“เดี๋ยว...เธอนั่งรอฉันอยู่ในห้องฉันจะอาบน้ำสระผมแล้วเธอก็ต้องรอเช็ดผมให้ฉันเข้าใจใช่ไหม”
“เข้า..เข้าใจค่ะ”
อิทธิกรไม่ยอมปล่อยให้เธอไปไหนไกลเขายังอยากจะให้หญิงสาวที่บอกว่าอยากจะดูแลเขานักหนาให้เธอได้ดูแลเขาให้เบื่อกันไปข้างเลย
อินทิรากลับมานั่งที่ปลายเตียงของชายหนุ่มอย่างใจตุ๊มๆต่อมๆคิดว่าเธอจะต้องได้เจอเขาในสภาพเดียวกับวันนั้นแน่เลยก่อนที่เขาจะออกมาเธอต้องนั่งทำใจให้ชินกับเรื่องแบบนี้เสียก่อนจะได้ไม่ประหม่ามากมายนัก
30 นาทีต่อมา
“ออม”
“ขาคุณอิท”
อินทิรารีบวิ่งไปที่หน้าประตูห้องน้ำเมื่อได้ยินเสียงที่ชายหนุ่มเรียกเธอเมื่อครู่อย่างรวดเร็วเพราคิดว่าเขาต้องมีเรื่องให้เธอช่วยเป็นแน่
“หยิบผ้าขนหนูให้ฉันหน่อย”
“ฮือ!!...ทำไมไม่บอกก่อนหน้านี้กันนะ...ออมพาดไว้ที่ลูกบิดหน้าประตูห้องน้ำนะคะ”
หญิงสาวถึงกับคิ้วขมวดพร้อมนึกในใจว่าก่อนที่จะอาบน้ำเขาทำไมไม่เอาเข้าไปก่อนกันนะหญิงสาวหยิบผ้าขนหนูที่วางพับไว้หน้าห้องน้ำอย่างเป็นระเบียบมาหนึ่งผืนพร้อมพาดไว้ที่ลูกบิดประตูเพื่อให้ชายหนุ่มเปิดออกมาแล้วหยิบไปเองจะให้เธอเปิดประตูเอาเข้าไปให้ก็เกรงว่าจะหัวใจวายเสียก่อน
“โอเค”
แกร๊กกก
“หึ้ยย”
ยังไม่สิ้นเสียงตอบตกลงจู่ๆชายหนุ่มก็เปิดประตูออกมาเสียเร็วจนหญิงสาวหันหนีไม่ทันตอนนี้เธอจึงรีบสาวเท้ายาวๆมานั่งที่ปลายเตียงของเขาดังเดิม
“ออม”
อิทธิกรเปิดประตูห้องน้ำออกมาพร้อมเรียกหาหญิงสาวก่อนเป็นอันดับแรกว่าเธอยังอยู่ในห้องนี้อยู่อีกหรือเปล่า
“อยู่นี่ค่ะ”
อินทิรารีบเดินจูงมือชายหนุ่มมานั่งที่เก้าอี้โดยที่สายตาของเธอนั้นก็ไม่ค่อยจะกล้ามองร่างอันบึกบึนของคนตัวโตเท่าไรเธอหยิบผ้าขนหนูผืนใหม่มาห่มให้เขาพร้อมหยิบผืนเล็กมาเช็ดหัวอย่างทะมัดทะแมง
“เอาออกทำไมล่ะคะปิดไว้ค่ะ”
“ก็ฉันไม่อยากปิดนี่”
อิทธิกรรู้สึกรำคาญไอ้ผ้าที่หญิงสาวเอามาคลุมไว้ที่ไหล่ของเขาเลยดึงมันออกอินทิราจึงต้องหน้ามุ่ยที่เห็นชายหนุ่มทำแบบนั้นเธอจึงพยายามเช็ดหัวชายนุ่มให้มันแห้งเร็วๆเขาจะได้ไปแต่งตัวแล้วเธอก็จะได้ออกไปข้างนอกเสียที
“เรียบร้อยแล้วค่ะส่วนเสื้อผ้าคุณอิทออมวางไว้ให้ตรงนี้นะคะ”
“อืม”
อินทิราหยิบเสื้อผ้าของชายหนุ่มออกมาวางไว้ใกล้กับมือของเขาพร้อมเดินออกไปนั่งด้านนอกหาอะไรทำของเธอเรื่อยเปื่อย
“หนูออมเป็นยังไงบ้าง...นั่นแล้วหัวไปโดนอะไรมา”
