เรื่องนี้มีภาคต่อนะคะ ฝากติดตามด้วยนะคะ
เสียงแป้นพิมพ์รัวๆช่วงสายของวันเสาร์ ในห้องของคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านเอกมัย“อาย คืนนี้ว่างป่ะ? ไปแฮงค์เอ้าท์กัน Sirocco สีลมนะ”เสียงใสๆของจูน เพื่อนของเธอ สาวที่รักการปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจได้โทรมาชวน“เอ่อ…ก็ได้” ปากที่ตอบไป แต่ตาก็จ้องคอมพิวเตอร์อยู่“ขอธีมเซ็กซี่นะ วันนี้ทุกคนลงความเห็นว่าไป rooftop bar ที่เดิม คนต่างชาติเยอะด้วย”“อ่าหะ โอเค”อายหรือไอรดา สาววัย 25 เรียนจบมาสองปีแล้วและไม่มีงานประจำ เธออาศัยการทำงานถ่ายแบบอิสระเล็กๆน้อยๆ เวลาว่างก็ไปเข้าคอร์สเรียนเต้นเพื่อให้ตัวเองได้ไปเจอสังคมบ้างสงสัยใช่มั้ย? ว่าทำไมมีคอนโดหรูราคา 7 ล้าน? ก็เพราะมรดกยังไงล่ะ แต่ก็นั่นแหละ…มันแลกมาด้วยการสูญเสียพ่อแม่ไป เธอเป็นลูกคนเดียวถึงได้ทุกอย่างมา จึงเรียกได้ว่า ทุกขลาภ แล้วเรื่องเงินเรื่องทอง เมื่อไม่เข้าใครออกใคร ทำให้ต้องทะเลาะและผิดใจกับญาติพี่น้อง ทุกคนล้วนอยากมารุมทึ้งทรัพย์สมบัติของพ่อแม่เธอกันทั้งนั้น หลังจากพวกท่านเสียไปไอรดาเลือกที่จะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง เริ่มต้นเส้นทางชีวิตด้วยตัวคนเดียวโดยไร้ญาติขาดมิตรตั้งแต่นั้น….พอตะวันตกดิน ไอรดาเริ่มแต่งตัวแต่งหน้าทำผม และกินอะไรรอง
แสงแดดลอดผ้าม่านเข้ามาเล็กน้อย ไอรดางัวเงียควานหาโทรศัพท์มาดู..เกือบสิบโมงแล้ว เธอกดรีโมทให้ผ้าม่านเปิดออก เห็นวิวกรุงเทพสวยๆจากชั้นที่ 27 แมทธิว DM มาหาเธอ ว่าเขาสามารถมารับเธอได้ ไอรดาเห็นแบบนั้น..ก็ยิ้มขำ“ท่าทางดูหิว ฉันไม่ใช่ของกินเล่นร้านสะดวกซื้อหรอกนะ”ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไปว่า เธอจะไปหาเองตามเวลา เพราะร้านที่นัดกันอยู่ใกล้คอนโดแค่ 800 เมตร 11.57 แมทธิวนั่งรอพร้อมดอกกุหลาบช่อใหญ่ จนกระทั่งมีผู้หญิงบุคลิกมั่นใจ ใส่แว่นตาดำ มวยผมแสกกลางหลวมๆ เสื้อเชิ้ตขาวตัวใหญ่เปิดไหล่โชว์ผิวเนียนสวย กางเกงยีนส์ขาสั้น สะพาย neverfull MM เดินเข้ามาในร้าน เธอถอดแว่นตามองหา ก็เจอเขานั่งโต๊ะริมหน้าต่าง พอเดินไปใกล้ เขายิ้มให้จนตาหยี และลุกขึ้นเอาดอกไม้ให้“สวัสดี ผมดีใจและขอบคุณที่ยอมมาพบ” ไอรดายิ้มให้แบบไม่เห็นฟันพร้อมกับกล่าวขอบคุณ ก่อนจะนั่งดูเมนูเพื่อเริ่มสั่งอาหารแมทธิวคิดว่าเธอคงไม่ค่อยไว้ใจเขา แต่ก็ยังยอมมากินมื้อเที่ยงด้วย “เมื่อคืน ผมคิดว่าคุณจะปฏิเสธแล้ว”เธอละสายตาจากเมนู เหลือบตามองเขา สั่งอาหารแล้วเริ่มต้นพูดคุย“จริงๆอยากปฏิเสธนะ แต่เห็นว่ากล้าพูดชวนตรงๆ อีกอย่างใกล้ที่พักด้วย”ไ
