1 อาทิตย์ต่อมา
21.30 น.
“พรุ่งนี้พี่ก็จะต้องเข้าผ่าตัดแล้วต่อจากนี้พี่จะได้เป็นคนดูแลออมบ้าง”
“........”
สองหนุ่มสาวกอดกันกลมอยู่บนเตียงนอนนุ่มอิทธิกรดีใจที่เขาจะได้มีโอกาสได้ดูแลหญิงสาวบ้างหลังจากที่ให้เธอคอยดูแลอยู่ตลอด
อินทิรานอนซุกอยู่ที่อกแกร่งน้ำตาซึมออกมาที่เธอรู้ตัวว่าเธอคงจะไม่มีโอกาสนั้นหลังจากที่อรดีโทรหาเธอเมื่อไม่กี่วันมานี้
3 วันที่แล้ว
Rrrrrrrrrrrrr
“ค่ะคุณแม่”
“แกต้องออกไปให้ห่างจากอิทธิกรให้เร็วที่สุดเพราะฉันจะให้ยัยอันไปดูแลอิทธิกร”
“ไหนคุณแม่บอกว่าพี่อันไม่ต้องการพี่อิทไงคะ”
“แล้วจะทำไมลูกฉันต้องการอิทธิกรตอนนี้แล้วจะทำไมแกก็รู้นะว่าฉันจะทำอะไรกับแกได้บ้างแล้วถ้าหากคนบ้านนั้นรู้ว่าแกไปหลอกลวงเค้าพวกเค้าคงจะเอาแกทำลูกสะใภ้หรอกนะ”
“แต่คุณแม่เป็นคนให้ออมมาที่นี่ตั้งแต่แรกเองนะคะ”
“แล้วแกคิดว่าคุณอรุณาจะเชื่อใครระหว่างแกที่เป็นลูกเมียน้อยกับฉันที่เป็นแม่ของคู่หมั้นตัวจริงของอิทธิกร”
“ออมขอเวลาอีกสองสามวันนะคะแล้วออมจะไปเอง”
“ดี...เข้าใจอะไรง่ายๆแบบนี้ก็ดี”
หลังจากวางสายจากอรดีแล้วหญิงสาวก็แอบมานั่งร้องให้ปานจะขาดใจเมื่อเธอนั้นจะต้องจากชายหนุ่มไปจริงๆหากเธอไม่ยอมไปแต่โดยดีเธอก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอบ้างเพราะเธอรู้ว่าอรดีน่ากลัวแค่ไหนลำพังตัวของเธอคนเดียวไม่กลัวเท่าไรแต่ตอนนี้เธอนั้นมีลูกน้อยอยู่ในท้องที่พึ่งจะรู้ตัวไม่กี่วันมานี้เองเธอกะจะบอกข่าวดีกับชาหนุ่มตอนที่ผ่าตัดเรียบร้อยแล้วแต่ตอนนี้เธอนั้นจะต้องเก็บความลับนี้เอาไว้ให้หายไปกับเธอเลยจะดีกว่า
“ออม..ร้องให้ทำไม”
อิทธิกรสังเกตว่าหญิงสาวเงียบไปและตัวสั่นเทาเล็กน้อยแถมมือยังกอดกำเขาแน่นอีกต่างหากอาการแบบนี้เขารู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวกำลังร้องให้สะอื้นอยู่
“ออมแค่ดีใจน่ะค่ะ”
อินทิราตอบชายหนุ่มแต่คำตอบของเธอนั้นมันช่างตรงกันข้ามกับหัวใจเหลือเกินเธอขอเก็บความรู้สึกที่ได้ใกล้ชิดกับเขาไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
“นึกว่าอะไรทำพี่ตกใจหมดนอนเถอะ”
อิทธิกรถอนหายใจนึกว่าหญิงสาวเป็นอะไรมากมายที่แท้ก็แค่ดีใจจึงกระชับกอดเธอให้แน่นขึ้นแล้วหลับตาลงด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข
“พี่อิทกอดออมไว้นะคะ”
“พี่ก็กอดอยู่ทุกคืนไม่ใช่หรือไง”
ชายหนุ่มก้มมองหญิงสาวเล็กน้อยที่ดูท่าว่าคนตัวเล็กจะอ้อนผิดปกติแต่เขาก็ชอบที่เธอเป็นแบบนี้
เช้าวันต่อมา
“พี่ออกจากห้องผ่าตัดแล้วออมต้องอยู่ข้างๆพี่ตลอดนะรู้ไหม”
อิทธิกรนั่งจับมือกับหญิงสาวอยู่ไม่ยอมปล่อยเขารู้ว่าหลังจากผ่าตัดเขาต้องหลับอีกเป็นวันเป็นแน่เลยต้องกำชับห้ามหญิงสาวทิ้งเขาไปไหน
“ออมอยู่ในใจของพี่อิทไงคะ”
อินทิรากลั้นเสียงสะอื้นพร้อมยกมือน้อยไปจับที่หัวใจของชายหนุ่มส่งเสียงพูดคุยเล่นกับชายหนุ่มให้เขาสบายใจ
“ได้เวลาแล้วค่ะ”
พยาบาลเข้ามาพาตัวชายหนุ่มออกไปจากห้องตอนนี้มือของหญิงสาวกับเขาหลุดออกจากกันเธอไม่อยากปล่อยมือนี้ไปเลยยิ่งมองคนที่รักหันหลังไปใจเธอมันก็เหมือนจะขาด
“ฮึก...ฮือๆๆๆ...พี่อิทออมขอโทษที่รักษาสัญญาไม่ได้หวังว่าพี่อันคงทำหน้าที่แทนออมได้อย่างดีนะคะ”
หญิงสาวเดินปาดน้ำตาหอบกระเป๋าที่นำมาด้วยเดินหลบไปที่ด้านหลังโรงพยาบาลเพื่อโบกรถสองแถวไปที่ขนส่งตอนนี้ที่เธอคิดออกก็คือต้องเข้ากรุงเทพไปก่อนส่วนที่อยู่นั้นค่อยไปหาเอาดาบหน้าเรื่องนี้เธอจะไม่ยอมริปากบอกใครทั้งนั้นแม้กระทั่งเพื่อนสนิทอย่างพีรยา
3 วันต่อมา
โรงพยาบาลXXX
ตอนนี้พรณภัทร์รู้สึกตัวขึ้นมาแล้วหลังจากรู้ข่าวจากพี่ชายพีรยาจึงรีบมาที่โรงพยาบาลด้วยความดีใจตอนนี้อาการทุกอย่างของพรณภัทร์ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเพราะจากที่หมอคาวีเพื่อนของภัคดนัยที่พึ่งกลับมาจากเมืองนอกมาช่วยภัคดนัยรักษาอาการของหญิงสาวก็ดีขึ้นเรื่อยๆตอนฟื้นมาถามอะไรก็จำได้หมดเพียงแค่ยังอ่อนเพลียเท่านั้น
“เป็นอะไรพีค”
ภัคดนัยเห็นน้องสาวของเขาเดินออกมาด้านนอกหน้าตาไม่สบอารมณ์เท่าไรนักจึงเดินตามออกมา
“ก็พีคติดต่อยัยออมไม่ได้มาสามสี่วันแล้วค่ะ”
พีรยากังวลใจเธออยากจะบอกข่าวดีนี้กับอินทิราแต่ก็ติดต่อไม่ได้อยู่ตลอดจนเธอเริ่มจะสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“แล้วไม่ลองไปหาออมดูล่ะ”
ภัคดนัยเสนอทางออกให้น้องสาวของเขาเพราเห็นว่าช่วงนี้งานออกแบบเสื้อผ้าของน้องสาวเขานั้นก็เริ่มที่จะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว
“พีคคิดไว้แล้วค่ะว่าถ้าวันนี้ติดต่อไม่ได้อีกคงต้องไปหาถึงที่จริงๆแล้วล่ะค่ะ”
พีรยาไปหาเพื่อนเธอแน่หากยังติดต่อไม่ได้อยู่แบบนี้แต่ตอนนี้เธอขออยู่ดูอาการของพรณภัทร์เสียก่อน
“ดีแล้วตอนนี้เราไปดูพลอยก่อนเถอะเพราะตั้งแต่ฟื้นมาพี่คุยด้วยเธอก็ไม่ยอมคุยกับพี่เลย”
“โอเคๆ”
พีรยาเห็นหน้าหงอยๆของพี่ชายเอก็ต้องรีบกลับเข้าไปหาเพื่อนของเธอทันทีนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เธอกังวลใจเพราะไม่รู้ว่าหลังจากนี้พี่ชายเธอกับพรณภัทร์จะเป็นยังไงกันต่อไป
“หิวน้ำไหม”
“อืมม”
“ค่อยๆจิบนะ”
พีรยาค่อยๆให้เพื่อนเธอจิบน้ำทีละน้อยๆแต่จิบบ่อยๆพร้อมทั้งยังหาเรื่องคุยอยู่ลอดเพื่อที่จะให้เพื่อนเธอกลับมาดูสดชื่นโดยเร็วแต่พรณภัทร์ก็ไม่ได้อยากพูดอะไรมากนักเพราะไม่ค่อยสบอารมณ์กับชายหนุ่มคนที่ยืนเงียบๆมองเธออยู่
ก๊อกๆๆๆ.“คุณอาเทอร์”พีรยาหน้าบานเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มผู้มาใหม่เดินเข้ามาเธอเคยเจอกับเขาค่อนข้างบ่อยตอนที่อาเทอร์นั้นมาเยี่ยมเพื่อนสาวของเธอ“สวัสดีครับทุกคน”อาเทอร์กล่าวทักทายทุกคนเหมือนที่เคยๆวันนี้ที่เขารีบมาก็เพราะว่าพีรยาโทรไปบอกกับเขาว่าพรณภัทร์ฟื้นแล้วเขาจึงรีบซื้อของมาเยี่ยมและถือโอกาสมาขอโทษหญิงสาวที่นอนป่วยอยู่ด้วย“นี่คุณอาเทอร์พลอยคนที่เค้าขับรถชนแกตอนที่แกหลับอยู่เค้าคอยมาเยี่ยมแกบ่อยๆ”พีรยาเห็นพรณภัทร์มีสีหน้าที่สงสัยเลยรีบแนะนำอาเทอร์ให้เพื่อนเธอรู้จัก“ผมต้องขอโทษคุณพลอยด้วยนครับที่ทำให้คุณเจ็บหนักขนาดนี้”อาเทอร์กล่าวขอโทษหญิงสาวด้วยความสำนึกผิดที่วันนั้นเขาก็ขับรถมาด้วยความเร็วเหมือนกัน“เป็นเพราะพลอยไม่ได้ระวังมากกว่าค่ะ”พรณภัทร์เองรู้ว่าวันนั้นเธอเองก็ไม่ได้ระวังไปวิ่งตัดหน้ารถชายหนุ่มเสียเองเป็นเธอมากกว่าที่ผิด“ดอกไม้กับผลไม้ครับหายไวๆนะครับ”“ขอบคุณค่ะ”อาเทอร์ยื่นดอกไม้กับกระเช้าผลไม้ให้คนที่นอนป่วยดูพร้อมส่งให้พีรยาเพื่อเอาไปวางไว้ข้างๆเตียงเพราเห็นว่าคนป่วยคงจะถือไม่ไหววันต่อมาเขาใหญ่โรงพยาบาลXXX“เป็นยังไงบ้างเห็นชัดไหม”ตฤนค่อยๆเปิดผ้าปิดตาของอิทธิกรอ
