กรุงเทพมหานคร
อินทิรามาเช้าห้องเช่าเล็กๆอยู่สามสี่วันแล้วเธอพยายามหางานสมัครงานไปเรื่อยๆนี่ก็เป็นอีกวันที่เธอก็เดินมาสมัครงานเธอไปหลายที่แต่ก็ไม่ได้มีใครอยากจะรับคนท้องเข้าทำงานอันที่จริงเธอก็ยังตั้งท้องอ่อนๆไม่ได้มีหน้าท้องให้เห็นมากนักแต่เธอก็เลือกที่จะบอกความจริงกับคนที่สัมภาษณ์เธอจึงทำให้ตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้งานเสียที
“คุณ!!!”
อาเทอร์เห็นหญิงสาวกำลังจะเป็นลมอยู่ที่หน้าร้านของเขาพอดีกับจังหวะที่เขาเปิดประตูออกมาพอดีเลยรับตัวหญิงสาวเอาไว้ได้ทัน
“อือ...อืมม”
“ฟื้นแล้วเหรอครับเมื่อกี้คุณเป็นลมผมเลยพาคุณมาพักด้านใน”
อาเทอร์เห็นหญิงสาวฟื้นขึ้นแล้วก็โล่งใจนึกว่าเธอจะเป็นอะไรมากเสียอีก
“ขอบคุณนะคะ”
อินทิรารีบขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้าที่ช่วยเหลือเธอเอาไว้อย่างรวดเร็วเธอเองก็เครียดเรื่องานจนไม่ได้ทานข้าวเช้าก่อนออกมาสมัครงานจึงทำให้ไม่มีแรงบวกกับตอนนี้เธอก็ตั้งครรภ์อ่อนๆจึงทำให้เป็นลมล้มพับไป
“นี่คุณกำลังจะมาสมัครงานที่นี่ใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ”
“ผมเป็นเจ้าของร้านที่นี่ครับ”
อาเทอร์เห็นเอกสารของหญิงสาวหล่นตอนที่เธอเป็นลมจึงรู้ว่าเธอนั้นกรอกใบสมัครงานและกำลังมาสมัครงานที่นี่ที่เขาเป็นเจ้าของร้านเขาจะเลือกเลยถือโอกาสนี้คุยกับเธอด้วยตัวเองเสียเลยโดยไม่ผ่านผู้จัดการเพราะไหนๆเขาก็อยู่ที่นี่แล้ว
“เหรอคะ...คือว่าฉันไม่รูว่าที่นี่รับคนท้องเข้าทำงานด้วยหรือเปล่าน่ะค่ะ”
“คุณท้องอยู่เหรอครับ”
หลังจากที่คุยกันนานสองนานอาเทอร์เห็นว่าถ้าหญิงสาวยังท้องอ่อนๆอยู่ทำงานที่ร้านคงจะไม่ได้แน่แต่เขาก็อยากให้เธอได้งานเพราะรู้สึกสงสารที่เห็นเธอนั้นตัวคนเดียวจึงคิดว่าให้เธอไปทำงานที่บ้านของเขาคอยดูแลน้องสาวของเขาคงจะดูเหมาะสมและสบายกว่า
“ออมดูแลคนป่วยได้ค่ะขอบคุณนะคะที่รับออมเข้าทำงาน”
“เอาเป็นว่าอีกสองวันก็เดือนใหม่พอดีคุณก็มาเริ่มงานต้นเดือนหน้าเลยนะครับ”
“ค่ะ...ขอบคุณนะคะ”
