“ พ่อบ้านหม่า สะใภ้ใหญ่ของข้าขออนุญาติออกไปข้างนอกอย่างนั้นหรือ นางจะไปที่ใดกัน ” พ่อบ้านหม่ารีบรายงานฮูหยินใหญ่ “ นางขอไปเดินเที่ยวตลาด เห็นว่าอยากจะได้อาภรณ์และเครื่องประทินผิวใหม่ ขอรับ ” ฮูหยินใหญ่พยักหน้า“ เช่นนั้นเองหรือช่างนางเถิด นางอยู่รอดในเรือนเฟยหลงก็ดีแล้ว เจ้าลงไปที่ห้องใต้ดินกับข้า ข้าจะไปดูบุตรชายของข้าว่าวันนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง ” ฮูหยินใหญ่ลุกขึ้นเดินนำหน้าพ่อบ้านหม่าออกไปจากห้องโถงหน้าเรือนหลักแล้วเดินไปที่ห้องทางด้านหลัง พ่อบ้านหม่ารีบเดินไปที่ชั้นหนังสือที่มีช่องลับซ่อมปุ่มกดปิดเปิดช่องทางลงไปห้องใต้ดิน ชั้นหนังสือนั้นเลื่อนออกไป เปิดเผยประตูหินที่มันเลื่อนเปิดออกจนมองเห็นบันไดหินทอดลงไปสู่ชั้นใต้ดิน ฮูหยินใหญ่ก้าวลงไปตามบันไดหินบนผนังตามทางเดินจากบันไดลงไปมีตะเกียงดวงเล็กจุดเอาไว้เป็นระยะ ทำให้มองเห็นทางเดินลงสู่ห้องใต้ดิน เมื่อฮูหยินใหญ่และพ่อบ้านหม่าเดินลงมาจากถึงห้องใต้ดินนั้นแล้ว ก็เดินมุ่งตรงไปที่เตียงน้ำแข็งที่มีไอเย็นลอยขึ้นมาเป็นระยะ บนเตียงน้ำแข็งแสนเย็นยะเยือกนั้นมีร่างล่ำสันสูงใหญ่ที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมคายหน้าตาดังเช่นบุรุษในภาพเขียนในห้องนอนที่เรื
คืนวันนั้นทุกอย่างเงียบสงบ ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น อี้ชิงนอนหลับสบายนางไม่ได้ฝันร้ายอันใด นางนอนหลับรวดเดียวจนสะดุ้งตื่นตอนที่ได้ยินเสียงไก่ขันมาจากที่ไกลๆ นางลืมตาขึ้นอย่างสดชื่น สบายใจยิ่งนัก นางยกมือขึ้นยกตัวบิดขี้เกียจไปมา “ ได้ผลจริงๆด้วย หลับสบายมากเลย ” แล้วอี้ชิงเอนกายนั่งพิงหัวเตียงเพื่อจะต้องรอให้หย่งเอ๋อและบ่าวชายยกน้ำร้อนมาเทให้นางก่อนในเช้าวันนี้เพราะรู้สึกว่าอากาศเย็นไม่น้อยขณะที่อี้ชิงเอนกายอย่่างสบายอยู่นั้นหูของนางแว่วเสียงถอนหายใจเหมือนขัดใจอะไรบางอย่าง นางหันขวับมองไปรอบๆก็ไม่เห็นสิ่งใดผิดปกติ นางอาจจะคิดไปเองก็ได้ คงไม่มีอะไรหรอก แต่ที่มุมมืดมุมหนึ่งในห้อง ปรากฏร่างหนาของสามีของนางยืนอยู่ ดวงตาคมจ้องมองร่างอวบบนเตียงอย่างหมายมาด คิดป้องกันผัวไม่ให้นอนด้วยเช่นนั้นหรือ มันไม่ได้ผลหรอก ยิ่งข้าเห็นเจ้าในอาภรณ์สีแดงมันยิ่งเร้าใจอยากจะเริงรักกับเจ้าจะแย่ แต่ข้าอยากจะเห็นเท่านั้นว่าเจ้าจะรู้สึกเช่นไรที่เมื่อคืนข้าไม่ได้นอนกับเจ้า แต่อย่าดีใจไปเลย แล้วคืนนี้เจ้าจะได้รู้ อยากจะได้ร่างที่มีเนื้อหนังเช่นนั้นหรือ คืนนี้ข้าจะจัดให้เจ้าอย่างสมใจ เมื่ออาบน้ำอย่างสบายใจแล้ว อี้ชิงก
