ท่านอ๋องไร้หัวใจ

ท่านอ๋องไร้หัวใจ

By:  จันทร์ส่องแสง  Updated just now
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
21Chapters
56views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
Leave your review on App

เป็นเพราะข้าเผลอสบตาหญิงงามนางหนึ่งแต่ด้วยความขัดแย้งจึงไม่อาจบอกว่าข้ามีใจภายนอกที่เห็นจึงดูเหมือน..ไร้ซึ่งหัวใจ..

View More

Latest chapter

Interesting books of the same period

Comments

No Comments
21 Chapters

พบ

“จินเฉิงอู่ วันนี้ข้าเห็นสมควรเลือกหญิงงามที่ผ่านการคัดเลือกและฝึกฝนการเป็นนางในเรียบร้อยแล้ว ประทานให้เจ้ารับนางเป็นชายารอง”สิ่งที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ไม่รับไม่ได้ ใครกันกล่าวไว้หากไม่รับก็เพียงแค่บ่ายเบี่ยงหรือยืดเวลาไว้ก็เท่านั้น แต่จินเฉิงอู่กลับไม่แยแส“นางเป็นเพียงลูกนอกสมรสของใต้เท้าเจิ้งประทานให้เป็นชายารองของอ๋องห้าแห่งแคว้นซ่ง มิสูงศักดิ์ไปหน่อยหรือ” ใต้เท้าเจิ้งยืนอยู่ที่นั่นด้วยถึงกับหนวดกระตุกไปเลยทีเดียวเจิ้งเหมยเพียงแต่ยิ้มที่มุมปากมิได้กล่าวคำใด เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว จะไปที่ใดไม่ต่างกันจะเป็นสนมกุ้ยเหรินกุ้ยเฟยนางในหรือสาวใช้ ไม่มีสิ่งใดมาโยกคลอนจิตใจของเจิ้งเหมยได้อีกแล้ว“เช่นนั้นจะให้ข้าบังคับเจ้าหาได้ไม่ ข้าประทานให้เจ้าแล้วจะนำนางไปไว้ในตำแหน่งไหนข้าก็มิอาจยุ่งเกี่ยวได้อีกต่อไปแต่นางมิใช่ไร้ฐานันดรโดยแท้ เป็นถึงบุตรสาวของใต้เท้าเจิ้งของสี่ตระกูลใหญ่ เจ้าใจคอจะไม่ให้เกียรติใต้เท้าเจิ้งหน่อยหรือ” คำพูดเหมือนกับลองใจ จินเฉินอู๋ประสานมือขึ้นเบื้องหน้า เหลือบตาคมกริบ บนใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ คิ้วเข้มเป็นลักษณะของผู้ห้าวหาญขึ้นมองเจิ้งเหมยเพียบแว๊บเดียว“ขอบพระทัยฝ่าบ
Read more

