ไอรดายืนห่อตัวในวงแขนของแมทธิวที่ยันหน้าต่างอยู่แบบนั้น ลำตัวเขาแนบร่างกายของเธอที่ยืนหันหลังให้
“ฉันร้อนแล้วก็ง่วง ขอบคุณที่รอตั้งสองชั่วโมง แล้วยังช่วยลากกระเป๋ามาให้ด้วย พักผ่อนกันเถอะนะ”
เธอพยายามตัดบท พูดจบโดยไม่หันมา แต่แมทธิวเห็นหน้าเธอจากกระจกหน้าต่างที่สะท้อนอยู่ โดยที่ไอรดาไม่ทันสังเกตเพราะเอาแต่หลุบตาลงต่ำ
“หันมาหาหน่อยสิ อยากเห็นหน้าจะแย่แล้ว ตั้งแต่มาไม่ได้มองเต็มๆ อยู่ในรถไฟ คุณก็เอาแต่มองออกไปข้างนอก”
“คุณยืนเบียดฉัน”
แมทธิวจับไหล่เธอให้หันมาเผชิญหน้ากับเขาอย่างรวดเร็ว เธอทำท่ากลัวอย่างเห็นได้ชัด
“สาวสวยผู้กล้าท้าทายสายตาผมวันก่อน หายไปไหนแล้วล่ะ? ไหนบอกทำธุรกิจกัน จะให้สิทธิพิเศษผมแบบ Exclusive ที่ให้เช็กของวันนั้น ผมโอเคนะ เรือนร่างคุณสวยมาก”
ได้ผล…เธอเงยหน้าจ้องตาเขาเขม็ง
“ฉันพูดล้อเล่นสนุกๆเท่านั้น งานถ่ายแบบก็ไม่มีชุดว่ายน้ำอะไรเลย มากสุดก็ชุดดูเซ็กซี่นิดหน่อยแต่ไม่อนาจาร ชุดแฟชั่นธรรมดาๆ”
“คุณล้อเล่น…แต่ผมเป็นห่วงจริง ถึงถามไงว่าเคยทำแบบนี้มาก่อนมั้ย ไม่ได้ดูถูก เพราะถ้าไปถอดโชว์แบบนั้นต่อหน้าผู้ชายคนไหน คุณคงไม่รอด”
“รวมถึงคุณด้วย?”
ไอรดายังปากเก่งใส่เขาได้อยู่ แต่พอเขาจ้องกลับใกล้ๆ เธอกลับหลบตาไปเสียเอง
“ผมก็ผู้ชายปกติคนนึง…ไม่ใช่นักบวช”
คำพูดและน้ำเสียงของแมทธิว ทำเอาไอรดาถึงกับฟุ้งซ่าน คิดไปต่างๆนาๆ
“อยากถามอะไรมั้ย? ผมยินดีตอบ”
“ทำไมฉันต้องมีคำถามด้วยล่ะ”
ไอรดาหลบตาลงต่ำเหมือนเดิม แต่สายตาเจ้ากรรมดันสังเกตที่เป้ากางเกงยีนส์เข้ารูปของเขาที่ดูผิดปกติ จนต้องหันหน้าไปด้านข้าง ใจเธอเต้นแรงรัวๆ
“แมทธิว ฉันต้องทำงานพรุ่งนี้ ขอพักผ่อนนะ ได้โปรด”
พอพูดกับเขาดีๆ แมทธิวที่สายตาหวานเยิ้มแบบนั้น ก็ยื่นหน้ามาจูบอย่างนุ่มนวล กอดเอวเล็กของเธออย่างแนบแน่น
เขาถอนปากสีแดงเข้มจากไอรดาช้าๆ ลมหายใจกระเส่ารดหน้าเธอ หัวใจเขาเต้นแรงจนอกกว้างนั้นกระเพื่อม จ้องตาสาวสวยที่เขาหมายปองอยู่แบบนั้นเหมือนกำลังหวังอะไรอยู่
ไอรดาเองลึกๆเธอรู้สึกร้อนรุ่ม เหมือนมีเคมีที่ตรงกัน แต่พยายามสะกดมันเอาไว้
เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย…
“เป็นเดือนแล้วที่เราคุยกันทุกวัน ให้สถานะผมหน่อยสิ หรือว่าให้ไม่ได้เพราะคุยกับคนอื่นด้วยเหมือนกัน? เคยจูบกับเขาคนนั้นมั้ย?”
เธอส่ายหน้า ตอนนี้เขาสังเกตว่าหน้าเธอแดงมาก
ส่วนไอรดาคิดว่า จะทำยังไงกับผู้ชายอารมณ์พลุ่งพล่านที่กอดเธออยู่ และไม่ยอมไปแน่ ถ้าไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
ที่แย่คือ ลึกๆเธอเองก็อยากให้เขาอยู่…
“คุณอยากได้สถานะหรืออย่างอื่นกันแน่?”
หัวใจเขาเต้นแรงไม่ลดลงเลย เธอเองก็เช่นกัน
แมทธิวไม่อยากเล่นเกมตอบคำถามอีกแล้ว เขาไปนั่งปลายเตียง จับมือเธอให้มานั่งคร่อมบนตักและกอดเอวเธอไว้ ไอรดาก้มสบตาเขา ปลายจมูกที่ชนกัน สองมือเธอประคองหน้าเขา ทั้งคู่จูบกันอย่างเร่าร้อน
“ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าหลงรักคุณ ให้ผมดูแลอยู่ข้างๆคุณได้มั้ย?”
เขายังไม่ลืมที่จะขอยืนยันสถานะกับเธอ ไอรดาไม่ตอบแต่ใช้สองแขนกอดคอเขาแล้วจูบต่อไปด้วยความหลงใหล ปากที่ประกบบดขยี้กัน ทำเอาแมทธิวเคลิ้มจนหลับตาพริ้ม
สองแขนคลายจากกอดคอเขา ค่อยๆลูบไล้ลงมาที่อกกว้างก่อนจะไปปลดเข็มขัด ตามด้วยปลดกระดุมกางเกงแล้วรูดซิบลง แมทธิวมองเธอด้วยความรู้สึกอยากเป็นเจ้าของเรือนร่างที่เขากอดอยู่ตรงหน้าอย่างที่สุด
ทันใดนั้นเขากลับนึกถึงรูปพ่อแม่ของไอรดาที่ห้องพระ
ไม่ใช่ที่นี่…ไม่ใช่ตอนนี้…
เขาจับมือเธอสองข้างเอาไว้ “ผมขอโทษ…อาย”
ไอรดาทำหน้าไม่เข้าใจและเริ่มหน้าเสีย
“อยู่ๆผมนึกถึงพ่อแม่คุณขึ้นมาที่เราไหว้ท่านที่ห้องพระ”
เธอหรี่ตา เอียงหน้านิดๆ เหมือนว่าไม่เชื่อที่เขาพูด พร้อมกับผละลุกออกจากที่นั่งคร่อมตักเขา
“คุณกลับไปที่ห้องได้แล้ว”
พอเขาจะคว้ามือเธอก็สะบัดหนี แต่ก็ยังมือไวพอจะจับเอวเธอมานั่งตักเขาจนทับส่วนนั้นที่ยังไม่ได้จัดการรูดซิบกางเกงให้เรียบร้อย เธอดิ้นขัดขืนจนต้องเปลี่ยนมาจับกดให้นอนลงบนเตียงแทน
“ทีคุณยังไม่บอกว่าคิดยังไง ไม่ให้สถานะอะไรกับผม”
“เป็นผู้ชายของฉันสิ แล้วจะช่วยค่าดูแลลูก ไม่ต้องมาดูแลฉันหรอก ไม่ต้องการ เพราะฉัน…มีเงิน”
