20 นาทีต่อมา
“ข้าวต้มร้อนๆได้แล้วค่ะ”
อินทิราวางถ้วยข้าวตมตรงหน้าชายหนุ่มพร้อมจะเดินออกไปจากห้องให้เขาได้นั่งทานเงียบๆคนเดียวเธอไม่อยากจะอยู่กวนเผื่อชายหนุ่มจะทานไม่ลงหากเธอนั้นอยู่ใกล้ๆ
“ป้อนฉันสิ”
“คะ...คุณอิททานเองไม่ได้เหรอคะ”
อินทิราจำต้องชะงักฝีเท้าหันมาหาชายหนุ่มด้วยสีหน้าแปลกใจเธอจำได้ว่าชายหนุ่มก็สามารถที่จะทำอะไรเองได้โดยที่ไม่ต้องมีเธอช่วยนี่นา
“ก็ฉันสั่งให้เธอป้อนเธอก็ต้องป้อนอยากจะดูแลฉันไม่ใช่รึไง”
อิทธิกรเริ่มมีน้ำเสียงที่แข็งขึ้นที่หญิงสาวชอบที่จะขัดใจเขาอยู่เรื่อยไป
“เอ่อ..ค่ะ”
อินทิราเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มมีท่าทีที่จะโมโหอีกแล้วเธอจึงรีบนั่งลงตรงใกล้ๆกับชายหนุ่มเพื่อที่จะป้อนข้าวเขาได้อย่างถนัด
“โอ้ย..ร้อนๆเธอคิดจะฆ่าฉันทางอ้อมรึไง..”
เมื่อข้าวต้มคำแรกเข้าปากอิทธิกรถึงกับต้องเป่าปากใช้มือพัดพันวันเพรามันค่อนข้างร้อนอย่างมากจนตอนนี้เขารู้สึกได้ว่าปลายลิ้นนั้นชาไปหมดแล้ว
“โทษทีค่ะลืมเป่า..”
อินทิราถึงกับหน้าเหวอเพราะเธอรีบจนลืมเป่าให้ข้าวต้มหายร้อนก่อนที่จะเอาเข้าปากชายหนุ่มนั่นเองจึงรีบให้ชายหนุ่มดื่มน้ำก่อนภาพตรงหน้าก็ทำให้เธออดขำในท่าทีของเขาไม่ได้เหมือนกันเธอไม่ได้ตั้งใจแกล้งเขาแต่เธอลืมใจริงๆ
10 นาทีผ่านไป
“หมดแล้วค่ะออมเอาถ้วยไปเก็บก่อนนะคะ”
หลังจากที่หญิงสาวป้อนข้าวชายหนุ่มได้ไม่นานข้าวต้มในถ้วยก็หมดในเวลาอันรวดเร็วเพราะเมื่อเห็นชายหนุ่มทานได้หญิงสาวก็ตั้งหน้าตั้งตาป้อนโดยไม่ขาดปากกันเลยทีเดียว
“เดี๋ยว”
“อะ...อะไรคะ”
เมื่อรู้ว่าร่างบางกำลังจะลุกขึ้นเดินออกไปชายหนุ่มก็ตวัดแขนรวบเอวหญิงสาวให้มานั่งที่ตักของเขาจนคนที่นั่งอยู่บนตักเริ่มหายใจติดขัดเพราว่าเธออยู่ใกล้กับเขาเกินไป
“เอาน้ำผลไม้มาให้ฉันดื่มด้วย”
อิทธิกรค่อยๆก้มกระซิบข้างหูหญิงสาวอย่างแผ่วเบาให้เธอขนลุกเล่นๆเขารู้ว่าเธอคงใจเต้นแรงน่าดูถึงได้นั่งตัวเกร็งจนเขารู้สึกได้ขนาดนี้นี่เป็นการแกล้งเธอนิดหน่อยเพื่อทำโทษตอนที่เธอให้เขาทานของร้อนๆโดยที่ไม่เป่า
“ค่ะๆ...ปล่อยออมก่อนสิคะจะได้รีบไป”
อินทิราจำต้องแกะมือที่โอบเอวบางของเธออยู่ออกและเดินออกไปเอาถ้วยข้าวต้มไปเก็บในครัวอย่างรวดเร็วหญิงสาวจำต้องยืนจับหัวใจตัวเองพักใหญ่จนกว่ามันจะกลับมาเต้นปกติเธอไม่ชอบเวลาที่อยู่ใกล้ชายหนุ่มแล้วควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้เลย
“คุณอิทคะ”
“หืม..”
อินทิราเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มที่จะคุยดีๆกับเธอจนแทบเป็นปกติแล้วเธอคิดว่าตอนนี้อารมณ์ของเขากำลังคงที่ไหนจะท่าทีที่กำลังดื่มน้ำผลไม่อย่างอารมณ์ดีนั่นอีกเธอจึงต้องคว้าโอกาสนี้พูดกับชายหนุ่มเรื่องที่เธอคิดไว้จนได้
“คุณอิทไม่คิดที่จะทำหน้าให้มันเกลี้ยงเกลาบ้างเหรอคะ”
ขั้นแรกหญิงสาวก็จะหาทางพูดคุยกับคนตรงหน้าแบบอ้อมๆก่อน
“หึ่...เธอจะทำอะไรกับฉันอีก”
อิทธิกรพอจะเดาออกว่าหญิงสาวคงจะมีเรื่องอะไรอยู่ในหัวเกี่ยวกับตัวเขาเป็นแน่
“คือว่า...ออมอยากจะตัดผมให้คุณแล้วก็โกนหนวดให้มันดูสะอาดสะอ้านกว่านี้หน่อย..น่ะ..ค่ะ”
คำถามที่ถามเธอกลับมาทำให้หญิงสาวรู้ว่าคนตรงหน้าคงจะรู้ตัวแล้วว่าเธอจะต้องคิดจะทำอะไรกับตัวของเขาจึงรีบบอกความต้องการของเธอออกไป
“ไม่นี่...ฉันไม่จำเป็นจะต้องหล่อให้ใครดู”
อิทธิกรส่ายหัวหงึกหงักตอนนี้เขาไม่จำเป็นจะต้องมาเสริมหล่อให้ใครดูเพราะอยู่แต่ในบ้านอย่างเดียว
“นะคะๆ...ออมอยากตัดผมให้คุณอิทเชื่อมือออมนะคะหลังจากที่ออมจัดการกับทรงผมและหนวดกับคุณอิทแล้วคุณต้องดูดีมากๆเลยถึงจะบอกว่าไม่อยากหล่อให้ใครดูเอาเป็นว่าคุณอิทหล่อให้ออมดูก็ได้ค่ะเพราออมก็ไม่อยากมองหน้าคนหนวดเคราเฟิ้มแบบนี้ทุกวัน”
อินทิราเห็นว่าชายหนุ่มไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เธออยากจะทำหญิงสาวจำต้องรีบคว้ามือหนาของชายหนุ่มมากอบกุมเพื่อขอร้องให้เขาอนุญาตให้เธอได้ทำตามความต้องการหญิงสาวพยายามโน้มน้าวสุดฤทธิ์เพราะเธออยากให้เขาดูดีขึ้นจริงๆ
“เธอนี่...ได้คืบจะเอาศอก...อยากทำอะไรก็ตามใจเธอแล้วกัน”
“จัดไปค่ะ”
อิทธิกรต้องจำใจอนุญาตหญิงสาวเพื่อตัดรำคาญไปพลางคิดว่าเขาควรจะเรียกเธอว่ายัยจุ้นจ้านมากกว่าชื่อของเธอเสียอีกในขณะนี้
40 นาทีต่อมา
“เสร็จรึยัง”
อิทธิกรเห็นว่าแม่สาวเจ้าที่ทำตัวเป็นช่างใหญ่ตัดผมให้เขานั้นไม่เห็นมีทีท่าว่าจะเสร็จเสียทีจนเขาเริ่มที่จะเมื่อยแล้ว
“อีกนิดนึงค่ะอย่าใจร้อนสิคะคุณอิทเดี๋ยวก็ไม่หล่อกันพอดี”
อินทิรากำลังใจจดใจจ่ออยู่กับทรงผมของชายหนุ่มตอนนี้มันก็ใกล้จะเสร็จแล้วเธอไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มจะใจร้อนอะไรนักหนา
“เรียบร้อยแล้วค่ะไปโกนหนวดกันค่ะ”
“ซะที”
