“ไม่ต้องเกรงใจหรอกไปเถอะ”
ภัคดนัยได้ยินว่าหญิงสาวเกรงใจก็รีบดึงมือเธอไปที่รถของเขาที่จอดไว้หน้าบ้านแล้วเปิดประตูดันตัวหญิงสาวเข้าไปนั่งที่ข้างเบาะคนขับพร้อมสตาร์ทรถและขับออกไปทันที
“พี่ภาคย์..จอดรถทำไมคะ”
พรณภัทร์เห็นว่าจู่ๆชายหนุ่มก็จอดรถข้างทางเสียอย่างนั้นเธอจึงต้องหันหน้าไปถามคนที่นั่งข้างๆด้วยความสงสัย
“พี่มีเรื่องจะถามพลอย”
ภัคดนัยหันมามองหน้าหญิงสาวจริงจังเพราะตอนนี้เขาอยากจะฟังเรื่องที่อยากรู้เป็นที่สุด
“ถาม??..เรื่องอะไรคะ”
พรณภัทร์เริ่มใจเต้นเร็วกลัวว่าเรื่องที่ชายหนุ่มจะถามจะเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากจะตอบน่ะสิ
“ออมติดต่อพลอยมาบ้างหรือเปล่าพี่ถามยัยพีคก็ไม่เห็นจะรู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยพี่รู้ว่าพลอยจะไม่โกหกพี่”
ภัคดนัยถามหญิงสาวด้วยสีหน้าที่จริงจังพร้อมย้ำจุดอ่อนของเธอที่เขารู้ดี
“เอ่อ..ไม่รู้ค่ะออมไม่ได้ติดต่อมาหาพลอยเหมือนกัน”
และแล้วคำถามของชายหนุ่มก็เป็นไปอย่างที่หญิงสาวคิดตอนนี้เธอตอบกลับชายหนุ่มโดยที่ไม่มองหน้าของเขาเพราะความรู้สึกผิดในใจที่ต้องโกหกแต่เธอก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับอินทิราเหมือนกันว่าห้ามให้คนอื่นรู้เด็ดขาดนอกจากเธอและพีรยา
“อืม...ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรถ้าได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับออมบอกพี่ด่วนเลยนะ”
ภัคดนัยย้ำกับหญิงสาวว่าถ้าหากรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับอินทิราให้บอกเขาด่วนพร้อมจับจ้องไปที่อาหารของหญิงสาวตาเขม็งครู่หนึ่งจึงหันกลับไปใส่เกียร์เหยียบคันเร่งออกจากที่จอดอยู่ทันที
“เอ่อ..ค่ะ”
พรณภัทร์เห็นชายหนุ่มหันไปขับรถก็โล่งใจคิดว่าเขาจะเค้นถามอะไรเธอต่อเสียอีก
“เดี๋ยวพี่ภาคย์จอดด้านหน้าก็ได้ค่ะพอดีพลอยจะหาซื้ออะไรก่อนเข้าบ้านด้วยค่ะ”
“โอเค”
เมื่อชายหนุ่มจอดรถเรียบร้อยแล้วพรณภัทร์ก็เดินดุ่มๆเข้าร้านสะดวกซื้อแถวนั้นทันที
“เฮ้อ...โล่งอก”
หญิงสาวเดินถอนหายใจไปเลือกซื้อของใช้จำเป็นกลับห้องเธออย่างสบายใจอันที่จริงตอนนี้เฮไมได้อยู่บ้านหลังใหญ่หลังเดิมแล้วเธอหนีออกมาอยู่ข้างนอกเพราะพ่อเลี้ยงของเธอจ้องจะขายเธอใช้หนี้เพราะเธอรู้ก่อนจากการที่พ่อเลี้ยงของเธอติดต่อกับใครบางคนทางโทรศัพท์ดีที่เธอไหวตัวทันจึงหนีอออกมาก่อน
“จะไปไหนของเค้านะ”
อันที่จริงที่เขาอ้างว่าจะมาข้างนอกก็เพราะอยากจะคุยกับหญิงสาวเรื่องอินทิรามากกว่าหลังจากที่หญิงสาวเข้าร้านสะดวกซื้อไปแล้วภัคดนัยนั่งคิดอะไรเพลินๆครู่หนึ่งจึงยังไม่ได้ขับรถกลับเมื่อเห็นหญิงสาวเดินออกจากร้านและเดินผิดทางกับทางกลับบ้านของเธอจึงนึกสงสัยจึงค่อยๆขับรถตามเธอมาเรื่อยๆโดยที่ไม่ให้เธอรู้ตัว
“คุณพ่อ!!”
