แชร์

๒ แสนดี

แสนดี

แม้จะเป็นเวลาเช้าแต่จอมขวัญก็มาถึงบริษัทแล้ว หญิงสาวเป็นคนตรงต่อเวลาพอสมควร

ตัวตึกที่สูงยี่สิบสามชั้นทำให้ไม่ดูโดดเด่นมากนักเพราะตึกโดยรอบก็มีความสูงประมาณนี้ ตึกทำด้วยกระจกใสเกือบทั้งหมดและทุกชั้นของตึกนี้เป็นของบริษัทเคเคโภคภัณฑ์ เพราะชนวีร์ได้ทำการซื้อจากผู้บริหารรายอื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“สวัสดีค่ะป้าแม้น”

เพราะมาเช้าเกือบทุกวันตั้งแต่เข้าบริษัท สัปดาห์นี้ก็เป็นสัปดาห์ที่สองแล้วที่เธออยู่มาทำให้ได้รู้จักกับแม่บ้านและยามหน้าตึก เธอมักจะซื้อโจ๊กหรือไม่ก็ผลไม้มาฝากเสมอจนทุกคนต่างหลงรักเธอ

จอมขวัญเป็นที่เอ็นดูของผู้ใหญ่ด้วยเพราะเธอคุ้นเคยกับผู้ใหญ่และยายก็สอนเสมอให้เป็นเด็กที่อ่อนน้อมตลอดเวลา

“สวัสดีค่ะ หนูขวัญมาเช้าจริง”

“พอดีขวัญกลัวรถติดน่ะค่ะ ป้าแม้นคะ ขวัญซื้อผลไม้มาฝากค่ะ พอดีตอนเช้าไปจ่ายตลาด ป้าแม้นชอบฝรั่งกับส้มใช่ไหมคะ” หญิงสาวยื่นถุงให้ทำเอาคนแก่ปลื้ม

“ใช่ค่ะ แต่ไม่ต้องซื้อให้ป้าก็ได้ เกรงใจเปล่าๆ”

“ไม่ต้องเกรงใจเลยค่ะ ไม่ได้ลำบากอะไร ขวัญไปก่อนนะคะ”

ออกจากห้องชงกาแฟจอมขวัญก็เดินไปยังแผนกของตัวเอง เธอนั่งทำงานที่คั่งค้างซึ่งก็มีไม่มากเพราะหญิงสาวไม่ชอบทำอะไรให้ค้างเธอมักจะจัดการกับงานให้เสร็จก่อนที่จะกลับบ้านเสมอ

“ขวัญ มาเช้าจังเลย พี่อุตส่าห์รีบตื่นกะจะมาก่อนเสียหน่อย” ดาหวันยิ้มมาแต่ไกล ก่อนจะเดินมานั่งยังโต๊ะของเธอที่อยู่ใกล้จอมขวัญ

“ขวัญกลัวรถติดน่ะค่ะ แล้ววันนี้ทำไมพี่ดามาเช้าจังเลยคะ”

“แฟนพี่เขารีบไปทำงาน พี่เลยต้องรีบด้วย”

หัวหน้าของเธอแต่งงานมีลูกมีสามีแล้ว และลูกของดาหวันก็ช่างน่ารักเสียจริงท่าทางโตขึ้นมาจะรูปหล่อจากรูปที่ดาหวันชอบให้เธอดูเป็นประจำตามประสาแม่ที่เห่อลูกนั่นเอง

“พี่ดากินข้าวหรือยังคะ”

“พี่เรียบร้อยมาจากบ้านแล้วจ้ะ”

จอมขวัญกับดาหวันคุยกันไปสักพักก่อนที่ดาหวันจะลงไปหาซื้อของรองท้องเพื่อกินตอนสิบโมง

จอมขวัญนั่งทำงานไปสักพักสองสาวช่างเม้าธ์ก็มาคุยด้วย และต่อมาหัวหน้าแผนกสุดหล่อก็มาถึง ปนิธิเดินยิ้มมาหาจอมขวัญ

“สวัสดีครับ” แม้จะทักทายทุกคนแต่สายตากลับมองไปที่จอมขวัญทำเอาสองสาวถึงกับค้อนใส่รุ่นน้องอย่างอิจฉา

