20นาทีผ่าน
“คุณยังไม่หายคลื่นไส้อีกเหรอ” พีรพัตรเดินสำรวจห้องครัวของหญิงสาวเรียบร้อยแล้วก็ออกมานั่งที่ห้องนั่งเล่นเมื่อตอนเดินกลับมาเขาเองยังได้ยินเสียงของหญิงสาวอาเจียนยังไม่ยอมหยุดเขาเองอยากจะไปดูอาการเธอใกล้ๆแต่ก็กลัวเมื่อเข้าไปใกล้หญิงสาวแล้วอาการของเธอจะหนักขึ้นกว่าเดิมจึงได้แต่ตะโกนถามเธอแต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรได้ยินแต่เสียงอาเจียนที่ดังออกมาเท่านั้น
เขานั่งเล่นที่ห้องนั่งเล่นของเธอสักพักหมอก็มาถึงเมื่อหมอเข้ามาเขาก็เดินพาหมอมาดูอาการของลูกแก้วที่กำลังเป็นตอนนี้ทันที
“ช่วยตรวจเธอให้ละเอียดเลยนะครับหมอผมว่าอาการเธอน่าจะหนักอยู่ครับ” หมอและพยาบาลมาประคองลูกแก้วไปนอนที่เตียงและตรวจอาการของเธออย่างละเอียดอีกครั้งหญิงสาวไม่ให้ชายหนุ่มเข้าใกล้หมอเลยให้ชายหนุ่มรออยู่ด้านนอกเพราะยิ่งชายหนุ่มเข้าใกล้เธอยิ่งทำให้อาการของเธอกำเริบขึ้นมาอีก
“ยาที่ผมให้ไว้ยังทานอยู่ไหมครับคุณลูกแก้ว”
“ทานอยู่ค่ะแต่ก็ใกล้จะหมดแล้วค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวหมอให้ยาเพิ่มไว้นะครับ”
“ค่ะ”
“ยังไงช่วงนี้ก็ทานผักผลไม้เยอะๆนะครับ..ถ้าไม่มีอะไรแล้วเดี๋ยวหมอกลับก่อนนะครับ”
“ขอบคุณค่ะหมอ”
ลูกแก้วรู้ดีว่าเมื่อหมอออกไปชายหนุ่มก็คงจะถามถึงอาการที่เธอเป็นอยู่ดีตอนนี้แน่นอนเธอยังไม่รู้เลยว่าจะตอบคำถามเขายังไงและสภาพจิตใจเธอก็เหมือนจะยังไม่พร้อมคุยเรื่องนี้กับเขาตอนนี้ด้วย
“ตรวจเสร็จแล้วเหรอครับตกลงเธอเป็นอะไรครับคุณหมอ” เมื่อหมอเดินออกจากห้องของหญิงสาวพีรพัตรก็รีบเดินปรี่เข้าไปหาหมอพร้อมถามอาการของเธอทันที
“มันเป็นอาการปกติของคนแพ้ท้องน่ะครับ”
“หืม...แพ้ท้อง” ชายหนุ่มได้ยินคำว่าแพ้ท้องเขาถึงกับใจเต้นรัวหันมองหน้าหมอด้วยสีหน้าตกใจและเกิดคำถามในหัวมามากมายทันที
“ใช่ครับคุณลูกแก้วเธอพึ่งไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี้เองครับเธอตั้งครรภ์ได้12สัปดาห์แล้วครับ”
“12 สัปดาห์เหรอ” เขาสบถเบาๆคิดถึงเรื่องของเขาละเธอคืนนั้นก่อนจะยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวเขารู้สึกยินดีกับเรื่องที่พึ่งได้ยินอย่างมากแต่ก็แอบคิดว่าทำไมหญิงสาวรู้ว่าตัวเองท้องกับเขาแต่ไม่ยอมบอกเขาสักคำเรื่องที่เธอชอบหลบหน้าเขายังไม่เท่าไรแต่เรื่องที่ท้องลูกของเขาแล้วไม่ยอมบอกอีกเรื่องนี้ยังไงเขาก็ไม่ยอมเธอแน่นอน
