ไอรดาหันไปมองที่ภูเขาในยามโพล้เพล้ แสงสีส้มแดงดูแล้วสวยอย่างประหลาด
“คุณสูญเสียคนรัก แต่ยังโชคดีที่มีครอบครัวต่างกับฉัน..ถ้าให้แลกทุกสิ่งที่
ฉันมีตอนนี้แล้วทำให้พวกท่านกลับมาได้ ฉันยอม”
“น้องอายไม่ลองเปิดใจให้ใครที่รักจริงสักคนล่ะ จะได้มีคนช่วยคิด คอยดูแล
อยู่เคียงข้างกัน”
เธอทำเสียงขำขัน เหมือนว่ามันไร้สาระ
“ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ดีเท่าพ่อของฉัน จะมีไปทำไม ความรักน่ะ..มันน่ากลัวนะ
ทำคนพังทลายมาเยอะ ฉันพึ่งพาตัวเองได้ ร้องไห้ก็กอดตัวเองได้ ฉันอยากทำสวยก็เพราะพอใจที่เห็นตัวเองในกระจกทุกบานที่เดินผ่าน ไม่ได้ทำสวยเพื่อใคร”
แมทธิวกลับเอ็นดูเธอ ถึงแม้ว่าไอรดาจะพยายามทำท่าทางหรือคำพูดที่เย่อหยิ่งบวก
กับอีโก้ที่สูงเทียมฟ้าใส่เขาก็ตาม
“ผมเข้าใจที่น้องอายพยายามตั้งการ์ดอยู่ตลอดเวลา เหมือนนักมวยที่พร้อม
จะต่อยใครก็ตามเมื่อรู้สึกถูกคุกคาม บางครั้งเราไม่ต้องพยายามทำเหมือนเข้มแข็งตลอดเวลาก็ได้”
เธอทำหน้าไม่พอใจทันทีที่เขาพูดแบบนั้น แต่ไม่หันมามอง
“บางครั้งประสบการณ์ชีวิตก็ไม่จำเป็นต้องมาจากคนที่เกิดก่อนหรือแก่กว่า
หรอก ฉันเรียนรู้จากการมองประสบการณ์ของคนอื่นเอาก็ได้ อย่างที่คุณพยายามแนะนำฉัน ทั้งที่ตัวคุณเองก็ร้องไห้ให้กับความรักที่พังทลายอย่างไม่เป็นท่า”
คราวนี้เธอหันมายิ้มมุมปากเยาะเย้ยเขาที่บังอาจมาสอนเธอ แต่แมทธิวใจเย็นมาก
เขายิ้มตอบด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน เธอที่เห็นแบบนั้นเลยสะบัดหน้าไปมองที่อื่นแทน
“ผมแก่กว่าน้องอาย 11 ปี เป็นแค่ผู้ชายทำงานกินเงินเดือนคนหนึ่ง ผมคงใช้
เวลาทั้งชีวิตหรือถึงจะทำงานจนตายก็อาจจะไม่มีโอกาสที่จะมีทุกอย่างแบบที่น้อง
อายมี แต่ผมมีความหวังดีและบริสุทธิ์ใจให้ แม้จะเคยโดนหักหลังมา ก็ยังเลือกเชื่อ
ว่าสักวันคงมีคนเห็นและรับรู้ได้ ที่ผ่านมาก็ถือว่าผมโชคไม่ดีเอง”
ไอรดาถอนหายใจดังเฮือก เริ่มต้นพูดเรื่องของตัวเธอเองบ้าง
“คนที่ฉันเลิกไปปีก่อน ที่เจอในผับน่ะนะ รู้มั้ย ฉันบอกเลิกเขาเพราะมาขอ
ยืมรถจริงๆฉันอยากเลิกตั้งแต่สามเดือนแรกแล้ว เขาอยากมาหาที่คอนโด พอได้
มาครั้งนึง ก็มาพูดอ้อนอยากอยู่ด้วย ทำเป็นตัวจะติดกัน เพราะอะไร? ก็ห้องเขา
เล็กกว่าฉันครึ่งนึง แถมกะจะอยู่ฟรีถ้าฉันยอมน่ะสิ แล้วที่แย่คือ เขาพยายามจะ
บังคับให้ฉันมีอะไรด้วย เป็นอะไรที่ไม่ประทับใจที่สุด”
“อ้อ..เขาทำให้น้องอายอึดอัดสินะ”
“ใช่ วันนึงเขามาหาฉัน พยายามแตะต้องตัวฉันเพื่อจะให้มีอะไรด้วย แล้ว
หลังจากนั้น ก็เริ่มยืมเงิน พอไม่ให้เพราะเขาไม่เคยคืน ก็เริ่มหาเรื่องแดกดัน เปรียบเทียบว่าแฟนเพื่อนเขาใจดี ให้ยืมรถ ฉันเลยใช้สิ่งที่เขาพูดนี่แหละ ขอเลิก
สรุปคบได้แค่ 3 เดือนครึ่ง ปวดหัว..ไม่เอาแล้วพวกที่เจอในผับ เสแสร้ง ดีได้แค่ 3
เดือน ธาตุแท้ก็ออก”
“ฉันคิดว่า ถ้าจะมีสามี ขอเป็นคนต่างชาติไปเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องมายุ่งเรื่องเงินทองของฉัน”
แมทธิวรู้ว่าเธอมีทุกอย่างจนผู้ชายคนไหนก็คงไม่มีอะไรจะสามารถนำเสนอให้ได้ ยกเว้นวิธีปฏิบัติต่อเธออย่างดีเท่านั้น
“เสียดายที่ผมคงไม่อยู่สายตา แต่ถ้าอยู่ในฐานะพี่ชายที่หวังดี คงได้ใช่ไหม?”