ไม่รู้ว่านางต้องการจะป้องกันเขาเข้าหานาง หรือนางต้องการเรียกร้องและยั่วยวนให้เขาเข้าหานางเร็วๆกันแน่ เขาอดเอ็นดูนางไม่ได้ เมียรัก เจ้าช่างเป็นหญิงที่น่าสนใจเสียจริงๆ เขาครุ่นคิดขณะฟอนเฟ้นร่างอวบของนางจนทั่ว คุณชายเฟยหลงคายผลอิงเถาสีหวานของนางที่เขาดูดจนมันชูชันและเปียกไปหมดออก บัดนี้กายอวบของนางเปลือยเปล่า“ เจ้าน่ากระแทกยิ่งนักเมียรัก ทำเอาข้าเสียวไปหมดแล้ว ” ปากร้อนรุ่มของเขาอ้าออกอีกครั้งแล้วรับเอาผลอิงเถาของนางเข้าไปในปากที่ร้อนรุ่มของเขาแทบจะครึ่งเต้้า เขาออกแรงดูดอย่างรุนแรง ลิ้นสากที่ร้อนรุ่มตวัดเลียด้วยลีลาที่ช่ำชองเหนือชั้นจนอี้ชิงแอ่นอกขึ้นหาเขาจนหลังแทบจะโค้ง ปากนางก็ร้องครางเสียงดังลั่นอย่างบ้าคลั่ง“ ท่านพี่ ท่านพี่ ดูดมันอีก ดูดแรงๆ ดูดอีกเจ้าค่ะ ข้าเสียว เสียวจนจะบ้าอยู่แล้ว ท่านพี่เจ้าขา อ๊าาย อ๊าาา ท่านทรมานเมียเหลือเกิน อ๊าาาาย อ๊าาาา ซี๊ดดดด อ๊าาาาย ” นิ้วแกร่งสอดเข้าไปในร่องอวบของนางช้าๆ เขางอข้อนิ้วแหย่ที่รูสวาทของนางไปมา เขี่ยเมล็ดดอกไม้ของนางจนสะโพกอวบโยกไปมาอย่างเสียวซ่าน น้ำรักของนางเริ่มไหลรินออกมาอีก เขาจึงได้ก้มลงไล้เลียร่องอวบของนางไปมา ขณะที่นิ้วแกร่
ค่ำคืนนั้นขณะที่อี้ชิงกำลังอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณอย่างพิถีพิถันอยู่ๆก็มีมือหนามาปิดที่ดวงตาของนางทั้งสองข้าง แล้วมีลมหายใจอุ่นๆเป่ารดที่ข้างแก้มนวลปลั่งของนาง “ ว๊าย ช่วยด้วย อะไรกัน ใครนะ ใคร ท่านพี่่ช่วยน้องด้วยเจ้าค่ะ “ วินาทีนั้นนางพลันนึกถึงสามีของนางขึ้นมาทันที” เมียรัก พี่เอง ไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาในเรือนของเราหรอก อย่ากลัวไปเลย " เขากระซิบเบาๆที่ริมหู ใช่แล้วน้ำเสียงนั้นคุ้นเคยยิ่งนัก แต่คราวนี้เขาปรากฏกายในขณะที่นางยังไม่หลับไหล นางสัมผัสถึงเขาได้ แต่เรื่องที่สัมผัสเขาได้ดังเช่นเขาเป็นมนุษย์ด้วยกันนั้นมันเริ่มมาตั้งแต่กลางวันที่พลอดรักกันในห้องหนังสือของเขาแล้ว แต่ครั้งนั้น คุณชายหนุ่มบอกนางว่ามีเพียงนางที่จะเห็นเขาได้ เพราะนางเป็นเมียของเขาอย่างถูกต้องแล้ว และจิตของนางและเขาผูกพันกัน และนางมีใจให้เขามากแล้วจนเขาสามารถปรากฏกายให้นางเห็นได้แล้วโดยที่ไม่ต้องรอให้นางหลับสนิทเหมือนเมื่อก่อนอีก มือหนาปล่อยจากดวงตาของนางแล้วก็เดินมาก้าวลงมาในถังอาบน้ำใบใหญ่ อี้ชิงเงยหน้ามองร่างกายล่ำสันที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นไปทั้งตัวของสามี นางอ้าปากค้างน้อยๆ นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นร่างกายล
