หลังจากนั้นหลายวันต่อมานางก็ปรนนิบัติสามีด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และพยายามทำตัวปกติให้มากที่สุด เพราะนางเองก็อยากจะใช้เวลาที่เหลือไม่มากแล้วปรนนิบัติเขาอย่างดีที่สุด รักเขาให้มากที่สุด ใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างมีความสุขกับเขาด้วยใบหน้าเหมือนมีความสุขมากมาย ทั้ง ๆ ที่ในหัวใจของนางเจ็บปวดไม่น้อย ที่อีกไม่นานชีวิตรักที่เหมือนดังฝันไปของพวกเขาก็คงจะจบลงใกล้เวลาอาหารกลางวันของสามวันต่อมา “ คุณชายใหญ่หายแล้วเจ้าค่ะ เห็นว่าฟื้นได้สักพักใหญ่แล้ว ตอนนี้นั่งพักที่ในห้องโถงหน้าเรือนหลักเจ้าค่ะ มีคนมาเยี่ยมหลายคนเลย ” หย่งเอ๋อบอกกับฮูหยินน้อยเมื่อนางยกสำรับกลางวันมาให้ มิน่าเล่านางได้ยินเสียงดังมากจากที่เรือนหลักบ่าวไพร่ไชโยโห่ร้องกันเสียงดังด้วยความดีใจ อี้ชิงรีบวิ่งไปที่เรือนหลักอย่างสุดฝีเท้า โดยไม่รอหลังกินอาหารกลางวันก่อน นางอยากจะพบหน้าเขา อยากให้เขาเห็นนางเมื่อเขาฟื้นขึ้นมาเขาคงจะดีใจที่เห็นหน้านาง แต่เมื่ออี้ชิงวิ่งไปถึงเรือนหลัก นางรีบเข้าไปที่ห้องโถงหน้าเรือน เห็นมีคนหลายๆคนนั่งอยู่ในนั้น ขณะที่นางกำลังรีรอว่าควรจะเข้าไปดีหรือไม่ คุณชายใหญ่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ริมผนังเพราะเขาอย
บัดนี้การแต่งงานจอมปลอมของนางกับเขาสิ้นสุดลงแล้ว แม้นางจะรู้ว่าการแต่งงานนั้นอาจจะจอมปลอม แต่ความรักที่นางมีให้เขานั้นมันจริง มันแท้จริงจนบัดนี้กลางอกของนางเจ็บไปหมด อี้ชิงปล่อยน้ำตาให้ไหลรินลงมา แล้วทรุดนั่งลงหน้าตู้เสื้อผ้าในห้องนอน แล้วร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดนางไม่ห้ามตนเองเอาไว้อีกแล้ว นางขอร้องไห้ให้กับความรักช่วงสั้นๆระหว่างนางกับคุณชายผู้สูงศักดิ์ที่นางเองก็รู้หากเขาไม่ได้กลายเป็นเพียงวิญญาณที่ไม่มีใครปรารถนา เขาก็คงไม่มีทางได้แต่งงานและขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของนาง และนางเองก็คงไม่มีโอกาสมาใช้้ชีวิตดังเช่นฮูหยินของเขา เมื่อร้องไห้จนสาแก่ใจแล้ว อี้ชิงทรงตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปที่อ่างเคลือบใบใหญ่ที่มีเหยือกที่ใส่น้ำเอาไว้วางอยู่กลางอ่างนั้น นางเทน้ำจากเหยือกนั้นแล้วล้างหน้าของตนเอง แล้วเดินไปที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งหยิบแป้งมาผัดหน้าบางๆเพื่อไม่ให้ใครเห็นร่องรอยที่ผ่านการร้องไห้อย่างหนักของนาง นางเติมปากอวบอิ่มให้มีสีสัน แล้วเปิดลิ้นชักหยิบกล่องเครื่องประดับที่ฮูหยินเคยให้นางเป็นรางวัลรวบรวมมันใส่ห่อผ้าที่นางค้นหามาได้ เก็บเครื่องประทินผิวทั้งหมดไป เพราะคงไม่มีใครอยากจะใช้ของเหลือจา
