ก๊อกๆๆๆ
“อ้าวพี่วินขึ้นมาทำอะไรคะ” จอมขวัญได้ยินเสียงเคาะประตูเลยเดินออกมาเปิดทั้งที่ยังไม่ทันได้มองตาแมวว่าเป็นใครเพราะคิดว่าอาจจะเป็นคนในบ้านมาตามไปทานข้าวแน่ๆแต่เมื่อเห็นเป็นชายหนุ่มเธอจึงตกใจไม่คิดว่าเขาจะขึ้นมาหาเธอถึงที่ห้อง
“พี่มาดูขวัญไงเห็นคุณพ่อขวัญบอกว่าขวัญไม่สบายพี่เลยขึ้นมาดู...พี่เข้าไปข้างในได้ไหม” ธาวินเห็นสีหน้าหญิงสาวที่ดูจะไม่ค่อยดีนักเขาจึงขอเข้าไปคุยกับเธอด้านในชายหนุ่มเห็นอาการซึมของหญิงสาวก็พอจะดูออกว่าที่ซึมๆอยู่เนี่ยคงจะเป็นเพราะผลจากที่เขาแกล้งเธอแน่ๆอยากจะต่อยหน้าตัวเองชะมัดที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง
“เอ่อ...ค่ะ” ธาวินเดินเข้ามาในห้องของจอมขวัญเมื่อเห็นหญิงสาวนั่งลงบนเตียงเขาก็ถือวิสาสะยื่นหลังมือไปแตะที่หน้าผากของเธอทันทีเพื่อดูว่าเธอป่วยจริงหรือเปล่า
“ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา...ป่วยการเมืองหรือเปล่าเราอะ” ธาวินอมยิ้มแลัวมองหน้าหญิงสาวจอมเจ้าเล่ห์เขารู้ว่าที่เธอแกล้งป่วยกะทันหันเพื่อที่จะได้ไม่ต้องลงไปเจอเขาแน่ๆ
“ตกลงพี่วินมาหาขวัญมีอะไรคะ” จอมขวัญไม่ได้ตอบปฏิเสธอะไรจากคำกล่าวหาของเขาตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะมองหน้าของเขาด้วยซ้ำเลยเร่งถามคนตรงหน้าว่าที่มามีธุระอะไรจะได้รีบคุยแล้วก็รีบกลับไป
“พี่จะมาคุยกับขวัญเรื่องแต่งงาน” ธาวินพูดพร้อมจ้องหน้าหญิงสาว
“ก็พี่…พ…พี่วินคุยแล้วนี่คะขวัญรู้แล้วค่ะพี่วินกลับไปได้แล้วค่ะขวัญอยากพักผ่อน” จอมขวัญพูดติดๆขัดๆเธอรู้แล้วว่าเขาจะแต่งงานแต่เธอไม่เข้าใจว่าจะมาย้ำให้เธอเจ็บทำไมเธอบอกกับเขาว่าอยากพักผ่อนพร้อมเดินหนีเขาไปที่ระเบียงหลังห้อง
“เดี๋ยวสิขวัญ” ธาวินเห็นหญิงสาวกำลังหันหลังเดินหนีเขาไปชายหนุ่มจึงรวบตัวเธอมากอดจากด้านหลังทันทีทำเอาหญิงสาวยืนตัวเกร็ง
“พี่วินปล่อยขวัญนะจะมากอดขวัญทำไมเนี่ยปล่อย....” จอมขวัญตัวเกร็งไปชั่วขณะนึกอยากทุบเขาให้แหลกคามือนักจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นอยู่แล้วยังจะมากอดเธอให้เธอรู้สึกหวั่นไหวอีก
“พี่ไม่ปล่อยถ้าพี่ยังคุยกับขวัญไม่รู้เรื่องมีหวังพี่ไม่ได้แต่งงานกันพอดี” จอมขวัญเริ่มที่จะต่อต้านเขาทำให้ชายหนุ่มกอดเธอแน่นขึ้น
