ชนวีร์และทรายทิพย์กำลังจะแต่งงานกันแต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อทรายทิพย์เสียชีวิตลงโดยที่ก่อนตายเธอบอกว่าโดนวางยา และเข้าเชื่อว่าคนร้ายจะต้องเป็นจอมขวัญเพื่อนรักของเธอที่แอบรักเขาอย่างแน่นอน! เขาฟ้องร้องเธอแต่ก็เอาผิดเธอไม่ได้จนกระทั่งผ่านไป 3 ปี จอมขวัญยื่นใบสมัครเข้ามาทำงานในบริษัทของเขาและครั้งนี้เขาจะทำให้เธอได้รับรู้รสชาติของความเจ็บปวดอย่างแท้จริง
View Moreตอนพิเศษ...รักวุ่นๆ ของหนุ่มตัวอ้วนเด็กหญิงตัวน้อยกำลังร้องไห้งอแงเพราะโดนพี่ชายคนกลางแกล้ง แขนเล็กพยายามจะตีพี่ชายแต่อีกฝ่ายก็ทำท่ายึกยักจะโดนก็ไม่โดนพอเธอเอามือออกพี่ชายก็เข้ามาใกล้“กาง กาง ฮือ” ยังพูดเป็นประโยคไม่ได้แต่เธอก็พยายามจะสื่อสารออกมา“ตากลางแกล้งอะไรน้องอีกล่ะลูก” คุณแม่คนสวยเดินเข้ามาหาลูกสาวคนเล็กในห้องที่เต็มไปด้วยของเล่นของเด็กน้อย อันที่จริงเธอกับสามีซื้อให้ลูกไม่ได้เยอะขนาดนี้ แต่เป็นของพี่ๆ ที่ตกทอดมาสู่น้อง และบริษัทคู่ค้าของสามีก็ขยันส่งของมาดีเหลือเกินจนห้องเต็มไปด้วยของเล่นเด็กแทบไม่มีที่จะเดินแล้ว“เปล่านะครับแม่ กลางแค่มาหยอกน้องเอง น้องจะหัวเราะอารมณ์ดีไง” เด็กแสบยิ้มประจบมารดาหลังจากที่เธออุ้มลูกสาวพลางลูบหลังปลอบจนเด็กน้อยคลายความหงุดหงิดที่พี่ชายมากวน“แม่ ตี ตีกาง” ยายน้องหรือคุณหนูลูกจัน จันทนิภา กิจขจรไพศาลเด็กหญิงวัยสองขวบที่เพิ่งจะพูดได้ไม่กี่คำบอกแม่ให้ทำโทษพี่ชายตัวเอง“ตีหรือคะ พี่กลางแกล้งหนูใช่ไหม” คุณแม่หันมาถามซึ่งสาวน้อยก็พยักหน้าทันที“อะไรกัน พี่ไม่ได้แกล้งน้องสักหน่อย”“เดี๋ยวเถอะตากลาง แม่จะไม่ทำขนมให้ลูกกินนะครับ”ได้ยินแม่ขู่แบบนั้น
บทส่งท้ายหลังจากผ่านเรื่องร้ายต่างๆ มา ชนวีร์ก็ได้เข้าไปขอขมาครอบครัว จอมขวัญอย่างเป็นทางการเมื่อเขาหายจากอาการบาดเจ็บพอที่จะเดินเหินสะดวกแล้ว พร้อมทั้งยังพูดเรื่องแต่งงานกับเธออีกด้วยแต่ครอบครัวจิดากุลบอกว่าทางบ้านถือเรื่องแต่งงานทั้งที่ยังท้องว่าจะทำให้เลิกกันจึงบอกให้รอลูกออกมาเสียก่อนค่อยจัดงานแต่ง ซึ่งก็มีทั้งที่บ้านของฝ่ายหญิงก่อนจะมาฉลองที่บ้านฝ่ายชายด้วยเช่นกัน“ขวัญเป็นอย่างไรบ้างครับ” ร่างสูงวิ่งกระหืดกระหอบมา หลังจากประชุมเสร็จ ใบหน้าคมเข้มมีเหงื่อผุดขึ้นเต็มเพราะวิ่งขึ้นบันไดมา รอลิฟต์ก็แสนจะช้าไม่ทันใจคุณพ่อมือใหม่ตอนนี้ครอบครัวจอมขวัญรอหน้าห้องคลอดมีทั้งพ่อตูมตาม แม่ยิ้ม ยายขิม