อินทิรายิ้มกว้างออกมาด้วยความสบายใจที่ตอนนี้เธอจะมีงานทำแล้วอย่างน้อยก่อนจะคลอดลูกเธอก็สามารถทำงานได้อีกตั้งหลายเดือน
4 วันต่อมา
โรงพยาบาลXXX
วันนี้เป็นวันที่พรณภัทร์นั้นกลับบ้านได้แล้วหลังจากที่หมอทุกท่านลงความเห็นว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
“กลับบ้านกันฉันจะคอยดูแลแกเอง”
พีรยานั่งลงข้างเตียงเพื่อนสาวของเธอพร้อมโอบไหล่เอาไว้ตอนนี้เธเห็นว่าให้เพื่อนเธอไปอยู่ที่บ้านของเธอก่อนจะดีกว่าเพราะเธอเองจะได้คอยดูแลช่วงที่เพื่อนเธอยังไม่ถอดเฝือกด้วย
“แต่ว่า”
พรณภัทร์รู้ว่าถ้าหากเธออยู่บ้านของพัรยาเท่ากับว่าเธอก็จะต้องเจอกับภัคดนัยอยู่บ่อยๆเป็นแน่ตอนนี้จึงมีสีหน้าลำบากใจอยู่ไม่น้อย
“เอาเป็นว่าเมื่อแกหายดีแล้วค่อยคุยกันจะดีกว่าตอนนี้แกตัวคนเดียวไปอยู่ที่อื่นใครจะดูแลให้ฉันห่วงยัยออมแค่คนเดียวก็พออย่าให้มาพะวงเรื่องแกอีกเลย”
พีรยามองตาก็รู้ว่าเพื่อนเธอกำลังคิดอะไรอยู่จึงรีบพูดดักก่อนที่เพื่อนเธอนั้นจะพูดปฏิเสธคำที่เธอไม่อยากฟังออกมา
“อืม...ขอบใจนะ”
พรณภัทร์ตอบตกลงเพื่อนเธอไปอย่างจำใจเพราะไม่อยากจะให้เพื่อนเธอเป็นห่วงอะไรมากนักอีกอย่างตอนนี้เรื่องของอินทิราก็ยังวุ่นๆกันอยู่
“คุณอาเทอร์”
พีรยาหันไปยิ้มหน้าบานเมื่อรู้ว่าใครพึ่งเดินเข้ามา
“ผมรู้จากคุณพีคว่าคุณพลอยจะกลับบ้านเลยถือโอกาสมาเยี่ยมอีกรอบครับ”
อาเทอร์ส่งสายตาหวานเยิ้มให้คนที่เรียกชื่อเขาพร้อมเดินเข้ามาทักทายพรณภัทร์ที่กำลังเตรียมตัวจะออกจากโรงพยาบาล
“ขอบคุณค่ะ”
พีรยาเป็นคนโทรบอกอาเทอร์ว่าเพื่อนเธอกำลังจะออกจากโรงพยาบาลชายหนุ่มเลยรีบมาหาเผื่อว่าจะมีอะไรให้เขาช่วย
“รถพร้อมแล้วไปกันเถอะพลอย”
ภัคดนัยเดินเข้ามาพร้อมกับรถเข็นเพื่อมารับพรณภัทร์ลงไปที่รถเพื่อนที่จะกลับบ้าน
“เอ่อ...พลอยเดี๋ยวแกกลับกับพี่ภาคย์ก่อนนะพอดีฉันนัดกับคุณอาเทอร์ว่าจะไปทานข้าวกับคุยธุระกันนิดหน่อย”
พีรยาพึ่งนึกอะไรออกตอนที่อาเทอร์เข้ามาเมื่อครู่ตอนนี้เธออยากให้พี่ชายของเธอและเพื่อนสาวอยู่กันสองต่อสองเผื่ออยากจะมีเรื่องอะไรที่คุยเคลียใจกันเธอเลยไม่อยากอยู่ให้เสียโอกาสนั้นไป
“อ้าว!!”