อรุณาเดินเข้าบ้านมาด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสเพราะรู้มาจากแม่บ้านว่าอินทิรานั้นหักดิบหอบขวดน้ำเมาราคาแพงของลูกชายเธอออกมาทิ้งจนหมด
แต่สายตาก็ดันไปสะดุดกับหางคิ้วของหญิงสาวที่มันมีผ้าปิดแผลปิดอยู่จึงรีบเดินเข้าไปถามดูว่าแผลที่หางคิ้วหญิงสาวไปโดนอะไรมาด้วยความเป็นห่วง
“เอ่อ...อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะ”
อินทิราเองไม่กล้าที่จะบอกความจริงกับอรุณาเท่าไรเพรากลัวเรื่องมันจะยาวเลยโทษว่าเป็นความซุ่มซ่ามของเธอเองจะดีกว่า
“แน่ใจนะว่าไม่ใช่ฝีมือพี่อิท”
ไอรดามองหญิงสาวที่ตอบคำถามอึกๆอักๆก็พอจะเดาออกว่าคงจะไม่พ้นฝีมือพี่ชายเธออีกเป็นแน่
“ใช่..ฝีมือพี่เอง”
อิทธิกรได้ยินเสียงคุยกันอยู่ด้านนอกเลยเดินเปิดประตูออกมาบังเอิญได้ยินสิ่งที่ทั้งสามกำลังคุยกันพอดีเขาจึงยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่าแผลของหญิงสาวนั้นเกิดจากฝีมือของเขาเอง
“ตายแล้วตาอิททำไมต้องทำกับน้องขนาดนี้ด้วย”
อรุณามีสีหน้าและน้ำเสียงที่ดุขึ้นทันทีที่ลูกชายตัวเองมีหญิงสาวมาอยู่ด้วยไม่ทันไรก็ทำลูกสาวเค้าเจ็บตัวเสียแล้ว
“เอ่อ...คุณอิทไม่ได้ตั้งใจนะคะคุณแม่”
อินทิราเห็นว่าอรุณากำลังมีท่าทีที่ไม่พอใจเธอจึงรีบแก้ต่างให้ชายหนุ่มเพราะชายหนุ่มนั้นก็ได้ขอโทษเธอไปแล้วพร้อมไปเดินจูงมือชายหนุ่มมานั่งที่โซฟา
“ครับผมไม่ได้ตั้งใจ”
“ให้มันจริงเถอะแล้วนี่แผลลึกหรือเปล่าเนี่ยหนูออม”
“ไม่ค่ะนิดเดียวเอง”
ถึงจะรู้ว่าลูกชายตัวเองไม่ได้ตั้งใจแต่ก็ยังนึกโมโหอยู่ดีเธอคิดว่าน่าจะเป็นเพราเรื่องที่หญิงสาวยกเอาเครื่องดื่มของชายหนุ่มไปทิ้งหมดเป็นแน่
“ยังไงก็ทานยาแก้อักเสบไว้ด้วยล่ะ”
ไอรดายื่นยาสามัญชุดใหม่ที่เธอพึ่งซื้อมาให้หญิงสาวไม่คิดว่ามันจะบังเอิญที่หญิงสาวจะได้ใช้พอดี
“ค่ะพี่เอม”
“พรุ่งนี้หมอจะเข้ามาตรวจเราแต่เช้านะตาอิทเตรียมตัวด้วยล่ะแล้วแม่กับน้องก็จะกลับกรุงเทพแล้วด้วย”
“ครับคุณแม่”
ที่อรุณาและไอรดามาที่นี่ก็จะมาบอกเรื่องที่พรุ่งนี้พวกเธอจะกลับกันแล้วเพราว่ายังมีงานที่จะต้องสะสางกันอีกเยอะและเรื่องหมอที่จะเข้ามาตรวจลูกชายเธอพรุ่งนี้ด้วย
“เอ่อ...แล้วทรงผมใหม่นี่คงจะเป็นฝีมือหนูออมสินะค่อยดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย”
“ใช้วิธีไหนล่ะออมถึงได้จับคุณชายจอมเหวี่ยงมาปลงรูปใหม่ได้”