“อ่อ...คุณคงเป็นสามีของเธอใช่ไหมครับอาการที่คุณเข้าใกล้เธอแล้วเธอคลื่นไส้มันเป็นอาการของคนท้องบางเคสเท่านั้นครับเดี๋ยวพอตั้งครรภ์ได้สักสี่ห้าเดือนอาการคงจะดีขึ้นระหว่างนี้คุณก็ต้องทำใจหน่อยนะครับหมอขอตัวกลับก่อนนะครับ”
“ครับ..ขอบคุณมากครับคุณหมอ” หลังจากพีรพัตรส่งหมอที่หน้าประตูเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในห้องนอนของหญิงสาวหวังว่าจะเคลียให้รู้เรื่อง
หญิงสาวที่นั่งกุมมือตัวเองแน่นเธอทำใจไว้แล้วว่ายังไงชายหนุ่มก็ต้องเข้ามาคุยเรื่องนี้กับเธอแน่นอนแต่ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะคุยเรื่องนี้กับเขาเพราะจิตใจเธออ่อนแอเหลือเกิน
“คุณท้องแล้วทำไมไม่บอกผมคุณก็เจอหน้าผมทุกวันแต่ก็ยังไม่คิดจะบอก..ลูกผมจะเกิดมาทั้งคนนะคุณถ้าผมไม่ตามหมอมาดูอาการคุณผมก็คงยังไม่รู้สินะว่าคุณกำลังอุ้มท้องลูกของผมอยู่” ชายหนุ่มร่ายยาวนึกน้อยใจหญิงสาวที่แม้แต่จะหลบหน้าเขาแล้วเรื่องที่เธออุ้มท้องลูกของเขาอยู่เธอก็ยังไม่คิดจะบอกเขาสักคำทั้งที่เจอหน้ากันแทบทุกวันไม่รู้ว่าเธอจะเย็นชาใส่เขาอีกนานแค่ไหน
“คือ..ก.แก้ว” ตอนนี้ลูแก้วพูดอะไรไม่ออกรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรติดอยู่ที่คอน้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลออกมาอย่างพรั่งพรูเธอไม่รู้ว่าเธอจะเริ่มต้นพูดเรื่องนี้กับเขาอย่างไรดี..ใช่..เรื่องนี้เธอผิดที่ไม่คิดจะบอกเขาแต่เธอไม่อยากให้เขามารับผิดชอบลูกในท้องเธอเพราะเป็นแค่หน้าที่เท่านั้นเธอเองต้องการมากกว่านั้นแต่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้และคงจะไม่ได้ยินคำนั้นจากปากชายหนุ่มแน่ๆ
“ในเมื่อคุณพรีมรู้แล้วแล้วคุณพรีมจะทำยังไงต่อ” มือเรียวยกปาดน้ำตาลวกๆรวบรวมความกล้าถามชายหนุ่มออกไปเธอก็อยากรู้เหมือนกันในเมื่อเขารู้ความจริงแล้วเขาจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้ต่อ
“คุณก็ต้องแต่งงานกับผมสิ....อืม..จดทะเบียนด้วยแล้ว..คุณ....ก็ต้องย้ายมาอยู่กับผม” หลังจากชายหนุ่มได้ยินที่หญิงสาวถามเขารู้สึกว่าตอนนี้แหละที่เขาจะอาศัยจังหวะรวบหัวรวบหางเธออย่างที่เธอปฏิเสธเขาไม่ได้คำถามเธอนี่มันเข้าทางเขาจริงๆ
