“อืม..ยัยหนู” แผ่นดินรู้สึกตัวตื่นเพราะแรงฝ่ามือของลูกสาวที่กำลังตีหน้าเขาอยู่จึงใช้แขนทั้งสองข้างรวบตัวลูกสาวตัวกลมของเขามากอดไว้บนอกและเริ่มการทำโทษลูกสาวด้วยการใช้ไรหนวดฟัดไปที่แก้มพองๆก่อนจะพลิกตัวกลับมาฟัดที่พุงกลมๆของเจ้าก้อนอีกที
“อร๊าย...แอ้.เฮ่อๆ”
“พอแล้วค่ะพี่พอลเลิกแกล้งยัยหนูได้แล้วค่ะลูกหัวเราะจนจะไม่มีเสียงอยู่แล้ว” พลอยไพลินที่เห็นคนเป็นสามีกำลังแกล้งลูกสาวหัวเราะจนจะไม่มีเสียงอยู่แล้วจึงส่งเสียงปรามคนตัวโตซะหน่อย
“โถ่พลอย..ก็พลอยปล่อยให้ยัยหนูแกล้งพี่ก่อนทำไมล่ะ”
“พี่พอลจะมาโทษพลอยไม่ได้นะคะก็พี่พอลตื่นสายเองพลอยก็เลยปล่อยให้ยัยหนูก็เลยปลุกเท่านั้นเองค่ะ” พลอยไพลินแสร้งพูดก่อนจะอมยิ้มแล้วมองไปทางอื่น
“พี่รู้สึกมึนๆหัวน่ะพลอยพี่ขอนอนต่ออีกสักพักนะ” วันนี้แผ่นดินรู้สึกมึนหัวอ่อนล้าอ่อนเพลียผิดปกติเขาเลยตื่นสายไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกันปกติก็ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยคิดว่าจะนอนต่ออีกสักพักก็อาการก็คงจะดีขึ้นเอง
“พี่พอลเป็นอะไรหรือเปล่าคะไปหาหมอดีไหม” เมื่อเห็นผู้เป็นสามีหน้าซีดผิดปกติแถมยังบ่นว่ามึนหัวขอนอนต่ออีกเธอเห็นท่าไม่ดีเพราะปกติเธอก็ไม่เคยเห็นคนที่แข็งแรงแบบเขาจะมีอาการแปลกๆแบบนี้เลยจึงอยากที่จะให้ชายหนุ่มไปให้หมอตรวจดูอาการเพราะกลัวว่าจะเป็นอะไรร้ายแรง
“ไม่เป็นไรหรอกพลอยพี่ว่าจะนอนอีกสักพักอาการคงดีขึ้นเอง”
“ค่ะงั้นพี่พอลนอนต่อเลยนะคะพลอยจะพายัยหนูไปหาคุณแม่ก่อนค่ะ” พลอยไพลินอุ้มยัยหนูไปให้กับนมนิดและคนเป็นย่าวันนี้เธอต้องฝากพวกท่านเลี้ยงเพราะเธอตั้งใจว่าเธอจะเป็นคนเข้าครัวกับคุณหญิงพิไลเพราะจะทำกับข้าวและขนมของโปรดของลูกแก้วที่จะกลับมาพร้อมพีรพัตรหลังจากที่ไม่เจอน้องสาวมาหลายเดือนก็อยากจะทำอะไรอร่อยๆให้น้องสาวได้ทานเป็นการต้อนรับ
ช่วงเที่ยงของวัน
“คุณแม่ครับเห็นพลอยบ้างไหมครับ” แผ่นดินเดินออกมาจากห้องนอนเป็นเวลาเกือบเที่ยงเมื่อเดินออกมาก็เห็นผู้เป็นแม่กำลังนั่งเลี้ยงลูกของเขาอยู่กับนมนิดแปลกใจว่าภรรยาของตนไปไหนตั้งแต่เดินอกมาก็ไม่เห็น
“หนูพลอยเข้าครัวทำอาหารกับน้าพิไลน่ะวันนี้ตาพรีมกับหนูแก้วกลับมาที่นี่สองคนนั้นเลยขอเข้าครัวทำอาหารต้อนรับซะหน่อย”
