“คุณก็รู้นี่ว่าสามีของคุณเป็นถึงผู้บริหารของบริษัทจะให้ภรรยาตัวเองหยุดทำงานบ้างคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง...นั่งก่อนเดี๋ยวผมไปยกอาหารมาให้นะครับ” ชายหนุ่มใช้สองมือดันตัวหญิงสาวจากด้านหลังแล้วพาไปนั่งที่โต๊ะทานข้าวให้เธอนั่งรอเขาเอาอาหารมาเสริฟ
ลุกแก้วเองก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งหน้าแดงไม่กล้าสบตาคนที่คุยด้วยเพราะเขินคำพูดที่เขาพูดว่าตัวเองเป็นสามีและเธอป็นภรรยาของเขา
เธอไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีช่วงเวลาดีๆแบบนี้กับชายหนุ่มผู้ชายที่เคร่งขรึมเจ้าระเบียบหน้ายักษ์คนที่เธอเจอครั้งแรกตอนนี้กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเขาดูอ่อนโยนอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเธอขอให้เขาเป็นแบบนี้กับเธอตลอดไปไม่ใช่แค่ช่วงที่เป็นโปรโมชั่นเท่านั้น
“โหทำไมมันเยอะจังเลยล่ะคะคุณพรีม” ลูกแก้วมองพีรพัตรยกจานอาหารมาให้เธอคราแรกก็คิดว่าหมดแล้วนี่เขายังเดินไปหยิบมาจนเต็มโต๊ะอาหารเธอไม่รู้ว่าอาหารที่เขาทำเธอจะทานได้หรือเปล่าเพราะไอ้อาการแพ้ท้องของเธอนี่แหละจนต้องทำให้เธอทานข้าวต้มกับไข่เค็มอยู่ทุกวันเพราะทานได้แค่นั้น...เธอเคยลองทานอาหารที่เขาบอกว่าดีต่อผู้หญิงตั้งครรภ์หลายต่อหลายอย่างแต่เมื่อตักเข้าปากเท่าไม่ทันได้เคี้ยวเท่าไรก็ต้องลุกออกไปอาเจียนทุกที
“ก็ผมเห็นคุณทานแต่ข้าวต้มแล้วก็มีไข่อยู่ในตู้เย็นไม่กี่ใบผมคงทนดูคุณทานของแค่นั้นไม่ได้หรอกต่อไปนี้เรื่องอาหารการกินของคุณผมจะเป็นคนจัดการเอง....ทานเถอะคุณสายแล้วเดี๋ยวลูกหิวนะ”
ชายหนุ่มพูดไปยิ้มไปพลางนั่งลงตักอาหารใส่ในจาน....หญิงสาวอยากจะปฏิเสธและบอกความจริงเขาไปว่าไม่ใช่เธอทานแค่อาหารแค่นั้นแต่อย่างอื่นเธอทานไม่ได้จริงๆแต่ก็กลัวจะหักหารน้ำใจของเขาที่อุตส่าห์ลุกขึ้นมาทำอาหารให้และยังคอยดูแลเธออีกลองชิมดูสักคำก็ได้เผื่อจะทานอาหารอย่างอื่นนอกจากข้าวต้มได้ขึ้นมาบ้าง
“....อุ๊ป” เมื่อปาเกตตี้ซอสมะเขือเทศเข้าปากคำแรกยังไม่ทันเคี้ยวลูกแก้วก็รู้สึกผะอืดผะอมขึ้นมาดื้อๆซะงั้นจนต้องรีบวิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำทั้งๆที่มันไม่มีอะไรจะให้ออกมาเพราะเธอยังไม่ได้ทานอะไรเข้าไป
