แชร์

๕ แผนการ

แผนการ

“คุณวีร์!” ใบหน้าคมเข้มที่คุ้นเคยตอนนี้มีเลือดไหลลงมาเป็นทาง

จอมขวัญมองเขาอย่างเป็นห่วง พยายามประคองให้ร่างสูงไปนอนข้างเตียงของเธอ ร่างบางวิ่งวุ่นหาผ้าขนหนูขนาดเล็กและกะละมังใส่น้ำเพื่อมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้เขา จอมขวัญเช็ดหน้าที่มีเลือดเปื้อนให้ชนวีร์ก่อนจะเห็นว่าแผลไม่ใหญ่ถึงขั้นต้องเย็บแต่ที่เลือดไหลเยอะอาจเพราะโดนฝนด้วยก็เป็นได้

“หนะ หนาว” เสียงเข้มเอ่ยแผ่วเบาเต็มที

“ทนหน่อยนะคะ”

ฝนยังคงตกไม่หยุด ร่างบางเข้าไปเปลี่ยนน้ำแล้วมาถอดเสื้อให้ชายหนุ่มทันที แม้ใจจะเต้นแรงแต่ถ้าให้เขานอนเปียกแบบนี้ก็กลัวว่าจะเป็นปอดบวมไปเสียก่อน เมื่อเสร็จที่ท่อนบนท่อนล่างยิ่งสร้างความกังวลใจให้เธอเข้าไปอีก

“ขอโทษนะคะ ขวัญทำด้วยใจบริสุทธิ์นะ” ก่อนจะถอดกางเกงให้เขาจอมขวัญก็บอกก่อน กลั้นใจรูดซิปแล้วพยายามดึงลงมาแต่มันค่อนข้างทุลักทุเลพอสมควร

“คุณวีร์ช่วยยกสะโพกขึ้นหน่อยได้ไหมคะ” ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินหรือเปล่าที่เธอพูดแต่ก็บอกไปแล้ว ดูเหมือนว่าชนวีร์จะรู้ว่าเธอพูดอะไรเพราะเขายกสะโพกขึ้นทำให้ผ่านช่วงทุลักทุเลไปได้  ตอนนี้ทั้งร่างหนาจึงมีเพียงแค่กางเกง    บ๊อกเซอร์เท่านั้น

จอมขวัญพยายามไม่มองแล้วหากางเกงขนาดใหญ่ให้เขาแต่ค้นทั่วตู้ก็ไม่พบ เธอจึงตัดสินใจให้เขาใส่เพียงเสื้อยืดของพ่อเธอที่ทิ้งไว้เพราะลืม

“หนาว” ปากของชนวีร์ตอนนี้ซีดจนเธออดเป็นห่วงไม่ได้

จอมขวัญเช็ดตัวให้เขาแล้วใส่เสื้อพร้อมกับพันผ้าขนหนูให้ก่อนจะพยายามอุ้มร่างสูงให้ขึ้นไปนอนบนเตียง

“คุณลุกไหวไหมคะ” ไร้เสียงตอบรับจากเขา เธอจึงต้องพยุงเขาลุกขึ้นให้ได้ ชนวีร์ก็ช่วยเธอโดยไม่ทิ้งน้ำหนักใส่เธอมากนัก จนเขาขึ้นมานอนบนที่นอนของเธอได้สำเร็จแต่ก็ทำเอาจอมขวัญถึงกับหอบ

“ถอด ให้ หมด” เหมือนไร้เรี่ยวแรงแต่เขาก็พยายามพูดออกมา

จอมขวัญฟังแล้วถึงกับตาโตกับสิ่งที่เขาบอก

..ถอดให้หมดของเขาคงไม่ได้หมายความว่าให้เธอถอดชั้นในของเขาออกหมดหรอกนะ

“แต่ว่า”

“ฉันอึดอัด” เขาพยายามสื่อสารออกมาแม้ไม่ลืมตาก็ตาม

จอมขวัญทำสีหน้าลำบากใจแต่ก็ต้องทำตาม ร่างบางมองไปทางอื่นแล้วสอดมือเข้าไปถอดกางเกงบ๊อกเซอร์ให้เขา พยายามอย่างยิ่งไม่ให้มือสัมผัสโดนแก่นกลางของร่างกายหนา

“ให้ตายเถอะ มันลำบากจริงๆ นะคะ” บ่นพึมพำแต่ก็ต้องถอดให้เขา      จอมขวัญพยายามทำให้ดีที่สุดก่อนที่ปราการชิ้นสุดท้ายจะหลุดออกจากตัวเขา เธอถึงกับต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก

เมื่อเสร็จภารกิจไปจอมขวัญก็ห่มผ้าให้เขาแล้วเก็บกวาดห้อง เธอเปิดตู้เสื้อผ้าหาเสื้อแขนยาวใส่พร้อมกับหยิบประเป๋าเพื่อจะไปซื้อยามาทำแผลให้เขา ดีที่ตอนนี้เลือดหยุดไหลไปแล้ว