แมทธิวจ้องตาเธอที่นอนอยู่ใต้ตัวเขา
“ถ้าผมเป็นผู้ชายของคุณ สัญญากับผม..ว่าคุณจะไม่มีผู้ชายคนอื่น”
เธอหน้าร้อนผ่าวไปหมด ความหงุดหงิดงุ่นง่านแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้เธอเริ่มทนไม่ไหว
“ไม่เอาแล้ว กลับไปห้องของคุณเถอะ”
แมทธิวประกบปากกับไอรดาอีกครั้ง มือเคล้าคลึงที่หน้าอกนุ่มนิ่ม ค่อยๆเลื่อนมือลงไปปลดกระดุมกางเกงของเธอและรูดซิบออกด้วยมือเดียว พอนิ้วมือเขาล้วงเข้าไปสัมผัสถึงรู้ว่าร่างกายเธอคงไม่ไหวแล้วจริงๆ
ไอรดาทั้งอายทั้งกระสัน นิ้วมือที่ชอนไชเข้าไปในร่องหลืบ รู้สึกถึงความลื่นจนเปียกล้น ระหว่างที่เธอหลับตาเคลิ้มๆ หายใจหอบน้อยๆอยู่นั้น แมทธิวลุกขึ้นอย่างเร็ว ใช้มือทั้งสองดึงทั้งกางเกงและชั้นในของเธอออกไปจนถึงปลายเท้าโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว แล้วลงไปนั่งคุกเข่าล่างเตียง ดึงขาทั้งสองข้างและยกสะโพกของไอรดามาใกล้เขาที่ปลายเตียง และเธอได้ทันเห็นแค่หัวของเขาที่ก้มลงไปที่หว่างขาเธอ
“อ๊าาา”
ทันทีที่ชิวหาที่นุ่มนิ่มสัมผัสจุดซ่อนเร้น ทั้งความรู้สึกพอใจ ระคนความอายที่แมทธิวเห็นทุกอย่างไปหมดแล้ว…ไม่นานก็ถูกแทนที่ด้วยความหฤหรรษ์แบบที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน
สำหรับเขา แค่เห็นความลับของไอรดา ก็แทบลืมหายใจ เพราะความสวยเนียนอมชมพูของสาววัยรุ่น เหมือนลูกพีชเล็กๆ ร่องที่ปิดสนิทพอแหวกดูแล้วกลับมีสีชมพูเข้มเหมือนกุหลาบที่ชโลมไปด้วยน้ำหวาน
เขาจับขาสองข้างของเธอให้ชิดกันและชันขึ้น ใช้นิ้วค่อยๆเข้าไป มันชุ่มชื่นลื่นไปหมด จากนั้นค่อยๆขยับนิ้วให้เร็วมากขึ้น จนเธอเกร็งยกก้นขยับไปมา
“พี่แมท อื้ออ…”
แมทธิวลุกขึ้น อุ้มเธอขยับไปกลางเตียง แล้วมานอนประกบ ระดูมจูบปากที่แดงระเรื่อนั้น ไอรดาใช้มือข้างหนึ่งจับของเขาที่ส่วนปลายชูชันพ้นจากบ๊อกเซอร์ออกมานิดหน่อย ลูบขึ้นลง มีน้ำลื่นๆออกมามากจนมือเธอเปียก
“อาย อย่าทำ..ไม่เป็นไร ผมจะเป็นฝ่ายทำให้เอง”
คำพูดนั้นสวนทางกับแท่งเนื้อที่แข็งตึงจนมือเธอสัมผัสได้ถึงเส้นเลือดที่ปูดโปน
“เพราะฉันไม่เก่งใช่มั้ย?”
เขาส่ายหน้ายิ้มๆ เอาจมูกมาถูไถที่จมูกเธอ ก่อนจะจัดการเอานิ้วเข้าไปแล้วขยับอย่างเร็วจนไอรดาแอ่นตัว ซุกหน้าที่ซอกคอเขา เสียงครางระงมอยู่ข้างหู ร่างกายเธอสะท้านไปหมดก่อนจะสั่นเกร็งอยู่ 2-3 ครั้ง แล้วหอบหายใจอ่อนระรินในอ้อมอกเขา
แมทธิวก้มลงจูบอย่างนุ่มนวล เขาพอใจที่ทำให้อารมณ์ของเธอสงบลงได้
“รู้สึกดีขึ้นมั้ย?”
ไม่มีคำตอบ แต่กลับตะแคงหันตัวเข้าหาเขาแทน เธอคงเขินที่ท่อนล่างเปลือยเปล่า
ทั้งคู่ยังคงนอนกอดก่าย จูบกันอย่างไม่รู้จบ ไอรดาหนุนแขนที่โอบไหล่เธอไว้ ส่วนมืออีกข้างของแมทธิวบลูบไล้สะโพกและบีบเค้นก้นของเธอเบาๆ
“คุณยังใจเต้นแรงอยู่เลย”
“ไม่เป็นไร ถ้าไม่ไหว ผมจัดการตัวเองได้ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว”
เธอเห็นใจที่เขาพยายามทำให้อยู่ฝ่ายเดียว แต่พอจะใช้มือแตะต้องอีกครั้ง แมทธิว
กลับจับมือเธอให้หยุด
“รู้สึกผิดเหรอ? บอกฉันสิ..ต้องทำยังไง”
เธอกระซิบกระซาบเบาๆ แล้วทั้งคู่ก็จูบกันต่อไปอีก….
แมทธิวพยายามห้ามใจไม่ให้ทำมากกว่านี้ เพราะเขาไม่อยากฉวยโอกาสเพียงเพราะเธอไม่มีใคร
แต่กลับพ่ายแพ้ให้กับตัณหาและห้ามใจตัวเองไม่ได้….
มือข้างนึงของเขากุมมือเธอที่กำลังขยับช้าๆนั้น ให้จับแน่นขึ้น พร้อมกับเลื่อนขึ้นเลื่อนลงให้เร็วขึ้นปานกลาง ไอรดาใช้อีกมือ กุมและนวดคลึงก้อนเนื้อกลมกลึงของเขาไปด้วย
แมทธิวอยู่ในห้วงอารมณ์แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สองแขนกอดเธอแน่นจนน้องชาย
ถูไถอยู่ที่หน้าท้องเนียนๆ ทั้งคู่แลกลิ้นกันอย่างที่ปล่อยอารมณ์ให้กระเจิดกระเจิง
“ใกล้มาก ผม..”
ไอรดาเร่งเร้าจนเขาพูดไม่จบแล้วขยับเอวตามแรงมือเธอเล็กน้อย เอ็นแข็งนั้นก็พรั่ง
พรูของเหลวอุ่น เต็มไม้เต็มมือเลอะหน้าท้องของไอรดาและเปื้อนเสื้อเขาที่นอนตะ
แคงลำตัวแนบชิดกัน
แมทธิวขยับตัวขึ้นไปนอนทับ เขาหายใจแผ่วเบาลงแล้ว แต่ก็ยังจูบเธอไม่เลิกรา จนไอรดารู้สึกได้ว่ามันเลอะไปหมด แถมน้องชายเขาที่หมดแรงไปแล้ว ยังมาทับโดนน้องสาวเธอด้วย
“เดี๋ยว เสื้อคุณกับฉัน….”