พีรพัตรเห็นดังนั้นเลยรีบวิ่งตามหญิงสาวหวังว่าจะเข้าไปดูอาการแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อตัวของเขาไปอยู่ใกล้ๆเธอมันจะทำให้อาการคลื่นไส้อาเจียนนั้นทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีกเลยขอยืนสังเกตุอาการอยู่ที่หน้าห้องน้ำเท่านั้น
“นี่คุณทานอะไรไม่ได้มานานเท่าไรแล้วลูกแก้ว” เขารู้ว่าเธอทานอะไรไม่ได้ตั้งแต่ที่เห็นเธอตักอาหารเข้าปากแล้วอาเจียนแล้วถ้าเป็นไปได้ในใจเขาตอนนี้อยากเป็นแทนเธอเหลือเกินไม่คิดว่าอาการแพ้ท้องของเธอจะรุนแรงขนาดนี้
“คือแก้วทานได้แต่ข้าวต้มกับไข่เค็มน่ะค่ะ” หญิงสาวตอบทั้งๆที่ยังผะอืดผะอมอยู่เมื่อพีรพัตรได้ยินคำตอบก็รู้ทันทีว่าทำไมในห้องของเธอถึงมีของที่เอาไว้ทานแค่นั้นนี่เป็นเพราะเขาแท้ๆที่ถือวิสาสะทำอาหารให้เธอทานโดยที่ไม่ได้ถามสักคำว่าเธอทานได้หรือไม่ได้
หลังจากหญิงสาวหยุดอาเจียนพีรพัตรก็ให้เธอไปนอนพักที่ห้องให้อาการเวียนหัวของเธอดีขึ้นเสียก่อนส่วนเขาอาสาไปทำข้าวต้มให้เธอทานเพื่อที่จะได้มีอะไรตกถึงท้องบ้างก่อนที่จะทานยา
“วันนี้คุณนอนพักผ่อนก่อนเถอะให้อาการคุณดีขึ้นก่อนพรุ่งนี้เราค่อยไปจดทะเบียนกันก็ได้”
“ค่ะ” ลูกแก้วพยักหน้ารับคำชายหนุ่มด้วยเสียงแผ่วเบาแล้วหลับลงด้วยอาการเพลียเพราะเธอไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้วพอจะทานตอนเช้าก็เกิดมาคลื่นไส้อาเจียนอีก
หลังจากเห็นลูกแก้วพักผ่อนแล้วเขาจึงออกมาทำข้าวต้มไว้ให้เธอทานเมื่อเขาทำกับข้าวไปก็นึกถึงอาการแพ้ท้องของหญิงสาวเขาคิดว่าการที่จะอุ้มท้องลูกคนนึงมันไม่ง่ายเลยเหมือนกัน
นึกสงสารหญิงสาวจับใจพลางนึกถึงแม่ของตนเองเขาจำได้ว่าแม่ของเขาเองเล่าให้ฟังว่าตอนที่แม่ของเขาแพ้ท้องเขาก็กินไม่ได้อยู่พักใหญ่แถมอยู่ใกล้พ่อเขาไม่ได้ด้วยคงจะเป็นอาการแบบเดียวกับที่ลูกแก้วเป็น..ตอนนี้เขารู้แล้วว่าแม่รักเขามากเพียงใดเพราะเขาเองก็ยังรู้สึกรักลูกที่ยังไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนได้มากขนาดนี้เลย
หลังจากชายหนุ่มทำข้าวต้มเสร็จก็ยกเข้าไปในห้องหวังจะให้หญิงสาวได้ลุกขึ้นมาทานแต่เมื่อเดินเข้ามาก็เห็นหญิงสาวนอนหลับสนิทไปแล้วเลยไม่อยากที่จะปลุกเขาเองก็อยากให้เธอได้นอนพักผ่อนมากๆเหมือนกัน
