“ใกล้จะถึงแล้วเราไปกั้นประตูเงินประตูทองกันเถอะ”
เมื่อขบวนใกล้ถึงพีรยาก็ดึงมือพรณภัทร์ออกไปด้านนอกทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาวกั้นประตูเงินประตูทองกับคนอื่นๆที่รออยู่ที่นี่
“ออม”
“พี่อิท”
และแล้วก็ได้เวลาที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะสวมแหวนแต่งงานและทำพิธีลดน้ำสังข์เสียทีทั้งสองจ้องหน้ากันอยู่เรื่อยๆต่างยิ้มให้กำลังใจกันและกันและปลื้มปริ่มอยู่ในใจอย่างมากที่พวกเขานั้นได้แต่งงานกันอย่างเป็นพิธีเสียที
ช่วงเย็นของวัน
อินทิราอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวกระโปรงสุ่มที่ดูเหมือนตุ๊กตามากๆหลังจากที่ช่างแต่งตัวให้เธอเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็หาเวลาเดินมาดูเพื่อนเธอเสียหน่อยว่าเป็นยังไงกันบ้างเพราะตั้งแต่เช้าก็ไม่ค่อยจะได้คุยกันเลย
“เหนื่อยไหมแก”
พีรยาเห็นอินทิราเดินเข้ามาในห้องก็เอ่ยถามคนเป็นเจ้าสาวว่าวันนี้รู้สึกเหนื่อยบ้างหรือเปล่ากำลังท้องกำลังไส้อยู่ด้วย
“ไม่เลยพวกแกนั่นแหละที่ฉันต้องถามว่าเหนื่อยไหม”
อินทิราคิดว่าคำถามนี้ควรจะเป็นเธอที่ถามมากกว่าเพราะว่าเธอนั้นแค่เข้าพิธีเฉยๆส่วนงานอย่างอื่นเพื่อนๆเธจัดแจงเองหมด
“ไม่เลยพวกฉันเต็มใจทำให้แก”
พรณภัทร์ยิ้มกว้างพร้อมหันไปตอบอินทิราพวกเธอไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิดกับอะไรที่จะทำให้เพื่อนเธอมีความสุข
“ขอบใจนะ”
อินทิราเข้าไปสวมกอดทั้งสองรู้สึกขอบคุณจากใจจริงถึงเธอจะมีเพื่อนไม่เยอะแต่ทั้งสองคนที่ดีต่อเธอขนาดนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอ
“มาทำซึ้งอะไรตอนนี้เล่าเดี๋ยวฉันร้องให้ขึ้นมาหน้าฉันก็เลอะหมด”
“ฮ่าๆๆ”
พีรยาที่มีแอบน้ำตาคลอเล็กๆต้องพูดติดตลกมาเพื่อนแก้เขินเล็กน้อยทำเอาทั้งสามหัวเราะกันออกมาอย่างอารมณ์ดี
“เจ้าสาวเสร็จหรือยังครับเจ้าบ่าวรออยู่หน้าห้องแล้วนะคนก็เริ่มทยอยเข้ามางานเลี้ยงแล้วด้วย”
ภัคดนัยเดินมาตามสามสาวถึงในห้องเพราะเห็นว่าไม่ออกกันไปที่หน้างานเสียทีเพราตอนนี้แขกก็เริ่มเข้ามาในงานแล้ว
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
อินทิราได้ยินดังนั้นจึงรีบเดินออกไปข้างนอกพร้อมกับพีรยาทันทีเธอเองก็มัวแต่คุยไม่ได้ดูเวลา