แต่จอมขวัญก็ไม่ได้รู้อะไร เธอยิ้มตอบ

“สวัสดีค่ะหัวหน้า” สองสาวตอบรับ

แผนกบัญชีมีพนักงานเพียงแค่สี่คนรวมหัวหน้าแผนกด้วยก็เป็นห้าคนทำให้รู้จักและสนิทกันพอสมควร

“กินข้าวกันรึยังครับ” ทั้งหมดตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าเรียบร้อยเขาจึงเดินเข้าห้องไป

ลับหลังปนิธิ วานิสาและอพิญญาก็ตรงมาที่จอมขวัญทันที

“ขวัญกับคุณปันเป็นอะไรกันอะ”

คำถามนั้นนำมาซึ่งความสงสัยให้แก่สาวน้อยร่างบาง

“ก็เป็นพี่น้องร่วมสถาบันนี่คะ” คำตอบนั้นไม่ได้สร้างความกระจ่างและนำมาซึ่งความไม่พอใจอยู่นิดหน่อย สองสาวมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าและย้ายที่เม้าธ์ทันที

จอมขวัญมองตาม ส่ายหัวแล้วก้มลงดูเอกสารการเงินต่อ

“ฉันว่าคุณปันชอบน้องขวัญชัวร์ แน่นอน ฟันธง!” วานิสาพูดขึ้นในขณะที่มาซื้อของกินอยู่ที่ช็อป อพิญญาพยักหน้าเห็นด้วย

“ใช่ แต่น้องขวัญฉันไม่รู้อะ และเหมือนน้องแกจะไม่รู้ด้วยนะว่าเจ้านายของเราชอบ”

“น้องขวัญ ฉันว่าอาจจะชอบแต่เก็บไว้ เป็นผู้หญิงไว้ตัวไง”

“ไม่ใช่หรอกค่ะ!”

เสียงที่ขัดขึ้นมาทำให้ทั้งสองสะดุ้งตกใจแล้วก็พบสามสาวแก๊งสวยเลิศแห่งบริษัทนำทีมโดยณัฐนิตา จากแผนกการตลาดและสองเพื่อนรัก ชลธิชาและมณีวรรณจากแผนกเดียวกันนั่นเอง

“คือนิต้าเนี่ยเป็นเพื่อนร่วมสถาบันกับทั้งสอง นิต้าจะพูดให้ฟังเองนะคะว่าคนที่ตามตื๊อพี่ปันคือขวัญ”

คำพูดของณัฐนิตาไม่มีความน่าเชื่อถือในความรู้สึกของสองสาวเลย   สักนิด

“ไม่เชื่อสินะคะ นิต้าจะเล่าให้ฟัง ตอนแรกขวัญตื๊อพี่ปันแต่พี่ปันไม่เล่นด้วยเพราะเห็นเป็นพี่น้อง แต่ไปๆ มาๆ  กลับกลายเป็นว่าพี่ปันต้องมาตามขวัญ ตอนแรกนิต้าก็ไม่รู้นะคะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนหลังเขาว่ากันว่า ขวัญได้พี่ปันแล้วเลยทิ้ง เหมือนพวกล่าแต้มอะไรประมาณนี้น่ะค่ะ”

เนื้อเรื่องดูเกินจริงไปหน่อยเพราะเท่าที่ดูมาจอมขวัญไม่มีทีท่าว่าจะเป็นคนแบบนั้นเลยสักนิด

“เอ่อ เราขอตัวก่อนดีกว่า” เมื่อไม่มีอะไรจะพูดสองสาวก็เดินออกมาโดยไม่ได้หยิบขนมติดมือมาด้วย

ณัฐนิตามองสองสาวยิ้มๆ ทำให้เพื่อนที่มามองด้วยความงง

“นิต้ายิ้มอะไร”

“ก็ยิ้มให้กับความสำเร็จไงล่ะ”

เพื่อนทั้งสองมองหน้ากันอย่างฉงนเพราะเมื่อกี้ไม่เห็นประสบความสำเร็จเท่าที่ควร สองคนนั้นแทบจะไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำ

“ไม่ต้องทำหน้าโง่ขนาดนั้นหรอก!  เธอไม่สังเกตเหรอว่าฉันพูดเสียงดัง แถมเมื่อกี้คนก็น้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ”

ได้ยินเฉลยแบบนั้นเพื่อนทั้งสองก็ยิ้มออกมาทันทีแม้ตอนแรกจะไม่ชอบใจที่ณัฐนิตาว่าตนเองโง่ก็ตาม

