3 เดือนผ่านไป
17.50 น.
“พี่สาครับลูกแก้วกลับไปแล้วเหรอครับ” พีรพัตรที่พึ่งออกมาจากห้องประชุมเขาเหลือบมองไปที่ห้องของลูกแก้วซึ่งเคยเป็นห้องของสาวิตรีมาก่อนพบว่าไฟปิดลงเขาจึงรู้ได้ทันทีว่าวันนี้หญิงสาวกลับไปแล้วแต่ก็อยากรู้ว่าหญิงสาวกลับไปเมื่อไรจึงเอ่ยถามสาวิตรี
“ค่ะพึ่งกลับไปเมื่อสักพักนี้เองค่ะ”
“ครับงั้นผมกลับก่อนนะครับ”
“ค่ะคุณพรีม..เอ่อคุณพรีมคะช่วยดูอาการของลูกแก้วหน่อยก็ดีนะคะพี่เห็นลูกแก้วมักจะวูบๆอยู่บ่อยๆน่ะค่ะพี่บอกให้ไปหาหมอตั้งหลายครั้งแล้วก็ไม่ยอมไปค่ะ”
“งั้นเหรอครับโอเคครับเดี๋ยวผมจะดูเธอให้” สาวิตรีคิดว่าทั้งสองต้องมีปัญหากันตั้งแต่กลับมาจากอเมริกาแน่นอนทั้งการที่หญิงสาวขอเปลี่ยนตำแหน่งกับเธอและตอนนี้ก็ยังไปกลับที่ทำงานเองอีกด้วย
เธอไม่อยากจะก้าวก่ายเรื่องของทั้งสองมากนักแต่เมื่อเห็นอาการของลูกแก้วเธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้เธอคิดว่าถ้าให้พีรพัตรเป็นคนบอกหญิงสาวเธอก็น่าจะฟังบ้างและนี่ก็อาจจะเป็นโอกาสที่ทั้งสองอาจจะมีโอกาศพูดคุยกันและกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ได้
พีรพัตรเองหลังๆมานี้ก็แอบเห็นอาการของลูกแก้วเหมือนกันแต่เขาไม่ใช่ว่าเขาไม่ห่วงเธอเขาพยายามจะเข้าหาเธอหลายรอบแล้วแต่เธอก็พยายามหลบหน้าเขาอยู่ได้ตลอด
เขาเองพยายามโทรส่งข้อความหาเธอทุกวันเธอก็เล่นทั้งบล็อกไลน์บล็อกเบอเขาเธอเคยบอกเขาว่ามีอะไรก็คุยกันที่ทำงานก็พอแล้วจะให้เขาทำยังไงในตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมาเขาทุกข์ใจอยู่ทุกวันกับอาการของหญิงสาวที่มีต่อเขา
เธอทำเหมือนเขาเป็นอากาศทั้งๆที่เขาพยายามที่จะเข้าหาเธอใจเขาตอนนี้อยากให้เธอเป็นเหมือนเดิมพูดคุยกับเขาเถียงกับเขาเหมือนเมื่อก่อนอยากให้เธอทำตัวโก๊ะๆเปิ่นๆให้เขาดูอีกหลายๆครั้งในระยะเวลาที่ผ่านมามันทำให้เขาได้รู้ตัวเองว่าเขาไม่ใช่แค่ชอบเธออย่างเดียวความรู้สึกหวงแหนเป็นห่วงและอยากให้เธออยู่ใกล้ๆตลอดเวลานี่คงเรียกว่ารัก
เมื่อได้ยินเรื่องที่สาวิตรีพูดเขาคิดไว้แล้วว่าวันนี้ยังไงก็ต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่องเขาจะไม่ยอมปล่อยให้เวลามันล่องลอยไปแบบนี้ไปอีกเด็ดขาดยิ่งถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆเขาคิดว่าเขาเองก็คงจะเสียเธอไปแบบไม่มีวันหวนกลับแน่นอนอีกอย่างพี่ชายของเขาก็เคยบอกว่าอีกไม่นานก็จะกลับมาบริหารงานเองแล้วถึงตอนนั้นเขาเองก็คงจะไม่ได้ทำงานร่วมกันกับหญิงสาวจริงๆ
ติ๊งงงงงงงงง พีรพัตรขับรถกลับมาถึงคอนโดก็ดิ่งตรงมาที่ห้องของหญิงสาวกดกริ่งหน้าห้องเธอทันที