เธอดันอกแมทธิวเบาๆ พอมองที่เลอะแล้วทำหน้าแหยๆ
“ห้ามมอง ฉันจะไปห้องน้ำ คุณรอก่อนแล้วกัน”
เขาเชื่อฟังอย่างว่าง่าย ลงไปนอนแผ่บนเตียง เอามือปิดตาเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็จับกางเกงกุมเป้าเอาไว้ไม่ให้ตัวเขาโป๊ ไอรดาที่ท่อนล่างเปลือยรีบคว้ากางเกงและชั้นในที่พื้นล่างเตียง รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป
เธอถอดเสื้อที่เปื้อนใส่ในอ่างล้างหน้าเปิดน้ำจากก๊อกราดให้เปียก ก่อนจะอาบน้ำสระผม แล้วออกมาใส่แค่ผ้าเช็ดตัว เห็นเขานั่งเช็ดเสื้ออยู่ พอแมทธิวเห็นเธอออก
มา ไอรดาก็หลบตา หน้าชาวูบวาบไปหมด
“แมทธิว…คุณกลับห้องก่อนก็ได้ จะได้มีชุดเปลี่ยนแล้วนอนพักผ่อนเลย”
ไอรดาบอกโดยไม่มองหน้า ก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางมาเปิด เพื่อเอาของใช้ส่วน
ตัวและชุดนอนออกมา
แมทธิวถอดเสื้อแล้วเข้าไปในห้องน้ำ เขาจัดการใช้แชมพูซักทั้งเสื้อเธอและเขา
“ขอไม้แขวนเสื้อสองอันได้มั้ย”
ไอรดาทำหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนจะลุกไปเอาไม้แขวนในตู้ส่งให้เขาที่ยืนรอ
“ผมซักเสื้อให้คุณแล้ว”
“จริงๆไม่ต้องก็ได้ เอ่อ…ฉันขอแต่งตัวหน่อย”
เขาขยับตัวเปิดทางให้เธอเข้าห้องน้ำ แต่พอเดินผ่านกลับคว้าเอวมากอดไว้ หน้าอกเต่งตึงที่ถูกผ้าเช็ดตัวห่อหุ้มดันแผ่นอกกว้างของเขาหมิ่นเหม่จะล้นออกมา
“จะให้ผมเดินออกไปแบบนี้เหรอ?”
ถามพลางก้มหน้าไปจูบที่แก้ม ซึ่งเธอไม่ขัดขืน มันทำให้เขาย่ามใจเหมือนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธอไปแล้ว
“คุณต้องกลับไปที่ห้อง ใส่แบบเปียกๆไปนี่แหละ แป็บเดียวเอง”
“ผมจะไป ถ้าคุณให้คำตอบมาก่อน”
ไอรดาเงียบไปนิดนึง เหมือนพยายามเรียบเรียงคำตอบอยู่
“มันดูเร็วไป ผมเข้าใจได้ ถึงจะไม่ได้รุกล้ำแต่เราก็มีอะไรกันแล้ว..ผมเป็นผู้ชายของคุณ ถ้าอยากมีผู้ชายอื่นหรือใครทำให้พอใจได้มากกว่า บอกกันดีๆ ผมยินดีไปเอง”
ฟังไปฟังมา..เหมือนฉันเป็นผู้หญิงของเขามากกว่า….
“แต่ฉันต้องมีเพื่อน มีสังคม จริงๆคุณก็น่าจะพอใจแล้วสำหรับเรื่องวันนี้”
เธอตอบเสียงเบาและไม่มองเขา
“ไม่อยากผูกมัดกับใครสินะ อยากให้ผมเป็นของคุณ แต่คุณไม่อยากหยุดที่ผม?”
“มีเรื่องที่ฉันไม่รู้เกี่ยวกับตัวคุณอีกเยอะ ขอเวลาอีกหน่อยแล้วกัน…พี่แมท”
“โอเค ผมกลับห้องก่อน พักซะนะ พรุ่งนี้เจอกัน”
ใจเขาไม่อยากปล่อยสองแขนที่กอดเธอ แต่ไอรดาเหมือนคนละคนกับตอนที่มีอะไรกับเขา พอเธอได้อย่างใจอยากแล้วเหมือนไม่แคร์อะไรเขาอีก….
เช้าวันรุ่งขึ้น ไอรดาลงไปเจอเพื่อนนางแบบอีกสองคนเพื่อทานมื้อเช้า
“ดูสิ ฝนตกตลอดเลยตั้งแต่เรามา แบบนี้ไปเที่ยวไหนหน้าเยินหมด”
“ไม่อยากไปไหนอ่ะ ทำงานแล้วก็นอน ไปเดินเล่นใกล้โรงแรมก็พอ”
ไอรดาฟังที่เพื่อนทั้งสองคนคุยกัน พลางคิดว่า สำหรับตัวเธอ อาจอยู่ต่อสองสามวันเพื่อเที่ยว
แมทธิวโทรมาชวนกินมื้อเช้า แต่เธอกินเสร็จพอดีและกำลังเดินกลับห้องพัก
“ผมตื่นสายไปหน่อย คุณจะไปไหนมั้ย? เริ่มงานกี่โมง?”
“เริ่มงานบ่ายโมงถึงสี่โมง สตูดิโอแถวจงซาน ตอนนี้ฝนตกคงไม่ไปไหน”
จริงๆเธออยากหลบหน้าเขา แค่นึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็ทำเอาขนลุกเกรียว แม้ว่าจะชอบใจในสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอมากก็ตาม
ไม่ถึงชั่วโมงหลังจากเธอพักผ่อนหลังมื้อเช้า เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก็คงไม่มีใคร..นอกจากแมทธิว
ไอรดาเปิดประตูแง้มนิดหน่อย ถามโดยไม่สบตาเขา
“มีอะไรหรือเปล่า?”
แมทธิวเอาหน้ามาใกล้ประตู เพ่งดูเธอใกล้ๆ
“ผมรู้สึกไปเองหรือเปล่าว่าตอนเราคุยวีดีโอคอลกันทุกวัน มันดีกว่าตอนนี้ คุณมึนตึง ดูห่างเหิน…ขอเข้าไปคุยข้างในได้มั้ย?”
มีแขกและพนักงานทำความสะอาดเริ่มเดินผ่านหลังเขาไปมา ไอรดาถอนหายใจก่อนจะเปิดประตูให้
“มานั่งคุยกันแบบผู้ใหญ่ จะได้รู้ว่าปัญหาระหว่างเรามันคืออะไร”
ไอรดานั่งที่เก้าอี้ใกล้ตู้เสื้อผ้า เธอใส่กางเกงยีนส์ขาสั้น เสื้อเชิ้ตเปิดไหล่ แมทธิวมองที่ขาขาวเรียวสวยนั้น สายตาคู่นั้นทำให้เธอต้องขยับตัวนั่งไขว่ห้างและหันข้างนิดหน่อย
“อยากให้ผมอยู่ในฐานะอะไร พูดตรงๆ แล้วเรื่องเมื่อคืนคุณคิดยังไงหรือผมมีค่าแค่นั้น”
“ฉันไม่อยากคบใครที่เจอในสถานที่เที่ยว ฉันไม่ไว้ใจ แล้วที่อเมริกามีผู้หญิงใส่ชุดว่ายน้ำ ชุดแบบนี้ลงโซเชี่ยลเยอะแยะไป คุณตั้งใจมาตามฉัน เพราะแค่อยากได้ตามประสาผู้ชาย”
แมทธิวส่ายหน้าไม่เห็นด้วย กำลังจะอ้าปากพูด ไอรดาก็แย่งพูดก่อน
“อีกอย่าง ฉันไม่อยากคบคนที่อยู่ไกลเพราะจะไม่มีวันที่ฉันจะไปอยู่ต่างประเทศ ไปเที่ยวพอได้ ให้อยู่คงไม่ สำหรับฉัน..เมืองไทยน่าอยู่ที่สุด..ถ้ามีเงิน ซึ่งฉันมีปรนเปรอให้ตัวเองไม่ลำบากได้จนแก่ตาย ทำไมฉันต้องไปทนอยู่ในประเทศที่ค่าเงินแพงกว่าและเหยียดคนเอเชียด้วย”
เธอหันมามองด้วยสายตาที่เหมือนคำถามว่า จริงหรือไม่?