“คนเราไม่คิดหรอกว่าเรื่องที่ได้ยินมันจะจริงไหม ยิ่งเรื่องของคนที่เพิ่งเข้ามาแถมไม่รู้จักอีกต่างหาก ข่าวเมื่อกี้อีกไม่นานมันก็จะแพร่สะพัดไปตามแรงลมปากคน เชื่อฉันเถอะ” สาวสวยยิ้มสมใจแล้วเดินออกไปจากร้านปล่อยให้เพื่อนเดินตามและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเพื่อนของเธอช่างฉลาดล้ำและร้ายลึกเสียจริง

และก็เป็นอย่างที่ณัฐนิตาคาด ข่าวลือของจอมขวัญและปนิธิแพร่กระจายไปทั่วบริษัทมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ และยิ่งไม่ชอบก็ยิ่งใส่ไฟทำให้กลายเป็นเรื่องราวอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องเล่าปากต่อปากทำให้ความจริงผิดเพี้ยนไปค่อนข้างมาก

“จริงเหรอ จอมขวัญเนี่ยนะ” สองสาวแผนกประชาสัมพันธ์พูดคุยกันขณะที่ว่างจากการทำงาน

“ใช่ เขาว่าฟันคุณปันแล้วทิ้ง เป็นผู้หญิงล่าแต้ม”

“คุณพระ! เห็นหน้าติ๋มๆ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนแบบนั้นไปได้”

“นั่นสิ แต่ฉันก็ว่าแล้วเชียวว่าผู้หญิงคนนี้ต้องร้ายลึกมากแน่ๆ เล่นเอาคุณปันหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเสียขนาดนั้น เช้าถึงบ่ายถึงเย็นถึง คงสนุกเลยละสิท่า” หญิงสาวเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ ด้วยความที่เธอไม่ชอบจอมขวัญเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย 

สองสาวยังคงพูดคุยกันถึงเรื่องของปนิธิและจอมขวัญจึงไม่รู้ว่ามีผู้มายืนฟังอยู่

“หึ! ผู้หญิงเลวๆ อย่างเธอจะต้องตกนรกทั้งเป็นแน่!” ว่าจบเขาก็เดินออกนอกบริษัทเพื่อไปรับลูกค้าที่สนามบิน โดยไม่รู้เลยว่าเดินสวนทางกับน้องสาวที่เข้าบริษัทมาพอดีนั้นเอง

บุษบามินตราน้องสาวที่เขารักและเอ็นดู เป็นลูกติดของน้าบุษบา แม่เลี้ยงของเขาซึ่งเป็นญาติห่างๆ ของแม่เขาและเลี้ยงดูเขามาแต่เด็ก พอแม่เสียชีวิตพ่อก็ได้น้าบุษบาช่วยปลอบใจและตกลงปลงใจกัน เขาไม่โกรธพ่อเพราะน้าบุษบาก็เป็นคนดี อีกอย่างในเมื่อแม่ก็เสียไปแล้วจะให้พ่อจมอยู่กับทุกข์ตลอดมันก็ไม่ควร

“สวัสดีค่ะคุณโอ๋ คุณติ๊ก มินซื้อขนมมาฝาก” เพราะเข้าออกบริษัทนี้ประจำทำให้เธอรู้จักกับสองสาวขาเม้าธ์เป็นอย่างดี

“สวัสดีค่ะคุณมิน” โอ๋ยิ้ม รับของจากมินตรา เธอมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างอดอิจฉาไม่ได้ มินตราสวยหวานผิวก็ขาวเนียน ใบหน้าหวานตาโต จมูกโด่งพองาม ปากเล็กจิ้มลิ้มรวมกันแล้วผู้หญิงตรงหน้าเธอดูน่ารักมากแถมหุ่นก็สูงราวกับนางแบบ

“เอาไปแบ่งกันนะ มินไปแล้ว” ร่างบางโบกมือลาแล้วขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่พี่ชายของตนเองทำงานอยู่ทันที แต่ยังไม่ทันจะถึงห้องเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นเสียก่อนหยิบออกมาดูก็พบว่าเป็นเพื่อนของพี่ชายโทรมา

“สวัสดีค่ะพี่พีร์” เสียงหวานเอ่ยทัก

“น้องมินอยู่ไหนครับ”

