“เย็นนี้เดี๋ยวแม่กับยัยเอมอยู่ทานข้าวด้วยนะ”
“ค่ะคุณแม่เดี๋ยวออมทำอาหารให้สุดฝีมือเลย”
อรุณาอยากจะอยู่ดูพฤติกรรมของทั้งสองเวลาอยู่ด้วยกันก่อนจะกลับไปเสียหน่อยว่ามันดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนเธอจะได้กลับไปทำงานของเธอได้อย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องห่วงทางนี้มากนัก
ช่วงเย็นของวัน
“นี่เราทำอาหารได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอหนูออม”
“ค่ะ...ออมชอบทำอาหารเลยรู้เมนูอาหารหลายอย่างแล้วก็ทำได้หลายอย่างด้วยวันหลังถ้าคุณแม่กับพี่เอมมาที่นี่อีกอยากทานอะไรบอกออมได้เลยนะคะ”
อินทิราหน้าบานเมื่อได้รับคำชมหลังจากที่ทำกับข้าวหลายอย่างมาวางไว้ที่โต๊ะอาหาร
“พูดอยู่นั่นจะทานกันได้รึยัง”
“คุณอิทหิวขนาดนั้นเลยหรือไงคะ”
หลังจากที่หญิงสาวพูดจบชายหนุ่มก็โพล่งคำบางคำออกมาอย่างขวานผ่าซากทำให้หญิงสาวต้องหุบยิ้มแล้วหันไปมองค้อนใส่ชายหนุ่มเล็กน้อยทั้งยังแอบพูดประชดเล็กน้อย
“งั้นก็ทานข้าวกันเถอะ”
อรุณาจำต้องรีบบอกให้ทุกคนทาน้าวกันได้ไม่เช่นนั้นสองคนนี้ดูท่าจะเถียงกันอีกยาวพร้อมส่ายหัวให้พ่อลูกชายตัวดีของเธอที่ปากพาหาเรื่องเสียจริง
“ออมนี่ก็เก่งเหมือนกันนะคุณแม่มาแค่วันเดียวก็เปลี่ยนอะไรได้เยอะขนาดนี้”
“แม่ก็ขอให้หนูออมทำให้ตาอิทดีขึ้นเร็ววันก็แล้วกันดีนะที่เราคิดไม่ผิด”
หลังจากทานอาหารเสร็จอรุณาและไอรดาก็มายืนคุยกันที่ระเบียงหน้าบ้านพร้อมเดินย่อยอาหารไปในตัวเวลาแค่วันสองวันที่อินทิรามาที่นี่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นถือว่า50%เลยก็ว่าได้ทั้งอรุณาและไอรดาต่างก็พอใจในผลลัพท์ของแผนของพวกเธอที่มันดูจะได้ผลเกินคาดถึงแม้จะมีบางอย่างที่พวกเธอรู้มามันผิดพลาดเล็กน้อยก็ตามแต่พวกเธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักแค่มีหญิงสาวมาดูแลอิทธิกรก็พอแล้ว
กรุงเทพมหานคร
20.00 น.
