“ใช่ๆจริงๆด้วยค่ะ”
อินทิราเห็นหญิงในรูปเล็กๆก็จำได้ทันทีว่าเป็นคนเดียวกับคนที่เข้ามาหาและมาคุยกับเธอ
“นี่คุณยายฉันเองท่านเป็นเจ้าของไร่นี้...แต่ท่านเสียไปสี่ห้าปีแล้วนะ”
อิทธิกรเริ่มอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยแล้วที่รู้ว่าหญิงสาวเจอกับอะไร
“คะ!!!...”
จากคำบอกเล่าของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวยืนตัวเกร็งชาวาบขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“ท่านคงจะเอ็นดูเธอ”
อิทธิกรยังไม่หยุดที่จะพูดเล่นกับเธอ
“เอ่อ..คุณอิทคะคืนนี้ออมขอนอนด้วยได้ไหมคะ...นะคะเดี๋ยวออมนอนข้างล่างก็ได้แต่ขอเปิดไฟที่โคมไฟไว้นะคะ”
ด้วยความที่ตาขาวเรื่องนี้อย่างมากอินทิราจึงจำใจต้องมาขอนอนห้องเดียวกับชายหนุ่มเกิดมาไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอเรื่องที่ทำให้เอขนหัวลุกได้ขนาดนี้
“ฮ่าๆๆ...นี่เธอก็ตาขาวเหมือนกันนะอยากนอนก็นอนอย่ามาลักหลับฉันก็แล้วกัน”
ความรู้สึกของชายหนุ่มตอนนี้รู้ได้เลยว่าหญิงสาวคงกลัวหัวหดอีกทั้งยังไม่ยอมหยุดที่จะพูดแซวเธออีกด้วย
“พูดอะไรของคุณอิท...ออมไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ”
อินทิราหน้ามุ่ยอีกรอบที่เวลานี้ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดที่จะแกล้งแซวเธออย่างน้อยการที่ได้นอนห้องเดียวกับชายหนุ่มก็ทำให้เธอได้อุ่นใจขึ้นมาหน่อยว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องกับเธอด้วยเผื่อคุณยายของชายหนุ่มมาหาเธออีกเธอจะได้ปลุกให้เขาคุยกับคุณยายของเขาเสียเลย
5 นาทีต่อมา
“มานอนข้างบน”
อิทธิกรรู้ว่าหญิงสาวกำลังปูพื้นนอนด้านล่างเตียงของเขาจึงเรียกให้เธอขึ้นมานอนด้านบนกับเขาถึงเธอจะน่ารำคาญไปหน่อยเขาก็ไม่ได้อยากให้เธอทนนอนพื้นแข็งๆด้านล่างเสียเท่าไร
“คะ??”