“อ๋อครับ” เมื่อได้ยินดังนั้นก็นั่งลงเล่นกับลูกอยู่สักพักก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาดื้อๆทั้งที่คิดว่าตนเองหายดีแล้วแท้ๆ
“เป็นอะไรหรือเปล่าตพรีมหน้าซีดๆ” ดวงแขสังเกตุเห็นอาการของลูกชายตั้งแต่เดินมาทีแรกแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรแต่เมื่อเห็นว่าอาการท่าจะไม่ดีเลยต้องเอ่ยปากถามสักหน่อย
“ผมเวียนหัวนิดหน่อยครับคุณแม่”
“มาๆงั้นส่งยัยหนูมาให้แม่แล้วไปพักเถอะ”
“ครับเดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายหนุ่มเดินกลับห้องอีกรอบด้วยอาการมึนจนดวงแขเห็นท่าไม่ดีเลยเข้าไปเรียกลูกสะใภ้ของตนให้เข้าไปดูอาการของลูกชายตัวเองหน่อย
“หนูพลอย”
“คะคุณแม่”
“แม่ว่าเข้าไปดูอาการของตาพอลหน่อยนะลูกเห็นเดินออกมาจากห้องก็สายโด่งแล้วยังบ่นมึนหัวแม่เลยให้กลับไปนอนพักน่ะ”
“เมื่อเช้าพี่พอลก็บ่นเวียนหัวตั้งแต่ตื่นแล้วนะคะเดี๋ยวพลอยรีบไปดูเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” ว่าจบก็รีบถอดผ้ากันเปื้อนล้างไม้ล้างมือแล้วรีบเดินออกไปจากห้องครัวเพื่อที่จะเข้าไปดูอาการของสามีตัวเองด้วยความเป็นห่วง
“คุณพี่คะน้องว่าอาการตาพอลแปลกๆนะคะน้องว่าถ้าตาพอลเป็นผู้หญิงนี่น้องก็คิดว่าตาพอลท้องแน่ๆเลยค่ะ” พิไลที่กำลังหั่นผักอยู่พูดขึ้นลอยๆโดยที่หันมาสบตาผู้เป็นพี่สาวครู่หนึ่งแล้วหันกลับไปหั่นผักต่อโดยไม่ได้คิดอะไร
“อืมท้องเหรอ...หรือว่าจะแพ้ท้องแทนเมีย” ดวงแขยืนคิดอยู่ครู่หนึ่งใช่ที่ว่าอาการของลูกชายเธอเหมือนคนท้องแต่ลูกชายเธอเป็นผู้ชายจะท้องได้ยังไงนอกซะจากที่จะแพ้ท้องแทนเมีย
“หืม..อาจจะเป็นไปได้นะคะคุณพี่เพราะช่วงนี้น้องก็ว่าหนูพลอยดูมีน้ำมีนวลขึ้นมาเหมือนกันนะคะ” พิไลได้ยินคำที่ดวงแขเอ่ยขึ้นก็ถึงกับชะงักค้างทันทีเมื่อคิดตามก็อาจเป็นไปได้ตามที่คนเป็นพี่พูดจริงๆเพราะเธอสังเกตุเห็นว่าช่วงนี้พลอยไพลินนั้นดูมีน้ำมีนวลขึ้นมาก
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิพิไลพี่จะได้อุ้มหลานอีกคนนึงแล้ว”