“ถ้าคุณพรีมแค่…ฮือๆๆแค่…รู้สึกผิดเลยอยากจะรับผิดช..ชอบ..คุณพรีมไม่ต้องแต่งงานจดทะเบียนกับแก้วก็ได้ค่ะไม่ต้องกลัวว่าแก้วจะไม่ให้คุณยุ่ง..กับลูก..เราสามคนจะอยู่กันเป็นพ่อแม่ลูกแต่เราจะไม่เป็นสามีภรรยากันคุณพรีมจะได้ไม่ต้องลำบากใจเพราะคุณพรีมก็ไม่ได้รัก…ก..แก้วอยู่แล้วฮืออๆๆ” หญิงสาวพูดไปด้วยสะอึกสะอื้นมือไม้ปาดน้ำตาไปด้วยไปด้วยไม่รู้ว่าหมู่นี้ทำไมอารมณ์เธออ่อนไหวง่ายเหลือเกินยิ่งพยายามข่มตัวเองไม่ให้ร้องแต่มันก็เหมือนจะยิ่งหนักกว่าเดิมเธอไม่เข้าใจอารมณ์ตัวเองจริงๆ
“เฮ้อ..” พีรพัตรถอนหายใจออกมายาวๆนี่เธอดูไม่ออกเลยหรือยังไงตลอดเวลาที่ผ่านมาเขารู้สึกยังไงกับเธอถ้าเขาไม่รักไม่สนจะคอยตามเธออยู่แบบนี้ทำไมจะยอมเสียฟอร์มตามเธอทั้งๆที่เธอเมินเขาเป็นล้านรอบแบบนี้ทำไม
แล้วดูคำพูดที่เธอพูดนั่นอีกเขาไม่ลำบากใจที่จะรับผิดชอบเธอเลยสักนิดอยากจะแต่งงานกับเธอใจจะขาดด้วยซ้ำแต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่มีปัญหากันเธอเอาแต่หลบหน้าเขาตลอดจนไม่มีช่องว่างให้เขาได้ปรับความเข้าใจกับเธอเลยต่างหาก
“พอเลยคุณผมไม่เคยลำบากใจที่จะรับผิดชอบตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณยังดูไม่ออกอีกเหรอว่าผมคิดยังไงกับคุณ” ชายหนุ่มยืนพูดอยู่ที่ปลายเตียงของหญิงสาวไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้เธอเพราะกลัวเธอจะอาเจียนออกมาอีกทั้งที่ในใจอยากเข้าไปกอดปลอบคนที่ร้องให้สะอึกสะอื้นอยู่ตอนนี้ใจจะขาด“ฮือๆ..แล้วคุณพรีมคิดอะไรก็บอกแก้วมาสิ….ฮือๆๆ” ร่างบางที่นั่งสะอื้นอยู่ที่เตียงก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าตอนนี้ชายหนุ่มคิดยังไงกับเธอกันแน่ก็ตอนนั้นบอกว่าไม่รักแล้วตอนนี้บอกว่าเธอไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงอีกเธอสับสนกับคำพูดเขาจริงๆ“คุณหยุดร้องแล้วฟังผมก่อนได้ไหม” พีรพัตรต้องปรามหญิงสาวให้หยุดร้องจะได้คุยกันให้รู้เรื่องสักทีถ้าเธอยังสะอึกสะอื้นอยู่อย่างนี้วันนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ๆ“แก้วก็อยาก….กก…จะหยุดแต่มัน…..ฮึกๆ…หยุดไม่ได้…ฮือๆ” ลูกแก้วเองก็อยากจะหยุดแต่เมื่อมองหน้าเขาได้ยินคำที่เขาพูดน้ำตาเธอมันก็ไหลออกมาตลอดเธอไม่รู้ว่าจะหยุดมันยังไง“งั้นก็ฟังผมนะ…คือ..ผมรักคุณ…ผมไม่รู้ว่ารักตั้งแต่เมื่อไรแต่ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณแต่งงานกับผมเถอะนะ” ในเมื่อเธอไม่หยุดร้องเขาก็บอกรักเธอทั้งๆที่ยังร้องอยู่ละกันเผื่อเธอจะยอมหยุดร้องแล้
