“ยัยขวัญน่าจะได้ยินที่พี่คุยกับหมวดพงษ์เรื่องวินน่ะสิ” พีรพัตรตอบคนเป็นภรรยาพร้อมชะเง้อมองนองสาวตัวเองขับรถออกไปอย่างร้อนใจ
“งั้นไม่ต้องตามค่ะ” เมื่อลูกแก้วรู้สาเหตุว่าทำไมจอมขวัญถึงวิ่งหนีออกไปแบบนั้นเธอก็สั่งผู้เป็นสามีทันทีว่าไม่ต้องตามเพราะถ้าเธอเป็นจอมขวัญเธอก็จะทำแบบนี้เหมือนกัน
“ทำไมล่ะคุณ” พีรพัตรหน้าเสียกับคำสั่งของลูกแก้วที่อยู่ดีๆก็มาห้ามเขาตามน้องสาวไปเสียอย่างนั้นไม่กลัวว่าจะเกิดเรื่องยุ่งบ้างหรืออย่างไร
“เชื่อลูกแก้วเถอะค่ะคุณพรีมพลอยว่าปล่อยจอมขวัญไปเถอะค่ะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดเดี๋ยวพลยขอไปดูยัยหนูก่อนนะคะ”
พลอยไพลินช่วยพูดอีกเสียงเพราะถ้าเป็นเธอก็คงจะปวดใจมากเหมือนกันที่คนรักของตัวเองบาดเจ็บสาหัสแต่ตัวเองไม่มีสิทที่จะรู้เลยหญิงสาวพูดจบก็ขอตัวออกมาเพราะอยากจะให้ทั้งสองพูดคุยกันเองเธอไม่อยากให้ทั้งสองรู้สึกอึดอัด
“จริงอย่างที่พี่พลอยพูดนะคะคุณพรีมอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดนะคะ”
“แต่มันจะวุ่นวายไปกันใหญ่นะคุณ” พีรพัตรไม่เข้าใจว่าสองพี่น้องคนนี้พวกเธอคิดอะไรกันอยู่ในเมื่อรู้อยู่ว่าถ้าจอมขวัญรู้มันต้องวุ่นวายแน่ๆเพราะเขารู้นิสัยน้องสาวของเขาดี
“ลองคิดตามแก้วนะคะถ้าแก้วเกิดหายไปหลายวันแล้วไม่มีใครให้คำตอบคุณพรีมว่าแก้วหายไปไหนคุณพรีมจะรู้สึกยังไงคะ” ชายหนุ่มลองคิดตามคนที่เป็นภรรยาพูดเขาก็ถึงกับพูดไม่ออกเอาแต่ยืนก้มหน้าแล้วถอนหายใจ
“ไม่มีใครอยู่เฉยๆได้หรอกนะคะถ้ารู้ว่าคนรักของตัวเองหายเงียบไปเป็นตายยังไงก็ยังไม่รู้” ลูกแก้วลองยกตัวอย่างให้เขาได้คิดตามอีกรอบเมื่อเห็นคนเป็นสามีเริ่มอ่อนลง
“เดี๋ยวนะคนรัก” พีรพัตรเงยหน้ามาถามภรรยาของเขาเพราะสะดุดคำว่าคนรักแล้วใครรักใครเขาไม่เข้าใจ
“นี่คุณพรีมดูไม่ออกเหรอคะว่ายัยขวัญรักคุณธาวินขนาดไหน...ไม่สังเกตุท่าทีที่เปลี่ยนไปของน้องสาวคุณบ้างเหรอคะ”
ชายหนุ่มยิ่งได้ฟังที่ภรรยาเขาพูดและลองคิดตามใช่สิเขายังแปลกใจกับนิสัยที่เปลี่ยนไปของน้องสาวเขาอยู่เลยทั้งที่เคยนอนตื่นสายกลับมานอนตื่นเช้าจากทำอาหารไม่เป็นก็ลุกขึ้นมาแต่เช้าเพื่อมาทำอาหารจากทนแดดทนร้อนไม่ค่อยจะได้กลับช่วยธาวินทำงานในสวนแถมยังไม่แต่งตัวจัดแบบเมื่อก่อนอีกเขาเริ่มรู้แล้วว่าเป็นเพราะอะไร
