“อย่าพึ่งชะล่าใจไปออมรอเจอของจริงก่อน”
ไอรดาหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับอินทิราเพราะเห็นแม่สาวเจ้ามั่นใจนักหนาว่าจะรับมือได้เธอเองไม่อยากจะคิดว่าถ้าหากหญิงสาวได้รู้ฤทธิ์พี่ชายของเธอจะยังพูดคำนี้อยู่หรือเปล่า
“ยัยเอม”
อรุณาจำต้องส่งเสียงต่ำดุคนเป็นลูกสาวที่กำลังจะทำให้ไก่ตื่น
แกร๊ก
“หืมมมม”
อรุณาเดินเข้ามาเปิดประตูห้องลูกชายของเธอกลิ่นแอลกอฮอลล์ที่คละคลุ้งอยู่ในห้องทำเอาอินทิราต้องยกมือขึ้นมาป้องจมูกเอาไว้
หญิงสาวมองเข้าไปด้านในห้องมีผู้ชายค่อนข้างจะตัวสูงใหญ่มัดกล้ามที่แทบจะโตกว่าตัวเธอหากเหวี่ยงมาฟาดที่ตัวเธอก็คงจะหักเป็นสองท่อนแล้วผมเผ้าหนวดเครารุงรังดูไม่เป็นผู้เป็นคนแถมในมือยังถือแต่ขวดน้ำเมาอีกต่างหากนี่หรือคือคนที่เธอต้องดูแลงานนี้ท่าทางจะหนักสำหรับเธอเสียแล้วหญิงสาวคิดในใจ
“ตาอิททำไมดื่มแต่ของแบบนี้กันแล้วข้าวนี่ก็ยังไม่ได้แตะเลยแม้แต่นิดทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่อีกนะ”
อรุณานึกว่าลูกชายของเธอจะอาการดีขึ้นเสียอีกที่ไหนได้เหมือนจะหนักขึ้นทุกวันๆจนเธอเริ่มใจเสียว่าลูกชายคนเดิมของเธอจะกลับมาปกติเมื่อไร
“สงสัยอยากจะตายก่อนวัยอันควร”
ไอรดาเองก็ไม่ชอบที่จะเห็นพี่ชายของเธอเป็นเช่นนี้เหมือนกันแต่ด้วยความปากไวเลยอดพูดจาประชดประชันพี่ชายเธอไม่ได้ยิ่งคิดก็ยิ่งเคืองกรกนกและก็เคืองพี่ชายของเธอที่ไม่รักตัวเองเช่นนี้
“ยัยเอม”
อรุณาต้องคอยปรามความปากไวของไอรดาอยู่เรื่อยเธอรู้ว่าลูกสาวของเธอเป็ห่วงพี่ชายไม่อยากให้อะไรมากระทบจิตใจลูกชายของเธอตอนนี้เพิ่มขึ้นไปอีกแค่นี้มันก็แย่พออยู่แล้ว
“คุณเอมพูดถูกค่ะคุณแม่ดื่มแอลกอฮอล์หนักแบบนี้ตายไวจริงๆค่ะก่อนตายก็จะเป็นโรคความดันโลหิตสูงโรคหัวใจโรคหลอดเลือดในสมองหัวใจวายตับแข็งตายหรือไม่ก็เป็นมะเร็งตับค่ะ...แล้วอีกอย่างคุณเป็นแบบนี้ก็ทำให้ครอบครัวคุณไม่สบายใจด้วยค่ะเห็นไหมคะว่าผลเสียมันเยอะขนาดไหน”
อินทิราเห็นว่าชายหนุ่มคงจะดื่มหนักอยู่พอควรเธอเองจึงต้องพูดถึงเรื่องผลเสียของแอลกอฮอลล์ให้ชายหนุ่มได้ฟังเธอรู้ว่าคนอย่างชายหนุ่มก็ต้องรู้เรื่องนี้มาพอสมควรแต่ก็ยังเลือกที่จะดื่มมันเข้าไปเธอจึงต้องยกเรื่องคนในครอบครัวของเขาให้เขานั้นได้ฉุกคิด
“......”