พีรพัตรเดินถือถ้วยข้าวต้มไปเก็บในครัวแล้วกลับมานั่งเก้าอี้โซฟาที่ข้างเตียงของหญิงสาวที่กำลังหลับอยู่เขานั่งจับหญิงสาวพร้อมนั่งมองหน้าของเธอด้วยความรักและรู้สึกห่วงใยเขานั่งอยู่แบบนั้นสักพักก็เอนตัวหลับบนเก้าอี้โดยที่มือของเขาก็ยังจับมือเธออยู่อย่างนั้นเพราะความห่วงใย
1 เดือนต่อมา
ไร่บดินทร์เดชา
แปะ...แปะ....เพี๊ย
“อร๊าย...เฮ่อๆๆ”
“ชู่ว....ยัยหนูไม่แกล้งคุณพ่อนะคะ” พลอยไพลินปรามลูกสาวตัวกลมที่กำลังใช้ฝ่ามือป้อมๆตะปปไปที่หน้าผู้เป็นพ่ออย่างอารมณ์ดีเมื่อลงฝ่ามือไปที่หน้าของคนเป็นพ่อที่นอนหลับอยู่ได้ก็ส่งเสียงกรี๊ดกร้าดหัวเราะดีใจใหญ่
พลอยไพลินคราแรกก็ห้ามลูกสาวของตนแต่เมื่อเห็นคนตัวโตไม่ตื่นมาสักทีตัวเธอเองก็ปล่อยให้ลูกเล่นอยู่แบบนั้นเผื่อจะปลุกคนตื่นสายให้ตื่นขึ้นมาได้
หญิงสาวนั่งหัวเราะกับการกระทำของลูกสาวเมื่อยัยหนูเห็นผู้เป็นแม่เลิกห้ามแล้วหันมาหัวเราะด้วยก็ได้ใจใช้ฝ่ามือตะปปไปที่หน้าผู้เป็นพ่อได้แล้วก็หันมาหัวเราะกับคนเป็นแม่เด็กหญิงตัวกลมเล่นแบบนี้อยู่หลายครั้งจนคนที่นอนอยู่เริ่มรู้สึกตัว
“อืม..ยัยหนู” แผ่นดินรู้สึกตัวตื่นเพราะแรงฝ่ามือของลูกสาวที่กำลังตีหน้าเขาอยู่จึงใช้แขนทั้งสองข้างรวบตัวลูกสาวตัวกลมของเขามากอดไว้บนอกและเริ่มการทำโทษลูกสาวด้วยการใช้ไรหนวดฟัดไปที่แก้มพองๆก่อนจะพลิกตัวกลับมาฟัดที่พุงกลมๆของเจ้าก้อนอีกที“อร๊าย...แอ้.เฮ่อๆ”“พอแล้วค่ะพี่พอลเลิกแกล้งยัยหนูได้แล้วค่ะลูกหัวเราะจนจะไม่มีเสียงอยู่แล้ว” พลอยไพลินที่เห็นคนเป็นสามีกำลังแกล้งลูกสาวหัวเราะจนจะไม่มีเสียงอยู่แล้วจึงส่งเสียงปรามคนตัวโตซะหน่อย“โถ่พลอย..ก็พลอยปล่อยให้ยัยหนูแกล้งพี่ก่อนทำไมล่ะ”“พี่พอลจะมาโทษพลอยไม่ได้นะคะก็พี่พอลตื่นสายเองพลอยก็เลยปล่อยให้ยัยหนูก็เลยปลุกเท่านั้นเองค่ะ” พลอยไพลินแสร้งพูดก่อนจะอมยิ้มแล้วมองไปทางอื่น“พี่รู้สึกมึนๆหัวน่ะพลอยพี่ขอนอนต่ออีกสักพักนะ” วันนี้แผ่นดินรู้สึกมึนหัวอ่อนล้าอ่อนเพลียผิดปกติเขาเลยตื่นสายไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกันปกติก็ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยคิดว่าจะนอนต่ออีกสักพักก็อาการก็คงจะดีขึ้นเอง“พี่พอลเป็นอะไรหรือเปล่าคะไปหาหมอดีไหม” เมื่อเห็นผู้เป็นสามีหน้าซีดผิดปกติแถมยังบ่นว่ามึนหัวขอนอนต่ออีกเธอเห็นท่าไม่ดีเพราะปกติเธอก็ไม่เคยเห็นคนที่แข็งแรงแ
