๑๔จดหมายเจ้าปัญหาถึงเวลากลับ พนักงานต่างเก็บภาพบรรยากาศไว้อย่างสนุกสนานเพราะไม่แน่ใจว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะได้กลับมาอีกหาดทรายสีขาว ทะเลสีฟ้า ท้องฟ้าสีคราม ช่างเป็นภาพที่น่าจดจำเสียจริงพร้อมกับที่พักสุดแสนจะเพอร์เฟกต์ของเจ้าของเกาะอีก ทำให้การพักผ่อนครั้งนี้พนักงานต่างได้พักเต็มที่และพร้อมที่จะกลับไปลุยงานในวันต่อไปได้ ดีที่วันพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเลยจะได้พักก่อนที่จะเริ่มทำงาน“พี่ปันคะ ถ้าถึงกรุงเทพแล้วช่วยไปส่งขวัญที่หมอชิตได้ไหมคะ” ระหว่างที่นั่งอยู่บนสปีดโบ๊ตของเจ้านายหนุ่ม จอมขวัญก็เอ่ยขึ้นกับปนิธิเบาๆ“ทำไมเหรอ ขวัญจะไปไหน” เขาอดถามไม่ได้ อีกฝ่ายจึงตอบเพราะไม่ได้ต้องการจะปิดบังไว้อยู่แล้ว “ขวัญจะกลับบ้านค่ะ คิดถึง ไม่ได้กลับนานแล้ว”หัวหน้าแผนกหนุ่มหล่อจึงพยักหน้ายิ้มให้“ได้สิ เดี๋ยวพี่ไปส่งถึงขอนแก่นเลยก็ได้นะ”“ไม่เอาค่ะ รบกวนเปล่าๆ พี่ปันกลับไปพักผ่อนเถอะ ขวัญไปเองได้” เมื่อตกลงกันได้อย่างที่ต้องการแล้วจึงดูบรรยากาศโดยรอบแทนจอมขวัญอดมองไปที่ชนวีร์ซึ่งนั่งข้างพุดน้ำบุษย์ ชี้ชวนกันมองทะเลอย่างมีความสุขโดยไม่หันมามองเธอเลยสักนิด..เรื่องเมื่อวานมันก็แค่ฝันไปสินะ ทั้งฝันร้ายและฝ
๑๕ความจริงคือไม่รักอาจเป็นเพราะกังวลเรื่องเขามากเกินไปทำให้เธอตาฝาด ร่างบางเปิดไฟสว่างไปทั่วห้องก็ต้องถอนหายใจเมื่อไม่พบผู้ใดในห้องนอนของตนเอง..เขาจะมาหาเธออีกทำไม ในเมื่อก็มีผู้หญิงแสนสวยอยู่เคียงข้างแล้ว ต่อไปนี้ทั้งเธอและเขาก็ไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีกต่างคนต่างอยู่แม้ว่าจะบอกตัวเองอย่างนั้นแต่ทำไมใจกลับเจ็บปวดเมื่อคิด พยายามตัดใจ พยายามเข้มแข็งแต่ยิ่งทำมันยิ่งเจ็บและถ้าหากไม่ทำอะไรยอมให้เขารังแกก็เจ็บปวดอีก ไม่ว่าจะทำอะไรจะเดินหน้าหรือถอยหลังก็มีแต่สร้างความเจ็บปวดให้เธอเช้าวันต่อจอมขวัญมาทำงานแต่เช้าและซื้อของมาฝากยามหน้าบริษัทกับป้าที่ทำความสะอาด ต่างพูดคุยจนเธอขอตัวไปยังแผนกตนเอง ด้วยเหตุที่มาเช้าจอมขวัญจึงมีเวลาเคลียร์เอกสารที่มากองบนโต๊ะทำงาน จนกระทั่งดาหวันเดินเข้ามา“อ้าวขวัญ มาทำงานแล้วหรือ” รุ่นพี่ยิ้มให้สาวตัวเล็กที่นั่งทำงานอยู่ก่อนแล้ว สิ่งหนึ่งที่เธอชอบจอมขวัญก็เพราะขยันและไม่เกี่ยงงาน“ค่ะพี่ดา ขาดไปนาน กลัวพี่ดาเหนื่อยคนเดียว” เพราะงานของแผนกมีอยู่ทุกวัน ไม่พอบางครั้งก็ต้องสรุปรายรับรายจ่ายให้ท่านประธานดูทุกสัปดาห์พร้อมกับประชุมสรุปงานอีกต่างหาก งานของเธอต้
