เป็นเวลาสามวันที่แผ่นดินทำใจและวันนี้จะเป็นวันที่เขาจะต้องคุยกับพลอยไพลินให้รู้เรื่องให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นชายหนุ่มตัดสินใจไปหาหญิงสาวที่หน้าบ้านของเธอดีกว่าไปหาที่โรงพยาบาลเพราะหากเกิดการทะเลาะกันที่นั่นคงจะทำให้เธอดูไม่ดีในสายตาคนที่ทำงาน
ถึงแม้ว่าเขาจะเคยมาที่นี่เพียงครั้งเดียวแต่เขาก็จำทางได้แม่นเพราะชายหนุ่มจดจำรายละเอียดของคนรักเกือบทุกอย่างแม้กระทั่งอาหารการกินว่าชอบกินอะไรหรือไม่ชอบอะไร
ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ฟ้ามืดแล้วแผ่นดินก็ไม่ยักเห็นว่าจะมีใครมาที่บ้านมีเพียงหญิงสูงวัยเดินออกมาเขาจึงรีบเปิดประตูรถลงไปถามทันทีว่าคนที่อยู่บ้านนี้เค้าทำไมยังไม่กลับกัน
หญิงสูงวัยเห็นเป็นคนแปลกหน้าคราแรกแกก็ไม่ไว้ใจแต่พอถามชื่อและได้คำตอบว่าชื่อแผ่นดินตรงกับคนที่พลอยไพลินฝากจดหมายไว้ให้จึงยื่นจดหมายให้กับชายหนุ่มและบอกว่าพลอยไพลินได้ย้ายออกเมื่อสองวันที่แล้วและก็ฝากจดหมายไว้ให้เขา
เมื่อหมดธุระของหญิงสูงวัยเธอก็เดินกลับไปบ้านของเธอทันทีทิ้งให้ชายหนุ่มยืนอึ้งกับเรื่องที่พึ่งได้รับรู้อยู่อย่างนั้นแผ่นดินรีบเข้าไปในรถเปิดจดหมายอ่าน ใจความในจดหมายเขียนว่าพลอยไพลินมีคนรักอยู่แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอขอโทษที่ไม่ได้บอกและขอให้จบกันด้วยดีอย่าตามหาเธอและขอให้ชายหนุ่มลืมเรื่องราวระหว่างเธอและเขาไปเสีย
เมื่ออ่านจบมือหนาก็กำกระดาษแน่นเขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไอ้โง่คนหนึ่งที่เคยเป็นเสือยอมถอดเล็บสยบให้กับผู้หญิงคนนี้เขาให้ทั้งความรักความหวังดีให้กับเธอมาโดยตลอดแต่ผลตอบแทนที่เธอได้ให้กับเขาคือความเจ็บปวดเจ็บแบบไม่เคยเจ็บมาก่อนถึงแม้จะไม่มีแผลแต่ตอนนี้เหมือนหัวใจเขาโดนเฉือนโดยน้ำมือของหญิงคนรักไปแล้ว
แผ่นดินขับรถมาที่ผับดื่มเหล้าย้อมใจจนเมาแถมมีเรื่องชกต่อยกับคนในผับก่อนกลับ...เหตุการณ์ดันไม่จบแค่นั้นด้วยความเมาแล้วขับทำให้เขาเกิดอุบัติเหตุจนพิการเดินไม่ได้อยู่โรงพยาบาลเป็นเดือนหลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนเป็นคนละคนไม่ค่อยยอมพูดจากับใครงานที่บริษัทก็ไม่สนใจจนคนเป็นแม่ต้องเจียดเวลามาดูกิจการให้ทั้งที่งานตัวเองก็ยุ่งดีที่ยังมีลูกพี่ลูกน้องของเขาดูแลบริษัทของแผ่นดินแทนไปก่อน
ส่วนแผ่นดินเองก็ย้ายไปอยู่บ้านไร่ที่ต่างจังหวัดและยังขลุกอยู่แต่ในห้องไม่ยอมรักษาหมอคนไหนที่มารักษาก็โดนคนเจ้าอารมณ์ไล่ตะเพิดไปหมดฐิตาที่เคยติดเขาแจยังรับสภาพที่เขาเป็นตอนนี้ไม่ได้เลยยอมถอนหมั้นและไม่ได้สนใจชายหนุ่มอีกเลย
21.00 น.
