30 นาทีต่อมา
“อาการของลูกชายดิฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ” ตอนนี้ในห้องมีทั้งพิไลดวงแขและพลอยไพลินรอฟังอาการของชายหนุ่มอยู่ข้างๆเตียงหลังจากหมอตรวจเสร็จคนเป็นแม่ของคนนอนป่วยก็เอ่ยปากถามหมอทันทีเพราะอยากรู้อาการของลูกชายตัวเองที่ตอนนี้นอนงัวเงียอยู่บนเตียงเต็มทน
“เอ่อ...จากที่ผมตรวจอาการของคุณพอลไม่มีอะไรผิดปกตินะครับแต่ถ้าฟังจากที่พวกคุณเล่ามาผมคงต้องขอตรวจคุณพลอยแทนนะครับ”
“คะ....ตรวจฉันเหรอคะ” พลอยไพลินมีสีหน้าที่สงสัยอยู่ดีๆหมอก็จะขอตรวจเธอทั้งๆที่เธอสบายดี
“ครับ....ผมขอถามคุณพลอยว่าประจำเดือนคุณขาดกี่เดือนแล้วครับ” หลังจากที่ได้ยินคำถามจากคุณหมอหญิงสาวเองก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่าประจำเดือนเธอขาดมาสองเดือนแล้วนี่นา
“เอ่อ...น่าจะสองเดือนแล้วค่ะ”
“งั้นผมว่าอาการที่คุณพอลเป็นน่าจะแพ้ท้องแทนภรรยาแล้วหละครับเคสแบบนี้ผมเจอมาบ่อยน่าจะไม่พลาดนะครับ” พลอยไพลินถึงกับยิ้มหน้าบานอย่างตื้นตันว่าเธอกำลังจะมีน้องให้ยัยหนูอีกคนนึงแล้ว
“ยังไงผมขอนัดคุณพลอยไปตรวจและฝากครรภ์ทีโรงพยาบาลได้เลยนะครับส่วนคุณพอลคงต้องให้ยาไปตามอาการถ้าเรียบร้อยแล้วหมอขอตัวนะครับ”
“ขอบคุณค่ะคุณหมอ” หลังจากหมอตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้วพิไลและดวงแขที่ยืนยิ้มปลื้มกับคำวินิจฉัยของหมออยู่ก็ขอตัวออกมาส่งหมอเพื่อที่จะให้ทั้งสองอยู่ดูแลกันตามลำพัง
“คุณพี่คะเป็นอย่างที่พวกเราคิดจริงๆด้วยค่ะ..น้องดีใจกับคุณพี่ด้วยนะคะแบบนี้คงต้องสั่งให้ตาพรีมดูแบบอย่างตาพอลบ้างแล้วสิคะ”
“ดีๆพี่เชียเต็มที่พิไลจะได้มีหลานอุ้มเหมือนพี่สักทีไง”
“ฮ่าๆๆ..ค่าคุณพี่” สองพี่น้องนั่งคุยกันอย่างอารมณ์ดีด้วยเพราะจะมีสมาชิกใหม่เพิ่มในบ้านมาอีกหนึ่งคน
“เราจะมีลูกกันอีกคนแล้วใช่ไหมพลอย” แผ่นดินที่นอนอยู่บนเตียงส่งเสียงถามคนเป็นภรรยาอย่างดีใจพร้อมดึงเธอเข้ามากอดหอมอย่างชื่นใจสิ่งที่เขาพยายามทำอยู่แทบทุกวันมันก็เห็นผลแล้วสิ
“ตัวพลอยหอมจังเลยพี่กอดแล้วรู้สึกดีจังเลย” ชายหนุ่มพรมจูบไปทั่วตัวคนเป็นภรรยาเพราะวันนี้เขารู้สึกว่าตัวภรรยาเขาหอมเป็นพิเศษแบบอธิบายไม่ถูกว่าหอมแบบไหนแต่อยากให้เธออยู่ใกล้ๆตลอดเพราะเมื่อได้กลิ่นกายของเธอแล้วอาการของเขามันรู้สึกดีขึ้นอย่างมากไอ้อาการที่วิงเวียนก็หายแทบเป็นปลิดทิ้ง