ไอรดาหันไปมองที่ภูเขาในยามโพล้เพล้ แสงสีส้มแดงดูแล้วสวยอย่างประหลาด“คุณสูญเสียคนรัก แต่ยังโชคดีที่มีครอบครัวต่างกับฉัน..ถ้าให้แลกทุกสิ่งที่ฉันมีตอนนี้แล้วทำให้พวกท่านกลับมาได้ ฉันยอม”“น้องอายไม่ลองเปิดใจให้ใครที่รักจริงสักคนล่ะ จะได้มีคนช่วยคิด คอยดูแลอยู่เคียงข้างกัน” เธอทำเสียงขำขัน เหมือนว่ามันไร้สาระ“ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ดีเท่าพ่อของฉัน จะมีไปทำไม ความรักน่ะ..มันน่ากลัวนะ ทำคนพังทลายมาเยอะ ฉันพึ่งพาตัวเองได้ ร้องไห้ก็กอดตัวเองได้ ฉันอยากทำสวยก็เพราะพอใจที่เห็นตัวเองในกระจกทุกบานที่เดินผ่าน ไม่ได้ทำสวยเพื่อใคร”แมทธิวกลับเอ็นดูเธอ ถึงแม้ว่าไอรดาจะพยายามทำท่าทางหรือคำพูดที่เย่อหยิ่งบวกกับอีโก้ที่สูงเทียมฟ้าใส่เขาก็ตาม “ผมเข้าใจที่น้องอายพยายามตั้งการ์ดอยู่ตลอดเวลา เหมือนนักมวยที่พร้อมจะต่อยใครก็ตามเมื่อรู้สึกถูกคุกคาม บางครั้งเราไม่ต้องพยายามทำเหมือนเข้มแข็งตลอดเวลาก็ได้”เธอทำหน้าไม่พอใจทันทีที่เขาพูดแบบนั้น แต่ไม่หันมามอง “บางครั้งประสบการณ์ชีวิตก็ไม่จำเป็นต้องมาจากคนที่เกิดก่อนหรือแก่กว่าหรอก ฉันเรียนรู้จากการมองประสบการณ์ของคนอื่นเอาก็ได้ อย่างที่คุณพยายามแนะนำฉัน ทั้ง
แมทธิวและไอรดา สบตากันอยู่แบบนั้น จนเธอเริ่มอึดอัด“คุณต้องการอะไร? เอางี้ดีกว่า พูดมาตรงๆเลย”ไอรดาอยากจบการสนทนาที่เธอรู้สึกว่ามันยืดเยื้อ“ผมอยากพิสูจน์ว่าไม่ได้เข้ามาเพื่อหวังเงิน ผมมีเวลาที่ไทยไม่มากเพราะต้องกลับไปทำงาน จะขออยู่จนถึงวันจันทร์ คุณก็ไม่ให้อยู่ ผมไม่อยากยอมแพ้ ไม่งั้นคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว”“ทำไมคิดว่าจะไม่มีโอกาส?”“คุณคงมีคนเข้าหาเยอะ ถ้าผมกลับไปกว่าจะกลับมา คุณอาจไม่โสดอีกแล้ว”“กะจะไม่ให้โอกาสฉันได้เจอคนอื่นบ้างล่ะ คิดกลับกันบ้างสิ”“ผมรู้สึกได้ ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไปว่าคุณก็มีความรู้สึกให้อยู่เหมือนกันแต่ไม่ยอมรับ”บ้าจริง….ไอรดาที่หน้าตารวบตึงแต่ข้างในนั้นไขว้เขว“ผู้หญิงที่รักตัวเองมากพอ จะไม่ไล่ล่าแต่จะดึงดูดสิ่งที่มีความหมายให้มาพบเจอเธอเอง ผมรู้ว่าเป็นสิ่งนั้นให้คุณได้ ถ้าคุณให้โอกาส”ตื้อมากใช่มั้ย? ได้สิ….“ปกติฉันไม่เคยคิดอยากคบกับคนอายุมากกว่าเป็นสิบปี เพราะความคิดอาจจะไม่บาลานซ์กัน คุณเคยหย่าร้างแถมมีเรื่องเด็กด้วย ถึงไม่ใช่ลูกคุณจริงๆ แต่ในเมื่อคุณรับเป็นลูกก็เท่ากับมีภาระติดตัวมา ขอโทษที่พูดตรงๆ ถ้าเราคุยกันไปนานวันเข้าไม่นานก็คงมีปัญหาแล้วก็
