เมื่อความรักถูกครอบงำด้วยแค้นและไฟแห่งปรารถนา พวกเขาถูกจองจำในอ้อมกอดแห่งความรุนแรงที่ไม่สิ้นสุด... ความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและเงาแค้น จะพาพวกเขาไปสู่เส้นทางแห่งความทรยศและการให้อภัย
View Moreนาวินก้าวเข้าหากระท่อมไม้ที่เงียบสนิท แสงจันทร์ที่ลอดผ่านต้นไม้ใหญ่รอบด้านทำให้บรรยากาศดูเงียบงันและเย็นยะเยือก เขาสังเกตเห็นกองฟืนและข้าวของที่เขาสั่งให้เอื้องจัดเตรียมไว้ถูกทิ้งกระจัดกระจายหน้ากระท่อม รอยขมวดบนหน้าผากของเขาลึกขึ้น"เอื้อง!" เขากระซิบดุดันในลำคอ แม้ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นให้ตอบ แต่ความโมโหที่คุกรุ่นทำให้เขากัดฟันแน่นเขาคว้ากุญแจในกระเป๋า ไขประตูเข้าไปในความมืดมิดของกระท่อม บรรยากาศภายในชวนอึดอัดจนเขาใจหายวูบ ร่างสูงกวาดตามองหาคนที่ควรอยู่ในนี้ แต่สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงความมืดและความเงียบ"มินตรา?" เสียงทุ้มต่ำของเขาเรียกหาเธอในความมืด น้ำเสียงแฝงความห่วงและร้อนรนอย่างปิดไม่มิดไม่มีเสียงตอบกลับ มีเพียงเสียงลมเย็นพัดผ่านกระท่อมและความเงียบงันที่ทำให้เขาแทบกระวนกระวาย มือของเขากำแน่นขณะที่ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัว... ถ้าเธอหายไป?ใจของเขาเหมือนถูกบีบจนแน่นเมื่อคิดเช่นนั้น แต่แล้ว เขาก็ได้ยินเสียงแผ่วเบาที่ดังมาจากมุมห้อง เสียงที่สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้เขาเดินไปตามเสียง ร่างสูงใหญ่เคลื่อนไปในความมืดจนเห็นเธอ—มินตรา ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มเก่าๆ ร่างเล็กสั่นสะท้านจากความหนา
ทมยืนพิงเสาไม้ที่เรือนใหญ่ พลางถามเอื้องด้วยน้ำเสียงที่แฝงความสงสัยและไม่วางใจ “คุณนาวินไม่อยู่อีกแล้วเหรอเอื้อง? ช่วงนี้ฉันแทบไม่เห็นเขาที่เรือนใหญ่เลย หรือว่ามีอะไรที่ฉันยังไม่รู้?”เอื้องที่กำลังยกถาดน้ำชาให้สาวใช้คนอื่นหยุดชะงัก เธอก้มหน้าต่ำเหมือนพยายามหลบสายตาของทม ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความลำบากใจ “เอ่อ...คุณทม... ฉัน...”ทมเลิกคิ้วสูง น้ำเสียงของเธอแหลมขึ้นเล็กน้อย “อะไรเอื้อง? มีอะไรก็บอกมาให้หมด ฉันสังเกตเห็นว่าช่วงนี้คุณวินทำตัวแปลกๆ แถมยังหายไปบ่อยๆ อีก มีอะไรเกิดขึ้นที่ฉันควรรู้หรือเปล่า?”เอื้องลังเลชั่วครู่ก่อนจะตอบด้วยเสียงแผ่วเบา “ก็แค่...งานยุ่งน่ะค่ะคุณทม คุณวิน...เขาอาจจะมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ”แต่คำตอบนั้นกลับไม่ทำให้ทมหายสงสัย ดวงตาแหลมคมของเธอจ้องมองเอื้องอย่างพิจารณา “สำคัญถึงขั้นต้องไปอยู่ที่กระท่อมหลังนั้นหรือไง?” เธอถามตรงไปตรงมา เสียงกดต่ำเอื้องสะดุ้งเล็กน้อย มือที่จับถาดชาเริ่มสั่น เธอกัดริมฝีปากแน่นเหมือนลังเลว่าจะพูดหรือไม่“คุณวินพาใครไปอยู่ที่กระท่อมหลังนั้นใช่ไหมเอื้อง?” ทมถามซ้ำ ดวงตาของเธอแหลมคมและเอาจริงเอื้องอึกอัก สีหน้าเต็มไปด้วยความกลัว “ฉัน
