามา สาวใช้ตัวเล็กที่มีผมสองจุกบนหัวของนางโผล่หน้าเข้ามาตามมาด้วยบ่าวชายที่ยกถังน้ำร้อนเข้ามาสองคน หย่งเอ๋อก้าวเข้ามาเปิดประตูออกกว้าง “ พวกเจ้ารีบเข้ามาเร็วๆเข้า ” นางกระซิบเบาๆบอกพวกเขา บ่าวชายสองคนรีบหิ้วถังน้ำร้อนใบใหญ่เดินตรงไปที่หลังฉากกั้นแล้วรีบปล่อยน้ำในอ่างออกจนหมด แล้วยกถังน้ำร้อนเทเข้าไปในถังจ้วงตักน้ำในโอ่งใบใหญ่ที่เป็นน้ำเย็นลงผสมในอ่างจนอุ่นจัด“ เสร็จแล้วหย่งเอ๋อ พวกข้าไปก่อนนะ ” บ่าวชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นแล้วพวกเขาก็เร่งฝีเท้าก้าวออกไปจากห้องนั้นพร้อมกับหิ้วถังไม้ใบใหญ่นั้นกลับไปด้วย “ เดี๋ยวพวกเจ้า ไม่คิดจะอยู่เป็นเพื่อนข้าก่อนหรือไงกัน ” แต่เสียงของหย่งเอ๋อนั้นก็ไม่มีผู้ใดอยู่ฟังนาง บ่าวชายทั้งสองนั้นพร้อมที่จะไม่ฟังเสียงใดๆอยู่แล้ว ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเร่งฝีเท้าออกไปจากเรือนหลังนี้อย่างเร่งรีบ แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะพวกเขาเสร็จหน้าที่ที่จะต้องเข้าไปในเรือนหลังนี้ในวันนี้แล้ว งานของผู้อื่นนั้นก็เรื่องของพวกเขาก็แล้วกัน แม้จะเห็น
คุณชายหนุ่มจูบปากอวบอิ่มของเมียหมาด ๆ ของเขาอย่างเร่าร้อน เขาทั้งดูดลิ้นเล็กของนางและส่งลิ้นสากเข้าเกี่ยวพันกับลิ้นเล็กของนางอย่างเมามัน อี้ชิงที่เคลิบเคลิ้มด้วยจูบที่หลอกล่อให้นางหลงมัวเมาจนหลงลืมไปสิ้น ตัวของนางเหมือนล่องลอยเบาหวิว ขณะนั้นร่างหนาก็ดันท่อนเอ็นแข็งชันของเขาเข้าไปจนมิดลำกาย รูสวาทของนางบีบท่อนเอ็นแข็งขึงของเขาจนมันเจ็บไปหมด แต่ก็เสียวมากเช่นกัน เมื่อแช่เอาไว้เพียงครู่เขาก็ค่อยขยับมันเข้าออกช้าๆเข้าสุดออกสุดด้วยจังหวะเนิบนาบแล้วก็ค่อยเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นจนกลายเป็นโยกขย่มร่างอวบของเมียหมาดๆอย่างรุนแรงและรวดเร็วยิ่งขึ้น บั้นเอวหนาของเขาเหมือนมันมีชีวิตของตนเอง มันโยกอย่างบ้าคลั่งทิ่มแทงร่องอวบของนางอย่างเมามัน จนกระทั่ง “ ข้าจะเสร็จแล้ว จะเสร็จแล้วนายท่าน ” อี้ชิงร้องครวญครางจนแทบไม่มีเสียง เพราะนางเสียว เสียวจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว สะโพกอวบกระตุกหลายๆครั้งแล้วน้ำรักของนางก็ไหลออกมาอย่างมากมาย ขณะที่บั้นเอวสอบก็โยกแทงเข้าออกรูสวาทของนางอย่างบ้าคลั่งจนสะโพกหนาของเขากระตุกเกร็งหลายครั้งแล้วแตกพ่ายปล่อยน้ำรักอุ่นๆเข้าไปในรูสวาทของเจ้าสาวหมาดๆ จนหมดทุกหยาดหยุด เงาร่างหนาหอบอย