“วันนี้พลอยสวยมากเลยนะรู้ไหม”
เมื่อออกมาที่หน้างานกันทุกคนแล้วตอนนี้ภัคดนัยก็เขยิบมายืนใกล้พรณภัทร์เพื่อหาจังหวะคุยกับเธอเขาอยากจะคุยกับเธอตั้งแต่เช้าแล้วแต่ก็เห็นว่าเธอยุ่งๆอยู่จึงไม่อยากกวน
“ค่ะ”
พรณภัทร์ถึงกับอมยิ้มหน้าแดงพูดอะไรไม่ออกที่จู่ๆชายหนุ่มก็มาชมเธอต่อหน้าคนอื่นเสียอย่างนั้น
“อ้าวๆยืนจีบกันอีกแล้วแต่งต่อคู่นี้เลยไหมล่ะคะ”
พีรยาเบ้หน้าให้พี่ชายเธอเล็กน้อยที่เล่นพูดจาหวานกันไม่เกรงใจคนอื่นแถวนี้
หลังจากที่จบงานกินเลี้ยงกันตอนเย็นเสร็จสิ้นก็ถึงเวลาที่ทั้งสองจะเข้าหอทั้งสองจึงมาที่เรือนเล็กห้องหอของเจ้าบ่าวเจ้าสาวถูกโรยไปด้วยกลีบกุหลาบด้วยฝีมือของพีรยาและพรณภัทร์ที่มาจัดเตรียมเมื่อกลางวันเพื่อความสุขของเพื่อนเธอในวันแต่งงาน
“ตั้งแต่ตาอิทมีหนูออมเข้ามาในชีวิตก็เป็นคนใจเย็นลงมากยังไงแม่ก็ขออวยพรให้ลูกทั้งสองใช้ชีวิตครอบครัวอย่างมีความสุขนะ”
“ขอบคุณครับคุณแม่/ขอบคุณค่ะคุณแม่”
อรุณาดีใจที่วันนี้ได้เห็นลูกชายเธอมีครอบครัวที่สมบูรณ์เสียทีเธอจึงหมดห่วงเรื่องนี้ไปอีกหนึ่งเรื่องหลังจากนี้เธอเองก็ไม่ต้องมาคอยเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตลูกชายของเธอมากนักเพราะรู้ว่ามีคนดูแลดีอยู่แล้วที่ห่วงตอนนี้ก็เห็นจะมีแต่ลูกสาวคนเล็กที่ไม่ยอมคบหากับใครเสียทีเพราะมัวห่วงแต่งานนั่นเอง
ฟอดดดด
“พี่อิทคะ”
“ขอพี่กอดหอมให้ชื่นใจหน่อยไม่ได้หรือไงไม่ได้นอนกอดตั้งสองสามวันแล้ว”
หลังจากที่ทุกคนออกไปจากก้องกันหมดแล้วอิทธิกรก็กอดรัดคนเป็นภรรยาเสียแน่นเพราะโหยหากอดนี้มาสองสามคืนแล้วรู้แล้วว่าห่างกับหญิงสาวมันทรมานเพียงใดต่อไปนี้เขาจะไม่ปล่อยให้เธอห่างหายไปจากเขาเด็ดขาดเขาจะทำตัวให้ติดกับเธอไปแทบทุกที่เลยคอยดู
3 ปีต่อมา
กระบี่
อินทิราและอิทธิกรพาครอบครัวมาพักผ่อนที่ทะเลในวันหยุดตอนนี้ลูกแฝดชายของพวกเขาก็ได้สองขวบกว่าแล้วด้วย
ตอนนี้อิทธิกรปล่อยให้ลูกทั้งสองของเขานั่งเล่นทรายกันอยู่ที่ริมชายหาดโดยที่มีเขาและอินทิราคอยเฝ้าดูอยู่ไม่ไกลสายตามากนัก
“คุณพ่อคร้าบพี่โอบไม่ให้เอื้อเล่น”
เอื้อแฝดคนน้องจู่ๆก็วิ่งมาหาคนเป็นพ่อฟ้องว่าผู้เป็นพี่ชายไม่ให้เล่นด้วย
“ทำไมไม่ให้น้องเล่นล่ะครับโอบ”