พรณภัทร์ถึงกับทำหน้างงเพราะไม่เห็นเพื่อนเธอจะบอกก่อนเลยว่ามีธุระ
“ไปค่ะคุณอาเทอร์”
พีรยาไม่อยู่อธิบายอะไรต่อพร้อมดึงมืออาเทอร์ให้ตามเธอเดินออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็วส่วนสถานการณ์ด้านในจะเป็นอย่างไรเธอหวังว่าพี่ชายเธอจะจัดการได้เป็นอย่างดีก็แล้วกัน
“ไปกันเถอะพลอย”
“ม..ไม่ต้องอุ้มก็ได้ค่ะ”
“อย่าดื้อน่า”
ภัคดนัยเดินเข้ามาชิดหญิงสาวพร้อมสอดแขนอุ้มเธอด้วยท่าเจ้าสาวทำเอาคนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวปฏิเสธไม่ทันเพราะตอนนี้เธอได้นั่งอยู่บนรถเข็นเรียบร้อยแล้ว
“คริๆๆ..”
พีรยาแอบดูที่หน้าห้องอยู่ครู่หนึ่งหลังจากที่ออกจากห้องมาแล้วเมื่อเห็นว่าบรรยากาศด้านในน่าจะโอเคจึงสบายใจได้
“ไม่ทราบว่าคุณพีคมีธุระจะคุยอะไรกับผมครับ”
หลังจากที่ออกมาถึงหน้าโรงพยาบาลแล้วอาเทอร์ถามหญิงสาวถึงเรื่องที่เธอพูดเมื่ออยู่ในห้องเมื่อครู่
“เอ่อ..”
พีรยาเองก็ไม่ได้เตรียมตอบคำถามชายหนุ่มจึงอ้ำอึ้งอยู่เล็กน้อย
“ไม่ต้องอธิบายก็ได้ครับผมพอจะเข้าใจว่าอยากให้สองคนนั้นอยู่กันสองต่อสอง”
อาเทอร์เห็นอาการแบบนี้ก็พอจะเดาออกว่าทำไมหญิงสาวจึงรีบลากเขาออกมาแบบนั้น
“คุณอาเทอร์นี่ฉลาดสุดๆไปเลยค่ะ”พีรยายกนิ้วโป้งให้ชายหนุ่มที่เขานั้นดูจะเข้าใจอะไรง่ายๆในแบบที่เธอไม่ต้องอธิบายอะไรเลย“ไหนๆคุณก็บอกคุณพลอยว่าเราจะไปทานข้าวกันแล้วงั้นมื้อนี้ผมเลี้ยงคุณเองนะครับ”อาเทอร์เห็นว่าไหนๆก็ออกมาเพราเรื่องนี้แล้วเขาก็เลยถือโอกาสนี้ชวนหญิงสาวไปทานข้าวเลยก็แล้วกันเพราะนับว่าเป็นโอกาสที่ดีอีกครั้งที่เขาได้ใกล้ชิดเธอ“หืมม..มันจะดีนะคะ”เรื่องของฟรีพีรยาไม่หวั่นอยู่แล้วและยิ่งไปกับชายหนุ่มด้วยแล้วอาหารที่เธอได้ทานวันนี้คงจะอร่อยเป็นพิเศษ“ฮ่าๆๆ..ไปกันเลยครับ”เมื่อหญิงสาวตกลงชายหนุ่มก็พาหญิงสาวนั่งรถสปอร์ตคันหรูของเขาตรงมาที่ร้านของเขาทันทีเพราะอยากจะให้หญิงสาวได้ลองชิมเมนูโปรดของเขาในร้านด้วยและร้านอาหารของเขาก็เป็นร้านอาหารไทยที่เป็นของคุณยายเขามาก่อนจึงคิดว่าหญิงสาวน่าจะถูกปากร้านอาหารXXX“ร้านอาหารไทยร้านนี้เป็นร้านของผมเองครับเป็นมรดกมาจากคุณยาย”“นี่ร้านของคุณอาเทอร์เองเหรอคะ...แหมเป็นเจ้าของร้านอาหารดังก็ไม่บอก”“ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจเล็กๆของครอบครัวรองจากธุรกิจอื่นๆครับ”“อ๋อ..ค่ะแบบนี้คุณอาเทอร์ก็เหนื่อยแย่เลยสิคะ”“ผมมีน้องชายคนกลางอีกคนช่วยดูแลอยู่น่ะคร