“เข้าบ้านเถอะ ยุงเริ่มกัดแล้ว”
เธอไม่ตอบแต่ชวนเขาและรีบลุกขึ้นเดินเข้าบ้านไป
ในใจของเธออยู่ๆก็ร้อนรุ่ม ผู้ชายคนนี้ไม่ได้วัยเดียวกับเธอ หน้าตาก็ธรรมดา ไม่ได้
มีอะไรพิเศษ แต่เขาทำให้เธอนึกถึงพ่อที่จากไปขึ้นมา
เธอเดินเร็วเข้าบ้าน จนแมทธิวตามไปคว้ามือไว้ได้
“น้องอายโกรธผมหรือเปล่า? ถ้าผมพูดอะไรผิดไป ขอโทษด้วยนะ”
มือเขาที่จับมือเธอ เหมือนมีประกายไฟช็อต ไอรดาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน
“คุณหวังอะไร? มาจีบฉันเพราะหวังใช้ให้ดามใจคุณเหรอ ฉันจะไม่คั่นเวลาให้ใครหรอกนะ”
“ผมในตอนนี้เข้มแข็งพอ ไม่ต้องเล่นกับความรู้สึกของใครเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นหรอก ไอรดา ไปนอนพักให้ใจเย็น พรุ่งนี้เช้าเจอกัน ผมจะรอนะ”
แมทธิวปล่อยมือแล้วเดินผ่านเธอไปที่ห้องของเขาแล้วปิดประตู…
เขาไปอาบน้ำ ยืนอยู่ใต้ฝักบัว หอบหายใจแรงๆ นึกถึงตอนที่จับมือเธอ แม้แค่เพียงครู่เดียว กลับเหมือนกระแสไฟที่สปาร์คกัน เธอมีเสน่ห์ที่ร้อนแรงข้างในลึกๆที่ทำให้รู้สึกได้ เขายืนตัวเกร็งปล่อยให้น้ำไหลผ่านร่างกายของเขา จนกระทั่งทุกสิ่งทุกอย่างในใจสงบลง
“อาย อยู่เชียงใหม่เหรอ อยากไปด้วยจัง ไม่บอกอ่ะ”
จูนกระเง้ากระงอดใส่ไอรดานิดหน่อย น้ำเสียงไม่ได้จริงจังอะไร
“แกทำงานนิ ใครจะกล้าชวนให้เพื่อนลางานโดยไม่จำเป็นล่ะ”
“จะกลับวันไหน?”
“จันทร์หน้า”
ไอรดารู้ว่าแมทธิวซื้อตั๋วให้กลับกรุงเทพพร้อมกับเขา แต่ว่าเธอจะยังไม่กลับ เขาต้องกลับคนเดียว
วางสายจากจูน ไม่ทันไรก็มีข้อความจากแมทธิวเข้ามา “หลับหรือยัง?”
เธอไม่ตอบแต่โทรหาเขาแทน “ฉันจะบอกว่า เช้าวันพุธจะไปส่งคุณที่สนามบินนะ
คงไม่ได้ไปกรุงเทพด้วย ฉันจะคืนค่าตั๋วเป็นเงินสดให้หรือคุณมีเลขบัญชีในไทยส่งมา
ให้ฉันก็ได้”
แมทธิวกดวางสายและมาเคาะประตูห้องนอนเธอ ทำเอาไอรดาสะดุ้ง จึงไปยืนคุยที่ประตูแต่ไม่เปิดให้
“คุณไม่พอใจอะไรผมหรือเปล่า ขอโทษได้มั้ย?”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ง้อและยอมเธอ ผ่านประตูห้องนอน
“เลิกพูดคำว่าขอโทษทั้งที่ไม่ได้ทำผิดเถอะ มันดูเป็นคนดีจนเกินเหตุ”
ไอรดาหยุดพูดไปนิดนึง แล้วเริ่มพูดต่อ…
“ฉันจะอยู่ที่นี่อาทิตย์นึง กลับจันทร์หน้า ไหนๆก็มาแล้ว..แค่นั้นเอง มาทั้งที
มาแค่สามวัน ปกติฉันกลับบ้าน ไม่เคยต่ำกว่า 7 วัน ส่งเลขบัญชีมานะ ถ้าไม่งั้นจะ
เอาเงินสดให้แทน”
เงียบ…เธอยืนทำหน้าสงสัยว่าเขายังอยู่ที่หน้าห้องหรือไม่?
ช่างเถอะ…เขาคงโกรธที่ว่าแรงๆไปก่อนหน้านั้น...
แต่แมทธิวได้ยินที่พูดทั้งหมด เขาเลือกที่จะเงียบและลงไปข้างล่าง
ไอรดาเปิดคอมพิวเตอร์ในห้อง เพื่อนั่งแปลนิยายเรื่องหนึ่งร่วมชั่วโมง จนเริ่มจะ
หิวน้ำขึ้นมาเธอออกจากห้อง เปิดไฟที่บันไดและตรงไปห้องครัว โดยไม่ได้สังเกต
เห็นแมทธิวนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นที่มืดสลัว เขาลุกตามไป เห็นเธอกำลังเอื้อมเปิดตู้
แขวนที่อยู่สูงเพื่อจะเอาขวดโหลคุ้กกี้ เพราะความหวังดีจึงเข้าไปด้านหลังเธอจะ
ช่วยหยิบให้ ไอรดาตกใจมากหันหลังแล้วผลักอกเขาอย่างแรง มือกุมชุดคลุมสั้น
ที่เบาบางให้ปิดหน้าอกเอาไว้ ตาเธอเบิกกว้างและหายใจแรงจนตัวโยน
“ทำไมมาเงียบๆแบบนี้ บ้าไปแล้ว ฉันเอามีดแทงคุณได้นะ”
เธอตำหนิด้วยเสียงที่แข็งกร้าว
“คุณเกรี้ยวกราดแบบนี้เสมอ จนเป็นนิสัยไปแล้วเหรอ?”
“คุณทำฉันตกใจ คนผิดคือคุณ จะมาโทษฉันว่าเกรี้ยวกราดได้ยังไง?”
“กลับกันถ้าผมเป็นผู้ชายผมทองตาสีฟ้า คุณคงไม่พูดหรือทำพฤติกรรมแบบนี้ ชีวิตคุณคงมีแต่คนสนใจ เป็นลูกคนเดียวที่เกิดบนมรดกมากมาย คิดว่าจะเลือกอะไร
ก็ได้ เลยเล่นกับความรู้สึกคนอื่นเหมือนว่ามันไม่มีค่า…ทีแรกผมคิดว่าคุณไม่สนใจผม
แต่สุดท้ายก็ชวนไปดื่ม แล้วชวนมาเที่ยวที่นี่ ผมเหมือนหมาโง่ตัวหนึ่งให้คุณจูงไปไหน
ก็ได้”
เขาพูดกับเธอดีๆ ด้วยสีหน้าหม่นหมอง
“ฉันไม่เคยตบหัวลูบหลังใคร ที่ชวนน่ะเพราะเห็นคุณไม่ยอมแพ้ที่พยายามอยาก
จะเจอ อยากจะคุยด้วย ถึงคุณไม่บอกว่าฉันแย่ยังไง ก็รู้ตัวอยู่แล้วว่าฉันสมควรอยู่คน
เดียว อยากตัดสินฉันก็เชิญ ไม่แคร์หรอก”
สีหน้าของไอรดาที่พูดประชดตัวเอง ทำให้แมทธิวรู้เกี่ยวกับตัวเธอขึ้นอีกนิด
“ผมไม่ได้ไม่พอใจอะไร แค่เป็นห่วง ไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับใคร ยิ่งรู้ว่า
ไม่มีใครคอยดูแล แล้วก็ไม่มีพ่อแม่แล้วด้วย”
เมื่อไอรดาเหลือบมองเขา ทำให้เธอคิดถึงพ่อแม่ขึ้นมา
“ขึ้นไปนอนเถอะ ขอโทษด้วยที่ฉันทำตัวมีปัญหา”
แมทธิวเดินเข้ามาหาใกล้ๆ ระดับสายตาเธออยู่แค่คางเขา ไม่มีคำพูดอะไรนอก
จากความเงียบ…
เขาเริ่มเอาแขนสองข้าง ค่อยๆสวมกอดเธออย่างทะนุถนอม พลันได้กลิ่นจากเส้น
ผมที่หอมละมุนจางๆ
“ปกติคุณชอบทำแบบนี้กับผู้หญิงที่อ่อนกว่าที่เจอตามผับบ่อยสินะ?”