อิทธิกรจึงเดินไปดูจุดที่ลูกๆของเขาทั้งสองนั่งเล่นกนอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นพร้อมถามลูกชายแฝดผู้พี่ของเขา
“เอื้อเล่นพัง”
โอบเงยหน้ามาตอบคนเป็นพ่ออย่างหน้ามุ่ยเล็กน้อยเพราะยังขุ่นเคืองที่น้องชายนั้นทำรถของตัวเองพัง
“เอื้อเล่นพังจริงๆไหมครับ”
อิทธิกรเห็นแล้วว่ารถมันของเล่นมันแตกเล็กน้อยเขายังไม่ได้ด่วนตัดสินอะไรทั้งนั้นตอนนี้เขาจึงหันไปถามลูกชายแฝดผุ้น้องของเขาก่อนว่าทำพังจริงหรือไม่
“ครับคุณพ่อแต่ไม่ได้ตั้งใจ”
เด็กชายยอมรับว่าทำพังด้วยสีหน้าเศร้าเล็กน้อยแต่ตัวเองก็ไม่ได้ตั้งใจเหตุผลเอื้อนั้นค่อนข้างเป็นเด็กที่มือหนักนิดหน่อย
“ทีหลังเอื้อเล่นของเล่นให้เบามือหน่อยนะครับจะได้มีเก็บไว้เล่นครั้งหน้าถ้าหากเราไปเล่นของเช่นคนอื่นแล้วทำของเขาพังก็ไม่มีใครอยากให้เล่นจริงไหมครับ”
“ครับคุณพ่อ”
“โอบครับน้องบอกว่าน้องไม่ได้ตั้งใจจะทำของพังโอบก็ต้องห้ามโกรธน้องแล้วต้องไม่ห้ามให้น้องเล่นด้วยอีกรู้ไหมเรามีกันแค่สองคนถ้าโอบไม่เล่นกับน้องแล้วน้องจะเล่นกับใครจริงไหมครับ”
“ครับคุณพ่อ”
อิทธิกรพอจะเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นเขารู้ว่าเด็กๆเล่นกันมันต้องมีปัญหาอยู่แล้วขนาดเขากับน้องสาวตอนเด็กๆยังทะเลาะกันบ่อยเขาแค่ต้องสอนให้พี่กับน้องต้องรู้จักปรับนิสัยให้เข้ากันได้เท่านั้นเอง
“เด็กๆเป็นอะไรกันอีกคะ”
อินทิราเห็นอิทธิกรเดินมาที่เดิมและเด็กๆก็เล่นด้วยกันตามปกติแล้วเลยอยากรู้ว่าลูกๆของเธอนั้นเป็นอะไรกันอีก
“งอนกันตามประสาเด็กนั่นแหละครับแบบนี้ต้องมีอีกคนจะได้ช่วยห้ามหรือจะแฝดหญิงดี”
“พี่อิทก็”
จุ๊บบบ
อิทธิกรเข้าไปนั่งใกล้ๆหญิงสาวโอบไหล่เอาไว้พร้อมพูดกระซิบข้างหูหยอกล้อหญิงสาวเล่นตามประสาพร้อมจุ๊บที่แก้มหญิงสาวเบาๆแล้วหันไปดูลูกๆของพวกเขาต่อ
“เด็กๆก็แบบนี้แหละเราก็ต้องคอยขัดเกลาพวกเค้ากันไปขนาดเราโตๆกันแล้วยังไม่พ้นทะเลาะกันเลยเหมือนตอนที่เรารู้จักกันแรกๆ”
อิทธิกรพลางนึกถึงเรื่องเก่าๆที่เขาได้รู้จักกับหญิงสาวในคราแรกก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กๆที่ชอบทะเลาะกันตอนนั้นเขาหาเรื่องเธอหนักน่าดูยิ่งคิดก็ยิ่งอยากย้อนกลับไปเขกหัวตัวเอง
“หืมตอนนั้นพี่อิทเป็นคนหาเรื่องออมมากกว่า”