อรุณาและไอรดาพึ่งจะได้สังเกตทรงผมและโฉมหน้าของอิทธิกรชัดๆก็เมื่อครู่นี้เพราะมัวแต่สนใจแผลที่หางคิ้วของหญิงสาวอยู่ต่างคนก็แอบสงสัยว่าอินทิราทำอย่างไรอิทธิกรจึงยอมเปลี่ยนตัวเอง
“น้อยๆหน่อยยัยเอม”
ชายหนุ่มจำต้องปรามน้องสาวที่พูดเหมือนกับว่าเขามันดุร้ายอะไรขนาดนั้น
“ขอร้องนิดหน่อยน่ะค่ะ”
อินทิราตอบหญิงทั้งสองว่าเธอเพียงแค่ขอร้องชายหนุ่มนิดหน่อยเอง
“หึ่!!”
อิทธิกรถึงกับสบถขำในลำคอและอมยิ้มออกมานิดหน่อยกับคำที่อินทิราบอกว่าขอร้องเขานิดหน่อยจากที่เขาได้ฟังเธอพูดกล่อมเขามามันไม่ได้นิดหน่อยอย่างที่เธอพูดเลย
อรุณาและไอรดามองหน้ากันอย่างรู้ว่าต่างคนต่างคิดอะไรจากที่เห็นอิทธิกรอมยิ้มได้ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาเพราคิดว่านี่ก็คงเป็นสัญญาณที่ดี
“เย็นนี้เดี๋ยวแม่กับยัยเอมอยู่ทานข้าวด้วยนะ”“ค่ะคุณแม่เดี๋ยวออมทำอาหารให้สุดฝีมือเลย”อรุณาอยากจะอยู่ดูพฤติกรรมของทั้งสองเวลาอยู่ด้วยกันก่อนจะกลับไปเสียหน่อยว่ามันดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนเธอจะได้กลับไปทำงานของเธอได้อย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องห่วงทางนี้มากนักช่วงเย็นของวัน“นี่เราทำอาหารได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอหนูออม”“ค่ะ...ออมชอบทำอาหารเลยรู้เมนูอาหารหลายอย่างแล้วก็ทำได้หลายอย่างด้วยวันหลังถ้าคุณแม่กับพี่เอมมาที่นี่อีกอยากทานอะไรบอกออมได้เลยนะคะ”อินทิราหน้าบานเมื่อได้รับคำชมหลังจากที่ทำกับข้าวหลายอย่างมาวางไว้ที่โต๊ะอาหาร“พูดอยู่นั่นจะทานกันได้รึยัง”“คุณอิทหิวขนาดนั้นเลยหรือไงคะ”หลังจากที่หญิงสาวพูดจบชายหนุ่มก็โพล่งคำบางคำออกมาอย่างขวานผ่าซากทำให้หญิงสาวต้องหุบยิ้มแล้วหันไปมองค้อนใส่ชายหนุ่มเล็กน้อยทั้งยังแอบพูดประชดเล็กน้อย“งั้นก็ทานข้าวกันเถอะ”อรุณาจำต้องรีบบอกให้ทุกคนทาน้าวกันได้ไม่เช่นนั้นสองคนนี้ดูท่าจะเถียงกันอีกยาวพร้อมส่ายหัวให้พ่อลูกชายตัวดีของเธอที่ปากพาหาเรื่องเสียจริง“ออมนี่ก็เก่งเหมือนกันนะคุณแม่มาแค่วันเดียวก็เปลี่ยนอะไรได้เยอะขนาดนี้”“แม่ก็ขอให้หนูออมทำให้ตาอิทดีขึ้นเร็