อรุณาจำต้องเอามือทาบอกที่อินทิราใจกล้ากว่าที่คิดขนาดเจอกันครั้งแรกก็สั่งสอนลูกชายเธอปาวๆขนาดนี้
ไอรดาเองก็ถึงกับอมยิ้มแบบแปลกใจเล็กน้อยนี่คงเป็นครั้งแรกละมั้งที่มีคนอื่นมากล้าสั่งสอนพี่ชายของเธอแต่เห็นว่าเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันขอให้หญิงสาวกล้าแบบนี้ให้ตลอดเถอะจะได้คอยปรามพี่ชายของเธอได้บ้าง
“เธอเป็นใครมายืนแช่งผมปาวๆครับคุณแม่”
อิทธิกรถึงกับเลือดขึ้นหน้าเขาไม่คุ้นน้ำเสียงของผู้หญิงคนนี้จึงร้องถามคนเป็นแม่ว่าแม่เขานั้นพาใครมาด้วยและกล้าดียังไงถึงได้มายืนพูดแช่งเขาปาวๆแบบไม่ไว้หน้าแบบนี้
“นี่หนูออมจะมาอยู่ที่นี่เป็นคนดูแลลูกไง”
“ฉันชื่อออมค่ะต่อไปนี้ฉันจะต้องมาดูแลคุณอิทเพราะว่าออมเป็นคู่หมั้นของคุณอิทค่ะ”
อินทิราถือโอกาสแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลยก็แล้วกันว่าเธอมาอยู่ที่นี่ทำไมและในฐานะอะไร
“ผมบอกคุณแม่แล้วไงครับว่าไม่ให้เธอมา”
อิทธิกรยิ่งได้ยินน้ำเสียงและถ้อยคำที่หญิงสาวพูดเขาก็เริ่มหงุดหงิดหนักขึ้นเขาเคยย้ำกับคนเป็นแม่เขาไปแล้วว่าเขาจะไม่ยอมให้ผู้หญิงที่เกิดจากการคลุมถุงชนมาแต่งงานและมาอยู่ใกล้เขาเด็ดขาดแต่นี่เหมือนคำพูดของเขาจะไม่มีใตรเชื่อฟังเลยสักนิด
“เอ่อก็น้องมาแล้วนี่นาอีกอย่างเราสองคนก็เป็นคู่หมั้นกัน”
อรุณายังพยายามพูดให้ลูกชายของเธอได้เข้าใจว่ายังอินทิราก็ต้องมาอยู่ดูแลลูกชายของเธอที่นี่
“พาเธอกลับไปครับ...ผมไม่แต่งงานแล้วก็ไม่ให้ใครมาดูแลทั้งนั้น”
อิทธิกรยื่นคำขาดว่ายังไงเขาก็ไม่ต้องการแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จักและก็ไม่ต้องการให้ใครมาดูแลด้วย
“จะให้ออมกลับไปไหนคะออมต้องมาอยู่ที่นี่”
อินทิราถึงกับมองซ้ายมองขวาอย่างห่อเหี่ยวหัวใจเธอจะไปไหนไม่ได้เพราะอรดีแม่ใหญ่ของเธอก็ได้ให้เธอกลับไปแล้ว
“นี่เธอฟังฉันพูดบ้างไหมเนี่ยฮะ..ว่าฉันไม่ต้องการคนดูแลเธอกลับไปซะ”
อิทธิกรตวาดเสียงสั่นเครืออย่างโมโหที่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ฟังที่เขาพูดเลยสักนิดคำพูดที่ดูกวานประสาทนั่นก็ขัดใจเขาชะมัด
“เราออกไปข้างนอกกันก่อนเถอะค่ะคุณแม่”
ไอรดาเห็นว่าตอนนี้ควรจะให้พี่ชายเธออารมณ์เย็นกว่านี้ก่อนและเธอก็รู้อีกด้วยว่าสิ่งที่อินทิราพูดมาแต่ละคำถึงหญิงสาวจะไม่ได้คิดอะไรพูดไปตามใจนึกแต่มันก็ดูจะกวนประสาทพี่ชายของเธออยู่ดีจึงต้องพากันออกไปข้างนอกก่อนจะดีกว่า