อินทิราตอกกลับคนเป็นสามีที่พูดว่าเธอกับเขาชอบทะเลาะกันตอนนั้นเธอพยายามเลี่ยงสุดฤทธิ์แต่เป็นสามีของเธอมากกว่าที่ตอนนั้นหัวร้อนผิดมนุษย์มะนา
“แต่ตอนนี้พี่ไม่คิดจะทำแบบนั้นเลยสักนิด”
อิทธิกรหันไปส่งสายตาหวานให้หญิงสาวบอกกับเธออย่างจริงใจว่าเขาไม่คิดที่จะให้มีเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีกแล้ว
“รักษาคำพูดด้วยนะคะ”
อินทิรายกมือขึ้นไปบีบจมูกคนเป็นสามีของเธอเล่นพร้อมกับอมยิ้มและบอกให้ชายหนุ่มรักษาสัญญาแต่เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าสามีของเธอคงจะไม่อารมณ์ร้อนอย่างเมื่อก่อนอีกแน่เธอเชื่อใจเขา
“หวานกันจริงจริ๊ง..คู่นี้”
พีรยาตะโกนแซวสองสามีภรรยาที่หวานกันไม่เกรงใจใครจากด้านหลัง
“ฮ่าๆๆ”
ภัคดนัยพรณภัทร์พีรยาอาเทอร์และเอลิซ่าต่างมองสองคนนี้หวานกันพักใหญ่จากด้านหลังแล้วพอเห็นสีหน้าของคนที่โดนแซวก็หัวเราะออกมากันอย่างอารมณ์ดีทำเอาอินทิราและอิทธิกรเขินจนทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียวที่ถูกมองอยู่ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
จบบริบูรณ์
เขาใหญ่ไร่แก้วกัลยา08.00 น.เพล้งง“ออกไป”เป็นอีกวันที่เสียงอาละวาดดังขึ้นมาในบ้านหลังเล็กท้ายไร่อิทธิกรไม่ค่อยจะยอมทานอะไรอีกเช่นเคยหลังจากที่เขาได้รับอุบัติเหตุจนเสียการมองเห็นและย้ายจากคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กรุงเทพมาขลุกอยู่ที่ไร่ของคนเป็นแม่นี่ก็เป็นเวลาสามสี่เดือนแล้วที่คนรักของเขาหายหน้าหายตาไม่กลับมาดูดำดูดีเขาเลยสักนิด“เป็นแบบนี้แทบทุกวันเลยหรือเปล่าเอื้อง”อรุณาถามแม่บ้านที่เธอให้ดูแลอยู่ที่นี่ด้วยสีหน้าอ่อนใจเธอคิดว่าเวลาผ่านไปร่วมสามเดือนจะทำให้ลูกชายคนโตของเธออาการดีขึ้นบ้างเสียอีก“ค่ะคุณณาเอื้องก็เห็นเป็นแบบนี้แทบทุกวันจนเด็กที่เรือนใหญ่ต่างก็หวาดคุณอิทกันหมดแล้วล่ะค่ะ”ช่อเอื้องที่รู้จักอิทธิกรเป็นอย่างดีเพราะเห็นมาตั้งแต่เด็กๆเธอรู้ว่าชายหนุ่มค่อนข้างที่จะโมโหร้ายแต่ก็มีเหตุผลอยู่พอตัวแต่ครั้งนี้ดูท่าชายหนุ่มจะอาการหนักเอาการเพราะหลังจากป่วยมานี้ก็ไม่เคยฟังอะไรใครทั้งนั้นแถมคนอื่นที่คอยดูแลยังเข้าหน้าไม่ค่อยจะติดอีกด้วย“เอมว่าป่วยกายคงไม่เท่าไรหรอกค่ะคุณแม่คงจะป่วยใจร่วมด้วยมากกว่า”ไอรดามองหน้าคนเป็นแม่เธอพอจะรู้อาการของพี่ชายเธออยู่บ้างว่าไอ้ที่ทำตัวค่อนข้างงี่เง่าอ