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกไปเถอะ”ภัคดนัยได้ยินว่าหญิงสาวเกรงใจก็รีบดึงมือเธอไปที่รถของเขาที่จอดไว้หน้าบ้านแล้วเปิดประตูดันตัวหญิงสาวเข้าไปนั่งที่ข้างเบาะคนขับพร้อมสตาร์ทรถและขับออกไปทันที“พี่ภาคย์..จอดรถทำไมคะ”พรณภัทร์เห็นว่าจู่ๆชายหนุ่มก็จอดรถข้างทางเสียอย่างนั้นเธอจึงต้องหันหน้าไปถามคนที่นั่งข้างๆด้วยความสงสัย“พี่มีเรื่องจะถามพลอย”ภัคดนัยหันมามองหน้าหญิงสาวจริงจังเพราะตอนนี้เขาอยากจะฟังเรื่องที่อยากรู้เป็นที่สุด“ถาม??..เรื่องอะไรคะ”พรณภัทร์เริ่มใจเต้นเร็วกลัวว่าเรื่องที่ชายหนุ่มจะถามจะเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากจะตอบน่ะสิ“ออมติดต่อพลอยมาบ้างหรือเปล่าพี่ถามยัยพีคก็ไม่เห็นจะรู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยพี่รู้ว่าพลอยจะไม่โกหกพี่”ภัคดนัยถามหญิงสาวด้วยสีหน้าที่จริงจังพร้อมย้ำจุดอ่อนของเธอที่เขารู้ดี“เอ่อ..ไม่รู้ค่ะออมไม่ได้ติดต่อมาหาพลอยเหมือนกัน”และแล้วคำถามของชายหนุ่มก็เป็นไปอย่างที่หญิงสาวคิดตอนนี้เธอตอบกลับชายหนุ่มโดยที่ไม่มองหน้าของเขาเพราะความรู้สึกผิดในใจที่ต้องโกหกแต่เธอก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับอินทิราเหมือนกันว่าห้ามให้คนอื่นรู้เด็ดขาดนอกจากเธอและพีรยา“อืม...ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรถ้าได้ข
ไร่แก้วกัลยา07.30 น.“คุณอิทคะตื่นค่ะวันนี้หมอมาตรวจแต่เช้านะคะ”อินทิราเดินเข้าไปปลุกชายหนุ่มที่กำลังหลับไมยอมตื่นขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าล้างตาเสียทีทั้งที่เธอทำอาหารเช้ารอเอาไว้แล้วอีกอย่างอรุณาก็บอกกับเธอว่าหมอจะมาตรวจชายหนุ่มในช่วงเช้าด้วย“ขออีกนิดนะฉันกำลังหลับสบายเลย”อิทธิกรยังรู้สึกว่าไม่อยากตื่นเขาจึงพลิกตัวและเอาผ้าห่มคลุมหัวหนีหญิงสาวที่ส่งเสียงดังแสบแก้วหูเรียกเขาปาวๆอยู่“ไม่ได้ค่ะคุณอิทต้องลุกมาอาบน้ำแต่งตัวทานอาหารเช้าให้ตรงเวลานะคะ”อินทิราเองก็ไม่ยอมง่ายๆยังไงเธอก็ต้องปลุกเข้าให้ลุกขึ้นมาให้ได้“โอเคๆ...ถ้าฉันไม่ลุกก็คงจะต้องทนฟังเสียงแหลมๆของเธอสินะ”อิทธิกรจำต้องดีดตัวลุกขึ้นมาเพราะเริ่มรำคาญหญิงสาวและมีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้วเขาไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ดีที่หญิงสาวอยู่ที่นี่บางทีก็ทำตัวให้เขาหายเหงาบางทีก็ทำตัวน่ารำคาญ“ก็คุณอิทไม่ยอมลุกเองนี่คะ”อินทิราบ่นอู้อี้เล็กน้อยที่เช้านี้เธอโดนชายหนุ่มดุแต่เช้าอีกแล้วเธอก็เพียงแค่ทำหน้าที่ของเธอก็เท่านั้นหลังจากที่อิทธิกรทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วอินทิราก็พาชายหนุ่มเข้าไปในห้องตามความต้องการของเขาไม่นานหมอก็มาตรวจพอดีหญิงสา