“หนูออมยังคิดว่าจะรับมือกับพี่เค้าได้อยู่ไหมจ้ะ”
อรุณามีสีหน้าที่กังวลเล็กน้อยกลัวว่าอินทิราจะถอดใจเมื่อเห็นพฤติกรรมของลูกชายเธอเมื่อครู่
“ได้ค่ะ...ยังไงก็ต้องได้”
อินทิราไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆอยู่แล้วเพราะถ้าหากเธอไม่ได้อยู่ที่นี่เธอก็ไม่รู้ว้าเธอจะไปอยู่ที่ไหนคำประกาศิตของอรดีบอกให้เธอจะต้องอยู่ที่นี่
“ดีมากงั้นเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องเลยแล้วห้องครัวอยู่ทางด้านโน้นนะออม..ตอนเช้าๆจะมีแม่บ้านเอาของสดมาแช่ตู้ไว้ไม่ขาดถ้าอยากได้อะไรก็สั่งได้เลย”
ไอรดายิ้มออกเมื่อรู้ว่าอินทิราไม่ยอมถอดใจง่ายๆแบบนี้สิถึงจะเหมาะสมกับการเป็นพี่สะใภ้ของเธอหน่อยหญิงสาวจำต้องรีบบอกให้อินทิราเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องข้างๆของพี่ชายเธอพร้อมบอกเรื่องห้องครัวและอาหารเสร็จสรรพเพราะตอนนี้เธอจะปล่อยให้หญิงสาวอยู่กับพี่ชายเธอสองต่อสองแล้ว
“ค่ะพี่เอม”
อินทิราพยักหน้าเชิงเข้าใจ
“งั้นพี่กับแม่ต้องกลับก่อนแล้วหละออมจะจัดการกับพี่อิทยังไงก็ตามใจเลย...อ่ออีกเรื่องตอนนี้พี่อิทยังไม่ได้ทานข้าวเย็นออมจัดการด้วยนะ”
“ค่ะ”
ไอรดาเห็นว่าหญิงสาวเข้าใจทุกอย่างดีแล้วเธอจึงต้องชวนคนเป็นแม่กลับเพราคิดว่าทางนี้ให้ทั้งคู่นั้นดูแลกันเองจะดีกว่า
“ไปค่ะคุณแม่”
“อะ..เอ่อ..โชคดีนะหนูออม”
อรุณาไม่ลืมที่จะอวยพรให้ว่าที่ลูกสะใภ้หมาดๆของเธอให้โชคดีหวังว่าลูกชายเธอจะไม่อาละวาดจนหญิงสาวหวาดกลัวเหมือนเด็กในบ้านทุกคนตอนนี้หรอกนะ
“ดูซิมีอะไรให้ทำกับข้าวบ้าง”
หลังจากที่อรุณาและไอรดากลับไปแล้วอินทิราก็น้ำกระเป๋าเป้ของเธอไปเก็บในห้องพร้อมสำรวจรอบๆให้คุ้นเคยเล็กน้อยจึงออกมาเข้าครัวทำอาหารเย็นให้ชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเพราะนี่มันก็เริ่มจะมืดแล้วเธอกลัวว่าชายหนุ่มจะเปลี่ยนจากทานอาหารเย็นเป็นอาหารดึกแทน
อินทิราเห็นในตู้เย็นมีไข่อยู่เป็นสิบฟองหมูกับกุ้งอยู่อย่างละกล่องใหญ่และผักสดกับผลไม้ที่ค่อนข้างจะหลายอย่างอยู่แต่ที่ง่ายๆเลยก็คือเมนูผัดกระเพราที่เธอคิดว่ามันทำง่ายและทุกคนก็น่าจะชอบเหมือนที่เธอก็ชอบ
