"พระชายา ในที่สุดสิ่งที่พระชายาทุ่มเทก็เป็นผล ท่านอ๋องสั่งขังนางแม้ไทฮองไทเฮายังไม่กล้ายุ่ง""ดี นับว่าเป็นข่าวดี ข้าสมควรจะไปพบท่านอ๋องเสียหน่อยต่อไปนี้มีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ เพื่อท่านอ๋องจะได้หมดความไว้วางใจในตัวนาง"ไทฮองไทเฮานั่งทอดอาลัย"เฉิงอู่ หากจะมีอะไรสักอย่างที่บดบังสายตาของเจ้าก็คงเป็นความรัก"ไทฮองไทเฮาถอนใจ"ท่านอ๋องให้นำย่าหนามาอยู่รับใช้ไทฮองไทเฮาแทนแม่นางเจิ้ง ห้องพักของแม่นางเจิ้งถูกปิดตายย่าหนานจึงต้องมาพักกับไทฮองไทเฮา"ถอนหายใจอีกรอบ"เหลียงซานป๋อ เจ้าส่งอาหารให้นางมากหน่อย แวะไปพูดคุยกับนางบ้างบอกว่าข้ากำลังหาทางช่วยเหลือนางอยู่"เสี่ยวป๋อยิ้มเดินออกจากห้องไปสวนกับจินเฉิงอู่"เสด็จย่า หลานรู้สึกเหมือน….โดนหักหลัง""มาหาย่าใกล้ๆ สิ"เดินเข้าไปซบลงที่ตัก"เฉิงอู่แต่เล็กเจ้าก็อยู่กับย่ามาตลอด เรื่องราวไหนที่เกินรับไหวย่าแบกรับไว้ให้จนสิ้น ไม่ว่าจะแม่เจ้าตายหรือเรื่องราวการแต่งตั้งองค์รัชทายาทที่พลาดหวัง ทุกอย่างย่าล้วนไม่ปล่อยให้เจ้าเผชิญมันเพียงลำพัง แต่เรื่องหัวใจย่าจนปัญญาช่วยเจ้า ใช้หัวใจของเจ้าจินเฉิงอู่ ใช้หัวใจของเจ้ามองปัญหานางจะเป็นใครก็ช่าง เป็นคนของตระก
“ท่านอ๋องท่านทำอะไรลงไปโยวเสวียนดีกับท่านทุกอย่าง แต่สิ่งที่ท่านอ๋องตอบแทนโยวเสวียนคือการ แต่งนางเข้าจวนอ๋องในตำแหน่งชายาเหมือนกันกับโยวเสวียนอย่างนั้นหรือ”“ข้า ไม่เคยบอกเจ้าหรือไร ความสัมพันธ์ของเราสองคน อย่างที่ข้าเคยบอกเราทั้งสองต่างได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เจ้าต้องการตัวข้าต้องการเป็นชายาอ๋องเจ้าก็ได้เป็นแล้ว แต่หัวใจข้าขอให้มันเป็นอิสระได้ไหม”โยวเสวียนแววตาเจ็บซ้ำ“ท่านอ๋อง…. รักนาง…. เช่นนั้นหรือ…..เป็นไปได้อย่างไร”จินเฉิงอู่นิ่งไม่โต้ตอบ โยวเสวียนเดินออกจากห้องไปอย่างไร้เรี่ยวแรง แทบทรงตัวไม่อยู่จินเฉิงอู่ยกมือขึ้นกุมขมับ“เพล้ง”โยวเสวียน ปาข้าวของในห้องแตกกระจายสาวใช้รีบวิ่งเข้ามาดูปิ่นปักผมที่จินเฉิงอู่ปักให้ในวันที่แต่งเข้าจวนอ๋องถูกปาจนหักเป็นสองท่อน“นางจะต้องเจ็บปวดเหมือนที่ข้าเจ็บปวดอาจมากกว่าด้วยซ้ำ ข้าโยวเสวียนไม่มีทางยอมแพ้แก่เจ้า”.......................……………...“เปิดประตู”จินเฉิงอู่ยืนอยู่หน้าห้องพักที่ขังเจิ้งเหมยไว้“นำอาหารเข้ามา”เสี่ยวป๋อรีบยกอาหารคาวหวานมาวางบนโต๊ะ“เขาว่าเจ้าไม่ดื่มกินเอาแต่นั่งทอดอาลัย”นั่งหันหลังให้ไม่สนใจ ท่านอ๋องโบกมือไล่เสี่ยวป๋อที่อ