“ถ้าคุณถอดเสื้อ ฉันจะเปิดกล้องให้คุณเห็นหน้า”แมทธิวกะพริบตาปริบๆ แล้วยิ้มก่อนจะก้มมองตัวเขาเอง“อยากเช็กของหรือไง? ให้ผมเห็นหน้าก่อนสิ ถึงจะถอด”“แล้วแต่นะ…งั้นฉันจะวางแล้ว”“โอเค” เขาถอดเสื้อ ทำให้เธอเห็นว่าเขามีกล้ามแขนและหน้าท้องซิกแพค ไอรดาผิวปาก พยักหน้าให้ตัวเองว่าเขาซ่อนรูปจริงแบบที่เธอคิด “ขอผมเห็นหน้าคุณได้แล้ว อาย”ไอรดาเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ที่โต๊ะที่ใช้แต่งหน้า แล้วเธอไปนอนเล่นอยู่บนเตียง ทำเอาแมทธิวบ่นอุบที่เห็นเธอไม่ได้ถนัดนัก“ฉันจะได้ทำอย่างอื่นไปด้วยเวลาคุย จะให้มานั่งเปิดกล้องอย่างเดียวจนไม่ทำอะไรได้ไง แล้วนี่มันดึกแล้วไม่ใช่เหรอที่นั่น?”เขาไม่สนใจเรื่องเวลา แค่พอใจที่ได้คุยกับเธอ “คุณใส่ชุดแบบไหนไปเดทกับหนุ่มคนนั้นกันนะ สวยกว่าตอนไปกินข้าวกับผมหรือเปล่า”เธอลงจากเตียงมายืนให้เขาดู หมุนตัวไปมา “แน่นอน ต้องสวยสิ”“น้อยกว่าไปกับผม”ไอรดาส่ายหัวแต่ก็ยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นทั้งคู่คุยกันเป็นชั่วโมง เรื่องทั่วไป เรื่องงาน งานอดิเรก ความสนใจต่างๆ จนโทรศัพท์ของเธอมีเสียงเตือนว่าแบตจะหมดแล้ว“ตายละ แบตจะหมด ฉันหิวแล้วด้วย คุณเองก็นอนเถอะ”“พรุ่งนี้ผมโทรหานะ”เธอไม่ตอบแต่พยั
ไอรดายืนห่อตัวในวงแขนของแมทธิวที่ยันหน้าต่างอยู่แบบนั้น ลำตัวเขาแนบร่างกายของเธอที่ยืนหันหลังให้“ฉันร้อนแล้วก็ง่วง ขอบคุณที่รอตั้งสองชั่วโมง แล้วยังช่วยลากกระเป๋ามาให้ด้วย พักผ่อนกันเถอะนะ” เธอพยายามตัดบท พูดจบโดยไม่หันมา แต่แมทธิวเห็นหน้าเธอจากกระจกหน้าต่างที่สะท้อนอยู่ โดยที่ไอรดาไม่ทันสังเกตเพราะเอาแต่หลุบตาลงต่ำ“หันมาหาหน่อยสิ อยากเห็นหน้าจะแย่แล้ว ตั้งแต่มาไม่ได้มองเต็มๆ อยู่ในรถไฟ คุณก็เอาแต่มองออกไปข้างนอก”“คุณยืนเบียดฉัน”แมทธิวจับไหล่เธอให้หันมาเผชิญหน้ากับเขาอย่างรวดเร็ว เธอทำท่ากลัวอย่างเห็นได้ชัด “สาวสวยผู้กล้าท้าทายสายตาผมวันก่อน หายไปไหนแล้วล่ะ? ไหนบอกทำธุรกิจกัน จะให้สิทธิพิเศษผมแบบ Exclusive ที่ให้เช็กของวันนั้น ผมโอเคนะ เรือนร่างคุณสวยมาก”ได้ผล…เธอเงยหน้าจ้องตาเขาเขม็ง “ฉันพูดล้อเล่นสนุกๆเท่านั้น งานถ่ายแบบก็ไม่มีชุดว่ายน้ำอะไรเลย มากสุดก็ชุดดูเซ็กซี่นิดหน่อยแต่ไม่อนาจาร ชุดแฟชั่นธรรมดาๆ”“คุณล้อเล่น…แต่ผมเป็นห่วงจริง ถึงถามไงว่าเคยทำแบบนี้มาก่อนมั้ย ไม่ได้ดูถูก เพราะถ้าไปถอดโชว์แบบนั้นต่อหน้าผู้ชายคนไหน คุณคงไม่รอด”“รวมถึงคุณด้วย?” ไอรดายังปากเก่งใส่เขาได้อย
แมทธิวนั่งก้มหน้าแล้วหลับตาลง พยายามคิดเข้าข้างตัวเอง เรื่องที่ไอรดาต่อว่าเพราะเขาเองที่พูดแบบนั้นก่อน เธอคงสับสนที่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็ว ด้วยประสบการณ์ชีวิตที่ยังน้อยและตัวคนเดียว“คุณกลับไปที่ห้องก่อน ฉันอยากอยู่คนเดียวให้ใจเย็นกว่านี้ ขอโทษที่ไร้มารยาท พูดจาแย่ๆใส่”เขาลืมตาเงยหน้ามอง น่าแปลกที่เขาไม่โกรธเธอเลย“ไอรดา..