เป็นเวลาสองวันแล้วที่คุณหญิงดวงแขให้เวลาพลอยไพลินเตรียมตัวเพื่อที่จะย้ายไปอยู่เรือนเล็กที่ไร่บดินทร์เดชา หญิงสาวรู้สึกใจหายเหมือนกันที่ต้องจากบ้านหลังน้อยอันแสนอบอุ่นของเธอแม้จะชั่วคราวก็ตาม
“พี่พลอยทำไมยังไม่นอนอีกคะ” ลูกแก้วที่กำลังเดินเข้ามาในครัวเพื่อจะมาหานมอุ่นๆดื่มก่อนนอนเธอเห็นพลอยไพลินนั่งอยู่ตรงระเบียงใกล้ๆห้องครัวหญิงสาวเลยเดินมาหาพี่สาวของเธอก่อน
“อ้าว ลูกแก้วพี่ว่าจะมาดูว่าเก็บของเล่นยัยหนูไปหมดหรือยังน่ะ อีกเดี๋ยวก็จะไปนอนแล้วล่ะจะ”
“ของยัยหนูแก้วเก็บเรียบร้อยหมดแล้วจะ พี่พลอยสบายใจได้”
“แล้วของลูกแก้วเก็บเรียบร้อยแล้วใช่ไหมมีตรงไหนให้พี่ช่วยเก็บอีกหรือเปล่า”
“เรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้วจ้ะพี่พลอย งั้นเดี๋ยวแก้วขอตัวไปหานมกินก่อนนะพี่พลอยก็อย่านอนดึกล่ะ “
“จ้า”
สองสาวนั่งคุยกันสักพักก็เข้านอนพลอยไพลินถึงจะใจหายที่ต้องจากบ้านนี้ไปแต่ก็ดีใจที่จะได้ช่วยเหลือลูกชายของคุณหญิงดวงแขเพื่อที่จะได้ตอบแทนบุญคุณที่คุณหญิงได้ส่งเสียเธอเรียนและยังช่วยเหลือเรื่องที่เธอเดือดร้อนอีกถึงแม้จะได้ยินกิตติศัพท์ในความโมโหร้ายของลูกชายคุณหญิงจากปากนมนิดและคุณหญิง พลอยไพลินก็ไม่หวั่นในเมื่อเธอตั้งใจว่ายังไงก็จะรักษาคนคนๆนี้ให้หายต่อให้เจอเรื่องอะไรเธอก็จะไม่ย่อท้อเด็ดขาด
เช้าวันต่อมา
“แอ้ๆๆ”
“ว่าไงจ้ะชมพู คุณลุงเขาแค่จะช่วยย้ายเปลให้เราไงคะ”
ยัยหนูชมพูที่นั่งอยู่บนรถเข็นสีชมพูที่หน้าบ้านเมื่อเห็นคนส่งของยกเปลสีชมพูของตัวเองขึ้นรถก็ส่งเสียงอ้อแอ้ประท้วงแล้วหันไปมองหน้าแม่ของตัวเองเหมือนกับจะฟ้องว่าแม่จ๋าผู้ชายคนนั้นเขายกเปลหนูไปแล้วนะช่างเป็นภาพที่น่าเอ็นดูเสียจริง
เมื่อรถกระบะขนของเต็มรถแล้วก็ขับไปส่งจุดหมายปลายทางที่เรือนเล็กไร่บดินทร์เดชาที่นั่นมีนมนิดรอรับของอยู่ก่อนแล้ว พลอยไพลินและลูกแก้วเมื่อตรวจตราความเรียบร้อยที่บ้านเรียบร้อยแล้วก็ขับรถตามมาที่ไร่ทีหลังกว่าจะมาถึงกันก็เย็นเกือบมืดพอดีคุณหญิงเลยให้ทั้งสามพักผ่อนและจัดแจงเก็บของให้เรียบร้อยแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยมาเจอกันที่เรือนใหญ่
เช้าวันต่อมา
08.00 น.
“อ้าวหนูพลอยมาแต่เช้าเลยรอนานไหมจ้ะ”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหญิง พลอยรอไม่นานค่ะพึ่งมาถึงเหมือนกัน”
คุณหญิงดวงแขเห็นพลอยไพลินนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกไม่คิดว่าหญิงสาวจะมาแต่เช้าเลยออกมาช้านิดหน่อยเพราะมัวแต่ไปปลุกลูกชายตัวดีด้วยตัวเองจะได้มาทำความรู้จักกับพลอยไพลินที่กำลังจะมารักษาเจ้าตัวแต่ลูกชายของเธอก็ไม่ยอมตื่นแถมบอกว่าจะไม่ยอมรักษาอีกต่างหาก
“แล้วหนูแก้วกับยัยหนูล่ะ “
“อ่อ ลูกแก้วพายัยหนูออกไปเดินเล่นที่สวนน่ะค่ะ นั่นไงกลับมาแล้ว” พลอยไพลินที่ชะเง้อมองออกไปข้างนอกเห็นว่าลูกแก้วกำลังอุ้มยัยหนูเดินเข้ามาพอดี
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหญิง..ชมพูธุจ้าคุณหญิงก่อนเร็วคนเก่ง” เมื่อน้าบอกให้ธุจ้าเจ้าก้อนกลมก็ยกสองมือประกบกันพร้อมยิ้มปากบานส่งเสียงอ้อแอ้ทักทายคนตรงหน้าด้วยความอารมณ์ดี
