ก๊อกๆๆๆๆๆ
“คุณหนูคะได้เวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ” นมนิดที่ถือถาดอาหารเย็นเอามาให้คุณหนูของเธอเป็นแบบนี้เป็นประจำทุกวันและวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เอาอาหารมาให้คุณหนูของเธอเช่นเคย
“เดี๋ยววันนี้ผมออกไปทานข้างนอกครับนม” นมนิดถึงกับตะลึงนิ่งงันไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคุณหนูของเธอบอกว่าจะไปทานอาหารข้างนอกวันนี้ชายหนุ่มมาแปลกแต่เธอก็แอบดีใจอยู่ไม่น้อยถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันคงดีคุณหนูของเธอจะได้กลับมาเป็นคนเดิมเสียทีถึงแม้จะยังไม่ใช่ตอนนี้แต่มันก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีอีกหนึ่งอย่างคงทำให้คุณหญิงของเธอดีใจไม่น้อยเช่นกัน
“ได้ค่ะคุณหนูเดี๋ยวนมออกไปจัดที่ให้คุณหนูแล้วคุณหนูตามออกมานะคะ”
“ครับนม”
หลังจากที่รับปากคุณหนูเธอเรียบร้อยแล้วนมนิดก็จัดการกลับมาจัดโต๊ะอาหารให้กับคุณหนูของเธออย่างรวดเร็ว
“อ้าวนิด..วันนี้หนูพลอยไม่กลับมาทานไม่ต้องจัดเผื่อหรอกจ้ะ”
“อ่อนิดรู้ค่ะคุณหญิงว่าคุณพลอยไปธุระแต่จัดไว้ให้คุณหนูน่ะค่ะ” คนจัดเตรียมอาหารทำไปพลางยิ้มปลื้มใจไปพร้อมกัน
“อะไรนะ..ลูกชายฉันน่ะเหรอที่จะออกมาทานข้างนอกตายแล้วฝนจะตกพายุจะมาหรือเปล่าเนี่ยนิด” ดวงแขพูดไปหัวเราะไปแต่ก็มีทีท่าที่ดีใจอย่างเห็นได้ชัดว่าลูกชายตนเองเริ่มปรับตัวให้เป็นเหมือนเดิมแล้ว
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับคุณแม่ผมแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างเท่านั้นเอง” แผ่นดินนั่งรถออกมาก็ได้ยินที่แม่ของเขาพูดกับนมนิดก็มุ่ยหน้าน้อยใจเล็กน้อยที่ออกมาทานข้างนอกใจจริงก็อยากออกมาเห็นหน้าของหญิงสาวที่จับเขาโกนหนวดเมื่อกลางวันและก็อยากทำตัวให้แม่ของเขาสบายใจขึ้นบ้างเท่านั้นเอง
“หนูแก้วมาแล้วมาทานกันเถอะค่ะ” นมนิดเห็นลูกแก้วอุ้มยัยหนูชมพูมาแล้วก็เลยเรียกทุกคนทานข้าวกัน
“เดี๋ยวเอาหนูชมพูมาให้นมดีกว่าหนูแก้วไปทานข้าวเถอะ..เดี๋ยวนมป้อนข้าวหนูชมพูเอง” เมื่อนมนิดทำท่าจะอุ้มเด็กหญิงตัวกลมจากลูกแก้วแต่เจ้าก้อนดันเอี้ยวตัวหลบพลางมองและเอื้อมมือไปหาชายหนุ่มที่นั่งรถเข็นอยู่ฝั่งตรงข้ามทำเอาลูกแก้วหน้าเสียเล็กน้อยที่หลานสาวเธอไม่ว่าง่ายจะไปหาแต่แผ่นดิน
“สงสัยจะหนูชมพูจะถูกชะตากับคุณพอลแล้วล่ะคะ” นมนิดพูดไปขำกับท่าทางของเด็กหญิงตัวกลมไปที่ทำท่าอ้อนจะให้ชายหนุ่มอุ้ม
“ส่งยัยหนูมาให้ผมก็ได้ครับ”