คุณคงลืมที่ผมบอกว่ายังไงเมื่อคืน ไม่ใช่แค่เพื่อมาหาแล้วมีอะไรด้วย แต่เพราะผมหลงรักคุณแล้วจริงๆ”พูดจบ แมทธิวก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องเธอไปอย่างเงียบๆช่างเถอะ..ถ้าเขาเป็นผู้ชายของฉันจริง ก็จะกลับมาหาฉันเอง แต่ถ้าไม่ ก็ไม่ได้แคร์เท่าไหร่….ไอรดาไปทำงานช่วงบ่าย พอเลิกงานตอนเย็นเลยถือโอกาสไปเที่ยวย่าน Ximending เธอไปแวะร้าน Popmart เพื่อซื้อลาบูบู้ไปฝากให้เพื่อนๆ พร้อมกับซื้อสตรีทฟู้ดเพื่อกลับมาเอามากินที่ห้อง แล้วเรียก Uber กลับมาที่โรงแรมระหว่างอยู่ในห้องเธอลงรูปว่าไปที่ไหนมาบ้าง จนเพื่อนๆที่ไทยมา comment กันยกใหญ่ ในขณะเดียวกันทั้งแมทธิวและภรรยาเก่าของเขาก็เห็นรูปพวกนั้นในไอจีของไอรดาเช่นกันแต่แมทธิวไม่กดไลค์ภาพของเธอในไอจี เย็นนี้ก็ไม่ออกไปไหน ไม่สั่งอะไรมากิน
“แมทธิว คุณเปิดห้องที่นี่ไว้กี่วัน?”ไอรดาที่ออกมาจากห้องน้ำ เห็นว่าหน้าตาเขาดูสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“สามคืน เพราะได้ยินคุณบอกว่าเผื่อหาโรงแรมใหม่…อาย ถ้าผมชวนคุณไปบ้านปู่ย่าผม คุณจะรังเกียจมั้ย?”เธอเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งแล้วยืนกอดอกพิงโต๊ะ“ก็ได้นะ แต่ถ้าพวกท่านถาม ก็บอกว่าเป็นรุ่นน้องแล้วกัน”เขาพยักหน้ารับแบบเสียไม่ได้ ก่อนจะขอตัวกลับไปที่ห้อง “ผมไปอาบน้ำ เดี๋ยวมากินมื้อเช้าด้วย อย่าลืมส่งเลขบัญชีให้ด้วย”ไอรดาส่งเลขบัญชีให้เขา ก่อนจะนอนเล่นโทรศัพท์รอไปพลางๆ ตอนนั้นในไอจีของเธอมีคนกดติดตามเพิ่มขึ้น ซึ่งมีไอจีของเด็กด้วย ซึ่งเธอสนใจแต่ไม่ได้คิดอะไร แมทธิวกลับมาพร้อมกับสั่งมื้อเช้ามากินด้วยกันกับเธอ เขารู้สึกว่าห้องนั้นแคบขึ้นมาทันตาเห็น “ไปอยู่ที่อื่นเอามั้ย? ยิ่งรู้สึกว่าแคบตอนนั่งกินข้าว ผมจ่ายเอง”“คุณเลือกแล้วกัน แต่ฉันจ่ายส่วนของตัวเองได้”“ไม่ต้องหรอก เพราะเราจะอยู่ห้องเดียวกัน ผมโอนให้แล้วนะหกหมื่น รอสักพักเงินคงเข้าบัญชีคุณ”เธอยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์ขึ้นมา “อยู่ร่วมห้องด้วยกันหลายวัน ถ้าเกิดคุณผิดคำพูดที่ตกลงกัน ฉันก็คุยกับคนอื่นได้เลยนะ”“ก็รอดูไปว่าใครจะแพ้ก่อน ถ้า
แมทธิวกลับมาพร้อมกับข่าวดีที่จะทำให้ภรรยาของเขาได้สบายใจ จากที่เธอกังวลมาตลอดเก้าเดือนเต็ม เขายื่นโทรศัพท์ให้ไอรดาเพื่อให้แจ้งข่าวนี้ไปถึงคนที่เขาเกลียดที่สุด“ผมดูแลลูกเอง คุณพักก่อนเถอะ แล้วบอกพวกเขาซะ จะได้ขาดกันเสียที”ไอรดารับโทรศัพท์มาพร้อมกับยิ้มอย่างโล่งอก พลางเดินออกไปหน้าบ้านเพื่อสูดอากาศที่สดชื่นเป็นพิเศษสายเข้าจากไอรดา ทำให้เจตสุวีย์ที่กำลังกินมื้อเย็นอย่างหดหู่กลับตื่นเต้นขึ้นมาจนต้องขอตัวจากโต๊ะอาหารขึ้นไปคุยที่ห้องส่วนตัวที่ชั้นสอง “พี่คิดถึงหนูมาก เฝ้ารอว่าหนูจะโทรกลับหรือส่งข้อความมาสักนิดก็ยังดี” “เปิดกล้องหน่อยดีมั้ยคะ เพราะมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราอาจจะได้คุยกัน” พื้นที่ใต้เท้าเขาเหมือนมันถล่มดูดกลืนร่างของเขาให้จมลงในธรณีนี่จะเป็นการคุยผ่านวีดีโอคอลครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเขาแบบนั้นสินะ..