“น้องล่ะอิจฉาคุณพี่จังเลยค่ะดูท่าว่าจะได้อุ้มหลานคนที่สองแล้วแต่น้องสิคะยังไม่มีทีท่าว่าจะมีหลานให้อุ้มเลย” พิไลดีใจกับพี่สาวของตนที่ดูท่าว่าจะได้อุ้มหลานคนที่สองแต่ก็ต้องทำหน้าตัดพ้อเพราะตนเองนั้นยังไม่เห็นแววว่าจะได้อุ้มหลานกับเขาบ้างเลย
“พี่ว่าก็คงอีกไม่นานหรอกจากที่เห็นอาการของลูกแก้วและตาพรีมวันนั้นนะ”
“น้องก็อยากให้สองคนนี้ลงเอยกันจริงๆสักทีค่ะคุณพี่”
สองพี่น้องคุยเล่นกันในครัวอย่างออกรสหลังจากที่พลอยไพลินไปดูอาการของสามีตนเองแล้วดวงแขก็เข้าครัวมาช่วยน้องสาวตนและปล่อยให้ยัยหนูอยู่กับนมนิดเพราะกลัวว่าอาหารจะเสร็จไม่ทันทั้งสองคนที่กำลังจะกลับมา
พลอยไพลินเดินออกมาจากห้องครัวก็รีบดิ่งตรงไปที่ห้องของเธอเพื่อไปดูอาการของสามีเมื่อเห็นสามีเธอนอนหน้าซีดอยู่บนเตียงก็ใจหายวาบไม่คิดว่าอาการเขาจะดูหนักขนาดนี้เธอเลยตัดสินใจโทรตามหมอเพื่อให้มาดูอาการของเขาทันที
30 นาทีต่อมา“อาการของลูกชายดิฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ” ตอนนี้ในห้องมีทั้งพิไลดวงแขและพลอยไพลินรอฟังอาการของชายหนุ่มอยู่ข้างๆเตียงหลังจากหมอตรวจเสร็จคนเป็นแม่ของคนนอนป่วยก็เอ่ยปากถามหมอทันทีเพราะอยากรู้อาการของลูกชายตัวเองที่ตอนนี้นอนงัวเงียอยู่บนเตียงเต็มทน“เอ่อ...จากที่ผมตรวจอาการของคุณพอลไม่มีอะไรผิดปกตินะครับแต่ถ้าฟังจากที่พวกคุณเล่ามาผมคงต้องขอตรวจคุณพลอยแทนนะครับ”“คะ....ตรวจฉันเหรอคะ” พลอยไพลินมีสีหน้าที่สงสัยอยู่ดีๆหมอก็จะขอตรวจเธอทั้งๆที่เธอสบายดี“ครับ....ผมขอถามคุณพลอยว่าประจำเดือนคุณขาดกี่เดือนแล้วครับ” หลังจากที่ได้ยินคำถามจากคุณหมอหญิงสาวเองก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่าประจำเดือนเธอขาดมาสองเดือนแล้วนี่นา“เอ่อ...น่าจะสองเดือนแล้วค่ะ”“งั้นผมว่าอาการที่คุณพอลเป็นน่าจะแพ้ท้องแทนภรรยาแล้วหละครับเคสแบบนี้ผมเจอมาบ่อยน่าจะไม่พลาดนะครับ” พลอยไพลินถึงกับยิ้มหน้าบานอย่างตื้นตันว่าเธอกำลังจะมีน้องให้ยัยหนูอีกคนนึงแล้ว“ยังไงผมขอนัดคุณพลอยไปตรวจและฝากครรภ์ทีโรงพยาบาลได้เลยนะครับส่วนคุณพอลคงต้องให้ยาไปตามอาการถ้าเรียบร้อยแล้วหมอขอตัวนะครับ”“ขอบคุณค่ะคุณหมอ” หลังจากหมอตรวจเสร็จเรียบร