ชีวิตเลือกอะไรได้

ค่ำคืนใน จวนอ๋องผ่านไปอย่างเรียบง่าย เช้าสดใส เจิ้งเหมยจัดการตัวเองและเตรียมพร้อมที่จะปัดกวาดในห้องทำงานที่ได้รับมอบหมายเสื้อผ้าชุดใหม่ไม่ได้มีสีสันมากนัก หน้าผมก็ไม่จำเป็นต้องแต่งเหมือนตอนอยู่ในช่วงคัดนางใน หากแต่ปล่อยให้ใบหน้าสดใสไร้เครื่องแต่งแต้มใบหน้าผุดผาดดุจมู่หลานแรกแย้ม ไม่จำเป็นต้องแต่งแต้มใดๆก็สะดุดตามากพอชายาเอกนั่งชมสวนกับสาวใช้อีกสองคน เจิ้งเหมยกำลังจะเดินผ่าน"เจ้าใช่ไหม สาวใช้ในจวนคนใหม่"เจิ้งเหมยเดินเข้าไปยืนก้มหน้า ประสานมือคารวะโยวเสวี่ยนอย่างนอบน้อม ยิ้มพิมพ์ใจ"ห้องทำงานของท่านอ๋อง เป็นที่ที่ท่านอ๋องใช้เวลาส่วนมากที่นั่น ฉะนั้นเจ้าต้องตั้งใจที่จะดูแลมันให้ดี"เจิ้งเหมยย่อตัวลงช้าๆ"เจ้าค่ะเจิ้งเหมยน้อมรับคำสั่ง ต่อไปจะดูแลที่นั่นให้ดีไม่ให้บกพร่อง"โบกมือให้เจิ้งเหมยถอยออกไป ส่งเสียงไอสองสามที เจิ้งเหมย เดินลัดเลาะจนถึงห้องทำงาน ดีแล้วแบบนี้ดีแล้วอย่างน้อยก็หลุดออกมาจากฮูหยินใหญ่ ของท่านพ่อที่คอยกดขี่ไหนจะพี่ใหญ่ที่คอยจ้องจับผิด อยู่ตรงนี้ทุกอย่างคงจะไม่เลวร้ายกว่าที่ผ่านมาห้องใหญ่ ที่เหมือนถูกปิดทึบไปเสียทุกด้าน เจิ้งเหมยเดินเปิดช่องหน้าต่างและปัดกวาดจนไม่ม
Read more

คังซื่อฮั่น

“คังซื่อฮั่น คาระวะท่านอ๋อง”ร่างสูงชลูดใบหน้าคมคาย นับว่าหล่อเหลาไม่ใช่เล่น สายตาอ่อนโยนขัดกับกระบี่ที่อยู่ข้างกายที่ดื่มเลือดคนมาไม่น้อย รอยยิ้มบางๆดังอากาศธาตุสลายไปราวกับสายหมอกยามต้องแสงสุรีย์“ลุกขึ้น ข้าแทบจะทนคิดถึงเจ้าไม่ไหว หลายวันมานี่เรื่องราวมากมายให้ขบคิด"คังซื่อฮั่นยิ้ม“ข้าน้อยได้ข่าวฝ่าบาทประทานชายารองให้กับท่านอ๋อง”“ตอนนี้นางเป็นเพียงสาวใช้”“ฝ่าบาทต้องการ ที่จะทดสอบความภักดีของใต้เท้าเจิ้งทรงไม่ไว้ใจผู้ใด หากคิดในอีกมุมหนึ่งคิดว่าหากใต้เท้าเจิ้ง ยังภักดีต้องจงใจชี้แนะบางอย่างกับบุตรสาว”“จะป้องกันอย่างไรสิ่งที่ฝ่าบาทประทานให้ไม่รับไม่ได้ อีกทั้งใต้เท้าเจิ้งเป็นถึงหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ หากหักหาญน้ำใจเกินไปก็เท่ากับไม่ให้เกียรติ”“ท่านอ๋องก็ให้นางเป็นเพียงสาวใช้ นับว่าสร้างความไม่พอใจกับใต้เท้าเจิ้งอย่างมากใต้เท้าเจิ้งดูแลคลังหลวง เป็นตำแหน่งที่ใครก็ต้องการหากจะมีใครที่จงใจให้ฝ่าบาท ไม่ไว้ใจใต้เท้าเจิ้งก็มิใช่เรื่องยาก”“ในตอนนั้น สถานการณ์บีบบังคับข้าไม่อาจคิดอะไรได้มากกว่านั้น"“ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องแยแส นางเพียงแค่สาวใช้หากวันไหนที่นางตกเป็นของท่านอ๋อง ข้าเชื่อว่า
Read more