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับขวัญด้วยล่ะคะเรื่องที่จะแต่งหรือไม่แต่ง” จอมขวัญเริ่มดิ้นต่อต้านแรงขึ้นรู้สึกรำคาญรื่องแต่งงานนี้เต็มทนจะมาพูดกรอกหูอะไรเธอนักหนาก็ไม่รู้
“ก็คนที่ป้าพี่มาขอหมั้นแล้วคนที่พี่กำลังจะแต่งงานด้วยคือคนที่พี่กอดอยู่นี่ไงขวัญ” หญิงสาวถึงกับหยุดดิ้นแล้วหันกลับมามองหน้าชายหนุ่มหญิงสาวคิดว่าเมื่อกี้ที่เธอได้ยินเธอไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม
“หมายความว่าไงคะ”
“แต่งงานกับพี่นะขวัญตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่ผิดเองที่ไม่เฉยชากับขวัญไม่ใช่ว่าพี่ไม่รักขวัญแต่เพราะพี่คิดว่าพี่ไม่คู่ควรกับขวัญต่างหากแต่วันนี้พี่ไม่กลัวที่จะบอกรักขวัญแล้วหลังจากเหตุการณ์วันนั้นทำให้พี่รู้ว่าพี่เสียขวัญไปไม่ได้และพี่ก็อยากจะใช้ชีวิตกับคนที่พี่รักทำทุกวินาทีให้มันมีค่าที่สุดมาเป็นเจ้าสาวของพี่นะคนดี”
ชายหนุ่มร่ายยายทำเอาหญิงสาวที่ฟังอยู่ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ในที่สุดเธอก็สมหวังในความรักเสียทีต่อจากนี้เธอก็จะได้อยู่กับเขาทั้งตอนหลับแล้วก็ตอนตื่นแล้วสินะ
“แต่งค่ะพี่วิน…เราไปลองชุดแต่งงานกันวันนี้เลยไหมคะ” หญิงสาวรีบพยักหน้ารับคำชายหนุ่มเพราะเธอรอเวลานี้มานานแล้ว
“หืมมไปวันนี้เลยเหรอนี่มันจะมืดแล้วนะพรุ่งนี้พี่ว่าก็ยังทันนะ”
“อ้อ…ลืมไปก็ขวัญรีบนี่คะ”
“แล้วหายงอนพี่แล้วเหรอ”
“งอนอะไรขวัญไม่ได้งอนซะหน่อย...” หญิงสาวลากเสียงยาวพร้อมเข้าไปสวมกอดชายหนุ่มแล้วเดินลงมาด้านล่างพร้อมกันเพื่อที่จะมาคุยกับพ่อและแม่ของเธอให้เรียบร้อยเสียที
“คงจะเข้าใจกันแล้วล่ะคุณ” พิศิษฐ์เห็นธาวินเดินโอบไหล่ของลูกสาวของตนก็หันไปอมยิ้มกับภรรยาในเมื่อเดินโอบกันลงมาแบบนี้ก็น่าจะเคลียกันรู้เรื่องแล้วหละ
2ปีผ่านไป
หลังจากเสร็จงานแต่งงานของจอมขวัญธาวินก็พาเธอไปอยู่ที่อิตาลีด้วยทันทีเพื่อไปสานต่อธุรกิจและใช้ชีวิตครอบครัวอยู่ที่นั่นด้วยทางด้านของแผ่นดินก็พาพลอยไพลินและลูกๆขึ้นมาอยู่ที่กรุงเทพเช่นเดียวกับพีรพัตรและลูกแก้วเพราะต่างคนก็ต่างต้องกลับไปทำหน้าที่ที่ต้องดูแลธุรกิจของตัวเองเมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ทุกคนก็ต่างนัดรวมตัวกันที่ไร่บดินทร์เดชาเป็นประจำ