จวนอ๋องถูกประดับประดาไปด้วยผ้าสีแดงผูกติดเป็นริ้วสวยงาม โคมไฟสีแดงทุกอย่างล้วนเป็นสีแดง เจิ้งเหมยนั่งอยู่ในห้องสวมชุดสีแดงสด ไทฮองไทเฮานั่งอยู่บนเก้าอี้ ผมหงอกขาวโพลนแต่ ก็สวมชุดสีแดงเป็นมงคล ย่าหนานกำลังแต่งตัวให้เจิ้งเหมยพร้อมกับสาวใช้สองคนไทฮองไทเฮาคอยสั่งให้เป็นตามที่ต้องการ"ย่าดีใจ ที่เจ้าไม่ปฏิเสธเฉิงอู่ความรักหากดื้อรั้นเกินไปมักจะไม่ได้พบกับความสุข""เจิ้งเหมยขอบพระทัยไทฮองไทเฮาที่สั่งสอน"“เฉิงอู่ไม่ได้ไม่เต็มใจแต่งเจ้าจำคำของย่าไว้”เจิ้งเหมยน้ำตารื้นขอบตา"จินเฉิงอู่ ปากแข็งตั้งแต่เล็กแม้จะเจ็บปวดแค่ไหนก็ไม่เคยจะร้อง บางอย่างแม้ฝืนใจเขาก็จะทำ หากเจ้ามองเขาดีๆจะรู้ว่าเขาไม่ได้เลวร้ายอะไร"จินเฉิงอู่ สวมชุดแดงขลิบทองที่ชายเสื้อ ความสุขฉายออกมาจากแววตาเปล่งประกายมุ่งหวัง"เสี่ยวป๋อใกล้ได้เวลาหรือยัง"น้ำเสียงตื่นเต้นอย่างไม่อาจฝืนใจเสี่ยวป๋อยิ้ม"ท่านอ๋องใจร้อนไปแล้ว"กระสับกระส่ายร้อนรน"นางสวยไหม""สวยที่สุด ไทฮองไทเฮาทรงอยู่ดูการแต่งตัวของนางเอง"ยิ้มสมใจแววตามุ่งหวังเสี่ยวป๋อขำกับท่าทีเหมือนหนุ่มน้อยนั้น รู้ดีว่าการแต่งงานครั้งนี้ เป็นความต้องการของจินเฉิงอู่ เพราะเป็น
"คงต้องแยกกันตรงนี้เสี่ยวป๋อระวังตัวด้วยหากเดินทางมากคนยิ่งเป็นจุดสนใจ""ท่านอ๋องพระชายาระวังตัวด้วย"เสี่ยวป๋อจากไป"อย่าเศร้าเสียใจไปเลย ใต้เท้าเจิ้งคงจะเสียใจหากทราบว่าเจ้าเป็นทุกข์""ท่านพ่อและตระกูลเจิ้งภักดีมายาวนานบัดนี้กลับตายไปพร้อมกับคำว่ากบฎ""การเมืองและการแย่งชิงอำนาจมักนำมาซึ่งความเจ็บปวดและวีรบุรุษ ข้าสัญญาจะคืนความเป็นธรรมให้ตระกูลเจิ้ง"เจิ้งเหมยมองสบตาจินเฉิงอู่เหมือนจะค้นหาความเคลือบแคลงในนั้น……………………..การเดินทางผ่านป่าเขารกเรื้อบังเกิดความเมื่อยล้า จินเฉิงอู่บังคับม้าให้หยุดใต้ร่มไม้ใหญ่"เจ้าเป็นหวางเฟย ที่ลำบากที่สุดต้องระหกระเหินเกรงว่าจะได้รับความลำบากไม่น้อย""ข้าผ่านความลำบากมามาก เกรงแต่ท่านอ๋องผู้ไม่เคยตรากตรำจะผ่านความลำบากนี้ไปคงยากไม่น้อยเช่นกัน""มีเจ้าข้างกาย ความลำบากข้าหากลัวไม่"ยิ้มดวงตาเป็นประกาย"ท่านอ๋องจงใจให้ข้าเป็นสาวใช้ข้างกาย ทั้งที่แต่งข้าเป็นชายาแล้วเช่นนั้นหรือไม่อยุติธรรมไปหน่อยหรือ""หากเจ้ากลัวจะเป็นเช่นนั้น ไม่สู้ให้ข้ารับใช้เจ้ามีสิ่งใดที่นายหญิงต้องการโปรดบัญชาเสี่ยวเฉิงอู่ยืนดีรับบัญชา""ดี เช่นนั้นตอนนี้ข้าหิวมากแล้ว เจ้าไปหาของกิ