“ใช่ๆจริงๆด้วยค่ะ”อินทิราเห็นหญิงในรูปเล็กๆก็จำได้ทันทีว่าเป็นคนเดียวกับคนที่เข้ามาหาและมาคุยกับเธอ“นี่คุณยายฉันเองท่านเป็นเจ้าของไร่นี้...แต่ท่านเสียไปสี่ห้าปีแล้วนะ”อิทธิกรเริ่มอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยแล้วที่รู้ว่าหญิงสาวเจอกับอะไร“คะ!!!...”จากคำบอกเล่าของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวยืนตัวเกร็งชาวาบขนลุกซู่ไปทั้งตัว“ท่านคงจะเอ็นดูเธอ”อิทธิกรยังไม่หยุดที่จะพูดเล่นกับเธอ“เอ่อ..คุณอิทคะคืนนี้ออมขอนอนด้วยได้ไหมคะ...นะคะเดี๋ยวออมนอนข้างล่างก็ได้แต่ขอเปิดไฟที่โคมไฟไว้นะคะ”ด้วยความที่ตาขาวเรื่องนี้อย่างมากอินทิราจึงจำใจต้องมาขอนอนห้องเดียวกับชายหนุ่มเกิดมาไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอเรื่องที่ทำให้เอขนหัวลุกได้ขนาดนี้“ฮ่าๆๆ...นี่เธอก็ตาขาวเหมือนกันนะอยากนอนก็นอนอย่ามาลักหลับฉันก็แล้วกัน”ความรู้สึกของชายหนุ่มตอนนี้รู้ได้เลยว่าหญิงสาวคงกลัวหัวหดอีกทั้งยังไม่ยอมหยุดที่จะพูดแซวเธออีกด้วย“พูดอะไรของคุณอิท...ออมไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ”อินทิราหน้ามุ่ยอีกรอบที่เวลานี้ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดที่จะแกล้งแซวเธออย่างน้อยการที่ได้นอนห้องเดียวกับชายหนุ่มก็ทำให้เธอได้อุ่นใจขึ้นมาหน่อยว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องกับเธอด้วยเผื่
“ออกไป”อิทธิกรรำคาญที่จะฟังคำส่อเสียดของหญิงสาวเต็มทนเลยไล่เธอออกไปอย่างไม่ใยดีตอนนี้หัวใจเขามันไม่ได้โหยหาหญิงสาวที่ทิ้งเขาไปเลยสักนิดเมื่อหญิงสาวมาหาเขาก็ดีอย่างหนึ่งซึ่งมันทำให้เขาได้รู้ว่าเขาสามารถตัดใจจากเธอได้แล้วจริงๆยิ่งคิดถึงวีรกรรมที่เธอทำไว้กับเขามันก็ยิ่งทำให้เขานั้นอยากจะลืมเธอมากขึ้นนั่นเอง“กิ่งก็ไม่ได้อยากอยู่นานนักหรอกค่ะขอตัว”กรกนกก็ไม่ได้อยากมาที่นี่ให้เสียเวลาเธอนักหรอกที่มาก็เพราะว่าเธออยากจะแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่ที่พึ่งคบกันได้อย่างสบายใจต่างหาก“คุณอิทคะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