“คุณก็รู้นี่ว่าสามีของคุณเป็นถึงผู้บริหารของบริษัทจะให้ภรรยาตัวเองหยุดทำงานบ้างคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง...นั่งก่อนเดี๋ยวผมไปยกอาหารมาให้นะครับ” ชายหนุ่มใช้สองมือดันตัวหญิงสาวจากด้านหลังแล้วพาไปนั่งที่โต๊ะทานข้าวให้เธอนั่งรอเขาเอาอาหารมาเสริฟ ลุกแก้วเองก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งหน้าแดงไม่กล้าสบตาคนที่คุยด้วยเพราะเขินคำพูดที่เขาพูดว่าตัวเองเป็นสามีและเธอป็นภรรยาของเขา เธอไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีช่วงเวลาดีๆแบบนี้กับชายหนุ่มผู้ชายที่เคร่งขรึมเจ้าระเบียบหน้ายักษ์คนที่เธอเจอครั้งแรกตอนนี้กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเขาดูอ่อนโยนอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเธอขอให้เขาเป็นแบบนี้กับเธอตลอดไปไม่ใช่แค่ช่วงที่เป็นโปรโมชั่นเท่านั้น“โหทำไมมันเยอะจังเลยล่ะคะคุณพรีม” ลูกแก้วมองพีรพัตรยกจานอาหารมาให้เธอคราแรกก็คิดว่าหมดแล้วนี่เขายังเดินไปหยิบมาจนเต็มโต๊ะอาหารเธอไม่รู้ว่าอาหารที่เขาทำเธอจะทานได้หรือเปล่าเพราะไอ้อาการแพ้ท้องของเธอนี่แหละจนต้องทำให้เธอทานข้าวต้มกับไข่เค็มอยู่ทุกวันเพราะทานได้แค่นั้น...เธอเคยลองทานอาหารที่เขาบอกว่าดีต่อผู้หญิงตั้งครรภ์หลายต่อหลายอย่างแต่เมื่อตักเข้าปากเท่าไม่ทันได้เคี้ยวเท่าไรก็ต้อง
“อืม..ยัยหนู” แผ่นดินรู้สึกตัวตื่นเพราะแรงฝ่ามือของลูกสาวที่กำลังตีหน้าเขาอยู่จึงใช้แขนทั้งสองข้างรวบตัวลูกสาวตัวกลมของเขามากอดไว้บนอกและเริ่มการทำโทษลูกสาวด้วยการใช้ไรหนวดฟัดไปที่แก้มพองๆก่อนจะพลิกตัวกลับมาฟัดที่พุงกลมๆของเจ้าก้อนอีกที“อร๊าย...แอ้.เฮ่อๆ”“พอแล้วค่ะพี่พอลเลิกแกล้งยัยหนูได้แล้วค่ะลูกหัวเราะจนจะไม่มีเสียงอยู่แล้ว” พลอยไพลินที่เห็นคนเป็นสามีกำลังแกล้งลูกสาวหัวเราะจนจะไม่มีเสียงอยู่แล้วจึงส่งเสียงปรามคนตัวโตซะหน่อย“โถ่พลอย..