ไอรดาผลักเขาให้ออกห่าง ก่อนจะเดินกึ่งวิ่งขึ้นบันได้ไปที่ห้องของเธอ
การชวนให้ผู้ชายที่รู้จักไม่กี่วันมาค้างที่บ้านพ่อแม่ อาจไม่ใช่ความคิดที่ดี แค่นี้ยัง
ถือโอกาสกอด พ่อม่ายมือไว…..
เสียงปิดประตูห้องของเธอดังมาไกลๆ แมทธิวกลับไปนั่งที่โซฟาห้องนั่งเล่นโดยไม่
เปิดไฟตามเดิม
สายแล้วไอรดายังไม่ลงมา แมทธิวจึงไปเคาะประตูห้องเธอเพราะสิบโมงเข้าไปแล้ว
“ฉันแต่งตัวแป๊บนึง” เสียงเธอที่ตะโกนบอกเขาจากในห้อง
ไม่นานนักไอรดาก็มาหาที่ห้องนั่งเล่น พร้อมกับเสนอพาเขาไปที่วัดพระธาตุดอยคำ
ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนักประมาณ 9 กม. พอถึงที่วัดก็ให้เขาไปไหว้หลวงพ่อทันใจ
ทั้งคู่เข้าไปไม่นานนัก ไอรดาพาแมทธิวไปกินข้าวที่ร้าน หอมดอกกาแฟ ที่มีอาหาร
เหนือและน้ำผลไม้เมืองร้อนที่แสนสดชื่น
“อร่อยมาก ผมชอบ”
“มีสั่งให้ส่งที่บ้านได้ด้วย ฉันมีไลน์ของร้านเค้า ถ้ามาเชียงใหม่ มักสั่งมากินที่บ้านประจำ”
“น้องอายบอกว่า ถ้าขอจากวัดเมื่อกี้จะได้สิ่งที่ขอแบบรวดเร็วใช่ไหม?”
ไอรดาเงยหน้าจากที่กินอยู่ มองเขาแล้วยิ้มมุมปากนิดๆ
“ไม่รู้สิ ฉันไม่ค่อยมาวัด คุณเชื่อมั้ยล่ะ?”
“เพราะน้องอายมีทุกอย่างแล้ว เลยไม่ต้องขออะไรอีก แต่ผมขอไปแล้ว”
เธอได้ยินแบบนั้น ก็แค่พยักหน้าแล้วกินต่อไป อยู่ๆก็มีสายเข้าที่โทรศัพท์ของ
แมทธิว เขาขอตัวออกไปคุยข้างนอกโดยที่ยังกินไม่เสร็จ
คุยนานเกือบสิบห้านาที จนไอรดามองออกไปข้างนอกเพราะเธอคิดว่ามันนานเกินไป พอเขามองเข้ามาสบตากับเธอ สักพักก็วางสายแล้วเดินกลับเข้ามา แต่
ดูท่าทางเขาจะอิ่มเพราะกินขาดตอนไปแล้ว
“เดี๋ยวผมไปจ่ายนะ น้องอายไม่ต้องแย่งจ่ายแล้ว”
เธอนั่งกอดอกไม่พูดอะไร ในใจเธอเคืองที่เขาไปคุยโทรศัพท์นาน แล้วทิ้งเธอไว้
จนกินเสร็จ
“คุณอยากไปที่แบบไหนอีกมั้ย? บอกได้นะ จะพาไป”
ไอรดาถามขณะที่ทั้งคู่นั่งในรถ แต่ยังไม่รู้จะไปที่ไหนต่อ
“ที่นี่ดีกว่า ไปสวนพฤกษศาสตร์ ดูสวยดี”
แมทธิวเปิดดูในอินเตอร์เน็ตแล้วเสนอเธอขึ้นมา
ดูต้นไม้เนี่ยนะ?…คาเฟ่สวยๆมีเยอะแยะไม่เลือกจะไป…
“โอเค จาก g****e map ประมาณ 50 นาที ท่าทางคุณไม่กลัวแดดประ
เทศไทยเลยสิท่า เขยไทยนี่เนอะ”
เขาเริ่มคิดขึ้นมาได้ ว่าเธอมีผิวที่ขาวสวย คงไม่อยากโดนแดดจนผิวไหม้แน่ๆ
“งั้นไม่ไปดีกว่า ขับรถไกล น้องอายคงเหนื่อย แล้วแดดแรงผิวจะเสียหมด กลับกันเลยก็ได้”
เธอไม่ตอบแต่ขับออกไป จนเขาแน่ใจว่าไม่ใช่ทางกลับบ้านเพราะไกลและเริ่มออก
นอกเมืองไปเรื่อยๆ แมทธิวเลือกที่จะเงียบ ในขณะที่เธอขับรถ มีเพื่อนโทรเข้ามา
คุยกับเธอจนเกือบถึงที่หมาย
เมื่อชำระค่าเข้าแล้ว ทั้งสองถึงเห็นว่า เป็นสถานที่กว้างขวางและกินเนื้อที่จนเดินได้
ไม่ทั่ว ต้องขับรถจอดแวะตามจุดต่างๆ ทำเอาไอรดาทึ่งไปเลย ถึงกับต้องถ่ายรูปไว้ตลอดทุกจุด ทำให้แมทธิวอมยิ้มกับความเดียงสาเวลาที่เธอเผลอลืมตัว แต่เพราะอากาศในยามบ่ายที่อบอ้าว ทำให้เขาหน้าแดงมากและต้องทรุดตัวนั่งพัก
“คุณเป็นอะไร? จะเป็นลมเหรอ? ฉันไปซื้อน้ำให้ รอที่นี่อย่าไปไหนนะ”
ไอรดากำลังจะผละไป แต่เขาจับมือเธอไว้ “ไม่เป็นไร นั่งสักครู่คงดีขึ้น”
“กลับกันเถอะ ไปที่รถไหวมั้ย? เปิดแอร์เย็นๆน่าจะดีกว่า”
“ผมไม่ได้ออกกำลังกายมาหลายเดือน รู้สึกได้เลยว่าอ่อนแอง่าย ทำงานทั้งวัน ตอนกลางคืนก็ทำ นอนดึก ไม่ดูแลตัวเอง”
อ่อ…เสียใจที่เลิกกับภรรยาเก่าสินะ…..