“เอ่อจะดีเหรอคะคุณพอลจะทานข้าวยังไงล่ะคะ” ลูกแก้วรู้สึกเกรงใจชายหนุ่มตรงหน้าเสียจริงที่หลานของเธอทำท่าจะติดเขาเพียงเจอกันได้ไม่นาน
“ไม่เป็นไรครับผมทานได้” มีเจ้าก้อนมาอยู่บนตักอีกคนไม่ได้ทำให้เขามีปัญหาในการทานอาหารมากนัก
“เดี๋ยวแก้วไปเอาโต๊ะทานข้าวของเด็กมาไว้ข้างคุณพอลนะคะเผื่อเมื่อยจะได้จับยัยหนูวางบนโต๊ะค่ะ”
“ครับ” ลูกแก้วที่คิดว่ายังไงคนตรงหน้าก็ต้องเมื่อยแน่ๆดูจากน้ำหนักของยัยหนูและท่าทีไม่ค่อยจะอยู่สุขอีกก็เลยรีบไปยกโต้ะนั่งทานข้าวของเด็กมาไว้ข้างๆชายหนุ่ม
“แอ้ๆๆ หม่ำๆๆๆๆๆๆๆ”
“ครับ”
ชายหนุ่มที่กำลังนั่งป้อนข้าวเด็กหญิงเรียกรอยยิ้มจากคนที่โต๊ะทานข้าวได้ไม่น้อยเมื่อแผ่นดินป้อนข้าวให้เธอไม่ทันก็ส่งเสียงเรียกก็ใครจะไปป้อนทันเล่นป้อนหายป้อนหายแบบนี้
แผ่นดินรู้สึกว่าเขาได้ทำหน้าที่พ่อจึงรู้สึกมีความสุขแม้เพียงแค่ได้ป้อนข้าวลูกสาวตัวกลมของเขาไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเขาได้ดูแลยัยหนูอยู่ตลอดจะมีความสุขขนาดไหนแค่เจอกันแปปเดียวก็ทำให้เขาหลงได้ขนาดนี้แล้ว
หลังจากป้อนข้าวยัยหนูหมดถ้วยแผ่นดินก็จับเจ้าก้อนนั่งบนโต๊ะกินข้าวเด็กที่วางอยู่ข้างๆและก็วางส้มที่แกะแล้วให้ยัยหนูดูดกินเองส่วนเขาเองก็ลงมือทานข้าวต่อ
“อื้มมมมมม หม่ำๆๆๆๆๆ”
เด็กหญิงตัวกลมนั่งดูดชิ้นส้มที่นมนิดได้แกเม็ดออกเรียบร้อยแล้วอย่างเอร็ดอร่อยแถมยังหยิบชิ้นใหม่พลางส่งให้ชายหนุ่มที่นั่งข้างๆอีกทำให้เขาต้องละจากทานข้าวหันมาทานชิ้นส้มที่เจ้าก้อนยืนมือป้อมป้อนให้การกระทำของทั้งสองทำให้ทุกคนบนโต๊ะทานข้าวตอนนี้มองอย่างเอ็นดูต่างก็คิดว่าช่างเป็นเหมือนพ่อที่กำลังดูแลลูกสาวยังไงยังงั้น
หลังจากทานข้าวเสร็จเจ้าก้อนก็อยู่เล่นกับแผ่นดินจนเหนื่อยก่อนจะร้องกินนมพอจับขวดนมดูดได้สักพักก็หลับทันทีเพราะความเพลีย
หลังจากหลานสาวหลับลูกแก้วก็รีบอุ้มไปนอนที่เปลก่อนจะกลับมานั่งคุยกับดวงแขเรื่องที่จะย้ายไปอยู่คอนโดที่กรุงเทพเพื่อที่จะได้ไปทำงานที่บริษัทได้สะดวก
เช้าวันต่อมา
หลังจากล่ำลากับหลานสาวสุดที่รักพักใหญ่ลูกแก้วที่เข้ามาเอ่ยลาคนในบ้านใหญ่ก่อนจะนั่งเครื่องจากเชียงใหม่มาลงที่สนามบินดอนเมืองแล้วนั่งรถไปที่คอนโดที่ดวงแขบอกที่อยู่มาให้
เมื่อมาถึงคอนโดหญิงสาวเก็บข้าวของเครื่องใช้เข้าที่พลางมองเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งของคอนโดมันช่างหรูหราจนเธอมองไปมองมาพลางคิดว่ามันไม่ได้เหมาะกับเธอเลยสักนิดถ้าไม่ใช่เพราะความเมตตาของดวงแขเธอเองก็คงไม่มีวาสนาที่จะอยู่ในที่ดีๆแบบนี้เป็นแน่