หลายวันต่อมาอี้ชิงไปหาห้องแถวให้เช่าแถวตลาดเพื่อเปิดร้านอาหารเล็กๆโดยมีมารดาและนางเท่านั้นที่ช่วยกันทำงาน อาจจะมีบางวันที่น้องชายและน้องสาวมาช่วยยกอาหารไปส่งให้ลูกค้าตามโต๊ะต่าง อี้ชิงเปลี่ยนตัวเองใหม่ นางซื้อหาอาภรณ์ที่งดงามที่แต่งกายให้สดชื่นและแต่งเติมใบหน้าและประดับเรือนผมให้งดงามดังเช่นคุณหนูในห้องหอ เพราะนางอยากจะเปลี่ยนตนเองให้สดชื่น ให้งดงามให้สดใสเพื่อวันหนึ่งนางจะลืมความรักครั้งเก่า ความรักที่ไม่มีวันที่จะเป็นจริงได้ ร้านอาหารเล็กๆของครอบครัวลู่ที่มีอี้ชิงกับมารดาช่วยกันทำก็มีลูกค้ามาอุดหนุดอย่างคับคั่ง บุรุษบางคนก็มาเพื่อจะเกี้ยวแม่ค้าคนงามที่ยืนอยู่ที่โต๊ะบัญชีและออกมารับแขกพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับลูกค้า อี้ชิงก็ไม่แสดงท่าทีรังเกียจบุรุษคนใดนางพูดคุยกับพวกเขาอย่างเป็นกันเองเพราะนางกลัวว่าจะเสียลูกค้า และพวกเขาก็ไม่ได้มีท่าทางเป็นอันตรายหรือคุกคามนาง เพียงพูดคุยเกี้ยวพานางตามประสาบุรุษเพียงเท่านั้น อี้ชิงจึงยิ้มหวานรับทุกๆคน อย่างชื่นบาน นางหวังอยากให้ร้านค้าของนางอยู่รอดและเจริญเติบโตพอจะเลี้ยงชีพทั้งนางและมารดาได้ นางไม่อยากให้มารดาต้องมาหลังขดหลังแข็งปลูกผักและเลี้ย
คืนนั้นคุณชายหม่านอนอยู่บนเตียงหลังใหญ่นั้น ขณะที่เขาหลับสนิทอยู่นั้น ในฝันของเขามันชัดเจนยิ่งนักจนเหมือนจริงมาก ตัวของเขากำลังขย่มร่างอวบของหญิงผู้หนึ่งอยู่บนเตียงหลังนี้ เขายังจำความรู้สึกนั้นได้ ในฝันเขาก้มลงชิมน้ำหวานจากร่องอวบของนางจนเหือดแห้ง เขาดื่มมันอย่างเอร็ดอร่อยแล้วอยู่ ๆ เขาก็จับร่างอวบนั้นพลิกคว่ำลงฟูกนอนแล้วดึงบั้นท้ายอวบอั๋นของนางขึ้นให้มันลอยสูงพอที่เขาจะสอดท่อนเอ็นร้อนที่แข็งขึงไปหมดของเขาจ่อเข้ากับร่องอวบของนางจากทางด้านหลัง “ อ๊าาา อ๊าายท่านพี่เจ้าคะ สอดมันเข้ามา ได้โปรดเจ้าค่ะ เอาข้าเสียที เอาข้า เอาชิงเอ๋อ อ๊าา อ๊าา อ๊ายยย “ อี้ชิงแอ่นก้นงามงอนของนางส่ายไปมาเพื่อยั่วยวนเขาอย่างถึงที่สุด นางร่าน ร่านเหลือเกิน ” อี้ชิง หญิงร่าน หญิงแพศยา ร่านชายเช่นนี้ ถูกใจข้ายิ่งนัก ข้าจะเอาเจ้าแล้ว เอาเจ้าให้มิดด้าม เอาแรงๆ ให้เจ้าเดินไม่ได้เลยคอยดู “ ” อู๊ยยยย อูยยย ท่านพี่เจ้าคะ ท่านพี่ อ๊าา อูยยยย อูยย “ ” โอ้ววว โอ้ววว แน่นมาก แน่นมากเมียรัก เสียว เสียวเหลือเกิน โอ้ววว โอ้วววว “ คุณชายหนุ่มแทงท่อนเอ็นแข็งขึงของเขาเข้าไปจนมิดด้าม และแช่เอาไว้เพียงครู่ แล้วค่อย ๆ ขยับบั