“แอ้ๆๆๆ”“โอโห ลูกสาวใครเนี่ยธุจ้าสวยจังเลยค่า” “แอร๊ะ..” เจ้าก้อนเหมือนจะรู้ว่ามีคนชมยินคำชมจึงส่งเสียงเอิ้กอ้ากหัวเราะชอบใจใหญ่“รู้ด้วยว่ามีคนชม..หนูรู้ใช่ไหมคะน่าฟัดจริงๆเลยยัยหนู” มือเรียวของดวงแขยื่นขยำพุงพุ้ยแพรชมพูเบาๆด้วยความเอ็นดู“หนูพลอยหนูแก้วทีหลังไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณหญิงแล้วนะจ้ะเรียกฉันว่าแม่เถอะจะ” ดวงแขว่าจะคุยกับสองสาวเรื่องนี้ตั้งแต่เจอกันวันนั้นแล้ว“จะดีเหรอคะคุณหญิงคือพลอยคิดว่ามันไม่ค่อยเหมาะเท่าไรค่ะ”“ใช่ค่ะคุณหญิง” สองสาวหันมองหน้ากันด้วยท่าทีที่เกรงใจดวงแขไม่น้อย“ไม่เหมาะอะไรกัน..ก็ฉันน่ะมีลูกชายแค่คนเดียวลูกสาวก็ไม่เคยมีแถมฉันยังอยากได้ยัยหนูชมพูมาเป็นหลานอีกด้วยมาเป็นลูกสาวแม่กันนะถือว่าเห็นใจคนแก่ขี้เหงาที่อยากมีลูกเยอะๆด้วยเถอะ”“ก็ได้ค่ะ..พลอยต้องขอบคุณมากๆเลยนะคะที่เอ็นดูพวกเรา” สองสาวจำต้องจำนนกับลูกอ้อนของดวงแข“งั้นทีนี้ยัยหนูชมพูก็เป็นหลานยายแล้วสินะ..มาให้ยายอุ้มหน่อยเร็วคนเก่ง” พอสองสาวตอบรับความต้องการได้คุณหญิงก็ยิ้มปลื้มปริ่มก่อนจะยกสองแขนขออุ้มเจ้าก้อนกลมที่น่ารักน่าเอ็นดูที่อยู่กับลูกแก้ว“..อื้มมม..หม่ำๆๆๆๆ” ดูท่าเจ้าก้อนกลมจะเข้
“พลอยรับปากค่ะลูกชายคุณแม่ต้องหายแน่นอนค่ะไม่ต้องห่วงแล้วห้องเค้าอยู่ทางไหนล่ะคะ” พลอยไพลินรีบปากและอยากให้ดวงแขมั่นใจด้วยว่าเธอจะทำสำเร็จก่อนจะชะเง้อมองหาห้องของลูกชายตัวดีของดวงแข“ห้องถัดจากห้องนั้นไปสองห้องน่ะจะ” ดวงแขพูดพลางชี้ไปที่ห้องของลูกชายเธอให้พลอยไพลินได้รู้“เดี๋ยวแม่พาไป” ดวงแขเอ่ยจบก็รีบลุกขึ้นเดินนำหน้าพลอยไพลินตรงไปที่หน้าห้องของแผ่นดิน“ค่ะ” พลอยไพลินเดินตามหลังดวงแขไปติดๆเธอคิดว่าไม่ว่าจะเป็นยังไงเธอจะรักษาคนๆนี้ให้หายให้ได้พลางนึกถึงเรื่องที่ดวงแขเอ่ยเรื่องลูกชายเธอตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุมาก็เปลี่ยนเป็นคนละคนเจ้าอารมณ์สุดๆ เรื่องนี้เธอก็แอบหวั่นใจอยู่บ้างแต่ก็คงไม่เกินความสามารถของเธอที่จะรับมือก๊อกๆๆๆแอ้ดดดดดเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากลูกชายดวงแขเลยถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปพลอยไพลินที่เดินตามหลังเข้ามาติดๆก็ต้องยกมือปิดจมูกเพราะกลิ่นแอลกอฮอลพลางมองไรรอบๆห้องมีแต่ขวดเหล้าวางเกลื่อนไปหมดเหลือบไปมองเห็นผู้ชายร่างใหญ่ผมยาวรุงรังนั่งรถเข็นหันหลังให้เธอและคนเป็นแม่เจ้าตัวอยู่“นี่ตาพอลเมื่อไรจะเลิกดื่มเหล้าหนักสักทีล่ะ...นี่คงจะให้นายสนไปซื้อมาให้อีกล่ะสิแม่เผลอแค
เคร้งๆๆๆสาวเจ้ารีบเก็บขวดเหล้าที่วางอยู่ตามพื้นโยนทิ้งลงในถังขยะแผ่นดินที่ได้ยินเสียงแปลกๆหลังจากที่หญิงสาวเงียบไปเขาจึงหันกลับมาดู ภาพตรงหน้าเขาตอนนี้คือพลอยไพลินกำลังก้มเก็บขวดเหล้าที่เปิดแล้วและยังไม่ได้เปิดโยนทิ้งลงถังขยะหน้าตาเฉยทั้งที่เขายังไม่ได้อนุญาต“นี่คุณทำบ้าอะไรของคุณน่ะ” คนตัวโตแผดเสียงด้วยความไม่พอใจนึกโมโหหญิงสาวตรงหน้าที่เก็บน้ำเมาของเขาที่เอาไว้กินย้อมใจทิ้งจนเกือบหมด..มือหนาของคนที่นั่งอยู่บนรถเข็นรีบควานหยิบขวดน้ำเมาที่อยู่ใกล้ๆมากอดไว้ที่ตัวราวกับเด็กที่กำลังหวงของเล่น“พลอยไม่ได้ทำบ้าแต่จะเปลี่ยนคนที่มันบ้าให้มันมีสติขึ้นเท่านั้นเอง” หญิงสาวพูดพร้อมเดินดุ่มๆเข้าไปหาตัวเขาพร้อมแย่งขวดเหล้าในมือชายหนุ่มออกมาแล้วโยนมันลงถังขยะซะ“มันจะมากไปแล้วนะพลอย” แผ่นดินหลุดปากเรียกชื่อที่ตนเองคุ้นเคยออกมาทำให้หญิงสาวชะงักครู่หนึ่งแต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ได้สลดอะไรกับสิ่งที่เขาดุเธอสักนิด“มันมากไปตรงไหนคะคุณพอลพลอยแค่พยายามที่จะช่วยรักษาคุณเท่านั้นเอง..คุณชอบที่จะพิการไปทั้งชีวิตเหรอแล้วไอ้เหล้านี่อีกกินมันเข้าไปได้ยังไงเยอะขนาดนี้อยากตายเร็วหรือไง” พลอยไพลินพูดเพื่อหวังจะเ