บ้านโรจน์วินิจวรกุล
“ฉันสงสารยัยออมจังเลยทำไมต้องทำตามใจคนใจร้ายแบบนั้นทุกอย่างด้วยนะ”
พีรยานั่งคุยกับเพื่อนสาวของเธออยู่ในห้องถึงเรื่องที่พวกเธอดีรับรู้มาหมาดๆเธอไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมอินทิราถึงได้ยอมทำอะไรตามใจคนบ้านนั้นไปเสียทุกอย่างไม่รู้ว่ามันเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของเพื่อนเธอนักหนา
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่ายัยออมรักและเคารพคุณอรดีจะตาย...แต่ฉันว่ามันก็ดีอย่างนะออมจะได้หลุดพ้นจากคนบ้านนั้นซะที”
พรณภัทร์รู้ดีว่าทำไมอินทิราจึงยอมแม่ใหญ่ของเอทุกอย่างแต่เธอก็เห็นว่าในเรื่องนี้มันก็มีเรื่องดีหนึ่งอย่างที่ทำให้เพื่อนสาวของเธอพ้นไปจากคนในบ้านที่คอยกดขี่ข่มเหงเพื่อนเธอ
“ก็จริงนะออมออกไปจากบ้านนั้นก็ดี...แต่ฉันก็ยังห่วงอยู่ดียัยออมจะต้องไปแต่งงานกับใครก็ไม่รู้จักแถมยังนิสัยดีหรือเปล่าก็ไม่รู้”
พีรยาเห็นด้วยกับเพื่อนสาวเธอที่พ้นไปจากคนบ้านนั้นแต่ก็ยังห่วงอยู่ดีว่าที่ที่เพื่อนสาวเธอไปอยู่แล้วจะต้องไปแต่งงานกับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันแล้วที่ที่เพื่อนเธอไปอยู่จะเค้าจะดีกับเพื่อนเธอขนาดไหน
“ก็ถ้าเพื่อนเราบอกโอเคก็คงโอเคแหละเห็นว่าแม่ว่าที่สามีกับน้องสาวของเขาก็ดีไม่ใช่หรือแกยังไงเราก็ต้องเคารพการตัดสินใจของยัยออมเราเป็นเพื่อนทำได้ก็แค่เป็นที่ปรึกษาที่ดีกับให้กำลังใจเท่านั้น”
พรณภัทร์รู้ว่าในเมื่อเพื่อนเธอตัดสินใจไปแล้วก่อนที่จะบอกพวกเธอเสียอีกตอนนี้ก็ทำได้แค่เป็นที่ปรึกษาเวลาที่เพื่อนเธอทุกข์ใจและก็คอยให้กำลังใจก็เท่านั้นไม่อยากจะบังคับหรือกดดันอะไรเพื่อนเธอเพราะเธอเองก็อยากให้อินทิราสบายใจทุกครั้งที่ได้คุยกับพวกเธอ
“เห้ออ...ชีวิตยัยออมนี่มันยิ่งกว่าละครเสียอีกนะ”
“อืมก็จริง”
สองสาวถอนหายใจพร้อมกันคิดถึงชีวิตของอินทิราที่ไม่มีเรื่องนั้นก็ต้องมีเรื่องนี้เข้ามาให้เป็นปัญหาอยู่เรื่อยไปทั้งเพื่อนของพวกเธอยังไม่ค่อยจยอมให้พวกเธอยื่นมือเข้าไปช่วยอีกต่างหาก
“แล้วนี่ที่บ้านแกมีปัญหาถ้าฉันพอจะช่วยอะไรก็บอกเลยนะ”
หลังจากที่คุยกันเรื่องอินทิราจบแล้วพีรยาก็นึกขึ้นได้ว่าเธอก็ยังคุยเรื่องปัญหาที่บ้านของพรณภัทร์ไม่จบเพราะเธอก็พึ่งจะรู้มาว่าธุรกิจที่บ้านของพ่อเลี้ยงพรณภัทร์กำลังมีปัญหาเรื่องเงินถ้าหากเรื่องนี้เธอไม่รู้เองแล้วมาเค้นถามเพื่อนเธอเพื่อนเธอก็คงจะไม่ยอมบอก
“ไม่ต้องหรอกแค่แกคอยอยู่ข้างๆฉันก็พอ”