“ต้องรักตัวเองก่อนเสมอ แล้วค่อยรักคนอื่น”
แมทธิวมองเธอแล้วยิ้ม พยักหน้าเห็นด้วย “ผมจะไม่กลับวันพุธ”
ทีนี้ ไอรดาหันไปมองเขาอย่างเร็ว ทำตาโต
“ทำไมล่ะ? คุณต้องกลับอเมริกานี่ ตกเครื่องเลยนะแบบนี้”
“ผมสามารถกลับกรุงเทพในวันจันทร์พร้อมน้องอายได้มั้ย?”
เธอทำหน้าแหยๆ เลิกคิ้วข้างหนึ่ง “รวยมากเหรอ เอาเงินค่าตั๋วทิ้งทีสองใบ ทั้งขา
ไปกรุงเทพกับไปอเมริกา ไม่ต้องมาอยากอยู่กับฉันหรอก ฉันอยู่คนเดียวมาตั้งเท่า
ไหร่แล้ว”
แมทธิวนั่งก้มหน้ามองไปทางอื่น ทำเอาเธอรู้สึกว่าพูดแรงไปกับเขา ซึ่งก็ไม่เข้าใจตัว
เองเหมือนกันว่าปกติเธอไม่ใช่คนแบบนี้
“เราพึ่งรู้จักกัน แล้วบอกตรงๆ คุณพึ่งเสียใจกับการหย่าร้างมา อยู่ใกล้ใคร ปิ๊ง
ใครง่ายๆก็จะอยู่กับเขาแล้ว ใจง่ายเกินไปนะ เกิดฉันเป็นคนไม่ดีล่ะ ไม่กลัวจะหลอก
คุณเหมือนภรรยาเก่าหรือไง?”
ไอรดาพูดจบ เขาไม่หันมา แต่ก็เริ่มพูดบ้าง
“เพื่อนชวนผมให้มาเที่ยวที่ไทย ผมเสนอให้ไปที่บาร์นั่น ที่ๆผมเจอกับภรรยาเก่าครั้งแรก ไม่ได้คิดว่าไปเพื่อจะไปหาผู้หญิงคนใหม่อะไรทั้งนั้น ไปเพื่อให้รู้ว่า ผมเข้มแข็งพอที่จะไปที่เก่าๆที่เคยไปกับเธอโดยไม่ต้องรู้สึกอะไร จริงอยู่ มีผู้หญิงสวยมากมายที่นั่น จนกระทั่งคุณเดินเข้ามา ผมละสายตาไม่ได้เลย”
“คุณแค่อยู่ในช่วงสับสนน่ะ” ไอรดาแย้ง
“ผมรู้ว่าพึ่งหย่าได้ 6 เดือน รู้จักคุณแค่ 2-3 วัน แต่มาถึงตอนนี้ ผมโชคดีมากที่
ได้รู้จักคุณ ไม่ใช่เพราะรวย แต่เพราะคุณยังโสดแล้วไม่มีใครดูแล ตอนแรกผมคิดว่า
มีใครอุปถัมภ์คุณเสียอีก”
ไอรดาหัวเราะเบาๆ “ถ้าฉันไม่รวย คุณจะสนใจเหรอ? คุณยอมรับได้นะ ฉันไม่โกรธ เพราะใครๆก็ชอบที่จะสบาย”
แมทธิวถอนหายใจ เขาเริ่มพูดจริงจัง
“ผมสนใจที่ตัวคุณก่อน แล้วก็ประมาณตัวเองที่พอใจแค่ได้อยู่ใกล้ๆ ได้คุยด้วยบ้าง คุณอายุยังน้อย เห็นชีวิตคุณแล้ว ผมรู้ว่าเทียบไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็มีมิตรภาพที่ดีให้กันได้ ใช่มั้ย?”
เธอพยักหน้าและชวนเขาเดินไปที่รถ แมทธิวหลับมาตลอดทางโดยที่หน้าเขายังแดง
อยู่จนถึงบ้าน
“ฉันจะสั่งมื้อเย็นมากินนะ ไม่ออกไปไหนแล้ว เหนื่อย”
แมทธิวพยักหน้าไม่พูดอะไรแล้วเดินขึ้นไปชั้นสอง เธอเลยเข้าห้องไปอาบน้ำบ้าง จน
ไรเดอร์ส่งอาหารมาถึง ไอรดาออกไปรับมาแล้วไปเคาะห้องเรียกเขา แต่เมื่อเปิดประ
ตูมา หน้าตาเขาดูไม่ค่อยดีนัก
“ผมขอยาแก้ไข้ได้มั้ย น่าจะไม่ค่อยสบาย”
“คุณรอที่ห้องแล้วกัน”
เธอไปจัดอาหาร,น้ำรวมถึงยาแก้ไข้ แล้วยกไปให้เขาที่ห้อง ที่นั่งเอนหลังอยู่บนเตียง
“ขอบคุณมากนะ ไม่น่าเป็นภาระให้น้องอายเลย”
“ไม่เป็นไร แล้วก็ไม่ต้องเรียกว่าน้องอีกแล้ว เรียกอายหรือไอรดาเฉยๆดีกว่า
คิดไปคิดมามันเรียกง่ายดี”
เธอเอื้อมมือมาแตะหน้าผากกับแก้มของเขา
“ตัวร้อนนะ เพราะตากแดดวันนี้แน่ๆ”
มองหน้าเขานิดหนึ่ง “พูดตามตรง ฉันว่า คุณควรกลับตามกำหนดเดิมจะดีกว่า ไม่ใช่ว่ารังเกียจหรืออะไร มันเปลืองเงินโดยใช่เหตุ ฉันอยู่คนเดียวจนชินแล้วและยังไม่เปิดใจให้ใคร เป็นเพื่อน พี่ พอได้อยู่”
แมทธิวพยักหน้า “ผมเข้าใจแล้ว”
“วันนี้ที่ผมคุยโทรศัพท์นาน เพราะภรรยาเก่าโทรมา ลูกสาวเธออยากคุยกับผม เพราะผมบอกเธอว่า มาเมืองไทย”
เขาเว้นช่วง ก่อนจะทำท่าลำบากใจ ในขณะที่ไอรดานั่งลงบนเตียงใกล้เขาและฟังอย่างสนใจ
“ตอนแต่งงานกัน ผมเซ็นรับลูกสาวเธอเป็นลูก พอหย่ากัน ผมตัดเด็กไม่ลงเพราะเด็กไม่รู้อะไรด้วย เธออยากให้ช่วยค่าเลี้ยงดูสักครึ่งหนึ่งและผมรับปากไปตอนหย่า”
“แล้วคุณไหวมั้ยล่ะ? ต้องดูแลไปถึงตอนไหน?”
