หลินชิงชิงนักศึกษาสาว หลังเธอประสบอุบัติเหตุทำให้เธอทะลุมิติมาในนิยายที่เธออ่าน เธอมาอยู่ในร่างนางร้าย ไปๆมาๆทำไมพระเอกถึงได้มาติดหนึบเธอแถมเธอยังโดนนางเอกหมายหัว แล้วเธอจะเอาชีวิตรอดในยุคนียังไง
ดูเพิ่มเติมเมื่อออกมาจากสถานีตำรวจ หลินชิงชิงตัดสินใจไปยังตลาดมืดเพื่อรับตลับไม้หอมที่สั่งทำไว้ แม้จะรู้ดีถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เธอซื้อผ้าคลุมหน้าเพื่อปกปิดตัวตนก่อนจะก้าวเข้าสู่โลกแห่งเงามืดนั้นตลาดมืดแห่งนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ทั้งพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าต่างก็มาชุมนุมกันที่นี่เพื่อซื้อขายสินค้าที่ผิดกฎหมาย หลินชิงชิงพยายามไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เธอเดินตรงไปยังร้านขายกล่องไม้ที่อยู่ด้านในสุดของตลาด"เถ้าแก่ กล่องไม้แกะสลักที่ฉันสั่งเมื่อเช้าเสร็จหรือยังคะ?" เธอถามด้วยน้ำเสียงสุภาพเถ้าแก่หลี่เงยหน้าขึ้นมองเธอ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความระแวดระวัง เขาพยักหน้าเล็กน้อยแล้วหยิบกล่องไม้ใบหนึ่งออกมาจากใต้โต๊ะ"ได้แล้ว ได้แล้ว" เขาตอบพลางยื่นกล่องไม้แกะสลักคำว่า "ฮวาเหม่ยเหริน" ให้เธอหลินชิงชิงรับกล่องไม้มาถือไว้ในมือ เธอลูบไล้ลวดลายที่แกะสลักดอกไม้อย่างประณีตบรรจง รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของเธอภายใต้ผ้าคลุม"สวยงามมากค่ะ ขอบคุณมากนะคะเถ้าแก่" เธอเอ่ยชม"ถ้าฉันต้องการกล่องแกะสลักแบบนี้เพิ่ม ต้องไปสั่งที่ไหนคะ?" หลินชิงชิงเอ่ยถามต่อเถ้าแก่ร้านยิ้มกว้าง "ถ้าอยากได้งานดี ๆ แบบนี้ แม่หนูต้องไปที่ "ไปที่ร้านรับ
หลินชิงชิงมองร่างของหลี่เหว่ยที่นอนแน่นิ่งอยู่ข้างกายด้วยความกังวล เธอเขย่าตัวเขาเบาๆ แต่เขาไม่มีท่าทีตอบสนอง"พี่เหว่ย... พี่เหว่ย" เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือหัวใจของหลินชิงชิงเต้นระรัว เธอรีบพยุงร่างชายหนุ่มขึ้นมาอย่างทุลักทุเล หลี่เหว่ยตัวสูงใหญ่กว่าเธอมาก แต่ด้วยความที่เธอมีร่างกายแข็งแรงจากการดื่มน้ำวิเศษเข้าไป หญิงสาวจึงสามารถพยุงเขาออกจากตรอกเปลี่ยว นั้นได้ทันทีที่พ้นจากซอย เธอเห็นกลุ่มชาวบ้านที่กำลังจับกลุ่มคุยกันอยู่ หลินชิงชิงรีบเข้าไปขอความช่วยเหลือ"ทุกคนค่ะ ช่วยฉันด้วย" เธอตะโกนเสียงดังพวกชาวบ้านต่างหันมามองเธอด้วยความตกใจ พวกเขาเห็นหลินชิงชิงพยุงร่างของหลี่เหว่ยอยู่ จึงรีบเข้ามาสอบถาม"เกิดอะไรขึ้นหรือนังหนู?" ชายวัยกลางคนคนหนึ่งถาม"พอดีเมื่อกี้มีกลุ่มอันธพาล 5-6 อยู่ๆ ก็เข้าทำร้ายพวกเราค่ะ แต่โชคดีที่มีพลเมืองดีมาช่วยขับไล่พวกมันไม่ได้" หลินชิงชิงแสร้งตอบเสียงสั่น "ตอนนี้คนรู้จักของฉันเขาโดนพวกอันธพาลจัดการ เขาเลยหมดสติไปนะคะ"พวกชาวบ้านต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ "ไอ้พวกอันธพาลพวกนั้นมันคงเป็นลูกน้องของต้าเหนิง" ชายชราคนหนึ่งพูดขึ้น "มันคุมแถวนี้ ใครๆ ก็รู้"หลิ