ยามเฉินวันต่อมา หย่งเอ๋อเดินถือถาดอาหารเช้าของคุณชายใหญ่เดินนำหน้าสาวใช้อีกผู้หนึ่งที่ยกถาดไม้อีกถาดตามมาเช่นกัน คุณชายใหญ่ต้องการอยู่เพียงผู้เดียวในช่วงนี้เพราะเขาต้องการพักผ่อน จึงยังไม่ได้ไปกินอาหารที่เรือนหลัก จึงสั่งให้ตั้งสำรับที่เรือนนี้จนกว่าเขาจะแข็งแรงมากกว่านี้จึงจะไปกินอาหารกับมารดาที่เรือนหลักเมื่อเปิดประตูเข้าไปพบว่าคุณชายหนุ่มนั่งรออยู่ที่โต๊ะกลมกลางห้องนั่นแล้ว หย่งเอ๋อและสาวใช้ที่เดินตามนางมาจึงได้รีบตั้งสำรับ สาวใช้นางนั้นเมื่อวางถาดไม้ลงบนโต๊ะแล้ว ก็หันไปจัดป้านน้ำชาที่ตั้งอยู่ริมห้อง ยกมาวางที่โต๊ะกลม หย่งเอ๋อจัดโต๊ะอาหารให้กับคุณชายใหญ่จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณชายหนุ่มก็เอ่ยว่า “ หย่งเอ๋ออยู่ที่นี่เพียงผู้เดียวก็พอแล้ว เจ้ากลับไปได้ อีกชั่วยามค่อยมาเก็บสำรับนี่ ” สาวใช้นางนั้นรับคำเบาๆแล้วเดินออกไปจากเรือนนั้นทันที “ หย่งเอ๋อเจ้าเล่ามาตามตรงไม่ต้องกลัวท่านแม่ ข้าต้องการรู้เรื่องของเมียของข้า ตั้งแต่นางเริ่มเข้ามาอยู่ที่เรือนนี้ ” หย่งเอ๋อชะงักไปครู่หนึ่ง จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของนายน้อย “ นายน้อยจำได้แล้วหรือเจ้าคะ ว่าเคยได้แต่งงานกับฮูหยินน้อยแล้ว ” เขาพยักหน้าให
คุณชายหม่าเฟยหลงเดินเข้าไปในตลาดอย่างมีความหวัง เขาจะต้องง้องอนนางกลับไปด้วยให้ได้ เขาห่างจากนางมาเกือบสองเดือนแล้ว คิดถึงนางเหลือเกินอยากจะนอนกอดนางจะแย่อยู่แล้ว เขาเดินไปเรื่อยๆลัดเลาะผ่านผู้คนจนมุ่งหน้ามาถึงหน้าร้านขายของเฟิ่งหมัน แล้วเขาก็มองหาร้านขายอาหารเล็กๆ แล้วเขาก็เห็นมัน อยู่เลยไปอีกสองคูหาเขาเดินมุ่งตรงไปเมื่อถึงหน้าร้านเขามองหาร่างอวบที่คุ้นเคย จนพบนางกำลังนั่งสนทนาก้บบุรุษผู้หนึ่งอยู่ บุรุษผู้นั้นดูคุ้นเคยเช่นกัน เขาเฝ้ามองเห็นทั้งสองพูดคุยกันอย่างยิ้มแย้ม ใบหน้าหล่อเหลาที่มีรอยยิ้มสว่างไสวเมื่อครู่กลายเป็นเรียบเฉย กรามแกร่งขบเข้าหากันแน่น มือหนากำแน่นอยู่ข้างลำตัว หนอย !! ไม่พบกันแค่เพียงสองเดือน คิดจะหาผัวใหม่เช่นนั้น หรือ ไม่มีทางอย่างเด็ดขาด ในเมื่อผัวเก่าอย่างข้าจะทำทุกวิถีทางให้เจ้ากลับไปอยู่กับข้าให้ได้ แล้วร่างหนาของคุณชายหม่าก็เดินเข้าไปร้านตรงไปที่โต๊ะกลมริมผนังที่อี้ชิงนั่งสนทนากับท่านหมอจงอยู่ “ ชิงเอ๋อ ผัวมารับเจ้ากลับจวนแล้ว ” อี้ชิงได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยนางจึงได้หันมามองอย่างรวดเร็ว รวมถึงท่านหมอจงก็พลอยหันมาจ้องมองด้วย “ คุณชายหม่า ท่านแข็งแรงดีมากแ
อี้ชิงหน้าบึงตึ้งขึ้นทันที “ คุณชายหม่า ท่านมาขู่ข้าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ข้าไม่กลับไปกับท่าน ข้าไม่ใช่เม่ียของท่าน กลับไปเสีย และอย่ามาวุ่ยวายกับข้าอีก ” นางยังพยศเพราะเหมือนรู้สึกว่าเขามัดมือชกนาง และนางไม่แน่ใจว่าฮูหยินใหญ่จะยินยอมให้นางเป็นฮูหยินเพียงคนเดียวของเขา นางเกรงว่าจะต้องตกเป็นอนุของเขา หากนางยอมกลับไปกับเขาง่ายๆ “อี้ชิง หากเจ้าไม่กลับไปกับข้าแต่โดยดี ข้าจะมาที่นี่ทุกวัน มานั่งเฝ้าเจ้า