“พี่พอล..พอได้แล้วค่ะตัวพลอยช้ำหมดแล้วตัวพลอยหอมตรงไหนคะมีแต่กลิ่นอาหาร”
“ไม่รู้แต่พี่หอม..หอมมากด้วยพี่กอดพลอยแล้วพี่รู้สึกดีมากกกก”
“งั้นเหรอคะ” สาวเจ้าได้ยินที่สามีของตนพูดว่าได้กลิ่นตัวเธอแล้วรู้สึกดีและดูท่าว่าอาการของเขาจะดีขึ้นมากด้วยหลังจากที่นอนกอดซุกอยู่ที่ตัวของเธอพลอยไพลินจึงปล่อยให้ผู้เป็นสามีนอนกอดอยู่แบบนั้นเผื่ออาการของเขาจะทุเลาลงได้
บ่ายกว่าๆ
“อ้าวหนูพลอยตาพอลเป็นยังไงบ้างจ้ะ” พิไลที่นั่งปลอกผลไม้อยู่ที่โต๊ะหน้าบ้านเอ่ยถามเมื่อเห็นหลานสะใภ้เดินออกมา
“หลับไปแล้วค่ะคุณน้า”
“ดีแล้วหละ..อ่อเมื่อกี้ตาพรีมโทรมาให้นายสนไปรับที่สนามบินแล้วหละอีกสักพักคงมาถึงหนูพลอยกินผลไม้นี่สิจ้ะคนท้องต้องทานผักผลไม้เยอะๆนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“คุณแม่ไปไหนเหรอคะ”
“เห็นว่าพายัยหนูไปนอนสงสัยคงจะงีบอยู่กับหลานนั่นแหละ”
“อ๋อค่ะ” พลอยไพลินนั่งทานผลไม้ไปคุยกันไปสักพักใหญ่ๆรถตู้สีดำคันหรูก็เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน
“สงสัยจะมากันแล้วหละหนูพลอยเราไปหาพวกเค้ากันเถอะ”
“ค่ะ”
“พี่พลอยแก้วคิดถึงจังเลย” ลูกแก้วเมื่อลงจากรถได้ก็โผเข้ากอดพี่สาวของตนด้วยความคิดถึงทันที
“ไปๆลูกเข้าไปข้างในกันก่อน”
“ค่ะ/ครับ” เมื่อทั้งสี่เดินเข้ามาในบ้านดวงแขก็อุ้มยัยหนูที่พึ่งตื่นนอนออกมาพอดี
“อ้าวมากันแล้วเหรอ”
“สวัสดีครับคุณป้า/สวัสดีค่ะคุณแม่”
“ไหว้พระเถอะจะ...มาเหนื่อยๆมานั่งกันก่อนมา” ดวงแขเรียกทั้งคู่มานั่งที่โซฟาห้องรับแขก
“ยัยหนูมาหาน้ามาเร็ว....หืม..คิดถึงที่สุดในโลกเลยยยย”
“อร๊าย..คิกๆๆ” ลูกแก้วรีบเดินไปอุ้มยัยหนูจากดวงแขมาฟัดให้หายคิดถึง
“แล้วนี่จะมาอยู่กันกี่วันล่ะตาพรีมหนูแก้ว”
“ใช่ลูกจะมาอยู่กันกี่วันเหรอ” ดวงแขและพิไลถือโอกาสถามทั้งคู่ว่าจะมาอยู่ที่นี่กันกี่วันเพราะตอนที่คุยกันว่าจะกลับแต่ทั้งสองก็ไม่ได้บอกว่าจะกลับมานานแค่ไหนเพียงแต่บอกว่ากลับมาแล้วจะบอกเอง
“เอ่อ...คือ...น่าจะไม่มีกำหนดครับคงอีกสักพักผมอยากให้ลูกแก้วพักผ่อนอยู่ที่นี่สักพักแล้วผมก็จะอยู่ดูแลเธออยู่ที่นี่ด้วยครับ”