“แล้วที่ถามให้ผมเป็นผู้ชายของคุณ พูดพล่อยแบบนั้นเพราะกำลังมีอารมณ์จน
ลืมตัวหรืออยากให้ผมคอยเสิร์ฟเรื่องบนเตียงเท่านั้น”
ไอรดามองเขาด้วยสายตาที่เริ่มไม่พอใจ คำพูดเขาทำเธอฉุน
“เชิญคุณออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้เลย คิดว่าตัวเองลีลาดีขนาดนั้นเลยเหรอ? ห่วยแตกมากกว่า ไม่แปลกที่ภรรยาจะมีชู้”
แมทธิวถึงกับหน้าถอดสี ตะลึงที่เธอใช้ถ้อยคำรุนแรงและประณามเขา นั่นยังไม่พอกับอารมณ์โกรธของไอรดาที่กำลังขึ้นแล้วไม่ลงง่ายๆ เธอลุกยืนค้ำหัวต่อว่าเขาที่นั่งอยู่ปลายเตียง
“มาด่าฉันว่าปากพล่อย ลืมตัว บ้าเซ็กซ์ ยังงั้นเหรอ? มันแปลกตั้งแต่แรกแล้วที่มาจ้องฉันที่บาร์ ทั้งที่ตัวเองก็มีภาระรุงรัง ฉันจะไม่รับปัญหาของใคร เงินของพ่อแม่ฉัน ไม่มีวันกระเด็นให้ผู้ชายคนไหนทั้งนั้นแม้แต่เหรียญเดียว ฉันใจดำและเห็น
แก่ตัว พอใจหรือยัง”
เขาหน้าชาไปหมดที่ผู้หญิงอายุน้อยกว่าถึง 11 ปี ตอกหน้าเข้าให้
“ผมขอโทษที่พูดแบบนั้น”
ท่าทางเขาดูเสียใจ กล่าวขอโทษแล้วนั่งก้มหน้า กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ไอรดาเห็นแบบนั้นก็เริ่มควบคุมความเกรี้ยวกราดลงได้ และเริ่มรู้สึกตัวว่าพูดแรงเกินไป
แมทธิวนั่งก้มหน้าแล้วหลับตาลง พยายามคิดเข้าข้างตัวเอง เรื่องที่ไอรดาต่อว่าเพราะเขาเองที่พูดแบบนั้นก่อน เธอคงสับสนที่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็ว ด้วยประสบการณ์ชีวิตที่ยังน้อยและตัวคนเดียว“คุณกลับไปที่ห้องก่อน ฉันอยากอยู่คนเดียวให้ใจเย็นกว่านี้ ขอโทษที่ไร้มารยาท พูดจาแย่ๆใส่”เขาลืมตาเงยหน้ามอง น่าแปลกที่เขาไม่โกรธเธอเลย“ไอรดา..คุณคงลืมที่ผมบอกว่ายังไงเมื่อคืน ไม่ใช่แค่เพื่อมาหาแล้วมีอะไรด้วย แต่เพราะผมหลงรักคุณแล้วจริงๆ”พูดจบ แมทธิวก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องเธอไปอย่างเงียบๆช่างเถอะ..ถ้าเขาเป็นผู้ชายของฉันจริง ก็จะกลับมาหาฉันเอง แต่ถ้าไม่ ก็ไม่ได้แคร์เท่าไหร่….ไอรดาไปทำงานช่วงบ่าย พอเลิกงานตอนเย็นเลยถือโอกาสไปเที่ยวย่าน Ximending เธอไปแวะร้าน Popmart เพื่อซื้อลาบูบู้ไปฝากให้เพื่อนๆ พร้อมกับซื้อสตรีทฟู้ดเพื่อกลับมาเอามากินที่ห้อง แล้วเรียก Uber กลับมาที่โรงแรมระหว่างอยู่ในห้องเธอลงรูปว่าไปที่ไหนมาบ้าง จนเพื่อนๆที่ไทยมา comment กันยกใหญ่ ในขณะเดียวกันทั้งแมทธิวและภรรยาเก่าของเขาก็เห็นรูปพวกนั้นในไอจีของไอรดาเช่นกันแต่แมทธิวไม่กดไลค์ภาพของเธอในไอจี เย็นนี้ก็ไม่ออกไปไหน ไม่สั่งอะไรมากิน
“แมทธิว คุณเปิดห้องที่นี่ไว้กี่วัน?”ไอรดาที่ออกมาจากห้องน้ำ เห็นว่าหน้าตาเขาดูสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“สามคืน เพราะได้ยินคุณบอกว่าเผื่อหาโรงแรมใหม่…อาย ถ้าผมชวนคุณไปบ้านปู่ย่าผม คุณจะรังเกียจมั้ย?”เธอเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งแล้วยืนกอดอกพิงโต๊ะ“ก็ได้นะ แต่ถ้าพวกท่านถาม ก็บอกว่าเป็นรุ่นน้องแล้วกัน”เขาพยักหน้ารับแบบเสียไม่ได้ ก่อนจะขอตัวกลับไปที่ห้อง “ผมไปอาบน้ำ เดี๋ยวมากินมื้อเช้าด้วย อย่าลืมส่งเลขบัญชีให้ด้วย”ไอรดาส่งเลขบัญชีให้เขา ก่อนจะนอนเล่นโทรศัพท์รอไปพลางๆ ตอนนั้นในไอจีของเธอมีคนกดติดตามเพิ่มขึ้น ซึ่งมีไอจีของเด็กด้วย ซึ่งเธอสนใจแต่ไม่ได้คิดอะไร แมทธิวกลับมาพร้อมกับสั่งมื้อเช้ามากินด้วยกันกับเธอ เขารู้สึกว่าห้องนั้นแคบขึ้นมาทันตาเห็น “ไปอยู่ที่อื่นเอามั้ย? ยิ่งรู้สึกว่าแคบตอนนั่งกินข้าว ผมจ่ายเอง”“คุณเลือกแล้วกัน แต่ฉันจ่ายส่วนของตัวเองได้”“ไม่ต้องหรอก เพราะเราจะอยู่ห้องเดียวกัน ผมโอนให้แล้วนะหกหมื่น รอสักพักเงินคงเข้าบัญชีคุณ”เธอยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์ขึ้นมา “อยู่ร่วมห้องด้วยกันหลายวัน ถ้าเกิดคุณผิดคำพูดที่ตกลงกัน ฉันก็คุยกับคนอื่นได้เลยนะ”“ก็รอดูไปว่าใครจะแพ้ก่อน ถ้า
เช้าวันจันทร์ แมทธิวขับรถไปส่งเธอที่สนามบินและตามเข้าไปช่วยลากกระเป๋า ก่อนจะถึงประตูเข้าไปด้านใน เขาดึงแขนเธอไว้ด้วยสายตาที่เศร้า “ได้โปรด…อย่าลืมผม ดูแลตัวเองด้วย แล้วจะรีบหาโอกาสไปหาคุณทันที รอหน่อยนะ”เขาลูบผมเธอเบาๆ ก่อนจูบที่หน้าผาก “คุณแทบจะเป็นพ่อคนที่สองไปแล้ว”ทีนี้เขากอดเธอแบบไม่สนใจสิ่งใดรอบข้าง กอดแน่นจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น พอจะคลายกอดแล้วก้มลงจูบ ไอรดาดันอกเขาไม่ยอมให้ทำ “ไม่ได้นะ ไม่เอา ฉันจะไปข้างในแล้ว” เธอคว้ากระเป๋าจะลากเพื่อเข้าไปด้านใน“ไว้เจอกันใหม่ ดูแลสุขภาพด้วยแมทธิว”ก่อนจะหันหลังเดินจากไปโดยไม่หันมามองไอรดาเดินไปตามหาเพื่อนจนเจอกันและไปนั่งสมทบด้วย “เธออยู่กับแฟนตลอดเลย เขาน่ารักเนอะ เห็นมานั่งรอทุกวัน โชคดีได้แฟนที่นี่พอดี”“พึ่งคุยกัน ดูๆไปก่อน แรกๆยังมีโปรก็แบบนี้แหละ จะหวานหน่อย ไม่คาดหวังเท่าไหร่”“เพื่อนฉันมีแฟนคนจีนนะ นางบอกว่าแทบเป็นง่อย ดูแลเทคแคร์ดีเว่อร์ น่าสนใจดีนะ ดูๆเขาก็น่าจะเป็นแบบนั้น ใช่มั้ยอาย?”“เขาเป็นไต้หวัน-อเมริกันน่ะ ไม่รู้ว่าถ้าเรียกเขาว่าคนจีนจะโกรธมั้ยนะ”“อ้อ เหรอ ต้องเรียกเขาว่าอเมริกันหรือไต้หวันสินะ ก็คงเหมือนคนฮ่องกงหร
