แชร์

ใจละลาย

เจิ้งเหมยดิ้นรนฮัดฮัดในอ้อมกอด จินเฉิงอู่กดคางลงบนไหล่บางจงใจให้เจิ้งเหมยรู้สึกเจ็บ

"อย่าดิ้น"

ยังแกะมือข้างที่กอดออกจากเอวไม่ยอมฟังคำเตือน

"ท่านอ๋อง ปล่อย"

"เจ้า มันก็แค่สาวใช้ เช่นไรกล้าออกคำสั่งกับข้า"

ใบหน้าเศร้าสร้อยกับคำกล่าวนั้น แต่ยังไม่อยู่นิ่ง

ดึงบังเหียนให้ม้าหยุดวิ่งปล่อยให้ม้าเหยาะย่างตามใจดึงรั้งเอวบางชิดเอวหนา

"อย่างไร อยู่กับข้าสองต่อสองกล้าดีอย่างไรถึงกล้าไม่ฟังคำสั่ง"

เกยคางลงบนไหล่บางปล่อยให้สันจมูกโด่งเลาะเล็มอยู่ข้างแก้ม

"เจิ้งเหมยเป็นเพียงสาวใช้ท่านอ๋องได้โปรด…."

พูดได้เพียงแค่นั้นจินเฉิงอู่เอี้ยวตัวใช้ปากอุ่นประกบปากบาง บดขยี้อย่างที่ไม่อาจหักห้ามใจมือใหญ่ช้อนรับที่ต้นคอระหงตรึงไว้กับที่ไม่ให้ขยับบรรจงจูบจนหนำใจ จึงปล่อยเจิ้งเหมยเป็นอิสระทั้งที่เสียดายรสจูบหอมหวานนั้นเหลือเกิน แต่เจิ้งเหมยกลับอ่อนระทวยในอ้อมแขน ทั้งเขินอายและตกใจ

"คราวนี้คงอยู่นิ่งได้เสียที"

จินเฉิ้งอู๋ยิ้มอย่างผู้ชนะ สวมกอดแนบแน่นกระตุกบังเหียนม้าให้ทะยานไปข้างหน้า

…..บ้านตระกูลเจิ้ง…..

ฮูหยินตะกูลเจิ้ง และเจิ้งหมิงพี่สาวร่วมบิดากับเจิ้งเหมย ออกมารับจินเฉิงอู่หน้าบ้าน แปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นเจิ้งเหมย อยู่บนหลังม้ากับท่านอ๋องห้า

"ข้าฮูหยินตระกูลเจิ้ง คารวะท่านอ๋องห้า"

ลงจากหลังม้าเจิ้งเหมยก็กำลังจะหย่อนตัวลง จินเฉิงอู่กลับใช้แขนแข็งแรงช้อนอุ้มเจิ้งเหมยไว้ในอ้อมแขน แล้ววางลงข้างๆ

เจิ้งเหมยหลบตาฮูหยินใหญ่ที่มองอย่างไม่พอใจนัก

"ท่านแม่ ไหนท่านพ่อบอกว่านางเป็นเพียงสาวใช้ในจวนอ๋อง"

เจิ้งหมิงกระซิบมารดาเบาๆ ฮูหยินใหญ่ใช้ศอกกระทุ้งที่สีข้างเจ้งหมิงเบาๆ

"ท่านอ๋อง ใต้เท้าเจิ้งหารือกับฝ่าบาทยังไม่กลับจากวังหลวง เชิญท่านอ๋องในห้องรับรอง"

เจิ้งเหมยหยุดนิ่งตั้งใจให้จินเฉิงอู่เข้าไปก่อนแต่จินเฉิงอู่คว้าแขนพาเดินเคียงข้าง

โอบรอบไหล่บางพาไปนั่งในที่สูงสุดเคียงข้างเขา

มีหรือเขาจะไม่เคยรู้เรื่องของนาง ในเมื่อเขาเพิ่งให้คนสืบค้นความเป็นไปของเจิ้งเหมยก่อนเข้าวัง

"ข้าแค่แวะมา พา...เสี่ยวเหมยกลับบ้านสักครั้งตั้งแต่เข้าวัง นางยังไม่เคยกลับมาเยี่ยมตระกูลเจิ้ง"

"ท่านอ๋องช่างใส่ใจ รู้ความต้องการของนาง"

ฮูหยินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

"ชายาเอกของท่านอ๋องก็เป็นบุตรีของใต้เท้าตู้หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่มีความสำคัญไม่น้อยในการกุมกำลังทหาร แต่เสี่ยวเหมยของเราเพียงแค่ลูกของอนุของท่านเจิ้ง ชึ่งมีหน้าที่ดูแลเพียงงบประมาณในคลังหลวง ท่านอ๋องก็ยังปราณีใส่ใจนางอย่างดีเช่นกัน นับว่าที่ได้ยินเสียงร่ำลือเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของเสี่ยวเหมยหากไม่เห็นด้วยตาตัวเองยากจะเชื่อได้ทีเดียว"

จินเฉิงอู่ยิ้มที่มุมปาก

"ตอนนี้นางอาจเป็นเพียงสาวใช้ แต่ต่อไปภายหน้าใครจะหยั่งรู้"

ฮูหยินเหมือนจะยอมจำนน

"เสี่ยวเหมย แม่ใหญ่ให้เจ้าอยู่ที่นั่นคอยปรนนิบัติท่านอ๋องให้ดี จึงจะถือว่าช่วยเหลือตระกูลเจิ้งได้มากทีเดียว"

แสร้งพูดดีทั้งที่ใจจริงริษยาเจิ้งเหมยไม่น้อยเมื่อเห็นว่าจินเฉิงอู่มีท่าทีรักใคร่ห่วงใยเจิ้งเหมยถึงเพียงนั้น

"เจิ้งเหมยจะจำใส่ใจ ฮูหยินใหญ่อย่าได้กังวล"

กล่าวรับคำพูดในสิ่งที่ฮูหยินใหญ่อยากได้ยิน

ส่งเจิ้งเหมยขึ้นบนหลังม้ากระโดดขึ้นคร่อมกระตุกบังเหียนออกมาจากบ้านตระกูลเจิ้ง เมื่อเข้าสู่ชายป่า แทนที่จะเร่งฝีเท้าม้ากลับปล่อยให้ม้าเหยาะย่างไปตามทางอย่างช้าๆ เหมือนจะหยุดเวลาไว้ เจิ้งเหมยขยับตัวออกห่างมือใหญ่กับรั้งเอวกิ่วเข้าหาลำตัว

"เจ้ายังไม่เข็ดหรือว่าติดใจรสจูบกันแน่"ยิ้มยียวน

"ท่านอ๋อง ในเมื่อแสดงละครจบแล้วก็อย่าทำแบบนี้อีกเลย"

เจิ้งเหมยเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นเพียงหนึ่งในแผนการที่มีเจิ้งเหมยอยู่ในแผนการนั้น จินเฉิงอู่อดขำกับความคิดของเจิ้งเหมยไม่ได้

"เจ้าเล่า... รอยยิ้มของเจ้าในวังหลวงในวันนั้นเป็นการแสดงละครหรือไม่ หรือว่าดีใจที่ได้เข้ามาอยู่....ในจวนอ๋อง..มีโอกาสได้ใกล้ชิดข้า อย่างที่เจ้าต้องการแต่แรก"

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status