“งั้นตามพลอยมาเลยค่ะ”เมื่อตกลงกันจบทั้งสองจึงเดินกลับมาที่ห้องของแผ่นดินเมื่อชายหนุ่มเห็นพลอยไพลินพานายสนคนขับรถมาก็ทำหน้างงว่าเธอพานายสนมาที่นี่ทำไม“คุณพาลุงสนมาทำไม”“ลุงสนคะเดี๋ยวช่วยพาคุณพอลเข้าไปที่ห้องน้ำเลยนะคะ”“ครับ” แม้นจะเกรงใจแผ่นดินอยู่บ้างแต่นายสนก็ต้องรีบทำตามคำสั่งของพลอยไพลินอย่างรวดเร็วเพื่อภารกิจนี้จะได้จบๆไปเร็วๆ“นี่คุณจะทำอะไรผมไม่ไปไหนทั้งนั้นลุงสนไม่ต้องครับ..มีอะไรไปทำก็ไปทำเถอะ..ลุงสนที่ผมบอกไม่ได้ยินหรือไง” ดวงตาคมหันไปมองค้อนให้หญิงสาวที่กำลังยืนกอดอกยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างขุ่นเคืองทั้งสั่งสนเสียงแข็งให้อย่ามายุ่งกับเขาแต่มีหรือสนจะหยุดเมื่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เป็นสิ่งที่ดีต่อตัวแผ่นดินเอง“ลุงสนถอดเสื้อผ้าอาบน้ำให้เค้าเลยค่ะ”“นี่คุณผมไม่อาบปล่อยผมลุงสนนี่ลุงสนเชื่อเธอมากกว่าผมเหรอครับ” ชายหนุ่มเริ่มมีท่าทีหงุดหงิดที่นายสนไม่ยอมฟังเขาแต่กลับฟังคำสั่งของพลอยไพลินแทน“ผมต้องทำตามคำสั่งคุณพลอยครับเพราะคุณหญิงสั่งมาครับผมยังไม่อยากโดนคุณหญิงไล่ออกตอนนี้ครับ” นายสนอ้างว่าต้องทำตามคำสั่งของพลอยไพลินเราะคุณหญิงดวงแขสั่งมาตามที่พลอยไพลินได้นัดคำพูดกันเอาไว
“นี่ก็จะเย็นแล้วงั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะคุณพอลเพราะตอนเย็นพลอยต้องออกไปทำธุระข้างนอกพรุ่งนี้เจอกันตอนเช้านะคะ”กว่าจะจัดการกับคนตัวโตจอมเอาแต่ใจได้ก็เล่นหมดเวลาไปหลายชั่วโมงเหมือนกันจนตอนนี้เป็นเวลาบ่ายใกล้จะเย็นแล้วชายหนุ่มทำท่าไม่สนใจกับคำที่เธอพูดส่วนหญิงสาวเองก็ไม่ได้สนใจว่าเขาจะฟังหรือไม่ฟังเช่นกันเธอต้องการจะพูดให้เขารับรู้ก็เท่านั้นเอง“อ่อ ลุงสนคะช่วงเย็นๆพาคุณพอลออกมานั่งเล่นที่สวนหน้าบ้านบ้างนะคะ..เผื่อมันจะทำให้คุณพอลสดชื่นขึ้นมาบ้าง”“ครับคุณพลอย”“งั้นพลอยไปนะคะ”เมื่อหญิงสาวคุยธุระกับสนจบเธอก็เดินออกไปทันทีเพราะตอนนี้มันก็ใกล้เย็นแล้วเธอยังไม่มีเวลาได้ปั๊มนมไห้ลูกสาวเธอเลยและยังจะต้องออกไปซื้อของใช้จำเป็นให้แพรชมพูอีก พลอยไพลินเดินมาถึงที่หน้าเรือนเล็กซึ่งอยู่ไม่ห่างจากตึกใหญ่มากนักมีแค่สวนหญ้าขั้นกลางที่สามารถมองเห็นกันได้เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านก็เห็นทั้งนมนิดทั้งคุณหญิงดวงแขและก็ลูกแก้วกำลังนั่งดูยัยหนูคลานเล่นอยู่ที่สวนกำลังหัวร่าทำให้เธอโล่งใจไปเปราะหนึ่งคิดว่ายัยหนูจะร้องให้หาแม่ซะอีกที่สงสัยคงจะชอบใจที่นี่เพราะสวนนี้ก็ร่มรื่นไม่แพ้ที่บ้านของเธอ“ยัยหนู”“มะ..ม
“..แอ้..” เจ้าก้อนกลมที่มาอยู่ในอ้อมอกของแผ่นดินได้ก็ซบลงบนบ่าของเขาด้วยท่าทีออดอ้อนส่งเสียงอ้อแอ้อารมณ์ดีสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่มองและให้กับเสือยิ้มยากที่กำลังอุ้มอยู่ด้วย“สงสัยจะชอบลุงพอลใช่ไหมคะ...หนูชอบลุงพอลใช่ไหม” ดวงแขอดที่จะเอ่ยหยอกเจ้าก้อนกลมเสียงเล็กเสียงน้อยด้วยความเอ็นดูไม่ได้พลางคิดว่าถ้าเป็นลูกของลูกชายเธอจริงๆก็คงจะดีเพราะคงจะสร้างสีสันในชีวิตให้แผ่นดินไม่น้อย“เอ่อแล้วพ่อของเจ้าก้อนนี่อยู่ไหนล่ะครับคุณแม่” แผ่นดินแสร้งถามถึงพ่อของของแพรชมพูเพราะไม่เห็นจะมีผู้ชายอยู่ตรงนี้สักคนด้วยอบากจะเห็นหน้าสามีของพลอยไพลินนักว่าจะดีกว่าเขาสักแค่ไหน“คือ..” ดวงแขได้ยินคำถามจากลูกชายก็หน้าเสียทันทีพลางหันไปมองหน้าของลูกแก้วซึ่งตอนนี้ก็มีสีหน้าที่เจื่อนลงเช่นกัน“เอ่อ......คือ......พ่อของยัยหนูเป็นใครลูกแก้วก็ไม่เคยเห็นเหมือนกันค่ะ” ที่ลูกแก้วยอมเล่าเรื่องที่ดูจะส่วนตัวให้กับแผ่นดินฟังก็เห็นว่ามันคงไม่เสียหายอะไรเพราะในเมื่อชายตรงหน้าเป็นลูกของคุณหญิงดวงแขก็เท่ากับว่าเป็นพี่ชายของเธอเหมือนกันเพราะฉะนั้นคงไม่มีอะไรต้องปิดบัง“...” คำตอบของลูกแก้วทำเอาแผ่นดินทำสีหน้าแปลกใจอยู่