แมทธิวนั่งหาโรงเรียนนานาชาติที่เขาพอจะรับได้ ไปเจอที่หนึ่ง ค่าเทอมปีละ 150,000 ถูกกว่าที่ภรรยาเก่าเสนอมาครึ่งหนึ่ง แต่พอเขาส่งข้อความรายละเอียดทั้งหมดไปบอก กานต์โทรกลับทันทีเพื่อเสนอข้อต่อรองกลับมา “ถ้าแบบนั้นหนูขอรายเดือนเพิ่มแทนได้มั้ย? ที่เคยได้เดือนละ 7,000 ขอเป็น 10,000 ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พอดีช่วงนี้หนูไม่ค่อยมีงาน”“ได้ลองติดต่อพ่อของวีวี่บ้างหรือยัง? เขาควรมาดูแลลูกบ้างนะ ทีแบบนี้คุณไม่ว่าเขาบ้าง จะลอยตัวเกินไปแล้ว”“วีวี่รู้แค่พี่แมทคือพ่อ”“ผมไม่ได้บอกให้วีวี่ไปบอก คุณ..ที่ต้องไป ช่วยกันทำช่วยกันสร้างคนๆนึงขึ้นมา ไม่รับผิดชอบได้ยังไง? ผมก็เลิกกับคุณแล้ว เขาควรมีส่วนร่วมในชีวิตเด็กบ้าง ลูกเขาทั้งคนนะ”“ไว้จะลองดู”กานต์วิภาวางสายใส่เขาด้วยความโมโห เผอิญที่มีสายซ้อนจากเพื่อนที่กรุงเทพโทรเข้ามาพอดี “กานต์ มีอีเว้นท์ที่กรุงเทพ งานใหญ่บาร์เปิดใหม่มีดีเจดังหลายคน อยากได้สาวๆไปเอนเตอร์เทนหน่อย ชั่วโมงละ 700 สนป่ะ? มีงานสามวัน ฉันล็อกให้เลยนะ เดี๋ยวอด”“เมื่อไหร่แก?” “ต้นเดือนเลยกานต์ คนเงินเดือนออกกันพอดี ว่าแต่..ลูกแกโตแล้วนิ ถ้าอยากกลับมาทำงานก็ได้อยู่นะ อายุยังได้อีกนาน”“ก็
ไอรดากลับกรุงเทพก่อนวันงานเปิดตัวบาร์ใหม่หนึ่งวัน ซึ่งแมทธิวรู้ว่าเธอต้องไปงานปาร์ตี้นี้ด้วย ทำให้เขาทั้งหวงห่วงแต่ไม่กล้าที่จะพูดออกมา และเธอก็ไม่ได้มีคำพูดหรืออะไรเลยที่จะช่วยให้เขาสบายใจ“บอกไว้ก่อนเพราะเดี๋ยวคุณโทรมาหาฉัน อาจจะเสียงดังจนคุยไม่รู้เรื่อง”“ผมจะพยายามไม่รบกวนเวลาคุณสนุกกับเพื่อน เวลากลับบ้านแล้วคุณช่วยส่งข้อความบอกผม ไม่งั้นคงไม่สบายใจเท่าไหร่”“โอเค แดดดี๊”ไอรดาเรียกเขาหยอกๆ เธอดูอารมณ์ดีจนเขารู้สึกได้ คงเพราะป้าแม่บ้านที่กลับมาอยู่ด้วยที่เชียงใหม่ระยะนี้แมทธิวโทรคุยกับวีวี่ทุกวัน หลังจากกานต์ไปอยู่กรุงเทพ เพราะสงสารเด็กที่ไม่ได้อยู่กับแม่ “แดดดี๊จะมาหาหนูเมื่อไหร่?”“เดี๋ยวดูว่างานเยอะมั้ย ถ้าแดดดี๊เคลียร์งานเสร็จแล้วจะรีบไปหา”เขาพูดจบ วีวี่ก็พูดเสียงเบาลงเหมือนไม่อยากให้คุณยายได้ยิน“หนูคิดถึงแดดดี๊ ที่บ้านไม่มีใครสนใจหนู”ทำเอาแมทธิวถึงกับตกใจในสิ่งที่เด็กพูด“หนูดื้อหรือเปล่า?”“ไม่นะ หนูสอบได้คะแนนเยอะด้วย”“แล้วที่โรงเรียนไม่สนุกเหรอ? เทอมหน้าก็ต้องย้ายแล้ว” “หนูไม่อยากไป หนูขี้เกียจหาเพื่อนใหม่แล้ว แต่หม่าม๊าอยากให้ไปที่ใหม่”ทีนี้เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าควา
แมทธิวไปหาหมอ เขาป่วยเพราะพักผ่อนน้อย ไม่ได้ออกกำลังกายและกินอาหารเร่งด่วนบ่อยๆ ในแชทครอบครัวตระกูลหยางพากันเป็นห่วงเขา โดยเฉพาะอาม่าถึงกับโทรหาเขาอยู่นาน ส่วนพ่อกับแม่ที่อยู่แคลิฟอร์เนีย พอรู้ว่าลูกชายไม่สบายก็มีแพลนจะมาเยี่ยมทางด้านกานต์วิภา พอกลับจากงานมาถึงห้องพักเกือบตีสอง เธอรู้ว่าแมทธิวเห็นรูปพวกนั้นที่ส่งไป เขากลับเงียบ เลยคิดทึกทักไปเองว่า ป่านนี้คงทะเลาะกันไปแล้วก็ได้ แต่ด้วยความอยากรู้ของเธอ จึงส่งข้อความไปหาอีกครั้ง“หนูไปทำงานที่บาร์นั่นพอดี เลยบังเอิญเจอช็อตเด็ด ว่าไม่ได้นะ…ผู้ชายคนนั้นหล่อมาก ตอนกลับก็ออกไปด้วยกันแค่สองคนแล้วไม่กลับเข้ามาอีก เพื่อนเธอหลายคนยังอยู่ในงานจนบาร์ปิด” แมทธิวที่ขอลางานเพื่อทำงานต่อที่บ้านเพราะไม่สบาย พอเขากลับบ้านแล้วเห็นข้อความนี้ ถึงกับอึ้งรอบสอง“อย่ายุ่งกับเธอ กานต์…ผมไม่อยากเตือนหลายครั้ง”เขาตอบกลับข้อความด้วยความไม่พอใจ“หนูเจอเธอที่ห้องน้ำด้วย ยืนติดกันเลยแหละ ท่าทางติดหรู ผู้หญิงทรงนี้มักจะชอบคนรวย จากประสบการณ์ที่เห็นๆมา”“คุณอาจจะมีประสบกาณ์ชีวิตอะไรมากกว่าเธอ แต่ในขณะที่อายุเท่ากัน เธอคอนโทรลชีวิตตัวเองไม่ให้ทำอะไรผิดพลาด ทำให้คร