พรณภัทร์อุตส่าห์ปิดเรื่องเงียบไม่บอกปัญหาทางบ้านให้พีรยารู้แต่เพื่อนเธอก็ดันไปรู้เองเสียอีกเธอไม่อยากให้เพื่อนเธอต้องคอยเป็นกังวลไปด้วยและไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากใครทั้งนั้นเพราะเธอเห็นว่าพ่อเลี้ยงเธอจะล้มละลายก็ดีแล้วเพราะพ่อเลี้ยงของเธอนั้นก็ไม่ได้ทำธุรกิจที่ขาวสะอาดสักเท่าไร
“แกนี่ก็อีกคนนะมีปัญหาอะไรไม่ค่อยจะบอกต้องให้ฉันรู้เอง”
พีรยาส่ายหัวให้กับความเกรงใจของเพื่อนเธออีกคน
“นี่ก็ดึกแล้วเดี๋ยวฉันขอตัวกลับก่อนนะ”
“เดี๋ยวฉันไปส่ง”
“ฉันกลับเองได้แค่นี้เองว่าจะหาซื้ออะไรทานก่อนถึงบ้านด้วย”
“โอเคแล้วเจอกันนะ”
พรณภัทร์ไม่อยากรบกวนให้เพื่อนเธอไปส่งเลยต้องบอกปัดไปเพราะที่พักของเธอก็ไม่ได้อยู่ห่างจากบ้านของพีรยามากมายเท่าไรนักนั่งแท็กซี่สิบกว่านาทีก็ถึง
“อ้าวพลอยจะกลับแล้วเหรอ”
“ค่ะ”
“พี่กำลังจะไปแถวนั้นคงผ่านบ้านพลอยพอดีเดี่ยวพี่ไปส่ง”
ภัคดนัยเห็นพรณภัทร์เดินลงมาจากห้องของน้องสาวของเขาชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวกำลังจะกลับจึงอาสาจะไปส่งเธอเพราะมีบางอย่างที่อยากจะคุยกับเธอด้วย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ภาคย์พลอยกลับเองได้ค่ะ”
พรณภัทร์รีบปฏิเสธชายหนุ่มด้วยการส่ายหัวหงึกหงักและพยายามเดินออกไปจากบ้านให้เร็วที่สุดเพราะเธอนั้นมีเรื่องที่ปิดบังชายหนุ่มอยู่จึงไม่อยากจะอยู่ใกล้กับเขาสักเท่าไร
“ไม่ไว้ใจพี่หรือไง”
“คะ...เปล่านะคะพลอยแค่เกรงใจ”
ภัคดนัยรับลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินประชิดตัวหญิงสาวขวางเธอเอาไว้ทันทีหญิงสาวเองจำต้องปฏิเสธเสียงแข็งว่าเธอไม่อยากให้เขาไปส่งเพราะว่าเกรงใจ
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกไปเถอะ”ภัคดนัยได้ยินว่าหญิงสาวเกรงใจก็รีบดึงมือเธอไปที่รถของเขาที่จอดไว้หน้าบ้านแล้วเปิดประตูดันตัวหญิงสาวเข้าไปนั่งที่ข้างเบาะคนขับพร้อมสตาร์ทรถและขับออกไปทันที“พี่ภาคย์..จอดรถทำไมคะ”พรณภัทร์เห็นว่าจู่ๆชายหนุ่มก็จอดรถข้างทางเสียอย่างนั้นเธอจึงต้องหันหน้าไปถามคนที่นั่งข้างๆด้วยความสงสัย“พี่มีเรื่องจะถามพลอย”ภัคดนัยหันมามองหน้าหญิงสาวจริงจังเพราะตอนนี้เขาอยากจะฟังเรื่องที่อยากรู้เป็นที่สุด“ถาม??..เรื่องอะไรคะ”พรณภัทร์เริ่มใจเต้นเร็วกลัวว่าเรื่องที่ชายหนุ่มจะถามจะเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากจะตอบน่ะสิ“ออมติดต่อพลอยมาบ้างหรือเปล่าพี่ถามยัยพีคก็ไม่เห็นจะรู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยพี่รู้ว่าพลอยจะไม่โกหกพี่”ภัคดนัยถามหญิงสาวด้วยสีหน้าที่จริงจังพร้อมย้ำจุดอ่อนของเธอที่เขารู้ดี“เอ่อ..