“ตายแล้วคุณพี่น้องจะเป็นลม”“คุณแม่/คุณแม่” ทั้งพีรพัตรและลูกแก้วเมื่อเห็นอาการไม่ดีของพิไลก็รีบโผเข้ามาดูอาการอยู่ใกล้ๆ“ผมขอโทษครับที่ทำให้คุณแม่เสียใจ” พีรพัตรรู้สึกผิดที่ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องเกือบจะเป็นลมเพราะตนเองทำให้ผูเป็นแม่เสียใจจึงเอ่ยขอโทษออกมา“เสียใจอะไรกันล่ะตาพรีมแม่ดีใจมากต่างหากล่ะ...น้องจะมีหลานกับเค้าแล้วค่ะคุณพี่” พิไลที่ดีใจจนเกือบเป็นลมเพราะได้ลูกสะใภ้สมใจแล้วอยู่ดีๆก็ได้หลานมาด้วยเธอจึงหันไปคุยอวดผู้เป็นพี่สาวว่าจะมีหลานยกใหญ่“แล้วนี่ท้องได้กี่เดือนแล้วจ้ะลูกแก้ว” พลอยไพลินที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆก็นั่งยิ้มดีใจกับน้องสาวของตนที่จะมีครอบครัวและมีคนที่ดีๆดูแลซะที“สี่เดือนแล้วค่ะพี่พลอยไม่โกรธแก้วใช่ไหมคะที่แก้วไม่ได้บอกพี่พลอยก่อน”“พี่จะโกรธทำไมพี่รู้ว่าลูกแก้วเป็นคนมีเหตุผลพี่ดีใจน้าที่น้องสาวพี่มีคนดีๆอย่างคุณพรีมดูแล” สองพี่น้องโอบกอดกันภาพตอนนี้ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่น“ดีจังเลยนะครอบครัวเราจะมีสมาชิกเพิ่มอีกตั้งสองคนแน่ะ” ดวงแขคราแรกก็ตกใจกับเรื่องที่พีรพัตรโพล่งพูดออกมารวดเดียวแต่ก็รู้สึกว่ามันเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลาจับคู่เธอดีใจที่
ทุกคนนั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันที่โต้ะอาหารยกเว้นจอมขวัญตอนนี้ที่ยังไม่กลับดวงแขนั่งทานข้าวไปคุยกับลูกๆหลานๆบนโต๊ะไปก็สังเกตเห็นลูกชายของตนนั่งเกาะแขนคนเป็นภรรยาอยู่นานแล้วไม่ยอมปล่อยเสียทีเธอจึงเอ่ยถามขึ้น“แล้วนั่นเป็นอะไรอีกล่ะตาพอลกลัวหนูพลอยจะหายหรือไงเกาะไม่ปล่อยซะขนาดนั้น”“คือพี่พอลบอกว่าเค้าอยู่ใกล้ๆพลอยแล้วอาการดีขึ้นน่ะค่ะคุณแม่ตั้งแต่ตื่นมาก็ไม่ยอมห่างเลยค่ะ” หญิงสาวตอบคนเป็นแม่สามีด้วยสีหน้าที่อ่อนใจเธอเองก็รู้สึกชักจะรำคาญคนตัวโตอยู่เหมือนกันที่เอาแต่เกาะไม่ปล่อยตอนนี้หญิงสาวรู้สึกเหมือนเธอมีลูกชายเพิ่มมาอีกคน“ใช่ครับคุณแม่เวลาผมอยู่ใกล้พลอยแล้วไอ้อาการเวียนหัวมันก็ดีขึ้นทุกทีเลยครับเลยต้องเกาะกันอยู่แบบนี้” เขาเองตอบตามความจริงเมื่ออยู่ใกล้ภรรยาทีไรอาการเขาก็ดีขึ้นทุกทีเลยจำเป็นต้องเกาะกันแจอยู่แบบนี้“อย่างงั้นเองเหรอ” ดวงแขนึกสงสารทั้งลูกชายและลูกสะใภ้แต่ก็คิดว่าพอลูกสะใภ้เธอท้องโตอีกหน่อยอาการของลูกชายเธอก็คงจะหายไปเองตอนนี้ก็ทำได้แต่ให้กำลังใจทั้งสองให้อดทนเอาหน่อย“คงเป็นเพราะอาการแพ้ท้องแทนเมียน่ะค่ะคุณพี่อีกหน่อยคงดีขึ้นเอง”“พี่ก็ว่างั้นแหละ”“ผมว่าอ
