เจิ้งเหมยดิ้นรนฮัดฮัดในอ้อมกอด จินเฉิงอู่กดคางลงบนไหล่บางจงใจให้เจิ้งเหมยรู้สึกเจ็บ
"อย่าดิ้น"
ยังแกะมือข้างที่กอดออกจากเอวไม่ยอมฟังคำเตือน
"ท่านอ๋อง ปล่อย"
"เจ้า มันก็แค่สาวใช้ เช่นไรกล้าออกคำสั่งกับข้า"
ใบหน้าเศร้าสร้อยกับคำกล่าวนั้น แต่ยังไม่อยู่นิ่ง
ดึงบังเหียนให้ม้าหยุดวิ่งปล่อยให้ม้าเหยาะย่างตามใจดึงรั้งเอวบางชิดเอวหนา
"อย่างไร อยู่กับข้าสองต่อสองกล้าดีอย่างไรถึงกล้าไม่ฟังคำสั่ง"
เกยคางลงบนไหล่บางปล่อยให้สันจมูกโด่งเลาะเล็มอยู่ข้างแก้ม
"เจิ้งเหมยเป็นเพียงสาวใช้ท่านอ๋องได้โปรด…."
พูดได้เพียงแค่นั้นจินเฉิงอู่เอี้ยวตัวใช้ปากอุ่นประกบปากบาง บดขยี้อย่างที่ไม่อาจหักห้ามใจมือใหญ่ช้อนรับที่ต้นคอระหงตรึงไว้กับที่ไม่ให้ขยับบรรจงจูบจนหนำใจ จึงปล่อยเจิ้งเหมยเป็นอิสระทั้งที่เสียดายรสจูบหอมหวานนั้นเหลือเกิน แต่เจิ้งเหมยกลับอ่อนระทวยในอ้อมแขน ทั้งเขินอายและตกใจ
"คราวนี้คงอยู่นิ่งได้เสียที"
จินเฉิ้งอู๋ยิ้มอย่างผู้ชนะ สวมกอดแนบแน่นกระตุกบังเหียนม้าให้ทะยานไปข้างหน้า
…..บ้านตระกูลเจิ้ง…..
ฮูหยินตะกูลเจิ้ง และเจิ้งหมิงพี่สาวร่วมบิดากับเจิ้งเหมย ออกมารับจินเฉิงอู่หน้าบ้าน แปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นเจิ้งเหมย อยู่บนหลังม้ากับท่านอ๋องห้า
"ข้าฮูหยินตระกูลเจิ้ง คารวะท่านอ๋องห้า"
ลงจากหลังม้าเจิ้งเหมยก็กำลังจะหย่อนตัวลง จินเฉิงอู่กลับใช้แขนแข็งแรงช้อนอุ้มเจิ้งเหมยไว้ในอ้อมแขน แล้ววางลงข้างๆ
เจิ้งเหมยหลบตาฮูหยินใหญ่ที่มองอย่างไม่พอใจนัก
"ท่านแม่ ไหนท่านพ่อบอกว่านางเป็นเพียงสาวใช้ในจวนอ๋อง"
เจิ้งหมิงกระซิบมารดาเบาๆ ฮูหยินใหญ่ใช้ศอกกระทุ้งที่สีข้างเจ้งหมิงเบาๆ
"ท่านอ๋อง ใต้เท้าเจิ้งหารือกับฝ่าบาทยังไม่กลับจากวังหลวง เชิญท่านอ๋องในห้องรับรอง"
เจิ้งเหมยหยุดนิ่งตั้งใจให้จินเฉิงอู่เข้าไปก่อนแต่จินเฉิงอู่คว้าแขนพาเดินเคียงข้าง
โอบรอบไหล่บางพาไปนั่งในที่สูงสุดเคียงข้างเขา
มีหรือเขาจะไม่เคยรู้เรื่องของนาง ในเมื่อเขาเพิ่งให้คนสืบค้นความเป็นไปของเจิ้งเหมยก่อนเข้าวัง
"ข้าแค่แวะมา พา...เสี่ยวเหมยกลับบ้านสักครั้งตั้งแต่เข้าวัง นางยังไม่เคยกลับมาเยี่ยมตระกูลเจิ้ง"
"ท่านอ๋องช่างใส่ใจ รู้ความต้องการของนาง"
ฮูหยินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