ไม่รู้ค่ะออมไม่ได้ติดต่อมาหาพลอยเหมือนกัน”และแล้วคำถามของชายหนุ่มก็เป็นไปอย่างที่หญิงสาวคิดตอนนี้เธอตอบกลับชายหนุ่มโดยที่ไม่มองหน้าของเขาเพราะความรู้สึกผิดในใจที่ต้องโกหกแต่เธอก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับอินทิราเหมือนกันว่าห้ามให้คนอื่นรู้เด็ดขาดนอกจากเธอและพีรยา“อืม...ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรถ้าได้ข
ไร่แก้วกัลยา07.30 น.“คุณอิทคะตื่นค่ะวันนี้หมอมาตรวจแต่เช้านะคะ”อินทิราเดินเข้าไปปลุกชายหนุ่มที่กำลังหลับไมยอมตื่นขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าล้างตาเสียทีทั้งที่เธอทำอาหารเช้ารอเอาไว้แล้วอีกอย่างอรุณาก็บอกกับเธอว่าหมอจะมาตรวจชายหนุ่มในช่วงเช้าด้วย“ขออีกนิดนะฉันกำลังหลับสบายเลย”อิทธิกรยังรู้สึกว่าไม่อยากตื่นเขาจึงพลิกตัวและเอาผ้าห่มคลุมหัวหนีหญิงสาวที่ส่งเสียงดังแสบแก้วหูเรียกเขาปาวๆอยู่“ไม่ได้ค่ะคุณอิทต้องลุกมาอาบน้ำแต่งตัวทานอาหารเช้าให้ตรงเวลานะคะ”อินทิราเองก็ไม่ยอมง่ายๆยังไงเธอก็ต้องปลุกเข้าให้ลุกขึ้นมาให้ได้“โอเคๆ...ถ้าฉันไม่ลุกก็คงจะต้องทนฟังเสียงแหลมๆของเธอสินะ”อิทธิกรจำต้องดีดตัวลุกขึ้นมาเพราะเริ่มรำคาญหญิงสาวและมีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้วเขาไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ดีที่หญิงสาวอยู่ที่นี่บางทีก็ทำตัวให้เขาหายเหงาบางทีก็ทำตัวน่ารำคาญ“ก็คุณอิทไม่ยอมลุกเองนี่คะ”อินทิราบ่นอู้อี้เล็กน้อยที่เช้านี้เธอโดนชายหนุ่มดุแต่เช้าอีกแล้วเธอก็เพียงแค่ทำหน้าที่ของเธอก็เท่านั้นหลังจากที่อิทธิกรทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วอินทิราก็พาชายหนุ่มเข้าไปในห้องตามความต้องการของเขาไม่นานหมอก็มาตรวจพอดีหญิงสา
“ใช่ๆจริงๆด้วยค่ะ”อินทิราเห็นหญิงในรูปเล็กๆก็จำได้ทันทีว่าเป็นคนเดียวกับคนที่เข้ามาหาและมาคุยกับเธอ“นี่คุณยายฉันเองท่านเป็นเจ้าของไร่นี้...แต่ท่านเสียไปสี่ห้าปีแล้วนะ”อิทธิกรเริ่มอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยแล้วที่รู้ว่าหญิงสาวเจอกับอะไร“คะ!!!...”จากคำบอกเล่าของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวยืนตัวเกร็งชาวาบขนลุกซู่ไปทั้งตัว“ท่านคงจะเอ็นดูเธอ”อิทธิกรยังไม่หยุดที่จะพูดเล่นกับเธอ“เอ่อ..คุณอิทคะคืนนี้ออมขอนอนด้วยได้ไหมคะ...