ก๊อกๆๆๆๆๆ“คุณหนูคะได้เวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ” นมนิดที่ถือถาดอาหารเย็นเอามาให้คุณหนูของเธอเป็นแบบนี้เป็นประจำทุกวันและวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เอาอาหารมาให้คุณหนูของเธอเช่นเคย“เดี๋ยววันนี้ผมออกไปทานข้างนอกครับนม” นมนิดถึงกับตะลึงนิ่งงันไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคุณหนูของเธอบอกว่าจะไปทานอาหารข้างนอกวันนี้ชายหนุ่มมาแปลกแต่เธอก็แอบดีใจอยู่ไม่น้อยถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันคงดีคุณหนูของเธอจะได้กลับมาเป็นคนเดิมเสียทีถึงแม้จะยังไม่ใช่ตอนนี้แต่มันก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีอีกหนึ่งอย่างคงทำให้คุณหญิงของเธอดีใจไม่น้อยเช่นกัน“ได้ค่ะคุณหนูเดี๋ยวนมออกไปจัดที่ให้คุณหนูแล้วคุณหนูตามออกมานะคะ”“ครับนม”หลังจากที่รับปากคุณหนูเธอเรียบร้อยแล้วนมนิดก็จัดการกลับมาจัดโต๊ะอาหารให้กับคุณหนูของเธออย่างรวดเร็ว“อ้าวนิด..วันนี้หนูพลอยไม่กลับมาทานไม่ต้องจัดเผื่อหรอกจ้ะ”“อ่อนิดรู้ค่ะคุณหญิงว่าคุณพลอยไปธุระแต่จัดไว้ให้คุณหนูน่ะค่ะ” คนจัดเตรียมอาหารทำไปพลางยิ้มปลื้มใจไปพร้อมกัน“อะไรนะ..ลูกชายฉันน่ะเหรอที่จะออกมาทานข้างนอกตายแล้วฝนจะตกพายุจะมาหรือเปล่าเนี่ยนิด” ดวงแขพูดไปหัวเราะไปแต่ก็มีทีท่าที่ดีใจอย่างเห็นได้ชัดว่าลูกชายต
เมื่อจัดทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้วสาวเจ้าก็ยกมือถือกดโทรหาเพื่อนเธอทันทีRrrrrrrrrr“ว่าไงวันนี้นึกยังไงโทรหาฉันได้ล่ะยัยแก้ว” จอมขวัญคุณหนูไฮโซสาวเป็นเพื่อนสมัยเรียนกับลูกแก้วเธอทั้งดีใจและแปลกใจพอๆกันที่จู่ๆเพื่อนเธอก็มาโทรหา“ขวัญวันนี้แกว่างไหมตอนนี้ฉันคอนโดXXXX”“นี่แกอยู่กรุงเทพแล้วเหรอแล้วแกไปร่ำรวยมาจากไหนถึงได้อยู่คอนโดแพงขนาดนั้นอะหรือมีเสี่ยเลี้ยง”“แกจะบ้าหรือไงยัยขวัญฉันเลี้ยงตัวเองได้ไม่จำเป็นต้องมีใครมาเลี้ยง”“ตกลงแกจะมาไหมขวัญ”“ไปสิอีกสิบนาทีเจอกันฉันอยู่แถวนี้พอดี” หลังจากที่ลูกแก้ววางสายจากจอมขวัญเธอก็เตรียมตัวอาบน้ำอาบท่ารอเพื่อนสาวมาหาที่คอนโดและทั้งสองกะว่าจะออกไปเดินเล่นหาอะไรทานกันตอนเย็นด้วยจอมขวัญเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาลัยที่กรุงเทพจอมขวัญเป็นลูกสาวเศรษฐีระดับไฮโซคนหนึ่งเลยก็ว่าได้แต่จอมขวัญไม่เคยรังเกียจที่จะคบกับเธอเลยสักนิดอีกทั้งพ่อแม่ของจอมขวัญก็รักลูกแก้วเหมือนลูกสาวอีกหนึ่งคนเลยด้วยซ้ำท่านทั้งสองชอบที่ลูกแก้วเป็นคนขยันเรียนดีและไม่อายใครที่จะบอกว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า ตอนที่เรียนมหาลัยลูกแก้วจะไปมาหาสู่กับที่บ้านจอมขวัญตลอดเพื่อที่จะติวหนังสือให
“คิดถึงแต่คุณย่าใหญ่เหรอคะไม่คิดถึงคุณย่าเล็กบ้างเลยเหรอแบบนี้ย่าก็น้อยใจแย่เลยนะเนี่ย” พิไลเมื่อเห็นยัยหนูชมพูเข้ามากอดหอมผู้เป็นพี่สาวของตัวเองก็อดหยอกหลานตัวน้อยที่กำลังส่งเสียงเจื้อยแจ้วอยู่ตอนนี้ไม่ได้“ชมพูก็คิดถึงคุณย่าเล็กเหมือนกันค่ะ”ฟอดดดดดเด็กหญิงตัวกลมผละจากคุณย่าใหญ่แล้วเข้าไปกอดคุณย่าเล็กของเธอพร้อมหอมฟอดใหญ่ๆแบบเท่าเทียมกัน“ว่าไงคุณพ่อลูกสอง” พีรพัตรเอ่ยหยอกผู้เป็นพี่ชายที่กำลังเดินจูงลูกชายคนเล็กเข้ามาในบ้านพร้อมพลอยไพลินชายหนุ่มพอจะเดาออกที่พี่ชายเขามาช้าก็คงจะเป็นเพราะสองแสบนี่อีกล่ะสิ“เออ..