เช้าวันต่อมา เจตสุวีย์พยายามโทรชวนเธอคุยและเสนอไปทานมื้อเที่ยงอีก แต่ไอรดาปฏิเสธ โดยอ้างว่าต้องไปเชียงใหม่ ส่วนแมทธิวที่ปกติจะโทรมาช่วงเช้าก็หายเงียบ ทำไมต้องมาโกรธฉันด้วยล่ะ ฉันแค่มีเพื่อนคนเสนอข้อตกลงก็คือเขาเอง…ไอรดาจัดของเสร็จ เธอเตรียมทำอาหารง่ายๆสำหรับมื้อเที่ยง แล้ววีดีโอคอลจากอีกซีกโลกก็เข้ามา ที่โทรมาตอนเที่ยงเพราะอยากเช็กฉันยังงั้นเหรอ? “เดี๋ยวฉันโทรกลับได้มั้ย? ตอนนี้ยุ่งนิดหน่อย” “Sweetie ผมงี่เง่าเอง ผม..นอนน้อย เครียดเรื่องงาน ผม..ผมรู้ว่ามันแค่ข้ออ้าง”เขาเรียกด้วยคำหวานๆ เพื่อง้อเธอ ไปพร้อมๆกับที่กระแอมไอไปด้วย“ผมไอน้อยลงแล้ว พยายามกินยา ไม่อยากป่วยตอนคุณมา เอ่อ…คุณเลือกที่พักหรือยัง?”“ฉันหมดเงินค่าตั๋วไปเยอะแล้ว เพราะฉะนั้น…ฉันจะอยู่บ้านคุณ”ลึกๆเขาดีใจ แต่กังวลว่าเธอจะไม่สะดวกสบาย ไอรดาเห็นเขาตอบช้าแบบนั้นก็เลยตัดบท“ลำบากใจที่ฉันจะไปบ้านคุณสินะ งั้นถึงแล้วจะหาที่พักเอง”“ใจผมรอคุณล่วงหน้าแล้ว อยู่กับผม…ไม่ต้องไปอยู่ที่ไหนทั้งนั้น”เขาปากหวานจริงๆ…แล้วฉันก็ชอบเสียด้วยสิ..“สักพักกินมื้อเที่ยงเสร็จ ฉันจะไปสนามบิน เครื่องออก 14.45 น่าจะถึงซานฟรานตอนเกือบสิบโมงเ
ไอรดาในชุดนอนเสื้อสายเดี่ยวเอวลอยและกางเกงขาสั้นสีขาวบางๆจนเห็นชุดชั้นในที่น่ารักปนเซ็กซี่ ถึงจะเคยเห็นเนื้อในมาหมดแล้ว แต่เขาก็พอใจและต้องการที่จะมองอย่างไม่รู้เบื่อ“ยังไม่ง่วงเหรอ? หรือรอผมมาบอกฝันดีก่อน”“คิดไปคิดมา ฉันควรไปนอนที่โซฟามากกว่านะ”“ได้สิ โซฟาปรับนอนสองคนได้”“ใครบอกจะนอนสองคนกันล่ะ”เธอเปลี่ยนจากที่นอนอยู่มานั่งประจันหน้ากับเขาที่นั่งยิ้มและจับผมเธอไม่ยอมปล่อย “ฉันจะไปนอนที่โซฟาเอง คุณมานอนห้องนี้แทน”แมทธิวยิ้มแทนคำตอบ ทว่า..สายตาเขาแฝงไปด้วยความในใจ นั่นทำให้เธอใจเต้นแรง “เตียงนี้ผมซื้อมาใหม่ มีคุณคนเดียวที่จะได้นอนที่นี่”เขาสังเกตว่าเธอดูพอใจกับคำตอบแต่ก็ยังเก๊กอยู่ “เกี่ยวอะไรกับเตียงนี้ ฉันแค่เกรงใจมาแย่งที่นอนเจ้าของห้อง ตัวคุณก็สูง นอนโซฟาคงเมื่อย แค่นั้นแหละ”แมทธิวรู้ว่าเธอพูดแก้เขินไปแบบนั้นที่เขารู้ทัน เพราะคงคิดไปเองว่าเตียงนี้เขาเคยนอนกับภรรยาเก่า เขาจับแขนเธอให้มาหา แต่เธอฝืนตัวเองไม่อยากเข้าใกล้ ยื้อกันไปมาก็แพ้แรงเขาอยู่ดี จนต้องมานั่งอยู่กลางหว่างขาและโดนเขาโอบกอดแนบแน่น“อยากให้ข้อตกลงที่เราคุยกันมันจบลงสักที ผมไม่อยากรออะไรอีก มันเจ็บที่ผู้ชายค
รปภ โทรรายงานเจตสุวีย์ว่ารถของไอรดาเข้ามาแค่ช่วงสั้นๆสองครั้งแล้วออกไปไม่กลับมาอีก หมายถึงเธอคงกลัวว่าเขาจะไปหาที่คอนโด ลองโทรหาเธอก็ไม่รับสายพอจะให้จูนติดต่อให้ น้องสาวเขาก็ไม่อยู่บ้าน จึงต้องทนหงุดหงิดคนเดียวอยู่แบบนั้นไอรดาเห็นเจตสุวีย์พยายามโทรหาแต่เธอไม่รับสาย และเลือกโทรหาแมทธิวแทน โดยไม่บอกเรื่องราวอะไรที่เจอมา พอสายๆวันอาทิตย์ไอรดาก็เช็คเอ้าท์จากโรงแรมแล้วกลับไปที่คอนโด ซึ่งแน่นอนว่า รปภ ได้โทรรายงานไปที่เจตสุวีย์ เขาติดต่อให้คนสนิทเอาจีพีเอสไปติดไว้ที่รถของเธอให้เรียบร้อย ไอรดาไม่ออกไปไหน แต่เธอเกิดอยากรู้ว่าหลังจากที่กานต์วิภาออกจากร้านอาหารไปแล้วเป็นยังไงบ้าง“โทรมาทำไม?”“ฉันไม่ได้อยากจะแกล้งอะไรเธอหรอก แค่อยากให้พี่โจยอมรับเรื่องเธอ แต่ไม่คิดว่าจะนิ่งได้ขนาดนั้น ฉันเองก็ไม่คาดคิดนะ”“สะใจแล้วดิ ทั้งพี่แมททั้งพี่โจ เธอก็เอาไปหมดแล้วจะมาอะไรอีก ปากหวานก้นเปรี้ยวกันทั้งนั้นแหละ ไอ้พวกคนรวยน่ะ”“เธอกับพี่โจทะเลาะกันเหรอ?”“เขาฟาดหัวฉันมาล้านนึง จบ…จะว่าเลิกก็ไม่ได้เพราะเขาไม่เคยขอคบ ไม่เคยจูบด้วยซ้ำ มาถึงเอาแล้วก็ไป โยนเงินให้เหมือนฉันเป็นอีตัว…รู้ป่ะ เขาพูดว่าไง? เขานอนก
แมทธิวกับไอรดาที่มีความสุขกันผ่านวีดีโอคอลไปแล้วนั้น ยิ่งทำให้ทั้งคู่กระชับความสัมพันธ์กันได้ดีแม้จะอยู่ห่างไกลกันมากแค่ไหนก็ตาม “คุณจะมาหาฉันก่อนไปไต้หวันใช่มั้ย? ฉันอยากไปไต้หวันด้วย คิดถึงอากงอาม่าของคุณ อยากไปเยี่ยมพวกท่านอีก”“ดีใจที่ได้ยินแบบนี้ ผมทนรอไม่ไหวที่จะได้อยู่กับคุณ งั้นถ้าผมไปหา เราไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่าของคุณด้วยดีมั้ย?”“อืม..ลองดูก็ได้ ไม่ได้ไปนานแล้ว ไม่รู้จะเห็นฉันเป็นหลานอยู่หรือเปล่า”“ไม่เป็นไรนะ คุณยังมีผม ทุกคนชอบคุณกันทั้งนั้นเลย ทุกคนถามว่าคุณเป็นยังไงบ้าง ทั้งพ่อแม่ อากงอาม่า”“ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตของฉัน..พี่แมท”“ยินดีเสมอ ที่รัก”เธอเริ่มง่วงและค่อยๆหลับตาลง ส่วนแมทธิวก็เก็บของและเปิดโน้ตบุ๊คเพื่อทำงานบ้าง โดยเฝ้าเธอผ่านวีดีโอคอลตลอดคืนเจตสุวีย์กลับถึงบ้านด้วยความว้าวุ่นใจ เขาเห็นรถของจูนกลับมาแล้ว จึงไปเคาะที่ห้องนอนของน้องสาว“เอ้า พี่โจ เห็นออกไปจากบาร์ ทำไมพึ่งมา? อย่าบอกว่าไปหาอายมานะ”“ใช่ แต่ไม่เจอ น้องอายไม่กลับคอนโด พี่เป็นห่วง จูนโทรถามให้หน่อยสิ”“ตายจริง..แป็บนะพี่โจ โทรก่อน”จูนที่พยายามโทรหลายครั้งซึ่งติดแต่ไม่รับสาย พลอยทำเธอกังวลเพราะห