“มีอะไรคะ”
“พี่สาบอกว่าคุณไม่สบายอยู่บ่อยๆคุณเป็นอะไรหรือเปล่าผมขอเข้าไปคุยข้างในได้ไหม” เมื่อเห็นหญิงสาวที่เดินมาเปิดประตูให้เขาดูท่าทางอิดโรยและมีสีหน้าที่ซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัดเขาเห็นท่าไม่ดีเลยขอเธอเข้าไปคุยด้านใน
“พอดีแก้วทำกับข้าวคาอยู่คุณพรีมมีธุระอะไรคุยกันตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
“ผม..จะ..เข้า...ไป..” เขารู้สึกเหลืออดกับท่าทีที่เธอเมินเฉยต่อเขาเกินทนในเมื่อเธอไม่ยอมให้เข้าเขาก็จะหน้าด้านเข้าไปให้ได้
“นี่คุณพรีมจะเข้ามาทำไมคะ....ออกไป...อุ๊บบบบ” ลูกแก้วดันตัวชายหนุ่มที่พยายามเข้ามาในห้องเธอยิ่งเขาเข้ามาใกล้เธอก็ยิ่งรู้สึกคลื่นไส้จนต้องวิ่งเข้าห้องน้ำทำเอาคนที่ยืนอยู่ถึงกับงงทำอะไรไม่ถูกพอตั้งสติได้ก็วิ่งตามไปดูอาการของเธอ
“อุ๊ป แหวะๆ..”
“คุณเป็นอะไร..ให้ผมเรียกหมอไหม” พีรพัตรเมื่อเห็นหญิงสาวอาเจียนก็เข้าไปลูบหลังให้เมื่อเขาเห็นอาการของเธอดูไม่ค่อยจะดีก็คิดว่าจะต้องเรียกหมอมาดูอาการของเธอสักหน่อย
“นี่คุณพรีมใช้น้ำหอมกลิ่นะไรคะเนี่ยเหม็นเป็นบ้าเลย.”
“ผมไม่เคยใช้น้ำหอมนะคุณ” ชายหนุ่มรู้สึกหน้าเสียเมื่อหญิงสาวบอกว่าเธอเหม็นกลิ่นตัวของเขาก่อนจะก้มดมกลิ่นตัวของตัวเองเป็นการใหญ่เขาเองวันนี้ก็ไม่ได้ออกไปไหนอยู่แต่ห้องประชุมแล้วก็พึ่งขับรถกลับมาเหงื่อก็ไม่ออกจะเหม็นได้ยังไง
พีรพัตรยังยืนลูบหลังเธออยู่อย่างนั้นจนหญิงสาวต้องบอกให้เขาออกไปนั่งรอเธอข้างนอกก่อนไม่งั้นเธอคงไม่หยุดอาเจียนแน่ชายหนุ่มเห็นจะเป็นอย่างที่ลูกแก้วพูดจึงออกมานั่งรอที่โซฟาห้องนั่งเล่นแล้วโทรหาหมอเพื่อมาดูอาการของเธอ
“คุณพรีมช่วยไปปิดไฟหม้อข้าวต้มให้แก้วหน่อยสิคะ” ลูกแก้วตะโกนออกจากห้องน้ำให้ชายหนุ่มที่นั่งรออยู่บนโซฟาไปดูหม้อข้าวต้มในครัวเพราะเธอตั้งไว้นานแล้วกลัวมันจะเดือดแล้วหกเลอะเทอะครั้นจะออกไปดูเองไอ้อาการอาเจียนก็ไม่หยุดซะที
“เดี๋ยวผมไปดูให้” คนตัวโตเดินเข้าไปในครัวก็เห็นหม้อข้าวต้มที่กำลังเดือดเกือบล้นดีที่เขาเข้าไปปิดแก๊สทันเมื่อเขาปิดแก๊สเรียบร้อยชายหนุ่มก็ถือวิสาสะเดินสำรวจห้องครัวของเธอเสียเลย
ชายหนุ่มเปิดตู้เย็นไปก็เห็นมีแต่น้ำเปล่าขวดนมจืดไข่เค็มและไข่ดิบสองสามฟองแค่นั้นเองพอมองหลังตู้เย็นก็เห็นตระกร้าใบเล็กที่มีโจ๊กซองอยู่แค่แพคเดียวเขาคิดว่าที่หญิงสาวป่วยคงจะเป็นโรคขาดสารอาหารหรือไม่ก็กินอาหารสำเร็จรูปอยู่บ่อยๆจนป่วยแน่ๆ
“งกจนได้เรื่องนะคุณเนี่ยย” ว่าจบก็ส่ายหัวเบาๆ