“รู้แล้วใช่ไหมคะ” ลูกแก้วที่เห็นคนเป็นสามีทำท่าครุ่นคิดก็ถึงกับยิ้มออกเพราะคิดว่าสามีของเธอคงจะคิดออกแล้วว่าเพราะอะไรเพราะถ้าเขาไม่คิดแบบเธอคงแย้งมาตั้งแต่ทีแรกแล้ว
ชายหนุ่มพยักหน้ารับคนเป็นภรรยาแล้วกอดไหล่หญิงสาวเดินเข้าไปในบ้านเป็นสัญญาณที่ส่งมาแทนคำพูดว่าเข้าใจแล้วปล่อยจอมขวัญน้องสาวตัวแสบไปก่อนก็ได้
จอมขวัญขับรถมุ่งหน้าไปที่สถานีตำรวจในอำเภอเธอคิดว่าหมวดจักรพงษ์ต้องอยู่ที่นั่นแน่ๆวันนี้เธอต้องรู้ให้ได้ว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่แล้วธาวินอยู่ที่ไหนทำไมพี่ชายเธอต้องปิดบังเธอด้วยในเมื่อไม่มีใครให้คำตอบเธอได้เธอก็ขอลุยหาคำตอบเองเลยแล้วกัน
จอมขวัญขับรถมาถึงที่โรงพักเมื่อเธอกำลังจะลงจากรถก็เห็นหมวดจักรพงษ์เดินออกมาพอดีเธอคิดถูกว่าหมวดต้องอยู่ที่นี่เธอจึงกลับขึ้นไปบนรถแล้วลองสังเกตการณ์ดูว่าหมดจักรพงษ์จะไปไหนต่อ
หมวดจักรพงษ์ขับรถออกจากโรงพักเพื่อที่จะไปดูอาการของหัวหน้าของเขาที่เซฟเฮ้าท์หัวหน้าของเขาออกจากห้อง ICU แล้วจึงมาพักรักษาตัวอยู่ที่นั่น ถึงจะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่ชายหนุ่มก็ยังมีแผลฉกรรณ์อยู่ตามตัวหลายที่ทั้งรอยมีดรอยผ่าตัดอากระสุนปืนออกที่ยังต้องรักษากันอีกนาน
จอมขวัญขับรถตามนายตำรวจหนุ่มอยู่ห่างๆคิดว่าชายหนุ่มคงไม่รู้ตัวว่ามีคนตามเพราะรถที่ขับอยู่บนถนนก็ค่อนข้างที่จะเยอะพอสมควรเมื่อหมวดจักรพงษ์ขับเข้ามาในซอยลึกก็นึกเอะใจว่ามีแสงไฟจากรถข้างหลังได้อย่างไรเพราะที่นี่เป็นสถานที่ที่ใครก็ไม่ได้จะเข้ามาง่ายๆเขาเองก็นึกชะล่าใจไม่ได้ดูให้ดีตั้งแต่ทีแรกนึกตำหนิตัวเองที่ไม่ระวังตัว
จักรพงษ์หยุดรถและเดินถือปืนลงมาทำให้หญิงสาวต้องเหยียบเบรกกะทันหันเพราะตกใจไม่คิดว่าชายหนุ่มจะรู้ตัวหญิงสาวนั่งหลับตาปี๋กัดปากตัวเองอย่างเจ็บใจทีทำให้ไก่ตื่นจนได้
ก๊อกๆๆๆ
จักรพงษ์เคาะกระจกรถคันที่จอดอยู่อย่างเอาเรื่องถ้าเปิดมาเป็นคนร้ายเขาก็พร้อมที่จะต่อสู้แบบไม่ยั้งมือเหมือนกัน