30 นาทีต่อมา“อาการของลูกชายดิฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ” ตอนนี้ในห้องมีทั้งพิไลดวงแขและพลอยไพลินรอฟังอาการของชายหนุ่มอยู่ข้างๆเตียงหลังจากหมอตรวจเสร็จคนเป็นแม่ของคนนอนป่วยก็เอ่ยปากถามหมอทันทีเพราะอยากรู้อาการของลูกชายตัวเองที่ตอนนี้นอนงัวเงียอยู่บนเตียงเต็มทน“เอ่อ...จากที่ผมตรวจอาการของคุณพอลไม่มีอะไรผิดปกตินะครับแต่ถ้าฟังจากที่พวกคุณเล่ามาผมคงต้องขอตรวจคุณพลอยแทนนะครับ”“คะ....ตรวจฉันเหรอคะ” พลอยไพลินมีสีหน้าที่สงสัยอยู่ดีๆหมอก็จะขอตรวจเธอทั้งๆที่เธอสบายดี“ครับ....ผมขอถามคุณพลอยว่าประจำเดือนคุณขาดกี่เดือนแล้วครับ” หลังจากที่ได้ยินคำถามจากคุณหมอหญิงสาวเองก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่าประจำเดือนเธอขาดมาสองเดือนแล้วนี่นา“เอ่อ...น่าจะสองเดือนแล้วค่ะ”“งั้นผมว่าอาการที่คุณพอลเป็นน่าจะแพ้ท้องแทนภรรยาแล้วหละครับเคสแบบนี้ผมเจอมาบ่อยน่าจะไม่พลาดนะครับ” พลอยไพลินถึงกับยิ้มหน้าบานอย่างตื้นตันว่าเธอกำลังจะมีน้องให้ยัยหนูอีกคนนึงแล้ว“ยังไงผมขอนัดคุณพลอยไปตรวจและฝากครรภ์ทีโรงพยาบาลได้เลยนะครับส่วนคุณพอลคงต้องให้ยาไปตามอาการถ้าเรียบร้อยแล้วหมอขอตัวนะครับ”“ขอบคุณค่ะคุณหมอ” หลังจากหมอตรวจเสร็จเรียบร
“ตายแล้วคุณพี่น้องจะเป็นลม”“คุณแม่/คุณแม่” ทั้งพีรพัตรและลูกแก้วเมื่อเห็นอาการไม่ดีของพิไลก็รีบโผเข้ามาดูอาการอยู่ใกล้ๆ“ผมขอโทษครับที่ทำให้คุณแม่เสียใจ” พีรพัตรรู้สึกผิดที่ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องเกือบจะเป็นลมเพราะตนเองทำให้ผูเป็นแม่เสียใจจึงเอ่ยขอโทษออกมา“เสียใจอะไรกันล่ะตาพรีมแม่ดีใจมากต่างหากล่ะ...น้องจะมีหลานกับเค้าแล้วค่ะคุณพี่” พิไลที่ดีใจจนเกือบเป็นลมเพราะได้ลูกสะใภ้สมใจแล้วอยู่ดีๆก็ได้หลานมาด้วยเธอจึงหันไปคุยอวดผู้เป็นพี่สาวว่าจะมีหลานยกใหญ่“แล้วนี่ท้องได้กี่เดือนแล้วจ้ะลูกแก้ว” พลอยไพลินที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆก็นั่งยิ้มดีใจกับน้องสาวของตนที่จะมีครอบครัวและมีคนที่ดีๆดูแลซะที“สี่เดือนแล้วค่ะพี่พลอยไม่โกรธแก้วใช่ไหมคะที่แก้วไม่ได้บอกพี่พลอยก่อน”“พี่จะโกรธทำไมพี่รู้ว่าลูกแก้วเป็นคนมีเหตุผลพี่ดีใจน้าที