“ครับผมพร้อมช่วยคุณพีคเสมอขอแค่คุณพีคขอมา”อาเทอร์เต็มใจช่วยพีรยาทุกเรื่องอยู่แล้วของเพียงแค่เธอเอ่ยปากบอกกับเขาเท่านั้นตอนนี้เขาได้รู้เรื่องราวของอินทิราก็ถึงกับอึ้งไปเหมือนกันและเขาก็พร้อมที่จะทำให้อินทิราสมหวังอีกด้วย“หืมม...พูดเหมือนจีบพีคเลยนะคะเนี่ยเขิน..ฮ่าๆๆ”พีรยาแอบแซวชายหนุ่มกลับแก้เขินถึงคำที่เธอพูดออกไปจงใจให้ชายหนุ่มดูเหมือนเธอพูดเล่นแต่ในใจของเธอมันคิดจริง“ครับผมจีบคุณพีคครับ”อาเทอร์ตอบหญิงสาวกลับหน้าตาเฉย“หา..เอ่อ.”พีรยาถึงกับไปไม่เป็นเมื่อเจออาเทอร์สวนกลับมาแบบนี้ตอนนี้หน้าเธอแดงเป็นลูกตำลึงจนอีกฝ่ายมองเห็นได้ชัดเจนอีกด้วยบ้านอาเทอร์“น้องแอลคะอาหารเย็นเรียบร้อยแล้วค่ะ”อินทิราเข้ามาทำงานที่นี่ได้สองวันแล้วเธอเข้ากันดีกับเด็กสาวอายุ17มากเอลิซ่าก็ชอบเธอมากๆด้วยที่รู้ใจไปเสียทุกอย่างผิดกับคนดูแลคนก่อนๆที่ชอบบังคับ“หอมจังเลยค่ะ..เย่!!วันนี้มีผัดปูของโปรดแอลอีกแล้ว”เอลิซ่าเห็นอินทิรายกจานปูผัดผงกะหรี่จานโตเข้ามาก็นั่งปรบมือดีใจที่ได้ทานของโปรดอีกแล้ววันนี้“ทานเยอะๆเลยนะคะ”อินทิราพยายามทำอาหารหลากหลายให้เอลิซ่าได้ทานเธอจะได้ประโยชน์ครบ5หมู่ตามที่อาเทอร์ได้สั่งเอา
“พึ่งกลับมาเหรอ”“ค่ะ..ทำไมพี่ภาคย์ทำหน้าซังกะตายอย่างนั้นล่ะคะ”“พีคไปดูพลอยหน่อยก็แล้วกันดูท่าจะไม่ยอมไปกับเราง่ายๆ”ภัคดนัยเห็นพีรยากลับมาก็ถือโอกาสคุยเรื่องที่เขาลำบากใจอยู่ตอนนี้พอดี“เรื่องนี้เดี๋ยวพีคจัดการเองค่ะ”พีรยาเห็นว่าเพื่อนเธอนั้นพูดโน้มน้าวไม่ยากเท่าไรเดี๋ยวเรื่องนี้เธอจะจัดการเอง“อืม..พี่เข้าห้องแล้วหละ”ภัคดนัยเดินเข้าห้องของเขาไปด้วยสีหน้าที่ห่อเหี่ยวเล็กน้อย“อ้าว...ทำไมรีบล่ะท่าทางจะไม่ง่ายอย่างที่คิดซะแล้วคู่นี้”พีรยาดูอาการพี่ชายเธอก็พอจะรู้ว่าเพื่อนเธอกับพี่ชายของเธอยังไม่คุยกันดีๆเป็นแน่เธอคิดว่ามันจะดีแล้วเสียอีกแบบนี้เธอต้องคิดทำอะไรสักอย่างแล้วบ้านอาเทอร์“อีกสองวันเราจะไปทะเลกันนะครับคุณออม”“ค่ะ”อาเทอร์หันไปคุยกับอินทิราที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามให้เธอได้เตรียมตัวก่อนที่จะไปทะเลในอีกสองวัน“เย่ๆๆ...