“คุณจอมขวัญ” พอจักรพงษ์เห็นว่าเป็นใครที่นั่งอยู่บนรถก็อุทานเรียกชื่อออกมาอย่างดังไม่คิดว่าหญิงสาวจะตามเขามาถึงที่นี่ได้ชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวตามเขามาถึงที่นี่จะปิดเรื่องของหัวหน้าของเขาก็คงจะลำบากไหนๆก็มาจนะถึงหน้าเซฟเฮ้าท์แล้ว
เขาจึงให้เธอเข้าไปคุยกันข้างในบ้านเลยแล้วกันเผื่อหัวหน้าเขาเจอหน้าจอมขวัญแล้วอาการจะดีขึ้นอย่างรวดเร็วบ้างยิ่งเห็นหัวหน้าเขานอนเป็นผักไร้คนรักหรือญาติมิตรดูแลอยู่อย่างนี้เขาเองก็สงสารจับใจ
“ทานน้ำก่อนครับคุณจอมขวัญ” จักรพงษ์พาจอมขวัญมานั่งที่ห้องรับแขกพร้อมหาน้ำหาท่ามาเสริฟหญิงสาว
“เอ่อคือขวัญได้ยินเรื่องที่หมวดคุยกับพี่พรีมน่ะค่ะตกลงพี่วินอยู่ไหนคะแล้วเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ทำไมทุกคนต้องปิดบังขวัญกันด้วยล่ะคะ” จอมขวัญเมื่อเห็นจักรพงษ์นั่งลงแล้วจึงโพล่งถามคำถามที่อยากรู้ขึ้นมาทันทีตอนนี้เธอสับสนไปหมดแล้วยังไงวันนี้เธอก็ต้องรู้เรื่องทุกอย่างให้ได้
จักรพงษ์เอ่ยเรื่องราวทั้งหมดให้จอมขวัญได้ฟังเขาไม่กลัวว่าจะโดนคนเป็นหัวหน้าตำหนิแล้วในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แค่ขอให้จอมขวัญเก็บเรื่องสถานที่ที่นี่เป็นความลับพอซึ่งจอมขวัญก็รับปากทุกอย่างขอแค่ให้เธอได้อยู่คอยดูแลธาวินเท่านั้นเอง“เชิญครับคุณขวัญหัวหน้าหลับเพราะฤทธิ์ยาน่ะครับคุณขวัญอยู่ที่นี่ตามสบายเลยนะครับเดี๋ยวผมจะโทรบอกทางบ้านคุณให้เอง”“ขอบคุณค่ะ” จักรพงษ์พาจอมขวัญไปเยี่ยมธาวินที่ในห้องหญิงสาวก็ปล่อยโฮออกมาทันทีเมื่อเห็นสภาพของชายหนุ่มเธอไม่คิดว่าเขาจะเป็นหนักขนาดนี้แต่ก็ยังดีที่ยังรอดกลับมา จอมขวัญเทียวไปเทียวมาอยู่หลายครั้งร่วมเดือนจนธาวินเริ่มดีขึ้นจึงย้ายกลับมาที่บ้านของเขาหญิงสาวเฝ้าดูแลชายหนุ่มอยู่ไม่ห่างจนแผลตอนนี้เริ่มดีขึ้นมากเดินเหินก็สะดวกมากขึ้นแต่ก็ยังต้องมีคนดูแลอย่างดีเพราะตอนนี้ชายหนุ่มอยู่บ้านคนเดียวแล้ว หลังจากจบคดีของเสี่ยวันชัยเมฆินก็โดนเรียกตัวไปช่วยคดีอื่นต่อจึงทำให้ธาวินพักรักษาตัวอยู่คนเดียวหญิงสาวจึงตามดูแลธาวินอยู่ไม่ห่างทั้งดูงานในสวนสั่งงานลูกน้องของธาวินเองหาตลาดส่งผลใหม่ เพราะว่าโรงงานของวิเวียนได้ปิดตัวลงแล้วหญิงสาวดูงานในสว