หวังอ้ายหลิน กำลังเดินตามหลัง หลี่เหว่ย และ หลินชิงชิง ไปยังตลาดมืด แม้จะเป็นเพียงตรอกเล็กๆ แต่กลับคึกคักไปด้วยผู้คนและสินค้ามากมายหวังอ้ายหลินรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ไม่ใช่เพราะอากาศ แต่เป็นเพราะความโกรธที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในใจ เธอเห็นหลี่เหว่ย ดูแลหลินชิงชิงเป็นอย่างดี คอยประคองเธอหลบหลีกผู้คน พูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม ภาพเหล่านั้นทิ่มแทงหัวใจของหวังอ้ายหลินราวกับเข็มนับพันเล่มร่างบางกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ ความร้อนในอกแผดเผาจนแทบจะเป็นไฟ ใบหน้าสวยหวานบิดเบี้ยวด้วยแรงริษยา สายตาคมดุจเหยี่ยวจ้องมองหลี่เหว่ยและหลินชิงชิงราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ"นังชิงชิง! แค่เด็กสาวบ้านนอกหน้าตาจืดชืด มีดีแค่ความใสซื่อ กล้าดียังไงมาแย่งคุณชายหลี่ไปจากฉัน" หวังอ้ายหลินกัดฟันกรอดหลี่เหว่ย... ชายหนุ่มรูปงามผู้เพียบพร้อม บุตรชายคนเดียวของนายทหารใหญ่แห่งเมืองหลวง พ่อของเขาเป็นมือขวาทำงานให้ท่านผู้นำสูงสุดในฝ่ายรัฐบาล เขาคือเป้าหมายสูงสุดที่หวังอ้ายหลินหมายมั่นปั้นมือ ตั้งแต่แรกพบที่งานเลี้ยงตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง หวังอ้ายหลินก็ตกหลุมรักหลี่เหว่ยทันที ทั้งรูปลักษณ์ ชาติตระกูล และกิ
เมื่อมาถึงลานหน้าหมู่บ้าน หลินชิงชิงพบว่ามีชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังรอรถเกวียนวัวอยู่เช่นกัน ท่ามกลางกลุ่มคนนั้น เธอเห็นคุณพระเอกอยู่ในกลุ่มคนพวกนั้นขณะที่เธอคิดจะเอ่ยทักทายชายหนุ่มตามมารยาท ก็มีหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในลานหน้าหมู่บ้าน เธอส่งยิ้มหวานให้หลี่เหว่ย ก่อนจะเอ่ยถาม"สหายหลี่ จะเข้าไปในเมืองเหรอคะ""ใช่แล้วครับ ผมจะเข้าไปซื้อของใช้ในตัวเมืองครับ สหายหวัง" หลี่เหว่ยตอบกลับมาเมื่อหลินชิงชิงได้ยินชื่อ 'สหายหวัง' เธอถึงกับหูผึ่งขึ้นทันที นี่คงจะเป็นหวังอ้ายหลิน นางเอกในนิยายสินะ เธอจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ หวังอ้ายหลินเป็นหญิงสาวที่งดงาม หุ่นบาง ร่างเล็ก ใบหน้าสวยหวาน แต่ถึงกระนั้น หลินชิงชิงก็ยังมั่นใจว่า หวังอ้ายหลินยังสวยสู้เธอไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เธอดื่มน้ำวิเศษเข้าไป ตอนนี้ใบหน้าของเธอเปล่งประกายงดงามยิ่งกว่าใคร ๆ"สหายหลี่ ช่างบังเอิญจริง ๆ ฉันก็กำลังจะเข้าไปซื้อของในเมืองเหมือนกันค่ะ โชคดีที่ได้เจอสหายหลี่เข้าซะก่อน หวังว่าสหายหลี่จะไม่รังเกียจที่ฉันจะไปด้วยนะคะ"หวังอ้ายหลินกล่าว ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้หลี่เหว่ย หวังว่าเขาจ