อินทิราเบิกตาโพรงรู้สึกว่ามันไม่ค่อยจะดีเท่าไรถ้าเธอจะไปนอนเตียงเดียวกับเขาทั้งที่ยังเป็นแค่คู่หมั้นกันอยู่
“ที่ตั้งกว้างมานอนข้างบนยายฉันไม่ชอบเห็นคนนอนกับพื้นระวังท่านจะมาปลุกให้เธอขึ้นมานอนบนเตียงนะ”
“อะ..เอ่อก็ได้ค่ะ”
อิทธิกรยิ้มเยาะอย่างพอใจที่หญิงสาวกลัวในคำขู่ของเขาและรีบขึ้นมานอนบนเตียงอย่างรีบร้อน
ตอนนี้เขารู้ว่าหญิงสาวคงเอาหมอนข้างมากั้นตรงกลางไว้แน่เขาอยากจะบอกกับเธอจริงๆว่ามันไม่จำเป็นต้องกั้นหรอกหากเขาจะทำอะไรเธอคงทำไปนานแล้วและหมอนข้างแค่นี้ก็ขัดขวางอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้ว
“เอ่อ..คุณอิททำอะไรคะ”
อินทิราถึงกับตัวชาวาบแต่ตอนนี้เธอไม่ได้กลัวผีแต่ตกใจที่จู่ๆชายหนุ่มก็หันมารวบเธอไปกอดเสียอย่างนั้นหมอนข้างที่เธอกั้นเขาเอาไว้มันช่วยอะไรไม่ได้เลยสักนิด
“อยู่เฉยๆ”
อิทธิกรแค่อยากจะสัมผัสหญิงสาวก็เท่านั้นเห็นเพื่อนของเขาบอกว่าเธอน่ารักนักหนาเขาจึงอยากสำรวจเธอให้ละเอียดตอนนี้เขากำลังนอนกอดหญิงสาวที่นอนตัวเกร็งพยายามผลักเขาออกไปอยู่แต่แรงแค่นั้นทำอะไรเขาไม่ได้เลยสักนิด
ชายหนุ่มค่อยๆใช้มือลูบไล้ใบหน้าของหญิงสาวไปเรื่อยๆพร้อมทั้งยังใช้จมูกสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆของเธอเพื่อให้คุ้นเคยมากขึ้นอีกด้วย
“ปล่อยออมได้แล้วค่ะ”
ตอนนี้หญิงสาวไม่ได้ต้านทานอะไรชายหนุ่มเพราะเห็นว่าเขานั้นไม่ได้ลุกล้ำอะไรเธอมากนักและหันไปโฟกัสอยู่กับเสียงหัวใจของเธอแทนพร้อมคิดในใจสั่งให้มันหยุดเต้นแรงเสียทีเมื่อบังคับไม่ได้เธอเองก็จำเป็นที่จะต้องหลับตาเพื่อที่จะได้ไม่มองหน้าคนตัวโตที่กำลังกอดเธออยู่ไม่นานเขาก็ปล่อยเธอให้เป็นอิสระแล้วหลับไป
สามอาทิตย์ต่อมา
หลังจากตั้งแต่ที่หญิงสาวนอนห้องเดียวกับชายหนุ่มตลอดสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมาความใกล้ชิดสนิทสนมทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นเรื่อยๆและชายหนุ่มเองก็กลับมาสดใสขึ้นเพราะหญิงสาวอีกด้วย
09.00 น.
“อิทอยู่ไหน”
“คุณ???”
อินทิราต้องทำหน้าแปลกใจเมื่อจู่ๆก็มีหญิงสาวแต่งตัวเปรี้ยวเข็ดฟันมาถามหาชายหนุ่มแต่เช้า
“ฉันกิ่งแฟนเก่าของอิท”
กรกนกเห็นว่าหญิงสาวหน้าจืดตรงหน้าทำหน้าสงสัยเธอจึงต้องบอกว่าเธอเคยเป็นอะไรกับอิทธิกรมาก่อน
“คุณอิทอยู่ในห้องค่ะ”
“เอ่อ...คุณ”
ปังง..แกร๊กก