“ที่ตกลงกันคือ จนจบมหาวิทยาลัย”
ไอรดาทำเสียงหัวเราะในคอเบาๆ แล้วส่ายหน้า ก่อนจะถามต่อ
“แล้วพ่อแท้ๆของเด็กล่ะ ไม่รับอะไรเลยรึไง?”
“เธอพลาดมีลูกตอน 17 ผู้ชายก็วัยเดียวกัน เลิกกันตั้งแต่เด็กแค่ 2 ขวบ
ผู้ชายยังเรียนอยู่ นี่พึ่งจะได้ทำงานเป็นพนักงานเล็กๆ เงินไม่พอใช้ ผมแต่งงานกับเธอ ตอนเธออายุ 23 ผมรักเธอมากจริงๆ ทำดีที่สุดที่ผมจะทำได้ แต่มันคงดีไม่พอ”
เขาเว้นช่วงไปนิดนึง ก่อนจะเล่าต่อ
“ความที่เราอยู่ไกลกัน หลายเดือนจะบินมาที พอจดทะเบียนก็ย้ายไปที่อเมริกา ผมให้เธออยู่บ้าน ลูกเธอไปเข้าโรงเรียนที่นั่น ผมรับผิดชอบทุกอย่าง ค่าเช่าบ้านค่าใช้จ่าย ค่าเทอม จิปาถะ เธอคงมีเวลาว่างมาก เลยเบื่อและเหงา จนจับได้ว่าแอบคุยกับผู้ชายคนอื่นในแอพอะไรสักอย่าง เธอขอโทษแล้วบอกจะเลิกคุย แค่คุย..ไม่มีอะไรเกินเลย..เธอว่าแบบนั้น ผมให้อภัยแล้วทุกอย่างเหมือนจะกลับมาดี แต่ทีนี้ มี Account นิรนามส่งแชทที่ภรรยาเก่าส่งรูปเรือนร่างเธอให้เขา คำสนทนาที่เกินเลยไปมาก มันสุดจะทนจริงๆ”
ไอรดาคิดว่าหน้าตาเขาที่ดูเศร้านั้นช่างมีเสน่ห์
“คุณบอกว่าทำงานด้านไอที เงินเดือนคงเยอะสิ ถึงแบกรับทุกอย่างคนเดียวได้”
“ผมเป็น Developer บริษัทอยู่ที่ซานฟรานซิสโก ส่วนพ่อแม่อยู่ที่แคลิฟอร์เนีย เงินเดือนดี แต่งานใช้สมองและเวลาเหมือนกัน บางทีกลับบ้านก็ยังทำต่อ”
“ซิลิคอนแวลลีย์น่ะเหรอ?”
แมทธิวทำหน้าแปลกใจที่เธอรู้จักที่นั่น
“หือ..ทำไมคุณทำหน้าแบบนั้น? ฉันติดตามข่าวสารเหมือนกันนะ ไม่ได้เอา
แต่เที่ยวเสเพล เสียดายที่ตอนเข้ามหาวิทยาลัยไม่ทันคิดเรื่องเรียนด้านไอที ฉันสนใจเรื่องเทคโนโลยีกับพวกนวัตกรรมนะ เห็นแบบนี้ก็เถอะ”
เธอพูดจบก็ทำหน้าค้อนนิดหน่อย “กินข้าว กินยา พักผ่อนแล้วกัน”
พอทำท่าจะลุกไป แมทธิวรีบเอื้อมมาจับมือยื้อเธอไว้ จนไอรดามองที่มือและหน้าเขา
“คุณจับมือฉันหลายทีแล้วนะ”
เขาหน้าเสีย รีบหดมือเมื่อเธอดุเอา “มือฉันนิ่มล่ะสิ”
ไอรดาจ้องแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ เธอแกล้งดุเขาไปอย่างนั้นเอง
“แล้วคุณกินอะไร ไอรดา มัวมาดูแลผม”
“มื้อเย็นฉันก็เหมือนคุณนั่นแหละ สั่งเอา”
“ขอผมคุยด้วยอีกสักหน่อยได้มั้ย ซีเรียสนะ”
“โอเค อะไรที่มันซีเรียส? ถ้าปัญหาชีวิต ฉันไม่แน่ใจว่าจะให้คำแนะนำคนที่มีประสบการณ์ชีวิตมากกว่าได้มั้ยหรอกนะ”
“ผมอยากอยู่ด้วย จนกว่าจะวันจันทร์ได้มั้ย?”
เธอถอนหายใจแรง มองหน้าเขาที่ดูจริงจัง
“ไม่ล่ะ ฉันอยากอยู่คนเดียว คุณกลับตามกำหนดเดิมน่ะ ดีแล้ว”
“คุณไม่เปิดใจหรือเพราะผมไม่ใช่ผู้ชายแบบที่คุณชอบ?”