“ ช่างเถอะ คงไม่มีอะไรหรอก ” แล้วอี้ชิงก็เปิดตู้เสื้อผ้าค้นชุดคลุมตัวยาวเนื้อผ้าบางเบามันลื่นนุ่มมืออย่างยิ่ง มาสวมใส่บนร่างอวบเพียงตัวเดียว เมื่อสวมลงบนร่างอวบแล้วรู้สึกสบายเนื้อตัวอย่างยิ่ง นางจึงไม่ได้สวมกางเกงและเอี๊ยมข้างในอีกชั้นหนึ่ง เพราะนอนแค่เพียงผู้เดียวคงไม่มีอะไร แล้วนางจึงได้เดินไปทรุดนั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ลงมือทาเครื่องประทินผิวเพื่อบำรุงผิวหน้าและลำคอขาวผ่องน่าลูบไล้ เครื่องประทินผิวที่มีกลิ่นหอมเหล่านี้ราคาคงจะแพงมาก นางไม่เคยใช้มาก่อน เมื่อทาแล้วรู้สึกสบายผิวดี อี้ชิงหยิบหวีมาสางผมนุ่มสลายที่ยาวจนถึงกลางหลังของนางช้าๆ จนมันนุ่มสลวย แล้วจึงได้เดินไปรินน้ำดื่มเล็กน้อยพอให้ชุ่มคอแล้วจึงได้เดินที่เตียงนอนใหญ่เพื่อเข้านอน นางเป็นเจ้าสาวที่จะว่าไปก็อนาถไม่น้อย เข้าหอโดยที่ไม่ต้องรอเจ้าบ่าวดังเช่นเจ้าสาวคนอื่นๆ เพราะคงไม่มีวันที่เจ้าบ่าวของนางจะมาเข้าหออี้ชิงครุ่นคิดขณะที่นางเอนกายลงนอนบนหมอนนุ่มๆแล้วดึงผ้าผวยผ้านุ่มลื่นห่มสบายตัวอย่างยิ่งขึ้นมาห่มบนร่างอวบแล้วหลับพริ้มลงทันที เวลาผ่านไปอี้ชิงที่เหน็ดเหนื่อยไม่น้อยกับการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวในวันนี้ก็หลับผล็อยไปทัน
หลังจากนั้นสามวัน บัดนี้ลู่อี้ชิงยืนอยู่หน้าแทนพิธีและกำลังทำพิธีแต่งงานโดยมีเจ้าบ่าวคือป้ายวิญญาณของคุณชายใหญ่หม่่าเฟยหลง อี้ชิงทำตามคำสั่งของแม่สื่อวัยกลางคนที่ยืนกำกับพิธีอยู่ข้างๆ โดยมีคนที่ร่วมในพิธีคือฮูหยินใหญ่และทุกคนในตระกูลหม่าที่แต่งกายสีแดงด้วยชุดปราณีตงดงามเข้าร่วมพิธี โดยมีมารดาของอี้ชิงนั่งอยู่ที่โต๊ะมุกที่เรียงรายสองข้างทางในห้องโถงใหญ่นั้น ขณะที่อี้ชิงคำนับฟ้าและไหว้บรรบุรุษอยู่นั้นอยู่ๆ เสียงฟ้าร้องก็ดังครืนเสียงดังก้องอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยว่าวันนี้จะมีฝนตก เสียงฟ้าร้องเสียงดังคำรามก้องอยู่ชั่วครู่ แต่ทั้งซินแสที่มากำกับการทำพิธีแต่งงานในวันนี้กับแม่สื่อสูงวัยต่างทำพิธีต่ออย่างไม่สนใจเสียงฟ้าที่คำรามก้องเสียงดังน่ากลัวนั้น เมื่อพิธีเสร็จสิ้นแม่สื่อก็จูงมืออี้ชิง ในชุดเจ้าสาวที่ปราณีตงดงามมีเครื่องประดับเป็นพลอยสีแดงและมงกุฏหงส์ที่งดงามยิ่งนัก นับเป็นอาภรณ์ที่งดงามที่สุดในชีวิตของลู่อี้ชิงที่บัดนี้กลายเป็นหม่าอี้ชิงสะใภ้ใหญ่ของตระกูลหม่าแล้ว นางเดินตามแม่สื่อมุ่งตรงไปยังเรือนขนาดกลางที่ตั้งอยู่เป็นเรือนหลังสุดท้ายของหมู่เรือนขนาดต่างๆที่เรียงรายนับจากเรือนหลักที่นางเ