"จินเฉิงอู่หนีรอดไปได้พวกเจ้าทำงานกันเช่นไร"ใต้เท้าตู้คุกเข่าเบื้องหน้า“ฝ่าบาท แผนการที่วางไว้นับว่ารัดกุมไม่น้อยแต่หทารและองครักษ์ของอ๋องห้านับว่าฝีมือเก่งกาจอีกทั้งไม่กลัวตายยอมสละชีวิตเพื่ออ๋องห้าได้ทุกคน แม้กระทั่งตอนนี้ เรายังจับตัวหัวหน้าองครักษ์คังซื่อฮั่นไม่ได้ กองทัพของอ๋องห้าที่เรากักตัวไว้ก็ทลายค่ายออกมา หนีกระจัดกระจายยากตามตัวได้”“ท่านตู้ท่านเองก็นับว่าใกล้ชิดจินเฉิงอู่มาไม่น้อย กลยุทธ์ของเขา ไม่อยากเชื่อว่าท่านตามไม่ทัน ข้าเห็นทีต้องยอมแพ้เขาเช่นนั้นหรือ ในเมื่อจนป่านนี้เบาะแสของจินเฉิงอู่แม้แต่น้อยก็ไม่มี”“ขอฝ่าบาทโปรดอภัย อ๋องห้าแม้จะได้ขึ้นชื่อว่าดุดันแข็งแกร่ง แต่บางครั้งก็ อ่อนโยนจนเป็นที่รักของเหล่าทหารในกองทัพ”“เช่นนั้นข้าต้องชื่นชมเขาด้วยหรือไร หรือว่าให้ข้า คืนความเป็นธรรมให้เขาแล้วเรียกเขากลับเข้าวัง ไว้ใช้งานแทนพวกเจ้าที่เหลือ”โทสะโมโหแทบขาดสะบั้นความเงียบงันบังเกิดขึ้น“ใต้เท้าตู้ท่านขอข้าทำให้ แต่ข้าไหว้วานท่านกับทำไม่สำเร็จ อีกไม่นานโยวเสวียนบุตรีเจ้าข้าแต่งตั้งเป็นกุ้ยเฟย หากเรื่องแค่นี้ไม่สามารถทำได้เกรงว่า กุ้ยเฟยคงไม่ได้รับการโปรดปรานจากข้าเท่าท
“จินเฉิงอู่ วันนี้ข้าเห็นสมควรเลือกหญิงงามที่ผ่านการคัดเลือกและฝึกฝนการเป็นนางในเรียบร้อยแล้ว ประทานให้เจ้ารับนางเป็นชายารอง”สิ่งที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ไม่รับไม่ได้ ใครกันกล่าวไว้หากไม่รับก็เพียงแค่บ่ายเบี่ยงหรือยืดเวลาไว้ก็เท่านั้น แต่จินเฉิงอู่กลับไม่แยแส“นางเป็นเพียงลูกนอกสมรสของใต้เท้าเจิ้งประทานให้เป็นชายารองของอ๋องห้าแห่งแคว้นซ่ง มิสูงศักดิ์ไปหน่อยหรือ” ใต้เท้าเจิ้งยืนอยู่ที่นั่นด้วยถึงกับหนวดกระตุกไปเลยทีเดียวเจิ้งเหมยเพียงแต่ยิ้มที่มุมปากมิได้กล่าวคำใด เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว จะไปที่ใดไม่ต่างกันจะเป็นสนมกุ้ยเหรินกุ้ยเฟยนางในหรือสาวใช้ ไม่มีสิ่งใดมาโยกคลอนจิตใจของเจิ้งเหมยได้อีกแล้ว“เช่นนั้นจะให้ข้าบังคับเจ้าหาได้ไม่ ข้าประทานให้เจ้าแล้วจะนำนางไปไว้ในตำแหน่งไหนข้าก็มิอาจยุ่งเกี่ยวได้อีกต่อไปแต่นางมิใช่ไร้ฐานันดรโดยแท้ เป็นถึงบุตรสาวของใต้เท้าเจิ้งของสี่ตระกูลใหญ่ เจ้าใจคอจะไม่ให้เกียรติใต้เท้าเจิ้งหน่อยหรือ” คำพูดเหมือนกับลองใจ จินเฉินอู๋ประสานมือขึ้นเบื้องหน้า เหลือบตาคมกริบ บนใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ คิ้วเข้มเป็นลักษณะของผู้ห้าวหาญขึ้นมองเจิ้งเหมยเพียบแว๊บเดียว“ขอบพระทัยฝ่าบ