"ชายาเอกของท่านอ๋องก็เป็นบุตรีของใต้เท้าตู้หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่มีความสำคัญไม่น้อยในการกุมกำลังทหาร แต่เสี่ยวเหมยของเราเพียงแค่ลูกของอนุของท่านเจิ้ง ชึ่งมีหน้าที่ดูแลเพียงงบประมาณในคลังหลวง ท่านอ๋องก็ยังปราณีใส่ใจนางอย่างดีเช่นกัน นับว่าที่ได้ยินเสียงร่ำลือเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของเสี่ยวเหมยหากไม่เห็นด้วยตาตัวเองยากจะเชื่อได้ทีเดียว"
จินเฉิงอู่ยิ้มที่มุมปาก
"ตอนนี้นางอาจเป็นเพียงสาวใช้ แต่ต่อไปภายหน้าใครจะหยั่งรู้"
ฮูหยินเหมือนจะยอมจำนน
"เสี่ยวเหมย แม่ใหญ่ให้เจ้าอยู่ที่นั่นคอยปรนนิบัติท่านอ๋องให้ดี จึงจะถือว่าช่วยเหลือตระกูลเจิ้งได้มากทีเดียว"
แสร้งพูดดีทั้งที่ใจจริงริษยาเจิ้งเหมยไม่น้อยเมื่อเห็นว่าจินเฉิงอู่มีท่าทีรักใคร่ห่วงใยเจิ้งเหมยถึงเพียงนั้น
"เจิ้งเหมยจะจำใส่ใจ ฮูหยินใหญ่อย่าได้กังวล"
กล่าวรับคำพูดในสิ่งที่ฮูหยินใหญ่อยากได้ยิน
ส่งเจิ้งเหมยขึ้นบนหลังม้ากระโดดขึ้นคร่อมกระตุกบังเหียนออกมาจากบ้านตระกูลเจิ้ง เมื่อเข้าสู่ชายป่า แทนที่จะเร่งฝีเท้าม้ากลับปล่อยให้ม้าเหยาะย่างไปตามทางอย่างช้าๆ เหมือนจะหยุดเวลาไว้ เจิ้งเหมยขยับตัวออกห่างมือใหญ่กับรั้งเอวกิ่วเข้าหาลำตัว
"เจ้ายังไม่เข็ดหรือว่าติดใจรสจูบกันแน่"ยิ้มยียวน
"ท่านอ๋อง ในเมื่อแสดงละครจบแล้วก็อย่าทำแบบนี้อีกเลย"
เจิ้งเหมยเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นเพียงหนึ่งในแผนการที่มีเจิ้งเหมยอยู่ในแผนการนั้น จินเฉิงอู่อดขำกับความคิดของเจิ้งเหมยไม่ได้
"เจ้าเล่า... รอยยิ้มของเจ้าในวังหลวงในวันนั้นเป็นการแสดงละครหรือไม่ หรือว่าดีใจที่ได้เข้ามาอยู่....ในจวนอ๋อง..มีโอกาสได้ใกล้ชิดข้า อย่างที่เจ้าต้องการแต่แรก"
วันส่งตัวเข้าวังเพื่อคัดนางใน ….ผู้คัดตัวนางในหลายสิบคนลงจากเกี้ยวที่หน้าประตูวังจินเฉิงอู่เข้ามาในวังแต่เช้าตรู่เช่นกัน ข้างๆกันนั้นเกี้ยวของเจิ้งเหมยหยุดก่อนถึงประตูวังตามธรรมเนียมร่างเล็กบอบบางก้าวลงจากเกี้ยวด้วยสายตาหวาดหวั่น หันมาร่ำลากับสาวใช้ที่มาส่งหันกลับมาอีกทีชนเข้ากับร่างใหญ่ของจินเฉิงอู่เข้าอย่างจัง รวบร่างบางไว้ในอ้อมแขนสบตากลมที่มีแววเศร้าสร้อยภายในนิ่งนานบางอย่างบอกเขาว่า นางช่างมีใบหน้างดงามนัก