“ยอมรับแล้วใช่ไหมว่าเธอไม่ใช่เธอทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร”อิทธิกรแสยะยิ้มอย่างพอใจถ้าเขาไม่กดดันเธอขนาดนี้ก็คงจะไม่ยอมปริปากพูดมาง่ายๆแน่พร้อมถามหญิงสาวถึงสาเหตุที่ต้องมาหลอกลวงเขาแบบนี้เพื่ออะไร“หึ้ยย...”อันธิการ้องส่งเสียงด้วยความโมโหที่ตอนนี้เธอเหมือนอีขี้แพ้คนนึงพร้อมนึกหมั่นไส้ที่ดูอิทธิกรจะรักและจำสัมผัสของอินทิราได้ดีเหลือเกิน“ตอบสิวะ”อิทธิกรเล็งปากกระบอกปืนมาที่อินทิราเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ยอมตอบเรื่องอินทิราออกมาเสียที“ฉันเป็นคู่หมั้นตัวจริงของคุณไงล่ะนังออมมันเป็นตัวปลอมมันมาหลอกคุณฉันเป็นตัวจริงมาดูแลคุณก็ถูกแล้วนี่”อันธิกาอยากให้ชายหนุ่มรู้นักว่าเธอเป็นคู่หมั้นตัวจริงจะได้ดูว่าอินทิราเป็นคนผิดที่มาหลอกลวงคนที่ควรอยู่ที่นี่ตอนนี้เป็นเธอก็ถูกแล้ว“เสียงเอะอะอะไรพี่ภาคย์”พีรยาและภัคดนัยที่มีวิทวัสขับรถนำทางมาส่งเมื่อถึงเรือนเล็กก็รีบลงจากรถยิ่งได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากในบ้านหญิงสาวก็นึกเป็นห่วงอินทิราคิดว่าเพื่อนเธออาจจะมีปากเสียงอะไรกับอิทธิกร“ไม่รู้เรารีบเข้าไปดูกันเถอะ”ภัคดนัยก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าด้านในเกิดอะไรขึ้นหากชายหนุ่มจะทำร้ายอินทิราเขาไม่ยอมเป็นแน่“หึ่!!..ฉั
กรุงเทพมหานครอินทิรามาเช้าห้องเช่าเล็กๆอยู่สามสี่วันแล้วเธอพยายามหางานสมัครงานไปเรื่อยๆนี่ก็เป็นอีกวันที่เธอก็เดินมาสมัครงานเธอไปหลายที่แต่ก็ไม่ได้มีใครอยากจะรับคนท้องเข้าทำงานอันที่จริงเธอก็ยังตั้งท้องอ่อนๆไม่ได้มีหน้าท้องให้เห็นมากนักแต่เธอก็เลือกที่จะบอกความจริงกับคนที่สัมภาษณ์เธอจึงทำให้ตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้งานเสียที“คุณ!!!”อาเทอร์เห็นหญิงสาวกำลังจะเป็นลมอยู่ที่หน้าร้านของเขาพอดีกับจังหวะที่เขาเปิดประตูออกมาพอดีเลยรับตัวหญิงสาวเอาไว้ได้ทัน“อือ...อืมม”“ฟื้นแล้วเหรอครับเมื่อกี้คุณเป็นลมผมเลยพาคุณมาพักด้านใน”อาเทอร์เห็นหญิงสาวฟื้นขึ้นแล้วก็โล่งใจนึกว่าเธอจะเป็นอะไรมากเสียอีก“ขอบคุณนะคะ”อินทิรารีบขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้าที่ช่วยเหลือเธอเอาไว้อย่างรวดเร็วเธอเองก็เครียดเรื่องานจนไม่ได้ทานข้าวเช้าก่อนออกมาสมัครงานจึงทำให้ไม่มีแรงบวกกับตอนนี้เธอก็ตั้งครรภ์อ่อนๆจึงทำให้เป็นลมล้มพับไป“นี่คุณกำลังจะมาสมัครงานที่นี่ใช่ไหมครับ”“ใช่ค่ะ”“ผมเป็นเจ้าของร้านที่นี่ครับ”อาเทอร์เห็นเอกสารของหญิงสาวหล่นตอนที่เธอเป็นลมจึงรู้ว่าเธอนั้นกรอกใบสมัครงานและกำลังมาสมัครงานที่นี่ที่เขาเป็นเจ้าของร้านเขาจ
“คุณอาเทอร์นี่ฉลาดสุดๆไปเลยค่ะ”พีรยายกนิ้วโป้งให้ชายหนุ่มที่เขานั้นดูจะเข้าใจอะไรง่ายๆในแบบที่เธอไม่ต้องอธิบายอะไรเลย“ไหนๆคุณก็บอกคุณพลอยว่าเราจะไปทานข้าวกันแล้วงั้นมื้อนี้ผมเลี้ยงคุณเองนะครับ”อาเทอร์เห็นว่าไหนๆก็ออกมาเพราเรื่องนี้แล้วเขาก็เลยถือโอกาสนี้ชวนหญิงสาวไปทานข้าวเลยก็แล้วกันเพราะนับว่าเป็นโอกาสที่ดีอีกครั้งที่เขาได้ใกล้ชิดเธอ“หืมม..มันจะดีนะคะ”เรื่องของฟรีพีรยาไม่หวั่นอยู่แล้วและยิ่งไปกับชายหนุ่มด้วยแล้วอาหารที่เธอได้ทานวันนี้คงจะอร่อยเป็นพิเศษ“ฮ่าๆๆ..ไปกันเลยครับ”เมื่อหญิงสาวตกลงชายหนุ่มก็พาหญิงสาวนั่งรถสปอร์ตคันหรูของเขาตรงมาที่ร้านของเขาทันทีเพราะอยากจะให้หญิงสาวได้ลองชิมเมนูโปรดของเขาในร้านด้วยและร้านอาหารของเขาก็เป็นร้านอาหารไทยที่เป็นของคุณยายเขามาก่อนจึงคิดว่าหญิงสาวน่าจะถูกปากร้านอาหารXXX“ร้านอาหารไทยร้านนี้เป็นร้านของผมเองครับเป็นมรดกมาจากคุณยาย”“นี่ร้านของคุณอาเทอร์เองเหรอคะ...แหมเป็นเจ้าของร้านอาหารดังก็ไม่บอก”“ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจเล็กๆของครอบครัวรองจากธุรกิจอื่นๆครับ”“อ๋อ..ค่ะแบบนี้คุณอาเทอร์ก็เหนื่อยแย่เลยสิคะ”“ผมมีน้องชายคนกลางอีกคนช่วยดูแลอยู่น่ะคร
“ครับผมพร้อมช่วยคุณพีคเสมอขอแค่คุณพีคขอมา”อาเทอร์เต็มใจช่วยพีรยาทุกเรื่องอยู่แล้วของเพียงแค่เธอเอ่ยปากบอกกับเขาเท่านั้นตอนนี้เขาได้รู้เรื่องราวของอินทิราก็ถึงกับอึ้งไปเหมือนกันและเขาก็พร้อมที่จะทำให้อินทิราสมหวังอีกด้วย“หืมม...พูดเหมือนจีบพีคเลยนะคะเนี่ยเขิน..ฮ่าๆๆ”พีรยาแอบแซวชายหนุ่มกลับแก้เขินถึงคำที่เธอพูดออกไปจงใจให้ชายหนุ่มดูเหมือนเธอพูดเล่นแต่ในใจของเธอมันคิดจริง“ครับผมจีบคุณพีคครับ”อาเทอร์ตอบหญิงสาวกลับหน้าตาเฉย“หา..เอ่อ.”