มาถึงหน้าห้องมินตราก็ยิ้มให้กับเลขาของชนวีร์

“มินอยู่หน้าห้องพี่วีร์ค่ะ พี่พีร์แค่นี้ก่อนนะคะ มินจะเข้าไปหาพี่วีร์แล้ว” ยังไม่ทันที่ปลายสายจะได้เอ่ยอะไรบุษบามินตราก็กดตัดสายจากเขาเสียก่อนแล้วลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพื่อนพี่ชายคนนี้ช่างตื๊อเธอเสียจริง

“คุณวิไลใช่ไหมคะ” เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเธอมาหาพี่ชายทำให้รู้จักคนมากมาย

“ใช่ค่ะ”

บุษบามินตรายิ้มแล้วเอาของที่ซื้อมาเป็นขนมให้เลขาของพี่ชายตนเอง

“มินซื้อมาฝากค่ะ พี่วีร์อยู่ในห้องใช่ไหมคะ”

“คุณชนวีร์ไปหาลูกค้าค่ะ ไปเมื่อสักครู่นี้เอง”

คำตอบของเลขาหน้าห้องทำให้ร่างบางหน้ามุ่ยทันที เธออุตส่าห์ว่างมาหาพี่ชายซึ่งมีเวลาว่างไม่ค่อยบ่อยนักแต่พี่ชายคนดีกลับไม่อยู่เสียนี่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ ถ้าอย่างนั้นมินไม่รบกวนแล้วกลับเลยดีกว่า” เธอส่งยิ้มให้เลขา

“คุณมินมีธุระอะไรจะฝากไว้ไหมคะ”

อีกฝ่ายก็ส่ายหน้าเป็นพัลวัน

“ไม่ค่ะ มินแค่แวะมาหาพี่วีร์ว่าจะชวนไปดูหนังตามประสาพี่น้องเฉยๆ  ขอบคุณมากเลยนะคะ อ้อ คุณวิไลคะถ้ามีผู้หญิงมาเกาะแกะพี่วีร์อย่าลืมบอก   มินด้วยนะคะ จะคัดกรองให้เสียหน่อย นี่เบอร์มินค่ะ” นามบัตรถูกส่งให้เลขาหน้าห้องก่อนที่เธอจะเดินออกไปแต่ระหว่างนั้นหญิงสาวก็ต้องชะงักทันที เมื่อพบกับคนคุ้นเคยที่ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกครั้ง

“พี่ขวัญ!”

จอมขวัญมองตามเสียงเรียกก็อึ้งเมื่อเจอกับรุ่นน้องที่เธอสนิทด้วยเพราะไปหาทรายทิพย์ที่บ้านเป็นประจำ บุษบามินตรานั่นเอง เมื่อก่อนเธอสนิทกับหญิงสาวมากเพราะบุษบามินตราเป็นคนร่าเริงอัธยาศัยดีทำให้เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ยกเว้นเสียแต่ทรายทิพย์เท่านั้นที่ดูเหมือนจะเข้ากับน้องคนนี้ไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่ในความคิดของจอมขวัญ

“มิน” เธอกำลังจะเอาเอกสารมาให้ท่านประธานใหญ่เซ็นแม้จะกลัวแต่ก็ต้องมาเพราะหน้าที่

“ไม่คิดว่าจะเจอพี่ขวัญที่นี่ พี่ขวัญสบายดีไหมคะ” ร่างบางเดินตรงมาหาจอมขวัญด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตามปกติ

“พี่สบายดีค่ะ พอดีว่าพี่ได้งานที่นี่”

คำตอบของจอมขวัญก็สร้างความฉงนให้เธอไม่น้อยเพราะเมื่อย้อนไปสามปีก่อนพี่ชายของเธอเกลียดจอมขวัญมากเสียด้วยซ้ำไป

งานศพของทรายทิพย์

จอมขวัญเดินเข้ามาภายในศาลาด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยเพราะเสียเพื่อนรักไป บริเวณศาลาเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่มาเคารพศพของผู้ตายเพราะรู้จักกับบิดาของชนวีร์ เพื่อนของชนวีร์ และเพื่อนของทรายทิพย์ทุกคนล้วนอยู่ในอาการเศร้าเสียใจ

ร่างบางเดินเข้ามาโดยมีสายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่เธอ เพราะเมื่อไม่นานชนวีร์แจ้งความจับจอมขวัญเรื่องที่เธอวางยาทรายทิพย์ ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมขึ้นศาลเพื่อไต่สวนความผิด