หากมีชายอื่นมาเกี้ยวพาเจ้า ข้าก็จะป่าวประกาศว่าเจ้าเป็นเมียของข้า ที่คิดจะสวมหมวกเขียวให้ข้า ข้าก็อยากจะรู้ว่าจะมีใครอยากจะได้เจ้าไปเป็นเมียกัน เพราะเจ้ามันมีผัวเก่าตามติดเช่นนี้ ”เมื่อฮูหยินลู่ได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจยิ่ง หากคุณชายหม่ามานั่งเฝ้าอี้ชิงทุกวันจะต้องเกิดเรื่องแน่เพราะมักจะมีบุรุษมาเกี้ยวพาและสั่งอาหารนั่งกินเพื่อเกี้ยวอี้ชิงแทบจะทุกวัน มันจะต้องเกิดเรื่องทุกวันอย่างแน่นอน และยิ่งไปกว่านัั้นจะต้องเกิดข่าวลือที่ไม่ดีเกี่ยวกับบุตรสาวจะยิ่งอับอายไปกว่านี้ สู้ให้นางรีบกลับไปจวนหม่าแต่งเข้าจวนหม่าอย่างถูกต้องเสียดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะเกิดเรื่องฉาวโฉ่เล่าลือไปทั้งเมือง แล้วอี้ชิงจะหาสามี
คุณชายหม่าเงยหน้าขึ้นจากอกอวบของนาง เขาจ้องมองนางด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความต้องการอย่างมากมาย จนอี้ชิงเบือนหน้าหลบสายตาคมนั้น คุณชายหนุ่มถอดอาภรณ์ของตนเองทีละชิ้นขณะที่ตาก็จ้องมองใบหน้าหวานที่เริ่มแดงระเรื่อแก้มของนางน่าจูบยิ่งนัก เมื่อกายล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามหนั่นแน่นไปทั้งตัวเปลือยเปล่าเขาก็เบียดต้นขาแข็งแกร่งนั้นแทรกผ่านเรียวขาขาวอวบทั้งสองข้างของนาง แล้วถูไถเสียดสีโหนกบุปผาไปมา แค่เพียงเท่านี้ก็ส่งผลให้อี้ชิงร้องครวญครางอย่างบ้าคลั่งแล้ว นางบิดกายไปมาเพราะความเสียวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ไม่ใช่การดิ้นรนหนีไปจากคนบนร่างอีกแล้ว ปากก็ร้องครวญครางด้วยเสียงหวาน มือหนาเลื่อนขึ้นไปกอบกุมทรวงอกอวบใหญ่ของนาง แล้วฟอนเฟ้นมันหนักเบาสลับกันไป จนทำให้อี้ชิงผวาร่างขึ้นอย่างวาบหวามเหลือเกิน นางหายใจสะดุด สะบัดร้อนสะบัดหนาว สมองก็ขาวโพลนไปหมด คิดสิ่งใดไม่ออกแล้ว เวลานี้สติของนางกระเจิดกระเจิงไม่น้อย สัมผัสที่ทำให้นางเสียวไปหมด จนลืมสิ้นทุกสิ่ง ความโกรธ ความน้อยเนื้อต่ำใจที่พวกเขาดูถูกว่านางต่ำต้อยไม่คู่ควรกับเขาจนนางไม่อยากจะกลับมาใช้ชีวิตกับเขาอีกแล้ว นั่นเพราะร่างกายของนางมันจดจำได้ว่า
“ เป็นอย่างไรเล่า เมียรัก สิ้นฤทธิ์แล้วใช่หรือไม่ ตอนนี้ชัดแล้วหรือไม่ว่าเจ้าเป็นเมียของพี่ และต่อไปก็ต้องเป็นแม่ของลูกพี่ด้วย พี่รักเจ้านะ รักเจ้าเพียงผู้เดียวเมียรัก “ อี้ชิงเงยหน้ามองสบตาที่มองนางอย่างรักใคร่นั่น นางยอมแพ้้แล้ว นางเองก็รักเขาไม่น้อย แค่นางน้อยใจที่เขาหมางเมินและน้อยใจที่นางต่ำต้อยเกินไปที่จะเป็นฮูหยินของเขา และนางเข็ดไม่อยากจะเจ็บปวดต่อไปอีกแล้ว แต่เมื่อโชคชะตาทำให้ท่านพี่กลับมาจดจำนางได้ และรับนางกลับเข้าจวนหม่ามาเช่นนี้แล้ว นางก็จำต้องยอมรับและรักเขาดังที่ใจนางเองก็ต้องการ” เจ้าค่ะ ข้าคือเมียของท่านพี่ และต้องเป็นเมียเพียงผู้เดียวด้วยนะเจ้าคะ หากท่านพี่หาเมียเพิ่มข้าจะกลับบ้านของข้าทันที ข้าไม่อยากใช้สามีร่วมกับหญิงใด และไม่ยอมเป็นเมียน้อยของชายใดเช่นกัน แม้ข้าจะต่ำต้อย ยากไร้ แต่ก็ไม่อยากจะเป็นอนุในจวนของผู้ใดเจ้าค่ะ " “ เมียรัก เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก พี่เป็นชายที่รักเดียวใจเดียว ไม่เจ้าชู้ หากไม่พี่คงไม่ไปตามเจ้ากลับมาหรอก หญิงงามเมืองนี้ออกจะมากมาย และอดีตคู่หมั้นที่งดงามไม่น้อยก็กลับมาขอคืนดีกับพี่แล้วด้วยซ้ำแต่พี่ปฏิเสธนางไปเพราะพี่มีเมียแล้ว เจ้ายังไม่เชื
คุณชายหม่าเงยหน้าขึ้นจากอกอวบของนาง เขาจ้องมองนางด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความต้องการอย่างมากมาย จนอี้ชิงเบือนหน้าหลบสายตาคมนั้น คุณชายหนุ่มถอดอาภรณ์ของตนเองทีละชิ้นขณะที่ตาก็จ้องมองใบหน้าหวานที่เริ่มแดงระเรื่อแก้มของนางน่าจูบยิ่งนัก เมื่อกายล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามหนั่นแน่นไปทั้งตัวเปลือยเปล่าเขาก็เบียดต้นขาแข็งแกร่งนั้นแทรกผ่านเรียวขาขาวอวบทั้งสองข้างของนาง แล้วถูไถเสียดสีโหนกบุปผาไปมา แค่เพียงเท่านี้ก็ส่งผลให้อี้ชิงร้องครวญครางอย่างบ้าคลั่งแล้ว นางบิดกายไปมาเพราะความเสียวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ไม่ใช่การดิ้นรนหนีไปจากคนบนร่างอีกแล้ว ปากก็ร้องครวญครางด้วยเสียงหวาน มือหนาเลื่อนขึ้นไปกอบกุมทรวงอกอวบใหญ่ของนาง แล้วฟอนเฟ้นมันหนักเบาสลับกันไป จนทำให้อี้ชิงผวาร่างขึ้นอย่างวาบหวามเหลือเกิน นางหายใจสะดุด สะบัดร้อนสะบัดหนาว สมองก็ขาวโพลนไปหมด คิดสิ่งใดไม่ออกแล้ว เวลานี้สติของนางกระเจิดกระเจิงไม่น้อย สัมผัสที่ทำให้นางเสียวไปหมด จนลืมสิ้นทุกสิ่ง ความโกรธ ความน้อยเนื้อต่ำใจที่พวกเขาดูถูกว่านางต่ำต้อยไม่คู่ควรกับเขาจนนางไม่อยากจะกลับมาใช้ชีวิตกับเขาอีกแล้ว นั่นเพราะร่างกายของนางมันจดจำได้ว่า
อี้ชิงหน้าบึงตึ้งขึ้นทันที “ คุณชายหม่า ท่านมาขู่ข้าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ข้าไม่กลับไปกับท่าน ข้าไม่ใช่เม่ียของท่าน กลับไปเสีย และอย่ามาวุ่ยวายกับข้าอีก ” นางยังพยศเพราะเหมือนรู้สึกว่าเขามัดมือชกนาง และนางไม่แน่ใจว่าฮูหยินใหญ่จะยินยอมให้นางเป็นฮูหยินเพียงคนเดียวของเขา นางเกรงว่าจะต้องตกเป็นอนุของเขา หากนางยอมกลับไปกับเขาง่ายๆ “อี้ชิง หากเจ้าไม่กลับไปกับข้าแต่โดยดี ข้าจะมาที่นี่ทุกวัน มานั่งเฝ้าเจ้า หากมีชายอื่นมาเกี้ยวพาเจ้า ข้าก็จะป่าวประกาศว่าเจ้าเป็นเมียของข้า ที่คิดจะสวมหมวกเขียวให้ข้า ข้าก็อยากจะรู้ว่าจะมีใครอยากจะได้เจ้าไปเป็นเมียกัน เพราะเจ้ามันมีผัวเก่าตามติดเช่นนี้ ”เมื่อฮูหยินลู่ได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจยิ่ง