Share

บทที่ห้า

“ไม่ได้หรอกค่ะคุณหญิง พลอยพูดคำไหนคำนั้นค่ะ ให้พลอยได้ทำงานให้คุณหญิงนะคะ”  ดวงแขเห็นแววตามุ่งมั่นของหญิงสาวตรงหน้าก็คิดว่าคงขัดอะไรไม่ได้คงต้องหาอะไรให้เธอช่วยทำเสียแล้ว

“เอ้า เอาอย่างนี้ก็ได้ หนูพลอยเรียนพยาบาลมาใช่ไหมจ้ะ พอดีลูกชายของฉันเค้าประสบอุบัติเหตุตอนนี้เดินไม่ได้มาปีกว่าแล้ว แต่ก็ไม่ยอมทำกายภาพสักทีหนูพอจะช่วยได้ไหม”

“ได้ค่ะคุณหญิง พลอยทำกายภาพเป็นค่ะ แล้วให้พลอยเริ่มงานวันไหนดีคะ”   สาวเจ้ายิ้มตาเป็นประกายดีใจที่จะได้ตอบแทนผู้มีพระคุณตามที่ตนหวังไว้

“เอ่อ เริ่มน่ะก็เริ่มได้เลยแต่ลูกชายฉันน่ะ อารมณ์ร้ายอยู่พอตัวหนูไหวใช่ไหมจ้ะ”

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงค่ะคุณหญิง หนูว่าหนูรับมือไหวค่ะ สู้ค่ะ”   พลอยไพลินเอ่ยเสียงชัดแจ๋วจากที่เคยมีประสบการณ์เป็นพยาบาลเธอเจอคนไข้มาทุกประเภทแล้วเธอคิดว่าเธอรับมือไหว

“5555555 โอเค”   ดวงแขหัวเราะร่าเมื่อเห็นท่าทางที่มุ่งมั่นของพลอยไพลินเธอเอ็นดูสาวน้อยตรงหน้าคนนี้จริงๆเลยคิดในใจหวังว่าหนูพลอยไพลินคงรับมือลูกชายของเธอได้ดีกว่าพยาบาลคนก่อนๆที่เข้ามา

“แต่ว่าหนูต้องอยู่ที่บ้านนั่น24ชั่วโมงเลยนะและไม่ต้องห่วงเรื่องยัยหนูชมพูนะฉันจะให้หนูพลอยกับยัยหนูชมพูและหนูแก้วไปอยู่ที่เรือนเล็กในฐานะญาติสนิทของฉันหนูโอเคใช่ไหม จะได้ไม่ต้องเดินทางไปกลับให้เหนื่อย”

“แต่ว่าจะดีเหรอคะคุณหญิงพลอยเกรงใจค่ะพลอยเดินทางไปกลับได้ค่ะอีกอย่างยัยหนูก็ฝากลูกแก้วไว้ได้ค่ะเพราะลูกแก้วรับแค่งานฟรีแลนซ์”

“ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอกจะ ฉันเองก็แก่แล้วอยากจะมีหลานแต่ลูกชายคนเดียวก็ดันมาพิการคู่หมั้นเค้าก็เลยทิ้งถ้ามียัยหนูชมพูไปอยู่ด้วยคงหายเหงา เพราะฉันกะว่าจะวางมือเรื่องงานจริงๆจังๆ ซักทีเธอคงไม่ขัดอะไรใช่ไหมถ้าฉันจะขอเลี้ยงดูยัยหนูชมพูเหมือนหลานคนนึงน่ะจะ”

ดวงแขพูดจากใจจริง เพราะเธอรู้สึกเอ็นดูยัยหนูชมพูตั้งแต่แรกเห็นยิ่งรู้ว่าเป็นลูกสาวของพลอยไพลินเธอยิ่งเอ็นดูมากขึ้นไปอีก

“...” เมื่อพลอยไพลินได้ยินเช่นนั้นจึงไม่ได้ขัดอะไรเธอคิดว่าคุณหญิงเธอคงเหงาจริงๆและถ้ายัยหนูชมพูทำให้ผู้มีพระคุณของเธอมีความสุขได้โดยที่เธอไม่ได้ลำบากใจอะไรเธอก็ยินดีที่จะพายัยหนูไปอยู่ด้วยตามที่คุณหญิงบอก

“ถ้าคุณหญิงต้องการแบบนั้นพลอยก็ยินดีค่ะ”    หญิงสาวแอบสงสารลูกชายของคุณหญิงเหมือนกันที่โชคร้ายประสบอุบัติเหตุจนเดินไม่ได้แล้วยังจะโดนคู่หมั้นทิ้งอีกพลอยไพลินรู้ดีว่าคุณหญิงคงจะเสียใจมากที่ลูกชายเจอเรื่องแบบนี้เพราะคนเป็นแม่เมื่อเห็นลูกเจ็บแม่ย่อมเจ็บกว่า

“ส่วนลูกแก้วฉันว่าจะทาบทามให้มาทำบัญชีที่บริษัทและก็เป็นเลขาผู้บริหารด้วยเพราะฉันไว้ใจและเชื่อใจว่าลูกของแม่น้อยไว้ใจได้ ฉันจะได้สบายใจพักอยู่บ้านอย่างหายห่วงหนูพลอยว่าดีไหม”

“พลอยว่าคุณหญิงลองถามเจ้าตัวดีกว่านะคะ”   ทั้งสองคุยกันได้สักพักก็แยกย้ายกันกลับคุณหญิงดวงแขให้พลอยไพลินกลับไปเตรียมตัวย้ายมาอยู่ที่เรือนเล็กของไร่บดินทร์เดชา ที่ห่างจากบ้านของเธอราวๆ 30 กิโลได้