ค่ำคืนใน จวนอ๋องผ่านไปอย่างเรียบง่าย เช้าสดใส เจิ้งเหมยจัดการตัวเองและเตรียมพร้อมที่จะปัดกวาดในห้องทำงานที่ได้รับมอบหมายเสื้อผ้าชุดใหม่ไม่ได้มีสีสันมากนัก หน้าผมก็ไม่จำเป็นต้องแต่งเหมือนตอนอยู่ในช่วงคัดนางใน หากแต่ปล่อยให้ใบหน้าสดใสไร้เครื่องแต่งแต้มใบหน้าผุดผาดดุจมู่หลานแรกแย้ม ไม่จำเป็นต้องแต่งแต้มใดๆก็สะดุดตามากพอชายาเอกนั่งชมสวนกับสาวใช้อีกสองคน เจิ้งเหมยกำลังจะเดินผ่าน"เจ้าใช่ไหม สาวใช้ในจวนคนใหม่"เจิ้งเหมยเดินเข้าไปยืนก้มหน้า ประสานมือคารวะโยวเสวี่ยนอย่างนอบน้อม ยิ้มพิมพ์ใจ"ห้องทำงานของท่านอ๋อง เป็นที่ที่ท่านอ๋องใช้เวลาส่วนมากที่นั่น ฉะนั้นเจ้าต้องตั้งใจที่จะดูแลมันให้ดี"เจิ้งเหมยย่อตัวลงช้าๆ"เจ้าค่ะเจิ้งเหมยน้อมรับคำสั่ง ต่อไปจะดูแลที่นั่นให้ดีไม่ให้บกพร่อง"โบกมือให้เจิ้งเหมยถอยออกไป ส่งเสียงไอสองสามที เจิ้งเหมย เดินลัดเลาะจนถึงห้องทำงาน ดีแล้วแบบนี้ดีแล้วอย่างน้อยก็หลุดออกมาจากฮูหยินใหญ่ ของท่านพ่อที่คอยกดขี่ไหนจะพี่ใหญ่ที่คอยจ้องจับผิด อยู่ตรงนี้ทุกอย่างคงจะไม่เลวร้ายกว่าที่ผ่านมาห้องใหญ่ ที่เหมือนถูกปิดทึบไปเสียทุกด้าน เจิ้งเหมยเดินเปิดช่องหน้าต่างและปัดกวาดจนไม่ม
“คังซื่อฮั่น คาระวะท่านอ๋อง”ร่างสูงชลูดใบหน้าคมคาย นับว่าหล่อเหลาไม่ใช่เล่น สายตาอ่อนโยนขัดกับกระบี่ที่อยู่ข้างกายที่ดื่มเลือดคนมาไม่น้อย รอยยิ้มบางๆดังอากาศธาตุสลายไปราวกับสายหมอกยามต้องแสงสุรีย์“ลุกขึ้น ข้าแทบจะทนคิดถึงเจ้าไม่ไหว หลายวันมานี่เรื่องราวมากมายให้ขบคิด"คังซื่อฮั่นยิ้ม“ข้าน้อยได้ข่าวฝ่าบาทประทานชายารองให้กับท่านอ๋อง”“ตอนนี้นางเป็นเพียงสาวใช้”“ฝ่าบาทต้องการ ที่จะทดสอบความภักดีของใต้เท้าเจิ้งทรงไม่ไว้ใจผู้ใด หากคิดในอีกมุมหนึ่งคิดว่าหากใต้เท้าเจิ้ง ยังภักดีต้องจงใจชี้แนะบางอย่างกับบุตรสาว”“จะป้องกันอย่างไรสิ่งที่ฝ่าบาทประทานให้ไม่รับไม่ได้ อีกทั้งใต้เท้าเจิ้งเป็นถึงหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ หากหักหาญน้ำใจเกินไปก็เท่ากับไม่ให้เกียรติ”“ท่านอ๋องก็ให้นางเป็นเพียงสาวใช้ นับว่าสร้างความไม่พอใจกับใต้เท้าเจิ้งอย่างมากใต้เท้าเจิ้งดูแลคลังหลวง เป็นตำแหน่งที่ใครก็ต้องการหากจะมีใครที่จงใจให้ฝ่าบาท ไม่ไว้ใจใต้เท้าเจิ้งก็มิใช่เรื่องยาก”“ในตอนนั้น สถานการณ์บีบบังคับข้าไม่อาจคิดอะไรได้มากกว่านั้น"“ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องแยแส นางเพียงแค่สาวใช้หากวันไหนที่นางตกเป็นของท่านอ๋อง ข้าเชื่อว่า