แอลอยากไปทะเลที่สุดเลยค่ะพี่อาท”เอลิซ่าดีใจยิ้มแก้มแทบปริที่จะได้ไปเที่ยวข้างนอกเปิดหูเปิดตากับเค้าบ้างปกติเธออยู่แต่บ้านนานๆทีจะได้ไปเที่ยวเลยรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษไร่แก้วกัลยา“อีกไม่นานเราก็จะได้เจอกันแล้วนะออมพี่จะไม่ยอมปล่อยให้ออมหนีพี่ไปอีกเลยคอยดู”อ
ร้านอาหารXXX“ร้านอาหารที่นี่ตกแต่งสวยมากเลยนะคะ”“...”อินทิรารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เมื่อเธอพูดอะไรกับอาเทอร์เขาก็ดูจะมัวสนใจอยู่กับมือถือที่อยู่ในมือ“คุณอาเทอร์ยุ่งกับงานเหรอคะ”หญิงสาวตัดสินใจถามชายหนุ่มออกไปเพราะกลัวว่างทีเธออาจจะเผลอคุยกับเขาในเวลาที่เขากำลังยุ่งกับการทำงานหรืออะไรสักอย่างก็เป็นได้“อ๋อ..เอ่อ..”อาเทอร์ถึงกับชะงักกับคำถามของหญิงสาวใบหน้าของเขาดูร้อรรนเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าหญิงสาวจะจับสังเกตได้ว่าเขานั้นอยู่กับมือถือมากเกินไป“พี่อาทยุ่งอยู่กับการคุยกับสาวๆมากกว่าค่ะ”เอลิซ่าถึงกับต้องออกโรงแก้ต่างให้พี่ชายเธอแทนเธอไม่ได้โกหกเรื่องที่เขาคุยกับสาวๆแต่ไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไรเท่านั้นเองเธอส่งสายตาเชิงดุให้พี่ชายเธอเล็กน้อยเพราะสั่งเธอว่าห้ามมีพิรุตแต่ตัวเองทำให้อินทิราสังเกตเห็นความพิรุตนั้นเอง“หืม..อย่างนี้นี่เอง”อินทิราพยักหน้าเข้าใจพร้อมอมยิ้มเล็กน้อยเธอรู้สาเหตุแล้วว่าเวลาเธอคุยกับเขาชายหนุ่มถึงไม่ค่อยได้สนใจคำพูดของเธอ“คุณอิทไปรอตรงโน้นได้เลยค่ะมุมนั้นพีคนัดกับทางร้านเอาไว้แล้ว”“โอเคครับ”“สู้ๆนะคะ”พีรยาชี้ไปทางโซนหลังร้านที่ไม่มีคนอยู่ให้อิทธิกรไปรออยู่ที
“ช่วยผมด้วยครับคู่หมั้นผมเค้าทิ้งผมไปแล้วเพราะผมมองไม่เห็นเสียทีผมไม่รู้ว่าจะกลับจากที่นี่ยังไงช่วยผมด้วยนะครับ”อิทธิกรเหล่มองหญิงสาวที่ยังยืนหันหลังนิ่งงันอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเธอไม่เข้ามาช่วยเขาเสียทีจึงส่งเสียงพูดต่อยังไงเขาก็คิดว่าหญิงสาวคงจะไม่ใจดำเดินหนีเขาไปเสียหรอก“...อืมม..อึก...พี่อิท..ทำไมพวกเค้าใจร้ายกับพี่แบบนี้ล่ะคะ”อินทิราสะอื้นตัวสั่นเมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มร้องเรียกให้ช่วยอีกคราพร้อมรีบวิ่งไปพยุงตัวชายหนุ่มขึ้นและกอดเขาเอาไว้อย่างแนบแน่นพร้อมสะอื้นตัวโยน“........”