“คุณพ่อขาเร็วๆสิคะ” ยัยหนูชมพูที่ดูจะตื่นเต้นที่ได้มาหาคุณย่าของเธอที่ไร่ซะเหลือเกินเพราะหนูน้อยเคยรบเร้าให้พ่อของเธอพามาหลายครั้งแต่ก็หาเวลาว่างยากมากพอได้มาก็จะดูตื่นเต้นดีใจเป็นพิเศษเมื่อลงรถได้ก็วิ่งนำหน้าไม่รอใครเลย
“เดี๋ยวสิลูกรอน้องก่อน” แผ่นดินที่กำลังเดินจูงมือน้องฌอนลูกชายคนเล็กที่พึ่งจะขวบครึ่งเมื่อได้ยินลูกสาวของเขาเร่งให้เข้ามาในบ้านเร็วๆก็ต้องบอกให้รอกันหน่อยเพราะลูกชายของเขายังไม่สามารถวิ่งเร็วได้แบบคนเป็นพี่สาว
“คุณย่าขาชมพูคิดถึงคุณย่าที่สุดเลยค่ะ” แผ่นดินเดินเข้าบ้านมาในบ้านก็เห็นทุกคนมากันครบแล้วนี่เขามาช้ากว่าทุกคนสินะก็เพราะทั้งสองแสบลูกของเขานั่นแหละกว่าจะปราบกันได้ไหนจะต้องเตรียมของให้ลูกทั้งสองอีกเลยทำให้มาช้ากว่าคนอื่นอย่างที่เห็น
“คิดถึงแต่คุณย่าใหญ่เหรอคะไม่คิดถึงคุณย่าเล็กบ้างเลยเหรอแบบนี้ย่าก็น้อยใจแย่เลยนะเนี่ย” พิไลเมื่อเห็นยัยหนูชมพูเข้ามากอดหอมผู้เป็นพี่สาวของตัวเองก็อดหยอกหลานตัวน้อยที่กำลังส่งเสียงเจื้อยแจ้วอยู่ตอนนี้ไม่ได้“ชมพูก็คิดถึงคุณย่าเล็กเหมือนกันค่ะ”ฟอดดดดดเด็กหญิงตัวกลมผละจากคุณย่าใหญ่แล้วเข้าไปกอดคุณย่าเล็กของเธอพร้อมหอมฟอดใหญ่ๆแบบเท่าเทียมกัน“ว่าไงคุณพ่อลูกสอง” พีรพัตรเอ่ยหยอกผู้เป็นพี่ชายที่กำลังเดินจูงลูกชายคนเล็กเข้ามาในบ้านพร้อมพลอยไพลินชายหนุ่มพอจะเดาออกที่พี่ชายเขามาช้าก็คงจะเป็นเพราะสองแสบนี่อีกล่ะสิ“เออ..เหนื่อยดี” แผ่นดินได้แต่อมยิ้มแล้วส่ายหัวให้กับพีรพัตรให้น้องของเขาเห็นว่าว่ามีลูกสองแล้วมันเป็นยังไงแต่ถึงเหนื่อยแต่เขาก็มีรอยยิ้มได้ทุกวันก็เพราะลูกสองคนนี้แหละทำงานเสร็จปุ้ปต้องรีบกลับมาหาลูกหาเมียทันที“แล้วนี่ลูกแก้วกับตาเก้าไปไหนล่ะ” แผ่นดินว่าจะให้ลูกชายของเขาไปเล่นกับหลานชายสักหน่อยแต่ไม่เห็นทั้งแม่และลูกก็เลยถามหา“เมื่อกี้แก้วพาตาเก้าไปเข้าห้องน้ำน่ะเดี๋ยวก็มา......นั่นไงมาพอดีเลยเก้ามาพาฌอนไปเล่นหน่อยสิลูก”“ได้ฮะคุณพ่อ” พีรพัตรเห็นลูกแก้วเดินจูงลูกเข้ามาพอ