พรณภัทร์ถึงกับชะงักการเดินเมื่อจู่ๆคนที่เธอไม่อยากให้มาเจอดันมาเดินดักอยู่ตรงหน้าเธอเสียอย่างนั้นอีกทั้งยังมีลูกน้องของคนตรงหน้ามารวบตัวเธอเอาไว้อีกด้วย
“จะไปไหนนังอกตัญญูอุตส่าห์เลี้ยงมาจนโตอย่างดีจะขายใช้หนี้เสียหน่อยกลับหนีมาซะงั้น”
ทรงเดชมองหน้าลูกเลี้ยงของเขาอย่างโมโหที่เขาต้องทะเลาะกับเจ้าหนี้ก็เพราะลูกเลี้ยงของเขาคนเดียวที่หนีออกมาจากบ้านกะทันหัน
“คุณพ่อปล่อยพลอยนะคะพลอยไม่ยอมขายตัวใช้หนี้แน่นอน”
พรณภัทร์จะไม่ยอมเอาตัวเองไปขัดดอกใครง่ายๆเธอจะสู้จนสุดแรงเกิดพร้อมดิ้นให้หลุดจากพันธนาการของผู้ชายด้านหลังของเธอที่รวบแขนเธอเอาไว้
“กล้ากับฉันก็ลองดู”
ทรงเดชบันดาลโทสะเตรียมเงื้อมือจะฟาดไปที่หน้าลูกเลี้ยงของเขาแต่จู่ๆก็มีใครบางคนมากันตัวเธอเอาไว้
“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะทำไมต้องทำกับลูกคุณแบบนี้ด้วยคุณทรงเดช”
“พี่ภาคย์”
ภัคดนัยอยู่เฉยไม่ได้เมื่อเห็นว่าหญิงสาวถูกกระทำแบบนี้เขาจำต้องเข้าไปช่วยเธอขัดขวางพ่อเลี้ยงที่กำลังจะทำร้ายลูกเลี้ยงอย่างป่าเถื่อนเยี่ยงนี้
“ก็นังนี่มันอกตัญญูจะเอาไปขัดดอกเสียหน่อยกลับหนีออกจากบ้าน”
“คุณจะทำกับเธอเป็นผักเป็นปลาแบบนี้ไม่ได้นะครับ”
“ทำไมผมจะทำไม่ได้ผมอุตส่าห์เลี้ยงมันมาอย่างดิบอย่างดีส่งให้เรียนสูงๆถึงเวลามันก็ต้องตอบแทนผมบ้าง”
ทั้งสองฉะกันเสียงฝาดอย่างไม่มีใครยอมใครหญิงสาวที่มองดูอยู่ก็ทำได้แต่ร้องให้สะอื้นทำอะไรไม่ได้
“อยากได้เท่าไรเดี๋ยวผมจะจ่ายให้แต่พลอยต้องไปอยู่กับผม”
ภัคดนัยเห็นว่าปัญหาเรื่องนี้มันเกิดมาจากเงินมันก็ควรจะจบที่เงินเขาไม่อยากเห็นคนดีๆอย่างพรณภัทร์ที่เขารู้จักมานานถูกพ่อเลี้ยงกระทำกับเธอเช่นนี้จึงสงบสติอารมณ์แล้วลากทรงเดชไปคุยให้ห่างจากหญิงสาวให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้เธอรู้ว่าเขาจะเจรจาเรื่องอะไรเพราะถ้าหญิงสาวรู้เธอก็คงไม่ยอมให้เขาช่วยเป็นแน่
“พูดแบบนี้ค่อยคุยกันง่ายหน่อย 10 ล้าน”
ทรงเดชถึงกับยอมอ่อนลงเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าพร้อมที่จะจ่ายให้เขา
“พรุ่งนี้ให้คนไปหาผมที่นี่แล้วผมจะจ่ายให้”
“พวกแกปล่อยตัวมัน”
ที่ทรงเดชยอมปล่อยตัวลูกเลี้ยงของเขาไปง่ายๆเพราะรู้ว่าคนระดับภัคดนัยนามสกุลดังแบบนี้เงินแค่นี้เขาไม่เบี้ยวแน่นอน
หลังจากทรงเดชปล่อยตัวพรณภัทร์เรียบร้อยแล้วภัคดนัยก็เข้ามาปลอบหญิงสาวจนหายตกใจแล้วพาเธอกลับไปขึ้นรถของเขา