“งั้นเราทานข้าวก่อนเถอะจะได้ทานยา” วรรณาที่คุยกับหลานชายเรียบร้อยก็เห็นว่านี่มันจะเลยเวลาทานข้าวเช้าแล้วจึงรีบบอกให้หลานชายทานข้าวจะได้ทานยาเพราะกับข้าวที่หญิงสาวทำก็ดูว่าจะเริ่มเย็นแล้วเดี๋ยวมันจะไม่อร่อย“เดี๋ยวขวัญไปตักข้าวต้มมาให้คุณป้าแล้วทานด้วยกันเลยนะคะ” จอมขวัญเห็นว่าป้าของชายหนุ่มมาแต่เช้าท่าทางจะยังไม่ได้ทานอะไรมาแน่ๆหญิงสาวจึงเอ่ยปากจะไปตักข้าวต้มมาให้“ขอบใจจะ” วรรณายิ้มรับคำของจอมขวัญนึกเอ็นดูคนตรงหน้าที่ดูจะเป็นแม่ศรีเรือนคนนี้เสียจริง“หืมอร่อยมากเลยหนูขวัญ..แบบนี้ป้าต้องฝากท้องกับหนูขวัญบ่อยๆแล้วล่ะจะ”“ขอบคุณค่ะคุณป้า...สูตรนี้เป็นของนมนิดที่อยู่ที่บ้านไร่ของป้าขวัญเองค่ะ” ทั้งสามทานข้าวกันไปด้วยนั่งคุยกันไปด้วยจนวรรณารู้ว่าทั้งสองรู้จักกันด้อย่างไรและจอมขวัญเป็นลูกเต้าเหล่าใครด้วยเสียงที่เจื้อยแจ้วและพูดเก่งของจอมขวัญที่หาเรื่องคุยได้ตลอดเวลาทำเอาวรรณายิ้มไม่หุบเธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลานชายของเธอจึงดูสดใสทั้งที่ยังมีอาการเจ็บอยู่น่าจะเป็นเพราะหญิงสาวคนนี้นี่แหละ จะว่าไปเธอคงจะต้องไปคุยอะไรกับหลานชายเธอหน่อยแล้วที่ลูกสาวบ้านอื่นมาตามเฝ้าถึงที่แล้วคนเ
“อ้าวคุณน้าสวัสดีครับ” แผ่นดินที่กำลังเดินจูงมือยัยหนูชมพูที่เริ่มเดินได้แข็งแล้วเมื่อเห็นผู้เป็นน้าเขยก็รีบยกมือสวัสดีทำเอายัยหนูชมพูยกมือขึ้นสวัสดีตาม“จ้า” ยัยหนูชมพูยกสองมือป้อมๆตามผู้เป็นพ่อแล้วส่งเสียงสวัสดีตามที่ผู้เป็นแม่เคยสอนแต่ก็ดันพูดออกมาได้คำเดียวว่าจ้าทำเอาทุกคนที่ยืนอยู่ต่างขำกับท่าทีของเด็กหญิงตัวกลมคนนี้กันยกใหญ่“โอ้โหหลานปู่ไหว้สวยจังเลยค่ามาให้ปู่หอมหน่อยเร็ว” พอพิศิษฐ์ได้เห็นท่าทางของหลานก็รู้สึกเอ็นดูลูกของหลานชายเขาทำไมถึงได้จ้ำม่ำน่าฟัดขนาดนี้เขาทำท่าชูสองแขนให้ยัยหนูมาหาเมื่อยัยหนูเดินมาหาเขาก็อุ้มก่อนที่เขาหอมที่แก้มย้วยๆไปหนึ่งฟอด“ลูกเราพูดได้หลายคำหรือยังเนี่ยตาพอล” เมื่อสักครู่พิศิษฐ์เห็นหลานพูดจ้าได้ก็เลยอยากรู้ว่าหลานสาวเขาพูดได้กี่คำแล้ว“ตอนนี้ก็พูดได้ทีละคำครับแต่ก็ยังได้ไม่เยอะเรียกพ่อกับแม่กับหม่ำๆได้แค่นี้ผมก็ดีใจแล้วครับ” แผ่นดินดีใจมากตอนที่ได้ยินว่ายัยหนูเรียกพ่อกับแม่ได้ตอนนั้นเขารู้สึกไม่เชื่อหูตัวเองเลยเค้นให้ยัยหนูพูดอยู่หลายรอบจนพลอยไพลินต้องปรามอาการเห่อที่ลูกพูดได้ของเขายกใหญ่ไม่อย่างนั้นคงให้ลูกพูดทั้งวันไม่หยุดแน่ๆ“ไหนลองเ