๑๖ท้องดาราสาวเจ้าบทบาทอย่างพุดน้ำบุษย์จอดรถมินิสีแดงเพลิงของตนเองไว้ที่ใต้คอนโดหรูแห่งหนึ่ง เธอจับแว่นตาสีชาสุดโปรดแบรนด์ดังที่เป็นพรีเซ็นเตอร์มาสวม เช็กความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนลงจากรถไป เสื้อยืดแขนยาวสีเงินเรียบง่ายกับกางเกงยีนรัดรูปขายาว รองเท้าส้นสูงพื้นแดงทำให้เธอเป็นที่สะดุดตาได้ไม่ยากแม้จะเป็นการแต่งกายที่เรียบร้อยและมิดชิดก็ตาม“สวัสดีครับ” พนักงานกล่าวต้อนรับหญิงสาวเธอเพียงแค่ยิ้มให้เล็กน้อยเท่านั้น ร่างบางเดินไปกดลิฟต์ รอสักครู่ประตูลิฟต์ก็เปิดออก ดีที่เวลานี้ไม่มีผู้คนอยู่ในลิฟต์เลย พุดน้ำบุษย์กดไปยังชั้นบนสุดอย่างรวดเร็ว รอเพียงไม่นานก็มาถึงยังชั้นที่หมาย“ถ้าจะจองทั้งชั้นขนาดนี้ทำไมไม่ไปซื้อบ้านอยู่เลยล่ะ” อดค่อนขอดอีกคนไม่ได้เมื่อขึ้นมายังชั้น 16 ของคอนโดมิเนียมสุดหรู ชั้นนี้ทั้งชั้นถูกจับจองโดยเจ้าของคอนโดหนุ่มหล่อที่เป็นเพื่อนสนิทกับชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของเธอร่างบางเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องของคนที่ตนต้องการเจอหน้า ก่อนเข้ามายังหน้าห้องเขาจะมีประตูเพื่อสแกนบัตรสำหรับแม่บ้านซึ่งคนรอบคอบอย่างเธอก็ได้สั่งงานคนสนิทของตนไปเอาคีย์การ์ดจากแม่บ้านมาเป็นที่เรียบร้อยทำให้ผ่า
๑๗แต่งงานกันจอมขวัญอยู่บ้านของดาหวันโดยช่วยเลี้ยงเจ้านายในวันหยุด หล่อนเหม่อลอยในบางครั้งจนรุ่นพี่รู้สึกสงสารดาหวันปรึกษากับสามีและได้คำตอบว่าควรปล่อยให้หญิงสาวอยู่คนเดียว ค่อยเข้าไปช่วยตอนที่มีปัญหาเท่านั้น ตอนนี้ร่างบางกำลังนั่งบนชิงช้าที่สวนของบ้าน แกว่งช้าๆ ไปตามจิตใจที่ล่องลอยไปไกล สายตาของเธอไม่ได้โฟกัสที่จุดใดเป็นพิเศษ“ขวัญ มีคนมาหา” ดาหวันเอ่ยเรียกทำให้ร่างบางหันมามอง ก่อนจะเบนสายตาไปที่ผู้มาเยือนซึ่งเป็นหนุ่มร่างสูงที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี “คุยกันไปเลยนะ พี่จะไปทำอาหารรอ” พูดจบร่างท้วมก็เดินออกไปจากบริเวณนั้นปล่อยสองหนุ่มสาวคุยกันตามลำพังจอมขวัญหันหน้ากลับมามองตรงเหมือนเดิม ต่างจากปนิธิที่มองเธอนิ่ง บรรยากาศเงียบชวนอึดอัดยิ่งนัก จนในที่สุดปนิธิก็ตัดสินใจเดินเข้าไปนั่งข้างจอมขวัญ เขาทำใจไว้แล้วหากเธอจะลุกขึ้นแต่แปลกที่จอมขวัญกลับนิ่งอยู่ที่เดิม“พี่จะมาขอโทษเรื่องวันนั้น” ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่ายซึ่งปนิธิก็เตรียมใจมารับแล้วว่าอาจจะเจอเหตุการณ์แบบนี้หลังจากที่เขากระทำการหยาบหยามเธอ “ขวัญอาจจะรู้สึกกับพี่ไม่เหมือนเดิม พี่เข้าใจ พี่มันเลว ตอนนั้นพี่คิดแค่ว่าทำไมขวัญต้องท้อ