อิทธิกรกอดตอบหญิงสาวที่โผเข้ามากอดเขาไว้อย่างแนบแน่นเช่นกันแต่เขารู้ว่าตอนนี้หญิงสาวคงยังไม่รู้ตัวเป็นแน่ว่ามีเขากอดเธอเอาไว้อยู่เพราะมัวแต่สะอื้นร่ำให้อยู่แบบนั้นแปลกที่ครั้งนี้เขาได้เห็นน้ำตาของหญิงสาวกลับยิ้มออกเพราะรู้ว่าเธอนั้นห่วงเขาอย่างใจจริง“รู้ว่าพวกนั้นใจร้ายแล้วทำไมปล่อยให้คนแบบนั้นมาอยู่กับพี่ได้ล่ะ”เมื่อปล่อยให้หญิงสาวได้กอดเขาสักพักเมื่อเธอเริ่มนิ่งลงเขาจึงเอ่ยปากพูดกับร่างบางถึงเรื่องที่เธอหนีเขาไป“......เอ่อ......”อินทิราผละจากการกอดชายหนุ่มแล้วหันมามองหน้าคนตรงหน้าอย่างสงสัย“
“ทำไมใจร้ายกับพี่แบบนี้ล่ะออม”อิทธิกรเริ่มคิ้วขมวดจ้องอินทิราตาเขม็ง“.....”ตอนนี้ทุกคนต่างมองหน้ากันล่อกแล่กที่ดูว่าเรื่องนี้จะทำให้อิทธิกรมีสีหน้าที่บึ้งตึงเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด“ไม่ต้องกลัวพี่จะโกรธหรอกพี่ไม่โกรธตอนนี้พี่ดีใจที่สุดเลยยย”อิทธิกรคลายสีหน้าที่เคร่งเครียดออกแล้วฉีกยิ้มออกมารวบกอดหญิงสาวอย่างแนบแน่นอีกครั้งคราแรกเขานั้นยอมรับว่ามีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างแต่ก็พยายามสลัดมันออกไปให้ได้เพราะตอนนี้เขาเจอเธอแล้วอยากจะใช้ทุกเวลาทุกนาทีที่อยู่กับหญิงสาวให้มีความสุขที่สุด“เฮ้อ..ตกอกตกใจหมด”พีรยาถึงกับถอนหายใจทุกคนก็เช่นกันนึกว่าจะมีเหตุพ่อแง่แม่งอนกันเสียอีกแล้ว“คุณอาเทอร์ครับผมคงจะไม่ให้ออมไปทำงานกับคุณแล้วนะครับ”อิทธิกรคงไม่ให้หญิงสาวต้องทำงานให้ลำบากอีกต่อไปแล้วอีกอย่างเธอก็ท้องอ่อนๆอยู่ด้วยต่อไปนี้เขาจะดูแลเธอเอง“ผมเข้าใจครับ”อาเทอร์รู้แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ยังไงเขาก็ยินดีอยู่แล้วที่เห็นอินทิรามีความสุข“แอลก็ทำใจไว้บ้างแล้วค่ะยังไงเดี๋ยวแอลจะให้พี่อาทพาแอลไปหาพี่ออมบ่อยๆนะคะ”เอลิซ่าทำใจไว้แล้วถึงเธอจะเจอกับอินทิราได้ไม่นานแต่ด้วยความที่หญิงสาวเป็นคนอบอุ่นจึง