จอมขวัญตรวจดูเขาก่อนจะออกไปซื้อของข้างนอกโดยไม่ลืมพกร่มไปด้วย เมื่อลงมาข้างล่างเธอก็พูดคุยกับเจ้าของหอพอไม่ให้เป็นที่ผิดปกติก่อนจะเดินเข้าอีกซอยเพื่อซื้อยา

ได้ของครบจอมขวัญก็กลับทันที เธอซื้อยาทำแผลและยาลดไข้ด้วย แม้จะสงสัยว่าเขาไปโดนอะไรแต่ห่วงอาการเจ็บของเขามากกว่าเธอจึงไม่อยากจะถามเขาตอนนี้รอให้อาการดีขึ้นเสียก่อนถามตอนนั้นก็ไม่เสียหาย

ถึงหอร่างบางก็เดินขึ้นห้องไปหาเขาที่ยังคงนอนเหมือนก่อนที่เธอจะออกไป

ใบหน้าหล่อเหลาซีดเซียว เท้าของเขาเกินเตียงของเธอออกมานิดหน่อยก็เพราะเขาตัวสูงมากนั่นเอง ขนาดว่าเตียงเธอยาวมากแล้วก็ตาม ร่างบางวางยาไว้ข้างหัวเตียงแล้วนั่งทำแผลให้เขาก่อนจะติดพลาสเตอร์ให้เสร็จแล้วก็ไปที่ครัวทำโจ๊กให้เขาก่อนกินยา

“กินสักคำสองคำนะคะ จะได้กินยา” กลัวเขาไม่มีแรงจะลุกขึ้นกินก็กลัวแต่ดีที่ชนวีร์อ้าปากรับโจ๊กที่เธอป้อนเสียก่อน เขากินไปสามคำก็หยุด จอมขวัญจึงป้อนยาให้เขาแล้วเก็บของทั้งหมด ช่วงเย็นเธอยังไม่ได้กินข้าวจึงทำโจ๊กกิน

กินเสร็จแล้วจอมขวัญก็ล้างจานก่อนจะมาปูที่นอนข้างเตียงเพื่อเฝ้าเจ้านายของหล่อนเอง ดีที่แม่บอกให้ซื้อเครื่องนอนไว้อีกชุดเธอจึงปูนอนได้    จอมขวัญไม่ได้ถอดเสื้อแขนยาวเพราะคิดว่าใส่เสื้อกล้ามอยู่กับผู้ชายสองคน    ไม่เหมาะสมแม้ว่าเขาจะไม่ทำอะไรเธอก็ตาม

ก่อนนอนร่างบางก็มองหน้าของคนที่เธอแอบรักมานาน ตอนเขาหลับดูหล่อเหลาราวกับเทพบุตรกำลังนิทรา เธอไม่อาจถอนสายตาจากเขาได้เลย เขาหล่อตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอเจอจนกระทั่งวันนี้ เธอจำเขาได้แต่เขากลับจำเธอไม่ได้แถมยังรังเกียจอีกต่างหาก เขาเกลียดผู้หญิงอย่างเธอที่สุดเธอรู้ เกลียดจนไม่อยากมองหน้าแต่ทำไมตอนนี้เขากลับหวานใส่เธอ มันกะทันหันจนบางครั้งเธอก็ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ฝันไปหรือไม่ ถ้าเป็นฝันเธอก็คงไม่อยากตื่น แต่มันไม่ใช่เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือความจริง เขาคือความจริง

“คุณหลอกขวัญหรือเปล่าคะ หลอกขวัญหรือเปล่า” สมองยังคงกังวลแต่ใจของเธอกลับบอกว่ายอมให้เขาหลอก เพียงแค่ได้อยู่ใกล้เขาเท่านั้น เธอรักเขา รักเสียจนไม่คิดว่าจะรักใครคนหนึ่งได้ขนาดนี้ เขาคือรักแรกและอาจจะเป็นตลอดไป เธอพยายามตัดใจจากเขาแล้วแต่ดูเหมือนยิ่งทำเธอก็ยิ่งเจ็บเอง

“ฝันดีนะคะ” บอกเสร็จเธอก็ล้มตัวนอนพยายามหลับตาก่อนจะหลับไปในที่สุดด้วยความเพลีย

โดยไม่รู้เลยว่าดวงตาที่หลับสนิทของชายหนุ่มบนเตียงเมื่อกี้ค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ  ชนวีร์แสยะยิ้มมุมปากเหมือนวายร้ายในตัวละครไม่มีผิด ดวงตาของเขาเต็มไปความเย้ยหยัน

..นี่แค่แผนการเล็กน้อยเท่านั้น เขาจะทำให้เธอเหมือนเจ้าหญิงที่อยู่ในปราสาททองก่อนจะผลักให้เธอลงมาสู่โคลนตมอย่างไม่ปรานีเชียวละ!