”หลังจากที่อินทิราเห็นหญิงสาวรีบเดินออกไปจากบ้านอย่างรีบร้อนเธอเองก็รีบเข้ามาดูอาการของชายหนุ่มทันทีกลัวว่าเขาจะหันกลับมาคิดเรื่องเดิมๆอีกสิ่งที่เธอเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ก็คือความรู้สึกของชายหนุ่มเธอไม่อยากให้เขากลับไปเศร้าเหมือนเดิม“ไม่ฉันไม่เป็นอะไรเธอออกไปเถอะ”อิทธิกรมีสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เล็กน้อยเพราะยังรู้สึกไม่พอใจกรกนกอยู่ที่กล้ามาเย้ยหันเขาถึงที่นี่เลยอยากจะอยู่คนเดียวสงบอารมณ์ของตัวเองเสียก่อนเขาไม่อยากให้หญิงสาวเป็นห่วง“ไม่ค่ะออมไม่ไปเมื่อกี้แฟนเก่าคุณเค้ามาคุยอะไรกับคุณเหรอค
“คือ...พลอยไม่รู้ค่ะ...คือ...ที่พี่ภาคย์ช่วยพลอยเพราะพี่ภาคย์อยากให้พลอยพูดเรื่องออมใช่ไหมคะ”เรื่องที่ชายหนุ่มถามมาเธอเองไม่สามารถตอบได้จริงๆพร้อมทั้งยังนึกน้อยใจที่เรื่องของอินทิราเพื่อนสาวของเธอคงจะเป็นคือสาเหตุที่ชายหนุ่มยื่นมือมาช่วยเธอ“ยังจะโกหกพี่อีกเหรอพลอย...ใช่เรื่องออมพี่อยากให้พลอยบอกพี่ว่าเธออยู่ไหนทำอะไรแค่นี้พี่ขอให้พลอยช่วยแค่นี้จะได้ไหม”ด้วยความมึนเมาและโทสะที่มีต่อหญิงสาวบ้างเล็กน้อยแล้วชายหนุ่มจึงเข้าไปบีบแขนหญิงสาวอย่างรุนแรงพร้อมพูดกับเธออย่างเคืองใจเขารู้มานานแล้วว่าเธอรู้ตั้งแต่คืนที่เขาไปส่งเธอวันนั้นแต่เขารอเวลาที่หญิงสาวจะเห็นใจและยอมบอกเรื่องอินทิรากับเขาบ้างแต่เธอก็ยังปากแข็งไม่ยอมบอกอยู่ดี“...ขอเป็นเรื่องอื่นได้ไหมคะ...ความจริงมีบางอย่างที่พลอยอยากจะพูดกับพี่ภาคย์มานานแล้วก็คือออมเค้าไม่เคยคิดเกินเลยกับพี่ภาคย์ออมเห็นพี่ภาคย์เป็นแค่พี่ชายคนนึงเท่านั้น”เรื่องนี้หญิงสาวไม่สามารถที่จะช่วยเหลือคนตรงหน้าได้จริงๆพร้อมทั้งยังทำใจบอกเรื่องที่เขานั้นสมควรจะได้รู้จะได้ไม่ต้องหวังอะไรลมๆแล้งๆแบบนี้อีกมันจะทำให้ชายหนุ่มนั้นเจ็บอยู่ฝ่ายเดียวเปล่าๆ“พี่รู้แต่พี่คิดว
“อึก..ฮือๆ”พรณภัทร์วิ่งหนีไปปาดน้ำตาไปตอนนี้เธอไม่อยากจะมองหน้าชายหนุ่มให้ความรู้สึกมันเสียไปมากกว่านี้แล้วยังไงเธอก็ไม่ยอมอยู่ที่นี่ต่อไปเด็ดขาดถึงแม้หนทางข้างหน้าเธอจะลำบากกว่าอยู่ที่นี่หลายเท่าเธอก็ยอม“พลอย..เดี๋ยว..หยุดก่อน”“ฮึก..