เมื่อวิ่งสุดฝีเท้ามาจนถึงโรงครัวเขาก็เข้าไปนั่งหอบเหนื่อยที่โต๊ะอาหารตัวยาว โดยมีสายตาของทั้งบ่าวชายและสาวใช้ และแม่ครัวหลายๆคนจ้องมองเขาอย่างแปลกใจ และเรื่องราวที่เขาได้ยินมาก็ถูกถ่ายทอดให้เห็นภาพอย่างชัดเจน จนขนหัวของหลายๆคนที่จิตอ่อนลุกพรึบพรับ“ เจ้าก็ไม่น่าเดินผ่านไปตรงนั้นนี่นา ทางอื่นก็มีออกมากมาย ” แม่ครัวสูงวัยเอ่ยขึ้นแล้วนางก็เหลือบมองไปมารอบๆ ดังเช่นเกรงว่าจะมีใครได้ยินกระนั้น “ ข้าลืมไปนะ และอีกอย่างคิดว่าขนาดฮูหยินน้อยเป็นหญิงคนเดียวยังอยู่ได้ มันคงไม่มีอะไรอย่างที่ผ่านมาแล้วกระมัง ก็เลยเดินมาไม่ได้คิดอะไร แต่มันก็ได้ยินเสียงนั่นเข้าเต็มหูเลย แทบไม่อยากจะเชื่อเลย หากมีเสียงฮูหยินน้อยคนเดียวข้าก็คงไม่คิดอะไรแต่มันมีเสียงของคนอีกผู้หนึ่งที่ข้าจำได้อย่างขึ้นใจว่ามันคือเสียงของ…. คนที่ทุกคนก็รู้ว่าใครนั่นแหละ ทุกคนที่นั่งอยู่ในโรงครัวนั้นต่างก็อ้าปากค้าง บางคนกำลังตักข้าวเข้าปาก บางคนก็กำลังล้างถ้วยชามหรือตักอาหารใส่ถ้วยชามอยู่ ต่างก็ชะงักมือที่กำลังทำงานนั้น และหันมาจ้องเขาเป็นตาเดียวทุกคนนิ่งไปชั่วขณะ “ เอาละ มันจะจริงหรือไม่ก็ตาม แต่เรื่องนี้ให้หยุดแค่ที่นี่นะ อย่าพูดกั
นางได้ยินเสียงครวญครางผสานกันของหญิงชายคู่หนึ่งดังอยู่ในห้องสมุด เสียงชายนั้นหย่งเอ๋อแน่ใจว่าคือคุณชายใหญ่เจ้าของเรือนนั้นแหละ และเสียงของหญิงก็คือฮูหยินน้อย เสียงร้องครวญครางอย่างสุขสมนั้นดังอยู่นานมาก จนเมื่อเย็นย่ำก็เงียบไปหย่งเอ๋อรออยู่นานกว่าจะรวบรวมความกล้าไปเคาะประตูเพราะกลัวว่าจะเลยเวลาอาหารเย็นของฮูหยินน้อยไปมาก แต่เมื่อนางแอบมองเข้าไปในห้องหนังสือก็เห็นมีแต่ฮูหยินน้อยเดินออกมาด้วยใบหน้าอิดโรย แต่นางยิ้มอย่างอารมณ์ดีกว่าทุกวัน แต่หย่งเอ๋อสาบานว่านางไม่เห็นใครเลย แม้จะกวาดตามองไปจนทั่วห้องหนังสือนั้นแล้ว บรื้อ !!! มันจะเป็นใครไปได้เล่าถ้าไม่ใช่คุณชายใหญ่เจ้าของเรือน แต่เขาคงจะรักและหลงไหลฮูหยินน้อยเข้าแล้ว เพราะนางก็งดงามเรือนร่างอวบอิ่มขาวผ่องไม่น้อยแต่งกายแล้วก็เหมือนคุณหนูในห้องหอที่หย่งเอ๋อเคยเห็น เมื่อจัดการเรื่องอาหารเย็นให้ฮูหยินน้อยแล้ว และจัดการอาภรณ์สีแดงที่ฮูหยินน้อยยืนยันว่านางต้องการสวมเตรียมเอาไว้ให้แล้ว ก็เผ่นออกจากเรือนพร้อมถาดไม้ที่ใส่จานชามอาหารเย็นของฮูหยินน้อยเช่นดังทุกวัน วิ่งแจ้นกลับไปยังเรือนครัวและหลังจากนางนั่งลงกินอาหารไปได้พักใหญ่ คนสวนที่เป็นชายคน
คืนนั้นอี้ชิงอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณอย่างดี และบำรุงผิวกายตนเองด้วยเครื่องประทินผิวหอมกรุ่น ค้นหาอาภรณ์ชุดแดงที่บางเบาและโปร่งบางมองจนมองเห็นเรือนร่างอวบของนางอย่างชัดเจน และไม่สวมอะไรอีก เพราะนางอยากจะเอาใจสามี แม้วันนี้ไม่แน่ใจนักว่าคุณชายหม่าสามีของนางจะมาปรากฏกายหรือไม่ นับตั้งแต่นางเปิดใจยอมรับว่าเขาเป็นสามีของนาง นางก็คิดเอาใจเขาและคิดว่าจะปรนนิบัติเขาดังเช่นผัวเมียทั่วไป และด้วยความเป็นหญิงที่ต้องการให้สามีหลงไหลเพียงนาง