นะคะเดี๋ยวออมนอนข้างล่างก็ได้แต่ขอเปิดไฟที่โคมไฟไว้นะคะ”ด้วยความที่ตาขาวเรื่องนี้อย่างมากอินทิราจึงจำใจต้องมาขอนอนห้องเดียวกับชายหนุ่มเกิดมาไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอเรื่องที่ทำให้เอขนหัวลุกได้ขนาดนี้“ฮ่าๆๆ...นี่เธอก็ตาขาวเหมือนกันนะอยากนอนก็นอนอย่ามาลักหลับฉันก็แล้วกัน”ความรู้สึกของชายหนุ่มตอนนี้รู้ได้เลยว่าหญิงสาวคงกลัวหัวหดอีกทั้งยังไม่ยอมหยุดที่จะพูดแซวเธออีกด้วย“พูดอะไรของคุณอิท...ออมไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ”อินทิราหน้ามุ่ยอีกรอบที่เวลานี้ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดที่จะแกล้งแซวเธออย่างน้อยการที่ได้นอนห้องเดียวกับชายหนุ่มก็ทำให้เธอได้อุ่นใจขึ้นมาหน่อยว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องกับเธอด้วยเผื่
“ออกไป”อิทธิกรรำคาญที่จะฟังคำส่อเสียดของหญิงสาวเต็มทนเลยไล่เธอออกไปอย่างไม่ใยดีตอนนี้หัวใจเขามันไม่ได้โหยหาหญิงสาวที่ทิ้งเขาไปเลยสักนิดเมื่อหญิงสาวมาหาเขาก็ดีอย่างหนึ่งซึ่งมันทำให้เขาได้รู้ว่าเขาสามารถตัดใจจากเธอได้แล้วจริงๆยิ่งคิดถึงวีรกรรมที่เธอทำไว้กับเขามันก็ยิ่งทำให้เขานั้นอยากจะลืมเธอมากขึ้นนั่นเอง“กิ่งก็ไม่ได้อยากอยู่นานนักหรอกค่ะขอตัว”กรกนกก็ไม่ได้อยากมาที่นี่ให้เสียเวลาเธอนักหรอกที่มาก็เพราะว่าเธออยากจะแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่ที่พึ่งคบกันได้อย่างสบายใจต่างหาก“คุณอิทคะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”หลังจากที่อินทิราเห็นหญิงสาวรีบเดินออกไปจากบ้านอย่างรีบร้อนเธอเองก็รีบเข้ามาดูอาการของชายหนุ่มทันทีกลัวว่าเขาจะหันกลับมาคิดเรื่องเดิมๆอีกสิ่งที่เธอเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ก็คือความรู้สึกของชายหนุ่มเธอไม่อยากให้เขากลับไปเศร้าเหมือนเดิม“ไม่ฉันไม่เป็นอะไรเธอออกไปเถอะ”อิทธิกรมีสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เล็กน้อยเพราะยังรู้สึกไม่พอใจกรกนกอยู่ที่กล้ามาเย้ยหันเขาถึงที่นี่เลยอยากจะอยู่คนเดียวสงบอารมณ์ของตัวเองเสียก่อนเขาไม่อยากให้หญิงสาวเป็นห่วง“ไม่ค่ะออมไม่ไปเมื่อกี้แฟนเก่าคุณเค้ามาคุยอะไรกับคุณเหรอค