“ขอบคุณนะคะพี่ภาคย์ที่ช่วยพลอย...แล้วทำยังไงคะพ่อพลอยถึงยอมปล่อยพลอยมาได้”
พรณภัทร์ต้องรีบขอบคุณชายหนุ่มที่เข้ามาช่วยเธอได้ทันเวลาอีกด้วยแต่ก็ยังสงสัยเล็กน้อยว่าชายหนุ่มไปคุยอะไรกับพ่อเลี้ยงของเธอจึงได้ยอมปล่อยตัวเธอมาง่ายดายขนาดนั้น
“พี่ก็แค่ขู่ว่าจะแจ้งความ...ตอนนี้พลอยก็อยู่คอนโดพี่ไปก่อนจะได้ปลอดภัย”
ภัคดนัยไม่อยากให้หญิงสาวรู้ว่าเขาช่วยเหลือเธอด้วยเงินจำนวนมากเพราะรู้ว่าหญิงสาวเป็นคนที่ค่อนข้างขี้เกรงใจคนเธอเป็นคนดีแบบนี้เขาจึงอยากจะช่วยอีกอย่างเงินแค่นั้นมันก็ไม่ได้ทำให้เขาจนลงแม้แต่น้อย
พร้อมทั้งคิดว่าให้เธอไปอยู่ในที่ของเขาจะดีกว่าจะได้ปลอดภัยกับตัวของหญิงสาวด้วย
“แต่ว่า”
พรณภัทร์จำต้องเอ่ยปากที่จะปฏิเสธเพราะแค่ชายหนุ่มช่วยเธอให้รอดจากพ่อเลี้ยงเธอวันนี้ก็มากมายแล้ว
“ไม่มีแต่ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้รู้ถึงหูยัยพีคแน่นอน”
“ก็ได้ค่ะ”
ภัคดนัยรู้ว่าหญิงสาวต้องปฏิเสธอยู่แล้วจึงจำต้องเอ่ยชื่อน้องสาวของเขามาขู่เธอเอาไว้ก่อนเพราะเขารู้ว่าวิธีนี้มันได้ผลเขารีบขับรถไปส่งเธอที่คอนโดเพื่อที่หญิงสาวจะได้พักผ่อนแล้วก็ออกไปหาความสำราญท่องราตรีของเขานิดหน่อยตามประสาผู้ชายโสดเช้าวันต่อมา
ไร่แก้วกัลยา07.30 น.“คุณอิทคะตื่นค่ะวันนี้หมอมาตรวจแต่เช้านะคะ”อินทิราเดินเข้าไปปลุกชายหนุ่มที่กำลังหลับไมยอมตื่นขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าล้างตาเสียทีทั้งที่เธอทำอาหารเช้ารอเอาไว้แล้วอีกอย่างอรุณาก็บอกกับเธอว่าหมอจะมาตรวจชายหนุ่มในช่วงเช้าด้วย“ขออีกนิดนะฉันกำลังหลับสบายเลย”อิทธิกรยังรู้สึกว่าไม่อยากตื่นเขาจึงพลิกตัวและเอาผ้าห่มคลุมหัวหนีหญิงสาวที่ส่งเสียงดังแสบแก้วหูเรียกเขาปาวๆอยู่“ไม่ได้ค่ะคุณอิทต้องลุกมาอาบน้ำแต่งตัวทานอาหารเช้าให้ตรงเวลานะคะ”อินทิราเองก็ไม่ยอมง่ายๆยังไงเธอก็ต้องปลุกเข้าให้ลุกขึ้นมาให้ได้“โอเคๆ...ถ้าฉันไม่ลุกก็คงจะต้องทนฟังเสียงแหลมๆของเธอสินะ”อิทธิกรจำต้องดีดตัวลุกขึ้นมาเพราะเริ่มรำคาญหญิงสาวและมีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้วเขาไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ดีที่หญิงสาวอยู่ที่นี่บางทีก็ทำตัวให้เขาหายเหงาบางทีก็ทำตัวน่ารำคาญ“ก็คุณอิทไม่ยอมลุกเองนี่คะ”อินทิราบ่นอู้อี้เล็กน้อยที่เช้านี้เธอโดนชายหนุ่มดุแต่เช้าอีกแล้วเธอก็เพียงแค่ทำหน้าที่ของเธอก็เท่านั้นหลังจากที่อิทธิกรทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วอินทิราก็พาชายหนุ่มเข้าไปในห้องตามความต้องการของเขาไม่นานหมอก็มาตรวจพอดีหญิงสา