อินทิราตัดผมให้ชายหนุ่มเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงพาชาหนุ่มเข้ามาโกนหนวดในห้องน้ำอย่างรวดเร็วเพรากลัวว่าคนตัวโตจะบ่นเธอขึ้นมาอีก
“โกนหนวดแล้วค่อยดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย”
“แล้วปกติฉันไม่ใช่คนหรือไง”
ชายหนุ่มลุกยืนขึ้นเมื่อหญิงสาวจัดการกับหนวดบนใบหน้าของเขาเรียบร้อยแล้วพร้อมจงใจที่จะยื่นหน้าไปให้ใกล้กับหญิงสาวมากที่สุดถึงจะไม่เห็นว่าสีหน้าของเธอตอนนี้เป็นอย่างไรแต่เขาก็รู้ว่าเขาเอาคืนเธอที่พูดจาบอกว่าเหมือนเขาไม่ใช่คนให้ใจเต้นแรงได้
“เอ่อ...ถ้าเรียบร้อยแล้วออมขอตัวก่อนนะคะ”
ใบหน้าที่ดูดีขึ้นมาเป็นกองขนาดนั้นก้มลงมาใกล้กับหน้าของหญิงสาวทำเอาเธอนั้นต้องยกมือขึ้นจับหัวใจเธออีกครั้งพร้อมขอปลีกตัวออกไปทันที
“เดี๋ยว...เธอนั่งรอฉันอยู่ในห้องฉันจะอาบน้ำสระผมแล้วเธอก็ต้องรอเช็ดผมให้ฉันเข้าใจใช่ไหม”“เข้า..เข้าใจค่ะ”อิทธิกรไม่ยอมปล่อยให้เธอไปไหนไกลเขายังอยากจะให้หญิงสาวที่บอกว่าอยากจะดูแลเขานักหนาให้เธอได้ดูแลเขาให้เบื่อกันไปข้างเลยอินทิรากลับมานั่งที่ปลายเตียงของชายหนุ่มอย่างใจตุ๊มๆต่อมๆคิดว่าเธอจะต้องได้เจอเขาในสภาพเดียวกับวันนั้นแน่เลยก่อนที่เขาจะออกมาเธอต้องนั่งทำใจให้ชินกับเรื่องแบบนี้เสียก่อนจะได้ไม่ประหม่ามากมายนัก30 นาทีต่อมา“ออม”“ขาคุณอิท”อินทิรารีบวิ่งไปที่หน้าประตูห้องน้ำเมื่อได้ยินเสียงที่ชายหนุ่มเรียกเธอเมื่อครู่อย่างรวดเร็วเพราคิดว่าเขาต้องมีเรื่องให้เธอช่วยเป็นแน่“หยิบผ้าขนหนูให้ฉันหน่อย”“ฮือ!!...ทำไมไม่บอกก่อนหน้านี้กันนะ...ออมพาดไว้ที่ลูกบิดหน้าประตูห้องน้ำนะคะ”หญิงสาวถึงกับคิ้วขมวดพร้อมนึกในใจว่าก่อนที่จะอาบน้ำเขาทำไมไม่เอาเข้าไปก่อนกันนะหญิงสาวหยิบผ้าขนหนูที่วางพับไว้หน้าห้องน้ำอย่างเป็นระเบียบมาหนึ่งผืนพร้อมพาดไว้ที่ลูกบิดประตูเพื่อให้ชายหนุ่มเปิดออกมาแล้วหยิบไปเองจะให้เธอเปิดประตูเอาเข้าไปให้ก็เกรงว่าจะหัวใจวายเสียก่อน“โอเค”แกร๊กกก“หึ้ยย”ยังไม่สิ้นเสียงตอบตกล