หากคุณชายหม่ามานั่งเฝ้าอี้ชิงทุกวันจะต้องเกิดเรื่องแน่เพราะมักจะมีบุรุษมาเกี้ยวพาและสั่งอาหารนั่งกินเพื่อเกี้ยวอี้ชิงแทบจะทุกวัน มันจะต้องเกิดเรื่องทุกวันอย่างแน่นอน และยิ่งไปกว่านัั้นจะต้องเกิดข่าวลือที่ไม่ดีเกี่ยวกับบุตรสาวจะยิ่งอับอายไปกว่านี้ สู้ให้นางรีบกลับไปจวนหม่าแต่งเข้าจวนหม่าอย่างถูกต้องเสียดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะเกิดเรื่องฉาวโฉ่เล่าลือไปทั้งเมือง แล้วอี้ชิงจะหาสามี
คุณชายหม่าเฟยหลงเดินเข้าไปในตลาดอย่างมีความหวัง เขาจะต้องง้องอนนางกลับไปด้วยให้ได้ เขาห่างจากนางมาเกือบสองเดือนแล้ว คิดถึงนางเหลือเกินอยากจะนอนกอดนางจะแย่อยู่แล้ว เขาเดินไปเรื่อยๆลัดเลาะผ่านผู้คนจนมุ่งหน้ามาถึงหน้าร้านขายของเฟิ่งหมัน แล้วเขาก็มองหาร้านขายอาหารเล็กๆ แล้วเขาก็เห็นมัน อยู่เลยไปอีกสองคูหาเขาเดินมุ่งตรงไปเมื่อถึงหน้าร้านเขามองหาร่างอวบที่คุ้นเคย จนพบนางกำลังนั่งสนทนาก้บบุรุษผู้หนึ่งอยู่ บุรุษผู้นั้นดูคุ้นเคยเช่นกัน เขาเฝ้ามองเห็นทั้งสองพูดคุยกันอย่างยิ้มแย้ม ใบหน้าหล่อเหลาที่มีรอยยิ้มสว่างไสวเมื่อครู่กลายเป็นเรียบเฉย กรามแกร่งขบเข้าหากันแน่น มือหนากำแน่นอยู่ข้างลำตัว หนอย !! ไม่พบกันแค่เพียงสองเดือน คิดจะหาผัวใหม่เช่นนั้น หรือ ไม่มีทางอย่างเด็ดขาด ในเมื่อผัวเก่าอย่างข้าจะทำทุกวิถีทางให้เจ้ากลับไปอยู่กับข้าให้ได้ แล้วร่างหนาของคุณชายหม่าก็เดินเข้าไปร้านตรงไปที่โต๊ะกลมริมผนังที่อี้ชิงนั่งสนทนากับท่านหมอจงอยู่ “ ชิงเอ๋อ ผัวมารับเจ้ากลับจวนแล้ว ” อี้ชิงได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยนางจึงได้หันมามองอย่างรวดเร็ว รวมถึงท่านหมอจงก็พลอยหันมาจ้องมองด้วย “ คุณชายหม่า ท่านแข็งแรงดีมากแ
ยามเฉินวันต่อมา หย่งเอ๋อเดินถือถาดอาหารเช้าของคุณชายใหญ่เดินนำหน้าสาวใช้อีกผู้หนึ่งที่ยกถาดไม้อีกถาดตามมาเช่นกัน คุณชายใหญ่ต้องการอยู่เพียงผู้เดียวในช่วงนี้เพราะเขาต้องการพักผ่อน จึงยังไม่ได้ไปกินอาหารที่เรือนหลัก จึงสั่งให้ตั้งสำรับที่เรือนนี้จนกว่าเขาจะแข็งแรงมากกว่านี้จึงจะไปกินอาหารกับมารดาที่เรือนหลักเมื่อเปิดประตูเข้าไปพบว่าคุณชายหนุ่มนั่งรออยู่ที่โต๊ะกลมกลางห้องนั่นแล้ว หย่งเอ๋อและสาวใช้ที่เดินตามนางมาจึงได้รีบตั้งสำรับ สาวใช้นางนั้นเมื่อวางถาดไม้ลงบนโต๊ะแล้ว ก็หันไปจัดป้านน้ำชาที่ตั้งอยู่ริมห้อง ยกมาวางที่โต๊ะกลม หย่งเอ๋อจัดโต๊ะอาหารให้กับคุณชายใหญ่จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณชายหนุ่มก็เอ่ยว่า “ หย่งเอ๋ออยู่ที่นี่เพียงผู้เดียวก็พอแล้ว เจ้ากลับไปได้ อีกชั่วยามค่อยมาเก็บสำรับนี่ ” สาวใช้นางนั้นรับคำเบาๆแล้วเดินออกไปจากเรือนนั้นทันที “ หย่งเอ๋อเจ้าเล่ามาตามตรงไม่ต้องกลัวท่านแม่ ข้าต้องการรู้เรื่องของเมียของข้า ตั้งแต่นางเริ่มเข้ามาอยู่ที่เรือนนี้ ” หย่งเอ๋อชะงักไปครู่หนึ่ง จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของนายน้อย “ นายน้อยจำได้แล้วหรือเจ้าคะ ว่าเคยได้แต่งงานกับฮูหยินน้อยแล้ว ” เขาพยักหน้าให