วันต่อมา

จอมขวัญตื่นแต่เช้า เธอเอามืออังหน้าผากชนวีร์ ระดับความร้อนลดลงแล้วแต่ยังตัวรุมๆ อยู่ เธอลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วซื้ออาหารเช้ามาให้เขาโดยไม่ได้แวะไปที่สวนสาธารณะเพื่อออกกำลังกายเหมือนทุกวันที่ผ่านมา

กลับเข้ามาภายในห้องยังคงเห็นร่างสูงนอนเหยียดตัวยาวอยู่บนเตียงเธอเดินเข้าไปเอามืออังหน้าผากเขาดูอีกครั้งและแปลกที่ตัวกลับร้อนขึ้นมากกว่าเดิมอีก จอมขวัญตกใจวางของไว้บนโต๊ะอาหารเข้าไปภายในห้องน้ำเพื่อเอากะละมังขนาดเล็กและผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้เขา

“ไม่เอา” ผลักมือเธอออกแล้วตะแคงตัวไปอีกทางทันที

“ถ้าไม่เช็ดตัวจะร้อนมากกว่านี้นะคะ” พยายามกล่อมเขาแต่ดูจะไม่นำพาเพราะอีกฝ่ายไม่พูดจาอะไรเลย ไม่ตอบรับเธอสักนิด

“คุณวีร์คะ” จอมขวัญจับแขนเขากลับแปลกที่ดูเหมือนว่าแขนเขาจะไม่ร้อนสักเท่าไหร่ เธอเอามืออังหน้าผากมันกลับร้อนจนรู้สึกแปลกใจ

“อื้อ” ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัวเขาหันหน้ากลับมาแล้วรวบเอวบางเข้ามากอดทันทีจนเธอไม่ทันจะได้ตั้งตัว

“นอนด้วยกันนะ” น้ำเสียงออดอ้อนนั้นทำเอาใจเธอสั่นไหว อยากจะผลักใสแต่ใจกลับค้าน ความคลางแคลงใจเมื่อครู่ดูเหมือนจะมลายไปสิ้น

“ไม่ได้นะคะ”

“ฉันไม่อยากนอนคนเดียว” เอ่ยเสียงอู้อี้ก่อนจะกระชับกอดเอวบางแน่นขึ้น เขาเอาหัวมาหนุนที่ตักเธอแทนหมอน

ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ มองหน้าคมสันที่สองตาหลับพริ้มแต่ยังคงน่ามอง

“นอนด้วยกันนะ”

น้ำเสียงของเขาที่ทำเอาใจเธอแทบละลายนั้น ทลายกำแพงที่เธอสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเองจากเขาให้ทลายลงไป

จอมขวัญกัดริมฝีปากอย่างใช้ความคิดก่อนจะตัดสินใจขึ้นไปนอนเคียงข้างเขาในที่สุด

ชนวีร์ลืมตาขึ้นมายิ้มมุมปากให้เธอก่อนจะกอดกระชับร่างบางเข้าหาตนเอง ลมหายใจร้อนเป่ารดศีรษะของหล่อนจนใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำ

ในอ้อมกอดแข็งแรงนี้ช่างอบอุ่นยิ่งนัก เธอเฝ้ารอคอยมาแสนนานว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นระหว่างเธอกับเขา มันอาจจะเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวแต่ว่าเธอรักเขา อยากให้เขากอด เป็นที่รักของเขา ซึ่งตอนนั้นเธอก็ได้เพียงแค่คิดต่างจากตอนนี้ยิ่งนัก ใบหน้าหวานอมยิ้มก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราเมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ต่างจากชนวีร์ที่ตายังคงลืมอยู่ แววตานิ่งลึกที่ไม่อาจคาดเดาก่อนที่เขาจะหลับตาลงและเข้าสู่ห้วงนิทราไปอีกคน

จอมขวัญตื่นมาอีกครั้งก็เป็นเวลาเที่ยง ร่างบางพยายามเอามือของชนวีร์ออกก่อนจะลุกขึ้นไปอุ่นอาหารแล้วล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำแต่งตัวออกมาจัดสำรับกับข้าวโดยไม่ลืมเก็บของให้เข้าที่ แม้ตอนนี้ร่างสูงยังคงหลับสนิทแต่เขาก็มีอาการดีขึ้นมากแล้วเพราะตัวไม่ร้อนเท่าเมื่อเช้า จนเธอเบาใจได้ว่าเขาคงจะหาย ร่างบางสำรวจดูที่บริเวณศีรษะก็ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรแล้วแต่เธอก็ดึงพลาสเตอร์ออกพยายามเบามือที่สุด

“ตื่นแล้วเหรอคะ” จอมขวัญถาม อีกฝ่ายรู้สึกตัวจอมขวัญจึงเอามือออกมา

ร่างสูงชันตัวขึ้นนั่งมองไปรอบห้องอีกครั้ง

“ฉันมานอนห้องเธอเหรอ” ดูเหมือนจะหายป่วยแล้วเพราะอาการเขาตอนนี้แทบจะเป็นปกติทุกอย่าง ชนวีร์มองสำรวจตัวเอง เมื่อพบว่าทั้งตัวมีแค่เสื้อยืดและผ้าเช็ดตัวพันบริเวณด้านล่างเท่านั้นเอง

“ชุดของคุณฉันเอาไปซักแห้งให้แล้วนะคะ ถ้าดีขึ้นแล้วก็อาบน้ำแล้วมากินข้าวเถอะค่ะ” เห็นเขาสำรวจร่างกายตัวเองแล้วจึงบอกขึ้น