๑๘เดินตามเกมจอมขวัญนั่งอยู่บนรถกระบะที่ขับมุ่งตรงไปจังหวัดนครราชสีมาจุดหมายคือเมืองเสียงแคนดอกคูณจังหวัดขอนแก่น ซึ่งถือเป็นบ้านเกิดของสาวสวยที่กำลังเหม่อลอยอยู่ในขณะนี้นั่นเองบิดาของเธอเป็นคนขับรถมารับลูกสาวเพราะต้องขนของเป็นจำนวนมากพอสมควร บางส่วนก็ขนกลับไปแล้วโดยมีมารดาของจอมขวัญนั่งด้านข้าง“ขวัญหิวไหม แวะกินอะไรก่อนดีไหม” แม่ยิ้มเอ่ยถามลูกสาวที่เอาแต่เหม่อมองไปข้างทาง“แม่หิวก็กินเลยจ้ะ ตอนนี้ขวัญยังไม่หิวเลย” หันมาตอบแล้วก็มองข้างนอกเหมือนเดิม ยิ่งทำให้ทั้งพ่อและแม่เป็นห่วงบุตรสาวยิ่งนัก“พ่อหิวมาก แวะหาอะไรกินข้างทางก่อนแล้วกัน” พ่อตูมตามซึ่งตอนนี้ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ใหญ่บ้านแล้วพูดขึ้นพร้อมกับมองลูกสาวผ่านกระจก“ยังไงก็ได้ค่ะ” ตอบเพียงเท่านั้นแล้วทั้งรถก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งหนึ่งทั้งสามแวะรับประทานอาหารที่ร้านอาหารข้างทางเพียงครู่เดียวเท่านั้นก่อนจะขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อไปยังขอนแก่นกว่าจะถึงก็ทุ่มครึ่งไปแล้ว และพอหลานสาวคนสวยลงมาจากรถ ตาเม่นก็รีบเดินมาหาหลานสาวทันที“ทำไมมาถึงค่ำนักล่ะลูก ตารอตั้งนาน มาๆ ตาให้ยายทำกับข้าวกับปลาไว้เยอะเลย มีแต่ของที่หลานชอบ”จอมขวัญยิ้ม
๑๙เข้าใกล้ร่างสูงเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของเพื่อนรักตนเอง เพราะแน่ใจว่าชนวีร์ไม่อยู่อย่างแน่นอนเนื่องจากเขาถามเลขาของเพื่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้วและได้ข่าวว่าตอนนี้เพื่อนตัวดีไปทำงานที่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้นทางวันนี้สะดวกแน่นอน คุณลุงกับคุณป้าก็ไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดเตรียมตัวลุยกับงานแต่งของลูกชายคนเดียวดังนั้นจึงเหลือสาวน้อยคนเดียวที่อยู่ภายในบ้านหลังนี้นั้นก็คือ“พี่พีร์”“น้องมิน” บุษบามินตรานั่งอ่านนิตยสารอยู่ที่ห้องรับแขกอย่างสบายอารมณ์ มีเสียงเพลงเปิดคลอเบาๆ ไร้ซึ่งอาการของคนที่ถูกบังคับให้แต่งงานโดยสิ้นเชิง..แบบนี้มันยิ่งกว่าอยากแต่งเสียอีกพีรยศคิดในใจ“พี่พีร์มีธุระอะไรกับมินหรือเปล่าคะ” มือบางปิดนิตยสารลง ใบหน้าหวานอมยิ้มเพียงเล็กน้อย“พี่อยากมาฟังจากปากน้องมิน ว่ามินรักไอ้วีร์หรือเปล่า”..เอาวะ ขอสวมบทบาทเล่นละครสักเล็กน้อยหน่อยแล้วกัน ถึงจะไม่ถนัดก็เถอะ“มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะคะว่ามินจะรักหรือไม่รักพี่วีร์ เพราะไม่ว่ายังไงมินก็ต้องแต่งงานกับพี่วีร์อยู่แล้ว” ตอบกลับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะพูดประโยคเจ็บ..นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงได้น้ำตาตกในเป็นแน่“และอีกอย่าง ถึงมินจ