“เย็นนี้เดี๋ยวแม่กับยัยเอมอยู่ทานข้าวด้วยนะ”“ค่ะคุณแม่เดี๋ยวออมทำอาหารให้สุดฝีมือเลย”อรุณาอยากจะอยู่ดูพฤติกรรมของทั้งสองเวลาอยู่ด้วยกันก่อนจะกลับไปเสียหน่อยว่ามันดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนเธอจะได้กลับไปทำงานของเธอได้อย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องห่วงทางนี้มากนักช่วงเย็นของวัน“นี่เราทำอาหารได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอหนูออม”“ค่ะ...ออมชอบทำอาหารเลยรู้เมนูอาหารหลายอย่างแล้วก็ทำได้หลายอย่างด้วยวันหลังถ้าคุณแม่กับพี่เอมมาที่นี่อีกอยากทานอะไรบอกออมได้เลยนะคะ”อินทิราหน้าบานเมื่อได้รับคำชมหลังจากที่ทำกับข้าวหลายอย่างมาวางไว้ที่โต๊ะอาหาร“พูดอยู่นั่นจะทานกันได้รึยัง”“คุณอิทหิวขนาดนั้นเลยหรือไงคะ”หลังจากที่หญิงสาวพูดจบชายหนุ่มก็โพล่งคำบางคำออกมาอย่างขวานผ่าซากทำให้หญิงสาวต้องหุบยิ้มแล้วหันไปมองค้อนใส่ชายหนุ่มเล็กน้อยทั้งยังแอบพูดประชดเล็กน้อย“งั้นก็ทานข้าวกันเถอะ”อรุณาจำต้องรีบบอกให้ทุกคนทาน้าวกันได้ไม่เช่นนั้นสองคนนี้ดูท่าจะเถียงกันอีกยาวพร้อมส่ายหัวให้พ่อลูกชายตัวดีของเธอที่ปากพาหาเรื่องเสียจริง“ออมนี่ก็เก่งเหมือนกันนะคุณแม่มาแค่วันเดียวก็เปลี่ยนอะไรได้เยอะขนาดนี้”“แม่ก็ขอให้หนูออมทำให้ตาอิทดีขึ้นเร็
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกไปเถอะ”ภัคดนัยได้ยินว่าหญิงสาวเกรงใจก็รีบดึงมือเธอไปที่รถของเขาที่จอดไว้หน้าบ้านแล้วเปิดประตูดันตัวหญิงสาวเข้าไปนั่งที่ข้างเบาะคนขับพร้อมสตาร์ทรถและขับออกไปทันที“พี่ภาคย์..จอดรถทำไมคะ”พรณภัทร์เห็นว่าจู่ๆชายหนุ่มก็จอดรถข้างทางเสียอย่างนั้นเธอจึงต้องหันหน้าไปถามคนที่นั่งข้างๆด้วยความสงสัย“พี่มีเรื่องจะถามพลอย”ภัคดนัยหันมามองหน้าหญิงสาวจริงจังเพราะตอนนี้เขาอยากจะฟังเรื่องที่อยากรู้เป็นที่สุด“ถาม??..เรื่องอะไรคะ”พรณภัทร์เริ่มใจเต้นเร็วกลัวว่าเรื่องที่ชายหนุ่มจะถามจะเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากจะตอบน่ะสิ“ออมติดต่อพลอยมาบ้างหรือเปล่าพี่ถามยัยพีคก็ไม่เห็นจะรู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยพี่รู้ว่าพลอยจะไม่โกหกพี่”ภัคดนัยถามหญิงสาวด้วยสีหน้าที่จริงจังพร้อมย้ำจุดอ่อนของเธอที่เขารู้ดี“เอ่อ..ไม่รู้ค่ะออมไม่ได้ติดต่อมาหาพลอยเหมือนกัน”และแล้วคำถามของชายหนุ่มก็เป็นไปอย่างที่หญิงสาวคิดตอนนี้เธอตอบกลับชายหนุ่มโดยที่ไม่มองหน้าของเขาเพราะความรู้สึกผิดในใจที่ต้องโกหกแต่เธอก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับอินทิราเหมือนกันว่าห้ามให้คนอื่นรู้เด็ดขาดนอกจากเธอและพีรยา“อืม...ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรถ้าได้ข
