“เส้นทางหัวใจ…ระหว่างรักและอำนาจ” เมื่อโชคชะตานำพาให้หญิงสาวกำพร้าผู้มั่งคั่ง ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของครอบครัวหุ้นส่วนพ่อ เธอเติบโตขึ้นพร้อมกับสายตาของชายหนุ่มผู้หลงรักเธอมาตั้งแต่วัยเยาว์ แต่ความรักนั้นกลับถูกเก็บซ่อนไว้เพราะเขามีพันธะใจอยู่แล้ว จนเมื่อกาลเวลาผ่านไป เธอได้พบกับพ่อม่ายลูกครึ่งผู้เปี่ยมเสน่ห์และความจริงใจ ความรักครั้งใหม่ผลิบานขึ้น ทว่าความรักเก่าที่ไม่สมหวังกลับย้อนคืนมา พร้อมแรงปรารถนาที่กลายเป็นการคุกคามและอำนาจที่อาจทำลายทุกสิ่ง เมื่อหัวใจถูกทดสอบด้วยรักแท้และอดีตอันเจ็บปวด เธอจะเลือกเดินบนเส้นทางใด…ระหว่างรักมั่นคงกับพ่อม่ายหนุ่ม หรือโอกาสครั้งสุดท้ายจากชายผู้เคยเฝ้ามองเธอมาแสนนาน
View Moreณ บ้านวิเชียรวรกุลทั้งสามตื่นแต่เช้า เตรียมตัวเพื่อขึ้นเครื่องบินไปยังขอนแก่น “เราเอากระเป๋าไปเพิ่มดีมั้ย? แมทธิว พวกชุด รองเท้า กระเป๋าที่ซื้อให้วีวี่ คงใส่กระเป๋าเสื้อผ้าเด็กไม่พอหรอก ใบแค่นั้นน่ะ”“หนูไม่เอาไป กลัวชุดสวยกับรองเท้าพัง”ไอรดามองหน้า จนวีวี่หลบตาลง“ไม่ชอบเหรอ?”เด็กหญิงส่ายหน้าด้วยความกลัวไอรดา“แล้วทำไมไม่เอาไปด้วย?”“ถ้าหม่าม๊าเห็นจะต้องด่าหนู หนูกลัวหม่าม๊าทำพัง”คำตอบของเด็กทำเอาไอรดาสูดหายใจอย่างแรง ก่อนจะมองไปที่แมทธิว “ไม่เป็นไร ที่รัก เอาไว้ที่นี่ก็ได้ ถ้าคุณจะเมตตาเด็ก อนุญาตให้มาที่นี่อีก”เธอพยักหน้าด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะนึกอะไรได้อย่างหนึ่ง จึงไปที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วหยิบสร้อยทองเส้นเล็กที่เคยได้ตอนเด็ก เป็นสร้อยทองสองสลึง ห้อยด้วยหลวงปู่ทวดองค์เล็ก “มานี่สิ…ใส่เอาไว้นะ ห้ามถอดไม่ว่าจะยังไง”วีวี่ยกนิ้วก้อยให้เธอแทนสัญญา ทั้งสองเกี่ยวก้อยกัน ไอรดาลุกขึ้นสะบัดหน้าแล้วหันหลังให้ก่อนจะพูดขึ้น“น้ายกคุณทรัฟเฟิ้ลให้ ขี้เกียจได้ยินทีหลังว่ามีเด็กนอนฝันร้าย ร้องไห้ขี้มูกโป่งกลางดึก”เธอเดินออกจากห้องไปชั้นล่างทันที “คุณน้าโกรธที่หนูไม่เอาชุดไปด้วย”“ไม่ใช่แ