๒๐ความจริงเปิดเผยจอมขวัญขับรถตรงกลับบ้านแต่ระหว่างทางก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา รถกระบะของพ่อเธอดันมาเสียกลางทางและแน่นอนว่าเธอซ่อมไม่เป็น..แล้วอย่างนี้จะทำอย่างไรดีมือบางปาดน้ำตาที่ไหลลงมาก่อนจะลงรถเพื่อไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เธอยกกระโปรงรถขึ้นเพื่อเช็กเครื่องที่พอจะมีความรู้อยู่บ้างในเรื่องนี้แต่ก็พบว่ามันปกติจนกระทั่งเธอเหลือบไปเห็นล้อหน้าที่แบนอย่างชัดเจน“โธ่เอ๊ย!” อยากจะกุมขมับ..ทำไมยางต้องมาแบนด้วยนะ ตอนนี้เธอกำลังอยู่บนถนนปากทางของตำบลที่เธออยู่ กว่าจะขับเข้าไปในหมู่บ้านของเธอก็ใช้เวลากว่ายี่สิบนาที“โทรศัพท์” คิดได้ก็รีบควานหาโทรศัพท์ทันทีแต่ดันลืมว่าเมื่อคืนไม่ได้ชาร์ตไว้ทำให้โทรศัพท์เธอนอนตายอยู่ในรถไม่สามารถทำอะไรได้ ยิ่งทำให้จอมขวัญเจ็บใจเข้าไปอีกทางเดียวที่ทำได้คือการเปลี่ยนล้อรถยนต์ก่อน ร่างบางหาอุปกรณ์หลังรถก่อนจะพยายามมุดใต้ท้องรถเพื่อเอายางรถสำรองออกมาแต่ดูเหมือนมันจะยากเหลือเกิน“ว้าย!” เสียงร้องตกใจพร้อมกับร่างบางที่ออกมาจากใต้รถเพราะมีคนมาจับขาเธอ พอเห็นคนฉวยโอกาสก็หน้าบึ้งทันทีเป็นชนวีร์ที่ขับรถตามมานั้นเอง เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเพียงแค่อยากรู้ว่าเธอจะจัดการก
๒๑ผมขอโทษข่าวงานแต่งของนักธุรกิจหนุ่มล่ม ดังชั่วข้ามคืน สื่อพากันตีแผ่ถึงเรื่องราวต่างๆ ตามที่ได้รู้มาจากแขกที่ไปร่วมงาน เนื่องมาจากเจ้าของงานได้กันสื่อมวลชนให้อยู่แต่เพียงด้านนอกเท่านั้นข่าวดังเพียงช่วงเช้า บ่ายมาก็เงียบหายราวกับเรื่องไม่เคยเกิดขึ้นเพราะคุณชนวัตรได้ทำการปิดข่าวทุกแขนง เรื่องจึงเงียบหายไปในที่สุดโทรทัศน์ถูกปิดเมื่อการรายงานข่าวจบลง ร่างบางพยายามไม่สนใจแล้วเดินไปยังครัวเพราะต้องไปส่งขนมช่วงเช้า เธอทำใจได้มากขึ้นหลังจากที่เขากลับไปแล้วไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย คนในบ้านยังไม่มีใครรู้ว่าคนที่เป็นพ่อเด็กคือใครและเธอก็คิดไว้แล้วว่าจะปิดเรื่องนี้ให้เป็นความลับต่อไป เพราะถึงเปิดเผยไปก็ไม่มีผลดีกับใครทั้งนั้น“ขวัญไปก่อนนะคะ แล้วจะรีบกลับมา” บอกคนในครอบครัวแล้วก็ขับรถออกไปทันทีในระหว่างทางก็คิดถึงเรื่องราวที่ได้รับรู้ทางโทรทัศน์..งานแต่งของเขาถูกยกเลิกแล้วอย่างนั้นหรือ เกิดอะไรขึ้นกันทำไมถึงยกเลิกกะทันหันแบบนี้คำถามร้อยแปดวนเวียนไปเรื่อยจนเธอเกือบจะหลงทางเสียแล้ว ดีที่ดึงสติของตนกลับมาได้ทันหลังจากส่งขนมเสร็จก็เข้าห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของใช้ที่หมดแล้ว เธอมองดูเสื้อผ้าเด็
ตอนพิเศษ...รักวุ่นๆ ของหนุ่มตัวอ้วนเด็กหญิงตัวน้อยกำลังร้องไห้งอแงเพราะโดนพี่ชายคนกลางแกล้ง แขนเล็กพยายามจะตีพี่ชายแต่อีกฝ่ายก็ทำท่ายึกยักจะโดนก็ไม่โดนพอเธอเอามือออกพี่ชายก็เข้ามาใกล้“กาง กาง ฮือ” ยังพูดเป็นประโยคไม่ได้แต่เธอก็พยายามจะสื่อสารออกมา“ตากลางแกล้งอะไรน้องอีกล่ะลูก” คุณแม่คนสวยเดินเข้ามาหาลูกสาวคนเล็กในห้องที่เต็มไปด้วยของเล่นของเด็กน้อย อันที่จริงเธอกับสามีซื้อให้ลูกไม่ได้เยอะขนาดนี้ แต่เป็นของพี่ๆ ที่ตกทอดมาสู่น้อง