เมื่อกรกนกรู้ว่าอิทธิกรอยู่ที่ไหนเธอก็รีบพุ่งตัวเดินผ่านหญิงสาวเข้าไปหาเขาทันทีไม่สนแม้แต่เสียงเรียกของหญิงสาวพร้อมปิดประตูเป็นการบอกให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างนอกให้รู้ว่าเธอต้องการคุยส่วนตัวกับอิทธิกรแค่สองต่อสอง
“มีอะไรเหรอออม”
อิทธิกรที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆได้ยินเสียงคนเข้ามาก็คิดว่าเป็นอินทิราจึงร้องทักว่าเธอเข้ามาทำอะไรเพราะเวลาปกติแบบนี้เขารู้ว่าหญิงสาวจะนั่งอ่านหนังสือหรือไม่ก็หาอะไรทำอยู่ข้างนอก
“กิ่งเองค่ะ”
“กิ่ง...คุณมาทำไม”
อิทธิกรถึงกับตกใจเมื่อรู้ว่าใครมาหาเขาอีกทั้งตอนนี้เขาก็ไม่ได้อยากจะพบเธอแล้วจึงถามหญิงสาวเสียงแข็งอย่างไร้มารยาท
“กิ่งแค่จะมาบอกว่ากิ่งจะแต่งงานเดือนหน้าเผื่อคุณกำลังรอกิ่งอยู่จะได้เลิกหวัง”
กรกนกพูดกับชายหนุ่มอย่างตรงไปตรงมาเพราะรู้มาบ้างว่าชายหนุ่มไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่พักใหญ่หลังจากที่เธอหายไปที่มาบอกก็เพราว่าจะได้เคลียใจกันไปเธอเองก็จะได้ไม่ติดค้างในใจอะไรด้วย
“ใครบอกว่าผมรอคุณ”
อิทธิกรส่ายหัวเล็กน้อยที่ดูแม่สาวเจ้าจะมั่นใจในตัวเองเหลือเกิน
“อ้อ..ลืมไปว่าคุณมีสาวใหม่แล้วเร็วเหมือนกันนะคะนี่ขนาดตายังมองไม่เห็นก็มาอยู่ด้วยกันแล้วคุณคงใช้เงินซื้อเธอมาสินะ”
กรกนกไม่สามารถที่จะเชื่ออย่างสนิทใจได้ว่าหญิงสาวดีๆที่ไหนอยากจะมาดูแลชายหนุ่มตาบอดจริงจังถ้าไม่ใช่เพราะเงินเหมือนอย่างเธอเมื่อเธอเจอทางที่ดีกว่าเธอก็ต้องเลือกทางนั้นอยู่แล้วว
“ออกไป”อิทธิกรรำคาญที่จะฟังคำส่อเสียดของหญิงสาวเต็มทนเลยไล่เธอออกไปอย่างไม่ใยดีตอนนี้หัวใจเขามันไม่ได้โหยหาหญิงสาวที่ทิ้งเขาไปเลยสักนิดเมื่อหญิงสาวมาหาเขาก็ดีอย่างหนึ่งซึ่งมันทำให้เขาได้รู้ว่าเขาสามารถตัดใจจากเธอได้แล้วจริงๆยิ่งคิดถึงวีรกรรมที่เธอทำไว้กับเขามันก็ยิ่งทำให้เขานั้นอยากจะลืมเธอมากขึ้นนั่นเอง“กิ่งก็ไม่ได้อยากอยู่นานนักหรอกค่ะขอตัว”กรกนกก็ไม่ได้อยากมาที่นี่ให้เสียเวลาเธอนักหรอกที่มาก็เพราะว่าเธออยากจะแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่ที่พึ่งคบกันได้อย่างสบายใจต่างหาก“คุณอิทคะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”หลังจากที่อินทิราเห็นหญิงสาวรีบเดินออกไปจากบ้านอย่างรีบร้อนเธอเองก็รีบเข้ามาดูอาการของชายหนุ่มทันทีกลัวว่าเขาจะหันกลับมาคิดเรื่องเดิมๆอีกสิ่งที่เธอเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ก็คือความรู้สึกของชายหนุ่มเธอไม่อยากให้เขากลับไปเศร้าเหมือนเดิม“ไม่ฉันไม่เป็นอะไรเธอออกไปเถอะ”อิทธิกรมีสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เล็กน้อยเพราะยังรู้สึกไม่พอใจกรกนกอยู่ที่กล้ามาเย้ยหันเขาถึงที่นี่เลยอยากจะอยู่คนเดียวสงบอารมณ์ของตัวเองเสียก่อนเขาไม่อยากให้หญิงสาวเป็นห่วง“ไม่ค่ะออมไม่ไปเมื่อกี้แฟนเก่าคุณเค้ามาคุยอะไรกับคุณเหรอค
“คือ...พลอยไม่รู้ค่ะ...คือ...ที่พี่ภาคย์ช่วยพลอยเพราะพี่ภาคย์อยากให้พลอยพูดเรื่องออมใช่ไหมคะ”เรื่องที่ชายหนุ่มถามมาเธอเองไม่สามารถตอบได้จริงๆพร้อมทั้งยังนึกน้อยใจที่เรื่องของอินทิราเพื่อนสาวของเธอคงจะเป็นคือสาเหตุที่ชายหนุ่มยื่นมือมาช่วยเธอ“ยังจะโกหกพี่อีกเหรอพลอย...ใช่เรื่องออมพี่อยากให้พลอยบอกพี่ว่าเธออยู่ไหนทำอะไรแค่นี้พี่ขอให้พลอยช่วยแค่นี้จะได้ไหม”ด้วยความมึนเมาและโทสะที่มีต่อหญิงสาวบ้างเล็กน้อยแล้วชายหนุ่มจึงเข้าไปบีบแขนหญิงสาวอย่างรุนแรงพร้อมพูดกับเธออย่างเคืองใจเขารู้มานานแล้วว่าเธอรู้ตั้งแต่คืนที่เขาไปส่งเธอวันนั้นแต่เขารอเวลาที่หญิงสาวจะเห็นใจและยอมบอกเรื่องอินทิรากับเขาบ้างแต่เธอก็ยังปากแข็งไม่ยอมบอกอยู่ดี“...ขอเป็นเรื่องอื่นได้ไหมคะ...ความจริงมีบางอย่างที่พลอยอยากจะพูดกับพี่ภาคย์มานานแล้วก็คือออมเค้าไม่เคยคิดเกินเลยกับพี่ภาคย์ออมเห็นพี่ภาคย์เป็นแค่พี่ชายคนนึงเท่านั้น”เรื่องนี้หญิงสาวไม่สามารถที่จะช่วยเหลือคนตรงหน้าได้จริงๆพร้อมทั้งยังทำใจบอกเรื่องที่เขานั้นสมควรจะได้รู้จะได้ไม่ต้องหวังอะไรลมๆแล้งๆแบบนี้อีกมันจะทำให้ชายหนุ่มนั้นเจ็บอยู่ฝ่ายเดียวเปล่าๆ“พี่รู้แต่พี่คิดว
“อึก..ฮือๆ”พรณภัทร์วิ่งหนีไปปาดน้ำตาไปตอนนี้เธอไม่อยากจะมองหน้าชายหนุ่มให้ความรู้สึกมันเสียไปมากกว่านี้แล้วยังไงเธอก็ไม่ยอมอยู่ที่นี่ต่อไปเด็ดขาดถึงแม้หนทางข้างหน้าเธอจะลำบากกว่าอยู่ที่นี่หลายเท่าเธอก็ยอม“พลอย..เดี๋ยว..หยุดก่อน”“ฮึก..ฮือๆๆ”พรณภัทร์ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะตามเธอลงมาเร็วขนาดนี้ตอนนี้ในหัวหญิงสาวคิดได้อย่างเดียวคือวิ่งหนีให้พ้นจากคนใจร้ายให้เร็วที่สุดสายตาของเธอตอนนี้พร่ามัวไปหมดเพราน้ำตาที่มันคลอเอ่อล้นออกมาอย่างไม่ขาดสายนั่นเอง“พลอยระวัง”“อ๊ายยยยย”เอี๊ยดดดด…ปั้งงงงงง“ม่ายยยย”ภัคดนัยถึงกับใจหายวาเมื่อหญิงสาวที่กำลังวิ่งหนีข้ามถนนอยู่นั้นจู่ๆก็มีรถเก๋งวิ่