ตาเม่นและกองทัพซึ่งลาหยุดเพื่อมาดูหน้าหลานคนแรกโดยเฉพาะ“ไม่รู้เหมือนกัน รอนานแล้วยังไม่ออกมาเลย” แม่ยิ้มตอบด้วยความกังวล“น้ำไหมพี่” กองทัพเอ่ยทักก่อนยื่นน้ำเปล่าให้ชนวีร์เขารับแล้วกรอกเข้าปากทันทีด้วยความเหนื่อยอีกทั้งตื่นเต้นด้วยว่าลูกจะออกมาหน้าตาอย่างไร แข็งแรงไหม จะหน้าเหมือนพ่อหรือเหมือนแม่ ตอนจอมขวัญท้องเขาดูแลไม่ห่างซื้อหนังสือมาอ่านโดยเฉพาะรอบรู้มากกว่าคุณแม่เสียอีก“ขอบใจมาก” เขาต
๒๕จากนี้และตลอดไปการเดินทางไปกลับระหว่างกรุงเทพฯ กับขอนแก่นของชนวีร์ทำให้เขาเมื่อยล้ากว่าที่คิดมากนัก เขานั่งเครื่องบินบ้างและให้คนขับรถให้บ้างสลับกันไปงานที่บริษัทก็หนัก บางครั้งก็ต้องบินไปต่างประเทศเพื่อติดต่องานกับลูกค้า เหลืออีกเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้นก็จะครบสามเดือน แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่ามันนานเหลือเกินอาจจะเป็นเพราะว่าเขาต้องทำงานหลายอย่างก็เป็นได้วันนี้ชนวีร์เคลียร์งานทุกอย่างแล้วขับรถมาขอนแก่นเพียงลำพังไม่ได้ให้ลูกน้องตามมา“สวัสดีครับ” เขาแวะเข้ามาที่บ้านผู้ใหญ่บ้านเพื่อทักทายสวัสดีก่อน เป็นแบบนี้ทุกครั้งก่อนจะกลับไปอยู่ที่กระท่อมโล่งซึ่งตอนนี้เขาก็เริ่มชินกับมันเสียแล้ว ลมธรรมชาติเย็นสดชื่นเสียยิ่งกว่าเครื่องปรับอากาศเสียอีก“มาเสียค่ำเชียว กินข้าวกินปลาหรือยัง” แม่ยิ้มเอ่ยถามเพราะตอนนี้ครอบครัวของนางกำลังจะรับประทานอาหารจอมขวัญที่ถือข้าวมาก็หันมามองเขาสักครู่ก่อนเดินเลี่ยงไปทางอื่น ชนวีร์มองหน้าหล่อนแล้วก็ชื่นใจ แค่เห็นเท่านี้เขาก็พอใจมากแล้ว“ยังเลยครับ” กะจะพูดต่อว่าขอฝากท้องด้วยแต่พ่อตูมตามก็เดินมามองตาขวางเสียก่อน“งั้นเอ็งก็มากินด้วยกัน จะได้รีบกลับไปอาบน้ำ
๒๔บทพิสูจน์วันต่อมาชนวีร์ก็ยังกลับมาที่หน้าบ้านเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้แปลกที่เขาได้ถูกเชิญให้เข้ามาภายในบ้านหลังนี้ดวงตาเรียวสำรวจรอบบ้านที่ถูกตกแต่งไว้อย่างน่ารัก มีรูปครอบครัววางไว้บ้างในบางมุม เขาดูรูปจอมขวัญตอนเด็กแล้วก็ต้องยิ้มออกมาเมื่อคิดว่า..ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปมากเพียงใดเพื่อเขา แล้วต่อจากนี้ไปเขาจะตอบแทนด้วยการดูแลเธอไปตลอดชีวิตเอง“นั่งลงสิ จะยืนอีกนานไหม” ตาเม่นพูดเสียงเข้มแม้จะไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้จอมขวัญขอตัวออกไปข้างนอกเพราะไม่อยากทนที่จะเห็นหน้าเขาในบ้านของตัวเอง ตอนนี้จึงมีตาเม่น ยายขิม พ่อตูมตาม แม่ยิ้ม แล้วก็กองทัพเท่านั้น“สวัสดีครับ” เขานั่งลงบนโซฟาแล้วยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อมแต่บุรุษสองคนกลับไม่ยอมรับจนเขาอดหน้าเสียไม่ได้“สวัสดีนะครับ ผมกองทัพน้องชายของพี่ขวัญ” ลูกชายคนเดียวของบ้านแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความเป็นมิตรอยู่ในนั้นเลย..แน่นอนละถ้าไม่เห็นว่าพี่สาวของเขารักผู้ชายคนนี้มากขนาดไหนคงไม่มีวันที่เขาจะยอมยกจอมขวัญให้หรอก“ครับ ผมชนวีร์” เขาเอ่ยแนะนำตัวบ้างก่อนที่พ่อตูมตามจะเอ่ยขึ้นมา“เอาละ ที่ผมยอมให้คุณเข้ามาไม่ได้มาจากความเต็มใจเลย”
๒๓จนกว่าเธอจะใจอ่อน“พ่อทำแบบนี้ได้ยังไง” เสียงแม่ยิ้มเอ่ยถามสามีตนเองด้วยความผิดหวังหลังจากเพื่อนบ้านมาถามไถ่ถึงเรื่องผู้ใหญ่บ้านสามีของนางเอาปืนยิงชายหนุ่มตัวสูง เธอเดาได้ทันทีว่าคนที่กล่าวถึงเป็นใครก่อนจะตามมาถามสามีถึงในไร่“ทำอะไรแม่” กำลังคุมคนงานอยู่ก็ต้องหันมาถามภรรยาที่รักว่าเกิดอะไรขึ้น“พ่อยิงคุณชนวีร์ใช่ไหม” ถามเสียงเครียดแต่พ่อตูมตามกลับไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร“แค่ถากไม่โดนหรอก” ตอบมาอย่างไม่ยี่หระต่อสิ่งที่ตนเองทำแม้ว่าจริงๆ แล้วจะรู้สึกผิดอยู่บ้างแต่ด้วยทิฐิที่มีมากจึงทำเป็นนิ่งเฉย“แล้วถ้าเขาฟ้องพ่อจนติดคุกติดตารางขึ้นมา จะทำยังไง ทำไมไม่คิดบ้างนะ หัวมีแต่ขี้เลื่อยหรือไง” ยิ่งพูดยิ่งอารมณ์เสียกับสามี..ปกติเป็นคนอ่อนโยนแท้ๆ แต่ทว่ามาคราวนี้กลับมุทะลุจนคนเป็นเมียตามแทบไม่ทัน เข้าใจแล้วก็วันนี้ว่าเหนือพ่อของตนเองยังสามีที่หวงลูกสาวมากขนาดไหน“พ่อขอโทษจ้ะแม่”“คนที่พ่อควรขอโทษไม่ใช่แม่ ไปขอโทษคุณวีร์เขานู่น” ว่าจบก็ไม่ฟังคำตอบอะไรอีกแม่ยิ้มเดินออกมาจากสวนขับมอเตอร์ไซค์ออกไปทันทีปล่อยผู้ใหญ่บ้านมองตามตาละห้อย..ทะเลาะกับเมียไม่เว้นวันจริงๆ ไอ้ตูมตามเอ๊ย“ไม่มีทางหรอก” ว่าแ
๒๒ลูกเขยไม่ซ่าเพราะพ่อตาสุดโหดร่างหนาบนเตียงเริ่มขยับ ทำให้คนที่เฝ้าหันไปมองด้วยความสนใจทันที ตาเรียวยาวค่อยๆ ปรือมองบริเวณโดยรอบก่อนจะเห็นคนที่นั่งเฝ้าก็อดถอนหายใจไม่ได้..