บ่ายแก่ๆ ของวันศุกร์“แอ้ๆ” เสียงเด็กหญิงตัวน้อยที่พึ่งตื่นและกำลังพลิกคว่ำพลิกหงายเล่นอยู่บนเปลเมื่อตื่นมามองไม่เห็นใครก็ส่งเสียงเล็กๆแหลมๆร้องอ้อแอ้ เพื่อเป็นการบอกให้รู้ว่าหนูตื่นแล้วน้า..และก็กำลังหิวอยู่ด้วยพลอยไพลินเมื่อได้ยินเสียงลูกร้องก็รีบละกิจกรรมทุกอย่างเดินมาหาเจ้าก้อนกลมอย่างรวดเร็ว“ตื่นแล้วเหรอคะคนเก่ง หิวแล้วล่ะสิ” พลอยไพลินที่กำลังจ้องมองยัยหนูแพรชมพูที่ยัดกำปั้นอวบๆเข้าปาก ก็รีบยกยัยหนูออกมาจากเปลเมื่อเห็นแม่ยกตัวเองออกมาจากเปลก็ละจากกำปั้นหันมาส่งยิ้มให้แม่แทนและก็รีบตะกุยไปที่ทรวงอกของผู้เป็นแม่พร้อมส่งเสียงเอิ้กอ้ากชอบใจที่รู้ว่าจะได้กินนมอุ่นๆจากเต้าแล้ว“หนูหิวมากเลยใช่ไหมคะชมพู ชมพูจ๋า ยิ้มให้แม่ก่อนเร็วคนเก่ง” พลอยไพลินหยอกล้อลูกเล่นก่อนที่จะให้กินนมเด็กหญิงก็น่าจะอยากเล่นกับแม่ด้วยก็ส่งเสียง อ้อแอ้เอิ้กอ้ากใหญ่แต่มือก็จ้องแต่จะตะปปไปที่นมอย่างเดียวพลอยไพลินเลยเปิดเต้าอวบอิ่มให้เจ้าก้อนกลมได้ดูดก่อนที่เสียงหัวเราะของลูกน้อยจะกลายเป็นเสียงร้องแทนระหว่างที่ยัยหนูชมพูดูดนมคนเป็นแม่แม่อยู่นั้นมือทั้งสองข้างก็คอยประคองนมเต้าที่ดูดเอาไว้กลัวว่ามันจะหายไปไหน...พ
บ้านเด็กกำพร้าพลอยไพลินขับรถมาถึงที่บ้านเด็กกำพร้าที่แม่น้อยดูแลอยู่เมื่อมาถึงหญิงสาวก็รีบเดินดิ่งตรงไปที่ห้องทำงานของแม่น้อยทันที“แม่จ๋า” เมื่อพลอยไพลินเห็นหญิงร่างท้วมนั่งกุมขมับอยู่บนโต๊ะทำงานหญิงสาวก็รีบวิ่งไปกอดแม่ที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กทันที“พลอย มาแล้วเหรอลูก” หญิงชราร่างท้วมที่นั่งกุมขมับอยู่เงยหน้ามาทักพลอยไพลินด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“แล้วเจ้าหนี้ที่เราไปกู้เค้ามาเค้าว่ายังไงบ้างจ้ะแม่” พลอยไพลินมาถึงด้วยความใจร้อนเลยถามแม่น้อยเรื่องที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ตอนนี้“เค้าบอกว่าถ้าเราไม่รีบเอาเงินไปคืนเค้า...