เมื่อจัดทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้วสาวเจ้าก็ยกมือถือกดโทรหาเพื่อนเธอทันทีRrrrrrrrrr“ว่าไงวันนี้นึกยังไงโทรหาฉันได้ล่ะยัยแก้ว” จอมขวัญคุณหนูไฮโซสาวเป็นเพื่อนสมัยเรียนกับลูกแก้วเธอทั้งดีใจและแปลกใจพอๆกันที่จู่ๆเพื่อนเธอก็มาโทรหา“ขวัญวันนี้แกว่างไหมตอนนี้ฉันคอนโดXXXX”“นี่แกอยู่กรุงเทพแล้วเหรอแล้วแกไปร่ำรวยมาจากไหนถึงได้อยู่คอนโดแพงขนาดนั้นอะหรือมีเสี่ยเลี้ยง”“แกจะบ้าหรือไงยัยขวัญฉันเลี้ยงตัวเองได้ไม่จำเป็นต้องมีใครมาเลี้ยง”“ตกลงแกจะมาไหมขวัญ”“ไปสิอีกสิบนาทีเจอกันฉันอยู่แถวนี้พอดี” หลังจากที่ลูกแก้ววางสายจากจอมขวัญเธอก็เตรียมตัวอาบน้ำอาบท่ารอเพื่อนสาวมาหาที่คอนโดและทั้งสองกะว่าจะออกไปเดินเล่นหาอะไรทานกันตอนเย็นด้วยจอมขวัญเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาลัยที่กรุงเทพจอมขวัญเป็นลูกสาวเศรษฐีระดับไฮโซคนหนึ่งเลยก็ว่าได้แต่จอมขวัญไม่เคยรังเกียจที่จะคบกับเธอเลยสักนิดอีกทั้งพ่อแม่ของจอมขวัญก็รักลูกแก้วเหมือนลูกสาวอีกหนึ่งคนเลยด้วยซ้ำท่านทั้งสองชอบที่ลูกแก้วเป็นคนขยันเรียนดีและไม่อายใครที่จะบอกว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า ตอนที่เรียนมหาลัยลูกแก้วจะไปมาหาสู่กับที่บ้านจอมขวัญตลอดเพื่อที่จะติวหนังสือให
อีกอย่างก็เพื่อจะดูว่าใครที่คบเค้าแบบจริงใจบ้างขนาดคู่หมั้นที่ว่ารักเขานักหนาในเมื่อรับสภาพเขาไม่ได้เธอจึงยอมตัดใจถอนหมั้นไปเองตอนที่เขาดีๆอยากจะถอนหมั้นกับเธอแทบตายกลับไม่ยอมเพื่อนฝูงที่เคยคบพอรู้ว่าเขาไม่ได้ดูแลบริษัทใหญ่โตแถมยังพิการก็หนีหายกันหมดนี่แหละที่เขาเรียกว่าเพื่อนกินหาง่ายเพื่อนตายหายากแล้วเขาก็ชักจะพอใจกับชีวิตที่เป็นแบบนี้ซะแล้วมันวัดอะไรได้หลายอย่างจริงๆ“คุณพอลเป็นอะไรหรือเปล่าคะพลอยเห็นหน้าซีดๆ” พลอยไพลินถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าเป็นห่วงเธอเห็นตั้งแต่เขาออกจากห้องมาก็สีหน้าไม่ค่อยดีสักเท่าไร“เปล่าหรอก...ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็กลับกันเถอะผมอยากพัก”“โอเคค่ะ..งั้นเดี๋ยวพลอยโทรให้ลุงสนขับรถมารับตรงนี้ละกัน” กว่าจะถึงบ้านก็บ่ายพอดีเมื่อทานข้าวเสร็จพลอยไพลินก็พาชายหนุ่มออกมานั่งที่สวนหน้าบ้านพร้อมให้ชายหนุ่มใช้เท้าเปล่าเหยียบพื้นดินพื้นหญ้าและค่อยๆเดินบนราวที่สั่งให้คนมาทำไว้ให้เพื่อทำกายภาพโดยเฉพาะ ความตั้งอกตั้งใจของที่จะรักษาชายหนุ่มที่หญิงสาวมีนั้นชายหนุ่มเห็นว่ามันมีมากซะเหลือเกินใจนึงก็แอบคิดว่าหญิงสาวยังรักตนอยู่แต่อีกใจก็แอบคิดว่าหรือที่เธอทำเพราะอยากให้เขาหายไว