ไม่เคยได้ญาติดีกันเลยแต่คราวนี้ทำไมคนที่เฝ้าเขาดันเป็นลูกน้องที่แอบหลงรักเมียเขาไปเสียนี่“หมอบอกว่าให้คุณพักผ่อนให้พอ ฉีดยาให้แล้วเพราะคุณเป็นไข้ อ่อนเพลีย”สองหนุ่มมองหน้ากันนิ่งราวกับจะหยั่งเชิงกันและกันเป็นปนิธิที่ถอนหายใจออกมาเสียก่อน เขาลุกออกไปทิ้งไว้เพียงชนวีร์ที่มองตามก่อนจะเริ่มสังเกตโดยรอบว่าที่นี่เป็นเพียงสถานีอนามัยเล็กๆ มีที่นอนเหมือนห้องพยาบาลที่โรงเรียน มีเพียงม่านกั้นเตียง เตียงก็เล็กประมาณสามฟุต อยากจะลุกขึ้นแต่ร่างกายกลับล้าไปหมดเลยทำได้เพียงแค่นั่งพิงหัวเตียง มองด้านข้างก็เห็นน้ำเปล่าเขาจึงดื่มเข้าไปด้วยความกระหาย“ที่ผมมาหาขวัญวันนี้ก็กะว่าจะเอาของสำคัญมาให้เขา แต่ผมคิดว่าคนที่ควรจะได้มันน่าจะเป็นคุณ” สมุดเล่มหนึ่งถูกวางไว้ตรงหน้าตักชนวีร์“ขอให้หายเร็วๆ นะครับท่านประธาน แล้วเจอกันที่ทำงาน” ร่างสูงกล่าวจบก็หันหลังจะเดินออกไปแต่กลับคิดอะไรบางอย่างออกมาได้ “ขวัญเขารักคุณมากนะ ถ้าคุณได้โอกาสจากเ
๒๑ผมขอโทษข่าวงานแต่งของนักธุรกิจหนุ่มล่ม ดังชั่วข้ามคืน สื่อพากันตีแผ่ถึงเรื่องราวต่างๆ ตามที่ได้รู้มาจากแขกที่ไปร่วมงาน เนื่องมาจากเจ้าของงานได้กันสื่อมวลชนให้อยู่แต่เพียงด้านนอกเท่านั้นข่าวดังเพียงช่วงเช้า บ่ายมาก็เงียบหายราวกับเรื่องไม่เคยเกิดขึ้นเพราะคุณชนวัตรได้ทำการปิดข่าวทุกแขนง เรื่องจึงเงียบหายไปในที่สุดโทรทัศน์ถูกปิดเมื่อการรายงานข่าวจบลง ร่างบางพยายามไม่สนใจแล้วเดินไปยังครัวเพราะต้องไปส่งขนมช่วงเช้า เธอทำใจได้มากขึ้นหลังจากที่เขากลับไปแล้วไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย คนในบ้านยังไม่มีใครรู้ว่าคนที่เป็นพ่อเด็กคือใครและเธอก็คิดไว้แล้วว่าจะปิดเรื่องนี้ให้เป็นความลับต่อไป เพราะถึงเปิดเผยไปก็ไม่มีผลดีกับใครทั้งนั้น“ขวัญไปก่อนนะคะ แล้วจะรีบกลับมา” บอกคนในครอบครัวแล้วก็ขับรถออกไปทันทีในระหว่างทางก็คิดถึงเรื่องราวที่ได้รับรู้ทางโทรทัศน์..งานแต่งของเขาถูกยกเลิกแล้วอย่างนั้นหรือ เกิดอะไรขึ้นกันทำไมถึงยกเลิกกะทันหันแบบนี้คำถามร้อยแปดวนเวียนไปเรื่อยจนเธอเกือบจะหลงทางเสียแล้ว ดีที่ดึงสติของตนกลับมาได้ทันหลังจากส่งขนมเสร็จก็เข้าห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของใช้ที่หมดแล้ว เธอมองดูเสื้อผ้าเด็
๒๐ความจริงเปิดเผยจอมขวัญขับรถตรงกลับบ้านแต่ระหว่างทางก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา รถกระบะของพ่อเธอดันมาเสียกลางทางและแน่นอนว่าเธอซ่อมไม่เป็น..แล้วอย่างนี้จะทำอย่างไรดีมือบางปาดน้ำตาที่ไหลลงมาก่อนจะลงรถเพื่อไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เธอยกกระโปรงรถขึ้นเพื่อเช็กเครื่องที่พอจะมีความรู้อยู่บ้างในเรื่องนี้แต่ก็พบว่ามันปกติจนกระทั่งเธอเหลือบไปเห็นล้อหน้าที่แบนอย่างชัดเจน“โธ่เอ๊ย!” อยากจะกุมขมับ..