คนที่นั่งอยู่ในห้องต่างก็มีสีหน้าสงสัยกับคำพูดของพีรพัตรที่พูดออกมาสองคนนี้ดูจะมีอะไรๆที่ปิดบังอยู่ถึงทั้งหมดนั่งทำหน้าสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปปล่อยให้พีรพัตรได้พูดต่อเพราะคิดว่าชายหนุ่มคงจะให้คำตอบเอง
“เอ่อ...คือ....ผมกับลูกแก้วกำลังจะแต่งงานกันครับคือลูกแก้วท้องแล้วครับคุณแม่คุณป้า” พีรพัตรที่สังเกตุเห็นสีหน้าที่สงสัยของทุกคนที่รอฟังคำจากปากเขาอยู่เขาจึงขอพูดให้ทุกคนเข้าใจเลยละกัน
คุณหญิงทั้งสองรวมถึงพลอยไพลินได้ยินคำที่พูดขึ้นก็ถึพีรพัตรงกับยกมือทาบอกลูกแก้วที่เห็นสีหน้าที่เดาอารมณ์ไม่ถูกของคุณหญิงทั้งสองและพี่สาวของตนก็ใจไม่ดีหันไปมองหน้าคนเป็นสามีและกุมมือเป็นการให้กำลังใจกัน
“ตายแล้วคุณพี่น้องจะเป็นลม”“คุณแม่/คุณแม่” ทั้งพีรพัตรและลูกแก้วเมื่อเห็นอาการไม่ดีของพิไลก็รีบโผเข้ามาดูอาการอยู่ใกล้ๆ“ผมขอโทษครับที่ทำให้คุณแม่เสียใจ” พีรพัตรรู้สึกผิดที่ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องเกือบจะเป็นลมเพราะตนเองทำให้ผูเป็นแม่เสียใจจึงเอ่ยขอโทษออกมา“เสียใจอะไรกันล่ะตาพรีมแม่ดีใจมากต่างหากล่ะ...น้องจะมีหลานกับเค้าแล้วค่ะคุณพี่” พิไลที่ดีใจจนเกือบเป็นลมเพราะได้ลูกสะใภ้สมใจแล้วอยู่ดีๆก็ได้หลานมาด้วยเธอจึงหันไปคุยอวดผู้เป็นพี่สาวว่าจะมีหลานยกใหญ่“แล้วนี่ท้องได้กี่เดือนแล้วจ้ะลูกแก้ว” พลอยไพลินที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆก็นั่งยิ้มดีใจกับน้องสาวของตนที่จะมีครอบครัวและมีคนที่ดีๆดูแลซะที“สี่เดือนแล้วค่ะพี่พลอยไม่โกรธแก้วใช่ไหมคะที่แก้วไม่ได้บอกพี่พลอยก่อน”“พี่จะโกรธทำไมพี่รู้ว่าลูกแก้วเป็นคนมีเหตุผลพี่ดีใจน้าที่น้องสาวพี่มีคนดีๆอย่างคุณพรีมดูแล” สองพี่น้องโอบกอดกันภาพตอนนี้ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่น“ดีจังเลยนะครอบครัวเราจะมีสมาชิกเพิ่มอีกตั้งสองคนแน่ะ” ดวงแขคราแรกก็ตกใจกับเรื่องที่พีรพัตรโพล่งพูดออกมารวดเดียวแต่ก็รู้สึกว่ามันเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลาจับคู่เธอดีใจที่