่น้องสาวพี่มีคนดีๆอย่างคุณพรีมดูแล” สองพี่น้องโอบกอดกันภาพตอนนี้ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่น“ดีจังเลยนะครอบครัวเราจะมีสมาชิกเพิ่มอีกตั้งสองคนแน่ะ” ดวงแขคราแรกก็ตกใจกับเรื่องที่พีรพัตรโพล่งพูดออกมารวดเดียวแต่ก็รู้สึกว่ามันเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลาจับคู่เธอดีใจที่
ทุกคนนั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันที่โต้ะอาหารยกเว้นจอมขวัญตอนนี้ที่ยังไม่กลับดวงแขนั่งทานข้าวไปคุยกับลูกๆหลานๆบนโต๊ะไปก็สังเกตเห็นลูกชายของตนนั่งเกาะแขนคนเป็นภรรยาอยู่นานแล้วไม่ยอมปล่อยเสียทีเธอจึงเอ่ยถามขึ้น“แล้วนั่นเป็นอะไรอีกล่ะตาพอลกลัวหนูพลอยจะหายหรือไงเกาะไม่ปล่อยซะขนาดนั้น”“คือพี่พอลบอกว่าเค้าอยู่ใกล้ๆพลอยแล้วอาการดีขึ้นน่ะค่ะคุณแม่ตั้งแต่ตื่นมาก็ไม่ยอมห่างเลยค่ะ” หญิงสาวตอบคนเป็นแม่สามีด้วยสีหน้าที่อ่อนใจเธอเองก็รู้สึกชักจะรำคาญคนตัวโตอยู่เหมือนกันที่เอาแต่เกาะไม่ปล่อยตอนนี้หญิงสาวรู้สึกเหมือนเธอมีลูกชายเพิ่มมาอีกคน“ใช่ครับคุณแม่เวลาผมอยู่ใกล้พลอยแล้วไอ้อาการเวียนหัวมันก็ดีขึ้นทุกทีเลยครับเลยต้องเกาะกันอยู่แบบนี้” เขาเองตอบตามความจริงเมื่ออยู่ใกล้ภรรยาทีไรอาการเขาก็ดีขึ้นทุกทีเลยจำเป็นต้องเกาะกันแจอยู่แบบนี้“อย่างงั้นเองเหรอ” ดวงแขนึกสงสารทั้งลูกชายและลูกสะใภ้แต่ก็คิดว่าพอลูกสะใภ้เธอท้องโตอีกหน่อยอาการของลูกชายเธอก็คงจะหายไปเองตอนนี้ก็ทำได้แต่ให้กำลังใจทั้งสองให้อดทนเอาหน่อย“คงเป็นเพราะอาการแพ้ท้องแทนเมียน่ะค่ะคุณพี่อีกหน่อยคงดีขึ้นเอง”“พี่ก็ว่างั้นแหละ”“ผมว่าอ
ครื้นๆๆๆเปรี้ยง“ว้าย...” จอมขวัญกรี๊ดลั่นเพราะตกใจกับเสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่าหญิงสาวเกลียดเสียงฟ้าร้องเป็นที่สุดด้วยความกลัวตั้งแต่เด็กๆหญิงสาวเอามือป้องปิดหูด้วยความตกใจนั่งตัวสั่นทิ้งตัวลงอยู่บนโซฟาด้วยความกลัว จอมขวัญที่นั่งรอธาวินอยู่ในบ้านของเขาตั้งแต่เช้าแต่ก็ยังไม่เห็นชายหนุ่มจะกลับมาเสียทีเธอพยายามโทรหาชายหนุ่มอยู่หลายรอบแต่ก็โทรไม่ติดไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปไหนเพราะไม่ได้บอกไว้ ตอนที่เธอมาถึงที่นี่ก็ลองเดินเข้าไปในสวนหญิงสาวถามหาชายหนุ่มจากคนงานในสวนที่กำลังทำงานกันอยู่ก็ได้คำตอบมาว่าไม่รู้ว่าเจ้านายหนุ่มของพวกเขาอยู่ไหนเหมือนกันได้แต่สั่งงานไว้แล้วก็ออกไปตั้งแต่เช้า“พี่วินนะพี่วินไปไหนของเค้ากันนะไม่บอกกันสักคำ” หญิงสาวชะโงกหน้าไปมองที่หน้าบ้านยืนบ่นด้วยสีหน้ากังวลแต่สายตาก็มองหาภาวนาให้ชายหนุ่มกลับมาเสียทีติ้ดดดดๆๆๆๆ“หาแบตหมด...