แม้จะรู้ว่าขณะนี้เขาคงไม่มีสายตามองหญิงอื่นได้ ถึงมองหญิงอื่นก็คงไม่เห็นและถึงเห็นก็คงไม่อยู่ให้เขามองหรอก เมื่อครุ่นคิดมาถึงตรงนี้อี้ชิงหัวเราะเบาๆ เมื่อนึกถึงว่าสตรีอื่นแค่ได้ยินก็กลัวเขาแล้ว ไม่กล้ามาทอดสะพานให้เขาหรอก แต่ร่างโปรงแสงของคุณชายหม่าที่ยืนเฝ้ามองฮูหยินของตัวเองบำรุงผิวพรรณและนิ่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวเขาจึงเข้าใจไปว่านางมีความสุขอารมณ์ดีเพราะนั่งคุยกับชายชู้อยู่ได้นานสองนาน แม้เขาจะรู้ว่าชายผู้นั้นคือหมอจงที่มีความสำคัญกับเขามาก แต่ก็อดหึงหวงไม่ได้ คุณชายใหญ่โมโหหึงหวงเมียหมาดๆของเขา เขาไม่มีพลังพอที่จะปรากฏกายขณะนี้เฝ้ารอให้นางหลับไหลไปก่อน
เอวสอบของคุณชายหนุ่มโยกขยับเหมือนมีชีวิตของมันเอง มันโยกอย่างบ้าคลั่งและลึกสุดใจ ปากหนาก็ร้องครวญครางเสียงกระเส่า ผสานไปกับเสียงครางหวานหูของเมียรัก ตับ ตับ ตับ ตับ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องในห้องนั้น ” โอ้ววว โอ้ววว เสียว เสียววว โอ้ววว “ คุณชายหนุ่มสุขสมจนใบหน้าหล่อเหลาบิดเบ้ไปหมด เสียวแบบที่เขาไม่เคยมาก่อนในชีวิตหนุ่ม ทุกครั้งที่เริงรักกับอี้ชิงหญิงชาวบ้านฐานะต่ำต้อยที่เขารับนางเป็นเมียเพียงคนเดียวนี้ มันยิ่งสุขสมยิ่งเสียวขึ้นทุกวัน ไม่มีทีท่าว่าเขาจะเบื่อหน่ายนางเลย ยิ่งเสพสวาทกับนางยิ่งเสียวขึ้นทุกวัน จนเขายอมรับกับตนเองว่าหลงไหลนางจนหัวปักหัวปำไปเสียแล้ว” โอ้ววว โอ้ววว ไม่ไหวแล้ว เจ้าตอดข้าแรงเกินไป ข้าจะเสร็จแล้ว จะเสร็จจจ โอ้ววว โอ้วววววว “ ร่องอวบของอี้ชิงตอดท่อนเอ็นร้อนของสามีอย่างบ้าคลั่งจนเขาทนต่อไปไม่ไหว แตกพ่ายออกมาอย่างรุนแรง ทุกหยาดหยดเขาปลดปล่อยมันเข้าไปในร่องอวบของเมียรักทุกหยาดหยุด หลังจากสุขสมเขาก็ล้มตัวลงนอนราบบนฟูกนอนหนานุ่มนั้นแล้วยกตัวของอี้ชิงนอนบนอกหนาของเขา เขาจูบหน้าผากที่ชื้นเหงื่อของนางอย่างรักใคร่ ” อี้ชิง เจ้าเป็นเมียของข้าแล้ว อย่าคิดสวมหมวกเขี
“ เป็นอย่างไรเล่า เมียรัก สิ้นฤทธิ์แล้วใช่หรือไม่ ตอนนี้ชัดแล้วหรือไม่ว่าเจ้าเป็นเมียของพี่ และต่อไปก็ต้องเป็นแม่ของลูกพี่ด้วย พี่รักเจ้านะ รักเจ้าเพียงผู้เดียวเมียรัก “ อี้ชิงเงยหน้ามองสบตาที่มองนางอย่างรักใคร่นั่น นางยอมแพ้้แล้ว นางเองก็รักเขาไม่น้อย แค่นางน้อยใจที่เขาหมางเมินและน้อยใจที่นางต่ำต้อยเกินไปที่จะเป็นฮูหยินของเขา และนางเข็ดไม่อยากจะเจ็บปวดต่อไปอีกแล้ว แต่เมื่อโชคชะตาทำให้ท่านพี่กลับมาจดจำนางได้ และรับนางกลับเข้าจวนหม่ามาเช่นนี้แล้ว นางก็จำต้องยอมรับและรักเขาดังที่ใจนางเองก็ต้องการ” เจ้าค่ะ ข้าคือเมียของท่านพี่ และต้องเป็นเมียเพียงผู้เดียวด้วยนะเจ้าคะ หากท่านพี่หาเมียเพิ่มข้าจะกลับบ้านของข้าทันที