เย็นของวันเรือนเล็กท้ายไร่ถึงตาอิทธิกรยังมองไม่เห็นแต่เขาก็สามารถที่จะหาน้ำเมามาเพื่อดับความทุกข์ในใจของเขาได้ตอนนี้ในใจของเขามันร้อนลุ่มดั่งไฟสุมเขาเกลียดอุบัติเหตุวันนั้นที่ทำให้เขาต้องกลายเป็นคนตาบอดแบบนี้หนำซ้ำหญิงคนรักยังไม่คิดจะเป็นห่วงมาดูดำดูดีเขาอีกแกร๊กกก“กิ่ง!!”อิทธิพลได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็ดีใจขึ้นมาแวบหนึ่งเพราะคิดว่าเป็นหญิงคนรักที่เขาคอยเฝ้ารอมาหาเขาแล้ว“เอมกับคุณแม่เองค่ะพี่อิท”ไอรดาถึงกับส่ายหัวให้กับพี่ชายของเธอที่ไม่รู้จะละเมอเพ้อพกอะไรถึงผู้หญิงคนนั้นนักหนาตอนนี้เธอคันปากอยากจะบอกความจริงแย่แล้วว่าวีรกรรมของกรกนกมันมีอะไรบ้าง“นี่ดื่มหนักขนาดนี้ไม่คิดจะเป็นห่วงสุขภาพของตัวเองบ้างหรือไงตาอิท”อรุณาไม่อยากเห็นลูกชายเธอเป็นแบบนี้นานๆเลยใบหน้าที่เคยดูหล่อเหลากลับดูเหี่ยวเฉาอิดโรยผอมขอบตาดำคล้ำผมเผ้าหนวดเคราเฟิ้มดูไม่เป็นผู้เป็นคนแถมยังดื่มแต่ของมึนเมาอีกต่างหาก“กิ่งเธอติดต่อมาบ้างหรือเปล่าครับคุณแม่”อิทธิกรอยากจะรู้ว่าคนรักของเขานั้นได้ติดต่อกับครอบครัวของเขาบ้างหรือเปล่าตอนนี้เขาหวังว่าจะได้คำตอบที่ทำให้เขาได้ใจชื้นขึ้นมาบ้างจากปากของคนที่เป็นแม่ของเขา“เอ่
“ถ้าพี่เป็นออมอย่าหวังว่าพี่จะทน”ภัคดนัยถึงกับนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความเซ็งพร้อมนึกถึงชีวิตของอินทิราแล้วเขาก็เหนื่อยใจแทนบ้านปัทมกร“มัวไปถเลถไหลที่ไหนจนต้องให้ฉันโทรตามล่ะ”อรดียืนรออินทิราอยู่ที่หน้าบ้านเพราะในใจรู้ดีว่าวันนี้เป็นวันที่หญิงสาวเงินเดือนออกเมื่อหญิงสาวเข้ามาในบ้านได้เธอก็ส่งเสียงพูดจาจีบปากจีบคออย่างไม่พอใจและมีสีหน้าโมโหเล็กน้อย“พอดีออมไปงานวันเกิดพี่ภาคย์มาน่ะค่ะ...นี่เงินเดือนออมค่ะคุณแม่”อินทิรารีบเข้ามาบอกคนเป็นแม่ใหญ่ของเธออย่างรวดเร็วว่าที่เธอกลับช้าเธอไปที่ไหนมาพร้อมทั้งควักเงินเดือนที่เกือบทั้งหมดที่เป็นเงินเดือนของเธอยื่นให้หญิงตรงหน้าอย่างเต็มใจเงินที่เหลือของเธอก็เก็บไว้แค่พอมีกินและค่ารถไปทำงานก็เท่านั้น“อืม..รู้หน้าที่แบบนี้ก็ดีนี่ลาออกแล้วใช่ไหมวันมะรืนนี้ทางนั้นเค้าจะมารับแกไปแล้วนะเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”อรดีรีบรับเงินจากอินทิราด้วยสีหน้าพอใจพร้อมเดินกลับเข้าไปในบ้านทันทีแต่ก็ยังมิวายย้ำสิ่งที่หญิงสาวจะต้องทำในอีกไม่กี่วันนี้“ค่ะคุณแม่”ทุกๆเดือนเวลาเงินเดือนออกอินทิราก็จะนำเงินที่หักจากค่ากินค่ารถของเธอทั้งหมดให้กับอรดีเพราะรู้ว่าสถานะทางบ้านของเ
“อันว่าจะไปทัวร์ยุโรปกับธันเค้าซะหน่อยน่ะค่ะไหนๆเราก็ได้เงินจากคนบ้านนั้นมาแล้วนี่คะ”“นี่ไม่คิดจะอยู่บ้านอยู่ช่องบ้างเลยหรือไง”“ก็บ้านมันน่าเบื่อนี่คะอันไปแล้วนะคะคุณแม่”ตั้งแต่อันธิกาเรียนจบก็เอาแต่ผลาญเงินที่บ้านท่าเดียวงานก็ไม่เคยช่วยคนเป็นแม่แต่อรดีก็ไม่ได้ว่าอะไรลูกสาวเธอเพราะเธอเลี้ยงตามใจมาตั้งแต่เด็กๆครั้งนี้เมื่ออันธิการู้ว่าได้เงินก้อนใหญ่มาก็หาเรื่องเที่ยวกับแฟนหนุ่มอีกเช่นเคยไร่แก้วกัลยา“เอ่อ...คุณวิทคะอย่าหาว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะคะคือออมอยากจะรู้น่ะค่ะว่าเจ้านายของคุณวิทเค้านิสัยเป็นยังไง”“อืมม...คุณอิทก็เป็นคนค่อนข้างตรงไปตรงมานะครับแต่ก็จะแอบขี้หงุดหงิดบ้างเล็กน้อยแต่คุณออมไม่ต้องกลัวไปก่อนนะครับคุณอิทก็ไม่ใช่คนที่โหดร้ายอะไร”“อืมม...ค่ะ”ในระหว่างที่รถตู้คันหรูแล่นเข้ามาในไร่ผ่านป้ายไร่แก้วกัลยาเข้ามาตอนนี้ใจของอินทิราเต้นแรงผิดปกติเพรารู้สึกตื่นเต้นที่ใกล้จะถึงที่หมายแล้วด้วยความที่อยากรู้นิสัยของคนที่เธอจะมาแต่งงานด้วยและดูแลเขาในช่วงที่ชายหนุ่มนั้นยังมองไม่เห็นเธอเองก็อยากจะรู้นิสัยของชายหนุ่มคร่าวๆก่อนเพื่อที่จะรับมือถูกเธอรู้มาว่าวิทวัสเป็นคนสนิทของอิทธ
“อย่าพึ่งชะล่าใจไปออมรอเจอของจริงก่อน”ไอรดาหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับอินทิราเพราะเห็นแม่สาวเจ้ามั่นใจนักหนาว่าจะรับมือได้เธอเองไม่อยากจะคิดว่าถ้าหากหญิงสาวได้รู้ฤทธิ์พี่ชายของเธอจะยังพูดคำนี้อยู่หรือเปล่า“ยัยเอม”อรุณาจำต้องส่งเสียงต่ำดุคนเป็นลูกสาวที่กำลังจะทำให้ไก่ตื่นแกร๊ก“หืมมมม”อรุณาเดินเข้ามาเปิดประตูห้องลูกชายของเธอกลิ่นแอลกอฮอลล์ที่คละคลุ้งอยู่ในห้องทำเอาอินทิราต้องยกมือขึ้นมาป้องจมูกเอาไว้หญิงสาวมองเข้าไปด้านในห้องมีผู้ชายค่อนข้างจะตัวสูงใหญ่มัดกล้ามที่แทบจะโตกว่าตัวเธอหากเหวี่ยงมาฟาดที่ตัวเธอก็คงจะหักเป็นสองท่อนแล้วผมเผ้าหนวดเครารุงรังดูไม่เป็นผู้เป็นคนแถมในมือยังถือแต่ขวดน้ำเมาอีกต่างหากนี่หรือคือคนที่เธอต้องดูแลงานนี้ท่าทางจะหนักสำหรับเธอเสียแล้วหญิงสาวคิดในใจ“ตาอิททำไมดื่มแต่ของแบบนี้กันแล้วข้าวนี่ก็ยังไม่ได้แตะเลยแม้แต่นิดทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่อีกนะ”อรุณานึกว่าลูกชายของเธอจะอาการดีขึ้นเสียอีกที่ไหนได้เหมือนจะหนักขึ้นทุกวันๆจนเธอเริ่มใจเสียว่าลูกชายคนเดิมของเธอจะกลับมาปกติเมื่อไร“สงสัยอยากจะตายก่อนวัยอันควร”ไอรดาเองก็ไม่ชอบที่จะเห็นพี่ชายของเธอเป็นเช่นนี้เหมือนกันแ
ฉ่าาาาาาาา“ฮัดชิ่ววว”หญิงสาวหยิบหมูกับกระเพราและพริกสดออกจากตู้มาหั่นล้างทำความสะอาดแล้วแกะกระเทียมที่ห้อยอยู่ด้านนอกมาปอกเปลือกและสับอย่างชำนาญตอนนี้ของทุกอย่างก็ได้ลงกระทะไปพร้อมกันแล้วหญิงสาวหยิบเครื่องปรุงรสใส่ตามใจที่เธอชอบตอนนี้อาหารในกระทะส่งกลิ่นฉุนเล็กน้อยจนทำให้หญิงสาวจามไม่นานกระเพราหมูสุดน่าทานจานนี้ก็เสร็จสิ้นแกร๊ก“ทานข้าวเย็นค่ะคุณอิท”อินทิราเดินเปิดประตูห้องของชายหนุ่มเข้ามาเธอเห็นว่าเขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมพร้อมเอาถาดอาหารไปวางตรงหน้าคิดว่าถ้าหากชายหนุ่มได้กลิ่นอาหารที่หอมขนาดนี้คงจะอยากทานข้าวขึ้นมาบ้าง“นี่เธอยังไม่กลับไปอีกเหรอ”อิทธิกรคิดว่าหญิงสาวที่เขาตวาดใส่เมื่อครู่จะกลับไปแล้วเสียอีก“ไม่ค่ะออมจะต้องอยู่ดูแลคุณ”อินทิรายังยืนยันคำพูดเดิมของเธอว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่เพื่อดูแลชายหนุ่มและเธอก็จะไม่ถอดใจกลับไปง่ายๆแน่เพราเธอก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน“เธอนี่ท่าทางจะตื๊อไม่เลิกนะ...กลัวแม่ฉันจะเอาเงินคืนหรือไง”อิทธิกรสบถออกมาอย่างหัวเสียเขาคิดว่าที่หญิงสาวไม่ยอมถอดใจง่ายๆคงจะเป็นเพราเงินที่สูงหลายสิบล้านที่แม่ของเขาจ่ายเพื่อให้ได้ตัวของเธอมา“เงิน...เงินอะไรคะ”อิน