โอ้ย..” จอมขวัญกำลังจะกดโทรศัพท์โทรหาแผ่นดินเพื่อที่จะให้มาเธอรับที่บ้านของธาวินเพราะหญิงสาวคิดว่าวันนี้ชายหนุ่มคงจะยังไม่กลับมาในเร็วๆนี้แน่ เธอคิดว่าตอนนี้คนที่บ้านต้องเป็นห่วงถ้าเธอกลับดึกกว่านี้แต่มือถือเจ้ากรรมก็ดันมาแบตหมดเอาดื้อๆตอนน
“ขวัญฟังพี่นะจับมือพี่ไว้ห้ามปล่อยเข้าใจไหม..ใส่ไอ้นี่เอาไว้แล้วขวัญจะปลอดภัย” ธาวินยังไม่ยอมเปิดประตูรถเขานั่งอยู่ในรถหยิบเสื้อเกราะให้หญิงสาวใส่พร้อมกำชับกับเธอว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นห้ามปล่อยมือเขาเด็ดขาดเขาหยิบรีบปืนออกมาจากหลังรถและจับมือหญิงสาวเอาไว้แน่น“นี่มันอะไรกันคะพี่วิน” จอมขวัญถามธาวินหน้าตาตื่นเมื่ออยู่ดีๆชายหนุ่มมีเสื้อเกราะติดรถไว้แล้วหยิบมาให้เธอใส่แถมในหลังรถยังมีอาวุธปืนอีกตอนนี้เธอสับสนไปหมดในใจเธอคิดว่าชายหนุ่มแค่ทำสวนจะต้องมีอาวุธครบมือขนาดนี้เชียวเหรอ“พี่ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว..เราต้องรีบหนี”“เดี๋ยวค่ะทำไมเราไม่ขับฝ่าเข้าบ้านขวัญไปเลยล่ะคะ”“ไม่ได้ขวัญเดี๋ยวคนอื่นจะเป็นอันตรายไปด้วย” เพื่อความปลอดภัยของทุกคนชายหนุ่มไม่เลือกใช้วิธีที่หญิงสาวบอกแน่ๆปังๆๆๆๆ“ลงมาเดี๋ยวนี้แสบนักนะแก” เสี่ยวันชัยเมื่อไม่เห็นคนบนรถลงมากันสักทีทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าหนีพวกเขาไม่รอดเพราะเขาได้สั่งลูกน้องล้อมเอาไว้หมดแล้วเขาแค้นใจยิ่งนักที่หลงไว้ใจไม่คิดว่าธาวินจะเป็นหอกข้างแคร่ที่คอยทิ่มแทงเขาอยู่ตลอดเวลาโดยที่เขาไม่นึกเอะใจซ้ำยังลูกสาวของเขาเองยังหลงธาวินหัวปลักหัวปลำอีกต่างหาก