ข้าไม่อยากใช้สามีร่วมกับหญิงใด และไม่ยอมเป็นเมียน้อยของชายใดเช่นกัน แม้ข้าจะต่ำต้อย ยากไร้ แต่ก็ไม่อยากจะเป็นอนุในจวนของผู้ใดเจ้าค่ะ " “ เมียรัก เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก พี่เป็นชายที่รักเดียวใจเดียว ไม่เจ้าชู้ หากไม่พี่คงไม่ไปตามเจ้ากลับมาหรอก หญิงงามเมืองนี้ออกจะมากมาย และอดีตคู่หมั้นที่งดงามไม่น้อยก็กลับมาขอคืนดีกับพี่แล้วด้วยซ้ำแต่พี่ปฏิเสธนางไปเพราะพี่มีเมียแล้ว เจ้ายังไม่เชื
คุณชายหม่าเงยหน้าขึ้นจากอกอวบของนาง เขาจ้องมองนางด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความต้องการอย่างมากมาย จนอี้ชิงเบือนหน้าหลบสายตาคมนั้น คุณชายหนุ่มถอดอาภรณ์ของตนเองทีละชิ้นขณะที่ตาก็จ้องมองใบหน้าหวานที่เริ่มแดงระเรื่อแก้มของนางน่าจูบยิ่งนัก เมื่อกายล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามหนั่นแน่นไปทั้งตัวเปลือยเปล่าเขาก็เบียดต้นขาแข็งแกร่งนั้นแทรกผ่านเรียวขาขาวอวบทั้งสองข้างของนาง แล้วถูไถเสียดสีโหนกบุปผาไปมา แค่เพียงเท่านี้ก็ส่งผลให้อี้ชิงร้องครวญครางอย่างบ้าคลั่งแล้ว นางบิดกายไปมาเพราะความเสียวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ไม่ใช่การดิ้นรนหนีไปจากคนบนร่างอีกแล้ว ปากก็ร้องครวญครางด้วยเสียงหวาน มือหนาเลื่อนขึ้นไปกอบกุมทรวงอกอวบใหญ่ของนาง แล้วฟอนเฟ้นมันหนักเบาสลับกันไป จนทำให้อี้ชิงผวาร่างขึ้นอย่างวาบหวามเหลือเกิน นางหายใจสะดุด สะบัดร้อนสะบัดหนาว สมองก็ขาวโพลนไปหมด คิดสิ่งใดไม่ออกแล้ว เวลานี้สติของนางกระเจิดกระเจิงไม่น้อย สัมผัสที่ทำให้นางเสียวไปหมด จนลืมสิ้นทุกสิ่ง ความโกรธ ความน้อยเนื้อต่ำใจที่พวกเขาดูถูกว่านางต่ำต้อยไม่คู่ควรกับเขาจนนางไม่อยากจะกลับมาใช้ชีวิตกับเขาอีกแล้ว นั่นเพราะร่างกายของนางมันจดจำได้ว่า
อี้ชิงหน้าบึงตึ้งขึ้นทันที “ คุณชายหม่า ท่านมาขู่ข้าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ข้าไม่กลับไปกับท่าน ข้าไม่ใช่เม่ียของท่าน กลับไปเสีย และอย่ามาวุ่ยวายกับข้าอีก ” นางยังพยศเพราะเหมือนรู้สึกว่าเขามัดมือชกนาง และนางไม่แน่ใจว่าฮูหยินใหญ่จะยินยอมให้นางเป็นฮูหยินเพียงคนเดียวของเขา นางเกรงว่าจะต้องตกเป็นอนุของเขา หากนางยอมกลับไปกับเขาง่ายๆ “อี้ชิง หากเจ้าไม่กลับไปกับข้าแต่โดยดี ข้าจะมาที่นี่ทุกวัน มานั่งเฝ้าเจ้า หากมีชายอื่นมาเกี้ยวพาเจ้า ข้าก็จะป่าวประกาศว่าเจ้าเป็นเมียของข้า ที่คิดจะสวมหมวกเขียวให้ข้า ข้าก็อยากจะรู้ว่าจะมีใครอยากจะได้เจ้าไปเป็นเมียกัน เพราะเจ้ามันมีผัวเก่าตามติดเช่นนี้ ”เมื่อฮูหยินลู่ได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจยิ่ง