“ออกไป!! ใครให้เธอเข้ามา!” เมื่อหันมาเห็นผู้หญิงคนนี้ ชนวีร์ก็ตวาดไล่เธอไปอย่างใจร้ายโดยไม่คำนึงถึงเรื่องใดทั้งสิ้น ผู้หญิงคนนี้เป็นปีศาจร้ายที่มาพรากคนที่เขารักให้จากไป

“ขวัญขอเคารพศพทรายได้ไหมคะ” ร่างบางถามเสียงสั่นน้ำตาไหลออกมาเมื่อมองความเกรี้ยวกราดของผู้ชายตรงหน้าเธอ ยิ่งมองยิ่งเจ็บปวดที่หัวใจ

“ไม่! เธอมันฆาตกร เธอฆ่าทรายฉันจะเอาเธอเข้าคุกให้ได้”

“ขวัญไม่ใช่ ไม่ได้ทำ ฮึก” ร่างนั้นดูเปราะบางราวกับจะแตกหักได้     ทุกเมื่อ

เธอสะอื้นตัวโยนแต่เขากลับไม่สงสารสักนิด ร่างสูงเกือบจะกระโจนไปหาเมื่ออีกฝ่ายปฏิเสธ โชคดีที่เพื่อนของเขามาจับไว้ได้เสียก่อน บิดาของชนวีร์ก็เข้ามาบอกให้ลูกชายสงบสติอารมณ์

“พี่ขวัญคะ เดี๋ยวค่อยมาใหม่นะ ถ้าพี่วีร์กลับมินจะโทรหานะคะ” สาวน้อย เดินเข้ามาบอกกับจอมขวัญ เธอร้องไห้ก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินออกไปกับบุษบามินตราที่ประคองเธออยู่ด้วยความสงสาร

“มินขอโทษแทนพี่วีร์ด้วยนะคะ และมินเชื่อใจพี่ขวัญว่าไม่ได้ทำอะไรพี่ทรายแน่นอน สู้ให้ถึงที่สุดนะคะพี่สาวของมิน” เธอสวมกอดเพื่อนรักของพี่สาวและผละออกมา เดินขึ้นไปบนศาลา

 จอมขวัญนั่งร้องไห้อยู่ที่ใต้ต้นไม้ข้างศาลา เสียงสะอื้นที่อ่อนแรงทำให้คนมาใหม่สงสาร

“ขวัญ กลับกันเถอะ” ปนิธินั่นเอง

จอมขวัญเงยหน้ามองเขาแล้วลุกขึ้นโดยมีชายหนุ่มประคองอยู่ เธอจะกลับมาหาเพื่อนอีกครั้งแน่นอน

‘ทรายจ๋า ขวัญขอโทษนะที่คงทำตามคำขอของทรายไม่ได้ เขาเกลียดขวัญเหลือเกิน’ จอมขวัญเดินไปกับปนิธิโดยไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังของเธอมีสายตาอาฆาตจ้องมองอยู่

..จากนี้ไปเธอจะไม่ได้อยู่อย่างสงบสุขแน่จอมขวัญ

วันเวลาผ่านไปจอมขวัญถูกศาลตัดสินว่าไม่ผิดเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ชนวีร์นิ่งเงียบ เขาไม่ได้โวยวายอย่างที่คิดแต่เดินออกไปหลังจากนั้นทันที ชายหนุ่มไปหาทรายทิพย์ที่วัดและนั่งลงร้องไห้ต่อหน้าหลุมศพของเธอ

“พี่ขอโทษที่เอาคนผิดมาลงโทษไม่ได้ ยกโทษให้พี่นะครับคนดี” เขานั่งคุยกับทรายทิพย์มองรูปเธอที่ส่งยิ้มมาให้เขาแล้วพลันน้ำตาก็ไหลลงมา

..เธอจากเขาเร็วเกินไป งานแต่งที่คิดไว้ก็ล่มไม่เป็นท่าเพราะเจ้าสาวต้องลาจากไปในที่ที่แสนไกล

“แต่พี่สัญญาว่าจะไม่ปล่อยเขาไปแน่นอน หลับให้สบายนะครับ

มองดูนาฬิกาที่ข้อมือพบว่าเขาอยู่ที่นี่มาเป็นเวลาเกือบชั่วโมงแล้วจึงลุกขึ้นเดินไปที่รถขับกลับบ้าน