ไร่แก้วกัลยา07.30 น.“คุณอิทคะตื่นค่ะวันนี้หมอมาตรวจแต่เช้านะคะ”อินทิราเดินเข้าไปปลุกชายหนุ่มที่กำลังหลับไมยอมตื่นขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าล้างตาเสียทีทั้งที่เธอทำอาหารเช้ารอเอาไว้แล้วอีกอย่างอรุณาก็บอกกับเธอว่าหมอจะมาตรวจชายหนุ่มในช่วงเช้าด้วย“ขออีกนิดนะฉันกำลังหลับสบายเลย”อิทธิกรยังรู้สึกว่าไม่อยากตื่นเขาจึงพลิกตัวและเอาผ้าห่มคลุมหัวหนีหญิงสาวที่ส่งเสียงดังแสบแก้วหูเรียกเขาปาวๆอยู่“ไม่ได้ค่ะคุณอิทต้องลุกมาอาบน้ำแต่งตัวทานอาหารเช้าให้ตรงเวลานะคะ”อินทิราเองก็ไม่ยอมง่ายๆยังไงเธอก็ต้องปลุกเข้าให้ลุกขึ้นมาให้ได้“โอเคๆ...ถ้าฉันไม่ลุกก็คงจะต้องทนฟังเสียงแหลมๆของเธอสินะ”อิทธิกรจำต้องดีดตัวลุกขึ้นมาเพราะเริ่มรำคาญหญิงสาวและมีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้วเขาไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ดีที่หญิงสาวอยู่ที่นี่บางทีก็ทำตัวให้เขาหายเหงาบางทีก็ทำตัวน่ารำคาญ“ก็คุณอิทไม่ยอมลุกเองนี่คะ”อินทิราบ่นอู้อี้เล็กน้อยที่เช้านี้เธอโดนชายหนุ่มดุแต่เช้าอีกแล้วเธอก็เพียงแค่ทำหน้าที่ของเธอก็เท่านั้นหลังจากที่อิทธิกรทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วอินทิราก็พาชายหนุ่มเข้าไปในห้องตามความต้องการของเขาไม่นานหมอก็มาตรวจพอดีหญิงสา
“ใช่ๆจริงๆด้วยค่ะ”อินทิราเห็นหญิงในรูปเล็กๆก็จำได้ทันทีว่าเป็นคนเดียวกับคนที่เข้ามาหาและมาคุยกับเธอ“นี่คุณยายฉันเองท่านเป็นเจ้าของไร่นี้...แต่ท่านเสียไปสี่ห้าปีแล้วนะ”อิทธิกรเริ่มอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยแล้วที่รู้ว่าหญิงสาวเจอกับอะไร“คะ!!!...”จากคำบอกเล่าของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวยืนตัวเกร็งชาวาบขนลุกซู่ไปทั้งตัว“ท่านคงจะเอ็นดูเธอ”อิทธิกรยังไม่หยุดที่จะพูดเล่นกับเธอ“เอ่อ..คุณอิทคะคืนนี้ออมขอนอนด้วยได้ไหมคะ...นะคะเดี๋ยวออมนอนข้างล่างก็ได้แต่ขอเปิดไฟที่โคมไฟไว้นะคะ”ด้วยความที่ตาขาวเรื่องนี้อย่างมากอินทิราจึงจำใจต้องมาขอนอนห้องเดียวกับชายหนุ่มเกิดมาไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอเรื่องที่ทำให้เอขนหัวลุกได้ขนาดนี้“ฮ่าๆๆ...