แม้จะดูไม่ไกลกันมากแต่ถ้าขับรถไปกลับก็คงจะเหนื่อยอยู่เหมือนกันคุณหญิงคิดถูกแล้วที่ให้ทั้งพลอยไพลินลูกแก้วและยัยหนูชมพูย้ายไปอยู่ที่โน่นซะเลยส่วนกิจการซักรีดคุณหญิงบอกว่าจะจ้างคนมาดูแลต่อให้ไม่ต้องห่วงขอแค่พลอยไพลินช่วยลูกชายเขาให้หายดีก็พอเมื่อหายแล้วพลอยไพลินจะกลับมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรือจะอยู่ที่เรือนเล็กที่ไร่เธอก็ยินดี

ทางด้านพลอยไพลินเมื่อกลับมาถึงบ้านก็ได้คุยกับลูกแก้วเรื่องที่คุณหญิงดวงแขจะให้ทั้งคู่ไปช่วยงานและก็ย้ายไปอยู่ที่โน่นเลยซึ่งลูกแก้วก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรพลอยไพลินตัดสินใจแบบไหนเธอก็ว่าตามนั้น

ย้อนปมอดีตที่แสนปวดร้าว

“พลอยมีผู้หญิงมาขอพบเธอน่ะ เขาบอกว่าจะรออยู่ตรงสวนข้างตึกได้นัดใครไว้หรือเปล่า”  น้ำฝนเพื่อนที่เป็นพยาบาลและทำงานอยู่แผนกเดียวกับพลอยไพลินเดินมาหาหญิงสาวที่กำลังนั่งทำเอกสารอยู่บนโต๊ะพร้อมทั้งรีบบอกว่ามีคนมารอพบ

“เปล่านะ พลอยไม่ได้นัดใคร งั้นเดี๋ยวพลอยออกไปดูก่อนนะ”   พลอยไพลินวางเอกสารที่ทำอยู่และรีบเดินออกไปดูว่าใครมาหาเธอระหว่างเดินก็พลางคิดว่าใครเพราะเธอเองก็ไม่ค่อยได้รู้จักกับใครมากนักเพื่อนที่เรียนด้วยกันก็ห่างหายกันไปเพราะเธอไม่ค่อยได้ไปเจอเพื่อนเท่าไรหญิงสาวมัวแต่มุ่งทำแต่งานอย่างเดียวจะมีก็แต่ไปกินข้าวกับแฟนหนุ่มเธอบ้างเป็นครั้งคราว ขนาดแฟนหนุ่มเธออยากให้ไปกินข้าวที่บ้านของเขาบ้างเธอยังตอบปฏิเสธไปหลายครั้งเลย เพราะเธอห่วงงาน

พลอยไพลินเดินมาถึงที่สวนข้างตึกของผู้ป่วยใน หญิงสาวกำลังมองผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะหินอ่อนหญิงสาวไม่แน่ใจว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของเธอจะใช่คนที่มารอพบเธอหรือเปล่าเพราะที่เห็นจากการแต่งตัวที่ใส่แบรนด์เนมทั้งตังแถมยังสวยยังกะนางแบบอีก

“ไม่ทราบว่าคุณได้มาขอพบฉันหรือเปล่าคะ”   หญิงสาวตรงหน้าพลอยไพลิน หันมามองเธอด้วยสายตาที่สำรวจตัวเธออย่างไม่เกรงใจ

“เธอเองเหรอพลอยไพลิน”  พลอยไพลินเมื่อได้ยินคำถามก็ถึงกับงงว่าผู้หญิงคนนี้รู้จักตัวเธอได้ยังไงแถมน้ำเสียงที่ถามก็ดูไม่เป็นมิตรอีกทำให้หญิงสาวชักเริ่มอึดอัดขึ้นมาทันที

“เอ่อ ใช่ค่ะ คุณมาพบฉันมีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ”  พลอยไพลินไม่อยากอยู่ตรงนี้นาน ในเมื่อผู้หญิงตรงหน้ามีธุระที่จะคุยกับเธอเธอก็อยากคุยให้จบๆไปเพราะเริ่มที่จะไม่ชอบน้ำเสียงและสายตาที่ผู้หญิงคนนี้แล้ว

“ฉันชื่อฐิตา เป็นคู่หมั้นของแผ่นดินและเราก็กำลังจะแต่งงานกันและฉันก็กำลังท้องได้สองเดือนแล้วด้วย”   ฐิตาไม่พูดเปล่าเธอโชว์ผลตรวจว่าท้องให้หญิงสาวตรงหน้าดู...เมื่อพลอยไพลินได้ยินคำพูดที่เน้นถ้อยเน้นคำออกมาจากผู้หญิงตรงหน้าแถมยังมีหลักฐานยืนยันว่าหญิงสาวท้องจริงพลอยไพลินเธอถึงกับหน้าซีดตัวชาไปในทันทีเหมือนมีใครมาจับร่างเธอขึงเอาไว้ยังไงยังงั้น

“แล้วเธอก็ควรที่จะเลิกยุ่งกับเค้าซะจะบอกอะไรให้นะว่าแผ่นดินเค้าไม่เคยคบใครนานหรอกเค้าแค่รักสนุกเท่านั้นเอง ที่ฉันบอกเธอถือว่าเอาบุญเธอจะได้เลิกโง่ซะทีแผ่นดินเค้าเป็นถึงผู้บริหารของบริษัท B.D.D groupแล้วเธอเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าคิดดูนะว่าระหว่างเธอที่เป็นเด็กกำพร้าทำงานเป็นพยาบาลกับฉันที่เป็นทายาทนักธุรกิจเค้าจะเลือกใครเธอควรจะรู้ตัวเองนะว่าเธอควรอยู่ตรงไหน ฉัน...ขอ...ตัว”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status