ฉ่าาาาาาาา“ฮัดชิ่ววว”หญิงสาวหยิบหมูกับกระเพราและพริกสดออกจากตู้มาหั่นล้างทำความสะอาดแล้วแกะกระเทียมที่ห้อยอยู่ด้านนอกมาปอกเปลือกและสับอย่างชำนาญตอนนี้ของทุกอย่างก็ได้ลงกระทะไปพร้อมกันแล้วหญิงสาวหยิบเครื่องปรุงรสใส่ตามใจที่เธอชอบตอนนี้อาหารในกระทะส่งกลิ่นฉุนเล็กน้อยจนทำให้หญิงสาวจามไม่นานกระเพราหมูสุดน่าทานจานนี้ก็เสร็จสิ้นแกร๊ก“ทานข้าวเย็นค่ะคุณอิท”อินทิราเดินเปิดประตูห้องของชายหนุ่มเข้ามาเธอเห็นว่าเขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมพร้อมเอาถาดอาหารไปวางตรงหน้าคิดว่าถ้าหากชายหนุ่มได้กลิ่นอาหารที่หอมขนาดนี้คงจะอยากทานข้าวขึ้นมาบ้าง“นี่เธอยังไม่กลับไปอีกเหรอ”อิทธิกรคิดว่าหญิงสาวที่เขาตวาดใส่เมื่อครู่จะกลับไปแล้วเสียอีก“ไม่ค่ะออมจะต้องอยู่ดูแลคุณ”อินทิรายังยืนยันคำพูดเดิมของเธอว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่เพื่อดูแลชายหนุ่มและเธอก็จะไม่ถอดใจกลับไปง่ายๆแน่เพราเธอก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน“เธอนี่ท่าทางจะตื๊อไม่เลิกนะ...กลัวแม่ฉันจะเอาเงินคืนหรือไง”อิทธิกรสบถออกมาอย่างหัวเสียเขาคิดว่าที่หญิงสาวไม่ยอมถอดใจง่ายๆคงจะเป็นเพราเงินที่สูงหลายสิบล้านที่แม่ของเขาจ่ายเพื่อให้ได้ตัวของเธอมา“เงิน...เงินอะไรคะ”อิน
“ออมเองค่ะ...คุณอิทนอนไปเลยค่ะเดี๋ยวออมขอเก็บห้องให้คุณอิทก่อน...อ้อแล้วเมื่อวานคุณอิทก็ไม่ได้ทานข้าวนี่คะวันนี้ยังไงคุณอิทก็ต้องทานนะคะ”อินทิราตั้งหน้าตั้งตารวบรวมขวดน้ำเมาของชายหนุ่มไปทิ้งให้หมดนี่ก็ใกล้จะเสร็จแล้วแต่เขาดันตื่นขึ้นมาก่อนเธอว่าเธอพยายามเบามือที่สุดแล้วนะ“เธอนี่มัน!!...แล้วต้องเก็บอะไรนักหนา”เขาไม่เข้าใจว่าหญิงสาวยังจะบอกให้เขาหลับลงได้อย่างไรทั้งที่เธอมาก่อกวนส่งเสียงรบกวนเขาอยู่แบบนี้“ก็พวกขวดเครื่องดื่มพวกนี้ไงคะออมเอาไปทิ้งเกือบจะหมดแล้วนะคะต่อไปนี้ออมจะไม่ให้คุณอิทดื่มของพวกนี้แล้วค่ะเมื่อเช้าออมให้แม่บ้านเอาน้ำผลไม้มาไว้ในบ้านแทนถ้าคุณอิทอยากดื่มน้ำผลไม้อะไรก็บอกออมนะคะเดี๋ยวออมจะไปเอามาให้ค่ะ”อินทิราตั้งเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินการอยู่ของชายหนุ่มใหม่เสียตั้งแต่วันนี้โดยเริ่มจากสิ่งแรกเธอต้องเก็บขวดน้ำเมาพวกนี้ไปทิ้งให้หมดเสียก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ให้ชายหนุ่มแทน“เธอกล้ามากนักนะยัยจุ้นจ้าน”เคร้ง...เพล้ง...ๆๆอิทธกรได้ยินสิ่งที่หญิงสาวพูดก็ลุกพรวดขึ้นมาอาละวาดด้วยความโมโหขว้างปาสิ่งของที่มือสัมผัสได้ในตอนนี้อย่างหงุดหงิด“ว้ายยยย..