ก็พลอยปล่อยให้ยัยหนูแกล้งพี่ก่อนทำไมล่ะ”“พี่พอลจะมาโทษพลอยไม่ได้นะคะก็พี่พอลตื่นสายเองพลอยก็เลยปล่อยให้ยัยหนูก็เลยปลุกเท่านั้นเองค่ะ” พลอยไพลินแสร้งพูดก่อนจะอมยิ้มแล้วมองไปทางอื่น“พี่รู้สึกมึนๆหัวน่ะพลอยพี่ขอนอนต่ออีกสักพักนะ” วันนี้แผ่นดินรู้สึกมึนหัวอ่อนล้าอ่อนเพลียผิดปกติเขาเลยตื่นสายไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกันปกติก็ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยคิดว่าจะนอนต่ออีกสักพักก็อาการก็คงจะดีขึ้นเอง“พี่พอลเป็นอะไรหรือเปล่าคะไปหาหมอดีไหม” เมื่อเห็นผู้เป็นสามีหน้าซีดผิดปกติแถมยังบ่นว่ามึนหัวขอนอนต่ออีกเธอเห็นท่าไม่ดีเพราะปกติเธอก็ไม่เคยเห็นคนที่แข็งแรงแ
30 นาทีต่อมา“อาการของลูกชายดิฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ” ตอนนี้ในห้องมีทั้งพิไลดวงแขและพลอยไพลินรอฟังอาการของชายหนุ่มอยู่ข้างๆเตียงหลังจากหมอตรวจเสร็จคนเป็นแม่ของคนนอนป่วยก็เอ่ยปากถามหมอทันทีเพราะอยากรู้อาการของลูกชายตัวเองที่ตอนนี้นอนงัวเงียอยู่บนเตียงเต็มทน“เอ่อ...จากที่ผมตรวจอาการของคุณพอลไม่มีอะไรผิดปกตินะครับแต่ถ้าฟังจากที่พวกคุณเล่ามาผมคงต้องขอตรวจคุณพลอยแทนนะครับ”“คะ....ตรวจฉันเหรอคะ” พลอยไพลินมีสีหน้าที่สงสัยอยู่ดีๆหมอก็จะขอตรวจเธอทั้งๆที่เธอสบายดี“ครับ....ผมขอถามคุณพลอยว่าประจำเดือนคุณขาดกี่เดือนแล้วครับ” หลังจากที่ได้ยินคำถามจากคุณหมอหญิงสาวเองก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่าประจำเดือนเธอขาดมาสองเดือนแล้วนี่นา“เอ่อ...น่าจะสองเดือนแล้วค่ะ”“งั้นผมว่าอาการที่คุณพอลเป็นน่าจะแพ้ท้องแทนภรรยาแล้วหละครับเคสแบบนี้ผมเจอมาบ่อยน่าจะไม่พลาดนะครับ” พลอยไพลินถึงกับยิ้มหน้าบานอย่างตื้นตันว่าเธอกำลังจะมีน้องให้ยัยหนูอีกคนนึงแล้ว“ยังไงผมขอนัดคุณพลอยไปตรวจและฝากครรภ์ทีโรงพยาบาลได้เลยนะครับส่วนคุณพอลคงต้องให้ยาไปตามอาการถ้าเรียบร้อยแล้วหมอขอตัวนะครับ”“ขอบคุณค่ะคุณหมอ” หลังจากหมอตรวจเสร็จเรียบร
“ตายแล้วคุณพี่น้องจะเป็นลม”“คุณแม่/คุณแม่” ทั้งพีรพัตรและลูกแก้วเมื่อเห็นอาการไม่ดีของพิไลก็รีบโผเข้ามาดูอาการอยู่ใกล้ๆ“ผมขอโทษครับที่ทำให้คุณแม่เสียใจ” พีรพัตรรู้สึกผิดที่ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องเกือบจะเป็นลมเพราะตนเองทำให้ผูเป็นแม่เสียใจจึงเอ่ยขอโทษออกมา“เสียใจอะไรกันล่ะตาพรีมแม่ดีใจมากต่างหากล่ะ...