20นาทีผ่าน“คุณยังไม่หายคลื่นไส้อีกเหรอ” พีรพัตรเดินสำรวจห้องครัวของหญิงสาวเรียบร้อยแล้วก็ออกมานั่งที่ห้องนั่งเล่นเมื่อตอนเดินกลับมาเขาเองยังได้ยินเสียงของหญิงสาวอาเจียนยังไม่ยอมหยุดเขาเองอยากจะไปดูอาการเธอใกล้ๆแต่ก็กลัวเมื่อเข้าไปใกล้หญิงสาวแล้วอาการของเธอจะหนักขึ้นกว่าเดิมจึงได้แต่ตะโกนถามเธอแต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรได้ยินแต่เสียงอาเจียนที่ดังออกมาเท่านั้น เขานั่งเล่นที่ห้องนั่งเล่นของเธอสักพักหมอก็มาถึงเมื่อหมอเข้ามาเขาก็เดินพาหมอมาดูอาการของลูกแก้วที่กำลังเป็นตอนนี้ทันที“ช่วยตรวจเธอให้ละเอียดเลยนะครับหมอผมว่าอาการเธอน่าจะหนักอยู่ครับ” หมอและพยาบาลมาประคองลูกแก้วไปนอนที่เตียงและตรวจอาการของเธออย่างละเอียดอีกครั้งหญิงสาวไม่ให้ชายหนุ่มเข้าใกล้หมอเลยให้ชายหนุ่มรออยู่ด้านนอกเพราะยิ่งชายหนุ่มเข้าใกล้เธอยิ่งทำให้อาการของเธอกำเริบขึ้นมาอีก“ยาที่ผมให้ไว้ยังทานอยู่ไหมครับคุณลูกแก้ว”“ทานอยู่ค่ะแต่ก็ใกล้จะหมดแล้วค่ะ”“งั้นเดี๋ยวหมอให้ยาเพิ่มไว้นะครับ”“ค่ะ”“ยังไงช่วงนี้ก็ทานผักผลไม้เยอะๆนะครับ..ถ้าไม่มีอะไรแล้วเดี๋ยวหมอกลับก่อนนะครับ”“ขอบคุณค่ะหมอ” ลูกแก้วรู้ดีว่าเมื่อหมอออกไปชา
“พอเลยคุณผมไม่เคยลำบากใจที่จะรับผิดชอบตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณยังดูไม่ออกอีกเหรอว่าผมคิดยังไงกับคุณ” ชายหนุ่มยืนพูดอยู่ที่ปลายเตียงของหญิงสาวไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้เธอเพราะกลัวเธอจะอาเจียนออกมาอีกทั้งที่ในใจอยากเข้าไปกอดปลอบคนที่ร้องให้สะอึกสะอื้นอยู่ตอนนี้ใจจะขาด“ฮือๆ..แล้วคุณพรีมคิดอะไรก็บอกแก้วมาสิ….ฮือๆๆ” ร่างบางที่นั่งสะอื้นอยู่ที่เตียงก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าตอนนี้ชายหนุ่มคิดยังไงกับเธอกันแน่ก็ตอนนั้นบอกว่าไม่รักแล้วตอนนี้บอกว่าเธอไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงอีกเธอสับสนกับคำพูดเขาจริงๆ“คุณหยุดร้องแล้วฟังผมก่อนได้ไหม” พีรพัตรต้องปรามหญิงสาวให้หยุดร้องจะได้คุยกันให้รู้เรื่องสักทีถ้าเธอยังสะอึกสะอื้นอยู่อย่างนี้วันนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ๆ“แก้วก็อยาก….กก…จะหยุดแต่มัน…..ฮึกๆ…หยุดไม่ได้…ฮือๆ” ลูกแก้วเองก็อยากจะหยุดแต่เมื่อมองหน้าเขาได้ยินคำที่เขาพูดน้ำตาเธอมันก็ไหลออกมาตลอดเธอไม่รู้ว่าจะหยุดมันยังไง“งั้นก็ฟังผมนะ…คือ..ผมรักคุณ…ผมไม่รู้ว่ารักตั้งแต่เมื่อไรแต่ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณแต่งงานกับผมเถอะนะ” ในเมื่อเธอไม่หยุดร้องเขาก็บอกรักเธอทั้งๆที่ยังร้องอยู่ละกันเผื่อเธอจะยอมหยุดร้องแล้