“โอ๊ย!” มือหนาจับที่ศีรษะตัวเองจนร่างบางต้องรีบเข้าไปดู ใบหน้าเรียบนิ่งแสดงความเจ็บออกมา

“ทำแผลใหม่อีกไหมคะ” ไม่ตอบแต่พยักหน้าแทน จอมขวัญจึงเอาอุปกรณ์ทำแผลมาทำให้เขาใหม่อีกรอบ โดยที่มีสายตาคมมองอยู่ตลอดเวลาจนเธอมือสั่นทำอะไรแทบไม่ถูก เมื่อทำเสร็จก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก “คุณวีร์เข้าไปอาบน้ำเถอะค่ะ จะได้มากินข้าว”

เขาพูดง่ายเมื่อหล่อนพูดจบร่างสูงก็ลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าตัวเองที่วางไว้ตรงชั้นวางเสื้อผ้าเข้าไปในห้องน้ำทันที รอเพียงไม่นานร่างสูงก็ออกมาด้วยชุดเมื่อวานนี้

จอมขวัญเรียกให้เขามานั่งกินข้าวที่โต๊ะขนาดพอดีมีเก้าอี้สองตัว

“ทำไมคุณถึงเจ็บตัวคะ ไปทำอะไรมา” เริ่มลงมือรับประทานอาหาร จอมขวัญก็ถามขึ้น

“ฉันขับรถไปแล้วมีคนวิ่งตัดหน้ารถเสียหลักนิดหน่อย ขับรถกลับบ้านไม่ไหวเลยมาหาเธอที่ห้อง ไม่รู้จะให้ใครช่วยแถมตอนนั้นฝนก็ตก เลือดก็ไหล ฉันเลยอ่อนแอไปหน่อย” น้ำเสียงอ่อนนั้นเหมือนอ้อนอยู่ในที

จอมขวัญพยักหน้าเข้าใจกับสิ่งที่เขาพูด

“ขวัญแค่ตกใจน่ะค่ะ นึกว่าโจรขึ้นมาเสียอีก”

“ฉันก็เป็นโจรนะ”

ร่างบางเลิกคิ้วเป็นเชิงถามก่อนที่ชายหนุ่มจะยักคิ้วให้เธอ

“โจรขโมยหัวใจน่ะ”

คำตอบนั้นทำเอาหล่อนไปไม่เป็น จอมขวัญก้มหน้ากินข้าวด้วยใบหน้าแดงซ่าน หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะไม่คิดว่าเขาจะรุกเธอได้รวดเร็วแบบนี้

“ฉันจะออกไปทางหน้าต่าง เจอกันข้างล่างนะ ไปทำงานพร้อมกัน” ที่จริงวันนี้เธอคิดว่าจะลา

“แต่ขวัญว่าจะลา”

“ไม่อนุญาต ออกไปพร้อมกัน เปลี่ยนชุดซะ ฉันจะลงไปรอข้างล่าง” กินข้าวเสร็จเขาก็บังคับเธอแล้วออกไปทางระเบียงโดยที่มีจอมขวัญลุ้นช่วยให้เขาหลบไปได้

เมื่อชนวีร์ถึงข้างล่างเธอก็รีบเปลี่ยนชุดแต่งหน้านิดหน่อยแล้วลงไปหาเขาที่รถด้านล่างทันที

..ทำไมเธอไม่สังเกตเห็นรถของเขาเลยนะ

“ไปกันเถอะ”

สองคนนั่งรถออกไปด้วยกันโดยไม่รู้เลยว่ามีพนักงานของบริษัทที่ออกมาทำธุระแถวนั้นเห็นพอดี และสองสาวก็ถึงกับควักโทรศัพท์ออกมาเก็บภาพเมื่อจอมขวัญขึ้นรถไปกับท่านประธานไว้ได้ด้วย เรื่องนี้มีให้คุยต่ออีกยาวแน่โดยที่จอมขวัญไม่รู้เลยว่าชื่อเสียงของเธอเสียไปแล้ว

เมื่อถึงบริษัทชนวีร์ก็ให้จอมขวัญขึ้นไปก่อน เขาจะไปจอดรถโดยที่ไม่ลืมบอกให้เธอกลับพร้อมเขาตอนเย็นนี้อีกด้วย

จอมขวัญยิ้มทักทายเพื่อนร่วมงานแต่กลับไม่มีใครยิ้มตอบเธอเลยสักคนแถมมีหลายคนมองเธอแล้วหันไปซุบซิบกันจนหญิงสาวเริ่มใจเสีย เธอเดินขึ้นมายังแผนกของตนเองในขณะที่ทุกคนไปกินข้าวกันที่แคนทีน

“ขวัญ พี่นึกว่าจะไม่มาเสียอีก” ดาหวันขึ้นมาเป็นคนแรกเอ่ยทักรุ่นน้อง

จอมขวัญยิ้มให้พร้อมกับสวัสดี

“ตอนแรกก็ว่าจะไม่มาแหละค่ะ พอดีเกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน” หล่อนไม่ได้ต่อความให้ยาวและดาหวันก็ไม่ได้ถามอะไรต่ออีกจอมขวัญจึงค่อนข้างสบายใจ