เหนื่อยดี” แผ่นดินได้แต่อมยิ้มแล้วส่ายหัวให้กับพีรพัตรให้น้องของเขาเห็นว่าว่ามีลูกสองแล้วมันเป็นยังไงแต่ถึงเหนื่อยแต่เขาก็มีรอยยิ้มได้ทุกวันก็เพราะลูกสองคนนี้แหละทำงานเสร็จปุ้ปต้องรีบกลับมาหาลูกหาเมียทันที“แล้วนี่ลูกแก้วกับตาเก้าไปไหนล่ะ” แผ่นดินว่าจะให้ลูกชายของเขาไปเล่นกับหลานชายสักหน่อยแต่ไม่เห็นทั้งแม่และลูกก็เลยถามหา“เมื่อกี้แก้วพาตาเก้าไปเข้าห้องน้ำน่ะเดี๋ยวก็มา......นั่นไงมาพอดีเลยเก้ามาพาฌอนไปเล่นหน่อยสิลูก”“ได้ฮะคุณพ่อ” พีรพัตรเห็นลูกแก้วเดินจูงลูกเข้ามาพอ
ก๊อกๆๆๆ“อ้าวพี่วินขึ้นมาทำอะไรคะ” จอมขวัญได้ยินเสียงเคาะประตูเลยเดินออกมาเปิดทั้งที่ยังไม่ทันได้มองตาแมวว่าเป็นใครเพราะคิดว่าอาจจะเป็นคนในบ้านมาตามไปทานข้าวแน่ๆแต่เมื่อเห็นเป็นชายหนุ่มเธอจึงตกใจไม่คิดว่าเขาจะขึ้นมาหาเธอถึงที่ห้อง“พี่มาดูขวัญไงเห็นคุณพ่อขวัญบอกว่าขวัญไม่สบายพี่เลยขึ้นมาดู...พี่เข้าไปข้างในได้ไหม” ธาวินเห็นสีหน้าหญิงสาวที่ดูจะไม่ค่อยดีนักเขาจึงขอเข้าไปคุยกับเธอด้านในชายหนุ่มเห็นอาการซึมของหญิงสาวก็พอจะดูออกว่าที่ซึมๆอยู่เนี่ยคงจะเป็นเพราะผลจากที่เขาแกล้งเธอแน่ๆอยากจะต่อยหน้าตัวเองชะมัดที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง“เอ่อ...ค่ะ” ธาวินเดินเข้ามาในห้องของจอมขวัญเมื่อเห็นหญิงสาวนั่งลงบนเตียงเขาก็ถือวิสาสะยื่นหลังมือไปแตะที่หน้าผากของเธอทันทีเพื่อดูว่าเธอป่วยจริงหรือเปล่า“ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา...ป่วยการเมืองหรือเปล่าเราอะ” ธาวินอมยิ้มแลัวมองหน้าหญิงสาวจอมเจ้าเล่ห์เขารู้ว่าที่เธอแกล้งป่วยกะทันหันเพื่อที่จะได้ไม่ต้องลงไปเจอเขาแน่ๆ“ตกลงพี่วินมาหาขวัญมีอะไรคะ” จอมขวัญไม่ได้ตอบปฏิเสธอะไรจากคำกล่าวหาของเขาตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะมองหน้าของเขาด้วยซ้ำเลยเร่งถามคนตรงหน้าว่าที่มามีธุร
“ต้องยกความดีความชอบให้ขวัญแล้วหละที่คอยดูแลเอาใจใส่จนมันออกลูกมาดกขนาดนี้” ธาวินเห็นหญิงสาวยืนยิ้มภาคภูมิใจกับสิ่งที่หญิงสาวลงมือทำเองจนประสบผลสำเร็จก็อดชมไม่ได้“ก็ขวัญใช้หัวใจดูแลไงคะ..รู้ไหมคะตั้งแต่ขวัญมาดูแลสวนให้พี่วินขวัญรู้สึกต้นไม้ในสวนมากเลยค่ะ” จอมขวัญรู้สึกรักและก็ผูกพันธ์กับสิ่งที่เธอทำเธอไม่รู้ว่าเธอชอบที่จะตากแดดตากลมทำงานในสวนตั้งแต่เมื่อไรแต่มารู้ตัวอีกเธอก็รู้สึกว่ามีความสุขทุกครั้งที่อยู่ในสวนผลไม้นี้ไปแล้ว“พี่ก็รัก....รักมากด้วย” ธาวินพูดคำว่ารักออกมาก่อนจะมองไปทางหญิงสาวด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้มทำเอาคนที่ยืนยิ้มมาทางชายหนุ่มถึงกับหลบสายตาที่ส่งมาแทบไม่ทันถึงจะคิดว่าเขาคงพูดว่ารักสวนผลไม้ก็เถอะแต่เธอก็เขินกับคำที่เขาพูดว่ารักอยู่ดี“เอ่อ...พี่วินพึ่งกลับมาเหนื่อยๆเดี๋ยวขวัญไปหยิบน้ำมาให้นะคะ” หญิงสาวรีบชิงบอกว่าจะไปหยิบน้ำให้ชายหนุ่มเพื่อแก้อาการเขินเธอรีบวิ่งเข้าไปในครัวอย่างรุกรี้รุกลนเพราะกลัวว่าเขาจะเห็นว่าเธอเขินอยู่แต่มันก็ไม่ทันแล้วหน้าเธอออกจะแดงขนาดนั้นเขาแค่แกล้งนิดเดียวเองที่เขาพูดว่าพี่ก็รักเขาหมายถึงรักสวนนี้เหมือนกันแต่ที่บอกว่ารักมากด้วยคำนั