ทุกคนนั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันที่โต้ะอาหารยกเว้นจอมขวัญตอนนี้ที่ยังไม่กลับดวงแขนั่งทานข้าวไปคุยกับลูกๆหลานๆบนโต๊ะไปก็สังเกตเห็นลูกชายของตนนั่งเกาะแขนคนเป็นภรรยาอยู่นานแล้วไม่ยอมปล่อยเสียทีเธอจึงเอ่ยถามขึ้น“แล้วนั่นเป็นอะไรอีกล่ะตาพอลกลัวหนูพลอยจะหายหรือไงเกาะไม่ปล่อยซะขนาดนั้น”“คือพี่พอลบอกว่าเค้าอยู่ใกล้ๆพลอยแล้วอาการดีขึ้นน่ะค่ะคุณแม่ตั้งแต่ตื่นมาก็ไม่ยอมห่างเลยค่ะ” หญิงสาวตอบคนเป็นแม่สามีด้วยสีหน้าที่อ่อนใจเธอเองก็รู้สึกชักจะรำคาญคนตัวโตอยู่เหมือนกันที่เอาแต่เกาะไม่ปล่อยตอนนี้หญิงสาวรู้สึกเหมือนเธอมีลูกชายเพิ่มมาอีกคน“ใช่ครับคุณแม่เวลาผมอยู่ใกล้พลอยแล้วไอ้อาการเวียนหัวมันก็ดีขึ้นทุกทีเลยครับเลยต้องเกาะกันอยู่แบบนี้” เขาเองตอบตามความจริงเมื่ออยู่ใกล้ภรรยาทีไรอาการเขาก็ดีขึ้นทุกทีเลยจำเป็นต้องเกาะกันแจอยู่แบบนี้“อย่างงั้นเองเหรอ” ดวงแขนึกสงสารทั้งลูกชายและลูกสะใภ้แต่ก็คิดว่าพอลูกสะใภ้เธอท้องโตอีกหน่อยอาการของลูกชายเธอก็คงจะหายไปเองตอนนี้ก็ทำได้แต่ให้กำลังใจทั้งสองให้อดทนเอาหน่อย“คงเป็นเพราะอาการแพ้ท้องแทนเมียน่ะค่ะคุณพี่อีกหน่อยคงดีขึ้นเอง”“พี่ก็ว่างั้นแหละ”“ผมว่าอ
ครื้นๆๆๆเปรี้ยง“ว้าย...” จอมขวัญกรี๊ดลั่นเพราะตกใจกับเสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่าหญิงสาวเกลียดเสียงฟ้าร้องเป็นที่สุดด้วยความกลัวตั้งแต่เด็กๆหญิงสาวเอามือป้องปิดหูด้วยความตกใจนั่งตัวสั่นทิ้งตัวลงอยู่บนโซฟาด้วยความกลัว จอมขวัญที่นั่งรอธาวินอยู่ในบ้านของเขาตั้งแต่เช้าแต่ก็ยังไม่เห็นชายหนุ่มจะกลับมาเสียทีเธอพยายามโทรหาชายหนุ่มอยู่หลายรอบแต่ก็โทรไม่ติดไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปไหนเพราะไม่ได้บอกไว้ ตอนที่เธอมาถึงที่นี่ก็ลองเดินเข้าไปในสวนหญิงสาวถามหาชายหนุ่มจากคนงานในสวนที่กำลังทำงานกันอยู่ก็ได้คำตอบมาว่าไม่รู้ว่าเจ้านายหนุ่มของพวกเขาอยู่ไหนเหมือนกันได้แต่สั่งงานไว้แล้วก็ออกไปตั้งแต่เช้า“พี่วินนะพี่วินไปไหนของเค้ากันนะไม่บอกกันสักคำ” หญิงสาวชะโงกหน้าไปมองที่หน้าบ้านยืนบ่นด้วยสีหน้ากังวลแต่สายตาก็มองหาภาวนาให้ชายหนุ่มกลับมาเสียทีติ้ดดดดๆๆๆๆ“หาแบตหมด...โอ้ย..” จอมขวัญกำลังจะกดโทรศัพท์โทรหาแผ่นดินเพื่อที่จะให้มาเธอรับที่บ้านของธาวินเพราะหญิงสาวคิดว่าวันนี้ชายหนุ่มคงจะยังไม่กลับมาในเร็วๆนี้แน่ เธอคิดว่าตอนนี้คนที่บ้านต้องเป็นห่วงถ้าเธอกลับดึกกว่านี้แต่มือถือเจ้ากรรมก็ดันมาแบตหมดเอาดื้อๆตอนน