“พี่ขอโทษทุกอย่างที่ทำลงไป..ใจพี่เป็นของหนูไปแล้วตั้งแต่แรกที่ได้เจอเด็กสาวคนนั้นที่บ้านที่เชียงใหม่ สุดท้าย..พี่พยายามทำทุกอย่างให้หนูเป็นของพี่ แต่จริงๆแล้วพี่ต่างหากที่เป็นของหนู”ไอรดาเห็นเขาที่ดูหน้าตอบลงอย่างเห็นได้ชัด แววตาเขาเศร้าหมองและใต้ตาคล้ำ ต่างกับหนุ่มเ
เจตสุวีย์อัพเดทเรื่องของไอรดาผ่านน้องสาวอยู่ตลอด ตอนนี้เธอตั้งครรภ์เข้าเดือนที่สอง แล้ว เขาเริ่มเข้าข้างโอกาสสุดท้ายของตัวเองว่าเด็กในท้องต้องเป็นลูกของเขา แต่ทว่าช่วงนี้ เขาเริ่มเจอปัญหาในโรงงานที่พึ่งจะก่อตั้งและลงทุนไปเยอะมาก เงินที่ขายหุ้นไปได้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของที่ลงทุนไปเท่านั้น เจตสุวีย์ได้ยินเรื่องการดีลและซื้อขายวัตถุดิบที่เหมือนกับที่เขาใช้ในโรงงานไปเป็นจำนวนมากทั้งในประเทศและแถบอาเซียน มีการวิ่งเสนอราคาให้ลูกค้าทั้งต่อหน้าและตัดราคาลับหลัง โดยบริษัทหนึ่งที่เขาไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาสงสัยนั้นจะตรงกับที่เคยเห็นครอบครัวที่มากับไอรดาหรือไม่ เธอไปรู้จักคนพวกนั้นได้ยังไง? พวกเขาเป็นใครกันแน่? เขาสั่งให้เลขานุการไปหาข้อมูลจาก ชื่อและนามสกุลของหุ้นส่วนใหญ่คนใหม่ของไอรดา และแล้วเจตสุวีย์ก็ได้เห็นว่า สามีของผู้หญิงที่ชื่ออุษา คือ แพทริค แอรอน สมิธ ครอบครัวนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและมั่งคั่งระดับ Billionaire เบอร์ต้นของแคลิฟอร์เนีย ธุรกิจในมือของแพทริคมีมากกว่า 20 แบรนด์อยู่ในมือ หลายหลายธุรกิจทั้งขาวและเทา กระจายอยู่ในยุโรปและอเมริกา บริษัท Startup ในซิลิค
จูนมองหน้าพี่ชายด้วยความผิดหวังอย่างที่สุด ก่อนจะมองตามหลังเพื่อนสนิทที่เดินออกไป“พี่โจใช้คนตามพวกเขาเหรอ? ที่มันเข้าข่ายคุกคามนะ แล้วเรื่องบริษัท จูนพึ่งรู้ว่าพี่จะทิ้งบริษัทไป แล้วเอาแต่เงินทุนออกเพื่อเอาตัวรอด ป๊ายกให้พี่โจตอนไหน? ทำไมจูนไม่รู้เรื่อง? แล้วป๊ากับม๊ารู้หรือยังว่าพี่โจถอนหุ้นทิ้งอายเอาไว้คนเดียว”เจตสุวีย์เหลือบตามองน้องสาวจอมดื้อของตัวเองที่ตั้งคำถามรัวไปหมด พลางถอนหายใจ“ก็ไม่ได้อยากทำหรอก พี่เสนอทางเลือกให้ก็ไม่เอา ยังจะไปกับไอ้นั่นอีก”“พี่โจ..