ทำไมยางต้องมาแบนด้วยนะ ตอนนี้เธอกำลังอยู่บนถนนปากทางของตำบลที่เธออยู่ กว่าจะขับเข้าไปในหมู่บ้านของเธอก็ใช้เวลากว่ายี่สิบนาที“โทรศัพท์” คิดได้ก็รีบควานหาโทรศัพท์ทันทีแต่ดันลืมว่าเมื่อคืนไม่ได้ชาร์ตไว้ทำให้โทรศัพท์เธอนอนตายอยู่ในรถไม่สามารถทำอะไรได้ ยิ่งทำให้จอมขวัญเจ็บใจเข้าไปอีกทางเดียวที่ทำได้คือการเปลี่ยนล้อรถยนต์ก่อน ร่างบางหาอุปกรณ์หลังรถก่อนจะพยายามมุดใต้ท้องรถเพื่อเอายางรถสำรองออกมาแต่ดูเหมือนมันจะยากเหลือเกิน“ว้าย!” เสียงร้องตกใจพร้อมกับร่างบางที่ออกมาจากใต้รถเพราะมีคนมาจับขาเธอ พอเห็นคนฉวยโอกาสก็หน้าบึ้งทันทีเป็นชนวีร์ที่ขับรถตามมานั้นเอง เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเพียงแค่อยากรู้ว่าเธอจะจัดการก
๑๙เข้าใกล้ร่างสูงเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของเพื่อนรักตนเอง เพราะแน่ใจว่าชนวีร์ไม่อยู่อย่างแน่นอนเนื่องจากเขาถามเลขาของเพื่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้วและได้ข่าวว่าตอนนี้เพื่อนตัวดีไปทำงานที่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้นทางวันนี้สะดวกแน่นอน คุณลุงกับคุณป้าก็ไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดเตรียมตัวลุยกับงานแต่งของลูกชายคนเดียวดังนั้นจึงเหลือสาวน้อยคนเดียวที่อยู่ภายในบ้านหลังนี้นั้นก็คือ“พี่พีร์”“น้องมิน” บุษบามินตรานั่งอ่านนิตยสารอยู่ที่ห้องรับแขกอย่างสบายอารมณ์ มีเสียงเพลงเปิดคลอเบาๆ ไร้ซึ่งอาการของคนที่ถูกบังคับให้แต่งงานโดยสิ้นเชิง..แบบนี้มันยิ่งกว่าอยากแต่งเสียอีกพีรยศคิดในใจ“พี่พีร์มีธุระอะไรกับมินหรือเปล่าคะ” มือบางปิดนิตยสารลง ใบหน้าหวานอมยิ้มเพียงเล็กน้อย“พี่อยากมาฟังจากปากน้องมิน ว่ามินรักไอ้วีร์หรือเปล่า”..เอาวะ ขอสวมบทบาทเล่นละครสักเล็กน้อยหน่อยแล้วกัน ถึงจะไม่ถนัดก็เถอะ“มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะคะว่ามินจะรักหรือไม่รักพี่วีร์ เพราะไม่ว่ายังไงมินก็ต้องแต่งงานกับพี่วีร์อยู่แล้ว” ตอบกลับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะพูดประโยคเจ็บ..นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงได้น้ำตาตกในเป็นแน่“และอีกอย่าง ถึงมินจ
Comments