“อ้าว ขวัญสวัสดีจ้ะ” สองสาวคู่หูเดินยิ้มมาแต่ไกลทักทายจอมขวัญ แล้วรีบลากเก้าอี้ของตนเองมานั่งขนาบข้างจอมขวัญทั้งสองข้างทันที

“ขวัญจ๋า พี่ได้ข่าวมาว่าวันนี้ขวัญมากับท่านประธานเหรอ”

“แล้วท่านประธานสุดหล่อของเราไปรับขวัญที่หอด้วยจริงไหม”

คำถามนั้นทำเอาจอมขวัญอึ้ง เธอไม่คิดว่าจะมีใครรู้เรื่องนี้ และรู้สึกละอายเป็นอย่างยิ่งที่ทำเรื่องไม่สมควรแบบนี้ขึ้นในบริษัท

“พี่ๆ รู้มาจากไหนคะ”

“ก็เขาเล่าต่อๆ กันมา ว่ามีคนไปเห็นท่านประธานไปรับขวัญช่วงเที่ยงที่หอ แถมมีรูปด้วยนะ เดี๋ยวพี่เปิดให้ดู”

รูปในจอโทรศัพท์ก็ทำเอาเธอพูดไม่ออกเพราะมันเป็นความจริง จอมขวัญมองพี่ทั้งสามก่อนจะพยักหน้า

“คือว่าเรื่องทั้งหมดมันแค่เรื่องบังเอิญนะคะ ขวัญไม่อยากให้พี่ๆ เข้าใจผิดแต่ก็ไม่อยากแก้ตัวว่ามันไม่ใช่ขวัญ”

รุ่นน้องพูดจบวานิสาและอพิญญาต่างก็ร้องกรี๊ดด้วยความดีใจเพราะเธอเชียร์ให้น้องสาวคนสวยรักกับท่านประธานหนุ่มสุดหล่อแบดบอย

“พี่ว่านะ ท่านประธานต้องชอบขวัญแน่เลยละ”

ทั้งสองฟันธงจนจอมขวัญเขินอายแก้มแดงไปหมดยิ่งสร้างความเอ็นดูให้ทั้งสามยิ่งนักจนกระทั่ง

“ได้เวลาทำงานแล้วครับ” ปนิธิเดินเข้ามาเอ่ยเสียงเข้มไม่มองหน้าใครก่อนจะผลักประตูเข้าห้องไปแล้วปิดเสียงดังทำให้สาวทั้งสี่มองหน้ากันด้วยความงงงวยก่อนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง

จอมขวัญมองเข้าไปในห้องของหัวหน้าแผนกอย่างปนิธิแล้วถอนหายใจก้มดูเอกสารของตัวเองต่อ

ตอนเที่ยงจอมขวัญได้รับโทรศัพท์จากชนวีร์ว่าเขาต้องไปหาลูกค้าตอนเย็นอาจจะอยู่ถึงดึกเลยบอกให้เธอกลับเอง ซึ่งตัวจอมขวัญก็ไม่ได้ขัดข้องอยู่แล้วเธอบอกให้เขาทำงานให้เต็มที่ก่อนจะลา มิวายที่ชายหนุ่มจะหยอดคำหวานให้คนร่างบางเขินอาย

“ขวัญ เย็นนี้ไปบ้านพี่ไหม” ดาหวันเดินมาที่โต๊ะทำงานของจอมขวัญแล้วเอ่ยชวน

“บ้านพี่ดาหรือคะ ไปค่ะ ขวัญอยากไป” รอยยิ้มหวานส่งให้รุ่นพี่ก่อนที่ดาหวันจะพยักหน้าแล้วบอกว่าเดี๋ยวตอนเย็นแฟนเธอจะมารับ

ทั้งสองแยกย้ายกันไปทำงานจนกระทั่งถึงตอนเย็น

“ไปกันเถอะขวัญ” เก็บของเสร็จดาหวันก็เอ่ยชวนจอมขวัญที่เก็บของเสร็จพอดีจึงพยักหน้าส่งยิ้มให้

แต่ก่อนที่สองสาวจะออกไปปนิธิก็เดินออกมาสมทบพอดี

“จะกลับบ้านกันแล้วเหรอ” น้ำเสียงติดแววขรึมใบหน้าหล่อก็เรียบตึงไม่ยิ้มแย้มเหมือนเคยจนจอมขวัญอดกลัวไม่ได้

“ใช่ค่ะ แต่ขวัญจะไปบ้านพี่ดาก่อน” คำบอกเล่านั้นสร้างความสงสัยให้กับชายหนุ่มที่มาใหม่

“คุณปันไปด้วยกันไหมคะ” ดาหวันเอ่ยชวนทันทีเพราะดูเหมือนบรรยากาศอึมครึมของเจ้านายตนเองวันนี้ อาจจะมีรุ่นน้องสาวสวยคนข้างเธอเป็นเหตุก็ได้

“ไปได้เหรอ ถ้าอย่างนั้นผมก็ไปด้วยนะ” และแน่นอนว่าดาหวันไม่ปฏิเสธทั้งสามเดินไปที่ลิฟต์ด้วยกันในเวลาเลิกงาน