หากคุณชายหม่ามานั่งเฝ้าอี้ชิงทุกวันจะต้องเกิดเรื่องแน่เพราะมักจะมีบุรุษมาเกี้ยวพาและสั่งอาหารนั่งกินเพื่อเกี้ยวอี้ชิงแทบจะทุกวัน มันจะต้องเกิดเรื่องทุกวันอย่างแน่นอน และยิ่งไปกว่านัั้นจะต้องเกิดข่าวลือที่ไม่ดีเกี่ยวกับบุตรสาวจะยิ่งอับอายไปกว่านี้ สู้ให้นางรีบกลับไปจวนหม่าแต่งเข้าจวนหม่าอย่างถูกต้องเสียดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะเกิดเรื่องฉาวโฉ่เล่าลือไปทั้งเมือง แล้วอี้ชิงจะหาสามี
คุณชายหม่าเฟยหลงเดินเข้าไปในตลาดอย่างมีความหวัง เขาจะต้องง้องอนนางกลับไปด้วยให้ได้ เขาห่างจากนางมาเกือบสองเดือนแล้ว คิดถึงนางเหลือเกินอยากจะนอนกอดนางจะแย่อยู่แล้ว เขาเดินไปเรื่อยๆลัดเลาะผ่านผู้คนจนมุ่งหน้ามาถึงหน้าร้านขายของเฟิ่งหมัน แล้วเขาก็มองหาร้านขายอาหารเล็กๆ แล้วเขาก็เห็นมัน อยู่เลยไปอีกสองคูหาเขาเดินมุ่งตรงไปเมื่อถึงหน้าร้านเขามองหาร่างอวบที่คุ้นเคย จนพบนางกำลังนั่งสนทนาก้บบุรุษผู้หนึ่งอยู่ บุรุษผู้นั้นดูคุ้นเคยเช่นกัน เขาเฝ้ามองเห็นทั้งสองพูดคุยกันอย่างยิ้มแย้ม ใบหน้าหล่อเหลาที่มีรอยยิ้มสว่างไสวเมื่อครู่กลายเป็นเรียบเฉย กรามแกร่งขบเข้าหากันแน่น มือหนากำแน่นอยู่ข้างลำตัว หนอย !! ไม่พบกันแค่เพียงสองเดือน คิดจะหาผัวใหม่เช่นนั้น หรือ ไม่มีทางอย่างเด็ดขาด ในเมื่อผัวเก่าอย่างข้าจะทำทุกวิถีทางให้เจ้ากลับไปอยู่กับข้าให้ได้ แล้วร่างหนาของคุณชายหม่าก็เดินเข้าไปร้านตรงไปที่โต๊ะกลมริมผนังที่อี้ชิงนั่งสนทนากับท่านหมอจงอยู่ “ ชิงเอ๋อ ผัวมารับเจ้ากลับจวนแล้ว ” อี้ชิงได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยนางจึงได้หันมามองอย่างรวดเร็ว รวมถึงท่านหมอจงก็พลอยหันมาจ้องมองด้วย “ คุณชายหม่า ท่านแข็งแรงดีมากแ
ยามเฉินวันต่อมา หย่งเอ๋อเดินถือถาดอาหารเช้าของคุณชายใหญ่เดินนำหน้าสาวใช้อีกผู้หนึ่งที่ยกถาดไม้อีกถาดตามมาเช่นกัน คุณชายใหญ่ต้องการอยู่เพียงผู้เดียวในช่วงนี้เพราะเขาต้องการพักผ่อน จึงยังไม่ได้ไปกินอาหารที่เรือนหลัก จึงสั่งให้ตั้งสำรับที่เรือนนี้จนกว่าเขาจะแข็งแรงมากกว่านี้จึงจะไปกินอาหารกับมารดาที่เรือนหลักเมื่อเปิดประตูเข้าไปพบว่าคุณชายหนุ่มนั่งรออยู่ที่โต๊ะกลมกลางห้องนั่นแล้ว หย่งเอ๋อและสาวใช้ที่เดินตามนางมาจึงได้รีบตั้งสำรับ สาวใช้นางนั้นเมื่อวางถาดไม้ลงบนโต๊ะแล้ว ก็หันไปจัดป้านน้ำชาที่ตั้งอยู่ริมห้อง ยกมาวางที่โต๊ะกลม หย่งเอ๋อจัดโต๊ะอาหารให้กับคุณชายใหญ่จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณชายหนุ่มก็เอ่ยว่า “ หย่งเอ๋ออยู่ที่นี่เพียงผู้เดียวก็พอแล้ว เจ้ากลับไปได้ อีกชั่วยามค่อยมาเก็บสำรับนี่ ” สาวใช้นางนั้นรับคำเบาๆแล้วเดินออกไปจากเรือนนั้นทันที “ หย่งเอ๋อเจ้าเล่ามาตามตรงไม่ต้องกลัวท่านแม่ ข้าต้องการรู้เรื่องของเมียของข้า ตั้งแต่นางเริ่มเข้ามาอยู่ที่เรือนนี้ ” หย่งเอ๋อชะงักไปครู่หนึ่ง จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของนายน้อย “ นายน้อยจำได้แล้วหรือเจ้าคะ ว่าเคยได้แต่งงานกับฮูหยินน้อยแล้ว ” เขาพยักหน้าให