น้องจะมีหลานกับเค้าแล้วค่ะคุณพี่” พิไลที่ดีใจจนเกือบเป็นลมเพราะได้ลูกสะใภ้สมใจแล้วอยู่ดีๆก็ได้หลานมาด้วยเธอจึงหันไปคุยอวดผู้เป็นพี่สาวว่าจะมีหลานยกใหญ่“แล้วนี่ท้องได้กี่เดือนแล้วจ้ะลูกแก้ว” พลอยไพลินที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆก็นั่งยิ้มดีใจกับน้องสาวของตนที่จะมีครอบครัวและมีคนที่ดีๆดูแลซะที“สี่เดือนแล้วค่ะพี่พลอยไม่โกรธแก้วใช่ไหมคะที่แก้วไม่ได้บอกพี่พลอยก่อน”“พี่จะโกรธทำไมพี่รู้ว่าลูกแก้วเป็นคนมีเหตุผลพี่ดีใจน้าที่น้องสาวพี่มีคนดีๆอย่างคุณพรีมดูแล” สองพี่น้องโอบกอดกันภาพตอนนี้ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่น“ดีจังเลยนะครอบครัวเราจะมีสมาชิกเพิ่มอีกตั้งสองคนแน่ะ” ดวงแขคราแรกก็ตกใจกับเรื่องที่พีรพัตรโพล่งพูดออกมารวดเดียวแต่ก็รู้สึกว่ามันเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลาจับคู่เธอดีใจที่
ทุกคนนั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันที่โต้ะอาหารยกเว้นจอมขวัญตอนนี้ที่ยังไม่กลับดวงแขนั่งทานข้าวไปคุยกับลูกๆหลานๆบนโต๊ะไปก็สังเกตเห็นลูกชายของตนนั่งเกาะแขนคนเป็นภรรยาอยู่นานแล้วไม่ยอมปล่อยเสียทีเธอจึงเอ่ยถามขึ้น“แล้วนั่นเป็นอะไรอีกล่ะตาพอลกลัวหนูพลอยจะหายหรือไงเกาะไม่ปล่อยซะขนาดนั้น”“คือพี่พอลบอกว่าเค้าอยู่ใกล้ๆพลอยแล้วอาการดีขึ้นน่ะค่ะคุณแม่ตั้งแต่ตื่นมาก็ไม่ยอมห่างเลยค่ะ” หญิงสาวตอบคนเป็นแม่สามีด้วยสีหน้าที่อ่อนใจเธอเองก็รู้สึกชักจะรำคาญคนตัวโตอยู่เหมือนกันที่เอาแต่เกาะไม่ปล่อยตอนนี้หญิงสาวรู้สึกเหมือนเธอมีลูกชายเพิ่มมาอีกคน“ใช่ครับคุณแม่เวลาผมอยู่ใกล้พลอยแล้วไอ้อาการเวียนหัวมันก็ดีขึ้นทุกทีเลยครับเลยต้องเกาะกันอยู่แบบนี้” เขาเองตอบตามความจริงเมื่ออยู่ใกล้ภรรยาทีไรอาการเขาก็ดีขึ้นทุกทีเลยจำเป็นต้องเกาะกันแจอยู่แบบนี้“อย่างงั้นเองเหรอ” ดวงแขนึกสงสารทั้งลูกชายและลูกสะใภ้แต่ก็คิดว่าพอลูกสะใภ้เธอท้องโตอีกหน่อยอาการของลูกชายเธอก็คงจะหายไปเองตอนนี้ก็ทำได้แต่ให้กำลังใจทั้งสองให้อดทนเอาหน่อย“คงเป็นเพราะอาการแพ้ท้องแทนเมียน่ะค่ะคุณพี่อีกหน่อยคงดีขึ้นเอง”“พี่ก็ว่างั้นแหละ”“ผมว่าอ