“ทั้งสองอย่าง แต่เราคุยกันได้ แล้วอย่าเข้าใจผิดว่าฉันไม่ชอบคุณ แต่เป็นเพราะฉันไม่สามารถบอกได้ว่าสเปคฉันเป็นยังไง ถ้าเห็นแล้วชอบก็คือชอบ แค่นั้นเลย”
แมทธิวและไอรดา สบตากันอยู่แบบนั้น จนเธอเริ่มอึดอัด“คุณต้องการอะไร? เอางี้ดีกว่า พูดมาตรงๆเลย”ไอรดาอยากจบการสนทนาที่เธอรู้สึกว่ามันยืดเยื้อ“ผมอยากพิสูจน์ว่าไม่ได้เข้ามาเพื่อหวังเงิน ผมมีเวลาที่ไทยไม่มากเพราะต้องกลับไปทำงาน จะขออยู่จนถึงวันจันทร์ คุณก็ไม่ให้อยู่ ผมไม่อยากยอมแพ้ ไม่งั้นคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว”“ทำไมคิดว่าจะไม่มีโอกาส?”“คุณคงมีคนเข้าหาเยอะ ถ้าผมกลับไปกว่าจะกลับมา คุณอาจไม่โสดอีกแล้ว”“กะจะไม่ให้โอกาสฉันได้เจอคนอื่นบ้างล่ะ คิดกลับกันบ้างสิ”“ผมรู้สึกได้ ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไปว่าคุณก็มีความรู้สึกให้อยู่เหมือนกันแต่ไม่ยอมรับ”บ้าจริง….ไอรดาที่หน้าตารวบตึงแต่ข้างในนั้นไขว้เขว“ผู้หญิงที่รักตัวเองมากพอ จะไม่ไล่ล่าแต่จะดึงดูดสิ่งที่มีความหมายให้มาพบเจอเธอเอง ผมรู้ว่าเป็นสิ่งนั้นให้คุณได้ ถ้าคุณให้โอกาส”ตื้อมากใช่มั้ย? ได้สิ….“ปกติฉันไม่เคยคิดอยากคบกับคนอายุมากกว่าเป็นสิบปี เพราะความคิดอาจจะไม่บาลานซ์กัน คุณเคยหย่าร้างแถมมีเรื่องเด็กด้วย ถึงไม่ใช่ลูกคุณจริงๆ แต่ในเมื่อคุณรับเป็นลูกก็เท่ากับมีภาระติดตัวมา ขอโทษที่พูดตรงๆ ถ้าเราคุยกันไปนานวันเข้าไม่นานก็คงมีปัญหาแล้วก็
“ถ้าคุณถอดเสื้อ ฉันจะเปิดกล้องให้คุณเห็นหน้า”แมทธิวกะพริบตาปริบๆ แล้วยิ้มก่อนจะก้มมองตัวเขาเอง“อยากเช็กของหรือไง? ให้ผมเห็นหน้าก่อนสิ ถึงจะถอด”“แล้วแต่นะ…งั้นฉันจะวางแล้ว”“โอเค” เขาถอดเสื้อ ทำให้เธอเห็นว่าเขามีกล้ามแขนและหน้าท้องซิกแพค ไอรดาผิวปาก พยักหน้าให้ตัวเองว่าเขาซ่อนรูปจริงแบบที่เธอคิด “ขอผมเห็นหน้าคุณได้แล้ว อาย”ไอรดาเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ที่โต๊ะที่ใช้แต่งหน้า แล้วเธอไปนอนเล่นอยู่บนเตียง ทำเอาแมทธิวบ่นอุบที่เห็นเธอไม่ได้ถนัดนัก“ฉันจะได้ทำอย่างอื่นไปด้วยเวลาคุย จะให้มานั่งเปิดกล้องอย่างเดียวจนไม่ทำอะไรได้ไง แล้วนี่มันดึกแล้วไม่ใช่เหรอที่นั่น?”เขาไม่สนใจเรื่องเวลา แค่พอใจที่ได้คุยกับเธอ “คุณใส่ชุดแบบไหนไปเดทกับหนุ่มคนนั้นกันนะ สวยกว่าตอนไปกินข้าวกับผมหรือเปล่า”เธอลงจากเตียงมายืนให้เขาดู หมุนตัวไปมา “แน่นอน ต้องสวยสิ”“น้อยกว่าไปกับผม”ไอรดาส่ายหัวแต่ก็ยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นทั้งคู่คุยกันเป็นชั่วโมง เรื่องทั่วไป เรื่องงาน งานอดิเรก ความสนใจต่างๆ จนโทรศัพท์ของเธอมีเสียงเตือนว่าแบตจะหมดแล้ว“ตายละ แบตจะหมด ฉันหิวแล้วด้วย คุณเองก็นอนเถอะ”“พรุ่งนี้ผมโทรหานะ”เธอไม่ตอบแต่พยั
เสียงแป้นพิมพ์รัวๆช่วงสายของวันเสาร์ ในห้องของคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านเอกมัย“อาย คืนนี้ว่างป่ะ? ไปแฮงค์เอ้าท์กัน Sirocco สีลมนะ”เสียงใสๆของจูน เพื่อนของเธอ สาวที่รักการปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจได้โทรมาชวน“เอ่อ…ก็ได้” ปากที่ตอบไป แต่ตาก็จ้องคอมพิวเตอร์อยู่“ขอธีมเซ็กซี่นะ วันนี้ทุกคนลงความเห็นว่าไป rooftop bar ที่เดิม คนต่างชาติเยอะด้วย”“อ่าหะ โอเค”อายหรือไอรดา สาววัย 25 เรียนจบมาสองปีแล้วและไม่มีงานประจำ เธออาศัยการทำงานถ่ายแบบอิสระเล็กๆน้อยๆ เวลาว่างก็ไปเข้าคอร์สเรียนเต้นเพื่อให้ตัวเองได้ไปเจอสังคมบ้างสงสัยใช่มั้ย? ว่าทำไมมีคอนโดหรูราคา 7 ล้าน? ก็เพราะมรดกยังไงล่ะ แต่ก็นั่นแหละ…มันแลกมาด้วยการสูญเสียพ่อแม่ไป เธอเป็นลูกคนเดียวถึงได้ทุกอย่างมา จึงเรียกได้ว่า ทุกขลาภ แล้วเรื่องเงินเรื่องทอง เมื่อไม่เข้าใครออกใคร ทำให้ต้องทะเลาะและผิดใจกับญาติพี่น้อง ทุกคนล้วนอยากมารุมทึ้งทรัพย์สมบัติของพ่อแม่เธอกันทั้งนั้น หลังจากพวกท่านเสียไปไอรดาเลือกที่จะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง เริ่มต้นเส้นทางชีวิตด้วยตัวคนเดียวโดยไร้ญาติขาดมิตรตั้งแต่นั้น….พอตะวันตกดิน ไอรดาเริ่มแต่งตัวแต่งหน้าทำผม และกินอะไรรอง