พีรยาถึงกับไปไม่เป็นเมื่อเจออาเทอร์สวนกลับมาแบบนี้ตอนนี้หน้าเธอแดงเป็นลูกตำลึงจนอีกฝ่ายมองเห็นได้ชัดเจนอีกด้วยบ้านอาเทอร์“น้องแอลคะอาหารเย็นเรียบร้อยแล้วค่ะ”อินทิราเข้ามาทำงานที่นี่ได้สองวันแล้วเธอเข้ากันดีกับเด็กสาวอายุ17มากเอลิซ่าก็ชอบเธอมากๆด้วยที่รู้ใจไปเสียทุกอย่างผิดกับคนดูแลคนก่อนๆที่ชอบบังคับ“หอมจังเลยค่ะ..เย่!!วันนี้มีผัดปูของโปรดแอลอีกแล้ว”เอลิซ่าเห็นอินทิรายกจานปูผัดผงกะหรี่จานโตเข้ามาก็นั่งปรบมือดีใจที่ได้ทานของโปรดอีกแล้ววันนี้“ทานเยอะๆเลยนะคะ”อินทิราพยายามทำอาหารหลากหลายให้เอลิซ่าได้ทานเธอจะได้ประโยชน์ครบ5หมู่ตามที่อาเทอร์ได้สั่งเอา
“พึ่งกลับมาเหรอ”“ค่ะ..ทำไมพี่ภาคย์ทำหน้าซังกะตายอย่างนั้นล่ะคะ”“พีคไปดูพลอยหน่อยก็แล้วกันดูท่าจะไม่ยอมไปกับเราง่ายๆ”ภัคดนัยเห็นพีรยากลับมาก็ถือโอกาสคุยเรื่องที่เขาลำบากใจอยู่ตอนนี้พอดี“เรื่องนี้เดี๋ยวพีคจัดการเองค่ะ”พีรยาเห็นว่าเพื่อนเธอนั้นพูดโน้มน้าวไม่ยากเท่าไรเดี๋ยวเรื่องนี้เธอจะจัดการเอง“อืม..พี่เข้าห้องแล้วหละ”ภัคดนัยเดินเข้าห้องของเขาไปด้วยสีหน้าที่ห่อเหี่ยวเล็กน้อย“อ้าว...ทำไมรีบล่ะท่าทางจะไม่ง่ายอย่างที่คิดซะแล้วคู่นี้”พีรยาดูอาการพี่ชายเธอก็พอจะรู้ว่าเพื่อนเธอกับพี่ชายของเธอยังไม่คุยกันดีๆเป็นแน่เธอคิดว่ามันจะดีแล้วเสียอีกแบบนี้เธอต้องคิดทำอะไรสักอย่างแล้วบ้านอาเทอร์“อีกสองวันเราจะไปทะเลกันนะครับคุณออม”“ค่ะ”อาเทอร์หันไปคุยกับอินทิราที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามให้เธอได้เตรียมตัวก่อนที่จะไปทะเลในอีกสองวัน“เย่ๆๆ...แอลอยากไปทะเลที่สุดเลยค่ะพี่อาท”เอลิซ่าดีใจยิ้มแก้มแทบปริที่จะได้ไปเที่ยวข้างนอกเปิดหูเปิดตากับเค้าบ้างปกติเธออยู่แต่บ้านนานๆทีจะได้ไปเที่ยวเลยรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษไร่แก้วกัลยา“อีกไม่นานเราก็จะได้เจอกันแล้วนะออมพี่จะไม่ยอมปล่อยให้ออมหนีพี่ไปอีกเลยคอยดู”อ
ร้านอาหารXXX“ร้านอาหารที่นี่ตกแต่งสวยมากเลยนะคะ”“...”อินทิรารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เมื่อเธอพูดอะไรกับอาเทอร์เขาก็ดูจะมัวสนใจอยู่กับมือถือที่อยู่ในมือ“คุณอาเทอร์ยุ่งกับงานเหรอคะ”หญิงสาวตัดสินใจถามชายหนุ่มออกไปเพราะกลัวว่างทีเธออาจจะเผลอคุยกับเขาในเวลาที่เขากำลังยุ่งกับการทำงานหรืออะไรสักอย่างก็เป็นได้“อ๋อ..