และบริษัทคู่ค้าของสามีก็ขยันส่งของมาดีเหลือเกินจนห้องเต็มไปด้วยของเล่นเด็กแทบไม่มีที่จะเดินแล้ว“เปล่านะครับแม่ กลางแค่มาหยอกน้องเอง น้องจะหัวเราะอารมณ์ดีไง” เด็กแสบยิ้มประจบมารดาหลังจากที่เธออุ้มลูกสาวพลางลูบหลังปลอบจนเด็กน้อยคลายความหงุดหงิดที่พี่ชายมากวน“แม่ ตี ตีกาง” ยายน้องหรือคุณหนูลูกจัน จันทนิภา กิจขจรไพศาลเด็กหญิงวัยสองขวบที่เพิ่งจะพูดได้ไม่กี่คำบอกแม่ให้ทำโทษพี่ชายตัวเอง“ตีหรือคะ พี่กลางแกล้งหนูใช่ไหม” คุณแม่หันมาถามซึ่งสาวน้อยก็พยักหน้าทันที“อะไรกัน พี่ไม่ได้แกล้งน้องสักหน่อย”“เดี๋ยวเถอะตากลาง แม่จะไม่ทำขนมให้ลูกกินนะครับ”ได้ยินแม่ขู่แบบนั้น
บทส่งท้ายหลังจากผ่านเรื่องร้ายต่างๆ มา ชนวีร์ก็ได้เข้าไปขอขมาครอบครัว จอมขวัญอย่างเป็นทางการเมื่อเขาหายจากอาการบาดเจ็บพอที่จะเดินเหินสะดวกแล้ว พร้อมทั้งยังพูดเรื่องแต่งงานกับเธออีกด้วยแต่ครอบครัวจิดากุลบอกว่าทางบ้านถือเรื่องแต่งงานทั้งที่ยังท้องว่าจะทำให้เลิกกันจึงบอกให้รอลูกออกมาเสียก่อนค่อยจัดงานแต่ง ซึ่งก็มีทั้งที่บ้านของฝ่ายหญิงก่อนจะมาฉลองที่บ้านฝ่ายชายด้วยเช่นกัน“ขวัญเป็นอย่างไรบ้างครับ” ร่างสูงวิ่งกระหืดกระหอบมา หลังจากประชุมเสร็จ ใบหน้าคมเข้มมีเหงื่อผุดขึ้นเต็มเพราะวิ่งขึ้นบันไดมา รอลิฟต์ก็แสนจะช้าไม่ทันใจคุณพ่อมือใหม่ตอนนี้ครอบครัวจอมขวัญรอหน้าห้องคลอดมีทั้งพ่อตูมตาม แม่ยิ้ม ยายขิม ตาเม่นและกองทัพซึ่งลาหยุดเพื่อมาดูหน้าหลานคนแรกโดยเฉพาะ“ไม่รู้เหมือนกัน รอนานแล้วยังไม่ออกมาเลย” แม่ยิ้มตอบด้วยความกังวล“น้ำไหมพี่” กองทัพเอ่ยทักก่อนยื่นน้ำเปล่าให้ชนวีร์เขารับแล้วกรอกเข้าปากทันทีด้วยความเหนื่อยอีกทั้งตื่นเต้นด้วยว่าลูกจะออกมาหน้าตาอย่างไร แข็งแรงไหม จะหน้าเหมือนพ่อหรือเหมือนแม่ ตอนจอมขวัญท้องเขาดูแลไม่ห่างซื้อหนังสือมาอ่านโดยเฉพาะรอบรู้มากกว่าคุณแม่เสียอีก“ขอบใจมาก” เขาต
๒๕จากนี้และตลอดไปการเดินทางไปกลับระหว่างกรุงเทพฯ กับขอนแก่นของชนวีร์ทำให้เขาเมื่อยล้ากว่าที่คิดมากนัก เขานั่งเครื่องบินบ้างและให้คนขับรถให้บ้างสลับกันไปงานที่บริษัทก็หนัก บางครั้งก็ต้องบินไปต่างประเทศเพื่อติดต่องานกับลูกค้า เหลืออีกเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้นก็จะครบสามเดือน แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่ามันนานเหลือเกินอาจจะเป็นเพราะว่าเขาต้องทำงานหลายอย่างก็เป็นได้วันนี้ชนวีร์เคลียร์งานทุกอย่างแล้วขับรถมาขอนแก่นเพียงลำพังไม่ได้ให้ลูกน้องตามมา“สวัสดีครับ” เขาแวะเข้ามาที่บ้านผู้ใหญ่บ้านเพื่อทักทายสวัสดีก่อน เป็นแบบนี้ทุกครั้งก่อนจะกลับไปอยู่ที่กระท่อมโล่งซึ่งตอนนี้เขาก็เริ่มชินกับมันเสียแล้ว ลมธรรมชาติเย็นสดชื่นเสียยิ่งกว่าเครื่องปรับอากาศเสียอีก“มาเสียค่ำเชียว กินข้าวกินปลาหรือยัง” แม่ยิ้มเอ่ยถามเพราะตอนนี้ครอบครัวของนางกำลังจะรับประทานอาหารจอมขวัญที่ถือข้าวมาก็หันมามองเขาสักครู่ก่อนเดินเลี่ยงไปทางอื่น ชนวีร์มองหน้าหล่อนแล้วก็ชื่นใจ แค่เห็นเท่านี้เขาก็พอใจมากแล้ว“ยังเลยครับ” กะจะพูดต่อว่าขอฝากท้องด้วยแต่พ่อตูมตามก็เดินมามองตาขวางเสียก่อน“งั้นเอ็งก็มากินด้วยกัน จะได้รีบกลับไปอาบน้ำ