ฮือๆๆ”พรณภัทร์ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะตามเธอลงมาเร็วขนาดนี้ตอนนี้ในหัวหญิงสาวคิดได้อย่างเดียวคือวิ่งหนีให้พ้นจากคนใจร้ายให้เร็วที่สุดสายตาของเธอตอนนี้พร่ามัวไปหมดเพราน้ำตาที่มันคลอเอ่อล้นออกมาอย่างไม่ขาดสายนั่นเอง“พลอยระวัง”“อ๊ายยยยย”เอี๊ยดดดด…ปั้งงงงงง“ม่ายยยย”ภัคดนัยถึงกับใจหายวาเมื่อหญิงสาวที่กำลังวิ่งหนีข้ามถนนอยู่นั้นจู่ๆก็มีรถเก๋งวิ่งมาด้วยความเร็วเขาจึงร้องทักให้เธอระวังแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วร่างของหญิงสาวกระเด็นลอยลิ่วไปต่อหน้าต่อตาของเขาอย่างที่เขาช่วยเหลืออะไรเธอไม่ได้โรงพยาบาล“ผมจะผ่าตัดให้เธอเอง”จากอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้หญิงสาวกระดูกหักหลายส่วนและที่กระทบกระเทือนและบาดเจ็บมากที่สุดก็คงจะเป็นส่วนหัวชายหนุ่มยังถือว่าโชคดีอยู่บ้างที่อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ได้พรากชีวิตของหญิงสาวไปเลยไม่อย่างนั้นเขาคงจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตตอนนี้เขาเองก็ทำได้
“แล้วออมไปอยู่ที่ไหนมา”ภัคดนัยถามหญิงสาวเสียงอ่อนตอนนี้เขาอยากรู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหนมาเพราะความเป็นห่วง“ออมต้องไปดูแลผู้ชายคนนึงตอนนี้เค้าตามองไม่เห็นเมื่อเขาหายดีเมื่อไรเราก็จะแต่งงานกันค่ะ”อินทิราตัดสินใจพูดเรื่องที่เธอต้องไปอยู่ที่ไหนทำอะไรให้ชายหนุ่มได้ฟังเพื่อที่เขานั้นจะได้เลิกหวังลมๆแล้งๆกับเธอเสียที“พี่ดีใจกับออมด้วยนะ..แล้วก็ขอโทษที่บางทีพี่ก็ทำให้ออมลำบากใจตอนนี้พี่รู้แล้วว่าพี่ไม่มีวันที่จะได้ใจออมมาจริงๆ”ตอนนี้ชายหนุ่มรู้ตัวจริงๆแล้วว่ายังไงก็ไม่สามารถคว้าหัวใจของอินทิรามาได้แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นแล้วตอนนี้ในใจของเขาที่ห่วงสุดๆก็คือพรณภัทร์พร้อมยิ้มินดีกับอินทิราที่เธอกำลังจะมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข“ถึงเราจะไม่ได้รักกันในฐานะคนรักแต่ออมก็รักและเคารพพี่ภาคย์เป็นพี่ชายเสมอนะคะ”อินทิราดีใจและโล่งอกที่ชายหนุ่มตรงหน้าเธอนั้นเข้าใจเธอดีแล้วถึงเธอกับเขาจะไม่ได้รักกันในฐานะคนรักแต่ด้วยความผูกพันธ์ที่รู้จักกันมานานทำให้เธอเคารพภัคดนัยเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น“งั้นพี่ขอกอดออมในฐานะน้องสาวก็แล้วกันและก็ขอเก็บความรู้สึกดีๆแบบนี้ตลอดไปได้ไหม”“ค่ะพี่ภาคย์”ภัคดนัยยิ้มอ่อนที