อธิฐานเลยสิเจ้า

เสี่ยวป๋อสาวเท้าอย่างรวดเร็วยังห้องพักของ เจิ้งเหมยเกรงว่าหากช้ากว่านี้ เจิ้งเหมยพี่สาวที่น่าสงสารคนนั้นจะถูกลงโทษอีก“พี่สาวเจิ้งเหมย ท่านอ๋องให้ท่านพักอยู่แต่ในห้องห้ามออกมาเดิน”หายใจหอบเหนื่อยแต่ก็ต้องรีบพูดเพราะไม่อยากเสียเวลาแม้เพียงสักนิดเจิ้งเหมยยิ้ม นึกขำท่าทีร้อนรนของเสี่ยวป๋อ แม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนแต่ใบหน้าซื่อๆของเสี่ยวป๋อก็ทำให้เจิ้งเหมยมีรอยยิ้ม“ข้าเข้าใจ คงเกรงว่าข้าจะเผลอเอ่ยปากเรื่องถูกทำโทษ”เสี่ยวป๋อยิ้มด้วยความมละอายใจ รู้สึกว่าเจิ้งเหมยช่างเข้าใจอะไรได้ง่ายเสียจริง หารู้ไม่ว่าเจิ้งเหมยรู้ดีว่า สิ่งไหนควรพูดสิ่งไหนไม่ควรพูดในสถานะการเช่นนี้“พี่สาวเข้าใจข้าก็เบาใจ เช่นนั้นท่านพักรักษาตัวให้หายดีเสียก่อนแล้วค่อยออกมาทำงาน”เจิ้งเหมยรู้ดีว่าไม่ใช่ความผิดของเจิ้งเหมย หากองครักษ์ผู้นั้นไม่เดินมาถึงที่นี่ จวนอ๋องกว้างใหญ่หากเขาไม่จงใจใยจะเดินมาถึงที่กันดารที่สุดในจวน จินเฉิงอู่ยัดขวดยาสมานแผล ใบเล็กลงในมือของคังซื่อฮั่น ที่ทำสีหน้างงๆ“ เจ้ากำลังหาว่าข้า ใจคออำมหิตเช่นนั้นนี่คือยาสมานแผลที่ดีที่สุดที่ฝ่าบาทพระราชทานมา นำมันไปให้นางเสียบอกว่าเจ้าให้นางด้วยความหวังดี”
Read more

สบตา

“น้องชาย เครื่องเสวยเช้าท่านอ๋อง พี่สาวรบกวนเจ้านำเข้าไปข้างในให้ด้วย เสี่ยวป๋อไม่รอช้ารีบรับเครื่องเสวย จากมือของเจิ้งเหมย“ให้นางนำเข้ามา”สั่งเสียงเฉียบขาดเหมือนกับตั้งใจฟังอยู่หลังประตูนั่น เสี่ยวป๋อดันถาดเครื่องเสวยส่งคืนเจิ้งเหมยอย่างรวดเร็ว พยักพเยิดให้เจิ้งเหมยเข้าไปเร็วๆ เพื่อความปลอดภัยตัวเองกลับวิ่งออกจากตรงนั้นไปทันทีเจิ้งเหมยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วผลักประตูเข้าไป ชนเอาร่างใหญ่ที่ยืนอยู่หน้าประตูเข้าเต็มแรงข้าวต้มร้อนๆ หกราดเสื้อผ้าของจินเฉิงอู่จนเปรอะเปื้อน เจิ้งเหมยถลาเข้าปัดเสื้อที่เลอะจนใบหน้าใสชนเอากับใบหน้าคมเข้มของท่านอ๋องอย่างไม่ทันระวัง จินเฉิงอู่จับมือบางไว้แน่นจนเจิ้งเหมยรู้สึกเจ็บ สายตาคมดุดันจ้องมอง คุกเข่าลงกระแทกพื้นอย่างแรงด้วยความเคยชิน จนรู้สึกเจ็บที่หัวเข่า แต่ก็กัดฟัน ข่มความเจ็บปวด“ท่านอ๋องโปรดอภัย”จินเฉิงอู่ส่ายหน้าปัดเศษข้าวต้มที่เลอะเสื้อ ดีที่เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่มีหลายชั้นถอดเสื้อคลุมออก คังซื่อฮั่นกับเสี่ยวป๋อวิ่งมาพอดี เสี่ยวป๋อรีบไปรับเสื้อคลุมมาถือไว้ด้วยใบหน้าหวาดกลัว เจิ้งเหมยก้มหน้านิ่ง“ท่านอ๋องเสี่ยวป๋อไปสั่งห้องเครื่องนำเครื่องเสวยมา
Read more