บ้านของไอรดาดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อมีคนสี่คนในบ้าน มีเสียงเด็กหัวเราะ ป้ารินที่คิดถึงหลานของตัวเอง พอมีเด็กเล็กก็หายเหงาไปได้มาก แมทธิวชอบทำอาหาร ช่วยตัดหญ้า ล้างรถ รดน้ำต้นไม้ พอช่วงบ่ายก็พากันขับรถออกไปเที่ยวนอกเมืองตามสถานที่ต่างๆทุกวัน แต่พอตกกลางคืนตั้งแต่มีเด็กหญิงมาอยู่ด้วย ไอรดาขอแมทธิวว่าจะไม่นอนห้องเดียวกับเขาและห้ามขอมีอะไรกับเธอในช่วงที่เด็กอยู่ที่นี่วีวี่อยากให้ไอรดาบินไปส่งกลับบ้านที่ขอนแก่นด้วย อีกทั้งแมทธิวก็ขอร้องจนยอมให้เขาจองตั๋วบินในวันเสาร์เพื่อไปด้วยกันสามคนจนได้ ระหว่างนั้นในเย็นวันพฤหัสบดี มีคนสองคนอุ้มเด็กเล็กเข้ามาที่บ้านของไอรดา แมทธิวที่กำลังเดินเล่นกับวีวี่ที่ปั่นจักรยาน เป็นคนที่ไปเปิดประตูให้ ป้ารินเดินออกมาหน้าบ้านถึงกับร้องไห้ เมื่อเห็นลูกชายลูกสะใภ้พาหลานมาหา พร้อมยื่นถุงพลาสติกเล็กๆใส่ส้มมาให้“แม่ สบายดีไหม? ซื้อส้มมาฝาก ว่าจะมาหาหลายทีตั้งแต่แม่บอกกลับมาที่บ้านนี้ พึ่งจะว่าง”“ไม่เป็นไรหรอก แม่เข้าใจ”ป้ารินกล่าวพร้อมกับรับหลานมาอุ้ม แมทธิวเดินกลับไปหาวีวี่ที่สนามหญ้าข้างบ้าน ปล่อยให้พวกเขาอยู่กันเป็นส่วนตัว“นั่นใครอ่ะแม่ มีเด็กด้วย”“แฟนหนู
แมทธิวขึ้นเครื่องเวลา 8.30 มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง มีเวลาสี่ชั่วโมงครึ่งจะบินกลับเชียงใหม่ในตอน 13.05 เขาโทรหาไอรดาแล้วก็เรียก Taxi ตรงไปบ้านแม่ของกานต์วิภา ก็เจอลูกสาวตัวน้อยเตรียมกระเป๋าไว้เรียบร้อย เธอวิ่งเข้ามากอดและเขาอุ้มเธอเอาไว้ “คิดถึงแด๊ดดี๊มากเลย เราจะไปเชียงใหม่ใช่มั้ย?”“ใช่ แต่สัญญาแล้วนะว่าจะเป็นเด็กดี” เธอยื่นนิ้วก้อยให้แทนว่าสัญญา ทั้งคู่เกี่ยวก้อยกันตามนั้น “บอกคุณยายว่าจะมาส่งเช้าวันเสาร์นะ”เมื่อจัดการคุยผ่านล่ามตัวน้อยเรียบร้อย เขาก็ยกมือไหว้ร่ำลา แล้วพาไปทานมื้อเช้าในตัวเมืองขอนแก่น รอห้างสรรพสินค้าเปิด จึงพาเธอไปทานไอศครีมและเล่นบ้านบอลเพื่อฆ่าเวลา เขาส่งข้อความบอกกานต์วิภาว่ามารับลูกสาวแล้ว แต่อีกฝ่ายโทรกลับมาทันที“พี่แมทมาคนเดียวใช่มั้ย?”“ใช่ ทำไม? เดี๋ยวจะไปสนามบินแล้ว”“หวังว่าคงไม่มีใครต้องงอแงก่อน ระหว่างวีวี่กับผู้หญิงคนนั้น จะรอดมั้ยเนี่ย..หึ”กานต์วิภาหัวเราะเยาะ ก่อนจะพูดต่อไป“จะมาส่งกลับวันเสาร์ใช่มั้ย? จะรอดูว่าได้สักกี่วัน”“แค่นี้นะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว”แมทธิวตัดบทและวางสายแบบไร้เยื่อใยใดๆ ทำให้เธอถึงกับลืมตัวก