งมาด้วยความเร็วเขาจึงร้องทักให้เธอระวังแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วร่างของหญิงสาวกระเด็นลอยลิ่วไปต่อหน้าต่อตาของเขาอย่างที่เขาช่วยเหลืออะไรเธอไม่ได้โรงพยาบาล“ผมจะผ่าตัดให้เธอเอง”จากอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้หญิงสาวกระดูกหักหลายส่วนและที่กระทบกระเทือนและบาดเจ็บมากที่สุดก็คงจะเป็นส่วนหัวชายหนุ่มยังถือว่าโชคดีอยู่บ้างที่อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ได้พรากชีวิตของหญิงสาวไปเลยไม่อย่างนั้นเขาคงจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตตอนนี้เขาเองก็ทำได้
“แล้วออมไปอยู่ที่ไหนมา”ภัคดนัยถามหญิงสาวเสียงอ่อนตอนนี้เขาอยากรู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหนมาเพราะความเป็นห่วง“ออมต้องไปดูแลผู้ชายคนนึงตอนนี้เค้าตามองไม่เห็นเมื่อเขาหายดีเมื่อไรเราก็จะแต่งงานกันค่ะ”อินทิราตัดสินใจพูดเรื่องที่เธอต้องไปอยู่ที่ไหนทำอะไรให้ชายหนุ่มได้ฟังเพื่อที่เขานั้นจะได้เลิกหวังลมๆแล้งๆกับเธอเสียที“พี่ดีใจกับออมด้วยนะ..แล้วก็ขอโทษที่บางทีพี่ก็ทำให้ออมลำบากใจตอนนี้พี่รู้แล้วว่าพี่ไม่มีวันที่จะได้ใจออมมาจริงๆ”ตอนนี้ชายหนุ่มรู้ตัวจริงๆแล้วว่ายังไงก็ไม่สามารถคว้าหัวใจของอินทิรามาได้แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นแล้วตอนนี้ในใจของเขาที่ห่วงสุดๆก็คือพรณภัทร์พร้อมยิ้มินดีกับอินทิราที่เธอกำลังจะมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข“ถึงเราจะไม่ได้รักกันในฐานะคนรักแต่ออมก็รักและเคารพพี่ภาคย์เป็นพี่ชายเสมอนะคะ”อินทิราดีใจและโล่งอกที่ชายหนุ่มตรงหน้าเธอนั้นเข้าใจเธอดีแล้วถึงเธอกับเขาจะไม่ได้รักกันในฐานะคนรักแต่ด้วยความผูกพันธ์ที่รู้จักกันมานานทำให้เธอเคารพภัคดนัยเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น“งั้นพี่ขอกอดออมในฐานะน้องสาวก็แล้วกันและก็ขอเก็บความรู้สึกดีๆแบบนี้ตลอดไปได้ไหม”“ค่ะพี่ภาคย์”ภัคดนัยยิ้มอ่อนที
“แล้วอาการเป็นยังไงบ้าง”ชายหนุ่มถึงกับบดกรามกรอดเพราชื่อโรงพยาบาลที่หญิงสาวบอกมันตรงกับคำบอกเล่าของกรกนกเขาอยากจะรู้นักว่าที่เธอบอกไปเยี่ยมเพื่อนได้รู้อาการของเพื่อนเธอจริงๆหรือเปล่าเพราะไม่ใช่มัวแต่ขลุกอยู่กับผู้ชายตามที่เขาได้รู้มา“ก็ยังทรงๆอยู่ค่ะแต่เท่าที่ออมคุยกับพี่หมอที่ดูแลเพื่อนออมอยู่เค้าก็บอกว่าจะรักษาให้สุดความสามารถเลยค่ะออมเชื่อว่าไม่นานเพื่อนออมต้องหายแน่ๆ”อินทิราอมยิ้มอย่างพอใจที่เห็นว่าชายหนุ่มนั้นมีกะใจที่จะไถ่ถามอาการของเพื่อนเธอด้วยจึงบอกถึงอาการของเพื่อนสาวเธออย่างอารมณ์ดี“หึ่...