หลังจากเขาขายเนื้อหมูเสร็จ หลินเจิ้งเทียนแบกเนื้อหมูส่วนที่เหลือไว้บนบ่ามุ่งหน้าไปยังบ้านของหมอหลี่ หมอเดินเท้าประจำหมู่บ้าน ผู้เปรียบเสมือนที่พึ่งพิงยามเจ็บไข้ได้ป่วยของชาวบ้านทุกคน"หมอหลี่ครับ หมอหลี่" หลินเจิ้งเทียนตะโกนเรียกเสียงดังเมื่อมาถึงหน้าบ้านไม่นานนัก ประตูบ้านก็เปิดออก เขาเห็นหลี่เหว่ยถูกหมอหลี่รักษาบาดแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว"อ้าว เจิ้งเทียน มาได้จังหวะพอดีเลย ลุงรักษาพ่อหนุ่มยุวชนปัญญาเสร็จพอดี เด็กคนนี้ถูกลูกสาวของเจ้ารักษามาก่อนหน้านี้แล้วตอนนี้แผลไม่เป็นอะไรมาก เลือดของเขาหยุดไหลไปแล้ว" หมอหลี่กล่าวพร้อมกับผายมือเชื้อเชิญให้หลินเจิ้งเทียน เข้าไปในบ้านหลินเจิ้งเทียน เขาขมวดคิ้วสงสัย "ชิงชิงไปรักษาให้เด็กคนนี้ได้อย่างไร?" ลูกสาวของเขา เป็นเพียงเด็กสาววัย 16 ปี เธอไม่เคยเรียนรู้การแพทย์แผนโบราณมาก่อนเขาเดินตามหมอหลี่เข้าไปในบ้าน พบเด็กหนุ่มนอนอยู่บนเตียงไม้ไผ่ ใบหน้าซีดเซียว แต่ดวงตาของเขาแสดงถึงความเฉลียวฉลาด เด็กหนุ่มคนนี้เป็นยุวชนปัญญาที่จากเมืองหลวง เขาถูกส่งมาทำงานในชนบท แต่เนื่องจากความฉลาดของเขาทำให้สามารถสอบเข้ามาเป็นคุณครูที่โรงเรียนประถมในหมู่บ้านหลงเหมินได้
ในระหว่างที่เธอกำลังจะขนหมูป่าลงจากภูเขา หลินชิงชิงบังเอิญพบพ่อกับแม่ของเธอกำลังเดินกลับมาถึงบ้านพอดี เมื่อพวกเขารู้เรื่องหมูป่า ทั้งสองต่างถามเธอด้วยความเป็นห่วงเป็นใย"ชิงชิง ลูกปลอดภัยดีไหม?" หวังจื้อเหยาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือหลินชิงชิงยิ้มให้แม่เพื่อคลายความกังวล "หนูปลอดภัยดีค่ะแม่ ตอนที่หนูเข้าไปช่วยเหลือสหายหลี่ หมูป่าก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้วค่ะ หนูยิงมันไปทีเดียวมันก็ตายแล้วค่ะ" เธออธิบายให้คนเป็นแม่ฟังหลินเจิ้งเทียน พ่อของเธอขมวดคิ้วด้วยความเป็นห่วง "คราวหลังหนูเจอหมูป่า ให้รีบวิ่งหนีไปให้ไกลเลยนะ อย่าเสี่ยงชีวิตอีก"หลินชิงชิงพยักหน้ารับคำ "ค่ะพ่อ หนูจะระวังตัวให้มากขึ้นค่ะ" เธอรับปากพ่อของเธอทันทีก่อนจะเอ่ย"พ่อคะ เดี๋ยวพ่อช่วยลุงหวังขนหมูป่ากลับบ้านนะคะ หนูขอไปดูสหายหลี่ก่อนนะคะว่าเป็นยังไงบ้าง"เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอเห็นชายหนุ่มยังคงรอเธออยู่ที่เดิม คนร่างสูงลุกขึ้นยืนทันทีเมื่อเห็นร่างของเด็กสาวเข้ามาใกล้ๆ "เหนื่อยไหมครับ สหายหลิน?" เขาถามด้วยความเป็นห่วง"เหนื่อยมากค่ะ" หลินชิงชิงตอบรับด้วยรอยยิ้มกว้าง "หมูตัวนี้หนักไม่ใช่เล่น แต่ละคนถึงกับลิ้นห้อยเลยค่ะ