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เขาจะทำให้กิจการของเขารุ่งเรืองและเมื่อถึงเวลานั้นเขาจะเอาโทษกับผู้หญิงคนนั้นเอง

และเมื่อกลับมาถึงบ้านชนวีร์ก็เข้าไปยังห้องของทรายทิพย์ ชายหนุ่มดูรอบห้องก่อนจะนั่งลงบนเตียง มือหน้าเอื้อมไปลูบหมอนใบเดิมที่หญิงสาวนอนอยู่ประจำ กลิ่นของเธอจางหายไปพร้อมกาลเวลา เมื่อไม่มีคนอยู่แต่เขากลับรับรู้ได้ถึงตัวตนของเธอที่อยู่รอบห้อง

‘พี่วีร์คะ ทรายถักเสื้อตัวใหม่ให้พี่วีร์ด้วย ลองใส่ดูสิคะ’

 เขาหันไปมองยังหน้าโต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะรำลึกไปถึงครั้งก่อน เธอถักเสื้อสเวตเตอร์ให้ก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อต่างประเทศ

‘พี่วีร์! ทำไมไม่อาบน้ำก่อนคะ มานอนบนเตียงคนอื่นทั้งๆ ที่ตัวเหม็นได้ยังไง’ มือน้อยจับมือเขาแล้วพยายามดึงขึ้นมาจากเตียงของเธอ แต่เพราะแรงอันน้อยนิดทำให้ดึงเขาไม่ขึ้น ชายหนุ่มจึงได้โอกาสดึงร่างบางลงมาบนเตียงแล้วกอดทันที

‘พี่วีร์! ปล่อยทรายนะ’

‘ฮือ ไม่เอาหรอก กำลังสบายเลย’

ชนวีร์เอามือลูบที่นอนเมื่อคิดถึงวันเวลาในอดีตที่ผ่านมา

..ความทรงจำของเขาและทรายทิพย์จะฝังอยู่ในหัวใจของเขาตลอดไปแม้ใครอีกคนจะจากไปในที่แสนไกลแล้วก็ตาม

ชายหนุ่มมองไปยังโต๊ะเครื่องแป้งเมื่อเห็นความผิดปกติ เขาจำได้ว่าเมื่อเช้าที่เข้ามาดูโต๊ะเครื่องแป้งปิดสนิทแต่ดูเหมือนตอนนี้ที่ลิ้นชักนั้นกลับเปิดแง้มออกมา

เขาเดินไปเปิดดูก็พบกับกระดาษแผ่นหนึ่งที่เขียนด้วยลายมือราวกับคนไร้เรี่ยวแรง ชายหนุ่มมือสั่นเมื่อได้อ่านข้อความข้างในนั้น

“ทรายจะรักพี่วีร์ ตลอดไป...

เขาร้องไห้ออกมาทันที ตอนที่เขียนคนรักของเขาคงจะทรมานมาก

“ทราย กลับมาได้ไหม ฮึก กลับมาหาพี่ได้ไหม พี่คิดถึงทราย” ร่างสูง ทรุดลงกับพื้นกอดกระดาษแผ่นนั้นร้องไห้ออกมา น้ำตาลูกผู้ชายที่ไม่ค่อยไหลแต่ตอนนี้กลับไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก เขาเก็บน้ำตาไว้ตลอดแต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว

..คิดถึงเหลือเกิน

“เพราะเธอ!” เขามองไปยังรูปของทรายทิพย์ที่ถ่ายกับจอมขวัญก่อนจะอาฆาต เพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียวที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้

“ดีจังเลยค่ะพี่ขวัญ ตอนนี้พี่ขวัญว่างไหมคะ”

จอมขวัญยิ้มให้แล้วส่ายหน้าทันที

“พี่ต้องเอาเอกสารไปให้คุณชนวีร์เซ็นค่ะ”

“พี่วีร์ไม่อยู่ค่ะ ออกไปคุยงานกับลูกค้าข้างนอก ถ้ายังไงพี่ขวัญไปเดินเล่นกับมินก่อนได้ไหมคะ รับรองไม่โดนด่าแน่ เดี๋ยวมินจะคุ้มครองพี่เอง”

เธอยังลังเลอยู่แต่เพราะบุษบามินตราที่ทำหน้าอ้อนทำให้หญิงสาวไม่อาจจะปฏิเสธได้ จอมขวัญพยักหน้า