ไปเยี่ยมเพื่อน...แต่ดูท่าทางจะไปเยี่ยมหมอมากกว่ามั้งถึงได้มีคนเห็นว่ากอดกับหมอหนุ่มจนถึงใจขนาดนั้น”น้ำเสียงที่ฟังดูหญิงสาวจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษมันทำให้เขาเริ่มโมโหเป็นพิเศษเหมือนกันคงจะอิ่มอกอิ่มใจมากที่ได้ไปกอดกกกับผู้ชายได้อย่างหน้าไม่อายที่โรงพยาบาลชายหนุ่มยังไม่รู้ตัวเองว่าอารมณ์แบบนี้คือเขากำลังหึงหญิงสาวอย่างหน้ามืดตามัวอยู่พักหลังมานี้หญิงสาวนอนกับเขาแทบทุกคืนบางคืนเธอก็กอดก่ายเขาอย่างไม่รู้ตัวทำให้ชายหนุ่มนอนข่มตาหลับได้ยากแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากปฏิเสธเธอออกไปเพรามันก็ทำให้ใจของเขา
“ฉันจะค่อยๆทำ”ชายหนุ่มกระซิบข้างหูหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเขารู้ว่าเธอยังไม่เคยกับเรื่องแปลกใหม่แบบนี้เขาจะพยายามทำให้เธอเจ็บน้อยที่สุดแม้ในใจตอนนี้อยากจะทำตามอารมณ์ที่มันพลุ่งพล่านอยู่มากก็ตามเมื่อทั้งคู่ปรับตัวเข้าหากันได้และหญิงสาวเองก็เริ่มที่จะลืมความเจ็บแล้วชายหนุ่มจึงร่ายบทรักอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดเสียงครางในห้องดังระงมของทั้งคู่สลับกันไปมาจนตอนนี้ผ่านไปค่อนคืนชายหนุ่มจึงยอมปล่อยหญิงสาวให้เธอได้พักผ่อนไปก่อนเพราะเห็นว่าเธอแทบจะไม่มีเสียงร้องและเรี่ยวแรงแล้วทั้งที่ในตัวของเขามันยังไม่หมดความต้องการด้วยเพราะเขาเองนั้นก็ห่างหายเรื่องแบบนี้มานานเช้าวันต่อมา07.30 น.บ้านโรจน์วินิจวรกุล“หายงอนพี่แล้วหรือไงถึงได้ลงมาทานข้าวพร้อมกันได้”ภัคดนัยนั่งทานอาหารเช้าที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้เขาทุกเช้าเขาเห็นวันนี้น้องสาวของเขาลงมาทานข้าวด้วยได้ก็ดีใจเพราะพอจะดูออกว่าน้องของเขาหายงอนบ้างแล้ว“ขี้เกียจงอนไม่รู้จะงอนไปทำไมในเมื่อพี่ชายพีคเป็นคนที่เข้าใจอะไรง่ายๆแล้ว”พีรยาทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้พร้อมทานอาหารตรงหน้าเธอรู้ว่าพี่ชายเธอปรับความเข้าใจกับอินทิราเรียบร้อยแล้วทำให้เธอหายห่วงเรื่องนี้ไ