หลังจากไอรดาออกไปทำธุระข้างนอก แมทธิวก็โทรหากานต์วิภาให้บอกแม่ของเธอให้ไปทำเรื่องลาหยุดที่โรงเรียนสี่วัน เพราะเขาจะไปรับมาใช้เวลาเพื่ออยู่ด้วยกัน แล้วจะไปส่งกลับขอนแก่นเช้าวันเสาร์“แล้วจะรับไปอยู่เที่ยวที่ไหน? ผู้หญิงคนนั้นจะยอมเหรอ..หึ” น้ำเสียงที่แสดงว่ากานต์วิภารู้สึกชอบใจ“ผมพูดเรื่องลูก ไม่ต้องพยายามไปพูดถึงเธอ ไอรดาเห็นใจเด็กมากพอ จนยอมจ่ายให้สามีเก่าคุณเพื่อให้เขาเซ็นง่ายๆ ถือว่าใจดีพอมั้ย? ขนาดคุณยังจัดการไม่ได้ถ้าผมไม่ขู่จะจ้างทนาย”ทำเอากานต์วิภาไม่พอใจที่เขาชื่นชมไอรดาแล้วตำหนิเธอแทน“ดูแลวีวี่ด้วยแล้วกัน อย่าให้มารังแกลูกหนู ไม่งั้นเจอดีแน่”“ปกติคุณเคยสนใจลูกด้วยเหรอ? กานต์”เขาวางสายใส่ เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบอะไร เพราะรู้กันอยู่แล้วแมทธิวสั่งอาหารเที่ยงมากิน หลังจากนั้นก็ไปนั่งเงียบๆในห้องพระ นั่งดูอัลบั้มรูปพ่อแม่ของไอรดา จนเจออัลบั้มหนึ่งเป็นรูปสมัยที่ไอรดายังเป็นเด็กหญิงเรื่อยไปจนถึงไฮสคูล กระทั่งตอนเริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เธอมีแววตาที่สดใสและเติบโตมาเป็นอย่างดี ท่ามกลางรูปที่ถ่ายร่วมกับพ่อแม่ของเธออยู่มากมาย มีลายมือเขียนภาษาไทยเอาไว้ในหน้าสุดท้ายของอัลบั้
แมทธิวเริ่มเครียดเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้หญิงทั้งสองคนคุยกัน“เธอรู้สึกได้บ้างมั้ย ถ้าไม่เข้าข้างสามีเก่าจนเกินไป เขารักลูกสาวบ้างหรือเปล่า?”“เราไม่ได้พร้อมที่จะมีลูกในตอนที่อายุ 18 เขามีแต่ความกลัว”“ตอบไม่ตรงคำถาม เขาเห็นแก่ตัว..มากกว่ากลัว และเธอก็เห็นแก่ตัวเหมือนกันที่ไม่ทำอะไรเลยที่จะเรียกร้องอะไรให้เด็ก บอกเขาไป เซ็นซะ แล้วส่งรูปมา ฉันจ่ายทันทีห้าหมื่นเข้าบัญชี”“เป็นพวกชอบจบปัญหาด้วยเงินสินะ”“ที่ผ่านมาเธอคงจบปัญหาได้งั้นสิ? ยืดเยื้อขนาดนี้จนเด็กปาไปแปดขวบ ฉันจะให้เขาเซ็นง่ายๆไม่ต้องพล่ามอะไร แล้วมาวุ่นวายกับทางนี้ให้ฉันต้องได้ยินอีก คิดดูแล้วกัน ถ้าสามีเก่าของเธอทั้งสองคนมีภรรยาใหม่ ลูกใหม่ จะเอาอะไรมารับประกันให้เด็กได้บ้าง นอกจากเธอต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือคอยมองหาผู้ชายคนต่อไปที่เข้ามารับภาระต่อ อย่างน้อยพ่อแท้ๆเกิดวันหนึ่งเขามีทรัพย์สินอะไรใดๆ แล้วเขาเป็นอะไรขึ้นมา ลูกสาวเธอนั่นแหละควรได้สิทธิ์ตรงนี้ด้วย ในขณะที่แมทธิวเขาก็อุปถัมภ์ต่อจนเรียนจบในฐานะที่เขาผูกพันกันมา” ไอรดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะพูดต่อทันที“ฉันจะไม่ทนเห็นผู้ชายของฉัน ต้องทำงานหนักจนไม่สบายไอเป็นเลือด