ฟังนะ พวกเขาจดทะเบียนสมรสที่อเมริกาไปแล้ว พี่อยากเป็นชู้รึไง? บ้าจริง ปล่อยเพื่อนจูนไปเถอะ พอได้แล้ว”“จดหลังจากเป็นเมียพี่แล้ว ไม่ตลกไปหน่อยเหรอ อยากประชดพี่เรื่องเมียเก่าไอ้นั่นมั้ง”“พวกเขารักกันจริงๆไม่ได้ประชดพี่ เชื่อจูนสิ”“ว่าแต่เราเถอะ อย่าให้พี่เห็นหน้ามันอีกแล้วกัน ผู้ชายมีตั้งเยอะตั้งแยะ”“นั่นสิพี่โจ ผู้หญิงก็มีตั้งเยอะตั้งแยะเหมือนกัน”เจตสุวีย์เมินใส่น้องสาวที่พูดประชดประชัน เขาสั่งเช็คบิลแทน แล้วให้ลูกน้องพาไปที่บาร์ของเขาต่อ ส่วนจูนนั้นแยกไปหาแฟนหนุ่มแทนเพราะสงสารที่โดนพี่ชายเธอไล่วันต่อมาไอรดากับแมทธิวไปท
ทั้งสี่คนเมื่อถึงที่บ้านที่เชียงใหม่ ป้ารินที่รออยู่ก็ยิ้มแป้น โดยที่เด็กน้อยรีบโผเข้าไปกอด“หนูกลับมาแล้วววว คุณป้าขา”ทำเอาคุณย่าของเธอทำหน้าสลดลงนิดหน่อย ส่วนแมทธิวอาสาเอากระเป๋าของทุกคนไปเก็บ “แมทธิว ให้คุณย่านอนกับวีวี่นะ ให้พวกเขาได้คุ้นเคยกันอีกหน่อยเพราะเวลามีไม่มาก”ไอรดารีบเอ่ยปากชวนคุณย่าคุยต่อที่ห้องรับแขก ส่วนป้ารินออกไปข้างนอกกับวีวี่ที่จับจักรยานสีชมพูไปปั่นรอบๆบ้าน “ท่าทางคุณย่าเสียใจนะคะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าได้คลุกคลีหรือพบเจอกันบ่อยๆ เธอคงคุ้นเคยไปเอง แกยังเด็กรับอะไรได้ง่ายกว่าถ้าโตแล้ว”“เด็กวัยรุ่นมันไม่รู้จักโตกัน พอท้องมาก็รับผิดชอบไม่ไหว แต่งงานมัดมือกันไปหม้อข้าวไม่ทันดำก็เลิก ทางนู้นไม่ให้มาเจอจะเอาแต่เงิน ทางนี้ส่งเงินให้ก็ไม่ได้มาก ทุกคนก็ช่วยๆกันเพราะลูกชายก็เรียนอยู่ตอนนั้น มารู้อีกทีแม่เด็กตัดขาดบอกไม่ต้องยุ่งเพราะแต่งงานมีผัวใหม่จะไปได้ดิบได้ดีที่ต่างประเทศ”“เอ่อ…แฟนหนู คือ สามีเก่าของเธอเอง แต่เขารักหลานของคุณย่าเหมือนลูกแท้ๆ หนูไม่รู้จะทำไง เขารักใครหนูก็รักด้วย”คุณย่าถึงกับมึนในความสัมพันธ์แปลกๆที่ยุ่งเยิงไปหมด “เลิกกันนานหรือยังก่อนมาเจอหนูน่ะ”
ขณะอยู่ในรถหลังจากมื้อเที่ยงเสร็จสิ้นลง และทั้งคู่กำลังไปโรงพยาบาลอยู่นั้น ก็มีโทรศัพท์เข้ามาหาไอรดา“ดี…คุณเป็นพ่อที่ดีมาก มันต้องแบบนี้สิ แล้ววันที่ไปน่ะ ซื้อของไปเยอะๆ เข้าใจมั้ย ให้ภรรยาเก่าประหลาดใจไปเลย เข้าใจหรือยัง? แล้วฉันจะไปรับที่บ้านคุณ ส่งโลเคชั่นทิ้งไว้ในไลน์ให้ฉันด้วยแล้วกัน”พอวางสาย ไอรดารีบโอนเงินไปห้าหมื่น แล้วส่งสลิปให้ปลายทางเพื่อยืนยันการโอน “พรุ่งนี้เราต้องบินแต่เช้านะ ไปขอนแก่น” แมทธิวที่ขับรถอยู่ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก “เอ้า ไม่ต้องงง ขับรถดีๆ เดี๋ยวรถก็ชนหรอก”“ที่รัก แล้วคุณคุยกับใครเมื่อกี้? พอวางสายก็บอกไปขอนแก่น”“พ่อของยัยเด็กดื้อน่ะสิ ใช้เขาให้ไปเอาเด็กมา แกล้งบอกว่าบ้านนั้นอยากอยู่กับหลานบ้าง ตอนแรกภรรยาเก่าคุณก็อิดออด แต่ฉันวางแผนไว้แล้วว่า ให้เขาแกล้งเสนอจะเอาเงินให้กานต์วิภาไปสองหมื่น เธอเลยตกลงง่ายหน่อย ส่วนเขา..ฉันให้สามหมื่นไปใช้เล่นๆ” “เสียเงินอีกแล้วที่รัก ไม่ดีเลยแบบนี้”แมทธิวพูดเสียงอ่อยๆ เขาก็มีส่วนที่ทำให้เธอต้องเสียเงินติดสินบนคนพวกนี้“คุณจองตั๋วด้วยแล้วกัน เลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่า hubby”ไอรดาเอาศีรษะมาซบไหล่เขาอ้อนๆ แค่นี้เขาก็ลืมอะ