"สหายหลิน คุณมาที่นี่ทำไมเหรอครับ?" หลี่เหว่ยเอ่ยถามด้วยความสงสัยใคร่รู้ เขาอยากจะทำความรู้จักเธอให้มากขึ้นกว่านี้หลินชิงชิงคลี่ยิ้มบางๆ ให้กับคุณพระเอก "ฉันมาเก็บสมุนไพรค่ะ เพื่อนำไปขายที่ตลาดมืด" เธอตอบชายหนุ่มไปตามตรงเพราะเธอรู้จักนิสัยพระเอกธงเขียวคนนี้ดี ถ้าเขาได้รับความช่วยเหลือจากใครเขาจะตอบแทนบุญคุณอย่างแน่นอนหลี่เหว่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย "ตลาดมืด?" เขาทำเสียงทุ้มต่ำลง "มันค่อนข้างจะอันตรายมากเลยนะครับ"ดวงตาของหลินชิงชิงเป็นประกาย "ฉันรู้ค่ะ" เธอกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน "แต่ฉันไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้ครอบครัวของฉันแยกออกมาจากตระกูลหลิน ทำให้พวกเรามีเงินเหลืออยู่ในมือไม่เยอะมาก ถ้าได้สมุนไพรราคาแพงมา จะทำให้ครอบครัวของพวกเราสามารถลืมตาอ้าปากได้ค่ะ"หลี่เหว่ยรู้สึกทึ่งในตัวของหญิงสาว เธอช่างเป็นเด็กกตัญญูเสียจริงๆ เหมาะสำหรับการเป็นภรรยาของเขาแม้ในใจเขาจะคิดเช่นนั้น แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยคำนี้ออกไป รอให้เขาจีบเด็กสาวได้สำเร็จเมื่อไหร่เขาจะขอเธอแต่งงานทันที"สหายหลินก็ระวังตัวด้วยนะครับ" เขาพูดอย่างเป็นห่วง "ถ้ามีอะไรให้ผมช่วย บอกผมได้เลย"หลินชิงชิงยิ้มกว้างในความห่วงใยของคุณพระเอก "
หลินชิงชิงจัดเตรียมตะกร้าสะพายหลังให้เรียบร้อย เธอตรวจดูให้แน่ใจว่ามีมีดเล็ก ขวดน้ำ และถุงผ้าสำหรับใส่ของป่าอยู่ในนั้นครบถ้วนแล้ว เธอสูดหายใจเข้าลึก เตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัยในวันนี้"ชิงชิง หนูพร้อมหรือยัง?" เสียงของหวังจื้อเหยา ดังมาจากหน้าบ้าน"พร้อมแล้วค่ะแม่" หลินชิงชิงตอบรับเสียงใส ก่อนจะวิ่งออกไปสมทบกับครอบครัวพ่อของเธอแบกขวานคู่ใจไว้บนบ่า ส่วนแม่ของเธออุ้มตะกร้าสานใบใหญ่สำหรับใส่ของป่า หลินเสี่ยวหลงน้องชายของเธอวิ่งตามมาติดๆ มือเล็กๆ กำเชือกไว้แน่น เตรียมพร้อมสำหรับการผูกมัดฟืนที่พวกเขาจะเก็บได้"วันนี้พวกเราจะไปหาของป่ากันที่ไหนหรือคะ?" หลินชิงชิงถามพ่อของเธอ"พ่อว่าจะไปที่เนินเขาด้านตะวันออก วันนี้พ่อกับแม่จะเข้าไปหาไม้เนื้อแข็งในป่าลึก ส่วนหนูกับเสี่ยวหลงไปหาของป่าแถวชายป่าแถวนี้ก็พอ" พ่อของเธออธิบายหลินชิงชิงพยักหน้ารับ "เข้าใจแล้วค่ะพ่อ" ก่อนจะมองไปที่น้องชาย "เสี่ยวหลง วันนี้พวกเราต้องช่วยกันหาของป่าให้ได้เยอะๆ นะ""ได้เลยครับพี่สาว!" หลินเสี่ยวหลงตอบรับด้วยดวงตาเป็นประกายครอบครัวบ้านสามต่างก็เดินไปตามทางเล็กๆ ที่ทอดผ่านทุ่งนาสีเขียวขจี กลิ่นดินและหญ้าสดชื่นโชยมาตามล