“คุณก็รู้นี่ว่าสามีของคุณเป็นถึงผู้บริหารของบริษัทจะให้ภรรยาตัวเองหยุดทำงานบ้างคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง...นั่งก่อนเดี๋ยวผมไปยกอาหารมาให้นะครับ” ชายหนุ่มใช้สองมือดันตัวหญิงสาวจากด้านหลังแล้วพาไปนั่งที่โต๊ะทานข้าวให้เธอนั่งรอเขาเอาอาหารมาเสริฟ ลุกแก้วเองก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งหน้าแดงไม่กล้าสบตาคนที่คุยด้วยเพราะเขินคำพูดที่เขาพูดว่าตัวเองเป็นสามีและเธอป็นภรรยาของเขา เธอไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีช่วงเวลาดีๆแบบนี้กับชายหนุ่มผู้ชายที่เคร่งขรึมเจ้าระเบียบหน้ายักษ์คนที่เธอเจอครั้งแรกตอนนี้กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเขาดูอ่อนโยนอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเธอขอให้เขาเป็นแบบนี้กับเธอตลอดไปไม่ใช่แค่ช่วงที่เป็นโปรโมชั่นเท่านั้น“โหทำไมมันเยอะจังเลยล่ะคะคุณพรีม” ลูกแก้วมองพีรพัตรยกจานอาหารมาให้เธอคราแรกก็คิดว่าหมดแล้วนี่เขายังเดินไปหยิบมาจนเต็มโต๊ะอาหารเธอไม่รู้ว่าอาหารที่เขาทำเธอจะทานได้หรือเปล่าเพราะไอ้อาการแพ้ท้องของเธอนี่แหละจนต้องทำให้เธอทานข้าวต้มกับไข่เค็มอยู่ทุกวันเพราะทานได้แค่นั้น...เธอเคยลองทานอาหารที่เขาบอกว่าดีต่อผู้หญิงตั้งครรภ์หลายต่อหลายอย่างแต่เมื่อตักเข้าปากเท่าไม่ทันได้เคี้ยวเท่าไรก็ต้อง
“อืม..ยัยหนู” แผ่นดินรู้สึกตัวตื่นเพราะแรงฝ่ามือของลูกสาวที่กำลังตีหน้าเขาอยู่จึงใช้แขนทั้งสองข้างรวบตัวลูกสาวตัวกลมของเขามากอดไว้บนอกและเริ่มการทำโทษลูกสาวด้วยการใช้ไรหนวดฟัดไปที่แก้มพองๆก่อนจะพลิกตัวกลับมาฟัดที่พุงกลมๆของเจ้าก้อนอีกที“อร๊าย...แอ้.เฮ่อๆ”“พอแล้วค่ะพี่พอลเลิกแกล้งยัยหนูได้แล้วค่ะลูกหัวเราะจนจะไม่มีเสียงอยู่แล้ว” พลอยไพลินที่เห็นคนเป็นสามีกำลังแกล้งลูกสาวหัวเราะจนจะไม่มีเสียงอยู่แล้วจึงส่งเสียงปรามคนตัวโตซะหน่อย“โถ่พลอย..ก็พลอยปล่อยให้ยัยหนูแกล้งพี่ก่อนทำไมล่ะ”“พี่พอลจะมาโทษพลอยไม่ได้นะคะก็พี่พอลตื่นสายเองพลอยก็เลยปล่อยให้ยัยหนูก็เลยปลุกเท่านั้นเองค่ะ” พลอยไพลินแสร้งพูดก่อนจะอมยิ้มแล้วมองไปทางอื่น“พี่รู้สึกมึนๆหัวน่ะพลอยพี่ขอนอนต่ออีกสักพักนะ” วันนี้แผ่นดินรู้สึกมึนหัวอ่อนล้าอ่อนเพลียผิดปกติเขาเลยตื่นสายไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกันปกติก็ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยคิดว่าจะนอนต่ออีกสักพักก็อาการก็คงจะดีขึ้นเอง“พี่พอลเป็นอะไรหรือเปล่าคะไปหาหมอดีไหม” เมื่อเห็นผู้เป็นสามีหน้าซีดผิดปกติแถมยังบ่นว่ามึนหัวขอนอนต่ออีกเธอเห็นท่าไม่ดีเพราะปกติเธอก็ไม่เคยเห็นคนที่แข็งแรงแ