เค้าจะยึดที่นี่ทำลายทิ้งแล้วสร้างรีสอร์ทแทนน่ะลูกแม่จนหนทางมากเลยตอนนี้แม่ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว ฮือๆๆๆๆ แม่ไม่อยากทิ้งเด็กๆ ไปเลยพลอย” หญิงร่างท้วมถึงกับปล่อยโฮออกมาเพราะไม่รู้ว่าจะเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหนเพราะเด็กกำพร้าที่บ้านตอนนี้ก็มีมากขึ้นทุกวันค่าใช้จ่ายมันก็สูงขึ้นเรื่อยๆเงินที่มีคนบริจาคมามันก็ไม่พอเพราะไหนจะเลี้ยงเด็กในบ้านไหนจะต้องจ่ายดอกเบี้ยที่แสนโหดจากเจ้าหนี้ที่เอาที่ดินไปจำนองไว้อีก“แม่ไม่ต้องห่วงนะจ้ะ ยังไงพลอยก็ไม่ยอมให้ใครมายึดที่นี่ได้หรอกจ้ะ
ขอความช่วยเหลือ06.00 เช้าวันถัดมาพลอยไพลินตื่นมาพร้อมกับความสดชื่นหญิงสาวเห็นข้อความจากอีเมลเด้งขึ้นเลยกดดูข้อความในเมลที่ถูกตอบกลับมาทำเอาหญิงสาวแทบอยากจะกระโดดกรี้ดลั่นบ้านแต่ก็ต้องข่มความดีใจเอาไว้เพราะไม่อยากให้เจ้าก้อนที่กำลังหลับอุตุอยู่ข้างๆได้ยินเสียงกรี้ดแล้วตื่นมาตอนนี้ข้อความในอีเมลเขียนส่งมาว่าพรุ่งนี้คุณหญิงดวงแขจะเดินทางมาที่บ้านเด็กกำพร้าเพื่อช่วยเหลือตามที่พลอยไพลินได้ร้องขอเมื่อพลอยไพลินได้รับข่าวดีหญิงสาวก็รีบโทรหาแม่น้อยของเธอและบอกข่าวดีทันที“จริงเหรอลูก คุณหญิงท่านช่างมีเมตตากับเราเหลือเกินขอบใจมากนะลูกที่ไม่ทิ้งแม่กับน้องๆ” เสียงปลายสายที่ตอบกลับมานั้นดูมีความหวังและสบายใจขึ้นกว่าเดิมแม่น้อยพูดกับพลอยไพลิน พร้อมน้ำตาคลอ เธอไม่เคยผิดคำพูดเลยจริงๆแม่สาวน้อยคนนี้“เดี๋ยวพรุ่งนี้ พลอยกับลูกแก้วจะไปหาแม่แต่เช้านะคะ แม่สบายใจได้แล้วน้า ไม่ต้องเครียดแล้วนะ..เห็นไหมพลอยบอกแล้วปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอ พลอยรักแม่นะจ้ะ” มือเรียวปาดน้ำตาแห่งความยินดีลวกๆก่อนที่จะกดวางสายแม่ของเธอไร่บดินทร์เดชาไร่นี้เป็นไร่ที่อยู่ทางเหนือมีอาณาเขตพื้นที่สีเขียวหลายร้อยไร่บรรยากาศดี
“...” หลังจากที่คุณหญิงดวงแขออกไปจากห้องของแผ่นดินแล้วชายหนุ่มก็พยุงตัวเองมาพิงอยู่กับหัวเตียงดังเดิม..พลางนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ปวดร้าวจนลืมไม่ลงชายหนุ่มยังนึกถึงใบหน้าหวานที่เขาจดจำไม่อาจลืมอยู่ทุกวันชายนั่งเหม่อเฝ้าถามตัวเองอยู่ทุกวันว่าเพราะเหตุใดเขาไม่ดีตรงไหนหญิงสาวจึงทิ้งเขาไปมีคนอื่นทั้งที่การคบกันกับเขาและเธอไม่มีวี่แววว่าจะมีเธอมือที่สามจนชายหนุ่มถึงขั้นขอเธอแต่งงานแต่เธอกลับปฏิเสธเขาและเธอขอให้เขาและเธอต่างคนต่างอยู่ แผ่นดินเมื่อรู้เช่นนั้นก็หูอื้อตาลายเหมือนโลกหยุดหมุนหัวใจของเขาแตกสลายไปหมดแล้วหลังจากที่หญิงสาวบอกเลิกเธอก็หายหน้าหายตาไปเมื่อเขาไปหาเธอที่บ้าน...