อ๋องผู้ไร้ใจ

"ข้าไม่เป็นไรแล้ว เชิญใต้เท้ากลับเถอะ"ลุกขึ้นตั้งใจจะเดินเข้าห้องแต่กลับกะเผลก คังซื่อฮั่นไม่รีรออุ้มเจิ้งเหมยเข้าห้องไปวางไว้ที่เก้าอี้"ร่างกายเจ็บปวดกับใช้งานไม่หยุดหย่อน หากเจ้าไม่ฝืนก็ไม่เจ็บ""ขอบคุณใต้เท้า เจิ้งเหมยจะจำใส่ใจ"คำพูดห่างเหินอย่างที่คังซื่อฮั่นไม่อยากได้ยิน"เจ้าคราวหลังก็อยู่ห่างท่านอ๋องไว้ บางอย่างในใจท่านอ๋องไม่มีผู้ใดล่วงรู้นับว่าเป็นคนผู้หนึ่งที่ไม่เปิดเผยตัวตน"เสี่ยวป๋อกับคังซื่อฮั่นนั่งอยู่ด้วยกันบนโต๊ะมี ไหสุรา"นาง มักยุ่งเกี่ยววนเวียนอยู่กับท่านอ๋องแม้จะเรื่องบังเอิญก็เหมือนจงใจอีกทั้งนางยังสาวและสวยจนชายใดที่ประสบพบนางไม่ชายตาเป็นไม่ได้ ใต้เท้าคังคิดหรือไรว่าท่านอ๋องจะ ...เพียงแค่ต้องการนางเป็นแค่สาวใช้ในจวนอย่างที่พูด"เสี่ยวป๋อหารือกับคังซื่อฮั่น ที่ยกจอกสุรากระดกลงคอถี่ๆ ด้วยความคิดหลากหลาย"ท่านอ๋อง หลายครั้งที่ปฏิเสธเรื่องชายารองจากฝ่าบาท ครั้งนี้หากยอมเป็นหมากเดินตามทางที่ฝ่าบาทตั้งใจวางไว้ นับว่าแผนหญิงงามที่เคยกล่าวไว้ตั้งแต่โบราณกาลกลับใช้ได้ผล""หากคิดในด้านดีฝ่าบาทอาจจะเห็นว่าท่านอ๋องตรากตรำทำงานเพื่อราชสำนักอีกทั้งพระชายายังร่างกายอ่อนแอไ
Read more

อุ่น2

“เจิ้งเหมย ชายาเรียกเจ้า”ย่าหนานทำสีหน้ากังวล เจิ้งเหมยยิ้ม เดินมายังห้องพักที่เป็นทั้งที่อยู่ที่กิน“มาแล้วหรือเจิ้งเหมย”เจิ้งเหมย เดินเข้าไปย่อกามยต่อหน้าพระชายาที่นอนอยู่บนแท่นนอน เหมือนกำลังป่วย ยื่นขวดยาสมานแผลที่คังซื่อฮั่นมอบให้ตรงหน้าเจิ้งเหมย“ข้าลืมเลือนเสียสนิท องครักษ์คังให้ข้านำมันมามอบให้เจ้า ในคราวนั้น”เจิ้งเหมยรับมากำไว้ในมือ“เจิ้งเหมยซาบซึ้งใจยิ่งนัก ในน้ำใจของทุกคนที่นี่”พระชายายิ้มอ่อนหวานเหมือนจะไม่เคยโกรธใคร“เรื่องที่เจ้าถูกโบยถ้าหากจะโกรธใครสักคนขอให้เป็นข้าเถิด ท่านอ๋องเป็นคนที่ดุดันในแบบฉบับของแม่ทัพ ทุกอย่างในจวนล้วนมีกฏเกณฑ์ เพียงแค่เจ้าไม่ทำผิดข้าก็พอจะออกรับแทนได้ ครั้งนั้นหากไม่สั่งโบยเจ้าเสียก่อนเกรงว่าแม้แต่ชีวิตก็อาจจะรักษาไว้ไม่ได้”“เจิ้งเหมยจะจำคำสอนของพระชายา ต่อแต่นี้เจิ้งเหมยจะไม่ทำให้พระชายาลำบากใจ ”“หลายอย่างในจวนเจ้ายังต้องปรับตัวอีกมาก มีสิ่งใดที่ไม่สบายใจข้ายินดีรับฟังเสมอ คิดเสียว่าข้าเป็นดั่งพี่สาว เจ้าเองก็ใช่จะต่ำต้อยเป็นถึงบุตรตรีของใต้เท้าเจิ้ง จะให้อยู่อย่างสาวใช้เลยทีเดียวก็คงจะไม่เหมาะ”พูดเสียยืดยาว ออกจากห้องของชายาตามทางเด
Read more