แสงแดดลอดผ้าม่านเข้ามาเล็กน้อย ไอรดางัวเงียควานหาโทรศัพท์มาดู..เกือบสิบโมงแล้ว เธอกดรีโมทให้ผ้าม่านเปิดออก เห็นวิวกรุงเทพสวยๆจากชั้นที่ 27 แมทธิว DM มาหาเธอ ว่าเขาสามารถมารับเธอได้ ไอรดาเห็นแบบนั้น..ก็ยิ้มขำ“ท่าทางดูหิว ฉันไม่ใช่ของกินเล่นร้านสะดวกซื้อหรอกนะ”ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไปว่า เธอจะไปหาเองตามเวลา เพราะร้านที่นัดกันอยู่ใกล้คอนโดแค่ 800 เมตร 11.57 แมทธิวนั่งรอพร้อมดอกกุหลาบช่อใหญ่ จนกระทั่งมีผู้หญิงบุคลิกมั่นใจ ใส่แว่นตาดำ มวยผมแสกกลางหลวมๆ เสื้อเชิ้ตขาวตัวใหญ่เปิดไหล่โชว์ผิวเนียนสวย กางเกงยีนส์ขาสั้น สะพาย neverfull MM เดินเข้ามาในร้าน เธอถอดแว่นตามองหา ก็เจอเขานั่งโต๊ะริมหน้าต่าง พอเดินไปใกล้ เขายิ้มให้จนตาหยี และลุกขึ้นเอาดอกไม้ให้“สวัสดี ผมดีใจและขอบคุณที่ยอมมาพบ” ไอรดายิ้มให้แบบไม่เห็นฟันพร้อมกับกล่าวขอบคุณ ก่อนจะนั่งดูเมนูเพื่อเริ่มสั่งอาหารแมทธิวคิดว่าเธอคงไม่ค่อยไว้ใจเขา แต่ก็ยังยอมมากินมื้อเที่ยงด้วย “เมื่อคืน ผมคิดว่าคุณจะปฏิเสธแล้ว”เธอละสายตาจากเมนู เหลือบตามองเขา สั่งอาหารแล้วเริ่มต้นพูดคุย“จริงๆอยากปฏิเสธนะ แต่เห็นว่ากล้าพูดชวนตรงๆ อีกอย่างใกล้ที่พักด้วย”ไ
“ถ้าคุณถอดเสื้อ ฉันจะเปิดกล้องให้คุณเห็นหน้า”แมทธิวกะพริบตาปริบๆ แล้วยิ้มก่อนจะก้มมองตัวเขาเอง“อยากเช็กของหรือไง? ให้ผมเห็นหน้าก่อนสิ ถึงจะถอด”“แล้วแต่นะ…งั้นฉันจะวางแล้ว”“โอเค” เขาถอดเสื้อ ทำให้เธอเห็นว่าเขามีกล้ามแขนและหน้าท้องซิกแพค ไอรดาผิวปาก พยักหน้าให้ตัวเองว่าเขาซ่อนรูปจริงแบบที่เธอคิด “ขอผมเห็นหน้าคุณได้แล้ว อาย”ไอรดาเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ที่โต๊ะที่ใช้แต่งหน้า แล้วเธอไปนอนเล่นอยู่บนเตียง ทำเอาแมทธิวบ่นอุบที่เห็นเธอไม่ได้ถนัดนัก“ฉันจะได้ทำอย่างอื่นไปด้วยเวลาคุย จะให้มานั่งเปิดกล้องอย่างเดียวจนไม่ทำอะไรได้ไง แล้วนี่มันดึกแล้วไม่ใช่เหรอที่นั่น?”เขาไม่สนใจเรื่องเวลา แค่พอใจที่ได้คุยกับเธอ “คุณใส่ชุดแบบไหนไปเดทกับหนุ่มคนนั้นกันนะ สวยกว่าตอนไปกินข้าวกับผมหรือเปล่า”เธอลงจากเตียงมายืนให้เขาดู หมุนตัวไปมา “แน่นอน ต้องสวยสิ”“น้อยกว่าไปกับผม”ไอรดาส่ายหัวแต่ก็ยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นทั้งคู่คุยกันเป็นชั่วโมง เรื่องทั่วไป เรื่องงาน งานอดิเรก ความสนใจต่างๆ จนโทรศัพท์ของเธอมีเสียงเตือนว่าแบตจะหมดแล้ว“ตายละ แบตจะหมด ฉันหิวแล้วด้วย คุณเองก็นอนเถอะ”“พรุ่งนี้ผมโทรหานะ”เธอไม่ตอบแต่พยั
แมทธิวและไอรดา สบตากันอยู่แบบนั้น จนเธอเริ่มอึดอัด“คุณต้องการอะไร? เอางี้ดีกว่า พูดมาตรงๆเลย”ไอรดาอยากจบการสนทนาที่เธอรู้สึกว่ามันยืดเยื้อ“ผมอยากพิสูจน์ว่าไม่ได้เข้ามาเพื่อหวังเงิน ผมมีเวลาที่ไทยไม่มากเพราะต้องกลับไปทำงาน จะขออยู่จนถึงวันจันทร์ คุณก็ไม่ให้อยู่ ผมไม่อยากยอมแพ้ ไม่งั้นคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว”“ทำไมคิดว่าจะไม่มีโอกาส?”“คุณคงมีคนเข้าหาเยอะ ถ้าผมกลับไปกว่าจะกลับมา คุณอาจไม่โสดอีกแล้ว”“กะจะไม่ให้โอกาสฉันได้เจอคนอื่นบ้างล่ะ คิดกลับกันบ้างสิ”“ผมรู้สึกได้ ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไปว่าคุณก็มีความรู้สึกให้อยู่เหมือนกันแต่ไม่ยอมรับ”บ้าจริง….ไอรดาที่หน้าตารวบตึงแต่ข้างในนั้นไขว้เขว“ผู้หญิงที่รักตัวเองมากพอ จะไม่ไล่ล่าแต่จะดึงดูดสิ่งที่มีความหมายให้มาพบเจอเธอเอง ผมรู้ว่าเป็นสิ่งนั้นให้คุณได้ ถ้าคุณให้โอกาส”ตื้อมากใช่มั้ย? ได้สิ….“ปกติฉันไม่เคยคิดอยากคบกับคนอายุมากกว่าเป็นสิบปี เพราะความคิดอาจจะไม่บาลานซ์กัน คุณเคยหย่าร้างแถมมีเรื่องเด็กด้วย ถึงไม่ใช่ลูกคุณจริงๆ แต่ในเมื่อคุณรับเป็นลูกก็เท่ากับมีภาระติดตัวมา ขอโทษที่พูดตรงๆ ถ้าเราคุยกันไปนานวันเข้าไม่นานก็คงมีปัญหาแล้วก็