30 นาทีต่อมา“อาการของลูกชายดิฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ” ตอนนี้ในห้องมีทั้งพิไลดวงแขและพลอยไพลินรอฟังอาการของชายหนุ่มอยู่ข้างๆเตียงหลังจากหมอตรวจเสร็จคนเป็นแม่ของคนนอนป่วยก็เอ่ยปากถามหมอทันทีเพราะอยากรู้อาการของลูกชายตัวเองที่ตอนนี้นอนงัวเงียอยู่บนเตียงเต็มทน“เอ่อ...จากที่ผมตรวจอาการของคุณพอลไม่มีอะไรผิดปกตินะครับแต่ถ้าฟังจากที่พวกคุณเล่ามาผมคงต้องขอตรวจคุณพลอยแทนนะครับ”“คะ....ตรวจฉันเหรอคะ” พลอยไพลินมีสีหน้าที่สงสัยอยู่ดีๆหมอก็จะขอตรวจเธอทั้งๆที่เธอสบายดี“ครับ....ผมขอถามคุณพลอยว่าประจำเดือนคุณขาดกี่เดือนแล้วครับ” หลังจากที่ได้ยินคำถามจากคุณหมอหญิงสาวเองก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่าประจำเดือนเธอขาดมาสองเดือนแล้วนี่นา“เอ่อ...น่าจะสองเดือนแล้วค่ะ”“งั้นผมว่าอาการที่คุณพอลเป็นน่าจะแพ้ท้องแทนภรรยาแล้วหละครับเคสแบบนี้ผมเจอมาบ่อยน่าจะไม่พลาดนะครับ” พลอยไพลินถึงกับยิ้มหน้าบานอย่างตื้นตันว่าเธอกำลังจะมีน้องให้ยัยหนูอีกคนนึงแล้ว“ยังไงผมขอนัดคุณพลอยไปตรวจและฝากครรภ์ทีโรงพยาบาลได้เลยนะครับส่วนคุณพอลคงต้องให้ยาไปตามอาการถ้าเรียบร้อยแล้วหมอขอตัวนะครับ”“ขอบคุณค่ะคุณหมอ” หลังจากหมอตรวจเสร็จเรียบร
“ตายแล้วคุณพี่น้องจะเป็นลม”“คุณแม่/คุณแม่” ทั้งพีรพัตรและลูกแก้วเมื่อเห็นอาการไม่ดีของพิไลก็รีบโผเข้ามาดูอาการอยู่ใกล้ๆ“ผมขอโทษครับที่ทำให้คุณแม่เสียใจ” พีรพัตรรู้สึกผิดที่ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องเกือบจะเป็นลมเพราะตนเองทำให้ผูเป็นแม่เสียใจจึงเอ่ยขอโทษออกมา“เสียใจอะไรกันล่ะตาพรีมแม่ดีใจมากต่างหากล่ะ...น้องจะมีหลานกับเค้าแล้วค่ะคุณพี่” พิไลที่ดีใจจนเกือบเป็นลมเพราะได้ลูกสะใภ้สมใจแล้วอยู่ดีๆก็ได้หลานมาด้วยเธอจึงหันไปคุยอวดผู้เป็นพี่สาวว่าจะมีหลานยกใหญ่“แล้วนี่ท้องได้กี่เดือนแล้วจ้ะลูกแก้ว” พลอยไพลินที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆก็นั่งยิ้มดีใจกับน้องสาวของตนที่จะมีครอบครัวและมีคนที่ดีๆดูแลซะที“สี่เดือนแล้วค่ะพี่พลอยไม่โกรธแก้วใช่ไหมคะที่แก้วไม่ได้บอกพี่พลอยก่อน”“พี่จะโกรธทำไมพี่รู้ว่าลูกแก้วเป็นคนมีเหตุผลพี่ดีใจน้าที่น้องสาวพี่มีคนดีๆอย่างคุณพรีมดูแล” สองพี่น้องโอบกอดกันภาพตอนนี้ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่น“ดีจังเลยนะครอบครัวเราจะมีสมาชิกเพิ่มอีกตั้งสองคนแน่ะ” ดวงแขคราแรกก็ตกใจกับเรื่องที่พีรพัตรโพล่งพูดออกมารวดเดียวแต่ก็รู้สึกว่ามันเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลาจับคู่เธอดีใจที่