ครื้นๆๆๆเปรี้ยง“ว้าย...” จอมขวัญกรี๊ดลั่นเพราะตกใจกับเสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่าหญิงสาวเกลียดเสียงฟ้าร้องเป็นที่สุดด้วยความกลัวตั้งแต่เด็กๆหญิงสาวเอามือป้องปิดหูด้วยความตกใจนั่งตัวสั่นทิ้งตัวลงอยู่บนโซฟาด้วยความกลัว จอมขวัญที่นั่งรอธาวินอยู่ในบ้านของเขาตั้งแต่เช้าแต่ก็ยังไม่เห็นชายหนุ่มจะกลับมาเสียทีเธอพยายามโทรหาชายหนุ่มอยู่หลายรอบแต่ก็โทรไม่ติดไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปไหนเพราะไม่ได้บอกไว้ ตอนที่เธอมาถึงที่นี่ก็ลองเดินเข้าไปในสวนหญิงสาวถามหาชายหนุ่มจากคนงานในสวนที่กำลังทำงานกันอยู่ก็ได้คำตอบมาว่าไม่รู้ว่าเจ้านายหนุ่มของพวกเขาอยู่ไหนเหมือนกันได้แต่สั่งงานไว้แล้วก็ออกไปตั้งแต่เช้า“พี่วินนะพี่วินไปไหนของเค้ากันนะไม่บอกกันสักคำ” หญิงสาวชะโงกหน้าไปมองที่หน้าบ้านยืนบ่นด้วยสีหน้ากังวลแต่สายตาก็มองหาภาวนาให้ชายหนุ่มกลับมาเสียทีติ้ดดดดๆๆๆๆ“หาแบตหมด...โอ้ย..” จอมขวัญกำลังจะกดโทรศัพท์โทรหาแผ่นดินเพื่อที่จะให้มาเธอรับที่บ้านของธาวินเพราะหญิงสาวคิดว่าวันนี้ชายหนุ่มคงจะยังไม่กลับมาในเร็วๆนี้แน่ เธอคิดว่าตอนนี้คนที่บ้านต้องเป็นห่วงถ้าเธอกลับดึกกว่านี้แต่มือถือเจ้ากรรมก็ดันมาแบตหมดเอาดื้อๆตอนน
“ขวัญฟังพี่นะจับมือพี่ไว้ห้ามปล่อยเข้าใจไหม..ใส่ไอ้นี่เอาไว้แล้วขวัญจะปลอดภัย” ธาวินยังไม่ยอมเปิดประตูรถเขานั่งอยู่ในรถหยิบเสื้อเกราะให้หญิงสาวใส่พร้อมกำชับกับเธอว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นห้ามปล่อยมือเขาเด็ดขาดเขาหยิบรีบปืนออกมาจากหลังรถและจับมือหญิงสาวเอาไว้แน่น“นี่มันอะไรกันคะพี่วิน” จอมขวัญถามธาวินหน้าตาตื่นเมื่ออยู่ดีๆชายหนุ่มมีเสื้อเกราะติดรถไว้แล้วหยิบมาให้เธอใส่แถมในหลังรถยังมีอาวุธปืนอีกตอนนี้เธอสับสนไปหมดในใจเธอคิดว่าชายหนุ่มแค่ทำสวนจะต้องมีอาวุธครบมือขนาดนี้เชียวเหรอ“พี่ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว..เราต้องรีบหนี”“เดี๋ยวค่ะทำไมเราไม่ขับฝ่าเข้าบ้านขวัญไปเลยล่ะคะ”“ไม่ได้ขวัญเดี๋ยวคนอื่นจะเป็นอันตรายไปด้วย” เพื่อความปลอดภัยของทุกคนชายหนุ่มไม่เลือกใช้วิธีที่หญิงสาวบอกแน่ๆปังๆๆๆๆ“ลงมาเดี๋ยวนี้แสบนักนะแก” เสี่ยวันชัยเมื่อไม่เห็นคนบนรถลงมากันสักทีทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าหนีพวกเขาไม่รอดเพราะเขาได้สั่งลูกน้องล้อมเอาไว้หมดแล้วเขาแค้นใจยิ่งนักที่หลงไว้ใจไม่คิดว่าธาวินจะเป็นหอกข้างแคร่ที่คอยทิ่มแทงเขาอยู่ตลอดเวลาโดยที่เขาไม่นึกเอะใจซ้ำยังลูกสาวของเขาเองยังหลงธาวินหัวปลักหัวปลำอีกต่างหาก
เช้าวันต่อมา“คุณขวัญครับ....คุณขวัญ”“อืม..” หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นเพราะได้ยินเสียงเรียกของใครบางคนที่เธอไม่คุ้นหู“คุณเป็นใครคะ” เมื่อจอมขวัญเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงของเธอชัดก็ถึงกับต้องถดตัวหนีอย่างรวดเร็วเพราะเกรงว่าจะเป็นคนร้าย“เอ่อไม่ต้องตกใจครับครับพอดีพี่วินบอกให้ผมมารับคุณไปส่งที่บ้านผมหมวดจักรพงษ์เรียกผมว่าหมวดพงษ์ก็ได้ครับ” จักรพงษ์ยิ้มให้หญิงสาวที่ดูจะกลัวเขาเหลือเกินเมื่อรู้ว่าเขาเป็นใครก็เริ่มตั้งสติได้แล้วถามหาธาวินผู้เป็นหัวหน้าของเขาทันที ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้านี้คงเป็นคนที่สำคัญต่อหัวหน้าของเขามากถึงขนาดเจ็บปางตายยังนึกห่วงบอกให้เขามาดูแลเธออย่าให้คลาดสายตาและยังห้ามบอกอีกว่าเขาบาดเจ็บสาหัสให้โกหกเธอว่าอะไรก็ได้เธอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง“ค่ะ..เอ่อ....แล้วพี่วินล่ะคะ”“คุณวินสั่งให้ผมมารับคุณไปส่งที่บ้านครับแต่ไม่ได้บอกว่าเค้าอยู่ไหน”“ค่ะ” จอมขวัญพยักหน้ารับแล้วเดินก้มหน้าตามนายตำรวจหนุ่มออกมาจากฐานลับแล้วเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ห่างออกจากฐานพอสมควรแล้วหมวดหนุ่มก็พาหญิงสาวกลับบ้านทันที“ยัยขวัญกลับมาแล้วตาพรีม” พิไลมองออกไปดูว่ารถใครมาจอดที่หน้าบ้านเมื่อเ