๒๔บทพิสูจน์วันต่อมาชนวีร์ก็ยังกลับมาที่หน้าบ้านเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้แปลกที่เขาได้ถูกเชิญให้เข้ามาภายในบ้านหลังนี้ดวงตาเรียวสำรวจรอบบ้านที่ถูกตกแต่งไว้อย่างน่ารัก มีรูปครอบครัววางไว้บ้างในบางมุม เขาดูรูปจอมขวัญตอนเด็กแล้วก็ต้องยิ้มออกมาเมื่อคิดว่า..ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปมากเพียงใดเพื่อเขา แล้วต่อจากนี้ไปเขาจะตอบแทนด้วยการดูแลเธอไปตลอดชีวิตเอง“นั่งลงสิ จะยืนอีกนานไหม” ตาเม่นพูดเสียงเข้มแม้จะไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้จอมขวัญขอตัวออกไปข้างนอกเพราะไม่อยากทนที่จะเห็นหน้าเขาในบ้านของตัวเอง ตอนนี้จึงมีตาเม่น ยายขิม พ่อตูมตาม แม่ยิ้ม แล้วก็กองทัพเท่านั้น“สวัสดีครับ” เขานั่งลงบนโซฟาแล้วยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อมแต่บุรุษสองคนกลับไม่ยอมรับจนเขาอดหน้าเสียไม่ได้“สวัสดีนะครับ ผมกองทัพน้องชายของพี่ขวัญ” ลูกชายคนเดียวของบ้านแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความเป็นมิตรอยู่ในนั้นเลย..แน่นอนละถ้าไม่เห็นว่าพี่สาวของเขารักผู้ชายคนนี้มากขนาดไหนคงไม่มีวันที่เขาจะยอมยกจอมขวัญให้หรอก“ครับ ผมชนวีร์” เขาเอ่ยแนะนำตัวบ้างก่อนที่พ่อตูมตามจะเอ่ยขึ้นมา“เอาละ ที่ผมยอมให้คุณเข้ามาไม่ได้มาจากความเต็มใจเลย”
๒๓จนกว่าเธอจะใจอ่อน“พ่อทำแบบนี้ได้ยังไง” เสียงแม่ยิ้มเอ่ยถามสามีตนเองด้วยความผิดหวังหลังจากเพื่อนบ้านมาถามไถ่ถึงเรื่องผู้ใหญ่บ้านสามีของนางเอาปืนยิงชายหนุ่มตัวสูง เธอเดาได้ทันทีว่าคนที่กล่าวถึงเป็นใครก่อนจะตามมาถามสามีถึงในไร่“ทำอะไรแม่” กำลังคุมคนงานอยู่ก็ต้องหันมาถามภรรยาที่รักว่าเกิดอะไรขึ้น“พ่อยิงคุณชนวีร์ใช่ไหม” ถามเสียงเครียดแต่พ่อตูมตามกลับไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร“แค่ถากไม่โดนหรอก” ตอบมาอย่างไม่ยี่หระต่อสิ่งที่ตนเองทำแม้ว่าจริงๆ แล้วจะรู้สึกผิดอยู่บ้างแต่ด้วยทิฐิที่มีมากจึงทำเป็นนิ่งเฉย“แล้วถ้าเขาฟ้องพ่อจนติดคุกติดตารางขึ้นมา จะทำยังไง ทำไมไม่คิดบ้างนะ หัวมีแต่ขี้เลื่อยหรือไง” ยิ่งพูดยิ่งอารมณ์เสียกับสามี..ปกติเป็นคนอ่อนโยนแท้ๆ แต่ทว่ามาคราวนี้กลับมุทะลุจนคนเป็นเมียตามแทบไม่ทัน เข้าใจแล้วก็วันนี้ว่าเหนือพ่อของตนเองยังสามีที่หวงลูกสาวมากขนาดไหน“พ่อขอโทษจ้ะแม่”“คนที่พ่อควรขอโทษไม่ใช่แม่ ไปขอโทษคุณวีร์เขานู่น” ว่าจบก็ไม่ฟังคำตอบอะไรอีกแม่ยิ้มเดินออกมาจากสวนขับมอเตอร์ไซค์ออกไปทันทีปล่อยผู้ใหญ่บ้านมองตามตาละห้อย..ทะเลาะกับเมียไม่เว้นวันจริงๆ ไอ้ตูมตามเอ๊ย“ไม่มีทางหรอก” ว่าแ