แมทธิวเฝ้าดูแลไอรดาให้กินยาจนหลับไป แล้วเอาโน้ตบุ๊คคู่ใจขึ้นมาทำงานบนเตียง เขาแอบปรึกษาพ่อแม่และอากงอาม่าถึงสิ่งที่ไอรดากำลังประสบปัญหาอยู่ในแชทกลุ่มครอบครัว ซึ่งทุกคนพร้อมจะเสี่ยงกับเขา แต่ไปๆมาๆ เขามองว่า มันต้องใช้เงินเยอะมากและทุกคนไม่มีความรู้เกี่ยวกับคาร์บอนเชิงกล กราไฟต์ หรือมอเตอร์อะไรต่างๆ จนกระทั่งเขาได้พิมพ์ชื่อโรงงานนี้ในกูเกิ้ล ได้เห็นความสำเร็จมากมาย มีลูกค้าชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ก่อนจะเริ่มอ่านข้อมูลต่างๆอย่างละเอียด เขาเริ่มใช้ความรู้เกี่ยวกับการเป็น Developer ทำแผนงานขึ้นมาและสร้าง Presentation คร่าวๆ เพื่อเสนอให้ใครบางคนที่มีหัวธุรกิจ ร่ำรวยและกล้าได้กล้าเสียมากพอ เขากดส่งทั้งหมดพร้อมกับภาวนาให้คุณพ่อคุณแม่ของไอรดาได้ช่วยเขาอีกครั้ง เหมือนตอนที่เขาขอเพื่อจะได้รักเธอขอให้สำเร็จกับสิ่งที่ผมอยากกอบกู้มันขึ้นมาเพื่อช่วยเธอ..ได้โปรด..Kensington,London Englandแพทริคที่กำลังทานมื้อเย็นกับภรรยาและลูกสาว เห็นแจ้งเตือนมีเมลเข้ามาจากในโทรศัพท์ “ขนาดอยู่ไทย ดึกแล้วยังขยันทำงาน”อุษาที่กำลังอุ้มอลิชาเพื่อป้อนข้าวอยู่นั้น เธอแค่ฟังแต่ไม่ได้ถามอะไรต่อ แพทริคทำสีหน้าสนใจอะ
ในช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ไอรดาไม่อยู่ จูนถูกสั่งไม่ให้ต้องเข้ามาทำงาน เพราะพี่ชายของเธอสั่งว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงภายใน ส่วนแฟนหนุ่มของเธอถูกบอกเลิกจ้างและจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย ทำให้จูนโกรธมาก และส่งข้อความบอกไอรดาให้รู้ตัว“เกิดอะไร ทำไมเป็นแบบนี้จูน?”“ตั้งแต่เธอไม่อยู่ได้สามสี่วัน พี่โจสั่งให้ฉันไม่ต้องเข้าไปที่ออฟฟิศ แต่ให้ไปทำอีกบริษัทของพี่โจแทน ฉันก็ไม่คิดอะไร แล้วอีกวันพี่บิวถูกบอกเลิกจ้างหน้าตาเฉย พอฉันบอกป๊าเรื่องที่พี่โจบอกเลิกจ้างแบบไม่มีเหตุผล กลับกลายเป็นว่าป๊ารู้แล้วว่าฉันคบกับพี่บิว ทุกคนเห็นด้วยกับพี่โจกันหมด..ฉันคิดว่าจะหนีไปจากที่นี่”“บ้าเหรอจูน แล้วม๊าล่ะ? ไม่ว่ายังไงเลยเหรอ?”“หม่าม๊าเข้าใจ แต่ไม่มีแอคชั่นอะไรกับเรื่องพี่บิว ฉันรู้ว่าม๊าก็คิดแบบทุกคนนั่นแหละ คิดว่าพี่บิวจะมาหลอกคบฉัน บางที..ฉันก็อยากเป็นเธอนะ ก็แค่หนีไป ไม่มีใครให้ต้องแคร์”“ฉันจะกลับไปไม่กี่วันนี้ แต่อย่าพึ่งบอกใครนะ ขอไปดูอะไรให้แน่ใจเสียก่อน รอฉันก่อนจูน อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม”เธอนั่งบนตักของแมทธิวเพื่อคุยโทรศัพท์กับจูนอยู่พักหนึ่ง สีหน้าและน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความวิตกกังวล ทำให้เขารับรู้ได้“มีอะไรหรื