เสียดายคงจะไม่รอดพ้นสายตาของฝ่าบาทถูกคัดไปเป็นสนมของฝ่าบาทอย่าแน่นอน"ขออภัยใต้เท้า" หลบตาคมที่ส่งสายตาพึงพอใจในใบหน้างดงามยามเขินอายยิ่งน่ามอง จินเฉิงอู่เผลออมยิ้มเจิ้งเหมยเดินหลบเข้าไปในวังปล่อยเขายืนเก้ออยู่ตรงนั้นเจิ้งเหมยหลบตาคมที่มองมาอย่างคาดคั้น"ท่านอ๋องโปรดไตร่ตรอง เราสองคนแต่เดิมไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเหตุใดเจิ้งเหมยต้องอยากมาอยู่จวนอ๋องหากไม่ใช่บัญชาของฝ่าบาท""เราสองคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จริงอย่างที่เจ้าพูดเช่นนั้นวันนี้ข้าจะถือว่าข้าไม่ใช่อ๋อง เป็นเพียงบุรุษผู้หนึ่งเท่านั้น"จูบรุนแรงป่าเถื่อนเจิ้งเหมยดิ้นรนแต่กลับถูกกอดรัดมือกำแน่นทุบลงบนอกกว้างมือใหญ่กำมื
จินเฉิงอู่อุ้มร่างบางเปียกปอนของเจิ้งเหมยวางบนตลิ่ง โยวเสวียนว่ายน้ำเข้าฝั่งเพียงลำพัง เหตุใดเขาจะไม่รู้เล่าว่าโยวเสวียนว่ายน้ำเป็น ก็ในเมื่อยังเยาว์วัยโยวเสวียนและเขามักจะพาก้นไปว่ายน้ำที่สระในวังหลวงเสมอ แต่เจิ้งเหมยที่นอนสลบอยู่นี่กับไม่มีทีท่าว่าจะช่วยเหลือตัวเองได้เสี่ยวป๋อนำเสื้อคลุมมาให้เขา โยวเสวียนมองมาที่จินเฉิงอู่ที่นั่งมองเจิ้งเหมย สายตาแม้เฉยเมยแต่โยวเสวียนกลับไม่วางใจ"ตามหมอ"ผุดลุกขึ้นเดินไปที่โยวเสวียน"น้ำเย็นมาก หวางเฟยรีบกลับไปแช่น้ำอุ่นแล้วจิบน้ำขิงเสียหน่อย เสี่ยวป๋อสั่งห้องครัวต้มน้ำขิงให้พระชายา"คังซื่อฮั่นอุ้มเจิ้งเหมยกลับไปที่ห้องพัก ย่าหนานวิ่งตามด้วยความเป็นห่วงคังซื่อฮั่น รีบรุดไปที่ห้องของจินเฉิงอู่"พระชายาจงใจแกล้งเสี่ยวเหมย""เสี่ยวเหมย"ยิ้มมุมปากเหมือนยิ้มเยาะให้กับตัวเอง"ดูท่าเจ้าจะสนิทสนมกับนางไม่น้อยถึงกับเรียกนางแบบนั้น เช่นนั้นหากจะโกรธแทนนางใส่ร้ายพระชายาก็ไม่แปลก""ท่านอ๋อง พระชายาว่ายน้ำเก่งท่านก็รู้"จินเฉิงอู่นิ่ง"นางเป็นตะคลิว"โยวเสวียนเข้ามาในห้อง"ท่านอ๋อง โยวเสวียนถูกน้ำเย็นจัดจนเป็นตะคริวดังที่ท่านอ๋องสงสัย จึงร้องให้นางช่วย หากท่าน
“ไทฮองไทเฮารับนางไว้รับใช้ข้างกายอีกหน่อยท่านอ๋องยกฐานะนางขึ้นเป็นชายารองได้ไม่ยาก”ใต้เท้าตู้พูดเหมือนตั้งใจหยั่งเชิงจินเฉิงอู่ว่า ยังมีรักให้กับโยวเสวียนอยู่ไหม“ชายารอง เดิมทีข้าไม่เคยคิดจะมีชายารอง ข้าไม่ชมชอบการมีใจสองเที่ยวแบ่งปันความรักให้ใคร”“หากโยวเสวียนมาได้ยินคำนี้นางคงต้องดีใจแน่ ท่านอ๋องนับว่าเป็นมหาบุรุษทีเดียว ยากยิ่งที่จะไม่หวั่นไหวกับสาวงาม”จินเฉิงอู่ยิ้มบางๆ“เจิ้งเหมย ย่าให้เจ้าเย็บถุงเครื่องหอม เสร็จหรือยัง”“ไทฮองไทเฮาเรียบร้อยแล้วเพคะ”“ดี สีฟ้าเป็นสีที่เฉิงอู่ชอบมาก เจ้านำถุงเครื่องหอมอันนี้ไปที่ห้องท่านอ๋องส่งให้เหลียงซานป๋อบอกว่าข้าให้นำมามอบให้ท่านอ๋อง”“แต่ไทฮองไทเฮา เจิ้งเหมย”“อย่าปฏิเสธย่า...ไปได้แล้ว มัวแต่ชักช้ามืดค่ำป่านนี้อากาศเย็นกลับมาเจ้าต้องมานวดให้ย่าอีก อย่ามัวแต่ช้า”เจิ้งเหมยรีบรุดไปทันทีที่หน้าห้องนอน (โยวเสวียนออกกฏห้ามสาวใช้ในจวนเข้าไปในห้องนอนท่านอ๋อง เรื่องหลับนอนนางเป็นคนดูแลเอง) ไร้เงาของเสี่ยวป๋อ ข้างในเงียบสะงัดเหมือนร้างไร้ผู้คน เจิ้งเหมยเปิดประตูเข้าไปเบาๆ เดินย่องเข้าไปข้างในมือกำถุงเครื่องหอมแน่น แสงเทียนภายในส่องแสงนวลไม่สว่
"พระชายาเกลียดนาง ได้แต่อย่าให้ท่านอ๋องกับไทฮองไทเฮารู้ เพราะในสายตาของท่านอ๋องพระชายาอ่อนหวานงดงาม""ท่านพ่อพูดกับข้าเรื่องนี้เสมอ ให้ข้าอดทนหากช่วยให้ท่านอ๋องครองบัลลังก์ได้วันไหน ตำแหน่งฮองเฮาย่อมต้องตกเป็นของข้า ส่งขนมอี้ (แทนความรักความสุขสงบกลมเกลียวในครอบครัว) ไปให้ท่านอ๋องที่ห้อง"นางกำนัลข้างกายรีบรุดไปทันทีห้องนอนท่านอ๋อง"เสี่ยวป๋อขนมที่ห้องครัวให้เขาส่งมาที่ห้องข้า"เสี่ยวป๋อวิ่งหัวหมุนร่างอักษรพร้อมกับเหลือบตามองเจิ้งเหมยไปด้วยเสี่ยวป๋อยกขนมมาถาดใหญ่ วางตรงหน้าท่านอ๋อง"เสี่ยวป๋อให้นางพักเข่ามากินขนมก่อน"เจิ้งเหมยทำเป็นไม่ได้ยิน เสี่ยวป๋อมองคนนู้นที่คนนี้ทีก็ในเมื่อเจิ้งเหมยได้ยินแล้วทำไมยังให้เขาพูดอีกก่อนจะพูดขึ้นดังๆ"พี่สาวเจิ้งเหมยท่านอ๋องให้ท่านพักเข่ากินขนมก่อน""บอกท่านอ๋อง ข้ายังไม่อยากพักและไม่อยากกิน""บอกนางรีบๆ มากินเสียข้าลดโทษให้ระหว่างกินขนม จะไม่นับเวลาไว้ให้นางคุกเขาอีกแค่ชั่วยามเดียวก็ไปนอนได้แล้ว"เสี่ยวป๋อเกาหัวแกรกๆ เดินไปกระซิบเจิ้งเหมย"พี่สาว ข้าว่าท่านรีบไปกินเสียเถอะตอนท่านอ๋องกำลังอารมณ์ดี หากท่านอ๋องกริ้วขึ้นมาอาจสั่งเพิ่มโทษพี่สาวอาจไม่ไ