“คือ...พลอยไม่รู้ค่ะ...คือ...ที่พี่ภาคย์ช่วยพลอยเพราะพี่ภาคย์อยากให้พลอยพูดเรื่องออมใช่ไหมคะ”เรื่องที่ชายหนุ่มถามมาเธอเองไม่สามารถตอบได้จริงๆพร้อมทั้งยังนึกน้อยใจที่เรื่องของอินทิราเพื่อนสาวของเธอคงจะเป็นคือสาเหตุที่ชายหนุ่มยื่นมือมาช่วยเธอ“ยังจะโกหกพี่อีกเหรอพลอย...ใช่เรื่องออมพี่อยากให้พลอยบอกพี่ว่าเธออยู่ไหนทำอะไรแค่นี้พี่ขอให้พลอยช่วยแค่นี้จะได้ไหม”ด้วยความมึนเมาและโทสะที่มีต่อหญิงสาวบ้างเล็กน้อยแล้วชายหนุ่มจึงเข้าไปบีบแขนหญิงสาวอย่างรุนแรงพร้อมพูดกับเธออย่างเคืองใจเขารู้มานานแล้วว่าเธอรู้ตั้งแต่คืนที่เขาไปส่งเธอวันนั้นแต่เขารอเวลาที่หญิงสาวจะเห็นใจและยอมบอกเรื่องอินทิรากับเขาบ้างแต่เธอก็ยังปากแข็งไม่ยอมบอกอยู่ดี“...ขอเป็นเรื่องอื่นได้ไหมคะ...ความจริงมีบางอย่างที่พลอยอยากจะพูดกับพี่ภาคย์มานานแล้วก็คือออมเค้าไม่เคยคิดเกินเลยกับพี่ภาคย์ออมเห็นพี่ภาคย์เป็นแค่พี่ชายคนนึงเท่านั้น”เรื่องนี้หญิงสาวไม่สามารถที่จะช่วยเหลือคนตรงหน้าได้จริงๆพร้อมทั้งยังทำใจบอกเรื่องที่เขานั้นสมควรจะได้รู้จะได้ไม่ต้องหวังอะไรลมๆแล้งๆแบบนี้อีกมันจะทำให้ชายหนุ่มนั้นเจ็บอยู่ฝ่ายเดียวเปล่าๆ“พี่รู้แต่พี่คิดว
“อึก..ฮือๆ”พรณภัทร์วิ่งหนีไปปาดน้ำตาไปตอนนี้เธอไม่อยากจะมองหน้าชายหนุ่มให้ความรู้สึกมันเสียไปมากกว่านี้แล้วยังไงเธอก็ไม่ยอมอยู่ที่นี่ต่อไปเด็ดขาดถึงแม้หนทางข้างหน้าเธอจะลำบากกว่าอยู่ที่นี่หลายเท่าเธอก็ยอม“พลอย..เดี๋ยว..หยุดก่อน”“ฮึก..ฮือๆๆ”พรณภัทร์ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะตามเธอลงมาเร็วขนาดนี้ตอนนี้ในหัวหญิงสาวคิดได้อย่างเดียวคือวิ่งหนีให้พ้นจากคนใจร้ายให้เร็วที่สุดสายตาของเธอตอนนี้พร่ามัวไปหมดเพราน้ำตาที่มันคลอเอ่อล้นออกมาอย่างไม่ขาดสายนั่นเอง“พลอยระวัง”“อ๊ายยยยย”เอี๊ยดดดด…ปั้งงงงงง“ม่ายยยย”ภัคดนัยถึงกับใจหายวาเมื่อหญิงสาวที่กำลังวิ่งหนีข้ามถนนอยู่นั้นจู่ๆก็มีรถเก๋งวิ่งมาด้วยความเร็วเขาจึงร้องทักให้เธอระวังแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วร่างของหญิงสาวกระเด็นลอยลิ่วไปต่อหน้าต่อตาของเขาอย่างที่เขาช่วยเหลืออะไรเธอไม่ได้โรงพยาบาล“ผมจะผ่าตัดให้เธอเอง”จากอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้หญิงสาวกระดูกหักหลายส่วนและที่กระทบกระเทือนและบาดเจ็บมากที่สุดก็คงจะเป็นส่วนหัวชายหนุ่มยังถือว่าโชคดีอยู่บ้างที่อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ได้พรากชีวิตของหญิงสาวไปเลยไม่อย่างนั้นเขาคงจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตตอนนี้เขาเองก็ทำได้