ไอรดานอนตะแคงหันหลังให้แล้วร้องไห้เงียบๆ แมทธิวมีน้ำตาที่ไหลออกมา เขากำมือแน่น โกรธ เสียใจและแค้นที่ผู้ชายคนนั้นทำร้ายคนรักของเขา แมทธิวคว้าโทรศัพท์ออกไปนอกห้อง แล้วโทรหาภรรยาเก่าซึ่งที่ไทยคือ สี่ทุ่มครึ่ง“เขาใช้คุณให้มาบอกผม แล้วพูดอะไรอีก?”“นี่เขาก็โทรมาหลายรอบแล้ว มาถามแต่ว่าคุณติดต่อกลับมามั้ย เขาอยากรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน เพราะเขาติดต่อภรรยาของเขาไม่ได้ ฉันบอกว่าไม่รู้เพราะบอกคุณแล้วแต่คุณไม่ตอบกลับมา”“ภรรยาบ้าบออะไรกัน แค่นี้นะ”“พี่แมท..สุดท้ายพี่ก็เป็นชู้ภรรยาคนอื่น เหมือนที่เคยว่าหนูว่ามีชู้นั่นแหละ บาปกรรมตามทันไวดีนะ”“คุณรู้แก่ใจดี..กานต์วิภา หลักฐานเกี่ยวกับตัวคุณมีชัดเจนว่าเล่นชู้ลับหลังผม ที่ไม่ฟ้องหย่าก็เพราะสงสารลูก แต่สำหรับไอรดา ผมเป็นผู้ชายคนแรกที่เธอมีอะไรด้วย เพราะฉะนั้นคนที่อยากเป็นมือที่สามก็คือเขา ไม่ใช่ผม ก็บอกให้เขาระวังตัวให้ดีแล้วกัน จงรู้เอาไว้..พวกคุณนั่นแหละที่เหมาะสมกันดี ไม่แปลกที่คุณจะนอนกับคนแบบนั้นเพื่อผลประโยชน์แล้วยังขูดรีดผมตลอดเพื่อไม่ให้มีชีวิตใหม่”แมทธิวที่ไม่เคยต่อว่าเธอมาก่อน โกรธก็แค่เงียบ แม้แต่ตอนที่จับได้ว่าคุยกับคนอื่นจนถึงวันหย่าก็ไ
คำถามที่ไม่มีคำตอบให้นั้น ทำให้เจตสุวีย์รู้ว่าเขาได้เปรียบเธอ แต่เขาห่วงที่เธอไม่สบายแล้วต้องอยู่คนเดียวมากกว่า “หนูไปอยู่บ้านพี่อยู่กับจูนสักพักดีมั้ยคะ? มีแม่บ้านคอยดูแลด้วย” เธอส่ายหน้าปฏิเสธ อดทนแค่คืนนี้ พรุ่งนี้เที่ยง คนรักของเธอก็จะมาแล้ว…“หนูกินอะไรเมื่อวาน? เหมือนคนไม่มีแรงเลย พี่พาไปกินอะไรเบาๆก่อนดีกว่า”“ฉันแค่อยากพัก”เจตสุวีย์ดึงเธอเข้ามากอดอย่างง่ายดาย เขาหยุดคิดถึงร่างกายนี้ไม่ได้อีกเลยตั้งแต่ได้ครอบครองเธอในคืนนั้น “พี่ไปส่งหนูดีกว่านะคะ”“พอเถอะ หยุดทำแบบนี้ ให้ฉันมีช่องว่างหายใจบ้างได้มั้ย?”เธอผลักเขา แล้วเดินกลับไปที่ห้องทำงานเพื่อเอากระเป๋าและกุญแจรถ จูนรีบถามเพื่อนรักในทันที “อาย..เกิดอะไรขึ้น?” ไอรดามองไปที่เจตสุวีย์ที่เดินตามเข้ามา “ถามเขาสิ ว่าทำอะไรลงไป? ฉันกลับก่อนนะ ขอไปพักหน่อย”“พี่โจ ทำไมน่ะ พี่ทำอะไรอายหรือเปล่า?”“น้องอายกับพี่มีอะไรกันคืนวันเสาร์…จนถึงเช้า แล้วสัญญาว่าจะเลิกกับพ่อม่ายนั่น” ไอรดาทำหน้าเครียด ก่อนจะโต้กลับ“คุณขืนใจฉันแล้วขู่จะบอกเขา บิดเบือนแบบนี้ได้ยังไง?”จูนตกใจกับทุกอย่าง และโกรธที่พี่ชายทำแบบนี้กับเพื่อนเธอได้ลงคอ“พี่โจ