สองต่อสอง

"พี่สาวเจิ้งเหมย ท่านอ๋องให้ท่านสวมชุดนี้ตามเข้าวัง"เสี่ยวป๋อส่งชุดเรียบหรูในแบบ ที่ใช้ในราชสำนักให้กับเจิ้งเหมยก่อนหน้านั้น"ท่านอ๋อง จำเป็นต้องเป็นนางด้วยหรือ""ฝ่าบาทจะด้วยจงใจหรือไม่ แต่ทรงระบุมาว่าให้ข้าพานางไปรับไทฮองไทเฮาในวังหลวง"โยวเสวียนยิ้มเศร้าๆ"ข้าร่างกายอ่อนแอ เรื่องเช่นนี้ยังไม่อาจแบ่งเบาท่านอ๋องจึงต้องฝืนใจพานางเข้าวังรับไทฮองไทเฮา""หวางเฟย อีกไม่นานก็จะแข็งแรงและเมื่อนั้นต้องเป็นเจ้าที่ข้างกายข้างทุกยาม"เกี้ยวหลังใหญ่ รอท่าอยู่ที่หน้าจวนอ๋อง เจิ้งเหมยในชุดผ้าแพรบางเบาพลิ้วไหวงดงามราวรูปวาดพู่กันจีนช่างเขียนภาพอันดับหนึ่ง ใบหน้าสว่างสดใสหากไม่ติดที่ดวงตาเศร้าสร้อยของนาง จินเฉิงอู่ขึ้นไปนั่งบนเกี้ยวเสี่ยวป๋อเปิดผ้ากั้นผายมือเชิญเจิ้งเหมยที่ทำท่าจะเดินตามเกี้ยวกระซิบเบาๆ"พี่สาว ขึ้นไปนั่งข้างบนเถิดวันนี้ท่านอ๋องอารมณ์ไม่สู้ดีนัก"เจิ้งเหมยก้าวขาขึ้นไปบนเกี้ยว จินเฉิงอู่นั่งชิดริมหน้าต่างอีกด้าน เจิ้งเหมยจึงเลือกที่จะนั่งชิดอีกฝั่งหันหน้าออกนอกหน้าต่าง"เดินทาง"เหลียงซานป๋อสั่งคนหามเกี้ยวดังๆ ท่านอ๋องห้ายังนั่งหลับตานิ่งเหมือนคนหลับ ส่วนเจิ่งเหมยเปิดหน้าต่างยื่นหน
Read more