จูนโทรถามไอรดาว่าจะมาที่บาร์ของพี่ชายเธอหรือไม่ เพราะเพื่อนทุกคนจะมาเนื่องจากไม่ได้เจอกันนานแล้ว“ไปสักแป็บก็ได้ ยังไงพรุ่งนี้ก็วันเสาร์ ไม่ได้ทำงานอยู่แล้ว”พอถึงคอนโด ก็โทรหาแมทธิวเพื่อขอไปเที่ยวกับจูน ซึ่งแน่นอนเขาไม่อยากให้ไป“ฉันเอารถไปเอง และจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์แน่นอน สัญญา”“ที่นั่นมีทั้ง..กานต์วิภาและผู้ชายคนนั้น ผมไม่ไว้ใจเลย”“เอ่อ…จริงสิ แล้ววันนี้คุณมีแพลนทำอะไร? ย้ายของไปถึงไหนแล้ว?”ไอรดารีบถามเปลี่ยนเรื่องทันที“ของส่วนใหญ่ส่งไปที่ LA แล้ว รถผมก็ประกาศขายไม่แพงมาก มีเพื่อนบ้านสนใจอยู่ คงจะขายได้ไม่ยาก วันนี้คงเข้าออฟฟิศไปเคลียร์งานนิดหน่อย กลับมาก็ทำความสะอาดห้อง อีกวันสองวันผมจะไปอยู่บ้านพ่อแม่แล้ว น่าจะอยู่สักสามสี่วัน จากนั้นต้องจองตั๋วเพื่อบินไปไต้หวัน”“วันนี้ฉันไปทานข้าวเย็นที่บ้านจูน แล้วพ่อแม่เขาคุยเรื่องขอให้ฉันแต่งงานกับพี่โจ”แมทธิวที่เอนหลังอยู่บนเตียง ถึงกับลุกนั่งกะทันหัน “นี่ใช่มั้ยคือบุญคุณต้องตอบแทนที่คุณพูดถึง? เพราะพวกเขาช่วยเหลือกิจการให้คุณมีเงินมากมาย เขาถึงกล้าส่งข้อความบอกคุณว่าหมดเวลาของผม”“ฉันบอกพวกเขาว่ามีคนรักแล้ว ไม่ได้ปิดบังอะไร ไม่รู้ว่าคุ
ไอรดาและแมทธิวตื่นแต่เช้า ทั้งคู่โทรหาวีวี่เพื่อบอกให้รู้ว่าแด๊ดดี๊ของเธอจะต้องกลับแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะต้องไปสนามบิน “คุณไม่ไปส่งนั่นล่ะดีแล้ว ไม่งั้นผมคงตกเครื่องเพราะก้าวขาไม่ออก ถ้าเห็นคุณร้องไห้”เธอยิ้มแล้วส่ายหัวแบบที่ชอบทำ เขาดึงเธอมานั่งตักแล้วซบกอดกันเงียบๆอยู่พักหนึ่ง เขาชอบที่ได้ฟังเสียงหัวใจเต้นของเธอ พลางจับมือขึ้นมาจูบเบาๆ“ถ้าผมต้องไปไต้หวันจะแวะมาหาคุณด้วยนะ ดูแลตัวเองดีๆเวลาที่ผมไม่อยู่ จำไว้ว่า..ถึงเราจะอยู่ห่างกัน ไม่ได้อยู่ใกล้กันเหมือนคนอื่น แต่เรายังรักกันขนาดนี้ ผมเคลียร์อะไรเสร็จแล้วกลับมา..เราแต่งงานกันนะ”“ไหนล่ะแหวน?”“แสดงว่าคุณตกลงแล้วนะ”แมทธิวขยับตัวให้เธอลุก เพราะได้เวลาที่เขาต้องลงไปรอ Taxi เพื่อไปสนามบินแล้ว ไอรดาสีหน้าออกทันที เธอกอดแขนเขาแน่น “ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหวให้บอกผม จะซื้อตั๋วให้คุณบินไปอเมริกาทันที”“ฉันจะเข้มแข็ง รอการกลับมาของคุณ”เขาประคองหน้าเธอเงยขึ้นแล้วจูบอย่างอ้อยอิ่ง น้ำตาเธอเริ่มไหลออกมา มันทำให้เขาใจสลายที่ต้องไปจากคนที่รักสุดหัวใจ“ไปได้แล้ว…” เธอบอกเขาด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย เขากอดเธอแน่น บอกรักด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า แล้วหัน
กานต์วิภาที่ยืนส่องกระจกดูแก้มด้านซ้ายที่บวมตุ่ย รอยแดงอมม่วงเริ่มปรากฏขึ้น เธอนั่งเครื่องกลับมากรุงเทพตั้งแต่คืนวันเสาร์แล้วตามคำสั่งและการสนับสนุนเงินทองจากเจตสุวีย์ หลังจากโทรบอกเขาเรื่องที่โดนไอรดาตบหน้าเอามีสายเข้ามาจากเจตสุวีย์ กานต์วิภาแปลกใจระคนตื่นเต้น ที่เขาโทรมาหา“สวัสดีค่ะ คุณเจตสุวีย์”“ว่างมั้ยผมจะไปรับ?”ใจเธอวูบวาบขึ้นมาทันที“เอ่อ..ว่างค่ะ คุณเจตสุวีย์จะพาไปไหนคะ? พอดีหน้าหนูดูแย่..”“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเจ็บมากจะพาไปหาหมอ ส่งพิกัดที่พักคุณให้ผมจะได้ไปรับ”เธอส่งพิกัดให้เขาแล้วรีบแต่งตัวรอ จนกระทั่งเขาหาที่จอดได้“ผมมาแล้ว ที่จอดรถหายากมาก รีบลงมาหน่อยก็ดี”ลงมาถึงเห็นรถหรูของเขา ทำเอาเธอเก้อเขินพอเข้ามาก็ได้แต่นั่งตัวลีบอยู่แบบนั้น เจตสุวีย์เอื้อมไปจับหน้าเธอที่อายจนหน้าแดงให้หันมา“ผมจะพาไปหาหมอนะ แล้วจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง แต่ขออย่างหนึ่ง ไม่ให้ไปยุ่งกับไอรดา เธอเป็นหุ้นส่วนใหญ่ที่บริษัท”“ค่ะ”ตอนนี้เธอไม่อยากเอาเรื่องเอาราวอะไร แค่เห็นหน้าเขาก็ใจอ่อนปวกเปียกแล้วเจตสุวีย์พาไปโรงพยาบาลเอกชนที่ดีที่สุด จนพยาบาลหรือลูกค้าบางคนที่จำเขาได้ พากันซุบซิบที่ลูกชายไฮโซระดับป