“ใช่ๆจริงๆด้วยค่ะ”อินทิราเห็นหญิงในรูปเล็กๆก็จำได้ทันทีว่าเป็นคนเดียวกับคนที่เข้ามาหาและมาคุยกับเธอ“นี่คุณยายฉันเองท่านเป็นเจ้าของไร่นี้...แต่ท่านเสียไปสี่ห้าปีแล้วนะ”อิทธิกรเริ่มอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยแล้วที่รู้ว่าหญิงสาวเจอกับอะไร“คะ!!!...”จากคำบอกเล่าของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวยืนตัวเกร็งชาวาบขนลุกซู่ไปทั้งตัว“ท่านคงจะเอ็นดูเธอ”อิทธิกรยังไม่หยุดที่จะพูดเล่นกับเธอ“เอ่อ..คุณอิทคะคืนนี้ออมขอนอนด้วยได้ไหมคะ...นะคะเดี๋ยวออมนอนข้างล่างก็ได้แต่ขอเปิดไฟที่โคมไฟไว้นะคะ”ด้วยความที่ตาขาวเรื่องนี้อย่างมากอินทิราจึงจำใจต้องมาขอนอนห้องเดียวกับชายหนุ่มเกิดมาไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอเรื่องที่ทำให้เอขนหัวลุกได้ขนาดนี้“ฮ่าๆๆ...นี่เธอก็ตาขาวเหมือนกันนะอยากนอนก็นอนอย่ามาลักหลับฉันก็แล้วกัน”ความรู้สึกของชายหนุ่มตอนนี้รู้ได้เลยว่าหญิงสาวคงกลัวหัวหดอีกทั้งยังไม่ยอมหยุดที่จะพูดแซวเธออีกด้วย“พูดอะไรของคุณอิท...ออมไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ”อินทิราหน้ามุ่ยอีกรอบที่เวลานี้ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดที่จะแกล้งแซวเธออย่างน้อยการที่ได้นอนห้องเดียวกับชายหนุ่มก็ทำให้เธอได้อุ่นใจขึ้นมาหน่อยว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องกับเธอด้วยเผื่
“ออกไป”อิทธิกรรำคาญที่จะฟังคำส่อเสียดของหญิงสาวเต็มทนเลยไล่เธอออกไปอย่างไม่ใยดีตอนนี้หัวใจเขามันไม่ได้โหยหาหญิงสาวที่ทิ้งเขาไปเลยสักนิดเมื่อหญิงสาวมาหาเขาก็ดีอย่างหนึ่งซึ่งมันทำให้เขาได้รู้ว่าเขาสามารถตัดใจจากเธอได้แล้วจริงๆยิ่งคิดถึงวีรกรรมที่เธอทำไว้กับเขามันก็ยิ่งทำให้เขานั้นอยากจะลืมเธอมากขึ้นนั่นเอง“กิ่งก็ไม่ได้อยากอยู่นานนักหรอกค่ะขอตัว”กรกนกก็ไม่ได้อยากมาที่นี่ให้เสียเวลาเธอนักหรอกที่มาก็เพราะว่าเธออยากจะแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่ที่พึ่งคบกันได้อย่างสบายใจต่างหาก“คุณอิทคะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”หลังจากที่อินทิราเห็นหญิงสาวรีบเดินออกไปจากบ้านอย่างรีบร้