คืนนั้นคุณชายหม่านอนอยู่บนเตียงหลังใหญ่นั้น ขณะที่เขาหลับสนิทอยู่นั้น ในฝันของเขามันชัดเจนยิ่งนักจนเหมือนจริงมาก ตัวของเขากำลังขย่มร่างอวบของหญิงผู้หนึ่งอยู่บนเตียงหลังนี้ เขายังจำความรู้สึกนั้นได้ ในฝันเขาก้มลงชิมน้ำหวานจากร่องอวบของนางจนเหือดแห้ง เขาดื่มมันอย่างเอร็ดอร่อยแล้วอยู่ ๆ เขาก็จับร่างอวบนั้นพลิกคว่ำลงฟูกนอนแล้วดึงบั้นท้ายอวบอั๋นของนางขึ้นให้มันลอยสูงพอที่เขาจะสอดท่อนเอ็นร้อนที่แข็งขึงไปหมดของเขาจ่อเข้ากับร่องอวบของนางจากทางด้านหลัง “ อ๊าาา อ๊าายท่านพี่เจ้าคะ สอดมันเข้ามา ได้โปรดเจ้าค่ะ เอาข้าเสียที เอาข้า เอาชิงเอ๋อ อ๊าา อ๊าา อ๊ายยย “ อี้ชิงแอ่นก้นงามงอนของนางส่ายไปมาเพื่อยั่วยวนเขาอย่างถึงที่สุด นางร่าน ร่านเหลือเกิน ” อี้ชิง หญิงร่าน หญิงแพศยา ร่านชายเช่นนี้ ถูกใจข้ายิ่งนัก ข้าจะเอาเจ้าแล้ว เอาเจ้าให้มิดด้าม เอาแรงๆ ให้เจ้าเดินไม่ได้เลยคอยดู “ ” อู๊ยยยย อูยยย ท่านพี่เจ้าคะ ท่านพี่ อ๊าา อูยยยย อูยย “ ” โอ้ววว โอ้ววว แน่นมาก แน่นมากเมียรัก เสียว เสียวเหลือเกิน โอ้ววว โอ้วววว “ คุณชายหนุ่มแทงท่อนเอ็นแข็งขึงของเขาเข้าไปจนมิดด้าม และแช่เอาไว้เพียงครู่ แล้วค่อย ๆ ขยับบั
หลายวันต่อมาอี้ชิงไปหาห้องแถวให้เช่าแถวตลาดเพื่อเปิดร้านอาหารเล็กๆโดยมีมารดาและนางเท่านั้นที่ช่วยกันทำงาน อาจจะมีบางวันที่น้องชายและน้องสาวมาช่วยยกอาหารไปส่งให้ลูกค้าตามโต๊ะต่าง อี้ชิงเปลี่ยนตัวเองใหม่ นางซื้อหาอาภรณ์ที่งดงามที่แต่งกายให้สดชื่นและแต่งเติมใบหน้าและประดับเรือนผมให้งดงามดังเช่นคุณหนูในห้องหอ เพราะนางอยากจะเปลี่ยนตนเองให้สดชื่น ให้งดงามให้สดใสเพื่อวันหนึ่งนางจะลืมความรักครั้งเก่า ความรักที่ไม่มีวันที่จะเป็นจริงได้ ร้านอาหารเล็กๆของครอบครัวลู่ที่มีอี้ชิงกับมารดาช่วยกันทำก็มีลูกค้ามาอุดหนุดอย่างคับคั่ง บุรุษบางคนก็มาเพื่อจะเกี้ยวแม่ค้าคนงามที่ยืนอยู่ที่โต๊ะบัญชีและออกมารับแขกพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับลูกค้า อี้ชิงก็ไม่แสดงท่าทีรังเกียจบุรุษคนใดนางพูดคุยกับพวกเขาอย่างเป็นกันเองเพราะนางกลัวว่าจะเสียลูกค้า และพวกเขาก็ไม่ได้มีท่าทางเป็นอันตรายหรือคุกคามนาง เพียงพูดคุยเกี้ยวพานางตามประสาบุรุษเพียงเท่านั้น อี้ชิงจึงยิ้มหวานรับทุกๆคน อย่างชื่นบาน นางหวังอยากให้ร้านค้าของนางอยู่รอดและเจริญเติบโตพอจะเลี้ยงชีพทั้งนางและมารดาได้ นางไม่อยากให้มารดาต้องมาหลังขดหลังแข็งปลูกผักและเลี้ย