“ขวัญฟังพี่นะจับมือพี่ไว้ห้ามปล่อยเข้าใจไหม..ใส่ไอ้นี่เอาไว้แล้วขวัญจะปลอดภัย” ธาวินยังไม่ยอมเปิดประตูรถเขานั่งอยู่ในรถหยิบเสื้อเกราะให้หญิงสาวใส่พร้อมกำชับกับเธอว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นห้ามปล่อยมือเขาเด็ดขาดเขาหยิบรีบปืนออกมาจากหลังรถและจับมือหญิงสาวเอาไว้แน่น“นี่มันอะไรกันคะพี่วิน” จอมขวัญถามธาวินหน้าตาตื่นเมื่ออยู่ดีๆชายหนุ่มมีเสื้อเกราะติดรถไว้แล้วหยิบมาให้เธอใส่แถมในหลังรถยังมีอาวุธปืนอีกตอนนี้เธอสับสนไปหมดในใจเธอคิดว่าชายหนุ่มแค่ทำสวนจะต้องมีอาวุธครบมือขนาดนี้เชียวเหรอ“พี่ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว..เราต้องรีบหนี”“เดี๋ยวค่ะทำไมเราไม่ขับฝ่าเข้าบ้านขวัญไปเลยล่ะคะ”“ไม่ได้ขวัญเดี๋ยวคนอื่นจะเป็นอันตรายไปด้วย” เพื่อความปลอดภัยของทุกคนชายหนุ่มไม่เลือกใช้วิธีที่หญิงสาวบอกแน่ๆปังๆๆๆๆ“ลงมาเดี๋ยวนี้แสบนักนะแก” เสี่ยวันชัยเมื่อไม่เห็นคนบนรถลงมากันสักทีทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าหนีพวกเขาไม่รอดเพราะเขาได้สั่งลูกน้องล้อมเอาไว้หมดแล้วเขาแค้นใจยิ่งนักที่หลงไว้ใจไม่คิดว่าธาวินจะเป็นหอกข้างแคร่ที่คอยทิ่มแทงเขาอยู่ตลอดเวลาโดยที่เขาไม่นึกเอะใจซ้ำยังลูกสาวของเขาเองยังหลงธาวินหัวปลักหัวปลำอีกต่างหาก
เช้าวันต่อมา“คุณขวัญครับ....คุณขวัญ”“อืม..” หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นเพราะได้ยินเสียงเรียกของใครบางคนที่เธอไม่คุ้นหู“คุณเป็นใครคะ” เมื่อจอมขวัญเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงของเธอชัดก็ถึงกับต้องถดตัวหนีอย่างรวดเร็วเพราะเกรงว่าจะเป็นคนร้าย“เอ่อไม่ต้องตกใจครับครับพอดีพี่วินบอกให้ผมมารับคุณไปส่งที่บ้านผมหมวดจักรพงษ์เรียกผมว่าหมวดพงษ์ก็ได้ครับ” จักรพงษ์ยิ้มให้หญิงสาวที่ดูจะกลัวเขาเหลือเกินเมื่อรู้ว่าเขาเป็นใครก็เริ่มตั้งสติได้แล้วถามหาธาวินผู้เป็นหัวหน้าของเขาทันที ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้านี้คงเป็นคนที่สำคัญต่อหัวหน้าของเขามากถึงขนาดเจ็บปางตายยังนึกห่วงบอกให้เขามาดูแลเธออย่าให้คลาดสายตาและยังห้ามบอกอีกว่าเขาบาดเจ็บสาหัสให้โกหกเธอว่าอะไรก็ได้เธอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง“ค่ะ..