“ออมเองค่ะ...คุณอิทนอนไปเลยค่ะเดี๋ยวออมขอเก็บห้องให้คุณอิทก่อน...อ้อแล้วเมื่อวานคุณอิทก็ไม่ได้ทานข้าวนี่คะวันนี้ยังไงคุณอิทก็ต้องทานนะคะ”อินทิราตั้งหน้าตั้งตารวบรวมขวดน้ำเมาของชายหนุ่มไปทิ้งให้หมดนี่ก็ใกล้จะเสร็จแล้วแต่เขาดันตื่นขึ้นมาก่อนเธอว่าเธอพยายามเบามือที่สุดแล้วนะ“เธอนี่มัน!!...แล้วต้องเก็บอะไรนักหนา”เขาไม่เข้าใจว่าหญิงสาวยังจะบอกให้เขาหลับลงได้อย่างไรทั้งที่เธอมาก่อกวนส่งเสียงรบกวนเขาอยู่แบบนี้“ก็พวกขวดเครื่องดื่มพวกนี้ไงคะออมเอาไปทิ้งเกือบจะหมดแล้วนะคะต่อไปนี้ออมจะไม่ให้คุณอิทดื่มของพวกนี้แล้วค่ะเมื่อเช้าออมให้แม่บ้านเอาน้ำผลไม้มาไว้ในบ้านแทนถ้าคุณอิทอยากดื่มน้ำผลไม้อะไรก็บอกออมนะคะเดี๋ยวออมจะไปเอามาให้ค่ะ”อินทิราตั้งเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินการอยู่ของชายหนุ่มใหม่เสียตั้งแต่วันนี้โดยเริ่มจากสิ่งแรกเธอต้องเก็บขวดน้ำเมาพวกนี้ไปทิ้งให้หมดเสียก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ให้ชายหนุ่มแทน“เธอกล้ามากนักนะยัยจุ้นจ้าน”เคร้ง...เพล้ง...ๆๆอิทธกรได้ยินสิ่งที่หญิงสาวพูดก็ลุกพรวดขึ้นมาอาละวาดด้วยความโมโหขว้างปาสิ่งของที่มือสัมผัสได้ในตอนนี้อย่างหงุดหงิด“ว้ายยยย..
ของเหลวที่เปื้อนมือของเขาสัมผัสแรกเขาก็รู้ทันทีว่ามันไม่ใช่น้ำเปล่าเป็นแน่บวกกับกลิ่นคาวก็ทำให้เขารู้ว่าหญิงสาวมีเลือดออกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เธอเจ็บตัวแบบนี้“ออมไม่เป็นอะไรค่ะขอตัวไปทำแผลก่อนนะคะ”อินทิราน้ำตาคลอเบ้าเพราเจ็บที่หางคิ้วอีกอย่างเธอก็ไม่ชอบเห็นเลือดสักเท่าไรเลยรีบเดินออกจากห้องของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและเข้าไปทำแผลที่ห้องของตัวเองอิทธิกรค่อยๆเดินไปที่ห้องของหญิงสาวเมื่อคลำมาที่ประตูห้องของเธอปรากฏว่าเธอไม่ได้ปิดประตูจึงค่อยๆเดินเข้าไปถามอาการของหญิงสาวตอนนี้เขารู้สึกผิดเล็กน้อยเพราะทำให้เธอถึงกับเลือดตกยางออกถึงเขาจะขี้โมโหและรำคาญเธออยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้คิดจะทำให้หญิงสาวบาดเจ็บ“คุณอิท”อินทิราที่กำลังนั่งทำแผลอยู่ที่เตียงของเธอพร้อมกระจกบานเล็กหนึ่งบานเมื่อเห็นว่ามีร่างสูงเดินเข้ามาจึงเงยหน้าขึ้นมาดูพร้อมลุกขึ้นไปพาชายหนุ่มที่ค่อยๆเดินคลำทางเข้ามามานั่งบนเตียงของเธอ“แผลลึกหรือเปล่าต้องไปหาหมอไหม”อิทธิกรสอบถามอาหารของหญิงสาวด้วยความรู้สึกผิดและเป็นห่วงว่าบาดแผลของหญิงสาวจะต้องไปให้หมอดูหรือไม่“ไม่ค่ะแผลนิดเดียวเอง”อินทิรายิ้มออกจากเมื่อครู่ที่รู้สึกเคืองชายหนุ่มอ