ครื้นๆๆๆเปรี้ยง“ว้าย...” จอมขวัญกรี๊ดลั่นเพราะตกใจกับเสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่าหญิงสาวเกลียดเสียงฟ้าร้องเป็นที่สุดด้วยความกลัวตั้งแต่เด็กๆหญิงสาวเอามือป้องปิดหูด้วยความตกใจนั่งตัวสั่นทิ้งตัวลงอยู่บนโซฟาด้วยความกลัว จอมขวัญที่นั่งรอธาวินอยู่ในบ้านของเขาตั้งแต่เช้าแต่ก็ยังไม่เห็นชายหนุ่มจะกลับมาเสียทีเธอพยายามโทรหาชายหนุ่มอยู่หลายรอบแต่ก็โทรไม่ติดไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปไหนเพราะไม่ได้บอกไว้ ตอนที่เธอมาถึงที่นี่ก็ลองเดินเข้าไปในสวนหญิงสาวถามหาชายหนุ่มจากคนงานในสวนที่กำลังทำงานกันอยู่ก็ได้คำตอบมาว่าไม่รู้ว่าเจ้านายหนุ่มของพวกเขาอยู่ไหนเหมือนกันได้แต่สั่งงานไว้แล้วก็ออกไปตั้งแต่เช้า“พี่วินนะพี่วินไปไหนของเค้ากันนะไม่บอกกันสักคำ” หญิงสาวชะโงกหน้าไปมองที่หน้าบ้านยืนบ่นด้วยสีหน้ากังวลแต่สายตาก็มองหาภาวนาให้ชายหนุ่มกลับมาเสียทีติ้ดดดดๆๆๆๆ“หาแบตหมด...โอ้ย..” จอมขวัญกำลังจะกดโทรศัพท์โทรหาแผ่นดินเพื่อที่จะให้มาเธอรับที่บ้านของธาวินเพราะหญิงสาวคิดว่าวันนี้ชายหนุ่มคงจะยังไม่กลับมาในเร็วๆนี้แน่ เธอคิดว่าตอนนี้คนที่บ้านต้องเป็นห่วงถ้าเธอกลับดึกกว่านี้แต่มือถือเจ้ากรรมก็ดันมาแบตหมดเอาดื้อๆตอนน
“ขวัญฟังพี่นะจับมือพี่ไว้ห้ามปล่อยเข้าใจไหม..ใส่ไอ้นี่เอาไว้แล้วขวัญจะปลอดภัย” ธาวินยังไม่ยอมเปิดประตูรถเขานั่งอยู่ในรถหยิบเสื้อเกราะให้หญิงสาวใส่พร้อมกำชับกับเธอว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นห้ามปล่อยมือเขาเด็ดขาดเขาหยิบรีบปืนออกมาจากหลังรถและจับมือหญิงสาวเอาไว้แน่น“นี่มันอะไรกันคะพี่วิน” จอมขวัญถามธาวินหน้าตาตื่นเมื่ออยู่ดีๆชายหนุ่มมีเสื้อเกราะติดรถไว้แล้วหยิบมาให้เธอใส่แถมในหลังรถยังมีอาวุธปืนอีกตอนนี้เธอสับสนไปหมดในใจเธอคิดว่าชายหนุ่มแค่ทำสวนจะต้องมีอาวุธครบมือขนาดนี้เชียวเหรอ“พี่ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว..เราต้องรีบหนี”“เดี๋ยวค่ะทำไมเราไม่ขับฝ่าเข้าบ้านขวัญไปเลยล่ะคะ”“ไม่ได้ขวัญเดี๋ยวคนอื่นจะเป็นอันตรายไปด้วย” เพื่อความปลอดภัยของทุกคนชายหนุ่มไม่เลือกใช้วิธีที่หญิงสาวบอกแน่ๆปังๆๆๆๆ“ลงมาเดี๋ยวนี้แสบนักนะแก” เสี่ยวันชัยเมื่อไม่เห็นคนบนรถลงมากันสักทีทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าหนีพวกเขาไม่รอดเพราะเขาได้สั่งลูกน้องล้อมเอาไว้หมดแล้วเขาแค้นใจยิ่งนักที่หลงไว้ใจไม่คิดว่าธาวินจะเป็นหอกข้างแคร่ที่คอยทิ่มแทงเขาอยู่ตลอดเวลาโดยที่เขาไม่นึกเอะใจซ้ำยังลูกสาวของเขาเองยังหลงธาวินหัวปลักหัวปลำอีกต่างหาก