ของเหลวที่เปื้อนมือของเขาสัมผัสแรกเขาก็รู้ทันทีว่ามันไม่ใช่น้ำเปล่าเป็นแน่บวกกับกลิ่นคาวก็ทำให้เขารู้ว่าหญิงสาวมีเลือดออกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เธอเจ็บตัวแบบนี้“ออมไม่เป็นอะไรค่ะขอตัวไปทำแผลก่อนนะคะ”อินทิราน้ำตาคลอเบ้าเพราเจ็บที่หางคิ้วอีกอย่างเธอก็ไม่ชอบเห็นเลือดสักเท่าไรเลยรีบเดินออกจากห้องของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและเข้าไปทำแผลที่ห้องของตัวเองอิทธิกรค่อยๆเดินไปที่ห้องของหญิงสาวเมื่อคลำมาที่ประตูห้องของเธอปรากฏว่าเธอไม่ได้ปิดประตูจึงค่อยๆเดินเข้าไปถามอาการของหญิงสาวตอนนี้เขารู้สึกผิดเล็กน้อยเพราะทำให้เธอถึงกับเลือดตกยางออกถึงเขาจะขี้โมโหและรำคาญเธออยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้คิดจะทำให้หญิงสาวบาดเจ็บ“คุณอิท”อินทิราที่กำลังนั่งทำแผลอยู่ที่เตียงของเธอพร้อมกระจกบานเล็กหนึ่งบานเมื่อเห็นว่ามีร่างสูงเดินเข้ามาจึงเงยหน้าขึ้นมาดูพร้อมลุกขึ้นไปพาชายหนุ่มที่ค่อยๆเดินคลำทางเข้ามามานั่งบนเตียงของเธอ“แผลลึกหรือเปล่าต้องไปหาหมอไหม”อิทธิกรสอบถามอาหารของหญิงสาวด้วยความรู้สึกผิดและเป็นห่วงว่าบาดแผลของหญิงสาวจะต้องไปให้หมอดูหรือไม่“ไม่ค่ะแผลนิดเดียวเอง”อินทิรายิ้มออกจากเมื่อครู่ที่รู้สึกเคืองชายหนุ่มอ
20 นาทีต่อมา“ข้าวต้มร้อนๆได้แล้วค่ะ”อินทิราวางถ้วยข้าวตมตรงหน้าชายหนุ่มพร้อมจะเดินออกไปจากห้องให้เขาได้นั่งทานเงียบๆคนเดียวเธอไม่อยากจะอยู่กวนเผื่อชายหนุ่มจะทานไม่ลงหากเธอนั้นอยู่ใกล้ๆ“ป้อนฉันสิ”“คะ...คุณอิททานเองไม่ได้เหรอคะ”อินทิราจำต้องชะงักฝีเท้าหันมาหาชายหนุ่มด้วยสีหน้าแปลกใจเธอจำได้ว่าชายหนุ่มก็สามารถที่จะทำอะไรเองได้โดยที่ไม่ต้องมีเธอช่วยนี่นา“ก็ฉันสั่งให้เธอป้อนเธอก็ต้องป้อนอยากจะดูแลฉันไม่ใช่รึไง”อิทธิกรเริ่มมีน้ำเสียงที่แข็งขึ้นที่หญิงสาวชอบที่จะขัดใจเขาอยู่เรื่อยไป“เอ่อ..ค่ะ”อินทิราเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มมีท่าทีที่จะโมโหอีกแล้วเธอจึงรีบนั่งลงตรงใกล้ๆกับชายหนุ่มเพื่อที่จะป้อนข้าวเขาได้อย่างถนัด“โอ้ย..ร้อนๆเธอคิดจะฆ่าฉันทางอ้อมรึไง..”เมื่อข้าวต้มคำแรกเข้าปากอิทธิกรถึงกับต้องเป่าปากใช้มือพัดพันวันเพรามันค่อนข้างร้อนอย่างมากจนตอนนี้เขารู้สึกได้ว่าปลายลิ้นนั้นชาไปหมดแล้ว“โทษทีค่ะลืมเป่า..”อินทิราถึงกับหน้าเหวอเพราะเธอรีบจนลืมเป่าให้ข้าวต้มหายร้อนก่อนที่จะเอาเข้าปากชายหนุ่มนั่นเองจึงรีบให้ชายหนุ่มดื่มน้ำก่อนภาพตรงหน้าก็ทำให้เธออดขำในท่าทีของเขาไม่ได้เหมือนกันเธอไม่ได้ตั