ดวงแขตัดสินใจให้ครอบครัวของน้องสาวเธอดูแลกิจการที่เมืองนอกแทนทั้งหมดเพราะตอนนี้หลานชายเธอก็โตและสามารถบริหารงานได้แล้วแถมยังทำงานเก่งมากอีกด้วยเธอจึงไม่จำเป็นต้องห่วงอะไรมากมายขอเกษียณตัวเองอยู่กับบ้านและใจเธอเองก็อยากอยู่ดูลูกชายของเธอจนหายดีถึงลูกชายของเธอจะโตเพียงใดเธอก็ยังเห็นเขาเป็นเด็กในสายตาเธออยู่ดียิ่งตอนนี้เขายิ่งเอาแต่ใจเปลี่ยนเป็นคนละคนกับเมื่อก่อนเธอก็ยิ่งห่วง“แม่ครับ”“ว่าไงตาพอลวันนี้นึกยังไงตื่นแต่เช้าเนี่ยพ่อตัวดี”ชายหนุ่มที่วันนี้ตื่นเช้าผิดปกติเพราะเขานอนไม่ค่อยหลับหลังจากที่ได้รับเมลจากเพื่อนของเขาเมื่อคืนเมื่อได้รับรู้เรื่องราวก็เอาแต่นอนคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาและคิดตำหนิตัวเองที่เห็นแก่ตัวนึกถึงแต่ความรู้สึกตัวเองมัวจมปลักอยู่กับเรื่องที่เสียใจจนไม่มีสติทิ้งการทิ้งงานดื่มแต่เหล้าไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างและคนรอบข้างที่เป็นห่วงเขาคิดว่าต่อไปนี่เขาจะเป็นคนใหม่เพื่อที่จะได้เป็นพ่อที่ดีเป็นแบบอย่างให้กับลูกได้ความรักที่พ่อมีต่อลูกมันเป็นความรู้สึกแบบนี้นี่เองเขาได้เข้าใจลึกซึ้งก็เมื่อได้คลุกคลีอยู่กับยัยหนูนี่แหละแม้จะไม่ได้มีใครยืนยันว่าเป็นลูกของเขาแต่เข
“พลอย”หญิงสาวที่กำลังคิดอะไรเพลินๆหันมาตามเสียงเรียกที่ชายหนุ่มเธอรู้สึกว่าวันนี้ชายหนุ่มมาแปลกเขานึกยังไงถึงเรียกชื่อเธอกันทั้งสีหน้าแววตาที่มองเธอแปลกไปจากเมื่อวานอีกเธอจึงเริ่มรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรเป็นแน่“พี่ขอถามอะไรอย่างนึงสิ..พลอยหนีพี่ไปทำไม” เมื่อเห็นหญิงสาวนิ่งเขาจึงเริ่มถามคำถามที่อยากรู้“แล้ว.....ยัยหนูเป็นลูกของพี่ใช่ไหม” พลอยไพลินที่ได้ยินคำถามจากชายหนุ่มก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออกไม่คิดว่าเขาจะถามเรื่องนี้กับเธอหญิงสาวคิดว่าชายหนุ่มไม่ได้สนใจใส่ใจอะไรในตัวเธอแล้วด้วยซ้ำแล้วทำไมวันนี้จู่ๆถึงมาถามเรื่องนี้กับเธออีกล่ะพลันคิดได้แบบนั้นอยู่ดีๆน้ำตาเธอก็ไหลออกมา“พี่รู้ความจริงหมดทุกอย่างแล้วนะพลอย..เรื่องคลิปนั่นอีกพี่ขอบอกตรงนี้เลยนะว่ามันไม่เป็นความจริงเลยผู้หญิงคนนั้นเป็นคู่หมั้นพี่ก็จริงแต่พี่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวอะไรกับเธอเลยนะ” พลอยไพลินที่ยืนฟังเขาพูดไปน้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลออกมาจนหยุดไม่ได้ปากก็พูดอะไรไม่ค่อยจะออกอีกเธอละเบื่ออาการที่ตนเองร้องให้ทีไรเป็นหยุดยากทุกที“ถึง...ค..พี่พอลจะไม่ได้...ยุ่งกับเธอแต่คุณก็ไม่เคยบอกพลอยเรื่องที่พี่มีคู่หมั้นอยู่แล้วกับพลอยเลยพี่เห็นพลอย