ไอรดาได้ยินทุกอย่าง ได้แต่ยืนเงียบๆอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเก็บอาหารจานชามออกมานอกห้อง เจอกับแมทธิวที่รีบลุกขึ้นมาช่วยเธอ“ไม่เป็นไร คุณนั่งเถอะ แล้วกินอะไรมาหรือยัง?”แมทธิวมองเธอที่เดินถือทุกอย่างผ่านเขาไป ไอรดาหลบตา ถามเหมือนไม่ได้ยินที่พวกเขาคุยอะไรเกี่ยวกับเธอคุณคิดแบบที่เขาพูดบ้างหรือเปล่า…ไอรดา..“ผมกินมาแล้ว”เขาเดินไปโอบเธอที่ยืนล้างจานอยู่ แล้วช่วยล้างทั้งที่โอบอยู่แบบนั้น พลางพูดข้างๆหู เอาแก้มไปแนบแก้มเธอ“เขาดูหล่อมีชาติตระกูล ผู้หญิงคนไหนที่อยู่ใกล้ไม่นานคงหลงเสน่ห์ได้ง่าย ผิวพรรณ หน้าตา นิ้วมือที่เรียวเหมือนผู้หญิง บ่งบอกว่าไม่เคยลำบาก แต่สายตาเขาเป็นคนชอบเอาชนะ มีคนเตือนผมให้ระวังถ้าขวางทางเขา เพราะเป็นลูกคนมีอิทธิพลและกว้างขวางที่นี่” ไอรดาเอาผ้าเช็ดมือให้เขาอย่างทะนุถนอม แล้วถามขึ้นมา“คุณอยากทำแบบที่พี่โจบอกหรือเปล่า?”“ผมไม่สนใจสิ่งที่เขาพูด สนใจแค่คุณคิดยังไง ผมอาจจะไม่ได้มีเงินมากเหมือนเขา แต่จะไม่ทำให้คุณต้องลำบาก”ไอรดาผละออกจากอกกว้างที่โอบเธอ ไปนั่งที่เก้าอี้แทน“แต่ฉันอาจทำให้คุณลำบาก มีบางครั้งที่ฉันแอบคิดว่า หรือควรจะคบเขาไปให้มันจบ ฉันเองก็จะสามารถรักษาธุรกิจ
ที่สุวรรณภูมิ แมทธิวเจอกับกานต์วิภาครั้งแรกในรอบครึ่งปี หลังจากความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งจบลง เธอตื่นเต้นได้เพียงครู่เดียว ก็สังเกตว่าเขาใส่แหวนนิ้วนางข้างซ้ายที่ไม่ใช่แหวนแต่งงานที่เคยใส่คู่กับเธอ ในขณะที่เธอยังใส่แหวนแต่งงานของเขาอยู่ แมทธิวเองก็เห็นแต่ไม่ใส่ใจ“พ่อของวีวี่ได้เจอลูกสาวของเขาหรือติดต่อมาบ้างมั้ย?”