“อ้าวคุณน้าสวัสดีครับ” แผ่นดินที่กำลังเดินจูงมือยัยหนูชมพูที่เริ่มเดินได้แข็งแล้วเมื่อเห็นผู้เป็นน้าเขยก็รีบยกมือสวัสดีทำเอายัยหนูชมพูยกมือขึ้นสวัสดีตาม“จ้า” ยัยหนูชมพูยกสองมือป้อมๆตามผู้เป็นพ่อแล้วส่งเสียงสวัสดีตามที่ผู้เป็นแม่เคยสอนแต่ก็ดันพูดออกมาได้คำเดียวว่าจ้าทำเอาทุกคนที่ยืนอยู่ต่างขำกับท่าทีของเด็กหญิงตัวกลมคนนี้กันยกใหญ่“โอ้โหหลานปู่ไหว้สวยจังเลยค่ามาให้ปู่หอมหน่อยเร็ว” พอพิศิษฐ์ได้เห็นท่าทางของหลานก็รู้สึกเอ็นดูลูกของหลานชายเขาทำไมถึงได้จ้ำม่ำน่าฟัดขนาดนี้เขาทำท่าชูสองแขนให้ยัยหนูมาหาเมื่อยัยหนูเดินมาหาเขาก็อุ้มก่อนที่เขาหอมที่แก้มย้วยๆไปหนึ่งฟอด“ลูกเราพูดได้หลายคำหรือยังเนี่ยตาพอล” เมื่อสักครู่พิศิษฐ์เห็นหลานพูดจ้าได้ก็เลยอยากรู้ว่าหลานสาวเขาพูดได้กี่คำแล้ว“ตอนนี้ก็พูดได้ทีละคำครับแต่ก็ยังได้ไม่เยอะเรียกพ่อกับแม่กับหม่ำๆได้แค่นี้ผมก็ดีใจแล้วครับ” แผ่นดินดีใจมากตอนที่ได้ยินว่ายัยหนูเรียกพ่อกับแม่ได้ตอนนั้นเขารู้สึกไม่เชื่อหูตัวเองเลยเค้นให้ยัยหนูพูดอยู่หลายรอบจนพลอยไพลินต้องปรามอาการเห่อที่ลูกพูดได้ของเขายกใหญ่ไม่อย่างนั้นคงให้ลูกพูดทั้งวันไม่หยุดแน่ๆ“ไหนลองเ
“งั้นเราทานข้าวก่อนเถอะจะได้ทานยา” วรรณาที่คุยกับหลานชายเรียบร้อยก็เห็นว่านี่มันจะเลยเวลาทานข้าวเช้าแล้วจึงรีบบอกให้หลานชายทานข้าวจะได้ทานยาเพราะกับข้าวที่หญิงสาวทำก็ดูว่าจะเริ่มเย็นแล้วเดี๋ยวมันจะไม่อร่อย“เดี๋ยวขวัญไปตักข้าวต้มมาให้คุณป้าแล้วทานด้วยกันเลยนะคะ” จอมขวัญเห็นว่าป้าของชายหนุ่มมาแต่เช้าท่าทางจะยังไม่ได้ทานอะไรมาแน่ๆหญิงสาวจึงเอ่ยปากจะไปตักข้าวต้มมาให้“ขอบใจจะ” วรรณายิ้มรับคำของจอมขวัญนึกเอ็นดูคนตรงหน้าที่ดูจะเป็นแม่ศรีเรือนคนนี้เสียจริง“หืมอร่อยมากเลยหนูขวัญ..แบบนี้ป้าต้องฝากท้องกับหนูขวัญบ่อยๆแล้วล่ะจะ”“ขอบคุณค่ะคุณป้า...สูตรนี้เป็นของนมนิดที่อยู่ที่บ้านไร่ของป้าขวัญเองค่ะ” ทั้งสามทานข้าวกันไปด้วยนั่งคุยกันไปด้วยจนวรรณารู้ว่าทั้งสองรู้จักกันด้อย่างไรและจอมขวัญเป็นลูกเต้าเหล่าใครด้วยเสียงที่เจื้อยแจ้วและพูดเก่งของจอมขวัญที่หาเรื่องคุยได้ตลอดเวลาทำเอาวรรณายิ้มไม่หุบเธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลานชายของเธอจึงดูสดใสทั้งที่ยังมีอาการเจ็บอยู่น่าจะเป็นเพราะหญิงสาวคนนี้นี่แหละ จะว่าไปเธอคงจะต้องไปคุยอะไรกับหลานชายเธอหน่อยแล้วที่ลูกสาวบ้านอื่นมาตามเฝ้าถึงที่แล้วคนเ
จักรพงษ์เอ่ยเรื่องราวทั้งหมดให้จอมขวัญได้ฟังเขาไม่กลัวว่าจะโดนคนเป็นหัวหน้าตำหนิแล้วในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แค่ขอให้จอมขวัญเก็บเรื่องสถานที่ที่นี่เป็นความลับพอซึ่งจอมขวัญก็รับปากทุกอย่างขอแค่ให้เธอได้อยู่คอยดูแลธาวินเท่านั้นเอง“เชิญครับคุณขวัญหัวหน้าหลับเพราะฤทธิ์ยาน่ะครับคุณขวัญอยู่ที่นี่ตามสบายเลยนะครับเดี๋ยวผมจะโทรบอกทางบ้านคุณให้เอง”“ขอบคุณค่ะ” จักรพงษ์พาจอมขวัญไปเยี่ยมธาวินที่ในห้องหญิงสาวก็ปล่อยโฮออกมาทันทีเมื่อเห็นสภาพของชายหนุ่มเธอไม่คิดว่าเขาจะเป็นหนักขนาดนี้แต่ก็ยังดีที่ยังรอดกลับมา จอมขวัญเทียวไปเทียวมาอยู่หลายครั้งร่วมเดือนจนธาวินเริ่มดีขึ้นจึงย้ายกลับมาที่บ้านของเขาหญิงสาวเฝ้าดูแลชายหนุ่มอยู่ไม่ห่างจนแผลตอนนี้เริ่มดีขึ้นมากเดินเหินก็สะดวกมากขึ้นแต่ก็ยังต้องมีคนดูแลอย่างดีเพราะตอนนี้ชายหนุ่มอยู่บ้านคนเดียวแล้ว หลังจากจบคดีของเสี่ยวันชัยเมฆินก็โดนเรียกตัวไปช่วยคดีอื่นต่อจึงทำให้ธาวินพักรักษาตัวอยู่คนเดียวหญิงสาวจึงตามดูแลธาวินอยู่ไม่ห่างทั้งดูงานในสวนสั่งงานลูกน้องของธาวินเองหาตลาดส่งผลใหม่ เพราะว่าโรงงานของวิเวียนได้ปิดตัวลงแล้วหญิงสาวดูงานในสว