ป้าเจ้าของบ้านเช่าก็บอกว่าเธอออกไปแล้วและไม่รู้ว่าไปไหนแต่มีจดหมายจากพลอยไพลินฝากไว้ให้เมื่อเขาอ่านก็รู้ทันทีว่าหญิงสาวมีคนรักอยู่แล้วที่ผ่านมามันคือเรื่องหลอกลวงเรื่องเลวร้ายที่ได้รับรู้ทำให้เขาดื่มเหล้าจนเมาและขับรถจนเกิดอุบัติเหตุเดินไม่ได้และเขาก็ไม่ยอมรักษาคู่หมั้นของเขาที่บอกว่ารักเขานักหนาเมื่อเห็นสภาพของเขาก็รับไม่ได้จึงขอถอนหมั้นและไม่หันมาแลเขาอีกเลยซึ่งข้อนี้ชายหนุ่มไม่สนใจเพราะเขาก็ไม่ได้รักแม่สา
“ไม่ได้หรอกค่ะคุณหญิง พลอยพูดคำไหนคำนั้นค่ะ ให้พลอยได้ทำงานให้คุณหญิงนะคะ” ดวงแขเห็นแววตามุ่งมั่นของหญิงสาวตรงหน้าก็คิดว่าคงขัดอะไรไม่ได้คงต้องหาอะไรให้เธอช่วยทำเสียแล้ว“เอ้า เอาอย่างนี้ก็ได้ หนูพลอยเรียนพยาบาลมาใช่ไหมจ้ะ พอดีลูกชายของฉันเค้าประสบอุบัติเหตุตอนนี้เดินไม่ได้มาปีกว่าแล้ว แต่ก็ไม่ยอมทำกายภาพสักทีหนูพอจะช่วยได้ไหม”“ได้ค่ะคุณหญิง พลอยทำกายภาพเป็นค่ะ แล้วให้พลอยเริ่มงานวันไหนดีคะ” สาวเจ้ายิ้มตาเป็นประกายดีใจที่จะได้ตอบแทนผู้มีพระคุณตามที่ตนหวังไว้“เอ่อ เริ่มน่ะก็เริ่มได้เลยแต่ลูกชายฉันน่ะ อารมณ์ร้ายอยู่พอตัวหนูไหวใช่ไหมจ้ะ”“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงค่ะคุณหญิง หนูว่าหนูรับมือไหวค่ะ สู้ค่ะ” พลอยไพลินเอ่ยเสียงชัดแจ๋วจากที่เคยมีประสบการณ์เป็นพยาบาลเธอเจอคนไข้มาทุกประเภทแล้วเธอคิดว่าเธอรับมือไหว“5555555 โอเค” ดวงแขหัวเราะร่าเมื่อเห็นท่าทางที่มุ่งมั่นของพลอยไพลินเธอเอ็นดูสาวน้อยตรงหน้าคนนี้จริงๆเลยคิดในใจหวังว่าหนูพลอยไพลินคงรับมือลูกชายของเธอได้ดีกว่าพยาบาลคนก่อนๆที่เข้ามา“แต่ว่าหนูต้องอยู่ที่บ้านนั่น24ชั่วโมงเลยนะและไม่ต้องห่วงเรื่องยัยหนูชมพูนะฉันจะให้หนูพลอยกับยัย