นี่เธอก็ตาขาวเหมือนกันนะอยากนอนก็นอนอย่ามาลักหลับฉันก็แล้วกัน”ความรู้สึกของชายหนุ่มตอนนี้รู้ได้เลยว่าหญิงสาวคงกลัวหัวหดอีกทั้งยังไม่ยอมหยุดที่จะพูดแซวเธออีกด้วย“พูดอะไรของคุณอิท...ออมไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ”อินทิราหน้ามุ่ยอีกรอบที่เวลานี้ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดที่จะแกล้งแซวเธออย่างน้อยการที่ได้นอนห้องเดียวกับชายหนุ่มก็ทำให้เธอได้อุ่นใจขึ้นมาหน่อยว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องกับเธอด้วยเผื่
“ออกไป”อิทธิกรรำคาญที่จะฟังคำส่อเสียดของหญิงสาวเต็มทนเลยไล่เธอออกไปอย่างไม่ใยดีตอนนี้หัวใจเขามันไม่ได้โหยหาหญิงสาวที่ทิ้งเขาไปเลยสักนิดเมื่อหญิงสาวมาหาเขาก็ดีอย่างหนึ่งซึ่งมันทำให้เขาได้รู้ว่าเขาสามารถตัดใจจากเธอได้แล้วจริงๆยิ่งคิดถึงวีรกรรมที่เธอทำไว้กับเขามันก็ยิ่งทำให้เขานั้นอยากจะลืมเธอมากขึ้นนั่นเอง“กิ่งก็ไม่ได้อยากอยู่นานนักหรอกค่ะขอตัว”กรกนกก็ไม่ได้อยากมาที่นี่ให้เสียเวลาเธอนักหรอกที่มาก็เพราะว่าเธออยากจะแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่ที่พึ่งคบกันได้อย่างสบายใจต่างหาก“คุณอิทคะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”หลังจากที่อินทิราเห็นหญิงสาวรีบเดินออกไปจากบ้านอย่างรีบร้อนเธอเองก็รีบเข้ามาดูอาการของชายหนุ่มทันทีกลัวว่าเขาจะหันกลับมาคิดเรื่องเดิมๆอีกสิ่งที่เธอเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ก็คือความรู้สึกของชายหนุ่มเธอไม่อยากให้เขากลับไปเศร้าเหมือนเดิม“ไม่ฉันไม่เป็นอะไรเธอออกไปเถอะ”อิทธิกรมีสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เล็กน้อยเพราะยังรู้สึกไม่พอใจกรกนกอยู่ที่กล้ามาเย้ยหันเขาถึงที่นี่เลยอยากจะอยู่คนเดียวสงบอารมณ์ของตัวเองเสียก่อนเขาไม่อยากให้หญิงสาวเป็นห่วง“ไม่ค่ะออมไม่ไปเมื่อกี้แฟนเก่าคุณเค้ามาคุยอะไรกับคุณเหรอค