ไอรดาหันไปมองที่ภูเขาในยามโพล้เพล้ แสงสีส้มแดงดูแล้วสวยอย่างประหลาด“คุณสูญเสียคนรัก แต่ยังโชคดีที่มีครอบครัวต่างกับฉัน..ถ้าให้แลกทุกสิ่งที่ฉันมีตอนนี้แล้วทำให้พวกท่านกลับมาได้ ฉันยอม”“น้องอายไม่ลองเปิดใจให้ใครที่รักจริงสักคนล่ะ จะได้มีคนช่วยคิด คอยดูแลอยู่เคียงข้างกัน” เธอทำเสียงขำขัน เหมือนว่ามันไร้สาระ“ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ดีเท่าพ่อของฉัน จะมีไปทำไม ความรักน่ะ..มันน่ากลัวนะ ทำคนพังทลายมาเยอะ ฉันพึ่งพาตัวเองได้ ร้องไห้ก็กอดตัวเองได้ ฉันอยากทำสวยก็เพราะพอใจที่เห็นตัวเองในกระจกทุกบานที่เดินผ่าน ไม่ได้ทำสวยเพื่อใคร”แมทธิวกลับเอ็นดูเธอ ถึงแม้ว่าไอรดาจะพยายามทำท่าทางหรือคำพูดที่เย่อหยิ่งบวกกับอีโก้ที่สูงเทียมฟ้าใส่เขาก็ตาม “ผมเข้าใจที่น้องอายพยายามตั้งการ์ดอยู่ตลอดเวลา เหมือนนักมวยที่พร้อมจะต่อยใครก็ตามเมื่อรู้สึกถูกคุกคาม บางครั้งเราไม่ต้องพยายามทำเหมือนเข้มแข็งตลอดเวลาก็ได้”เธอทำหน้าไม่พอใจทันทีที่เขาพูดแบบนั้น แต่ไม่หันมามอง “บางครั้งประสบการณ์ชีวิตก็ไม่จำเป็นต้องมาจากคนที่เกิดก่อนหรือแก่กว่าหรอก ฉันเรียนรู้จากการมองประสบการณ์ของคนอื่นเอาก็ได้ อย่างที่คุณพยายามแนะนำฉัน ทั้ง
แสงแดดลอดผ้าม่านเข้ามาเล็กน้อย ไอรดางัวเงียควานหาโทรศัพท์มาดู..เกือบสิบโมงแล้ว เธอกดรีโมทให้ผ้าม่านเปิดออก เห็นวิวกรุงเทพสวยๆจากชั้นที่ 27 แมทธิว DM มาหาเธอ ว่าเขาสามารถมารับเธอได้ ไอรดาเห็นแบบนั้น..ก็ยิ้มขำ“ท่าทางดูหิว ฉันไม่ใช่ของกินเล่นร้านสะดวกซื้อหรอกนะ”ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไปว่า เธอจะไปหาเองตามเวลา เพราะร้านที่นัดกันอยู่ใกล้คอนโดแค่ 800 เมตร 11.57 แมทธิวนั่งรอพร้อมดอกกุหลาบช่อใหญ่ จนกระทั่งมีผู้หญิงบุคลิกมั่นใจ ใส่แว่นตาดำ มวยผมแสกกลางหลวมๆ เสื้อเชิ้ตขาวตัวใหญ่เปิดไหล่โชว์ผิวเนียนสวย กางเกงยีนส์ขาสั้น สะพาย neverfull MM เดินเข้ามาในร้าน เธอถอดแว่นตามองหา ก็เจอเขานั่งโต๊ะริมหน้าต่าง พอเดินไปใกล้ เขายิ้มให้จนตาหยี และลุกขึ้นเอาดอกไม้ให้“สวัสดี ผมดีใจและขอบคุณที่ยอมมาพบ” ไอรดายิ้มให้แบบไม่เห็นฟันพร้อมกับกล่าวขอบคุณ ก่อนจะนั่งดูเมนูเพื่อเริ่มสั่งอาหารแมทธิวคิดว่าเธอคงไม่ค่อยไว้ใจเขา แต่ก็ยังยอมมากินมื้อเที่ยงด้วย “เมื่อคืน ผมคิดว่าคุณจะปฏิเสธแล้ว”เธอละสายตาจากเมนู เหลือบตามองเขา สั่งอาหารแล้วเริ่มต้นพูดคุย“จริงๆอยากปฏิเสธนะ แต่เห็นว่ากล้าพูดชวนตรงๆ อีกอย่างใกล้ที่พักด้วย”ไ
เสียงแป้นพิมพ์รัวๆช่วงสายของวันเสาร์ ในห้องของคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านเอกมัย“อาย คืนนี้ว่างป่ะ? ไปแฮงค์เอ้าท์กัน Sirocco สีลมนะ”เสียงใสๆของจูน เพื่อนของเธอ สาวที่รักการปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจได้โทรมาชวน“เอ่อ…ก็ได้” ปากที่ตอบไป แต่ตาก็จ้องคอมพิวเตอร์อยู่“ขอธีมเซ็กซี่นะ วันนี้ทุกคนลงความเห็นว่าไป rooftop bar ที่เดิม คนต่างชาติเยอะด้วย”“อ่าหะ โอเค”อายหรือไอรดา สาววัย 25 เรียนจบมาสองปีแล้วและไม่มีงานประจำ เธออาศัยการทำงานถ่ายแบบอิสระเล็กๆน้อยๆ เวลาว่างก็ไปเข้าคอร์สเรียนเต้นเพื่อให้ตัวเองได้ไปเจอสังคมบ้างสงสัยใช่มั้ย? ว่าทำไมมีคอนโดหรูราคา 7 ล้าน? ก็เพราะมรดกยังไงล่ะ แต่ก็นั่นแหละ…มันแลกมาด้วยการสูญเสียพ่อแม่ไป เธอเป็นลูกคนเดียวถึงได้ทุกอย่างมา จึงเรียกได้ว่า ทุกขลาภ แล้วเรื่องเงินเรื่องทอง เมื่อไม่เข้าใครออกใคร ทำให้ต้องทะเลาะและผิดใจกับญาติพี่น้อง ทุกคนล้วนอยากมารุมทึ้งทรัพย์สมบัติของพ่อแม่เธอกันทั้งนั้น หลังจากพวกท่านเสียไปไอรดาเลือกที่จะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง เริ่มต้นเส้นทางชีวิตด้วยตัวคนเดียวโดยไร้ญาติขาดมิตรตั้งแต่นั้น….พอตะวันตกดิน ไอรดาเริ่มแต่งตัวแต่งหน้าทำผม และกินอะไรรอง