คนเต็มลิฟต์จนเบียดกันจอมขวัญอยู่ใกล้ปนิธิและถูกเบียด ดีที่เขาจับไหล่เธอไว้ประคองไม่ให้ร่างบางล้มไปเพราะแรงเบียดเสียก่อน ถึงชั้นล่างคนก็ออกมากันเยอะ

“ขวัญไปกับพี่นะ” เพราะเห็นว่าจอมขวัญจะเดินไปกับดาหวันร่างสูงเลยพูดขึ้นก่อนที่เธอจะได้เดินไปกับรุ่นพี่ในแผนก

“ก็ได้ค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นคุณปันก็ขับรถตามมานะคะ”

ปนิธิโค้งรับแล้วพาจอมขวัญเดินไปยังที่จอดรถทันที เขาเปิดประตูให้เธอก่อนจะอ้อมมาทางคนขับ บรรยากาศบนรถเงียบจนจอมขวัญอึดอัด ปนิธิขับรถตามหลังรถของดาหวัน เขาไม่พูดอะไรและใบหน้าก็เคร่งขรึม

“ขวัญขอเปิดเพลงได้ไหมคะ” เอ่ยเสียงกล้าๆ กลัวๆ

ปนิธิเปิดเพลงให้เธอทำให้บรรยากาศไม่อึดอัดจนเกินไป

“เอ่อ ขวัญไม่รู้ว่าขวัญคิดไปเองหรือเปล่า แต่ว่าพี่ปันมีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ” เมื่อทนไม่ไหว รุ่นน้องร่วมสถาบันจึงเอ่ยถามขึ้นมาระหว่างติดไฟแดง

“พี่ก็ปกติ”

“ไม่ค่ะ พี่ปันไม่ขรึมขนาดนี้ พี่ปันโกรธขวัญหรือเปล่า ขวัญไปทำอะไรให้ไม่พอใจหรือเปล่าคะ” ถามไปแบบนั้นเธอก็แอบกลัวอยู่เหมือนกัน

ปนิธินิ่งเงียบก่อนจะถอนหายใจออกมาราวกับยอมจำนนต่อคำพูดของจอมขวัญ

“ปล่อยพี่ไว้แบบนี้สักพักเถอะ เดี๋ยวพี่ก็หาย พี่แค่คิดไปเอง” รุ่นพี่หนุ่มเอ่ยเสียงแผ่วแล้วตั้งใจขับรถต่อไป

จอมขวัญเองก็ไม่ได้พูดอะไรอีกจนมาถึงยังบ้านจัดสรรขนาดกลางที่บริเวณโดยรอบตกแต่งด้วยไม้ดอกและไม้ประดับดูร่มรื่น

“ยังไม่ได้แนะนำเลย นี่คุณสินธร สามีของพี่เอง” หญิงสาวแนะนำสามีของตนเองที่ยืนยิ้มอยู่ข้างกายให้ทั้งสองคนรู้จัก

“คุณธรคะ นี่คุณปันเจ้านายของฉันเอง ส่วนนี่น้องขวัญเป็นน้องในแผนก” ทั้งสามทำความรู้จักกันสักพัก ก่อนที่ดาหวันเชิญทั้งสองคนเข้าบ้านพอดีกับที่ลูกชายคนโตวิ่งมากอดมารดาของตนเอง

“แม่ฮับบบบบ นายวาดฮารูโตะสวยไหมฮับ” ยังไม่ทันที่จะถึงตัวบ้านเด็กผู้ชายตัวเล็กก็วิ่งเข้ามากอดแม่เสียก่อนพร้อมยื่นสมุดวาดรูปให้ดู

“อวดแต่คุณแม่ไม่อวดคุณพ่อหรือครับ” ชายร่างอวบถามลูกชายเหมือนน้อยใจแต่แววตาแฝงไปด้วยความเอ็นดู

“คุณพ่อออ น้องนายวาดรูปสวยไหม” เด็กน้อยประจบพ่อตัวเองทันทีก่อนที่จะหันมาเจอแขกใหม่สองคน ดวงตากลมโตใสแจ๋วมองพี่สาวอย่างเขินอายก่อนจะหยิบสมุดแล้ววิ่งมาหลบข้างหลังคุณแม่ แก้มยุ้ยของเด็กน้อยออกสีแดง

“เป็นอะไรครับเจ้านาย”

ร่างเล็กส่ายหัวแอบอยู่หลังแม่แล้วโผล่หัวออกมาดู พอสบสายตากับพี่สาวเข้าก็รีบหลบสายตาแล้วอยู่ข้างหลังคุณแม่อีก

“ฮ่าๆ เขินพี่ขวัญเขาหรือลูกชาย” คุณสินธรถามลูกแล้วเข้ามาอุ้มเอาเจ้าตัวเล็กเข้าไปในบ้าน

จอมขวัญมองอย่างยิ้มๆ แล้วเดินเคียงคู่ไปกับปนิธิ บ้านของดาหวันภายในคล้ายกับบ้านจัดสรรทั่วไป มีรูปครอบครัวเต็มไปหมดและการจัดบ้านก็เน้นธรรมชาติเป็นส่วนมาก