“ดีจังเลย ถ้าอย่างนั้นเอาแฟ้มมานี่ค่ะ” หยิบแฟ้มมาจากมือของจอมขวัญได้ น้องสาวตัวแสบก็นำเอาไปให้เลขาพร้อมกับกำชับนิดหน่อย เธอจึงเดินจูงจอมขวัญไปยังแคนทีนเพื่อรับประทานอาหาร

“น้องมินกินได้นะคะ” เมื่อถึงยังแคนทีนจอมขวัญก็อดจะหันมาถามไม่ได้

บุษบามินตราถอนหายใจแล้วย้ำหนักแน่นกับพี่สาว

“กินได้แน่นอนค่ะ พี่ขวัญเห็นมินเป็นเอเลี่ยนเหรอคะถึงกินอาหารพวกนี้ไม่ได้” ว่าแล้วก็จูงพี่สาวคนสนิทไปยังร้านอาหารแล้วสั่งมาทันที

“มื้อนี้มินเลี้ยงเองค่ะ”

เพราะปฏิเสธไม่ได้จอมขวัญจึงพยักหน้ารับแล้วเดินถืออาหารไปหาที่นั่งพร้อมบุษบามินตรา และระหว่างทางนั้นเองที่ทำให้เธอสงสัยเพราะคนในแคนทีนล้วนมองเธอแล้วหันไปซุบซิบกัน

“ต้องลองชิมแล้วละคะ ว่าจะอร่อยหรือเปล่า”

“อร่อยแน่นอนค่ะ”

สองสาวลงมือรับประทานอาหารเที่ยงโดยที่จอมขวัญก็ยังมีเรื่องข้องใจอยู่ เพราะมองโดยรอบคนก็แอบซุบซิบก่อนจะมองมาที่เธอ เกิดอะไรขึ้น แม้จะสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไป เธอกินอาหารกับบุษบามินตราจนหมดจานแล้วจึงเดินมาส่งรุ่นน้องที่ข้างล่าง

“แล้วเจอกันนะคะพี่ขวัญ อ้อ ฝากดูแลพี่ชายมินด้วยนะ อย่าให้มีผู้หญิงมาเกาะแกะนะคะ ไปแล้วนะ”

รอยยิ้มหวานที่ได้รับทำให้จอมขวัญยิ้มตอบ น้องคนนี้ยังสดใสและร่าเริงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน เธอเดินไปที่ลิฟต์ขึ้นชั้นทำงานของเธอ

“ดูสิ ตีสนิทกับคุณมินแล้ว ฉันว่านะกะจ้องประธานแน่ๆ เลย” สองสาวประชาสัมพันธ์หันไปพูดคุยกันเมื่อเห็นจอมขวัญและบุษบามินตราอยู่ด้วยกัน

“ใช่ ผู้หญิงไร้ยางอาย พวกร่าน แรดไปทั่วก็อย่างนี้แหละ”

“มีอะไรเหรอ” และก็มีคนมาถามเมื่อเห็นว่ามีข่าวใหม่และแน่นอนว่าสองสาวไม่ปฏิเสธที่จะเล่า แถมยังใส่สีตีไข่ให้เรื่องราวมีรสชาติเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

การกระจายข่าวครั้งนี้ยิ่งสร้างให้คนเกลียดจอมขวัญมากยิ่งขึ้นไปอีกทั้งๆ ที่แทบจะไม่รู้จักเธอดีด้วยซ้ำ

เวลาบ่าย จอมขวัญได้รับโทรศัพท์ให้ขึ้นไปหาท่านประธาน แม้ใจจะกลัวมากแต่ก็ต้องไปตามคำสั่ง ใจหญิงสาวเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อคิดว่าต้องไปพบเขา ความดีใจก็มีแต่ความกลัวมีมากกว่า เธอกลัวจะทำตัวไม่ถูกเมื่อเจอเขา

จอมขวัญยิ้มให้วิไลที่อยู่หน้าห้อง เธอเคาะประตูสักพักก่อนจะเปิดเข้าไป

“เชิญนั่ง” เขาพูดโดยไม่เงยหน้ามามองเธอเพราะกำลังก้มตรวจเอกสารที่ได้รับมาอยู่นั่นเอง

ชายหนุ่มดูเคร่งเครียดแต่ก็ไม่เท่าจอมขวัญที่ดูจะเครียดกว่าหลายเท่าตัว มือสวยเต็มไปด้วยเหงื่อ