เอ่อ....แล้วพี่วินล่ะคะ”“คุณวินสั่งให้ผมมารับคุณไปส่งที่บ้านครับแต่ไม่ได้บอกว่าเค้าอยู่ไหน”“ค่ะ” จอมขวัญพยักหน้ารับแล้วเดินก้มหน้าตามนายตำรวจหนุ่มออกมาจากฐานลับแล้วเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ห่างออกจากฐานพอสมควรแล้วหมวดหนุ่มก็พาหญิงสาวกลับบ้านทันที“ยัยขวัญกลับมาแล้วตาพรีม” พิไลมองออกไปดูว่ารถใครมาจอดที่หน้าบ้านเมื่อเ
“ถ้าพวกคุณอยากรู้อาการของหัวหน้าเดี๋ยวผมจะแจ้งเรื่องมาเป็นระยะๆนะครับ” จักรพงษ์เห็นว่าชายหนุ่มทั้งสองดูเป็นห่วงหัวหน้าของตนมากเลยอาสาจะรายงานอาการของหัวหน้าของเขาให้ชายหนุ่มทั้งสองเป็นระยะๆ“ขอบคุณมากครับหมวด”“ถ้าเรียบร้อยแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” หลังจากจักรพงษ์คุยธุระเสร็จก็ขอตัวกลับในทันทีเพราะเขาก็อยู่ที่นี่ค่อนข้างที่จะนานแล้วต้องรีบกลับไปเคลียคดีที่ค้างไว้ต่อแล้วเขาก็จะรีบไปดูอาการของผู้เป็นหัวหน้าที่นอนเจ็บปางตายด้วย เขาเองนับถือชายหนุ่มจริงๆที่ลุยเดี่ยวกับพวกที่มีฝีมือทางการต่อสู้ป็นสิบแบบไม่กลัวตายแถมยังดวงแข็งที่กระสุนเจาะร่างเกือบพรุนยังใจแข็งรอดมาได้อีกเป็นเขาคงตายตั้งแต่ต่อสู้กับไอ้พวกสิบกว่าคนนั้นแล้วห้าวันต่อมา“อ้าวหายดีแล้วเหรอยัยขวัญแล้วตื่นมาทำไมแต่เช้า” คุณหญิงดวงแขที่นั่งจิบกาแฟอยู่หน้าบ้านตอนเช้าเป็นประจำเห็นหลานสาวที่ดูว่าพึ่งจะฟื้นจากไข้ตื่นมาแต่เช้าก็นึกเป็นห่วงอยากจะให้พักผ่อนนานๆแต่หลานสาวเธอดันตื่นเช้าพอจะเดาออกว่าทำไมหลานสาวเธอถึงรีบตื่นมาขนาดนี้“ขวัญโอเคแล้วค่ะคุณป้าคุณแม่อยู่ไหนเหรอคะ” จอมขวัญที่พึ่งฟื้นไข้เมื่อรู้สึกว่าร่างกายของเธอดีขึ้น