ทุกคนนั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันที่โต้ะอาหารยกเว้นจอมขวัญตอนนี้ที่ยังไม่กลับดวงแขนั่งทานข้าวไปคุยกับลูกๆหลานๆบนโต๊ะไปก็สังเกตเห็นลูกชายของตนนั่งเกาะแขนคนเป็นภรรยาอยู่นานแล้วไม่ยอมปล่อยเสียทีเธอจึงเอ่ยถามขึ้น“แล้วนั่นเป็นอะไรอีกล่ะตาพอลกลัวหนูพลอยจะหายหรือไงเกาะไม่ปล่อยซะขนาดนั้น”“คือพี่พอลบอกว่าเค้าอยู่ใกล้ๆพลอยแล้วอาการดีขึ้นน่ะค่ะคุณแม่ตั้งแต่ตื่นมาก็ไม่ยอมห่างเลยค่ะ” หญิงสาวตอบคนเป็นแม่สามีด้วยสีหน้าที่อ่อนใจเธอเองก็รู้สึกชักจะรำคาญคนตัวโตอยู่เหมือนกันที่เอาแต่เกาะไม่ปล่อยตอนนี้หญิงสาวรู้สึกเหมือนเธอมีลูกชายเพิ่มมาอีกคน“ใช่ครับคุณแม่เวลาผมอยู่ใกล้พลอยแล้วไอ้อาการเวียนหัวมันก็ดีขึ้นทุกทีเลยครับเลยต้องเกาะกันอยู่แบบนี้” เขาเองตอบตามความจริงเมื่ออยู่ใกล้ภรรยาทีไรอาการเขาก็ดีขึ้นทุกทีเลยจำเป็นต้องเกาะกันแจอยู่แบบนี้“อย่างงั้นเองเหรอ” ดวงแขนึกสงสารทั้งลูกชายและลูกสะใภ้แต่ก็คิดว่าพอลูกสะใภ้เธอท้องโตอีกหน่อยอาการของลูกชายเธอก็คงจะหายไปเองตอนนี้ก็ทำได้แต่ให้กำลังใจทั้งสองให้อดทนเอาหน่อย“คงเป็นเพราะอาการแพ้ท้องแทนเมียน่ะค่ะคุณพี่อีกหน่อยคงดีขึ้นเอง”“พี่ก็ว่างั้นแหละ”“ผมว่าอ
ครื้นๆๆๆเปรี้ยง“ว้าย...” จอมขวัญกรี๊ดลั่นเพราะตกใจกับเสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่าหญิงสาวเกลียดเสียงฟ้าร้องเป็นที่สุดด้วยความกลัวตั้งแต่เด็กๆหญิงสาวเอามือป้องปิดหูด้วยความตกใจนั่งตัวสั่นทิ้งตัวลงอยู่บนโซฟาด้วยความกลัว จอมขวัญที่นั่งรอธาวินอยู่ในบ้านของเขาตั้งแต่เช้าแต่ก็ยังไม่เห็นชายหนุ่มจะกลับมาเสียทีเธอพยายามโทรหาชายหนุ่มอยู่หลายรอบแต่ก็โทรไม่ติดไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปไหนเพราะไม่ได้บอกไว้ ตอนที่เธอมาถึงที่นี่ก็ลองเดินเข้าไปในสวนหญิงสาวถามหาชายหนุ่มจากคนงานในสวนที่กำลังทำงานกันอยู่ก็ได้คำตอบมาว่าไม่รู้ว่าเจ้านายหนุ่มของพวกเขาอยู่ไหนเหมือนกันได้แต่สั่งงานไว้แล้วก็ออกไปตั้งแต่เช้า“พี่วินนะพี่วินไปไหนของเค้ากันนะไม่บอกกันสักคำ” หญิงสาวชะโงกหน้าไปมองที่หน้าบ้านยืนบ่นด้วยสีหน้ากังวลแต่สายตาก็มองหาภาวนาให้ชายหนุ่มกลับมาเสียทีติ้ดดดดๆๆๆๆ“หาแบตหมด...โอ้ย..” จอมขวัญกำลังจะกดโทรศัพท์โทรหาแผ่นดินเพื่อที่จะให้มาเธอรับที่บ้านของธาวินเพราะหญิงสาวคิดว่าวันนี้ชายหนุ่มคงจะยังไม่กลับมาในเร็วๆนี้แน่ เธอคิดว่าตอนนี้คนที่บ้านต้องเป็นห่วงถ้าเธอกลับดึกกว่านี้แต่มือถือเจ้ากรรมก็ดันมาแบตหมดเอาดื้อๆตอนน