“ตระกูลไป๋ตอนนี้ ส่งลูกสาวเข้าวัง แต่เดิมมักจะแลกเปลี่ยนพูดคุยกันกับท่านอ๋องเสมอ แต่หลายวันมานี่แม้ชวนให้มาหารือพร้อมกับท่านพ่อของข้า ใต้เท้าไป๋กลับปฏิเสธอ้างว่าไม่สบาย”โยวเสวียนยิ้ม“เกรงว่าใต้เท้าไป๋จะแปรพักตร์เสียแล้ว ข้าคงต้องหาวิธีอื่นที่จะเอาชนะฝ่าบาท”มือยังบีบนวดอยู่อย่างนั้น“ท่านพ่อสนิทสนมกับใต้เท้าไป๋ให้โยวเวียนลองเอ่ยปากดูสักครั้ง ท่านอ๋องเมตตา โยวเสวียนไม่เปลี่ยน โยวเสวียนซาบซึ้งใจนักเรื่องบางเรื่องหากแบ่งเบาได้โยวเสวียนเต็มใจทำ”จินเฉิงอู่ยิ้มคังซื่อฮั่นกับเจิ้งเหมยเดินเที่ยวตลาดด้วยกันอย่างสนุกสนานคังซื่อฮั่นชี้ชวนให้เจิ้งเหมยดูของต่างๆ แปลกตาบ้างก็สวยงาม ยอมจับจ่ายเพื่อซิ้อของให้เจิ้งเหมยกลับมาที่จวนพร้อมกัน คังซื่อฮั่นเดินไปส่งที่พักของไทฮองไทเฮาซึ่งบัดนี้ จินเฉิงอู่อยู่ที่นั่น เหมือนกับรออะไรบางอย่าง..นานแล้ว“คารวะท่านอ๋อง”คังซื่อฮั่นเหมือนจะมองอารมณ์ออกว่าอีกคน กำลังอยู่ในอารมณ์ไหน“เจ้าเป็นองครักษ์ของข้าหรือของนางกันแน่”คังซื่อฮั่นอมยิ้ม“เสี่ยวเหมย ไว้ข้าพาเจ้าออกไปข้างนอกอีกหากเจ้าต้องการ”จินเฉิงอู่เอามือไพล่หันหันหน้าหนีเหมือนไม่อยากเห็น“ขอบคุณซื่อฮั่น”คัง
"อย่างนั้นเจิ้งเหมยยกให้ท่านอ๋องเพราะเจิ้งเหมยเพิ่งจะกินเมื่อคราวนั้นจนเบื่อ"จินเฉิงอู่เอื้อมมือคว้าข้อมือที่มีผลซานซาเชื่อมเสียบไม้ แล้วจ้องมองดวงตากลมอย่างมีความหมาย เจิ้งเหมยหลบสายตาคมเกี้ยวมาถึงจวนอ๋อง โยวเสวียนยืนรอรับอยู่ข้างหน้า"ท่านอ๋อง"สายตาไม่ได้จับจ้องที่เจิ้งเหมยอย่างที่ควรจะเป็น"โยวเสวียนเจ้าไม่ค่อยแข็งแรงออกมายืนตากลมทำไม"ถอดเสื้อคลุมห่มไหล่ให้โยวเสวียนเจิ้งเหมยเดินหลบเข้าไปภายใน เจ็บแปลบที่หัวใจ"เดี๋ยว ข้าอยากกินตุ๋นรากบัว เจ้าช่วยไปบอกห้องครัวจัดมาให้ข้าด้วย"โยวเสวียนสั่งเจิ้งเหมยทำกำลังจะเข้าไปข้างในจินเฉิงอู่ที่กำลังจะพยุงโยวเสวียน กลับเดินเข้าไปในจวนทันทีเจิ้งเหมยไปที่ห้องครัวอยู่รอจนแม่ครัวตุ๋นรากบัวเสร็จ จินเฉิงอู่ฉุดมือเจิ้งเหมยให้ตามเขามา"เจ้ากลับไปหาเสด็จย่าเดี๋ยวนี้""ทำไม""ไม่ต้องถามตุ๋นรากบัวธรรมดาแต่เมื่อโยวเสวียนกินมันเข้าไปมันจะไม่ธรรมดา ไปหาเสด็จย่าเดี๋ยวนี้ ทางนี้ข้าจัดการเอง""ท่านอ๋อง กังวลเกินไปหรือเปล่า""เจิ้งเหมย ข้ารู้จักโยวเสวียนดีกว่าเจ้า"จินเฉิงอู่เดินนำให้เสี่ยวป๋อถือตุ๋นรากบัวไปยังห้องของโยวเสวียนยิ้มแย้มเมื่อเข้ามาในห้องของโย