ใจละลาย

เจิ้งเหมยดิ้นรนฮัดฮัดในอ้อมกอด จินเฉิงอู่กดคางลงบนไหล่บางจงใจให้เจิ้งเหมยรู้สึกเจ็บ"อย่าดิ้น"ยังแกะมือข้างที่กอดออกจากเอวไม่ยอมฟังคำเตือน"ท่านอ๋อง ปล่อย""เจ้า มันก็แค่สาวใช้ เช่นไรกล้าออกคำสั่งกับข้า"ใบหน้าเศร้าสร้อยกับคำกล่าวนั้น แต่ยังไม่อยู่นิ่งดึงบังเหียนให้ม้าหยุดวิ่งปล่อยให้ม้าเหยาะย่างตามใจดึงรั้งเอวบางชิดเอวหนา"อย่างไร อยู่กับข้าสองต่อสองกล้าดีอย่างไรถึงกล้าไม่ฟังคำสั่ง"เกยคางลงบนไหล่บางปล่อยให้สันจมูกโด่งเลาะเล็มอยู่ข้างแก้ม"เจิ้งเหมยเป็นเพียงสาวใช้ท่านอ๋องได้โปรด…."พูดได้เพียงแค่นั้นจินเฉิงอู่เอี้ยวตัวใช้ปากอุ่นประกบปากบาง บดขยี้อย่างที่ไม่อาจหักห้ามใจมือใหญ่ช้อนรับที่ต้นคอระหงตรึงไว้กับที่ไม่ให้ขยับบรรจงจูบจนหนำใจ จึงปล่อยเจิ้งเหมยเป็นอิสระทั้งที่เสียดายรสจูบหอมหวานนั้นเหลือเกิน แต่เจิ้งเหมยกลับอ่อนระทวยในอ้อมแขน ทั้งเขินอายและตกใจ"คราวนี้คงอยู่นิ่งได้เสียที"จินเฉิ้งอู๋ยิ้มอย่างผู้ชนะ สวมกอดแนบแน่นกระตุกบังเหียนม้าให้ทะยานไปข้างหน้า…..บ้านตระกูลเจิ้ง…..ฮูหยินตะกูลเจิ้ง และเจิ้งหมิงพี่สาวร่วมบิดากับเจิ้งเหมย ออกมารับจินเฉิงอู่หน้าบ้าน แปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นเจิ้
Read more

แรกพบ

วันส่งตัวเข้าวังเพื่อคัดนางใน ….ผู้คัดตัวนางในหลายสิบคนลงจากเกี้ยวที่หน้าประตูวังจินเฉิงอู่เข้ามาในวังแต่เช้าตรู่เช่นกัน ข้างๆกันนั้นเกี้ยวของเจิ้งเหมยหยุดก่อนถึงประตูวังตามธรรมเนียมร่างเล็กบอบบางก้าวลงจากเกี้ยวด้วยสายตาหวาดหวั่น หันมาร่ำลากับสาวใช้ที่มาส่งหันกลับมาอีกทีชนเข้ากับร่างใหญ่ของจินเฉิงอู่เข้าอย่างจัง รวบร่างบางไว้ในอ้อมแขนสบตากลมที่มีแววเศร้าสร้อยภายในนิ่งนานบางอย่างบอกเขาว่า นางช่างมีใบหน้างดงามนัก เสียดายคงจะไม่รอดพ้นสายตาของฝ่าบาทถูกคัดไปเป็นสนมของฝ่าบาทอย่าแน่นอน"ขออภัยใต้เท้า" หลบตาคมที่ส่งสายตาพึงพอใจในใบหน้างดงามยามเขินอายยิ่งน่ามอง จินเฉิงอู่เผลออมยิ้มเจิ้งเหมยเดินหลบเข้าไปในวังปล่อยเขายืนเก้ออยู่ตรงนั้นเจิ้งเหมยหลบตาคมที่มองมาอย่างคาดคั้น"ท่านอ๋องโปรดไตร่ตรอง เราสองคนแต่เดิมไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเหตุใดเจิ้งเหมยต้องอยากมาอยู่จวนอ๋องหากไม่ใช่บัญชาของฝ่าบาท""เราสองคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จริงอย่างที่เจ้าพูดเช่นนั้นวันนี้ข้าจะถือว่าข้าไม่ใช่อ๋อง เป็นเพียงบุรุษผู้หนึ่งเท่านั้น"จูบรุนแรงป่าเถื่อนเจิ้งเหมยดิ้นรนแต่กลับถูกกอดรัดมือกำแน่นทุบลงบนอกกว้างมือใหญ่กำมื
Read more
DMCA.com Protection Status