“ชั้นนี้เป็นชั้นที่พี่กับคุณพรีมทำงานอยู่แค่สองคนแต่ส่วนมากคุณพรีมก็จะเข้าๆออกๆไม่ค่อยได้อยู่บริษัทเท่าไรน่ะจะเพราะคุณพรีมต้องดูแลหลายที่”“ค่ะ”ติ๊งงงงงงงทั้งสองสาวหันไปมองเสียงลิฟท์ที่พึ่งดังขึ้นมาเมื่อลิฟท์เปิดออกมาก็มีชายหนุ่มใส่สูทสีเทาผิวแทนหน้าคมเหมือนลูกครึ่งกำลังก้าวเท้ายาวๆออกมาจากลิฟท์“สวัสดีค่ะคุณพรีม..วันนี้มาแต่เช้าเลยนะคะ”“สวัสดีครับพี่สา..วันนี้ผมต้องไปทานข้าวกับที่บ้านตอนเย็นน่ะครับเลยต้องรีบดูงานที่ค้างไว้ให้เสร็จ”“นี่ฉัตรนลินค่ะที่คุณหญิงให้มาเป็นเลขาให้คุณพรีมน่ะค่ะ”“สวัสดีค่ะหนูชื่อฉัตรนลินค่ะเรียกลูกแก้วก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้านายตรงหน้าแต่คนตรงหน้าดันทำเป็นไม่เห็นเดินผ่านเธอไปเข้าห้องทำงานเสียอย่างนั้นทำเอาหญิงสาวต้องหันไปมองหน้าสาวิตรีอย่างแปลกใจ“เอ่อ...ช่วงนี้คุณพรีมน่าจะเครียดๆน่ะลูกแก้วไม่ต้องคิดมากน้ะจ้ะ” สาวิตรีที่ชินกับอาการของชายหนุ่มคิดว่าอีกหน่อยหญิงสาวก็คงจะชินเช่นกันเพราะเมื่อเจ้านายหนุ่มเครียดๆอาการก็จะเป็นเช่นนี้“เอ่อ...พี่สาคะคุณพรีมเค้ายังปกติดีอยู่ใช่ไหมคะ...แฮร่ๆๆๆๆๆ”“เข้าใจแซวนะเราน่ะ” สาวิตรีที่อดขำที่หญิง
“โอเค..เรียบร้อยคุณกลับได้แล้วพรุ่งนี้เจอกัน”“แก้วลานะคะ...สวัสดีค่ะ” หญิงสาวที่นั่งหายใจติดขัดอยู่นานกลัวว่าตนเองจะทำอะไรผิดพลาดแล้วโดนชายหนุ่มตำหนิขึ้นมาอีกแต่เปล่าเลยแสดงว่าฝีมือเธอก็ใช้ได้อยู่เหมือนกัน เมื่อไม่มีอะไรแล้วเธอจึงขอตัวกลับทันทีเพราะวันนี้มีนัดทานข้าวกับที่บ้านของจอมขวัญเพราะเมื่อตอนเย็นจอมขวัญส่งข้อความมาในไลน์ว่าคุณพ่อกับคุณแม่คิดถึงอยากเจอให้มาทานข้าวที่บ้านด้วยกันเย็นนี้ลูกแก้วตอบตกลงโดยไม่ลังเลเพราะหญิงสาวก็กะว่าจะหาเวลาไปสวัสดีพวกท่านอยู่เหมือนกันRrrrrrrrr“ครับคุณแม่” พีรพัตรรับสายคนเป็นแม่แถมรู้ได้ทันทีว่าคงโทรมาบอกให้เขากลับบ้านเร็วๆอีกเช่นเคย“เสร็จงานหรือยังลูกวันนี้แม่เข้าครัวทำของโปรดไว้ให้ลูกเยอะเลยน้าวันนี้ต้องไม่เบี้ยวแม่แล้วนะ”“ครับคุณแม่ไม่เบี้ยวแน่นอนครับผมกำลังจะกลับพอดีเลย”“แล้วแม่จะรอนะ”“ครับแม่” เมื่อชายหนุ่มวางสายจากผู้เป็นแม่ได้ก็เตรียมตัวออกไปทันทีเพราะนานๆทีเขาจะว่างทานข้าวกับครอบครัวสักครั้งเพราะงานที่ยุ่งรัดตัวเขาเหลือเกินจึงทำให้ไม่ค่อยมีเวลาที่จะอยู่กับครอบครัวสักเท่าไรลำพังงานของเขาเองก็เยอะอยู่แล้วและนี่ยังต้องมาดูแลบริษั