เช้าวันต่อมา“คุณขวัญครับ....คุณขวัญ”“อืม..” หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นเพราะได้ยินเสียงเรียกของใครบางคนที่เธอไม่คุ้นหู“คุณเป็นใครคะ” เมื่อจอมขวัญเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงของเธอชัดก็ถึงกับต้องถดตัวหนีอย่างรวดเร็วเพราะเกรงว่าจะเป็นคนร้าย“เอ่อไม่ต้องตกใจครับครับพอดีพี่วินบอกให้ผมมารับคุณไปส่งที่บ้านผมหมวดจักรพงษ์เรียกผมว่าหมวดพงษ์ก็ได้ครับ” จักรพงษ์ยิ้มให้หญิงสาวที่ดูจะกลัวเขาเหลือเกินเมื่อรู้ว่าเขาเป็นใครก็เริ่มตั้งสติได้แล้วถามหาธาวินผู้เป็นหัวหน้าของเขาทันที ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้านี้คงเป็นคนที่สำคัญต่อหัวหน้าของเขามากถึงขนาดเจ็บปางตายยังนึกห่วงบอกให้เขามาดูแลเธออย่าให้คลาดสายตาและยังห้ามบอกอีกว่าเขาบาดเจ็บสาหัสให้โกหกเธอว่าอะไรก็ได้เธอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง“ค่ะ..เอ่อ....แล้วพี่วินล่ะคะ”“คุณวินสั่งให้ผมมารับคุณไปส่งที่บ้านครับแต่ไม่ได้บอกว่าเค้าอยู่ไหน”“ค่ะ” จอมขวัญพยักหน้ารับแล้วเดินก้มหน้าตามนายตำรวจหนุ่มออกมาจากฐานลับแล้วเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ห่างออกจากฐานพอสมควรแล้วหมวดหนุ่มก็พาหญิงสาวกลับบ้านทันที“ยัยขวัญกลับมาแล้วตาพรีม” พิไลมองออกไปดูว่ารถใครมาจอดที่หน้าบ้านเมื่อเ
“ถ้าพวกคุณอยากรู้อาการของหัวหน้าเดี๋ยวผมจะแจ้งเรื่องมาเป็นระยะๆนะครับ” จักรพงษ์เห็นว่าชายหนุ่มทั้งสองดูเป็นห่วงหัวหน้าของตนมากเลยอาสาจะรายงานอาการของหัวหน้าของเขาให้ชายหนุ่มทั้งสองเป็นระยะๆ“ขอบคุณมากครับหมวด”“ถ้าเรียบร้อยแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” หลังจากจักรพงษ์คุยธุระเสร็จก็ขอตัวกลับในทันทีเพราะเขาก็อยู่ที่นี่ค่อนข้างที่จะนานแล้วต้องรีบกลับไปเคลียคดีที่ค้างไว้ต่อแล้วเขาก็จะรีบไปดูอาการของผู้เป็นหัวหน้าที่นอนเจ็บปางตายด้วย เขาเองนับถือชายหนุ่มจริงๆที่ลุยเดี่ยวกับพวกที่มีฝีมือทางการต่อสู้ป็นสิบแบบไม่กลัวตายแถมยังดวงแข็งที่กระสุนเจาะร่างเกือบพรุนยังใจแข็งรอดมาได้อีกเป็นเขาคงตายตั้งแต่ต่อสู้กับไอ้พวกสิบกว่าคนนั้นแล้วห้าวันต่อมา“อ้าวหายดีแล้วเหรอยัยขวัญแล้วตื่นมาทำไมแต่เช้า” คุณหญิงดวงแขที่นั่งจิบกาแฟอยู่หน้าบ้านตอนเช้าเป็นประจำเห็นหลานสาวที่ดูว่าพึ่งจะฟื้นจากไข้ตื่นมาแต่เช้าก็นึกเป็นห่วงอยากจะให้พักผ่อนนานๆแต่หลานสาวเธอดันตื่นเช้าพอจะเดาออกว่าทำไมหลานสาวเธอถึงรีบตื่นมาขนาดนี้“ขวัญโอเคแล้วค่ะคุณป้าคุณแม่อยู่ไหนเหรอคะ” จอมขวัญที่พึ่งฟื้นไข้เมื่อรู้สึกว่าร่างกายของเธอดีขึ้น