Share

บทที่หกสิบ

“อ้าวคุณน้าสวัสดีครับ”   แผ่นดินที่กำลังเดินจูงมือยัยหนูชมพูที่เริ่มเดินได้แข็งแล้วเมื่อเห็นผู้เป็นน้าเขยก็รีบยกมือสวัสดีทำเอายัยหนูชมพูยกมือขึ้นสวัสดีตาม

“จ้า”    ยัยหนูชมพูยกสองมือป้อมๆตามผู้เป็นพ่อแล้วส่งเสียงสวัสดีตามที่ผู้เป็นแม่เคยสอนแต่ก็ดันพูดออกมาได้คำเดียวว่าจ้าทำเอาทุกคนที่ยืนอยู่ต่างขำกับท่าทีของเด็กหญิงตัวกลมคนนี้กันยกใหญ่

“โอ้โหหลานปู่ไหว้สวยจังเลยค่ามาให้ปู่หอมหน่อยเร็ว”   พอพิศิษฐ์ได้เห็นท่าทางของหลานก็รู้สึกเอ็นดูลูกของหลานชายเขาทำไมถึงได้จ้ำม่ำน่าฟัดขนาดนี้เขาทำท่าชูสองแขนให้ยัยหนูมาหาเมื่อยัยหนูเดินมาหาเขาก็อุ้มก่อนที่เขาหอมที่แก้มย้วยๆไปหนึ่งฟอด

“ลูกเราพูดได้หลายคำหรือยังเนี่ยตาพอล”   เมื่อสักครู่พิศิษฐ์เห็นหลานพูดจ้าได้ก็เลยอยากรู้ว่าหลานสาวเขาพูดได้กี่คำแล้ว

“ตอนนี้ก็พูดได้ทีละคำครับแต่ก็ยังได้ไม่เยอะเรียกพ่อกับแม่กับหม่ำๆได้แค่นี้ผมก็ดีใจแล้วครับ”   แผ่นดินดีใจมากตอนที่ได้ยินว่ายัยหนูเรียกพ่อกับแม่ได้ตอนนั้นเขารู้สึกไม่เชื่อหูตัวเองเลยเค้นให้ยัยหนูพูดอยู่หลายรอบจนพลอยไพลินต้องปรามอาการเห่อที่ลูกพูดได้ของเขายกใหญ่ไม่อย่างนั้นคงให้ลูกพูดทั้งวันไม่หยุดแน่ๆ

“ไหนลองเรียกปู่สิคะ...ปู่”  พิศิษฐ์ทำปากจู๋พูดคำว่าปู่ให้หลานได้ดูยัยหนูก็ทำปากจู๋ตามคนเป็นปู่แต่ก็ไม่ออกเสียงเวลาที่ยัยหนูทำปากจู๋ก็เรียกเสียงหัวเราะให้กับคนในบ้านอย่างมากมาย

“อู่...อู่...ฟู่ๆๆ”

“ฮ่าๆๆๆๆ”   เด็กหญิงตัวกลมเปลี่ยนจากทำปากจู๋เป็นพูดคำว่าอู่แล้วเป่าลมฟู่ๆออกมาทำเอาทั้งปู่ทั้งย่าทั้งคนเป็นพ่อต่างหัวเราะกันท้องแข็ง

“ตาพอลนั่นใครมาไปดูซิ”

“ครับคุณแม่”   แผ่นดินเดินอกมาที่หน้าบ้านตามคำสั่งของคนเป็นเม่เมื่อเดินออกมาก็เห็นหญิงวัยกลางคนที่นั่งรถยนต์คันหรูเข้ามาเขารู้สึกแปลกใจว่าเธอเข้ามาที่นี่ทำไมเพราะเขาก็ไม่เคยเห็นหน้าจะว่าเป็นเพื่อนของแม่เขาหรือก็ไม่น่าจะใช่เพราะเพื่อนของแม่เขาถ้าจะมาก็ต้องนัดกับแม่เขาก่อนอยู่แล้ว

“สวัสดีครับมาหาใครเหรอครับ”

“สวัสดีจะฉันเป็นป้าของตาวินน่ะแม่ของหนูขวัญอยู่ที่นี่หรือเปล่าจ้ะ”

“อ๋ออยู่ครับคุณป้างั้นเชิญด้านในเลยครับ”    เมื่อแผ่นดินรู้ว่าหญิงแปลกหน้าคนนี้ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหนเป็นป้าของธาวินเลยเชิญเข้ามาคุยที่บ้านเพราะคนที่เธอถามหาก็กำลังนั่งอยู่ด้านในพอดี

     หลังจากวรรณาแนะนำตัวกับทุกคนเรียบร้อยเพื่อเป็นการที่จะไม่ให้เสียเวลาและรบกวนเวลาของทุกคนมากนักเธอจึงเริ่มพูดประเด็นที่ทำให้เธอต้องมาวันนี้เลยคิดว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้อยู่ว่าคนของตนคิดอย่างไรและวรรณาเองก็ไม่อยากให้ฝ่ายหญิงเสียหาย