“พี่แมทก็รู้ว่าตั้งแต่หนูเลิกกับเขา เขาแค่โทรมาถามครั้งสองครั้ง พอแต่งงานกับพี่แมท เขาไม่ติดต่ออีกเลย พี่แมทเองก็ไม่สนใจไม่ใช่เหรอ”“หมายถึงหลังเราหย่ากันแล้ว”แมทธิวเริ่มเงียบ นั่งดูโทรศัพท์และส่งข้อความให้ไอรดาโดยไม่สนใจแม้แต่จะมองเธอ ทำเอากานต์วิภาต้องพลอยเงียบไปด้วย ไม่พูดอะไรกันต่ออีก ได้แค่นั่งรอเวลาเพื่อขึ้นเครื่องทางด้านบ้านกิตติโสภณ มื้อเช้าที่ทุกคนลงมาพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร เจตสุวีย์แปลกใจที่น้องสาวอยู่บ้าน“จูน..ไม่ได้อยู่กับน้องอายเหรอ? กลับมาตอนไหน?”ดีที่ว่ามื้อเช้านี้ไม่มีพ่ออยู่ด้วยเพราะว่าไปต่างประเทศ จูนมองหน้าแม่ ก่อนจะมองที่พี่ชาย แล้วคิดว่าจะตอบดีไหม“กลับมาตั้งแต่เที่ยงคืนแล้ว เพราะมีคนมาเปลี่ยนดูแลแทน”เจตสุวีย์ถึงกับวางช้อนที่กำลังจะตักเข้าปาก แม่ที่
มีเสียงเคาะประตูห้อง ขณะที่เจตสุวีย์โทรคุยธุระกับใครบางคนอยู่ “โจ..ม๊าขอคุยด้วยหน่อย”เจตสุวีย์มาเปิดประตู ก็เจอแม่ที่ทำหน้าเครียดใส่ “ปิดประตูด้วย”แม่ของเขาสั่งเสียงเข้ม พอเขาปิดประตูก็โดนดุทันที“ทำไมทำตัวแย่แบบนี้ จูนโทรมาเล่าว่าโจไปบุกรุกบ้านน้องอายตีหนึ่ง ถ้าจูนไปช้าอีกหน่อยจะเป็นยังไง? ต่อให้คบกันแต่ถ้าผู้หญิงไม่ยอม ก็คือการข่มขืนดีๆนี่เอง ถ้าน้องแจ้งความจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? ม๊าไม่เคยสอนลูกให้เป็นคนแบบนี้ ถ้าจูนฟ้องป๊า โจโดนหนักแน่”“งั้นถ้าโจทำผิดก็ต้องรับผิดชอบ โจอยากแต่งงานกับน้อง ป๊ากับม๊าพูดคุยทาบทามให้โจได้มั้ยครับ แต่โจจะลองคุยกับน้องก่อน”“พึ่งทำน้องร้องไห้ คงยังไม่หายโกรธแค่ข้ามคืน จูนเองโมโหน่าดูตอนโทรหาม๊า นี่ต้องอยู่ค้างเป็นเพื่อน เพราะจูนบอกน้องอายป่วยถึงกับต้องไปหาจิตแพทย์ ได้ยินแบบนี้ม๊ารู้สึกไม่ดีเลย โจทำอะไรกดดันน้องเกินไปก่อนหน้านี้ด้วยหรือเปล่า?” เขาตกใจที่ได้ยินแบบนี้ ถึงกับใจอยู่ไม่สุข“ตอนนี้จูนอยู่กับน้องอาย ผมขอโทรหาจูนก่อนครับม๊า”แม่ของเขาถอนหายใจด้วยหน้าที่บึ้งตึงแล้วหันหลังออกไป ทางด้านจูนพอเห็นพี่ชายโทรมาก็ค่อยๆลุกและออกจากห้องนอนเพื่อไปคุยข้าง
กานต์วิภาโอนอ่อนให้เขาแต่โดยดี เพราะหน้าตาที่หล่อ รูปร่างดี ผิวขาวเป็นหยวก แถมมีฐานะสูง แค่เขาทำท่าสนใจเธอก็รู้สึกดีแล้ว ยังไงอดีตสามีก็คงไม่ได้สนใจเธออีกต่อไป การได้เป็นผู้หญิงของเศรษฐีหนุ่มคือทางเลือกที่ดีกว่า ถ้ามีโชคมากพอ เอาใจเขาดีๆ อาจได้เป็นคนโปรดของเขา ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้วเธอมองหน้าเขาที่ขย่มอยู่บนตัวเธอ หน้าตาเขาช่างหล่อน่ารัก ตัวหอมฟุ้ง ทำเอากานต์วิภาเคลิ้มเหมือนฝันไปแต่ระหว่างที่ทำนั้น เจตสุวีย์ไม่จูบปากเธอ ไม่สัมผัสส่วนใดๆ เขามองตาเธอแว็บเดียวก็จับเธอนอนคว่ำแล้วทำต่อ กานต์วิภาถึงกับอายที่เขาเหมือนไม่อยากเห็นหน้าเธอ ที่ทำก็เพื่อบำบัดความใคร่อย่างเดียวและยังมีสติพอที่จะไม่ปล่อยข้างในเพื่อกันพลาดเมื่อเจตสุวีย์อารมณ์สงบลง เขาผละจากเธอทันที แล้วใส่กางเกงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินไปหยิบกล่องกระดาษชำระบนโต๊ะมาให้กานต์วิภาเช็ดต้นขาที่เลอะและใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย โดยเขายืนหันหลังมือสองข้างยันโต๊ะไว้เหมือนกำลังตั้งสติ“เอ่อ..หนูขึ้นมาสักพักแล้ว เดี๋ยวทุกคนจะสงสัย ขอตัวลงไปทำงานก่อนค่ะ” เขาไม่หันมาแต่ทำสัญญาณมือให้เธอออกไป “แล้วผมจะติดต่อไปเอง”กานต์วิภาไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา
เสียงแป้นพิมพ์รัวๆช่วงสายของวันเสาร์ ในห้องของคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านเอกมัย“อาย คืนนี้ว่างป่ะ? ไปแฮงค์เอ้าท์กัน Sirocco สีลมนะ”เสียงใสๆของจูน เพื่อนของเธอ สาวที่รักการปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจได้โทรมาชวน“เอ่อ…ก็ได้” ปากที่ตอบไป แต่ตาก็จ้องคอมพิวเตอร์อยู่“ขอธีมเซ็กซี่นะ วันนี้ทุกคนลงความเห็นว่าไป rooftop bar ที่เดิม คนต่างชาติเยอะด้วย”“อ่าหะ โอเค”อายหรือไอรดา สาววัย 25 เรียนจบมาสองปีแล้วและไม่มีงานประจำ เธออาศัยการทำงานถ่ายแบบอิสระเล็กๆน้อยๆ เวลาว่างก็ไปเข้าคอร์สเรียนเต้นเพื่อให้ตัวเองได้ไปเจอสังคมบ้างสงสัยใช่มั้ย? ว่าทำไมมีคอนโดหรูราคา 7 ล้าน? ก็เพราะมรดกยังไงล่ะ แต่ก็นั่นแหละ…มันแลกมาด้วยการสูญเสียพ่อแม่ไป เธอเป็นลูกคนเดียวถึงได้ทุกอย่างมา จึงเรียกได้ว่า ทุกขลาภ แล้วเรื่องเงินเรื่องทอง เมื่อไม่เข้าใครออกใคร ทำให้ต้องทะเลาะและผิดใจกับญาติพี่น้อง ทุกคนล้วนอยากมารุมทึ้งทรัพย์สมบัติของพ่อแม่เธอกันทั้งนั้น หลังจากพวกท่านเสียไปไอรดาเลือกที่จะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง เริ่มต้นเส้นทางชีวิตด้วยตัวคนเดียวโดยไร้ญาติขาดมิตรตั้งแต่นั้น….พอตะวันตกดิน ไอรดาเริ่มแต่งตัวแต่งหน้าทำผม และกินอะไรรอง...
Comments