“ค่ะ” พีรพัตรคิดว่าถ้าน้องสาวเขาได้อยู่กับภรรยาของเขาเธอคงจะคุยกันตามประสาเพื่อนสาวคงจะลืมนึกถึงเรื่องของธาวินได้บ้างเพราะเขาเองเมื่อเห็นอาการของจอมขวัญก็ไม่อยากจะเข้าไปอยู่ใกล้น้องสาวเขาเท่าไรแค่นี้ก็คงจะเหม็นขี้หน้าพี่ชายคนนี้เต็มทนแล้วละมั้งที่ออกคำสั่งยื่นคำขาดกับเธอขนาดนั้นก๊อกๆๆๆๆ“ขวัญนี่ฉันเอง”“เข้ามาเลยประตูไม่ได้ล็อค” จอมขวัญได้ยินว่าเป็นเสียงของเพื่อนสาวจึงบอกให้เข้ามาได้หวังว่าพี่ชายตัวดีของเธอจะไม่ตามมาด้วยนะ“แกมาคนเดียวใช่ป่ะ” จอมขวัญชะเง้อมองว่าจะมีใครตามเธอเข้ามาด้วยหรือเปล่าถ้ามีคนนั้นตามมาแบบที่เธอคิดจริงๆคงทำให้เธออารมณ์บูดอีกเป็นแน่“ก็ใช่น่ะสิแกว่าใครจะตามมาด้วยล่ะ” ลูกแก้วเห็นท่าชะเง้อของจอมขวัญแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้คงคิดว่าสามีเธอจะตามมาด้วยล่ะสิ“ป๊าวววว” จอมขวัญตอบปฏิเสธเสียงสูงทันที“แค่นี้ต้องเสียงสูงด้วย”“แก้วหลานฉันเป็นยังไงบ้างฉันอยากให้หลานคลอดแย่แล้ว” จอมขวัญนอนคว่ำใช้แขนทั้งสองข้างชันหน้าขึ้นแล้วหันมาคุยกับลูกแก้วเธอรู้เรื่องของลูกแก้วกับพี่ชายของเธอตั้งแต่ที่ลูกแก้วมาเยี่ยมเธอตอนนอนป่วยแล้ว เมื่อเห็นหน้าท้องของเพื่อนสาวยื่นออกมาก็เกิดการ
“ยัยขวัญน่าจะได้ยินที่พี่คุยกับหมวดพงษ์เรื่องวินน่ะสิ” พีรพัตรตอบคนเป็นภรรยาพร้อมชะเง้อมองนองสาวตัวเองขับรถออกไปอย่างร้อนใจ“งั้นไม่ต้องตามค่ะ” เมื่อลูกแก้วรู้สาเหตุว่าทำไมจอมขวัญถึงวิ่งหนีออกไปแบบนั้นเธอก็สั่งผู้เป็นสามีทันทีว่าไม่ต้องตามเพราะถ้าเธอเป็นจอมขวัญเธอก็จะทำแบบนี้เหมือนกัน“ทำไมล่ะคุณ” พีรพัตรหน้าเสียกับคำสั่งของลูกแก้วที่อยู่ดีๆก็มาห้ามเขาตามน้องสาวไปเสียอย่างนั้นไม่กลัวว่าจะเกิดเรื่องยุ่งบ้างหรืออย่างไร“เชื่อลูกแก้วเถอะค่ะคุณพรีมพลอยว่าปล่อยจอมขวัญไปเถอะค่ะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดเดี๋ยวพลยขอไปดูยัยหนูก่อนนะคะ”พลอยไพลินช่วยพูดอีกเสียงเพราะถ้าเป็นเธอก็คงจะปวดใจมากเหมือนกันที่คนรักของตัวเองบาดเจ็บสาหัสแต่ตัวเองไม่มีสิทที่จะรู้เลยหญิงสาวพูดจบก็ขอตัวออกมาเพราะอยากจะให้ทั้งสองพูดคุยกันเองเธอไม่อยากให้ทั้งสองรู้สึกอึดอัด“จริงอย่างที่พี่พลอยพูดนะคะคุณพรีมอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดนะคะ”“แต่มันจะวุ่นวายไปกันใหญ่นะคุณ” พีรพัตรไม่เข้าใจว่าสองพี่น้องคนนี้พวกเธอคิดอะไรกันอยู่ในเมื่อรู้อยู่ว่าถ้าจอมขวัญรู้มันต้องวุ่นวายแน่ๆเพราะเขารู้นิสัยน้องสาวของเขาดี“ลองคิดตามแก้วนะคะถ้าแก้วเกิดหา