     ตัวเธอเองก็เป็นญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชายเพื่อไม่ให้ฝ่ายหญิงเสียหายจึงขอที่จะหมั้นหมายเพื่อเป็นการรับผิดชอบไว้ก่อนเพื่อไม่ให้เป็นขี้ปากชาวบ้านเธอบอกว่าเมื่อหลานชายเธอหายดีเมื่อไรก็จะมาทำพิธีให้ถูกต้องซึ่งทางฝ่ายพ่อแม่ของจอมขวัญเองก็ไม่ได้ติดขัดอะไรเพราะเห็นว่าธาวินเป็นคนดี

    เมื่อทั้งสองคนรักกันพวกเขาก็จะไม่ห้ามและยิ่งไปกว่านั้นที่พวกเขาคิดว่าธาวินจะดูแลลูกสาวเขาได้แน่ๆก็เพราะชายหนุ่มเป็นถึงทายาทธุรกิจพันล้านนี่ถ้าคนเป็นป้าไม่บอกเองก็คงจะไม่มีใครรู้เพราะชายหนุ่มไม่ชอบที่จะอวดใครอยู่แล้ว

    แต่ถึงธาวินจะเป็นแค่เจ้าของสวนธรรมดาพ่อแม่ของจอมขวัญก็ไม่เคยรังเกียจอยู่แล้วขอแค่เป็นคนดีเป็นคนที่ลูกรักพวกเขาก็พร้อมที่จะยอมรับเพราะเชื่อว่าคนอย่างธาวินจะไม่มีวันทำให้จอมขวัญเสียใจแน่นอน

“เรื่องนี้ดิฉันขอมาคุยก่อนนะคะเพื่อเป็นการบอกว่ายังไงทางเราก็รับผิดชอบหนูจอมขวัญแน่ๆ...ส่วนเรื่องบอกหนูขวัญตาวินแกบอกไว้ว่าแกจะเป็นคนบอกเองค่ะเมื่อเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยเขาจะเข้ามาคุยเรื่องนี้ด้วยตัวเองค่ะ”

“ค่ะคุณวรรณาดิฉันเข้าใจค่ะคงต้องปล่อยให้เด็กๆเค้าเคลียกันไปก่อน”

“ยังไงดิฉันขอตัวกลับเลยนะคะรบกวนเวลาพวกคุณมานานแล้วค่ะ”  เมื่อวรรณาคุยธุระเสร็จเรียบร้อบก็ขอตัวกลับเพราะเธอคิดว่ารบกวนเวลาของคนบ้านนี้มานานมากแล้ว

      อยู่ดีๆก็จะไปแต่งงานกับคนอื่นเสียอย่างนั้นหญิงสาวนอนทำใจได้สักพักก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำคิดว่าน่าจะทำให้เธอสดชื่นขึ้นมาบ้าง

“ในเมื่อพี่วินกำลังที่จะมีความสุขเธอก็ควรจะยินดีกับ     พิไลทำใจไว้แล้วว่าเรื่องของลูกสาวเธอจะต้องเป็นเรื่องที่พูดกันสนุกปากของคนทั่วไปแน่ๆแต่เรื่องจริงเธอเองรู้อยู่ว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเธอจึงไม่คิดที่จะห้ามลูกสาวและยังไงก็เชื่อว่าธาวินเองก็คงที่จะไม่ยอมให้จอมขวัญเสื่อมเสียชื่อเสียงแน่นอนซึ่งมันก็จริง

     ลูกสาวเธอกำลังจะมีครอบครัวแล้วสินะคราแรกก็ดีใจว่าลูกสาวจะได้มีครอบครัวเสียทีแต่ก็รู้สึกใจหายเมื่อคิดว่าจะไม่ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของลูกสาวตนบ่อยๆอีกแล้ว

     เมื่อวรรณาจัดการธุระตามที่ชายหนุ่มขอร้องเสร็จเธอก็ต้องรีบบินกลับอิตาลีทันทีเพราะต้องรีบไปเคลียงานทางโน้นให้เรียบร้อยเพื่อที่จะรอฟังข่าวดีจากหลานชายแล้วจะได้รีบบินกลับมาที่เมืองไทยอย่างสบายใจไม่ต้องห่วงเรื่องงาน

2 อาทิตย์ต่อมา

     ตอนนี้ร่างกายของธาวินเริ่มที่จะกลับมาเป็นปกติแล้วพอร่างกายโอเคเขาก็ได้ไปลาออกจากราชการทันทีจนเรียบร้อยแล้วเขาก็ได้เริ่มเข้ามาดูงานที่สวนตามปกติโดยมีจอมขวัญช่วยอยู่ไม่ห่าง

17.00 น.

“พี่วินคะมะม่วงในสวนลูกดกมากเลยนะคะ”    เมื่อคนงานในสวนกลับหมดแล้วจอมขวัญจึงเดินตามธาวินเข้ามาในบ้านเธอรู้สึกภูมิใจในต้นมะม่วงของเธอที่เธอคอยเฝ้าถามวิธีการดูแลต่างๆจากพวกคนงานและหาข้อมูลเพิ่มเติมในอินเตอเน็ตจนทำให้ต้นมะม่วงให้ผลผลิตออกมามากมายแถมยังสมบูรณ์อีกด้วย

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status