“เดี๋ยว...เธอนั่งรอฉันอยู่ในห้องฉันจะอาบน้ำสระผมแล้วเธอก็ต้องรอเช็ดผมให้ฉันเข้าใจใช่ไหม”“เข้า..เข้าใจค่ะ”อิทธิกรไม่ยอมปล่อยให้เธอไปไหนไกลเขายังอยากจะให้หญิงสาวที่บอกว่าอยากจะดูแลเขานักหนาให้เธอได้ดูแลเขาให้เบื่อกันไปข้างเลยอินทิรากลับมานั่งที่ปลายเตียงของชายหนุ่มอย่างใจตุ๊มๆต่อมๆคิดว่าเธอจะต้องได้เจอเขาในสภาพเดียวกับวันนั้นแน่เลยก่อนที่เขาจะออกมาเธอต้องนั่งทำใจให้ชินกับเรื่องแบบนี้เสียก่อนจะได้ไม่ประหม่ามากมายนัก30 นาทีต่อมา“ออม”“ขาคุณอิท”อินทิรารีบวิ่งไปที่หน้าประตูห้องน้ำเมื่อได้ยินเสียงที่ชายหนุ่มเรียกเธอเมื่อครู่อย่างรวดเร็วเพราคิดว่าเขาต้องมีเรื่องให้เธอช่วยเป็นแน่“หยิบผ้าขนหนูให้ฉันหน่อย”“ฮือ!!...ทำไมไม่บอกก่อนหน้านี้กันนะ...ออมพาดไว้ที่ลูกบิดหน้าประตูห้องน้ำนะคะ”หญิงสาวถึงกับคิ้วขมวดพร้อมนึกในใจว่าก่อนที่จะอาบน้ำเขาทำไมไม่เอาเข้าไปก่อนกันนะหญิงสาวหยิบผ้าขนหนูที่วางพับไว้หน้าห้องน้ำอย่างเป็นระเบียบมาหนึ่งผืนพร้อมพาดไว้ที่ลูกบิดประตูเพื่อให้ชายหนุ่มเปิดออกมาแล้วหยิบไปเองจะให้เธอเปิดประตูเอาเข้าไปให้ก็เกรงว่าจะหัวใจวายเสียก่อน“โอเค”แกร๊กกก“หึ้ยย”ยังไม่สิ้นเสียงตอบตกล
“เย็นนี้เดี๋ยวแม่กับยัยเอมอยู่ทานข้าวด้วยนะ”“ค่ะคุณแม่เดี๋ยวออมทำอาหารให้สุดฝีมือเลย”อรุณาอยากจะอยู่ดูพฤติกรรมของทั้งสองเวลาอยู่ด้วยกันก่อนจะกลับไปเสียหน่อยว่ามันดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนเธอจะได้กลับไปทำงานของเธอได้อย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องห่วงทางนี้มากนักช่วงเย็นของวัน“นี่เราทำอาหารได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอหนูออม”“ค่ะ...ออมชอบทำอาหารเลยรู้เมนูอาหารหลายอย่างแล้วก็ทำได้หลายอย่างด้วยวันหลังถ้าคุณแม่กับพี่เอมมาที่นี่อีกอยากทานอะไรบอกออมได้เลยนะคะ”อินทิราหน้าบานเมื่อได้รับคำชมหลังจากที่ทำกับข้าวหลายอย่างมาวางไว้ที่โต๊ะอาหาร“พูดอยู่นั่นจะทานกันได้รึยัง”“คุณอิทหิวขนาดนั้นเลยหรือไงคะ”หลังจากที่หญิงสาวพูดจบชายหนุ่มก็โพล่งคำบางคำออกมาอย่างขวานผ่าซากทำให้หญิงสาวต้องหุบยิ้มแล้วหันไปมองค้อนใส่ชายหนุ่มเล็กน้อยทั้งยังแอบพูดประชดเล็กน้อย“งั้นก็ทานข้าวกันเถอะ”อรุณาจำต้องรีบบอกให้ทุกคนทาน้าวกันได้ไม่เช่นนั้นสองคนนี้ดูท่าจะเถียงกันอีกยาวพร้อมส่ายหัวให้พ่อลูกชายตัวดีของเธอที่ปากพาหาเรื่องเสียจริง“ออมนี่ก็เก่งเหมือนกันนะคุณแม่มาแค่วันเดียวก็เปลี่ยนอะไรได้เยอะขนาดนี้”“แม่ก็ขอให้หนูออมทำให้ตาอิทดีขึ้นเร็