“ต้องยกความดีความชอบให้ขวัญแล้วหละที่คอยดูแลเอาใจใส่จนมันออกลูกมาดกขนาดนี้” ธาวินเห็นหญิงสาวยืนยิ้มภาคภูมิใจกับสิ่งที่หญิงสาวลงมือทำเองจนประสบผลสำเร็จก็อดชมไม่ได้“ก็ขวัญใช้หัวใจดูแลไงคะ..รู้ไหมคะตั้งแต่ขวัญมาดูแลสวนให้พี่วินขวัญรู้สึกต้นไม้ในสวนมากเลยค่ะ” จอมขวัญรู้สึกรักและก็ผูกพันธ์กับสิ่งที่เธอทำเธอไม่รู้ว่าเธอชอบที่จะตากแดดตากลมทำงานในสวนตั้งแต่เมื่อไรแต่มารู้ตัวอีกเธอก็รู้สึกว่ามีความสุขทุกครั้งที่อยู่ในสวนผลไม้นี้ไปแล้ว“พี่ก็รัก....รักมากด้วย” ธาวินพูดคำว่ารักออกมาก่อนจะมองไปทางหญิงสาวด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้มทำเอาคนที่ยืนยิ้มมาทางชายหนุ่มถึงกับหลบสายตาที่ส่งมาแทบไม่ทันถึงจะคิดว่าเขาคงพูดว่ารักสวนผลไม้ก็เถอะแต่เธอก็เขินกับคำที่เขาพูดว่ารักอยู่ดี“เอ่อ...พี่วินพึ่งกลับมาเหนื่อยๆเดี๋ยวขวัญไปหยิบน้ำมาให้นะคะ” หญิงสาวรีบชิงบอกว่าจะไปหยิบน้ำให้ชายหนุ่มเพื่อแก้อาการเขินเธอรีบวิ่งเข้าไปในครัวอย่างรุกรี้รุกลนเพราะกลัวว่าเขาจะเห็นว่าเธอเขินอยู่แต่มันก็ไม่ทันแล้วหน้าเธอออกจะแดงขนาดนั้นเขาแค่แกล้งนิดเดียวเองที่เขาพูดว่าพี่ก็รักเขาหมายถึงรักสวนนี้เหมือนกันแต่ที่บอกว่ารักมากด้วยคำนั
ก๊อกๆๆๆ“อ้าวพี่วินขึ้นมาทำอะไรคะ” จอมขวัญได้ยินเสียงเคาะประตูเลยเดินออกมาเปิดทั้งที่ยังไม่ทันได้มองตาแมวว่าเป็นใครเพราะคิดว่าอาจจะเป็นคนในบ้านมาตามไปทานข้าวแน่ๆแต่เมื่อเห็นเป็นชายหนุ่มเธอจึงตกใจไม่คิดว่าเขาจะขึ้นมาหาเธอถึงที่ห้อง“พี่มาดูขวัญไงเห็นคุณพ่อขวัญบอกว่าขวัญไม่สบายพี่เลยขึ้นมาดู...พี่เข้าไปข้างในได้ไหม” ธาวินเห็นสีหน้าหญิงสาวที่ดูจะไม่ค่อยดีนักเขาจึงขอเข้าไปคุยกับเธอด้านในชายหนุ่มเห็นอาการซึมของหญิงสาวก็พอจะดูออกว่าที่ซึมๆอยู่เนี่ยคงจะเป็นเพราะผลจากที่เขาแกล้งเธอแน่ๆอยากจะต่อยหน้าตัวเองชะมัดที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง“เอ่อ...