อนเธอเองก็รีบเข้ามาดูอาการของชายหนุ่มทันทีกลัวว่าเขาจะหันกลับมาคิดเรื่องเดิมๆอีกสิ่งที่เธอเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ก็คือความรู้สึกของชายหนุ่มเธอไม่อยากให้เขากลับไปเศร้าเหมือนเดิม“ไม่ฉันไม่เป็นอะไรเธอออกไปเถอะ”อิทธิกรมีสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เล็กน้อยเพราะยังรู้สึกไม่พอใจกรกนกอยู่ที่กล้ามาเย้ยหันเขาถึงที่นี่เลยอยากจะอยู่คนเดียวสงบอารมณ์ของตัวเองเสียก่อนเขาไม่อยากให้หญิงสาวเป็นห่วง“ไม่ค่ะออมไม่ไปเมื่อกี้แฟนเก่าคุณเค้ามาคุยอะไรกับคุณเหรอค
“คือ...พลอยไม่รู้ค่ะ...คือ...ที่พี่ภาคย์ช่วยพลอยเพราะพี่ภาคย์อยากให้พลอยพูดเรื่องออมใช่ไหมคะ”เรื่องที่ชายหนุ่มถามมาเธอเองไม่สามารถตอบได้จริงๆพร้อมทั้งยังนึกน้อยใจที่เรื่องของอินทิราเพื่อนสาวของเธอคงจะเป็นคือสาเหตุที่ชายหนุ่มยื่นมือมาช่วยเธอ“ยังจะโกหกพี่อีกเหรอพลอย...ใช่เรื่องออมพี่อยากให้พลอยบอกพี่ว่าเธออยู่ไหนทำอะไรแค่นี้พี่ขอให้พลอยช่วยแค่นี้จะได้ไหม”ด้วยความมึนเมาและโทสะที่มีต่อหญิงสาวบ้างเล็กน้อยแล้วชายหนุ่มจึงเข้าไปบีบแขนหญิงสาวอย่างรุนแรงพร้อมพูดกับเธออย่างเคืองใจเขารู้มานานแล้วว่าเธอรู้ตั้งแต่คืนที่เขาไปส่งเธอวันนั้นแต่เขารอเวลาที่หญิงสาวจะเห็นใจและยอมบอกเรื่องอินทิรากับเขาบ้างแต่เธอก็ยังปากแข็งไม่ยอมบอกอยู่ดี“...ขอเป็นเรื่องอื่นได้ไหมคะ...ความจริงมีบางอย่างที่พลอยอยากจะพูดกับพี่ภาคย์มานานแล้วก็คือออมเค้าไม่เคยคิดเกินเลยกับพี่ภาคย์ออมเห็นพี่ภาคย์เป็นแค่พี่ชายคนนึงเท่านั้น”เรื่องนี้หญิงสาวไม่สามารถที่จะช่วยเหลือคนตรงหน้าได้จริงๆพร้อมทั้งยังทำใจบอกเรื่องที่เขานั้นสมควรจะได้รู้จะได้ไม่ต้องหวังอะไรลมๆแล้งๆแบบนี้อีกมันจะทำให้ชายหนุ่มนั้นเจ็บอยู่ฝ่ายเดียวเปล่าๆ“พี่รู้แต่พี่คิดว
“อึก..ฮือๆ”พรณภัทร์วิ่งหนีไปปาดน้ำตาไปตอนนี้เธอไม่อยากจะมองหน้าชายหนุ่มให้ความรู้สึกมันเสียไปมากกว่านี้แล้วยังไงเธอก็ไม่ยอมอยู่ที่นี่ต่อไปเด็ดขาดถึงแม้หนทางข้างหน้าเธอจะลำบากกว่าอยู่ที่นี่หลายเท่าเธอก็ยอม“พลอย..เดี๋ยว..หยุดก่อน”“ฮึก..