เมื่อฐิตาพูดจบเธอก็หันหลังเดินจากไปอย่างคนชนะพลางยิ้มเย้ยหญิงสาวที่กำลังร้องให้สะอึกสะอื้นอย่างสะใจพลอยไพลินทำอะไรไม่ถูกก็ได้แต่ยืนร้องให้ ให้กับความโง่ของตัวเองหญิงสาวไม่มีแรงแม้แต่จะโต้เถียงกับคนตรงหน้าในเมื่อฐิตาบอกว่าเป็นคู่หมั้นของคนรักของเธอแถมยังมีลูกด้วยกันอีกก็เท่ากับเธอคือมือที่สามคำนี้มันแล่นเข้ามาในสมองทำให้เธอหยุดร้องให้ไม่ได้ในตอนนี้ เธอรู้สึกเหมือนคนโง่ที่วาดฝันว่ามีรักที่ดี แต่กลับไม่ใช่เลยพลอยไพลินนั่งร้องให้อยู่ที่สวนสักพัก ก็ขอลากลับบ้านครึ่งวันเนื่องจากสภาพจิตใจของเธอตอนนี้ไม่พร้อมที่จะดูแลคนไข้เธอจึงขอลาพักดีกว่าที่จะงานแบบที่ยังกังวลอยู่หน้าโรงพยาบาลแผ่นดินหนุ่มรูปหล่อร่างสูงที่กำลังถือกุหลาบแดงช่อโตลงมาจากรถเมื่อเห็นหญิงสาวที่ตนรักก็รีบเดินไปหาทันที“พลอย กำลังจะเดินไปไหนครับ” แผ่นดินทักทายพลอยไพลินด้วยรอยยิ้มอ่อน“เอ่อ พลอยจะกลับบ้านค่ะ” พลอยไพลินรีบเดินหนีออกมาจากเขาอย่างรวดเร็วเพราะไม่อยากให้น้ำตามันไหลออกมาตอนนี้และก็ไม่อยากคุยอะไรตอนนี้ด้วยเนื่องจากสภาพจิตใจเธอไม่พร้อมรับอะไรทั้งนั้นในตอนนี้แต่ก็โดนมือของเขารั้งไว้อยู่ดี“พลอยฟังพี่นะพี่มีอะไรจะบ
เป็นเวลาสามวันที่แผ่นดินทำใจและวันนี้จะเป็นวันที่เขาจะต้องคุยกับพลอยไพลินให้รู้เรื่องให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นชายหนุ่มตัดสินใจไปหาหญิงสาวที่หน้าบ้านของเธอดีกว่าไปหาที่โรงพยาบาลเพราะหากเกิดการทะเลาะกันที่นั่นคงจะทำให้เธอดูไม่ดีในสายตาคนที่ทำงาน ถึงแม้ว่าเขาจะเคยมาที่นี่เพียงครั้งเดียวแต่เขาก็จำทางได้แม่นเพราะชายหนุ่มจดจำรายละเอียดของคนรักเกือบทุกอย่างแม้กระทั่งอาหารการกินว่าชอบกินอะไรหรือไม่ชอบอะไร ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ฟ้ามืดแล้วแผ่นดินก็ไม่ยักเห็นว่าจะมีใครมาที่บ้านมีเพียงหญิงสูงวัยเดินออกมาเขาจึงรีบเปิดประตูรถลงไปถามทันทีว่าคนที่อยู่บ้านนี้เค้าทำไมยังไม่กลับกัน หญิงสูงวัยเห็นเป็นคนแปลกหน้าคราแรกแกก็ไม่ไว้ใจแต่พอถามชื่อและได้คำตอบว่าชื่อแผ่นดินตรงกับคนที่พลอยไพลินฝากจดหมายไว้ให้จึงยื่นจดหมายให้กับชายหนุ่มและบอกว่าพลอยไพลินได้ย้ายออกเมื่อสองวันที่แล้วและก็ฝากจดหมายไว้ให้เขา เมื่อหมดธุระของหญิงสูงวัยเธอก็เดินกลับไปบ้านของเธอทันทีทิ้งให้ชายหนุ่มยืนอึ้งกับเรื่องที่พึ่งได้รับรู้อยู่อย่างนั้นแผ่นดินรีบเข้าไปในรถเปิดจดหมายอ่าน ใจความในจดหมายเขียนว่าพลอยไพลินมีคนรักอยู่แล้วตลอดเ