๒๒ลูกเขยไม่ซ่าเพราะพ่อตาสุดโหดร่างหนาบนเตียงเริ่มขยับ ทำให้คนที่เฝ้าหันไปมองด้วยความสนใจทันที ตาเรียวยาวค่อยๆ ปรือมองบริเวณโดยรอบก่อนจะเห็นคนที่นั่งเฝ้าก็อดถอนหายใจไม่ได้..ไม่เคยได้ญาติดีกันเลยแต่คราวนี้ทำไมคนที่เฝ้าเขาดันเป็นลูกน้องที่แอบหลงรักเมียเขาไปเสียนี่“หมอบอกว่าให้คุณพักผ่อนให้พอ ฉีดยาให้แล้วเพราะคุณเป็นไข้ อ่อนเพลีย”สองหนุ่มมองหน้ากันนิ่งราวกับจะหยั่งเชิงกันและกันเป็นปนิธิที่ถอนหายใจออกมาเสียก่อน เขาลุกออกไปทิ้งไว้เพียงชนวีร์ที่มองตามก่อนจะเริ่มสังเกตโดยรอบว่าที่นี่เป็นเพียงสถานีอนามัยเล็กๆ มีที่นอนเหมือนห้องพยาบาลที่โรงเรียน มีเพียงม่านกั้นเตียง เตียงก็เล็กประมาณสามฟุต อยากจะลุกขึ้นแต่ร่างกายกลับล้าไปหมดเลยทำได้เพียงแค่นั่งพิงหัวเตียง มองด้านข้างก็เห็นน้ำเปล่าเขาจึงดื่มเข้าไปด้วยความกระหาย“ที่ผมมาหาขวัญวันนี้ก็กะว่าจะเอาของสำคัญมาให้เขา แต่ผมคิดว่าคนที่ควรจะได้มันน่าจะเป็นคุณ” สมุดเล่มหนึ่งถูกวางไว้ตรงหน้าตักชนวีร์“ขอให้หายเร็วๆ นะครับท่านประธาน แล้วเจอกันที่ทำงาน” ร่างสูงกล่าวจบก็หันหลังจะเดินออกไปแต่กลับคิดอะไรบางอย่างออกมาได้ “ขวัญเขารักคุณมากนะ ถ้าคุณได้โอกาสจากเ
๒๑ผมขอโทษข่าวงานแต่งของนักธุรกิจหนุ่มล่ม ดังชั่วข้ามคืน สื่อพากันตีแผ่ถึงเรื่องราวต่างๆ ตามที่ได้รู้มาจากแขกที่ไปร่วมงาน เนื่องมาจากเจ้าของงานได้กันสื่อมวลชนให้อยู่แต่เพียงด้านนอกเท่านั้นข่าวดังเพียงช่วงเช้า บ่ายมาก็เงียบหายราวกับเรื่องไม่เคยเกิดขึ้นเพราะคุณชนวัตรได้ทำการปิดข่าวทุกแขนง เรื่องจึงเงียบหายไปในที่สุดโทรทัศน์ถูกปิดเมื่อการรายงานข่าวจบลง ร่างบางพยายามไม่สนใจแล้วเดินไปยังครัวเพราะต้องไปส่งขนมช่วงเช้า เธอทำใจได้มากขึ้นหลังจากที่เขากลับไปแล้วไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย คนในบ้านยังไม่มีใครรู้ว่าคนที่เป็นพ่อเด็กคือใครและเธอก็คิดไว้แล้วว่าจะปิดเรื่องนี้ให้เป็นความลับต่อไป เพราะถึงเปิดเผยไปก็ไม่มีผลดีกับใครทั้งนั้น“ขวัญไปก่อนนะคะ แล้วจะรีบกลับมา” บอกคนในครอบครัวแล้วก็ขับรถออกไปทันทีในระหว่างทางก็คิดถึงเรื่องราวที่ได้รับรู้ทางโทรทัศน์..งานแต่งของเขาถูกยกเลิกแล้วอย่างนั้นหรือ เกิดอะไรขึ้นกันทำไมถึงยกเลิกกะทันหันแบบนี้คำถามร้อยแปดวนเวียนไปเรื่อยจนเธอเกือบจะหลงทางเสียแล้ว ดีที่ดึงสติของตนกลับมาได้ทันหลังจากส่งขนมเสร็จก็เข้าห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของใช้ที่หมดแล้ว เธอมองดูเสื้อผ้าเด็