จอมขวัญเข้าไปเล่นกับลูกคนเล็กของดาหวันซึ่งเป็นเด็กตัวน้อยยิ้มง่ายและหัวเราะเก่งที่นอนหัวเราะเอิ้กอ้ากให้เธออยู่ในเปล กลางวันที่ดาหวันและ   สินธรไม่อยู่จะมีป้าของสินธรมาเลี้ยงให้เพราะเธอว่างและอยู่ซอยถัดไปเท่านั้นเอง

“เจ้าตัวน้อยน่าชังจังเลยค่ะ” ร่างบางเอ่ยชมเมื่อเล่นกับเด็กน้อยเสร็จ

“ค่ะ แกเลี้ยงง่ายด้วย ตัวอ้วนจ้ำม่ำ ผิวก็ข๊าวขาว” อวดลูกตัวเองแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ดาหวันหันไปกอดลูกชายคนโตเมื่ออีกฝ่ายนั่งเกาะแม่ไม่ปล่อยแล้วมองพี่สาวคนสวยตาเยิ้ม

ตอนนี้สินธรกับปนิธิเดินออกไปดูต้นไม้กัน ปนิธิชอบต้นกล้วยไม้ที่สินธรปลูกจึงเดินไปดูวิธีการปลูกและเลี้ยงดู

“เจ้านายครับ มาหาน้าขวัญเร็ว” จอมขวัญมองดูหนุ่มน้อยแล้วเรียกอย่างเอ็นดู แต่อีกฝ่ายก็เอาแต่ส่ายหน้าแล้วกอดแขนคุณแม่ไว้อย่างเขินอายเท่านั้น

“ไปหาน้าขวัญเร็วลูก”

“มาครับ เดี๋ยวน้าขวัญจะพาไปทำขนม ไปไหม” จอมขวัญคุยกับรุ่นพี่แล้วว่าจะทำเค้กกล้วยหอมให้กินและพอดีกับที่บ้านของดาหวันมีอุปกรณ์ทำขนมหญิงสาวจึงไม่พลาดที่จะขอทำ

“นายชอบกินฮับ ชอบกินเค้กกล้วยหอม” เด็กน้อยออกจากคุณแม่แล้ววิ่งมาหาพี่สาวคนสวย

“โอเคครับ งั้นเราไปทำเค้กกันเนอะ” จอมขวัญจูงมือลูกชายของดาหวันเข้ามาภายในครัว เธอจัดการหาของโดยมีดาหวันมาช่วย

ทั้งสามช่วยกันทำขนมเค้กกล้วยหอมอย่างพิถีพิถัน เจ้านายไม่ห่างน้าสาวคนสวยที่เพิ่งสนิทกัน มักจะเดินไปกอดแขนหรือไม่ก็อยู่ใกล้จอมขวัญเสมอ

ปนิธิยืนมองคนที่ตนแอบรักมานานด้วยแววตาเอ็นดู รอยยิ้มของ        จอมขวัญเขาชอบยิ่งนักมันช่างอ่อนหวานจนอยากจะเก็บเอาไว้ดูคนเดียวแต่เขารู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์และเขาก็ได้แค่คิดและเพ้อฝันไปเท่านั้นเอง

ร่างสูงยืนพิงประตูเหม่อมองคนทั้งสามก่อนจะสะดุ้งเพราะเสียงหวานของรุ่นน้อง

“พี่ปันเสร็จพอดีเลย มาชิมไหมคะ”

เขาไม่ปฏิเสธ เดินไปชิมเค้กกล้วยหอมแล้วก็ชมเปาะทันที จอมขวัญกับเจ้านายช่วยกันยกเค้กกล้วยหอมออกมานั่งกินกันไปคุยกันไปโดยที่เจ้านายอยู่ติดน้าขวัญคนสวยตลอดเวลา แถมยังหวงมากอีกด้วยเมื่อมีใครมาแย่งตนเองคุยกับน้าขวัญ

จอมขวัญและปนิธิอยู่กินข้าวกับครอบครัวของดาหวันจนเสร็จจึงขอตัวกลับบ้าน เจ้านายงอแงไม่อยากให้ไปแต่น้าขวัญคนสวยก็บอกจะมาหาอีกบ่อยๆ เด็กน้อยเลยจำต้องพยักหน้าอย่างเหงาหงอย ก่อนกลับจอมขวัญก็หอมแก้มนิ่มแล้วยิ้มลาทำเอาเด็กน้อยยิ้มร่าเริงและโบกมือหย่อยๆ พลางกระโดดส่งจอมขวัญ  

ระหว่างทางกลับหอจอมขวัญ ปนิธิก็ชวนเธอคุยบรรยากาศกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้งจนถึงหอพักของเธอ

“ขอบคุณมากนะคะพี่ปันที่มาส่ง เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ” จอมขวัญโบกมือลาแล้วลงจากรถไป

“เดี๋ยวก่อนขวัญ” ร่างสูงเปิดประตูแล้ววิ่งลงไปหาจอมขวัญอย่างรวดเร็วเมื่อตัดสินใจอะไรบางอย่างได้