บัดนี้การแต่งงานจอมปลอมของนางกับเขาสิ้นสุดลงแล้ว แม้นางจะรู้ว่าการแต่งงานนั้นอาจจะจอมปลอม แต่ความรักที่นางมีให้เขานั้นมันจริง มันแท้จริงจนบัดนี้กลางอกของนางเจ็บไปหมด อี้ชิงปล่อยน้ำตาให้ไหลรินลงมา แล้วทรุดนั่งลงหน้าตู้เสื้อผ้าในห้องนอน แล้วร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดนางไม่ห้ามตนเองเอาไว้อีกแล้ว นางขอร้องไห้ให้กับความรักช่วงสั้นๆระหว่างนางกับคุณชายผู้สูงศักดิ์ที่นางเองก็รู้หากเขาไม่ได้กลายเป็นเพียงวิญญาณที่ไม่มีใครปรารถนา เขาก็คงไม่มีทางได้แต่งงานและขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของนาง และนางเองก็คงไม่มีโอกาสมาใช้้ชีวิตดังเช่นฮูหยินของเขา เมื่อร้องไห้จนสาแก่ใจแล้ว อี้ชิงทรงตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปที่อ่างเคลือบใบใหญ่ที่มีเหยือกที่ใส่น้ำเอาไว้วางอยู่กลางอ่างนั้น นางเทน้ำจากเหยือกนั้นแล้วล้างหน้าของตนเอง แล้วเดินไปที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งหยิบแป้งมาผัดหน้าบางๆเพื่อไม่ให้ใครเห็นร่องรอยที่ผ่านการร้องไห้อย่างหนักของนาง นางเติมปากอวบอิ่มให้มีสีสัน แล้วเปิดลิ้นชักหยิบกล่องเครื่องประดับที่ฮูหยินเคยให้นางเป็นรางวัลรวบรวมมันใส่ห่อผ้าที่นางค้นหามาได้ เก็บเครื่องประทินผิวทั้งหมดไป เพราะคงไม่มีใครอยากจะใช้ของเหลือจา
หลังจากนั้นหลายวันต่อมานางก็ปรนนิบัติสามีด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และพยายามทำตัวปกติให้มากที่สุด เพราะนางเองก็อยากจะใช้เวลาที่เหลือไม่มากแล้วปรนนิบัติเขาอย่างดีที่สุด รักเขาให้มากที่สุด ใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างมีความสุขกับเขาด้วยใบหน้าเหมือนมีความสุขมากมาย ทั้ง ๆ ที่ในหัวใจของนางเจ็บปวดไม่น้อย ที่อีกไม่นานชีวิตรักที่เหมือนดังฝันไปของพวกเขาก็คงจะจบลงใกล้เวลาอาหารกลางวันของสามวันต่อมา “ คุณชายใหญ่หายแล้วเจ้าค่ะ เห็นว่าฟื้นได้สักพักใหญ่แล้ว ตอนนี้นั่งพักที่ในห้องโถงหน้าเรือนหลักเจ้าค่ะ มีคนมาเยี่ยมหลายคนเลย ” หย่งเอ๋อบอกกับฮูหยินน้อยเมื่อนางยกสำรับกลางวันมาให้ มิน่าเล่านางได้ยินเสียงดังมากจากที่เรือนหลักบ่าวไพร่ไชโยโห่ร้องกันเสียงดังด้วยความดีใจ อี้ชิงรีบวิ่งไปที่เรือนหลักอย่างสุดฝีเท้า โดยไม่รอหลังกินอาหารกลางวันก่อน นางอยากจะพบหน้าเขา อยากให้เขาเห็นนางเมื่อเขาฟื้นขึ้นมาเขาคงจะดีใจที่เห็นหน้านาง แต่เมื่ออี้ชิงวิ่งไปถึงเรือนหลัก นางรีบเข้าไปที่ห้องโถงหน้าเรือน เห็นมีคนหลายๆคนนั่งอยู่ในนั้น ขณะที่นางกำลังรีรอว่าควรจะเข้าไปดีหรือไม่ คุณชายใหญ่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ริมผนังเพราะเขาอย