ฮือๆๆ”พรณภัทร์ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะตามเธอลงมาเร็วขนาดนี้ตอนนี้ในหัวหญิงสาวคิดได้อย่างเดียวคือวิ่งหนีให้พ้นจากคนใจร้ายให้เร็วที่สุดสายตาของเธอตอนนี้พร่ามัวไปหมดเพราน้ำตาที่มันคลอเอ่อล้นออกมาอย่างไม่ขาดสายนั่นเอง“พลอยระวัง”“อ๊ายยยยย”เอี๊ยดดดด…ปั้งงงงงง“ม่ายยยย”ภัคดนัยถึงกับใจหายวาเมื่อหญิงสาวที่กำลังวิ่งหนีข้ามถนนอยู่นั้นจู่ๆก็มีรถเก๋งวิ่งมาด้วยความเร็วเขาจึงร้องทักให้เธอระวังแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วร่างของหญิงสาวกระเด็นลอยลิ่วไปต่อหน้าต่อตาของเขาอย่างที่เขาช่วยเหลืออะไรเธอไม่ได้โรงพยาบาล“ผมจะผ่าตัดให้เธอเอง”จากอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้หญิงสาวกระดูกหักหลายส่วนและที่กระทบกระเทือนและบาดเจ็บมากที่สุดก็คงจะเป็นส่วนหัวชายหนุ่มยังถือว่าโชคดีอยู่บ้างที่อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ได้พรากชีวิตของหญิงสาวไปเลยไม่อย่างนั้นเขาคงจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตตอนนี้เขาเองก็ทำได้
“แล้วออมไปอยู่ที่ไหนมา”ภัคดนัยถามหญิงสาวเสียงอ่อนตอนนี้เขาอยากรู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหนมาเพราะความเป็นห่วง“ออมต้องไปดูแลผู้ชายคนนึงตอนนี้เค้าตามองไม่เห็นเมื่อเขาหายดีเมื่อไรเราก็จะแต่งงานกันค่ะ”อินทิราตัดสินใจพูดเรื่องที่เธอต้องไปอยู่ที่ไหนทำอะไรให้ชายหนุ่มได้ฟังเพื่อที่เขานั้นจะได้เลิกหวังลมๆแล้งๆกับเธอเสียที“พี่ดีใจกับออมด้วยนะ..แล้วก็ขอโทษที่บางทีพี่ก็ทำให้ออมลำบากใจตอนนี้พี่รู้แล้วว่าพี่ไม่มีวันที่จะได้ใจออมมาจริงๆ”ตอนนี้ชายหนุ่มรู้ตัวจริงๆแล้วว่ายังไงก็ไม่สามารถคว้าหัวใจของอินทิรามาได้แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นแล้วตอนนี้ในใจของเขาที่ห่วงสุดๆก็คือพรณภัทร์พร้อมยิ้มินดีกับอินทิราที่เธอกำลังจะมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข“ถึงเราจะไม่ได้รักกันในฐานะคนรักแต่ออมก็รักและเคารพพี่ภาคย์เป็นพี่ชายเสมอนะคะ”อินทิราดีใจและโล่งอกที่ชายหนุ่มตรงหน้าเธอนั้นเข้าใจเธอดีแล้วถึงเธอกับเขาจะไม่ได้รักกันในฐานะคนรักแต่ด้วยความผูกพันธ์ที่รู้จักกันมานานทำให้เธอเคารพภัคดนัยเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น“งั้นพี่ขอกอดออมในฐานะน้องสาวก็แล้วกันและก็ขอเก็บความรู้สึกดีๆแบบนี้ตลอดไปได้ไหม”“ค่ะพี่ภาคย์”ภัคดนัยยิ้มอ่อนที