เอ่อ..”อาเทอร์ถึงกับชะงักกับคำถามของหญิงสาวใบหน้าของเขาดูร้อรรนเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าหญิงสาวจะจับสังเกตได้ว่าเขานั้นอยู่กับมือถือมากเกินไป“พี่อาทยุ่งอยู่กับการคุยกับสาวๆมากกว่าค่ะ”เอลิซ่าถึงกับต้องออกโรงแก้ต่างให้พี่ชายเธอแทนเธอไม่ได้โกหกเรื่องที่เขาคุยกับสาวๆแต่ไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไรเท่านั้นเองเธอส่งสายตาเชิงดุให้พี่ชายเธอเล็กน้อยเพราะสั่งเธอว่าห้ามมีพิรุตแต่ตัวเองทำให้อินทิราสังเกตเห็นความพิรุตนั้นเอง“หืม..อย่างนี้นี่เอง”อินทิราพยักหน้าเข้าใจพร้อมอมยิ้มเล็กน้อยเธอรู้สาเหตุแล้วว่าเวลาเธอคุยกับเขาชายหนุ่มถึงไม่ค่อยได้สนใจคำพูดของเธอ“คุณอิทไปรอตรงโน้นได้เลยค่ะมุมนั้นพีคนัดกับทางร้านเอาไว้แล้ว”“โอเคครับ”“สู้ๆนะคะ”พีรยาชี้ไปทางโซนหลังร้านที่ไม่มีคนอยู่ให้อิทธิกรไปรออยู่ที
“ช่วยผมด้วยครับคู่หมั้นผมเค้าทิ้งผมไปแล้วเพราะผมมองไม่เห็นเสียทีผมไม่รู้ว่าจะกลับจากที่นี่ยังไงช่วยผมด้วยนะครับ”อิทธิกรเหล่มองหญิงสาวที่ยังยืนหันหลังนิ่งงันอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเธอไม่เข้ามาช่วยเขาเสียทีจึงส่งเสียงพูดต่อยังไงเขาก็คิดว่าหญิงสาวคงจะไม่ใจดำเดินหนีเขาไปเสียหรอก“...อืมม..อึก...พี่อิท..ทำไมพวกเค้าใจร้ายกับพี่แบบนี้ล่ะคะ”อินทิราสะอื้นตัวสั่นเมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มร้องเรียกให้ช่วยอีกคราพร้อมรีบวิ่งไปพยุงตัวชายหนุ่มขึ้นและกอดเขาเอาไว้อย่างแนบแน่นพร้อมสะอื้นตัวโยน“........”อิทธิกรกอดตอบหญิงสาวที่โผเข้ามากอดเขาไว้อย่างแนบแน่นเช่นกันแต่เขารู้ว่าตอนนี้หญิงสาวคงยังไม่รู้ตัวเป็นแน่ว่ามีเขากอดเธอเอาไว้อยู่เพราะมัวแต่สะอื้นร่ำให้อยู่แบบนั้นแปลกที่ครั้งนี้เขาได้เห็นน้ำตาของหญิงสาวกลับยิ้มออกเพราะรู้ว่าเธอนั้นห่วงเขาอย่างใจจริง“รู้ว่าพวกนั้นใจร้ายแล้วทำไมปล่อยให้คนแบบนั้นมาอยู่กับพี่ได้ล่ะ”เมื่อปล่อยให้หญิงสาวได้กอดเขาสักพักเมื่อเธอเริ่มนิ่งลงเขาจึงเอ่ยปากพูดกับร่างบางถึงเรื่องที่เธอหนีเขาไป“......เอ่อ......”อินทิราผละจากการกอดชายหนุ่มแล้วหันมามองหน้าคนตรงหน้าอย่างสงสัย“