ณ บ้านวิเชียรวรกุลทั้งสามตื่นแต่เช้า เตรียมตัวเพื่อขึ้นเครื่องบินไปยังขอนแก่น “เราเอากระเป๋าไปเพิ่มดีมั้ย? แมทธิว พวกชุด รองเท้า กระเป๋าที่ซื้อให้วีวี่ คงใส่กระเป๋าเสื้อผ้าเด็กไม่พอหรอก ใบแค่นั้นน่ะ”“หนูไม่เอาไป กลัวชุดสวยกับรองเท้าพัง”ไอรดามองหน้า จนวีวี่หลบตาลง“ไม่ชอบเหรอ?”เด็กหญิงส่ายหน้าด้วยความกลัวไอรดา“แล้วทำไมไม่เอาไปด้วย?”“ถ้าหม่าม๊าเห็นจะต้องด่าหนู หนูกลัวหม่าม๊าทำพัง”คำตอบของเด็กทำเอาไอรดาสูดหายใจอย่างแรง ก่อนจะมองไปที่แมทธิว “ไม่เป็นไร ที่รัก เอาไว้ที่นี่ก็ได้ ถ้าคุณจะเมตตาเด็ก อนุญาตให้มาที่นี่อีก”เธอพยักหน้าด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะนึกอะไรได้อย่างหนึ่ง จึงไปที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วหยิบสร้อยทองเส้นเล็กที่เคยได้ตอนเด็ก เป็นสร้อยทองสองสลึง ห้อยด้วยหลวงปู่ทวดองค์เล็ก “มานี่สิ…ใส่เอาไว้นะ ห้ามถอดไม่ว่าจะยังไง”วีวี่ยกนิ้วก้อยให้เธอแทนสัญญา ทั้งสองเกี่ยวก้อยกัน ไอรดาลุกขึ้นสะบัดหน้าแล้วหันหลังให้ก่อนจะพูดขึ้น“น้ายกคุณทรัฟเฟิ้ลให้ ขี้เกียจได้ยินทีหลังว่ามีเด็กนอนฝันร้าย ร้องไห้ขี้มูกโป่งกลางดึก”เธอเดินออกจากห้องไปชั้นล่างทันที “คุณน้าโกรธที่หนูไม่เอาชุดไปด้วย”“ไม่ใช่แ
บ้านของไอรดาดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อมีคนสี่คนในบ้าน มีเสียงเด็กหัวเราะ ป้ารินที่คิดถึงหลานของตัวเอง พอมีเด็กเล็กก็หายเหงาไปได้มาก แมทธิวชอบทำอาหาร ช่วยตัดหญ้า ล้างรถ รดน้ำต้นไม้ พอช่วงบ่ายก็พากันขับรถออกไปเที่ยวนอกเมืองตามสถานที่ต่างๆทุกวัน แต่พอตกกลางคืนตั้งแต่มีเด็กหญิงมาอยู่ด้วย ไอรดาขอแมทธิวว่าจะไม่นอนห้องเดียวกับเขาและห้ามขอมีอะไรกับเธอในช่วงที่เด็กอยู่ที่นี่วีวี่อยากให้ไอรดาบินไปส่งกลับบ้านที่ขอนแก่นด้วย อีกทั้งแมทธิวก็ขอร้องจนยอมให้เขาจองตั๋วบินในวันเสาร์เพื่อไปด้วยกันสามคนจนได้ ระหว่างนั้นในเย็นวันพฤหัสบดี มีคนสองคนอุ้มเด็กเล็กเข้ามาที่บ้านของไอรดา แมทธิวที่กำลังเดินเล่นกับวีวี่ที่ปั่นจักรยาน เป็นคนที่ไปเปิดประตูให้ ป้ารินเดินออกมาหน้าบ้านถึงกับร้องไห้ เมื่อเห็นลูกชายลูกสะใภ้พาหลานมาหา พร้อมยื่นถุงพลาสติกเล็กๆใส่ส้มมาให้“แม่ สบายดีไหม? ซื้อส้มมาฝาก ว่าจะมาหาหลายทีตั้งแต่แม่บอกกลับมาที่บ้านนี้ พึ่งจะว่าง”“ไม่เป็นไรหรอก แม่เข้าใจ”ป้ารินกล่าวพร้อมกับรับหลานมาอุ้ม แมทธิวเดินกลับไปหาวีวี่ที่สนามหญ้าข้างบ้าน ปล่อยให้พวกเขาอยู่กันเป็นส่วนตัว“นั่นใครอ่ะแม่ มีเด็กด้วย”“แฟนหนู
แมทธิวขึ้นเครื่องเวลา 8.30 มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง มีเวลาสี่ชั่วโมงครึ่งจะบินกลับเชียงใหม่ในตอน 13.05 เขาโทรหาไอรดาแล้วก็เรียก Taxi ตรงไปบ้านแม่ของกานต์วิภา ก็เจอลูกสาวตัวน้อยเตรียมกระเป๋าไว้เรียบร้อย เธอวิ่งเข้ามากอดและเขาอุ้มเธอเอาไว้ “คิดถึงแด๊ดดี๊มากเลย เราจะไปเชียงใหม่ใช่มั้ย?”“ใช่ แต่สัญญาแล้วนะว่าจะเป็นเด็กดี” เธอยื่นนิ้วก้อยให้แทนว่าสัญญา ทั้งคู่เกี่ยวก้อยกันตามนั้น “บอกคุณยายว่าจะมาส่งเช้าวันเสาร์นะ”เมื่อจัดการคุยผ่านล่ามตัวน้อยเรียบร้อย เขาก็ยกมือไหว้ร่ำลา แล้วพาไปทานมื้อเช้าในตัวเมืองขอนแก่น รอห้างสรรพสินค้าเปิด จึงพาเธอไปทานไอศครีมและเล่นบ้านบอลเพื่อฆ่าเวลา เขาส่งข้อความบอกกานต์วิภาว่ามารับลูกสาวแล้ว แต่อีกฝ่ายโทรกลับมาทันที“พี่แมทมาคนเดียวใช่มั้ย?”“ใช่ ทำไม? เดี๋ยวจะไปสนามบินแล้ว”“หวังว่าคงไม่มีใครต้องงอแงก่อน ระหว่างวีวี่กับผู้หญิงคนนั้น จะรอดมั้ยเนี่ย..หึ”กานต์วิภาหัวเราะเยาะ ก่อนจะพูดต่อไป“จะมาส่งกลับวันเสาร์ใช่มั้ย? จะรอดูว่าได้สักกี่วัน”“แค่นี้นะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว”แมทธิวตัดบทและวางสายแบบไร้เยื่อใยใดๆ ทำให้เธอถึงกับลืมตัวก
หลังจากไอรดาออกไปทำธุระข้างนอก แมทธิวก็โทรหากานต์วิภาให้บอกแม่ของเธอให้ไปทำเรื่องลาหยุดที่โรงเรียนสี่วัน เพราะเขาจะไปรับมาใช้เวลาเพื่ออยู่ด้วยกัน แล้วจะไปส่งกลับขอนแก่นเช้าวันเสาร์“แล้วจะรับไปอยู่เที่ยวที่ไหน? ผู้หญิงคนนั้นจะยอมเหรอ..หึ” น้ำเสียงที่แสดงว่ากานต์วิภารู้สึกชอบใจ“ผมพูดเรื่องลูก ไม่ต้องพยายามไปพูดถึงเธอ ไอรดาเห็นใจเด็กมากพอ จนยอมจ่ายให้สามีเก่าคุณเพื่อให้เขาเซ็นง่ายๆ ถือว่าใจดีพอมั้ย? ขนาดคุณยังจัดการไม่ได้ถ้าผมไม่ขู่จะจ้างทนาย”ทำเอากานต์วิภาไม่พอใจที่เขาชื่นชมไอรดาแล้วตำหนิเธอแทน“ดูแลวีวี่ด้วยแล้วกัน อย่าให้มารังแกลูกหนู ไม่งั้นเจอดีแน่”“ปกติคุณเคยสนใจลูกด้วยเหรอ? กานต์”เขาวางสายใส่ เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบอะไร เพราะรู้กันอยู่แล้วแมทธิวสั่งอาหารเที่ยงมากิน หลังจากนั้นก็ไปนั่งเงียบๆในห้องพระ นั่งดูอัลบั้มรูปพ่อแม่ของไอรดา จนเจออัลบั้มหนึ่งเป็นรูปสมัยที่ไอรดายังเป็นเด็กหญิงเรื่อยไปจนถึงไฮสคูล กระทั่งตอนเริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เธอมีแววตาที่สดใสและเติบโตมาเป็นอย่างดี ท่ามกลางรูปที่ถ่ายร่วมกับพ่อแม่ของเธออยู่มากมาย มีลายมือเขียนภาษาไทยเอาไว้ในหน้าสุดท้ายของอัลบั้