คืนนั้นคุณชายหม่านอนอยู่บนเตียงหลังใหญ่นั้น ขณะที่เขาหลับสนิทอยู่นั้น ในฝันของเขามันชัดเจนยิ่งนักจนเหมือนจริงมาก ตัวของเขากำลังขย่มร่างอวบของหญิงผู้หนึ่งอยู่บนเตียงหลังนี้ เขายังจำความรู้สึกนั้นได้ ในฝันเขาก้มลงชิมน้ำหวานจากร่องอวบของนางจนเหือดแห้ง เขาดื่มมันอย่างเอร็ดอร่อยแล้วอยู่ ๆ เขาก็จับร่างอวบนั้นพลิกคว่ำลงฟูกนอนแล้วดึงบั้นท้ายอวบอั๋นของนางขึ้นให้มันลอยสูงพอที่เขาจะสอดท่อนเอ็นร้อนที่แข็งขึงไปหมดของเขาจ่อเข้ากับร่องอวบของนางจากทางด้านหลัง “ อ๊าาา อ๊าายท่านพี่เจ้าคะ สอดมันเข้ามา ได้โปรดเจ้าค่ะ เอาข้าเสียที เอาข้า เอาชิงเอ๋อ อ๊าา อ๊าา อ๊ายยย “ อี้ชิงแอ่นก้นงามงอนของนางส่ายไปมาเพื่อยั่วยวนเขาอย่างถึงที่สุด นางร่าน ร่านเหลือเกิน ” อี้ชิง หญิงร่าน หญิงแพศยา ร่านชายเช่นนี้ ถูกใจข้ายิ่งนัก ข้าจะเอาเจ้าแล้ว เอาเจ้าให้มิดด้าม เอาแรงๆ ให้เจ้าเดินไม่ได้เลยคอยดู “ ” อู๊ยยยย อูยยย ท่านพี่เจ้าคะ ท่านพี่ อ๊าา อูยยยย อูยย “ ” โอ้ววว โอ้ววว แน่นมาก แน่นมากเมียรัก เสียว เสียวเหลือเกิน โอ้ววว โอ้วววว “ คุณชายหนุ่มแทงท่อนเอ็นแข็งขึงของเขาเข้าไปจนมิดด้าม และแช่เอาไว้เพียงครู่ แล้วค่อย ๆ ขยับบั
หลายวันต่อมาอี้ชิงไปหาห้องแถวให้เช่าแถวตลาดเพื่อเปิดร้านอาหารเล็กๆโดยมีมารดาและนางเท่านั้นที่ช่วยกันทำงาน อาจจะมีบางวันที่น้องชายและน้องสาวมาช่วยยกอาหารไปส่งให้ลูกค้าตามโต๊ะต่าง อี้ชิงเปลี่ยนตัวเองใหม่ นางซื้อหาอาภรณ์ที่งดงามที่แต่งกายให้สดชื่นและแต่งเติมใบหน้าและประดับเรือนผมให้งดงามดังเช่นคุณหนูในห้องหอ เพราะนางอยากจะเปลี่ยนตนเองให้สดชื่น ให้งดงามให้สดใสเพื่อวันหนึ่งนางจะลืมความรักครั้งเก่า ความรักที่ไม่มีวันที่จะเป็นจริงได้ ร้านอาหารเล็กๆของครอบครัวลู่ที่มีอี้ชิงกับมารดาช่วยกันทำก็มีลูกค้ามาอุดหนุดอย่างคับคั่ง บุรุษบางคนก็มาเพื่อจะเกี้ยวแม่ค้าคนงามที่ยืนอยู่ที่โต๊ะบัญชีและออกมารับแขกพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับลูกค้า อี้ชิงก็ไม่แสดงท่าทีรังเกียจบุรุษคนใดนางพูดคุยกับพวกเขาอย่างเป็นกันเองเพราะนางกลัวว่าจะเสียลูกค้า และพวกเขาก็ไม่ได้มีท่าทางเป็นอันตรายหรือคุกคามนาง เพียงพูดคุยเกี้ยวพานางตามประสาบุรุษเพียงเท่านั้น อี้ชิงจึงยิ้มหวานรับทุกๆคน อย่างชื่นบาน นางหวังอยากให้ร้านค้าของนางอยู่รอดและเจริญเติบโตพอจะเลี้ยงชีพทั้งนางและมารดาได้ นางไม่อยากให้มารดาต้องมาหลังขดหลังแข็งปลูกผักและเลี้ย