“แล้วออมไปอยู่ที่ไหนมา”ภัคดนัยถามหญิงสาวเสียงอ่อนตอนนี้เขาอยากรู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหนมาเพราะความเป็นห่วง“ออมต้องไปดูแลผู้ชายคนนึงตอนนี้เค้าตามองไม่เห็นเมื่อเขาหายดีเมื่อไรเราก็จะแต่งงานกันค่ะ”อินทิราตัดสินใจพูดเรื่องที่เธอต้องไปอยู่ที่ไหนทำอะไรให้ชายหนุ่มได้ฟังเพื่อที่เขานั้นจะได้เลิกหวังลมๆแล้งๆกับเธอเสียที“พี่ดีใจกับออมด้วยนะ..แล้วก็ขอโทษที่บางทีพี่ก็ทำให้ออมลำบากใจตอนนี้พี่รู้แล้วว่าพี่ไม่มีวันที่จะได้ใจออมมาจริงๆ”ตอนนี้ชายหนุ่มรู้ตัวจริงๆแล้วว่ายังไงก็ไม่สามารถคว้าหัวใจของอินทิรามาได้แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นแล้วตอนนี้ในใจของเขาที่ห่วงสุดๆก็คือพรณภัทร์พร้อมยิ้มินดีกับอินทิราที่เธอกำลังจะมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข“ถึงเราจะไม่ได้รักกันในฐานะคนรักแต่ออมก็รักและเคารพพี่ภาคย์เป็นพี่ชายเสมอนะคะ”อินทิราดีใจและโล่งอกที่ชายหนุ่มตรงหน้าเธอนั้นเข้าใจเธอดีแล้วถึงเธอกับเขาจะไม่ได้รักกันในฐานะคนรักแต่ด้วยความผูกพันธ์ที่รู้จักกันมานานทำให้เธอเคารพภัคดนัยเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น“งั้นพี่ขอกอดออมในฐานะน้องสาวก็แล้วกันและก็ขอเก็บความรู้สึกดีๆแบบนี้ตลอดไปได้ไหม”“ค่ะพี่ภาคย์”ภัคดนัยยิ้มอ่อนที
“แล้วอาการเป็นยังไงบ้าง”ชายหนุ่มถึงกับบดกรามกรอดเพราชื่อโรงพยาบาลที่หญิงสาวบอกมันตรงกับคำบอกเล่าของกรกนกเขาอยากจะรู้นักว่าที่เธอบอกไปเยี่ยมเพื่อนได้รู้อาการของเพื่อนเธอจริงๆหรือเปล่าเพราะไม่ใช่มัวแต่ขลุกอยู่กับผู้ชายตามที่เขาได้รู้มา“ก็ยังทรงๆอยู่ค่ะแต่เท่าที่ออมคุยกับพี่หมอที่ดูแลเพื่อนออมอยู่เค้าก็บอกว่าจะรักษาให้สุดความสามารถเลยค่ะออมเชื่อว่าไม่นานเพื่อนออมต้องหายแน่ๆ”อินทิราอมยิ้มอย่างพอใจที่เห็นว่าชายหนุ่มนั้นมีกะใจที่จะไถ่ถามอาการของเพื่อนเธอด้วยจึงบอกถึงอาการของเพื่อนสาวเธออย่างอารมณ์ดี“หึ่...ไปเยี่ยมเพื่อน...แต่ดูท่าทางจะไปเยี่ยมหมอมากกว่ามั้งถึงได้มีคนเห็นว่ากอดกับหมอหนุ่มจนถึงใจขนาดนั้น”น้ำเสียงที่ฟังดูหญิงสาวจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษมันทำให้เขาเริ่มโมโหเป็นพิเศษเหมือนกันคงจะอิ่มอกอิ่มใจมากที่ได้ไปกอดกกกับผู้ชายได้อย่างหน้าไม่อายที่โรงพยาบาลชายหนุ่มยังไม่รู้ตัวเองว่าอารมณ์แบบนี้คือเขากำลังหึงหญิงสาวอย่างหน้ามืดตามัวอยู่พักหลังมานี้หญิงสาวนอนกับเขาแทบทุกคืนบางคืนเธอก็กอดก่ายเขาอย่างไม่รู้ตัวทำให้ชายหนุ่มนอนข่มตาหลับได้ยากแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากปฏิเสธเธอออกไปเพรามันก็ทำให้ใจของเขา