ทม ผู้หญิงแกร่งผู้ทำหน้าที่ดูแลทุกซอกทุกมุมของไร่กุหลาบที่ครอบคลุมภูเขาหลายลูก สายตาคมกริบของเธอจ้องตรงไปยังเอื้อง สาวใช้ประจำเรือนใหญ่ที่กำลังยกถาดชาอยู่ เธอขยับเข้าไปใกล้ในจังหวะที่สาวใช้อ่อนวัยกำลังพยายามหลบสายตา“ใครอยู่ในกระท่อมนั่นน่ะ เอื้อง?” เสียงเข้มของทมที่ไม่ยอมรับคำตอบครึ่งๆ กลางๆดังขึ้นในความเงียบ ทำให้เอื้องสะดุ้ง เธอก้มหน้าหลบอย่างเห็นได้ชัด มือที่กำถาดชาอยู่สั่นเล็กน้อย“ขะ...ไม่มีอะไรเจ้าค่ะคุณทม แค่คนที่คุณนาวินพามา...” เอื้องตอบเสียงแผ่ว เบือนสายตาไม่กล้ามองหน้าทมยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเย็นชาแฝงด้วยความสงสัยจับจ้องใบหน้าเอื้องราวกับจะเจาะลึกไปในใจ “คนที่เขาพามา? แล้วทำไมถึงต้องพาไปไว้ที่กระท่อมปลายนั่น?”เอื้องเงียบไป ดวงตาล่อกแล่กอย่างชัดเจน ทมย่างสามขุมเข้ามาใกล้ ยื่นหน้าเข้าหา “ฉันไม่ชอบคำตอบครึ่งๆ กลางๆ เอื้อง บอกมาดีๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่อย่างนั้น...”เอื้องรีบก้มหน้าพูดอย่างลนลาน “คุณนาวินพาผู้หญิงคนหนึ่งมาเจ้าค่ะ ดูเหมือน...เธอไม่เต็มใจ คุณนาวินให้คนไปจัดกระท่อมไว้ให้ แต่ดิฉัน...ไม่กล้าเข้าไปยุ่ง”ที่กระท่อมชายไร่กุหลาบมินตรายืนมองวิวทิวเขาผ่านหน้าต่างเล็กๆ
มินตราหอบหายใจเบาๆ เมื่อริมฝีปากของเธอถูกกดด้วยแรงที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและความคั่งแค้น ร่างบางที่คิดว่าตัวเองจะได้รับคำให้อภัยจากนาวิน บัดนี้กลับติดอยู่ในวงแขนแกร่งที่กอดรัดเธอแน่นจนไม่อาจดิ้นหลุด“อื้อ... นาวิน...” เสียงของเธอขาดห้วงเมื่อเขาไม่ปล่อยให้เธอได้พูดต่อ ริมฝีปากร้อนของเขาบดเบียดเข้าหาอีกครั้ง ลิ้นร้อนแทรกซึมเข้ามาโดยไม่ให้โอกาสเธอปฏิเสธแว่นตาหนาๆ ที่เขาสวมไว้ตลอดเวลาก่อนหน้านี้ถูกดึงออกโยนทิ้งอย่างไม่แยแส ก่อนที่เขาจะเสยผมขึ้น เผยใบหน้าคมคายและดวงตาคมที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา“คิดว่าผมจะให้อภัยคุณง่ายๆ เหรอ?” เสียงทุ้มต่ำของเขาเอ่ยกระซิบข้างหูเธอหลังจากผละจากจูบ ริมฝีปากของเขายังแตะเบาๆ บนผิวแก้มนุ่มของเธอมินตรามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและตกใจ “นาวิน... คุณ...”เขาหัวเราะในลำคอ ดวงตาที่เคยดูอ่อนโยนกลับเยือกเย็น “คุณหลงกลผมเอง... คนอย่างคุณควรได้รับบทเรียน”เขาดันเธอให้เอนตัวไปกับเบาะรถหรู นิ้วเรียวไล้ผ่านกรอบหน้าของเธอก่อนจะเลื่อนต่ำลงมาแตะที่ริมฝีปาก เขายิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ ก่อนจะกดจูบเธออีกครั้ง คราวนี้เร่าร้อนและดุดันยิ่งขึ้นมินตราครางแผ่วในลำคอ มือของ
มินตราหอบหายใจเบาๆ เมื่อริมฝีปากของเธอถูกกดด้วยแรงที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและความคั่งแค้น ร่างบางที่คิดว่าตัวเองจะได้รับคำให้อภัยจากนาวิน บัดนี้กลับติดอยู่ในวงแขนแกร่งที่กอดรัดเธอแน่นจนไม่อาจดิ้นหลุด“อื้อ... นาวิน...” เสียงของเธอขาดห้วงเมื่อเขาไม่ปล่อยให้เธอได้พูดต่อ ริมฝีปากร้อนของเขาบดเบียดเข้าหาอีกครั้ง ลิ้นร้อนแทรกซึมเข้ามาโดยไม่ให้โอกาสเธอปฏิเสธแว่นตาหนาๆ ที่เขาสวมไว้ตลอดเวลาก่อนหน้านี้ถูกดึงออกโยนทิ้งอย่างไม่แยแส ก่อนที่เขาจะเสยผมขึ้น เผยใบหน้าคมคายและดวงตาคมที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา“คิดว่าผมจะให้อภัยคุณง่ายๆ เหรอ?” เสียงทุ้มต่ำของเขาเอ่ยกระซิบข้างหูเธอหลังจากผละจากจูบ ริมฝีปากของเขายังแตะเบาๆ บนผิวแก้มนุ่มของเธอมินตรามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและตกใจ “นาวิน... คุณ...”เขาหัวเราะในลำคอ ดวงตาที่เคยดูอ่อนโยนกลับเยือกเย็น “คุณหลงกลผมเอง... คนอย่างคุณควรได้รับบทเรียน”เขาดันเธอให้เอนตัวไปกับเบาะรถหรู นิ้วเรียวไล้ผ่านกรอบหน้าของเธอก่อนจะเลื่อนต่ำลงมาแตะที่ริมฝีปาก เขายิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ ก่อนจะกดจูบเธออีกครั้ง คราวนี้เร่าร้อนและดุดันยิ่งขึ้นมินตราครางแผ่วในลำคอ มือของ...
Comments