บัดนี้การแต่งงานจอมปลอมของนางกับเขาสิ้นสุดลงแล้ว แม้นางจะรู้ว่าการแต่งงานนั้นอาจจะจอมปลอม แต่ความรักที่นางมีให้เขานั้นมันจริง มันแท้จริงจนบัดนี้กลางอกของนางเจ็บไปหมด อี้ชิงปล่อยน้ำตาให้ไหลรินลงมา แล้วทรุดนั่งลงหน้าตู้เสื้อผ้าในห้องนอน แล้วร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดนางไม่ห้ามตนเองเอาไว้อีกแล้ว นางขอร้องไห้ให้กับความรักช่วงสั้นๆระหว่างนางกับคุณชายผู้สูงศักดิ์ที่นางเองก็รู้หากเขาไม่ได้กลายเป็นเพียงวิญญาณที่ไม่มีใครปรารถนา เขาก็คงไม่มีทางได้แต่งงานและขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของนาง และนางเองก็คงไม่มีโอกาสมาใช้้ชีวิตดังเช่นฮูหยินของเขา เมื่อร้องไห้จนสาแก่ใจแล้ว อี้ชิงทรงตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปที่อ่างเคลือบใบใหญ่ที่มีเหยือกที่ใส่น้ำเอาไว้วางอยู่กลางอ่างนั้น นางเทน้ำจากเหยือกนั้นแล้วล้างหน้าของตนเอง แล้วเดินไปที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งหยิบแป้งมาผัดหน้าบางๆเพื่อไม่ให้ใครเห็นร่องรอยที่ผ่านการร้องไห้อย่างหนักของนาง นางเติมปากอวบอิ่มให้มีสีสัน แล้วเปิดลิ้นชักหยิบกล่องเครื่องประดับที่ฮูหยินเคยให้นางเป็นรางวัลรวบรวมมันใส่ห่อผ้าที่นางค้นหามาได้ เก็บเครื่องประทินผิวทั้งหมดไป เพราะคงไม่มีใครอยากจะใช้ของเหลือจา
หลังจากนั้นหลายวันต่อมานางก็ปรนนิบัติสามีด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และพยายามทำตัวปกติให้มากที่สุด เพราะนางเองก็อยากจะใช้เวลาที่เหลือไม่มากแล้วปรนนิบัติเขาอย่างดีที่สุด รักเขาให้มากที่สุด ใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างมีความสุขกับเขาด้วยใบหน้าเหมือนมีความสุขมากมาย ทั้ง ๆ ที่ในหัวใจของนางเจ็บปวดไม่น้อย ที่อีกไม่นานชีวิตรักที่เหมือนดังฝันไปของพวกเขาก็คงจะจบลงใกล้เวลาอาหารกลางวันของสามวันต่อมา “ คุณชายใหญ่หายแล้วเจ้าค่ะ เห็นว่าฟื้นได้สักพักใหญ่แล้ว ตอนนี้นั่งพักที่ในห้องโถงหน้าเรือนหลักเจ้าค่ะ มีคนมาเยี่ยมหลายคนเลย ” หย่งเอ๋อบอกกับฮูหยินน้อยเมื่อนางยกสำรับกลางวันมาให้ มิน่าเล่านางได้ยินเสียงดังมากจากที่เรือนหลักบ่าวไพร่ไชโยโห่ร้องกันเสียงดังด้วยความดีใจ อี้ชิงรีบวิ่งไปที่เรือนหลักอย่างสุดฝีเท้า โดยไม่รอหลังกินอาหารกลางวันก่อน นางอยากจะพบหน้าเขา อยากให้เขาเห็นนางเมื่อเขาฟื้นขึ้นมาเขาคงจะดีใจที่เห็นหน้านาง แต่เมื่ออี้ชิงวิ่งไปถึงเรือนหลัก นางรีบเข้าไปที่ห้องโถงหน้าเรือน เห็นมีคนหลายๆคนนั่งอยู่ในนั้น ขณะที่นางกำลังรีรอว่าควรจะเข้าไปดีหรือไม่ คุณชายใหญ่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ริมผนังเพราะเขาอย