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกไปเถอะ”ภัคดนัยได้ยินว่าหญิงสาวเกรงใจก็รีบดึงมือเธอไปที่รถของเขาที่จอดไว้หน้าบ้านแล้วเปิดประตูดันตัวหญิงสาวเข้าไปนั่งที่ข้างเบาะคนขับพร้อมสตาร์ทรถและขับออกไปทันที“พี่ภาคย์..จอดรถทำไมคะ”พรณภัทร์เห็นว่าจู่ๆชายหนุ่มก็จอดรถข้างทางเสียอย่างนั้นเธอจึงต้องหันหน้าไปถามคนที่นั่งข้างๆด้วยความสงสัย“พี่มีเรื่องจะถามพลอย”ภัคดนัยหันมามองหน้าหญิงสาวจริงจังเพราะตอนนี้เขาอยากจะฟังเรื่องที่อยากรู้เป็นที่สุด“ถาม??..เรื่องอะไรคะ”พรณภัทร์เริ่มใจเต้นเร็วกลัวว่าเรื่องที่ชายหนุ่มจะถามจะเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากจะตอบน่ะสิ“ออมติดต่อพลอยมาบ้างหรือเปล่าพี่ถามยัยพีคก็ไม่เห็นจะรู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยพี่รู้ว่าพลอยจะไม่โกหกพี่”ภัคดนัยถามหญิงสาวด้วยสีหน้าที่จริงจังพร้อมย้ำจุดอ่อนของเธอที่เขารู้ดี“เอ่อ..ไม่รู้ค่ะออมไม่ได้ติดต่อมาหาพลอยเหมือนกัน”และแล้วคำถามของชายหนุ่มก็เป็นไปอย่างที่หญิงสาวคิดตอนนี้เธอตอบกลับชายหนุ่มโดยที่ไม่มองหน้าของเขาเพราะความรู้สึกผิดในใจที่ต้องโกหกแต่เธอก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับอินทิราเหมือนกันว่าห้ามให้คนอื่นรู้เด็ดขาดนอกจากเธอและพีรยา“อืม...ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรถ้าได้ข
ไร่แก้วกัลยา07.30 น.“คุณอิทคะตื่นค่ะวันนี้หมอมาตรวจแต่เช้านะคะ”อินทิราเดินเข้าไปปลุกชายหนุ่มที่กำลังหลับไมยอมตื่นขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าล้างตาเสียทีทั้งที่เธอทำอาหารเช้ารอเอาไว้แล้วอีกอย่างอรุณาก็บอกกับเธอว่าหมอจะมาตรวจชายหนุ่มในช่วงเช้าด้วย“ขออีกนิดนะฉันกำลังหลับสบายเลย”อิทธิกรยังรู้สึกว่าไม่อยากตื่นเขาจึงพลิกตัวและเอาผ้าห่มคลุมหัวหนีหญิงสาวที่ส่งเสียงดังแสบแก้วหูเรียกเขาปาวๆอยู่“ไม่ได้ค่ะคุณอิทต้องลุกมาอาบน้ำแต่งตัวทานอาหารเช้าให้ตรงเวลานะคะ”อินทิราเองก็ไม่ยอมง่ายๆยังไงเธอก็ต้องปลุกเข้าให้ลุกขึ้นมาให้ได้“โอเคๆ...ถ้าฉันไม่ลุกก็คงจะต้องทนฟังเสียงแหลมๆของเธอสินะ”อิทธิกรจำต้องดีดตัวลุกขึ้นมาเพราะเริ่มรำคาญหญิงสาวและมีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้วเขาไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ดีที่หญิงสาวอยู่ที่นี่บางทีก็ทำตัวให้เขาหายเหงาบางทีก็ทำตัวน่ารำคาญ“ก็คุณอิทไม่ยอมลุกเองนี่คะ”อินทิราบ่นอู้อี้เล็กน้อยที่เช้านี้เธอโดนชายหนุ่มดุแต่เช้าอีกแล้วเธอก็เพียงแค่ทำหน้าที่ของเธอก็เท่านั้นหลังจากที่อิทธิกรทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วอินทิราก็พาชายหนุ่มเข้าไปในห้องตามความต้องการของเขาไม่นานหมอก็มาตรวจพอดีหญิงสา