“แล้วอาการเป็นยังไงบ้าง”ชายหนุ่มถึงกับบดกรามกรอดเพราชื่อโรงพยาบาลที่หญิงสาวบอกมันตรงกับคำบอกเล่าของกรกนกเขาอยากจะรู้นักว่าที่เธอบอกไปเยี่ยมเพื่อนได้รู้อาการของเพื่อนเธอจริงๆหรือเปล่าเพราะไม่ใช่มัวแต่ขลุกอยู่กับผู้ชายตามที่เขาได้รู้มา“ก็ยังทรงๆอยู่ค่ะแต่เท่าที่ออมคุยกับพี่หมอที่ดูแลเพื่อนออมอยู่เค้าก็บอกว่าจะรักษาให้สุดความสามารถเลยค่ะออมเชื่อว่าไม่นานเพื่อนออมต้องหายแน่ๆ”อินทิราอมยิ้มอย่างพอใจที่เห็นว่าชายหนุ่มนั้นมีกะใจที่จะไถ่ถามอาการของเพื่อนเธอด้วยจึงบอกถึงอาการของเพื่อนสาวเธออย่างอารมณ์ดี“หึ่...ไปเยี่ยมเพื่อน...แต่ดูท่าทางจะไปเยี่ยมหมอมากกว่ามั้งถึงได้มีคนเห็นว่ากอดกับหมอหนุ่มจนถึงใจขนาดนั้น”น้ำเสียงที่ฟังดูหญิงสาวจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษมันทำให้เขาเริ่มโมโหเป็นพิเศษเหมือนกันคงจะอิ่มอกอิ่มใจมากที่ได้ไปกอดกกกับผู้ชายได้อย่างหน้าไม่อายที่โรงพยาบาลชายหนุ่มยังไม่รู้ตัวเองว่าอารมณ์แบบนี้คือเขากำลังหึงหญิงสาวอย่างหน้ามืดตามัวอยู่พักหลังมานี้หญิงสาวนอนกับเขาแทบทุกคืนบางคืนเธอก็กอดก่ายเขาอย่างไม่รู้ตัวทำให้ชายหนุ่มนอนข่มตาหลับได้ยากแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากปฏิเสธเธอออกไปเพรามันก็ทำให้ใจของเขา
“ฉันจะค่อยๆทำ”ชายหนุ่มกระซิบข้างหูหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเขารู้ว่าเธอยังไม่เคยกับเรื่องแปลกใหม่แบบนี้เขาจะพยายามทำให้เธอเจ็บน้อยที่สุดแม้ในใจตอนนี้อยากจะทำตามอารมณ์ที่มันพลุ่งพล่านอยู่มากก็ตามเมื่อทั้งคู่ปรับตัวเข้าหากันได้และหญิงสาวเองก็เริ่มที่จะลืมความเจ็บแล้วชายหนุ่มจึงร่ายบทรักอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดเสียงครางในห้องดังระงมของทั้งคู่สลับกันไปมาจนตอนนี้ผ่านไปค่อนคืนชายหนุ่มจึงยอมปล่อยหญิงสาวให้เธอได้พักผ่อนไปก่อนเพราะเห็นว่าเธอแทบจะไม่มีเสียงร้องและเรี่ยวแรงแล้วทั้งที่ในตัวของเขามันยังไม่หมดความต้องการด้วยเพราะเขาเองนั้นก็ห่างหายเรื่องแบบนี้มานานเช้าวันต่อมา07.30 น.บ้านโรจน์วินิจวรกุล“หายงอนพี่แล้วหรือไงถึงได้ลงมาทานข้าวพร้อมกันได้”ภัคดนัยนั่งทานอาหารเช้าที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้เขาทุกเช้าเขาเห็นวันนี้น้องสาวของเขาลงมาทานข้าวด้วยได้ก็ดีใจเพราะพอจะดูออกว่าน้องของเขาหายงอนบ้างแล้ว“ขี้เกียจงอนไม่รู้จะงอนไปทำไมในเมื่อพี่ชายพีคเป็นคนที่เข้าใจอะไรง่ายๆแล้ว”พีรยาทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้พร้อมทานอาหารตรงหน้าเธอรู้ว่าพี่ชายเธอปรับความเข้าใจกับอินทิราเรียบร้อยแล้วทำให้เธอหายห่วงเรื่องนี้ไ