1 เดือนต่อมาเป็นเวลาอีกร่วมเดือนที่หญิงสาวใช้ชีวิตอยู่ที่เรือนเล็กท้ายไร่กับชายหนุ่มตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งสองดูเป็นคู่รักที่เอาใจใส่กันและกันเสมอมาชายหนุ่มเองเมื่อมีหญิงสาวอยู่ใกล้ๆความอารมณ์ร้อนก็จะไม่ค่อยมีให้เห็นเว้นเสียแต่ว่าเขาเรียกหาหญิงสาวแล้วไม่เจอเธอก็จะหงุดหงิดนิดหน่อยก็เท่านั้นแถมสรรพนามของทั้งคู่ที่ใช้เรียกกันก็ดูสนิทสนมกันมากขึ้นด้วย“ออม..”“มีอะไรคะพี่อิท”อินทิราที่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัวได้ยินชายหนุ่มเรียกเสียงดังก็รีบวิ่งออกมาจากห้องครัวอย่างตกอกตกใจแล้วร้องถามคนที่นั่งบนโซฟาสีหน้ายิ้มแย้มว่าเขาเป็นอะไร“เปล่าพี่แค่เรียกเฉยๆคิดถึง”อิทธิกรฉีกยิ้มให้หญิงสาวอย่างหน้าทะเล้นว่าที่เขาเรียกเธอก็เพราว่าอยากให้อยู่ใกล้ๆและได้ยินเสียงของเธอก็เท่านั้น“แกล้งออมอีกแล้วนะคะเดี๋ยวก็ได้ทานไข่ดาวไหม้หรอก” อินทิราแอบหน้ามุ่ยเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกเขินที่เขาชอบมาหยอดเธออยู่บ่อยๆแต่เวลานี้เธอก็คิดว่าเขาก็ไม่ควรจะเล่นเพราะอาจจะได้ทานอาหารที่ไหม้เกรียมได้สองสาวมันที่ผ่านมานี้ชายหนุ่มไม่ทานข้าวต้มที่หญิงสาวทำให้แม้แต่นิดเดียวเพราบ่นว่ากลิ่นมันค่อนข้างทำให้เขาไม่อยากจะทานและอยากจะอาเจียน
1 อาทิตย์ต่อมา21.30 น.“พรุ่งนี้พี่ก็จะต้องเข้าผ่าตัดแล้วต่อจากนี้พี่จะได้เป็นคนดูแลออมบ้าง”“........”สองหนุ่มสาวกอดกันกลมอยู่บนเตียงนอนนุ่มอิทธิกรดีใจที่เขาจะได้มีโอกาสได้ดูแลหญิงสาวบ้างหลังจากที่ให้เธอคอยดูแลอยู่ตลอดอินทิรานอนซุกอยู่ที่อกแกร่งน้ำตาซึมออกมาที่เธอรู้ตัวว่าเธอคงจะไม่มีโอกาสนั้นหลังจากที่อรดีโทรหาเธอเมื่อไม่กี่วันมานี้3 วันที่แล้วRrrrrrrrrrrrr“ค่ะคุณแม่”“แกต้องออกไปให้ห่างจากอิทธิกรให้เร็วที่สุดเพราะฉันจะให้ยัยอันไปดูแลอิทธิกร”“ไหนคุณแม่บอกว่าพี่อันไม่ต้องการพี่อิทไงคะ”“แล้วจะทำไมลูกฉันต้องการอิทธิกรตอนนี้แล้วจะทำไมแกก็รู้นะว่าฉันจะทำอะไรกับแกได้บ้างแล้วถ้าหากคนบ้านนั้นรู้ว่าแกไปหลอกลวงเค้าพวกเค้าคงจะเอาแกทำลูกสะใภ้หรอกนะ”“แต่คุณแม่เป็นคนให้ออมมาที่นี่ตั้งแต่แรกเองนะคะ”“แล้วแกคิดว่าคุณอรุณาจะเชื่อใครระหว่างแกที่เป็นลูกเมียน้อยกับฉันที่เป็นแม่ของคู่หมั้นตัวจริงของอิทธิกร”“ออมขอเวลาอีกสองสามวันนะคะแล้วออมจะไปเอง”“ดี...เข้าใจอะไรง่ายๆแบบนี้ก็ดี”หลังจากวางสายจากอรดีแล้วหญิงสาวก็แอบมานั่งร้องให้ปานจะขาดใจเมื่อเธอนั้นจะต้องจากชายหนุ่มไปจริงๆหากเธอไม่ยอมไปแต่โดย