ร่างบางเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“คือพี่” มองใบหน้าหวาน ความกลัวก็เริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อย ทั้งที่เมื่อกี้ตัดสินใจจะบอกอยู่แล้วเชียว

“มีอะไรคะ”

“พี่.. พี่จะบอกว่า... พี่รัก.. รักน้องเจ้านายเหมือนกันนะ แกน่ารักพี่จะบอกแค่นี้แหละ” บอกไปก็หัวเราะแห้งๆ

จอมขวัญอมยิ้มอย่างขำขันกับความตลกของพี่ชายร่วมสถาบันคนนี้ เธอพยักหน้าเข้าใจ

“ค่ะ ขวัญรู้ขวัญก็เอ็นดูแกเหมือนกัน”

“ครับ ถ้าอย่างนั้นพี่ไปแล้ว เจอกันพรุ่งนี้” ร่างสูงไม่ได้พูดอะไรต่ออีกเขาหันหลังกลับเดินไปขึ้นรถที่จอดไว้ทันที โดยมีจอมขวัญยืนส่งอยู่

เมื่อเข้ามาในรถได้ปนิธิก็โมโหตัวเองที่ขี้ขลาดอีกแล้ว ไม่กล้าที่จะบอกว่าตัวเองรักเธอมากแค่ไหน

..แค่บอกรักเขายังทำไม่ได้เลย เขามันขี้ขลาดเกินไปจริงๆ

ภายในห้องรับแขกสุดหรูของบ้านหลังใหญ่ในย่านคนรวยบุษบามินตรากำลังนั่งรอพี่ชายอยู่แม้ว่าในขณะนี้จะเป็นเวลากว่าหกทุ่มแล้วก็ตาม พี่ชายเธอมักจะกลับบ้านค่ำและเมื่อวานก็ไม่ได้กลับมาเป็นห่วงก็เป็นห่วงแต่อีกฝ่ายกลับปิดมือถือตัดขาดการติดต่อเสียอย่างนั้น

วันนี้เธอจึงต้องมานั่งรอถามว่าไปไหนมาและข่าวลือที่บริษัทนั้นจริงแค่ไหน

“มินทำไมยังไม่นอน” เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกทำให้ร่างบางเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้พี่ชาย

“ก็รอพี่ชายน่ะสิคะ กลัวว่าวันนี้จะไม่กลับอีก”

ร่างสูงถอดเน็กไทออกแล้ววางเสื้อสูทพาดไว้ที่ผนักโซฟาแล้วเดินมานั่งข้างน้องสาว

“เมื่อคืนพี่วีร์ไปไหนมาคะ”

“พี่ติดธุระนิดหน่อย”

“ไม่จริงหรอก แต่ช่างเถอะสิ่งที่มินอยากรู้คือเรื่องที่พนักงานเขาลือกันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ”

ชนวีร์มองน้องสาวแล้วเอามือลูบหัวเธอแผ่วเบา

“ดึกแล้วไปนอนเถอะ พี่ก็จะขึ้นนอนแล้วเหมือนกัน” อีกฝ่ายตัดบทไม่ตอบและหยิบเสื้อสูทลุกขึ้น

“เดี๋ยวสิคะ ตอบก่อนว่าเรื่องที่เขาลือว่าพี่วีร์กำลังจีบพี่ขวัญเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า” รั้งแขนเขาเอาไว้พลางถามเสียงออดอ้อนอย่างที่เคยทำเป็นประจำ

“ไม่รู้สิ พี่ง่วงแล้ว ขอตัวนะ” เขาปลดมือน้องออกอย่างสุภาพแล้วเดินขึ้นห้องไปโดยมีสายตาไม่พอใจของบุษบามินตรามองตาม

..ไม่มีคำตอบอะไรจากพี่ชายของเธอเลย ถ้าอย่างนั้นเธอควรทำอย่างไรดีล่ะ คงต้องถามจากอีกคนแล้วสินะคิดแล้วเธอก็กดโทรศัพท์โทรออกทันที

“ฮัลโหล”

ชนวีร์เดินขึ้นมาบนห้องของตนเอง เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ชีวิตแสนน่าเบื่อของเขาไม่มีอะไรมาเป็นสีสันเลยสักนิด ร่างสูงนั่งนิ่งคิดไปถึงเมื่อเช้าที่ได้นอนกอดร่างนุ่มนิ่มของจอมขวัญ มันรู้สึกดีแปลกๆ

“ไม่มีทาง แกไม่มีทางรู้สึกดีกับผู้หญิงมารยาแบบนั้นหรอก” เขาบอกตัวเองแล้วเข้าห้องน้ำเพื่อดับอารมณ์ เขาต้องทำให้เธอรักเขาจนโงหัวไม่ขึ้น รักจนสุดหัวใจหลังจากนั้นเขาก็จะทิ้งเธอไปอย่างไม่เหลือเยื่อใย และตอนนี้เขาก็เริ่มทำสำเร็จแล้วด้วยเพราะดูเหมือนว่าจอมขวัญจะรักเขามาแล้วแสนนานและยังคงรักอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง

“หึ! เธอจะรู้จักคำว่าตกนรกทั้งเป็นอีกไม่นาน จอมขวัญ”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status