“คือ...พลอยไม่รู้ค่ะ...คือ...ที่พี่ภาคย์ช่วยพลอยเพราะพี่ภาคย์อยากให้พลอยพูดเรื่องออมใช่ไหมคะ”เรื่องที่ชายหนุ่มถามมาเธอเองไม่สามารถตอบได้จริงๆพร้อมทั้งยังนึกน้อยใจที่เรื่องของอินทิราเพื่อนสาวของเธอคงจะเป็นคือสาเหตุที่ชายหนุ่มยื่นมือมาช่วยเธอ“ยังจะโกหกพี่อีกเหรอพลอย...ใช่เรื่องออมพี่อยากให้พลอยบอกพี่ว่าเธออยู่ไหนทำอะไรแค่นี้พี่ขอให้พลอยช่วยแค่นี้จะได้ไหม”ด้วยความมึนเมาและโทสะที่มีต่อหญิงสาวบ้างเล็กน้อยแล้วชายหนุ่มจึงเข้าไปบีบแขนหญิงสาวอย่างรุนแรงพร้อมพูดกับเธออย่างเคืองใจเขารู้มานานแล้วว่าเธอรู้ตั้งแต่คืนที่เขาไปส่งเธอวันนั้นแต่เขารอเวลาที่หญิงสาวจะเห็นใจและยอมบอกเรื่องอินทิรากับเขาบ้างแต่เธอก็ยังปากแข็งไม่ยอมบอกอยู่ดี“...ขอเป็นเรื่องอื่นได้ไหมคะ...ความจริงมีบางอย่างที่พลอยอยากจะพูดกับพี่ภาคย์มานานแล้วก็คือออมเค้าไม่เคยคิดเกินเลยกับพี่ภาคย์ออมเห็นพี่ภาคย์เป็นแค่พี่ชายคนนึงเท่านั้น”เรื่องนี้หญิงสาวไม่สามารถที่จะช่วยเหลือคนตรงหน้าได้จริงๆพร้อมทั้งยังทำใจบอกเรื่องที่เขานั้นสมควรจะได้รู้จะได้ไม่ต้องหวังอะไรลมๆแล้งๆแบบนี้อีกมันจะทำให้ชายหนุ่มนั้นเจ็บอยู่ฝ่ายเดียวเปล่าๆ“พี่รู้แต่พี่คิดว
“อึก..ฮือๆ”พรณภัทร์วิ่งหนีไปปาดน้ำตาไปตอนนี้เธอไม่อยากจะมองหน้าชายหนุ่มให้ความรู้สึกมันเสียไปมากกว่านี้แล้วยังไงเธอก็ไม่ยอมอยู่ที่นี่ต่อไปเด็ดขาดถึงแม้หนทางข้างหน้าเธอจะลำบากกว่าอยู่ที่นี่หลายเท่าเธอก็ยอม“พลอย..เดี๋ยว..หยุดก่อน”“ฮึก..ฮือๆๆ”พรณภัทร์ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะตามเธอลงมาเร็วขนาดนี้ตอนนี้ในหัวหญิงสาวคิดได้อย่างเดียวคือวิ่งหนีให้พ้นจากคนใจร้ายให้เร็วที่สุดสายตาของเธอตอนนี้พร่ามัวไปหมดเพราน้ำตาที่มันคลอเอ่อล้นออกมาอย่างไม่ขาดสายนั่นเอง“พลอยระวัง”“อ๊ายยยยย”เอี๊ยดดดด…ปั้งงงงงง“ม่ายยยย”ภัคดนัยถึงกับใจหายวาเมื่อหญิงสาวที่กำลังวิ่งหนีข้ามถนนอยู่นั้นจู่ๆก็มีรถเก๋งวิ่งมาด้วยความเร็วเขาจึงร้องทักให้เธอระวังแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วร่างของหญิงสาวกระเด็นลอยลิ่วไปต่อหน้าต่อตาของเขาอย่างที่เขาช่วยเหลืออะไรเธอไม่ได้โรงพยาบาล“ผมจะผ่าตัดให้เธอเอง”จากอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้หญิงสาวกระดูกหักหลายส่วนและที่กระทบกระเทือนและบาดเจ็บมากที่สุดก็คงจะเป็นส่วนหัวชายหนุ่มยังถือว่าโชคดีอยู่บ้างที่อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ได้พรากชีวิตของหญิงสาวไปเลยไม่อย่างนั้นเขาคงจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตตอนนี้เขาเองก็ทำได้