วังหลวง….“จินเฉิงอู่ วันนี้เจ้ามีเวลามาพูดคุย กับข้านับว่าไม่เลว ความสัมพันธ์พี่ใหญ่น้องเล็กของสองเรา นับวันยิ่งห่าง”พูดรื้อฟื้นความสัมพันธ์“ฝ่าบาท กังวลเกินไปแล้วจินเฉิงอู่ก็ยังเป็นจินเฉิงอู่ไม่มีมีสิ่งใดจะเปลี่ยนได้”“บัลลังก์นี้ มีไว้เพื่อเราสองพี่น้อง ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงเช่นกัน”“ฝ่าบาท กล่าวเกินไปแล้วบัลลังก์นี้เป็นของฝ่าบาท ไม่มีใครแบ่งแยกมันไปได้”ฮ่องเต้ยิ้มเยือกเย็น“บุตรีใต้เท้าเจิ้งอยู่สบายดีในจวนของเจ้า จนทำให้ใต้เท้าเจิ้งละเลยบางอย่างไป”“ฝ่าบาท ทรงทราบดีว่าจินเฉิงอู่ไม่ได้ รับนางเข้าไปในตำแหน่งชายารอง เพียงแต่รับด้วยความเสียมิได้ ให้นางอยู่ในตำแหน่งสาวใช้เท่านั้น”“เช่นนั้นใต้เท้าเจิ้งก็คงคาดหวังให้เจ้าดีกับนาง จึงยอมทำตามสิ่งที่เจ้าขอข้าได้ยินมาไม่ผิดใช่ไหม”จินเฉิงอู่ยิ้ม“การที่บิดาคนหนึ่งจะทำเพื่อบุตรีมิใช่เรื่องแปลก เหมือนที่ใต้เท้าไป๋ตกลงใจเลือกข้างอีกครั้ง เมื่อฝ่าบาทแต่งตั้งสนมเอกคนใหม่”แววตาขึ้งโกรธจนอีกฝ่ายรู้สึกได้ชัดเจน..จวนอ๋อง …..ใต้เท้าไป๋และใต้เท้าตู้เพิ่งกลับไป หลังจากที่พูดคุยกับจินเฉิงอู่ม้วนกระดาษเล็กสอดเข้าไปผูกไว้กับขาของ นกพิราบแล้วปล่อยให้มั
"พระชายา ในที่สุดสิ่งที่พระชายาทุ่มเทก็เป็นผล ท่านอ๋องสั่งขังนางแม้ไทฮองไทเฮายังไม่กล้ายุ่ง""ดี นับว่าเป็นข่าวดี ข้าสมควรจะไปพบท่านอ๋องเสียหน่อยต่อไปนี้มีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ เพื่อท่านอ๋องจะได้หมดความไว้วางใจในตัวนาง"ไทฮองไทเฮานั่งทอดอาลัย"เฉิงอู่ หากจะมีอะไรสักอย่างที่บดบังสายตาของเจ้าก็คงเป็นความรัก"ไทฮองไทเฮาถอนใจ"ท่านอ๋องให้นำย่าหนามาอยู่รับใช้ไทฮองไทเฮาแทนแม่นางเจิ้ง ห้องพักของแม่นางเจิ้งถูกปิดตายย่าหนานจึงต้องมาพักกับไทฮองไทเฮา"ถอนหายใจอีกรอบ"เหลียงซานป๋อ เจ้าส่งอาหารให้นางมากหน่อย แวะไปพูดคุยกับนางบ้างบอกว่าข้ากำลังหาทางช่วยเหลือนางอยู่"เสี่ยวป๋อยิ้มเดินออกจากห้องไปสวนกับจินเฉิงอู่"เสด็จย่า หลานรู้สึกเหมือน….โดนหักหลัง""มาหาย่าใกล้ๆ สิ"เดินเข้าไปซบลงที่ตัก"เฉิงอู่แต่เล็กเจ้าก็อยู่กับย่ามาตลอด เรื่องราวไหนที่เกินรับไหวย่าแบกรับไว้ให้จนสิ้น ไม่ว่าจะแม่เจ้าตายหรือเรื่องราวการแต่งตั้งองค์รัชทายาทที่พลาดหวัง ทุกอย่างย่าล้วนไม่ปล่อยให้เจ้าเผชิญมันเพียงลำพัง แต่เรื่องหัวใจย่าจนปัญญาช่วยเจ้า ใช้หัวใจของเจ้าจินเฉิงอู่ ใช้หัวใจของเจ้ามองปัญหานางจะเป็นใครก็ช่าง เป็นคนของตระก