ตอนนี้ใกล้จะถึงยามเย็นแล้ว หลินชิงชิงเงยหน้ามองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย เธอยังคงรู้สึกมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ แต่ตอนนี้ เธอเริ่มทำใจยอมรับความจริงได้แล้วว่าเธอได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในนิยายที่เธอเคยอ่าน ในขณะที่เธอเหม่อลอยครุ่นคิดเรื่องมิติที่เธอได้มาไม่นานนัก พ่อ แม่ และน้องชายของเธอก็กลับมาจากป่า เสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยทำให้เธอรู้สึกดีใจ เธอรีบลุกขึ้นไปต้อนรับพวกเขา"ทุกคนเข้าไปในป่ากันมาเหรอคะ" เธอถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น"ใช่แล้วละ" หลินเจิ้งเทียน ตอบพลางยกตะกร้าขึ้นโชว์ "พ่อได้ปลากับผักป่ามาด้วย แล้วก็มีใบจากสำหรับนำมาซ่อมแซมหลังคาบ้านของเรา" หลินเจิ้งเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ"พ่อเก่งที่สุดเลยค่ะ" เธอเอ่ยพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้คนเป็นพ่อ"เดี๋ยวแม่ไปทำกับข้าวก่อนนะลูก ชิงชิงหนูหิวหรือยัง" หวังจื้อเหยาเอ่ยถามลูกสาวด้วยความห่วงใย"หนูยังไม่หิวค่ะ" หลินชิงชิงตอบ "พอดีหนูกินผลไม้ป่าที่หนูเก็บมาก่อนที่จะเกิดเรื่องวันนี้มาแล้วค่ะ"" ตอนนี้หนูยังไม่ค่อยหายดี หนูไปนั่งพักก่อนเถอะ" หวังจื้อเหยาเอ่ยกับลูกสาว"ไม่เป็นไรค่ะแม่ ตอนนี้อาการหนูดีมากขึ้นแล้วหลังจากนอนพักผ่อนไปค่
แสงแดดอ่อนๆ ยามบ่ายส่องลอดผ่านหน้าต่างห้องสมุดเล็กๆ ในมหาวิทยาลัยชื่อดัง หลินชิงชิงกำลังอ่านอย่างตั้งอกตั้งใจ ตัวอักษรแต่ละตัวดูเหมือนมีชีวิตชีวาขึ้นมาในสายตาของเธอ พาเธอเข้าไปสู่โลกแห่งจินตนาการที่เธอหลงใหลข้างๆ เธอ จ้าวเหม่ยหลิง เพื่อนสนิท กำลังคร่ำเคร่งกับตำราเรียน เตรียมตัวสำหรับการสอบที่กำลังจะมาถึง แต่หลินชิงชิงกลับจมอยู่ในโลกของนิยาย"ชิงชิง! จะสอบอีกไม่กี่วันแล้วนะ เธออ่านหนังสือถึงไหนแล้วเนี่ย" เสียงจ้าวเหม่ยหลิง เพื่อนสนิทของหลินชิงชิงดังขึ้น ทำให้เธอหลุดออกจากโลกแห่งนิยายที่กำลังดำดิ่งอยู่หลินชิงชิงถอนหายใจ เธอเงยหน้าจากนิยายเล่มโปรดมองเพื่อนสนิทที่กำลังคร่ำเคร่งกับตำราเรียนตรงหน้า เธอรู้ดีว่าจ้าวเหม่ยหลิงเป็นห่วง แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเบื่อหน่ายกับการอ่านหนังสือสอบ"ฉันอ่านไปบ้างแล้วล่ะน่า" เธอตอบปัดๆจ้าวเหม่ยหลิงส่ายหัวอย่างระอาใจ เธอรู้ดีว่าเพื่อนของเธอคนนี้เป็นคนหัวดีมีความสามารถ แต่ก็ขี้เกียจเป็นที่หนึ่ง แถมยังชอบเพ้อฝัน ชอบจินตนาการว่าตัวเองเป็นนางเอกในนิยาย จนบางครั้งก็แยกโลกแห่งความจริงกับโลกในนิยายไม่ออก"ชิงชิง เธอรู้ไหมว่าทำไมเธอยังไม่มีแฟนสักที" จ้าวเหม่...
ความคิดเห็น