๒๐ความจริงเปิดเผยจอมขวัญขับรถตรงกลับบ้านแต่ระหว่างทางก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา รถกระบะของพ่อเธอดันมาเสียกลางทางและแน่นอนว่าเธอซ่อมไม่เป็น..แล้วอย่างนี้จะทำอย่างไรดีมือบางปาดน้ำตาที่ไหลลงมาก่อนจะลงรถเพื่อไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เธอยกกระโปรงรถขึ้นเพื่อเช็กเครื่องที่พอจะมีความรู้อยู่บ้างในเรื่องนี้แต่ก็พบว่ามันปกติจนกระทั่งเธอเหลือบไปเห็นล้อหน้าที่แบนอย่างชัดเจน“โธ่เอ๊ย!” อยากจะกุมขมับ..ทำไมยางต้องมาแบนด้วยนะ ตอนนี้เธอกำลังอยู่บนถนนปากทางของตำบลที่เธออยู่ กว่าจะขับเข้าไปในหมู่บ้านของเธอก็ใช้เวลากว่ายี่สิบนาที“โทรศัพท์” คิดได้ก็รีบควานหาโทรศัพท์ทันทีแต่ดันลืมว่าเมื่อคืนไม่ได้ชาร์ตไว้ทำให้โทรศัพท์เธอนอนตายอยู่ในรถไม่สามารถทำอะไรได้ ยิ่งทำให้จอมขวัญเจ็บใจเข้าไปอีกทางเดียวที่ทำได้คือการเปลี่ยนล้อรถยนต์ก่อน ร่างบางหาอุปกรณ์หลังรถก่อนจะพยายามมุดใต้ท้องรถเพื่อเอายางรถสำรองออกมาแต่ดูเหมือนมันจะยากเหลือเกิน“ว้าย!” เสียงร้องตกใจพร้อมกับร่างบางที่ออกมาจากใต้รถเพราะมีคนมาจับขาเธอ พอเห็นคนฉวยโอกาสก็หน้าบึ้งทันทีเป็นชนวีร์ที่ขับรถตามมานั้นเอง เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเพียงแค่อยากรู้ว่าเธอจะจัดการก
๑๙เข้าใกล้ร่างสูงเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของเพื่อนรักตนเอง เพราะแน่ใจว่าชนวีร์ไม่อยู่อย่างแน่นอนเนื่องจากเขาถามเลขาของเพื่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้วและได้ข่าวว่าตอนนี้เพื่อนตัวดีไปทำงานที่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้นทางวันนี้สะดวกแน่นอน คุณลุงกับคุณป้าก็ไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดเตรียมตัวลุยกับงานแต่งของลูกชายคนเดียวดังนั้นจึงเหลือสาวน้อยคนเดียวที่อยู่ภายในบ้านหลังนี้นั้นก็คือ“พี่พีร์”“น้องมิน” บุษบามินตรานั่งอ่านนิตยสารอยู่ที่ห้องรับแขกอย่างสบายอารมณ์ มีเสียงเพลงเปิดคลอเบาๆ ไร้ซึ่งอาการของคนที่ถูกบังคับให้แต่งงานโดยสิ้นเชิง..แบบนี้มันยิ่งกว่าอยากแต่งเสียอีกพีรยศคิดในใจ“พี่พีร์มีธุระอะไรกับมินหรือเปล่าคะ” มือบางปิดนิตยสารลง ใบหน้าหวานอมยิ้มเพียงเล็กน้อย“พี่อยากมาฟังจากปากน้องมิน ว่ามินรักไอ้วีร์หรือเปล่า”..เอาวะ ขอสวมบทบาทเล่นละครสักเล็กน้อยหน่อยแล้วกัน ถึงจะไม่ถนัดก็เถอะ“มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะคะว่ามินจะรักหรือไม่รักพี่วีร์ เพราะไม่ว่ายังไงมินก็ต้องแต่งงานกับพี่วีร์อยู่แล้ว” ตอบกลับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะพูดประโยคเจ็บ..นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงได้น้ำตาตกในเป็นแน่“และอีกอย่าง ถึงมินจ