“ยัยขวัญน่าจะได้ยินที่พี่คุยกับหมวดพงษ์เรื่องวินน่ะสิ” พีรพัตรตอบคนเป็นภรรยาพร้อมชะเง้อมองนองสาวตัวเองขับรถออกไปอย่างร้อนใจ“งั้นไม่ต้องตามค่ะ” เมื่อลูกแก้วรู้สาเหตุว่าทำไมจอมขวัญถึงวิ่งหนีออกไปแบบนั้นเธอก็สั่งผู้เป็นสามีทันทีว่าไม่ต้องตามเพราะถ้าเธอเป็นจอมขวัญเธอก็จะทำแบบนี้เหมือนกัน“ทำไมล่ะคุณ” พีรพัตรหน้าเสียกับคำสั่งของลูกแก้วที่อยู่ดีๆก็มาห้ามเขาตามน้องสาวไปเสียอย่างนั้นไม่กลัวว่าจะเกิดเรื่องยุ่งบ้างหรืออย่างไร“เชื่อลูกแก้วเถอะค่ะคุณพรีมพลอยว่าปล่อยจอมขวัญไปเถอะค่ะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดเดี๋ยวพลยขอไปดูยัยหนูก่อนนะคะ”พลอยไพลินช่วยพูดอีกเสียงเพราะถ้าเป็นเธอก็คงจะปวดใจมากเหมือนกันที่คนรักของตัวเองบาดเจ็บสาหัสแต่ตัวเองไม่มีสิทที่จะรู้เลยหญิงสาวพูดจบก็ขอตัวออกมาเพราะอยากจะให้ทั้งสองพูดคุยกันเองเธอไม่อยากให้ทั้งสองรู้สึกอึดอัด“จริงอย่างที่พี่พลอยพูดนะคะคุณพรีมอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดนะคะ”“แต่มันจะวุ่นวายไปกันใหญ่นะคุณ” พีรพัตรไม่เข้าใจว่าสองพี่น้องคนนี้พวกเธอคิดอะไรกันอยู่ในเมื่อรู้อยู่ว่าถ้าจอมขวัญรู้มันต้องวุ่นวายแน่ๆเพราะเขารู้นิสัยน้องสาวของเขาดี“ลองคิดตามแก้วนะคะถ้าแก้วเกิดหา
“ค่ะ” พีรพัตรคิดว่าถ้าน้องสาวเขาได้อยู่กับภรรยาของเขาเธอคงจะคุยกันตามประสาเพื่อนสาวคงจะลืมนึกถึงเรื่องของธาวินได้บ้างเพราะเขาเองเมื่อเห็นอาการของจอมขวัญก็ไม่อยากจะเข้าไปอยู่ใกล้น้องสาวเขาเท่าไรแค่นี้ก็คงจะเหม็นขี้หน้าพี่ชายคนนี้เต็มทนแล้วละมั้งที่ออกคำสั่งยื่นคำขาดกับเธอขนาดนั้นก๊อกๆๆๆๆ“ขวัญนี่ฉันเอง”“เข้ามาเลยประตูไม่ได้ล็อค” จอมขวัญได้ยินว่าเป็นเสียงของเพื่อนสาวจึงบอกให้เข้ามาได้หวังว่าพี่ชายตัวดีของเธอจะไม่ตามมาด้วยนะ“แกมาคนเดียวใช่ป่ะ” จอมขวัญชะเง้อมองว่าจะมีใครตามเธอเข้ามาด้วยหรือเปล่าถ้ามีคนนั้นตามมาแบบที่เธอคิดจริงๆคงทำให้เธออารมณ์บูดอีกเป็นแน่“ก็ใช่น่ะสิแกว่าใครจะตามมาด้วยล่ะ” ลูกแก้วเห็นท่าชะเง้อของจอมขวัญแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้คงคิดว่าสามีเธอจะตามมาด้วยล่ะสิ“ป๊าวววว” จอมขวัญตอบปฏิเสธเสียงสูงทันที“แค่นี้ต้องเสียงสูงด้วย”“แก้วหลานฉันเป็นยังไงบ้างฉันอยากให้หลานคลอดแย่แล้ว” จอมขวัญนอนคว่ำใช้แขนทั้งสองข้างชันหน้าขึ้นแล้วหันมาคุยกับลูกแก้วเธอรู้เรื่องของลูกแก้วกับพี่ชายของเธอตั้งแต่ที่ลูกแก้วมาเยี่ยมเธอตอนนอนป่วยแล้ว เมื่อเห็นหน้าท้องของเพื่อนสาวยื่นออกมาก็เกิดการ
“ถ้าพวกคุณอยากรู้อาการของหัวหน้าเดี๋ยวผมจะแจ้งเรื่องมาเป็นระยะๆนะครับ” จักรพงษ์เห็นว่าชายหนุ่มทั้งสองดูเป็นห่วงหัวหน้าของตนมากเลยอาสาจะรายงานอาการของหัวหน้าของเขาให้ชายหนุ่มทั้งสองเป็นระยะๆ“ขอบคุณมากครับหมวด”“ถ้าเรียบร้อยแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” หลังจากจักรพงษ์คุยธุระเสร็จก็ขอตัวกลับในทันทีเพราะเขาก็อยู่ที่นี่ค่อนข้างที่จะนานแล้วต้องรีบกลับไปเคลียคดีที่ค้างไว้ต่อแล้วเขาก็จะรีบไปดูอาการของผู้เป็นหัวหน้าที่นอนเจ็บปางตายด้วย เขาเองนับถือชายหนุ่มจริงๆที่ลุยเดี่ยวกับพวกที่มีฝีมือทางการต่อสู้ป็นสิบแบบไม่กลัวตายแถมยังดวงแข็งที่กระสุนเจาะร่างเกือบพรุนยังใจแข็งรอดมาได้อีกเป็นเขาคงตายตั้งแต่ต่อสู้กับไอ้พวกสิบกว่าคนนั้นแล้วห้าวันต่อมา“อ้าวหายดีแล้วเหรอยัยขวัญแล้วตื่นมาทำไมแต่เช้า” คุณหญิงดวงแขที่นั่งจิบกาแฟอยู่หน้าบ้านตอนเช้าเป็นประจำเห็นหลานสาวที่ดูว่าพึ่งจะฟื้นจากไข้ตื่นมาแต่เช้าก็นึกเป็นห่วงอยากจะให้พักผ่อนนานๆแต่หลานสาวเธอดันตื่นเช้าพอจะเดาออกว่าทำไมหลานสาวเธอถึงรีบตื่นมาขนาดนี้“ขวัญโอเคแล้วค่ะคุณป้าคุณแม่อยู่ไหนเหรอคะ” จอมขวัญที่พึ่งฟื้นไข้เมื่อรู้สึกว่าร่างกายของเธอดีขึ้น