เรือนเล็กหลังจากที่พลอยไพลินกลับมาที่เรือนเล็กเห็นว่าเจ้าก้อนกลมลุกสาวของเธอนอนหลับอุตุเรียบร้อยแล้วจึงรีบเข้าห้องน้ำอาบน้ำอาบท่าเพื่อที่จะรีบมาปิดไฟนอนไปพร้อมกับลูกครู่ต่อมา“ว้ายยย...คุณพอลคุณเข้ามาได้ยังไงเนี่ยยย” พลอยไพลินเข้าห้องน้ำไปไม่นานมากนักก็เดินพันผ้าขนหนูผืนเดียวออกมาจากห้องน้ำแต่ก็มีสิ่งที่ทำให้เธอต้องร้องตกใจเพราะชายหนุ่มก็มานั่งอยู่ในห้องของเธอโดยที่ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาตอนไหนและเข้ามาได้อย่างไร“คือพี่อยากจะมานอนยัยหนูน่ะพลอยคงไม่ว่าอะไรนะ” แผ่นดินเอ่ยหน้าตาเฉยทั้งสายตายังคอยจับจ้องใบหน้านวลไล่ลงมาที่ไหล่มนของเธออย่างถือวิสาสะ“แล้วคุณมาที่นี่ได้ยังไง” พลอยไพลินถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ที่ตอนนี้เขาได้มานั่งอยู่บนเตียงของเธอเรียบร้อยโดยไม่ได้ขออนุญาตเธอสักคำหญิงสาวนึกแปลกใจว่าคนตรงหน้ามาที่นี่ได้ยังไงโดยที่ในห้องของเธอตอนนี้ก็ไม่มีรถเข็นของเขาอยู่ด้วย“พี่ก็ให้ลุงสนพามาส่งที่นี่ไงพี่อยากมาหาลูกบ้างไม่ได้หรือไง” ชายหนุ่มถามกลับหญิงสาวน้ำเสียงแกมประชด“แต่คุณก็น่าจะคุยกับพลอยก่อนไหมคะว่าสะดวกให้คุณมานอนหรือเปล่าเดี๋ยวพลอยขอแต่งตัวแปปนะคะเดี๋ยวจะไปเรียกลุงสน
“ว้ายยยยยยย”ฟอดดดด ขณะที่หญิงสาวหมุนตัวกำลังที่จะเดินกลับไปนอนอยู่ดีๆก็มีมือของชายหนุ่มดึงเธอลงมานอนที่ตียงแบบไม่ทันตั้งตัวพร้อมกดจมูกไปที่แก้มของเธอแล้วหอมฟอดใหญ่“เล่นบ้าอะไรของคุณเนี่ย...ปล่อยพลอยเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวไม่กล้าดุชายหนุ่มเสียงดังมากนักกลัวว่าคนบนเปลจะตื่นขึ้นมาอีกจึงทำได้แค่พยายามดึงแขนของเขาที่รัดลำตัวเธออยู่ออกไปให้ได้“ไม่ปล่อยอยากทำให้พี่รู้สึกตัวทำไมล่ะ..แบบนี้พลอยต้องรับผิดชอบต้องให้พี่กอดจนหลับเข้าใจไหม”ฟอดดด ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงกวนประสาทข้างพวงแก้มของหญิงสาวก่อนจะกดจมูกลงไปที่แก้มของหญิงสาวแบบแรงๆอีกครั้ง“อื้มม...ชื่นใจ” ชายหนุ่มยิ้มกริ่มด้วยความพอใจ“นี่คุณพอลมันจะมากไปแล้วนะ” พลอยไพลินเริ่มเสียงแข็ง“มากไปตรงไหนพี่แค่จะหอมเมียตัวเองมันไม่มากไปหรอกพลอย” เขายังไม่หยุดที่จะใช้น้ำเสียงกวนประสาทหญิงสาวยิ่งเธอดิ้นมากเท่าไรเขาเองก็ยิ่งกอดเธอแน่นเท่านั้นเขาไม่เข้าใจว่าเธอทำไมต้องปฏิเสธเขาขนาดนี้ด้วยแต่ยังไงเขาก็ไม่ยอมแพ้ที่จะง้อเธอต่อไปถ้าไม่ติดว่ากลัวหญิงสาวจะรู้เรื่องที่ขาตนเองหายดีแล้วเขาคงทำมากกว่าแค่กอดเป็นแน่สาวเจ้าจะได้เลิกพยศเขาสักที“ขอพี่นอนก