ค่ะ” ธาวินเดินเข้ามาในห้องของจอมขวัญเมื่อเห็นหญิงสาวนั่งลงบนเตียงเขาก็ถือวิสาสะยื่นหลังมือไปแตะที่หน้าผากของเธอทันทีเพื่อดูว่าเธอป่วยจริงหรือเปล่า“ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา...ป่วยการเมืองหรือเปล่าเราอะ” ธาวินอมยิ้มแลัวมองหน้าหญิงสาวจอมเจ้าเล่ห์เขารู้ว่าที่เธอแกล้งป่วยกะทันหันเพื่อที่จะได้ไม่ต้องลงไปเจอเขาแน่ๆ“ตกลงพี่วินมาหาขวัญมีอะไรคะ” จอมขวัญไม่ได้ตอบปฏิเสธอะไรจากคำกล่าวหาของเขาตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะมองหน้าของเขาด้วยซ้ำเลยเร่งถามคนตรงหน้าว่าที่มามีธุร
“คิดถึงแต่คุณย่าใหญ่เหรอคะไม่คิดถึงคุณย่าเล็กบ้างเลยเหรอแบบนี้ย่าก็น้อยใจแย่เลยนะเนี่ย” พิไลเมื่อเห็นยัยหนูชมพูเข้ามากอดหอมผู้เป็นพี่สาวของตัวเองก็อดหยอกหลานตัวน้อยที่กำลังส่งเสียงเจื้อยแจ้วอยู่ตอนนี้ไม่ได้“ชมพูก็คิดถึงคุณย่าเล็กเหมือนกันค่ะ”ฟอดดดดดเด็กหญิงตัวกลมผละจากคุณย่าใหญ่แล้วเข้าไปกอดคุณย่าเล็กของเธอพร้อมหอมฟอดใหญ่ๆแบบเท่าเทียมกัน“ว่าไงคุณพ่อลูกสอง” พีรพัตรเอ่ยหยอกผู้เป็นพี่ชายที่กำลังเดินจูงลูกชายคนเล็กเข้ามาในบ้านพร้อมพลอยไพลินชายหนุ่มพอจะเดาออกที่พี่ชายเขามาช้าก็คงจะเป็นเพราะสองแสบนี่อีกล่ะสิ“เออ..เหนื่อยดี” แผ่นดินได้แต่อมยิ้มแล้วส่ายหัวให้กับพีรพัตรให้น้องของเขาเห็นว่าว่ามีลูกสองแล้วมันเป็นยังไงแต่ถึงเหนื่อยแต่เขาก็มีรอยยิ้มได้ทุกวันก็เพราะลูกสองคนนี้แหละทำงานเสร็จปุ้ปต้องรีบกลับมาหาลูกหาเมียทันที“แล้วนี่ลูกแก้วกับตาเก้าไปไหนล่ะ” แผ่นดินว่าจะให้ลูกชายของเขาไปเล่นกับหลานชายสักหน่อยแต่ไม่เห็นทั้งแม่และลูกก็เลยถามหา“เมื่อกี้แก้วพาตาเก้าไปเข้าห้องน้ำน่ะเดี๋ยวก็มา......นั่นไงมาพอดีเลยเก้ามาพาฌอนไปเล่นหน่อยสิลูก”“ได้ฮะคุณพ่อ” พีรพัตรเห็นลูกแก้วเดินจูงลูกเข้ามาพอ
บ่ายแก่ๆ ของวันศุกร์“แอ้ๆ” เสียงเด็กหญิงตัวน้อยที่พึ่งตื่นและกำลังพลิกคว่ำพลิกหงายเล่นอยู่บนเปลเมื่อตื่นมามองไม่เห็นใครก็ส่งเสียงเล็กๆแหลมๆร้องอ้อแอ้ เพื่อเป็นการบอกให้รู้ว่าหนูตื่นแล้วน้า..