“ทุกคน”อินทิราถึงกับน้ำตาคลอที่ทุกคนเซอร์ไพรซ์เธอแบบนี้เธอรู้ว่าอิทธิกรคงจะรู้เห็นด้วยไม่อย่างนั้นคงจะไม่รีบกลับและทำท่าทีแปลกๆจนเธอต้องสงสัย“นี่ครับแหวน”อิทธิกรเห็นทุกคนเปิดตัวออกมากันหมดแล้วเขาก็เดินถือกล่องแหวนเพชรที่แม่ของเขาให้เอาไว้เพื่อให้คนที่เขารักมาคุกเข่าต่อหน้าหญิงสาว“พี่อิท”อินทิราถึงกับนั่งตัวเกร็งที่ชายหนุ่มทำอะไรโรแมนติกแบบนี้“จดทะเบียนแล้วจะไม่มีแหวนได้ยังไง” อิทธิกรดึงมือเล็กของหญิงสาวมาพร้อมสวมแหวนไปที่นิ้วนางข้างซ้ายขนาดของแหวนของแม่เขาเข้ากับนิ้วมือของเธอได้อย่างดี“ขอบคุณนะคะ”อินทิราโผเข้ากอดชายหนุ่มอย่างสุขสุดหัวใจผู้ชายคนนี้คนที่กอดเธออยู่นั้นเป็นคนที่มอบคำว่าครอบครัวที่สมบูรณ์และชีวิตใหม่ให้เธออย่างแท้จริง“งุ้ยยเขินนน”พีรยายืนดูสองคนนั้นกอดกันไปก็หน้าแดงไปเพรารู้สึกเขินกับการกระทำของทั้งคู่ด้วยความที่ยินดีกับเพื่อนเธอด้วยทั้งเธอและพรณภัทร์ต่างก็น้ำตาคลอเล็กๆด้วยความสุขหัวใจ“ทานกันเต็มที่เลยนะคะในครัวมีอาหารอีกเพียบค่ะ”ตอนนี้ทุกคนรวมตัวอยู่ที่โต๊ะอาหารเพราะหลังจากผ่านช่วงเวลาที่ค่อนข้างจะซึ้งใจกันไปแล้วตอนนี้ก็เป็นเวลาพร้อมหน้าพร้อมตาปาร์ตี้ทานอาหาร
“อ..เอ่อ..พี่อาท”พีรยาเห็นว่าคำนี้มีแต่เอลิซ่าน้องสาวของเขาเท่านั้นที่เรียกซึ่งถ้าชายหนุ่มให้เธอเรียกเขาแบบนี้ก็รู้สึกแปลกๆเล็กน้อยแต่มันก็ทำให้เธอเคอะเขินกว่าจะพูดคำนั้นออกมาได้“ยังไม่นอนอีกเหรอครับเห็นคุณอิทส่งข้อความบอกว่าพรุ่งนี้เค้าจะพาพวกเราไปเที่ยวที่แปลงดอกคอสมอสที่ไร่อีกฝั่งแต่เช้า”“พีคได้รับข้อความแล้วค่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้พีคจะแต่งตัวสวยๆไปถ่ายรูป”พีรยาเองก็ได้รับข้อความจากอิทธิกรเมื่อสักพักเหมือนกันตอนนี้เธอเองก็ได้จัดเตรียมชุดสำหรับถ่ายรูปกับเหล่าดอกไม้เอาไว้แล้ว“พรุ่งนี้ผมอาสาเป็นตากล้องให้เองครับแต่ว่าคุณพีคไม่ต้องแต่งตัวอะไรมากก็สวยอยู่แล้วครับ”อาเทอร์อดที่จะพูดหยอดคำหวานกับหญิงสาวไม่ได้อย่างเธอในสายตาของเขาไม่ต้องแต่งอะไรก็สวยอยู่แล้ว“ปากหวานจังคนบ้าเอ้ย..”พีรยากลั้นยิ้มจนหน้าแดงพร้อมพูดกับตัวเองเบาๆ“อะไรนะครับ”อาเทอร์ได้เอียงหูฟังหญิงสาวแต่เขาก็ได้ยินที่เธอพูดไม่ค่อยถนัดเท่าไร“เปล่าค่ะ..คืนนี้พระจันทร์สวยดีนะคะ”พีรยารีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันทีที่ชายหนุ่มทำหน้าสงสัยเธอจะมาเขินเขาจนเสียอาการตรงนี้ไม่ได้“คนตรงหน้าผมสวยกว่า”“อีกแล้วนะคะ...พีคไปนอนแล้วฝันดีค่ะ”ถึงต