“ถ้าพวกคุณอยากรู้อาการของหัวหน้าเดี๋ยวผมจะแจ้งเรื่องมาเป็นระยะๆนะครับ” จักรพงษ์เห็นว่าชายหนุ่มทั้งสองดูเป็นห่วงหัวหน้าของตนมากเลยอาสาจะรายงานอาการของหัวหน้าของเขาให้ชายหนุ่มทั้งสองเป็นระยะๆ“ขอบคุณมากครับหมวด”“ถ้าเรียบร้อยแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” หลังจากจักรพงษ์คุยธุระเสร็จก็ขอตัวกลับในทันทีเพราะเขาก็อยู่ที่นี่ค่อนข้างที่จะนานแล้วต้องรีบกลับไปเคลียคดีที่ค้างไว้ต่อแล้วเขาก็จะรีบไปดูอาการของผู้เป็นหัวหน้าที่นอนเจ็บปางตายด้วย เขาเองนับถือชายหนุ่มจริงๆที่ลุยเดี่ยวกับพวกที่มีฝีมือทางการต่อสู้ป็นสิบแบบไม่กลัวตายแถมยังดวงแข็งที่กระสุนเจาะร่างเกือบพรุนยังใจแข็งรอดมาได้อีกเป็นเขาคงตายตั้งแต่ต่อสู้กับไอ้พวกสิบกว่าคนนั้นแล้วห้าวันต่อมา“อ้าวหายดีแล้วเหรอยัยขวัญแล้วตื่นมาทำไมแต่เช้า” คุณหญิงดวงแขที่นั่งจิบกาแฟอยู่หน้าบ้านตอนเช้าเป็นประจำเห็นหลานสาวที่ดูว่าพึ่งจะฟื้นจากไข้ตื่นมาแต่เช้าก็นึกเป็นห่วงอยากจะให้พักผ่อนนานๆแต่หลานสาวเธอดันตื่นเช้าพอจะเดาออกว่าทำไมหลานสาวเธอถึงรีบตื่นมาขนาดนี้“ขวัญโอเคแล้วค่ะคุณป้าคุณแม่อยู่ไหนเหรอคะ” จอมขวัญที่พึ่งฟื้นไข้เมื่อรู้สึกว่าร่างกายของเธอดีขึ้น
“ค่ะ” พีรพัตรคิดว่าถ้าน้องสาวเขาได้อยู่กับภรรยาของเขาเธอคงจะคุยกันตามประสาเพื่อนสาวคงจะลืมนึกถึงเรื่องของธาวินได้บ้างเพราะเขาเองเมื่อเห็นอาการของจอมขวัญก็ไม่อยากจะเข้าไปอยู่ใกล้น้องสาวเขาเท่าไรแค่นี้ก็คงจะเหม็นขี้หน้าพี่ชายคนนี้เต็มทนแล้วละมั้งที่ออกคำสั่งยื่นคำขาดกับเธอขนาดนั้นก๊อกๆๆๆๆ“ขวัญนี่ฉันเอง”“เข้ามาเลยประตูไม่ได้ล็อค” จอมขวัญได้ยินว่าเป็นเสียงของเพื่อนสาวจึงบอกให้เข้ามาได้หวังว่าพี่ชายตัวดีของเธอจะไม่ตามมาด้วยนะ“แกมาคนเดียวใช่ป่ะ” จอมขวัญชะเง้อมองว่าจะมีใครตามเธอเข้ามาด้วยหรือเปล่าถ้ามีคนนั้นตามมาแบบที่เธอคิดจริงๆคงทำให้เธออารมณ์บูดอีกเป็นแน่“ก็ใช่น่ะสิแกว่าใครจะตามมาด้วยล่ะ” ลูกแก้วเห็นท่าชะเง้อของจอมขวัญแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้คงคิดว่าสามีเธอจะตามมาด้วยล่ะสิ“ป๊าวววว” จอมขวัญตอบปฏิเสธเสียงสูงทันที“แค่นี้ต้องเสียงสูงด้วย”“แก้วหลานฉันเป็นยังไงบ้างฉันอยากให้หลานคลอดแย่แล้ว” จอมขวัญนอนคว่ำใช้แขนทั้งสองข้างชันหน้าขึ้นแล้วหันมาคุยกับลูกแก้วเธอรู้เรื่องของลูกแก้วกับพี่ชายของเธอตั้งแต่ที่ลูกแก้วมาเยี่ยมเธอตอนนอนป่วยแล้ว เมื่อเห็นหน้าท้องของเพื่อนสาวยื่นออกมาก็เกิดการ