“ มีใครอยู่หรือไม่ ” เสียงผู้ชายตะโกนอยู่หน้าประตูจวนหลังเล็กๆของบ้านลู่ ที่มีอาชีพค้าขายไข่ไก่และผักสดที่ปลูกเองในที่ดินผืนเล็กของพวกเขา ครอบครัวนี้มีบุตรสาวคนโตคือลู่อี้ชิง และมีบุตรชายคนกลางและคนเล็กอีกสองคนซึ่งอายุแค่เพียงสิบปีและแปดปีตามลำดับ ทำให้ภาระหน้าที่แบ่งเบางานบ้านและออกไปช่วยมารดาค้าขายที่ตลาดสดในยามอิ๋น (ตีสามกว่า )ถึงยามเฉิน (แปดโมงเช้านิดๆ ) เป็นของอี้ชิง ครอบครัวนี้เลี้ยงไก่เอาไว้ขายจำนวนไม่มากนัก มีไก่เพียงห้าเล้าและพื้นที่ดินนอกเหนือจากนั้นก็ปลูกผักกาดขาวและพืชผักต่างๆสลับกันไป เอาไว้ขายที่ตลาดและมักจะมีเพื่อนบ้านมาขอซื้อของที่ด้วย ที่จริงแล้วหากใช้จ่ายอย่างประหยัดและขยันขันแข็งก็พอประทังชีวิตกันไปได้ไม่เดือดร้อนมากนัก แต่ด้วยพ่อบ้านคือลู่อี้ถังนั้นเป็นชายที่ไม่เอาถ่านเลยแม้เพียงสักน้อย เขาเป็นคนจับจดตอนแต่งงานใหม่เขาก็ช่วยงานอยู่บ้าง แต่นานๆเขาก็เบื่อหน่ายออกไปเล่นการพนันโถ่โปและบ่อนเล็กบ่อนน้อยในเมือง บางวันก็ได้เงินมาและซื้อกับข้าวและของใช้เข้าบ้าน แต่บางวันก็หมดตัวมารีดไถภรรยาที่บ้านเช่นกัน เรื่องเช่่นนี้อี้ชิงบุตรสาวคนโตเห็นจนชินตา ขณะนั้นสองแม่ลูกเพิ่งกลับ
“ มีใครอยู่หรือไม่ ” เสียงผู้ชายตะโกนอยู่หน้าประตูจวนหลังเล็กๆของบ้านลู่ ที่มีอาชีพค้าขายไข่ไก่และผักสดที่ปลูกเองในที่ดินผืนเล็กของพวกเขา ครอบครัวนี้มีบุตรสาวคนโตคือลู่อี้ชิง และมีบุตรชายคนกลางและคนเล็กอีกสองคนซึ่งอายุแค่เพียงสิบปีและแปดปีตามลำดับ ทำให้ภาระหน้าที่แบ่งเบางานบ้านและออกไปช่วยมารดาค้าขายที่ตลาดสดในยามอิ๋น (ตีสามกว่า )ถึงยามเฉิน (แปดโมงเช้านิดๆ ) เป็นของอี้ชิง ครอบครัวนี้เลี้ยงไก่เอาไว้ขายจำนวนไม่มากนัก มีไก่เพียงห้าเล้าและพื้นที่ดินนอกเหนือจากนั้นก็ปลูกผักกาดขาวและพืชผักต่างๆสลับกันไป เอาไว้ขายที่ตลาดและมักจะมีเพื่อนบ้านมาขอซื้อของที่ด้วย ที่จริงแล้วหากใช้จ่ายอย่างประหยัดและขยันขันแข็งก็พอประทังชีวิตกันไปได้ไม่เดือดร้อนมากนัก แต่ด้วยพ่อบ้านคือลู่อี้ถังนั้นเป็นชายที่ไม่เอาถ่านเลยแม้เพียงสักน้อย เขาเป็นคนจับจดตอนแต่งงานใหม่เขาก็ช่วยงานอยู่บ้าง แต่นานๆเขาก็เบื่อหน่ายออกไปเล่นการพนันโถ่โปและบ่อนเล็กบ่อนน้อยในเมือง บางวันก็ได้เงินมาและซื้อกับข้าวและของใช้เข้าบ้าน แต่บางวันก็หมดตัวมารีดไถภรรยาที่บ้านเช่นกัน เรื่องเช่่นนี้อี้ชิงบุตรสาวคนโตเห็นจนชินตา ขณะนั้นสองแม่ลูกเพิ่งกลับ...
Comments