“ทำไมไม่รอเอาเอกสารมาให้ตอนที่ผมอยู่” ปิดแฟ้มเอกสารแล้วถามขึ้น

“คือว่าฉัน”

“หรือว่าจะใช้สิทธิพิเศษว่ารู้จักกับน้องสาวของฉันอย่างนั้นหรือ” ร่างสูงรุกต่อทันที เขาไม่มีแววคุกคามแต่น้ำเสียงนั้นก็บีบคั้นให้ตอบ

“เปล่าค่ะ ฉันผิดเอง ขอโทษด้วยนะคะ” ร่างบางยกมือไหว้ทันทีก่อนที่จะเอามือมาประสานกันที่หน้าตักอีกครั้ง

ชนวีร์ไม่พูดอะไรอีกเขาแค่เอาแฟ้มงานให้เธอเท่านั้น

“เอาแฟ้มกลับไป แล้วก็ตรวจสอบบัญชีดูให้ดี มันมีจุดเล็กน้อยที่ผิดฉันมาร์กไว้ให้แล้ว กลับไปแก้แล้วค่อยเอามาส่งฉัน เชิญ” พูดจบเขาก็ก้มหน้าตรวจเอกสารต่อทันที

จอมขวัญมองคนตรงหน้าอย่างอึ้งๆ แต่เธอก็ค้อมศีรษะแล้วเดินออกไปจากห้อง แปลกมากที่ดูท่าทีว่าเขาจะไม่ได้โกรธเคืองเธอ แปลกเกินไปแต่จอมขวัญก็รู้สึกดีใจที่ท่าทีของเขาเปลี่ยนแม้จะไม่มากแต่ก็ไม่รุกรานเธอ

เมื่อถึงยังแผนกจอมขวัญก็อ่านดูรายละเอียดอีกครั้ง เธอแก้ไขจุดที่เขาวงกลมไว้ให้แล้วปริ๊นต์เพื่อเอาเข้าแฟ้มใหม่แล้วเอาไปส่งเขาที่ห้องทำงาน

“เสร็จแล้วหรือ ทำงานเร็วดีนี่” ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นจากกองเอกสาร

จอมขวัญตอบรับแล้วเอาแฟ้มให้เขาทันที ชนวีร์เปิดดูก่อนจะเซ็นลงไปโดยไม่ได้อ่านให้มากความอีก

“ขอบคุณค่ะ”

อีกฝ่ายไม่ได้ตอบรับเพราะมีโทรศัพท์เข้ามาเสียก่อน เขาแค่พยักหน้าแล้วลุกขึ้นเดินไปคุยโทรศัพท์ที่ริมหน้าต่าง เมื่อประตูห้องทำงานถูกปิดดีแล้วชนวีร์จึงตอบรับน้องสาวที่โทรมา

“ว่าไงนะมิน”

“พี่วีร์คิดจะทำอะไรคะ ทำไมถึงรับพี่ขวัญเข้ามาในบริษัท” ตรงประเด็นและไม่อ้อมค้อมสักนิด

“ไม่มีอะไร ก็แค่บริษัทขาดคน” ร่างสูงตอบเลี่ยงไปตาเรียวมองบรรยากาศรอบๆ ที่ตอนนี้มืดครึ้มราวกับฝนกำลังจะตก

“มินไม่เชื่อ แต่ก็เอาเถอะค่ะถามไปพี่วีร์ก็ไม่ตอบมินหรอก พี่วีร์คะ มิน ขอร้องได้ไหมอย่าทำอะไรพี่ขวัญเลยนะ”

“พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ เรากล่าวหาพี่เหรอ”

“เฮ้อ เปล่าค่ะ ในตอนนี้อาจจะไม่ อนาคตสิไม่แน่ วันนี้กลับมากินข้าวบ้านด้วยนะคะ มินจะรอ” สายถูกตัดไปโดยที่เขาไม่ทันได้ตอบรับหรือปฏิเสธ

..น้องสาวคนนี้ของเขามักจะเป็นแบบนี้เสมอ

“มันก็สมควรกับสิ่งที่เขาทำกับพี่สาวของเราแล้วไม่ใช่เหรอมิน” ชายหนุ่มพูดแผ่วเบาก่อนที่เขาจะหันกลับมาทำงานต่อไป

เรื่องราวครั้งนี้มันจะเป็นสิ่งที่เธอต้องจดจำไปตลอดชีวิตแน่นอน      จอมขวัญ..

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status