และก็กำลังหิวอยู่ด้วยพลอยไพลินเมื่อได้ยินเสียงลูกร้องก็รีบละกิจกรรมทุกอย่างเดินมาหาเจ้าก้อนกลมอย่างรวดเร็ว“ตื่นแล้วเหรอคะคนเก่ง หิวแล้วล่ะสิ” พลอยไพลินที่กำลังจ้องมองยัยหนูแพรชมพูที่ยัดกำปั้นอวบๆเข้าปาก ก็รีบยกยัยหนูออกมาจากเปลเมื่อเห็นแม่ยกตัวเองออกมาจากเปลก็ละจากกำปั้นหันมาส่งยิ้มให้แม่แทนและก็รีบตะกุยไปที่ทรวงอกของผู้เป็นแม่พร้อมส่งเสียงเอิ้กอ้ากชอบใจที่รู้ว่าจะได้กินนมอุ่นๆจากเต้าแล้ว“หนูหิวมากเลยใช่ไหมคะชมพู ชมพูจ๋า ยิ้มให้แม่ก่อนเร็วคนเก่ง” พลอยไพลินหยอกล้อลูกเล่นก่อนที่จะให้กินนมเด็กหญิงก็น่าจะอยากเล่นกับแม่ด้วยก็ส่งเสียง อ้อแอ้เอิ้กอ้ากใหญ่แต่มือก็จ้องแต่จะตะปปไปที่นมอย่างเดียวพลอยไพลินเลยเปิดเต้าอวบอิ่มให้เจ้าก้อนกลมได้ดูดก่อนที่เสียงหัวเราะของลูกน้อยจะกลายเป็นเสียงร้องแทนระหว่างที่ยัยหนูชมพูดูดนมคนเป็นแม่แม่อยู่นั้นมือทั้งสองข้างก็คอยประคองนมเต้าที่ดูดเอาไว้กลัวว่ามันจะหายไปไหน...พ
บ้านเด็กกำพร้าพลอยไพลินขับรถมาถึงที่บ้านเด็กกำพร้าที่แม่น้อยดูแลอยู่เมื่อมาถึงหญิงสาวก็รีบเดินดิ่งตรงไปที่ห้องทำงานของแม่น้อยทันที“แม่จ๋า” เมื่อพลอยไพลินเห็นหญิงร่างท้วมนั่งกุมขมับอยู่บนโต๊ะทำงานหญิงสาวก็รีบวิ่งไปกอดแม่ที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กทันที“พลอย มาแล้วเหรอลูก” หญิงชราร่างท้วมที่นั่งกุมขมับอยู่เงยหน้ามาทักพลอยไพลินด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“แล้วเจ้าหนี้ที่เราไปกู้เค้ามาเค้าว่ายังไงบ้างจ้ะแม่” พลอยไพลินมาถึงด้วยความใจร้อนเลยถามแม่น้อยเรื่องที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ตอนนี้“เค้าบอกว่าถ้าเราไม่รีบเอาเงินไปคืนเค้า...เค้าจะยึดที่นี่ทำลายทิ้งแล้วสร้างรีสอร์ทแทนน่ะลูกแม่จนหนทางมากเลยตอนนี้แม่ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว ฮือๆๆๆๆ แม่ไม่อยากทิ้งเด็กๆ ไปเลยพลอย” หญิงร่างท้วมถึงกับปล่อยโฮออกมาเพราะไม่รู้ว่าจะเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหนเพราะเด็กกำพร้าที่บ้านตอนนี้ก็มีมากขึ้นทุกวันค่าใช้จ่ายมันก็สูงขึ้นเรื่อยๆเงินที่มีคนบริจาคมามันก็ไม่พอเพราะไหนจะเลี้ยงเด็กในบ้านไหนจะต้องจ่ายดอกเบี้ยที่แสนโหดจากเจ้าหนี้ที่เอาที่ดินไปจำนองไว้อีก“แม่ไม่ต้องห่วงนะจ้ะ ยังไงพลอยก็ไม่ยอมให้ใครมายึดที่นี่ได้หรอกจ้ะ